ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DANGEROUS AREA (HUNHAN)

    ลำดับตอนที่ #33 : ▲ DANGEROUS AREA ✗ : 27.2th

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.12K
      11
      13 ม.ค. 57









               ในที่สุดเดือนที่สองของการบริหารงานของโอคอเปอร์เรชั่นสาขาเกาหลีก็ผ่านไปได้อย่างฉิวเฉียด แม้เซฮุนจะทำรายได้ตกลงไปถึง 25% เลยก็ตามที

     

     

                จนถึงวันนี้เรื่องเส้นกราฟสีแดงก็กลายเป็นเรื่องเก่าไปแล้ว เซฮุนมัวแต่วุ่นกับการกู้หน้ากู้ตาให้บริษัทกลับมาดูดีอีกครั้ง ถึงจะยังไม่วิกฤต แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไปพ่ออาจจะรีบบินกลับมายกเลิกสัญญาทิ้งเสียก่อน เขาหมกมุ่นอยู่กับมัน วันๆ ก็เอาแต่อุทิศเวลาและร่างกายให้กับตัวเลขเหล่านี้ ไม่สามารถเจียดเวลาไปดูแลลู่ฮานผู้เป็นที่รักได้เหมือนเคย ซ้ำร้ายบางครั้ง มื้ออาหารกลางวันที่เป็นสิ่งสำคัญระหว่างเขากับคนตัวเล็กก็ถูกละเลย เซฮุนเพิกเฉยอาหารมื้อหนัก หันมารับกาแฟและขนมปังแทน

     

     

                เขากลับบ้านดึกแทบจะทุกคืน รู้สึกข่มขื่นทุกครั้งที่เห็นใบหน้าน่ารักยามหลับใหลเต็มด้วยน้ำตา โกรธตัวเองเหมือนกันที่ทิ้งให้ร่างเล็กต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวภายในห้องพักที่ใหญ่โตเช่นนี้ แต่จะทำเช่นไรได้เมื่ออนาคตของเราทั้งคู่ขึ้นอยู่กับตัวเลขรายได้ของบริษัท มันย่อมมีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงานตามแผน เรื่องเวลา เรื่องความใกล้ชิด และอะไรอีกหลายๆ เรื่องที่คู่รักพึงกระทำ พักหลังๆ เขาก็เริ่มจะไม่ได้ทำมันต่อหน้าลู่ฮานแล้ว

     

     

                เขารู้ดีกว่าลู่ฮานเป็นห่วงเขาขนาดไหน ใช่ว่าตัวโตแล้วจะทนทานต่อโรคร้ายได้ทุกโรค เขาเองก็คน ยามร่างกายไม่ได้พัก ทำงานเช่นเครื่องจักรมันก็ทรุดลงตามสภาพ เขาเป็นไข้หวัดบ่อยขึ้น ปวดเนื้อปวดตัวเสมือนกระดูกจะป่นเป็นผง ความดื้อแพ่งทำให้ร่างสูงทะนงกาย ไม่พบหมอตามเวลาที่ร่างเล็กนัดหมายส่งใบมาให้ตามกำหนด

     

     

                เซฮุนเหนื่อยนะ เหนื่อยมาก เหนื่อยกว่าตอนที่ทำงานเป็นนายแบบเป็นล้านเท่า ว่ากันจริงๆ คือสมัยนั้นกับสมัยนี้มันก็มีช่วงทิ้งระยะห่างกันไม่มาก ทำไมเขาถึงรู้สึกว่างานบริษัทมันลำบากลำบนเช่นนี้ จากคนที่ไม่เคยเข้าใจความลำบากของพ่อแม่ วันนี้จึงเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าท่านต้องพยายามอย่างหนักหนาขนาดไหนในการเลี้ยงลูกๆ แต่อย่างไรก็ตาม อคติในใจของคนเป็นลูกคนเดียวของตระกูลอย่างเซฮุนก็ยังคงไม่เลือนหาย และคาดว่ามันคงติดไปจนวันตายหากพ่อยังทำตัวเป็นหัวหน้าพรรคเผด็จการเช่นนี้อยู่

     

     

                กำลังใจสำคัญในการเดินทางบนถนนสายธุรกิจในครั้งนี้ตกเป็นของใครไม่ได้นอกจากลู่ฮาน คนหน้าหวานที่มักจะนั่งรอเขาและร้องไห้จนหลับไปเสมอ ทั้งๆ ที่เราพูดกันแล้วว่าร่างเล็กไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น แต่คนตัวเล็กก็ยังดื้อรั้นที่จะทำอยู่ตลอด

     

     

                ทุกคืน, ลู่ฮานจะนั่งหลับคอพับหน้าทีวี ในมือยังมีรีโมทคอนโทรลคอยควบคุมเครื่องอัดวีดีโอเทปคาอยู่ ซีรีย์สืบสวนสอบสวนจำนวนมากถูกอัดไว้อย่างสม่ำเสมอ ร่างเล็กไม่เคยทำหน้าที่คนรักที่ดีให้ขาดตกบกพร่อง งานหลักงานรองก็อาสาทำด้วยตัวเองแทบจะทุกอย่าง เว้นเอาไว้บ้างหากมันหนักหนาเกินกว่ามือเล็กๆ คู่นั้นจะแบกรับมันไว้ได้ไหว แต่ถึงกระนั้นงานส่วนใหญ่ลู่ฮานก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งแม่บ้าน ดูเอาสิ คนแบบนี้จะมีอีกไหมบนโลก ไม่นับรวมแม่ซอนมีกับพี่ซูโฮแล้วนี่ก็เป็นที่สุดในชีวิตของผู้ชายอย่างเซฮุนแล้ว เขาไม่ได้แคร์ว่าในอนาคตจะมีคนที่ทำงานได้เก่งกว่านี้อีกเท่าไหร่ จะทำงานหนักกว่าลู่ฮานอีกเพียงไหนเขาก็เลือกแล้ว

     

     

                คนดี ลู่ฮานครับ... ตื่นเร็ว ไปนอนในห้องกันนะครับ

     

     

                อือ..

     

     

                ตามแบบคนงัวเงียงุนงันเต็มขั้น ดูท่าว่าลู่ฮานคงจะโยเยจนหลับไปได้สักพักหนึ่งแล้ว

     

     

                พี่ครับ พี่ลู่ฮาน ไม่โยเยนะ นอนตรงนี้ไม่ดีเลยนะครับ

     

     

                งื้อ...

     

     

                ไม่มีหรอกตื่นนอนดีๆ เพราะเป็นที่รู้กันว่าเมื่อไหร่ที่ลู่ฮานเพิ่งจะหลับไป ช่วงเวลานั้นล่ะที่จะปลุกร่างเล็กได้ยากที่สุด ใบหน้าน่ารักยังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ดวงหน้านั้นแสนหม่นมอง เปลือกตาสีอ่อนแนบสนิทปิดแน่น ลมหายใจบางเบาแผ่วผ่อนเป็นจังหวะ กลีบปากสีชมพูฉ่ำน้ำเผยอออกเล็กน้อยราวกับจะรอให้ใครสักคนมาเติมเต็มในส่วนนั้น และเชื่อว่ามันคงจะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่เขาเอง เซฮุนทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา พาดสูทตัวหนาไว้ที่พนักพิง ก่อนโน้มตัวลงกอดประคองร่างแน่งน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน มอบจูบแผ่วเบาบนปลายจมูกเล็กน่าเอ็นดูหนึ่งที แล้วผละออกมาต่ออีกทีที่กลีบปากบางสีชมพู

     

     

                เซฮุนรู้ดีว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลามาพิรี้พิไร เพราะนี่ก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนครึ่งแล้ว เขาเพิ่งเสร็จจากการอธิบายเหตุผลที่รายได้หายไปหมดถึง 25% แก่ผู้จัดการหลายๆ สาขายิบย่อย แถมยังต้องมานั่งฟังพวกนั้นพ่นฝอยผลงานต่างๆ เพื่อหวังเลื่อนขั้นให้ฟังอีก ท้ายสุดเลยจบบทสรุปที่หาอะไรดื่มกินกันนิดหน่อย พวกดื่มน้อยๆ ก็พอประคองตัวเองกลับไหว ส่วนไอพวกดื่มเสียมากมายแบบไม่กลัวตายก็นอนเมาแป๋อยู่ที่ห้องรับรองในบริษัทนั่นแหละ ยังดี, ที่เขาไม่ใช่คนดื่มอะไรแบบนี้ ทุกทีถ้าไม่มีเรื่องอะไรมากระทบกระเทือนใจมากสุรายาเมาก็จะไม่แตะ รสชาติมันแสบร้อนลวกคออย่าบอกใคร เซฮุนขออนุญาตยกใจให้ไวน์ผลไม้รสนุ่มนวลอบอวนไปด้วยกลิ่นหอมหวานเสียดีกว่า

     

     

                แต่เชื่อเถอะ ...ไวน์ใดๆ ก็ไม่สามารถหยุดเขาได้แล้วในตอนนี้...

     

     

                จากที่สัญญากับตัวเองไว้ว่ามันจะไม่มีอะไรมากกว่านั้น ฉับพลันจู่ๆ เซฮุนก็หน้ามืดตามัวขึ้นมาเสียเฉยๆ อยากจะข่มใจไม่ทำอะไรเกินเลยแต่กลิ่นสบู่หอมๆ ที่ฟุ้งกระจายทั่วเรือนกายของร่างเล็กก็ยั่วยวนเขาให้ทำมันมากกว่านี้เหลือเกิน

     

     

                ตื่นเร็วคนดี ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว...

     

     

                ซ...เซฮุนนา



     

    มือเล็กวางทาบลงบนแผ่นอก ลูกแก้วกลมโตช้อนสบสอดประสานดวงตาเรียวคมประดุจพญาราชสีห์ ลมหายใจอุ่นๆ ตามอุณหภูมิร่างกายที่เคยมี กลับกลายเป็นว่ามีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ลู่ฮานลืมไปแล้วว่าเราใกล้ชิดกันขนาดนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ลืมไปแล้วว่ารู้สึกดีเพียงใดกับสัมผัสดังกล่าวนี้ เซฮุนกลับบ้านดึกทุกคืน ทิ้งให้เขาขมขื่นกับผันร้ายที่คอยตามหลอกตามหลอน ปล่อยให้นอนหลับไปกับหมอนใบโตอันเย็นยะเยือกราวกับก้อนน้ำแข็ง ไม่มีความอบอุ่นคอยโอบอุ้มเขาให้หลุดพ้นจากฝันร้าย ไม่มีอ้อมกอดและน้ำเสียงคอยปลอบใจยามตื่นขึ้นมาผวา ลู่ฮานแทบบ้าทุกครั้งที่อยู่ตัวคนเดียวในห้อง ภายในใจกรีดร้องเสียงดังก้องก่อนกลั่นกรองเป็นหยดน้ำตาที่ตอกย้ำว่าเขาคิดถึงน้องเหลือเกิน...

     

     

    ฮึก ... กลับมาแล้วหรอ

     

     

    เซฮุนนา...ฮึก.. กลับมาแล้วหรอ

     

     

    เพราะหลายคืนที่ผันผ่านเรา ( ความจริงคือเซฮุนคนเดียว ) อาจไม่ได้มานึกจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันเช่นนี้ เซฮุนจึงไม่มีโอกาสได้รู้และเห็นลู่ฮานคนดีต้องร้องไห้ แต่วันนี้พระเจ้าเปิดโอกาสให้คู่รักได้พบปะพูดคุยทำความเข้าใจ ระเบิดลูกใหญ่จึงถูกปาอัดเข้ามาที่หน้าเขาเต็มๆ

     

     

    พี่เป็นห่วงเราแทบแย่ ฮึก.. รอจนหลับไปทุกคืนตอนตื่นก็ไม่เห็นหน้า พักกลางวันพอไปหาเราก็ติดประชุมอยู่ตลอด ข้าวกลางวันที่ฝากไว้ได้กินบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ เราผอมลงไปเยอะเลยนะเซ...อึก

     

     

    ถ้อยคำเหล่านั้นล้วนเต็มไปด้วยการตัดพ้อของคนตัวเล็ก และหัวใจเซฮุนก็ไม่ได้ทำด้วยเหล็กถึงจะได้ทนต่อแรงกัดกร่อนนั้นได้ มือใหญ่ฉวยเข้าจับที่ปลายคางมน เร่งเร้าทาบริมฝีปากอุ่นร้อนลงไปบนกลีบปากบางเล็ก สอดลมหายใจประสานกันพัลวันวุ่นวาย ดึงดูดรวดเร็วราวกับเป็นผู้คุมวิญญาณที่พร้อมจะมอบความตายให้แก่รางในอ้อมกอดนี้ , ฝ่ายลู่ฮานที่โดนจู่โจมแบบไม่ตั้งตัวก็เผลอกลืนคำพูดกลับไปในอก ด้วยถูกมัดมือชกเช่นนี้บ่อยเลยชิน พลอยเข้าใจหาวิธีการตั้งรับเหตุการณ์เช่นนี้ได้แบบไม่เคอะเขิน ( น้อย ) ใบหน้าสวยหวานเอียงทำองศา ปิดเปลือกตาและพยายามโต้ตอบสัมผัสนั้นอย่างรู้เดียงสา ท่อนแขนเพรียวบางทั้งสองข้างเคลื่อนคล้องท้ายทอยของคนเป็นน้องชายเอาไว้ ความสนใจทั้งหมดถูกดึงไปโดยเสียงชื้นแฉะของจูบที่ดุเดือดขึ้นไปตามเวลา

     

     

    ร่างเล็กเบียดเรือนกายขึ้นหาร่างใหญ่ที่กำลังสาละวันกับการป้อนจูบ ลมหายใจถูกสูบออกไปและเติมเข้ามาใหม่เรื่อยๆ

     

     

    ผมกลับมาแล้วนี่ไงครับคนดี พี่ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ตราบใดที่ผมยังไม่ได้สวมแหวนแต่งงานให้พี่ ผมจะไม่มีวันเป็นอะไรไปเด็ดขาด เซฮุนผละออกมาพรมจูบตามข้อนิ้วเล็ก เน้นหนักที่ตำแหน่งสวมแหวนทองคำขาววงงามเป็นพิเศษ รอหน่อยนะครับ สักวันผมจะซื้อแหวนที่ราคาแพงกว่านี้ให้ เราจะได้แต่งงานกัน หาเด็กสักคนมาเลี้ยง มีบ้าน มีความสุข มีทุกอย่าง ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่ต้องมีใครมากำหนดทางเดินของชีวิตเรา ดีไหมครับคนเก่... ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้คนตัวเล็กกว่านั้นแสนกล้า ยกแขนเกี่ยวท้ายทอยเซฮุนลงมาประกบจูบเสียอย่างนั้น แม้มันจะไม่ใช่สัมผัสลึกล้ำอันน่าตื่นเต้นอะไร แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้หัวใจทั้งสองดวงบีบตัวส่งเสียงดังจนลั่นหูไปหมด

     

     

    มีแค่เราคนเดียวก็พอแล้ว... นะเซฮุน ไม่ต้องหรูหราฟู่ฟ่า แค่นายกับพี่

     

     

    ลู่ฮานกล่าวประโยคนั้นออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม กลีบปากอิ่มทาบประทับเบาๆ บนปลายจมูกโด่ง ปลายนิ้วเรียวลากไปตามส่วนโค้งของใบหน้า ก่อนพบว่าไรหนวดของท่านประทานตัวใหญ่เริ่มทิ่มแทงขึ้นมาให้เสียดนิ้วบ้างแล้ว

     

     

    ไหนดูซิ พี่บอกแล้วว่าให้ดูแลตัวเอง เป็นไงล่ะทีนี้ จะปล่อยหนวดยาวเป็นพวกแยงกี้หรือ ?

     

     

    โอเซฮุนหัวเราะหึ ยิ่งเห็นร่างเล็กเอ็ดตนด้วยใบหน้าน่ารักน่าหยิกนั้นยิ่งน่าแกล้ง

     

     

    แยงกี้ที่ไหนจะหล่อขนาดนี้ครับหืม ไม่ว่าเปล่าหรอก น้องชายตัวแสบที่พ่วงตำแหน่งคนรักพ่อเล่นถูคางไปตามซอกคอขาวๆ ของพี่ชายไปด้วย ลู่ฮานจึงเปรียบเสมือนกวางในอวยที่ทำได้เพียงแค่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขน

     

     

    ฮะ...เซฮุนนะ...เซฮุน..แฮ่ก ! ”

     

     

    มือเล็กทั้งข่วน ทั้งหยิก ทั้งตี งัดเอาพละกำลังที่พึงมีเช่นผู้ชายมาใช้ต่อกลอนกับคนขี้แกล้ง แต่เหมือนยิ่งทำไปก็ยิ่งหมดแรงเพราะเซฮุนนั้นมีสัดส่วนและมวลกายที่ได้เปรียบกว่า กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่เพิ่งไปย้อมมาใหม่เมื่อไม่กี่วันที่แล้วกลายสภาพเป็นยุ่งเหยิง กระเซอะกระเซิงเหมือนพวกเพิ้งเสียสติ ดวงตาคู่งามหรี่หยีปิดจนเป็นรูปคล้ายสระอิในภาษาไทย

     

     

    เซฮุนน่า! …ปล่อยพี่นะ งื้อ!! ” แก้มกลมทั้งสองข้างขึ้นสีแดงเป็นปื้น ริมฝีปากที่ครู่นี้ถูกดูดกลืนบวมเจ่อ เซฮุนรู้สึกเหมือนมีค้อนอันเบ้อเร่อตอกเข้าที่หัวเมื่อเขาผละออกมามองใบหน้าน่ารักนั้น

     

     

     ลู่ฮานในเวลานี้พราวสเน่ห์และแสนอันตราย ดาเมจร้ายถึงขั้นทำให้ผู้เล่นตายเพียงถูกสัมผัส ให้ตายเถอะ โอเซฮุนไม่รู้ว่าวันนี้เขาต้องใช้คำว่า อดทน กับคนตรงหน้าไปแล้วกี่ครั้ง แต่เชื่อเถอะว่าหลอดบรรจุมันกำลังจะพังภายในไม่กี่วินาทีนี้

     

     

    อย่านะ... พี่อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น ! บอกว่าอย่าไง Fuc* !

     

     

    สาบานได้ว่าคนถูกกล่าวหาน่ะไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปกว่าการช้อนตามองคนรักของตัวเองหรอก เป็นเซฮุนเองนี่ล่ะที่ตีอกชกลมโวยวายเป็นไอ้บ้าไอ้บอไปคนเดียว ดูเหมือนว่าลู่ฮานจะไม่ได้รับรู้ความคิดติดหื่นดังกล่าวของเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะพี่ชายตัวจ้อยเอาแต่ยุ่งงุ่นง่านอยู่กับการจัดการทรงผม ดวงตากลมๆ เหล่มองมือของตัวเองที่ขยับไปซ้ายไปขวา ดวงหน้าเต็มไปด้วยความฉงนสงสัย คนสวยจะทำอะไรก็ยังดูน่ารัก

     

     

    แกล้งพี่ทำไมเนี่ย.. งือ เรานี่นิสัยไม่ดีเลย

     

     

    บ่นงุ้งๆ งิ้งๆ ให้ตัวเองเข้าใจอยู่คนเดียว แลมองแล้วน่าหมั่นเขี้ยวปนน่าฟัด อย่าหาว่าเซฮุนหื่นงั้นงี้เลยนะ แต่เวลานี้เขาเริ่มหมดความอดทนแล้ว ลองให้แม่กวางน้อยตัวนี้อ้อนอีกหน่อยเดี๋ยวได้มีแพลนกล้องไปที่โคมไฟ

     

     

    ลุกได้แล้วเรา ดึกมากแล้ว รีบๆ เข้า พี่จะโกนหนวดให้ นายแบบอะไรไม่ดูแลตัวเอง

     

     

    มากกว่าโกนได้ไหมครับ นะ...

     

     

    อะไร

     

     

    โถ่ ลู่ฮาน.. พี่ก็รู้ นะครับ

     

     

    ลู่ฮานรู้ว่าน้องหมายถึงอะไรและเขาก็จะไม่พูดออกไปแน่ แค่ตกอยู่ในอ้อมกอดนี้ก็ไม่รู้ว่าเสียกำไรไปมากเท่าไหร่แล้ว

     

     

    พี่คิดว่าเราควรไปอาบน้ำนะเซฮุน โกนหนวด แล้วก็มานอน

     

     

    ตัดบทอย่างไร้เยื่อใย ไม่นึกถึงใจคนฟัง เซฮุนคิดเช่นนั้นและเขาก็นึกเป็นอื่นไม่ได้ ร่างสูงผละออกจากร่างเล็กรวดเร็วราวกับแม่เหล็กขั้วเหมือน ความรู้สึกในอกบิดเบือนเป็นขุ่นเคืองไปเสีย เขาพาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ เหวี่ยงประตูปิดเสียงดังโครมครามลั่นหูไปหมด จากที่ว่าอยากจะให้เวลาแทนทดส่วนที่ขาดหายไปกับลู่ฮาน กลายเป็นว่าตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์แม้แต่จะทำอะไรทั้งสิ้น เซฮุนถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองออก ตามด้วยกางเกงแสล็กตัวนอกและบอกเซอร์ สะบัดทิ้งลวกๆ ลงบนพื้นสิ้นเยื่อใยก่อนก้าวเข้าไปในส่วนที่มีกระจกขุ่นๆ กั้น

     

     

    เขาใช้น้ำเย็นดับความร้อนในกาย พยายามนึกถึงใจคนน่ารักที่อยู่ด้านนอก ลู่ฮานอาจขวัญอ่อนขวัญเสียได้หากความโกรธครั้งนี้มันระเบิด เผลอๆ อาจจะตะเพิดแล่นกลับอเมริกาไปก็ได้ใครจะรู้ แน่นอนว่าเขาไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นหรอก แค่เดือนเดียวที่ใช้ชีวิตแบบเปล่าเปลี่ยวก็เกินคุ้มแล้ว กล้าพูดตรงนี้ได้เลยว่าเขาไม่อาจหาทางออกของชีวิตได้หากไม่มีลู่ฮานเป็นแสงนำทางคอยอยู่ข้างๆ การหลีกเลี่ยงการปะทะทางอารมณ์จึงเป็นทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เซฮุนพร่ำบอกกับตัวเองในหัวใจว่าเขาโตแล้ว ต้องมีวุฒิภาวะมากพอที่จะควบคุมอารมณ์และความรู้สึกส่วนลึกไม่ให้แสดงออกมาอย่างเกินจำเป็นนัก

     

     

    ยี่สิบนาทีผ่านมา เซฮุนคิดว่าตัวเองใจเย็นพอที่จะออกไปเจอลู่ฮานแล้ว เขาหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่มาพันไว้ที่บั้นเอว เลื่อนเปิดบานกระจกพร้อมกับพาตัวเองมานอกส่วนของการอาบน้ำ ดวงตาคู่คมไม่ได้สังเกตอะไรจนกระทั่งได้ยินเสียงแปลกๆ ในห้องน้ำ จำได้ว่าเมื่อครู่นี้ก็เข้ามาคนเดียวทำไมเดี๋ยวนี้ถึงมีอะไรแปลกๆ จุดบอดของห้องน้ำใหญ่โตในคอนโดคือฉากกั้นอ่างน้ำขนาดใหญ่ จากตรงนี้เซฮุนมองไม่เห็นอะไรที่ผิดบริเวณอ่างล้างหน้า แต่ก็พอคลำทางได้ว่ามีเงาตะคุ่มๆ อยู่

     

     

    เซฮุนนา...พี่มาโกน..เอ่อ..หนวดให้

     

     

    ตาจ้องตา ราวกับมีเส้นสายฟ้าเชื่อมระหว่างบุคคลทั้งสอง ลู่ฮานอยู่ในสภาพชุดนอนสีฟ้าตัวโคร่ง ไหล่กว้างจนมองทะลุเข้าไปเห็นด้านในได้ถึงไหนต่อถึงไหน ส่วนเจ้าของร่างใหญ่ที่ยืนจังก้าอยู่ก็อยู่ในสภาพร่างกายพราวหยดน้ำ เส้นผมสีเข้มถูกเสยลวกๆ ให้ลู่ไปด้านหลัง ผ้าขนหนูสีสะอาดแม้พาดที่เอวแต่ก็หมิ่นจะหลุดอยู่รอมร่อ

     

     

    แก้มใสฉีดสีแดงราวกับลูกตำลึงสุก อยากหาผ้าหรือหมอนมามุดแต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว !

     

     

    เซฮุนคนบ้า !!!

     

     

    อา...บางทีเราอาจจะอยากโกนเอง

     

     

    หลีกเลี่ยงเป็นคีย์เวิร์ดคำเดียวที่ดังขึ้นในหัวของร่างเล็ก ลู่ฮานวางใบมีดโกนลงบนเคาน์เตอร์หน้ากระจก เตรียมจะหนีออกจากเหตุการณ์อันน่าอึดอัดนี้ให้ไวที่สุดแต่ก็ไม่เป็นผล ทันทีที่เขาเยื้องกายไปทางซ้าย ทวารบาลนามโอเซฮุนก็จะเข้ามาขวาง ครั้นย้ายไปทางขวา ก็ยังตามมาหลอกหลอนให้หน้าร้อนเล่นอีกต่างหาก

     

     

    ไปไหน ?

     

     

    ถามมาได้ว่าไปไหน ตัวก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาจะหนี! ลู่ฮานไม่มีพื้นที่จะขยับตัวเมื่อเงามืดเคลื่อนมาทาบทับร่างของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ

     

     

    พี่ง่วงแล้ว... แสร้งหาวตบท้ายเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ไม่ได้ผลหรอกเพราะมันเป็นลูกไม้โง่ๆ ในซีรีย์ เซฮุนวางแขนทั้งสองข้างลงบนผนัง กักขังร่างเล็กไว้ภายในนั้นโดยปริยาย ใบหน้าคมคายโน้มลงไปใกล้จนลมหายใจของทั้งสองรินรดปลายจมูกของกันและกัน

     

     

    แต่ผมยัง

     

     

    เซฮุนกดยิ้มลึกที่มุมปาก เปิดฉากรวบเอาร่างเล็กบางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ออกแรงยกคนรักของตัวเองไปวางไว้บนเคาน์เตอร์หินอ่อนสีไข่ไก่หน้ากระจก ใบมีดโกนที่ถูกทอดทิ้งเมื่อครู่นี้ได้กลับมาอยู่ในมือของลู่ฮานอีกครั้ง เขากับน้องใกล้ ใกล้กันมากเกินไปจนเกรงว่าอีกคนจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของตนเสีย แพขนตายาวหรุบลงต่ำ ด้วยไม่อยากรู้สึกเขินอายไปมากกว่านี้ แต่ก็คงคิดผิดครั้งใหญ่เลยทีเดียวเมื่อกล้ามท้องเป็นลอนยิ่งเรียกเลือดให้มากองที่แก้มมากขึ้นไปอีก ลู่ฮานหลับตาปี๋ ส่ายหัวไปซ้ายทีขวาทีเกิดเป็นภาพน่ารักน่าชังแก่คนที่มองอยู่

     

     

    โกนหนวดสิครับ ดึกกว่านี้จะแย่นะ พรุ่งนี้ผมมีงานเช้าด้วย ไปไม่ทันหุ้นตกแน่ๆ

     

     

    แล้วก็ได้ผลเมื่อลู่ฮานรีบเงยหน้ามาคว้าครีมโกนหนวดไปบีบใส่ในมือ ป้ายลงบนปลายคางของคนตัวโตช้าๆ ราวกับว่ากลัวเขาจะเจ็บ ฟองครีมนุ่มนิ่มกลิ่นเย็นช่วยผ่อนคลายได้ไม่น้อย มือเล็กค่อยๆ ยกใบมีดโดนเงาวับมาจรดลงตามแนวเส้นขน เบาเสียจนเซฮุนคิดถึงสัมผัสของขนนกสีขาว ใบหน้าน่ารักเต็มไปด้วยความตั้งอกตั้งใจอย่างเห็นได้ชัด ดวงตากลมโตโฟกัสตามการเคลื่อนที่ของใบมีด เซฮุนเพลินเพลินกับการมองภาพนั้นอย่างไม่รู้จักเบื่อ จนเมื่อเวลาเดินผ่านไปสิบนาทีกว่าๆ การโกนหนวดครั้งนี้จึงสิ้นสุดลงโดยที่ว่าเซฮุนมีใบหน้าที่หล่อเหลาและเกลี้ยงเกลาเหมือนเคย

     

     

    ไล้นิ้วบนผิวเนื้ออีกครั้งเพื่อนตรวจความเรียบร้อย สองเท้าค่อยๆ หย่อนวางลงพื้น มือเล็กบิดเปิดก๊อกน้ำเพื่อชำระล้างเส้นขนที่เจือปนอยู่ในฟองครีมออกจากใบมีด ลู่ฮานเก็บมันเข้าที่ก่อนจะถูกรวบเข้าไปไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง

     

     

    อ๊ะ! เซฮุน

     

     

    ไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจก็ถูกรับเอาไว้ในอ้อมกอดพร้อมพาดบ่นบ่า เซฮุนพาร่างของคนรักไปวางไว้บนเตียงนอนหลังกว้างด้วยความทนุถนอม ย้ายตัวไปขึ้นคร่อมคนรักไว้เพื่อตัดหนทางหลบหนี ลู่ฮานไม่มีทางเลือกนอกจากนอนให้เขาเอาเปรียบอยู่เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ริมฝีปากร้อนทาบลงบนอวัยวะชนิดเดียวกันแต่ต่างเจ้าของอีกครั้ง ร่างสูงชักนำให้ร่างเล็กดิ่งลึงลงไปในห้วงอารมณ์เข้าทุกที หากจะมีใครสักคนที่ทำให้ลู่ฮานรู้สึกเสียการควบคุมได้ คนที่เขายอมเพียงคนเดียวก็คงจะเป็นน้องชายคนนี้ที่เห็นกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ไม่ต้องแคร์ว่าพรุ่งนี้จะมีงานเช้าขนาดไหน ไม่ต้องแคร์ว่าหุ้นจะตกกี่จุดในวันพรุ่งนี้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือความรู้สึกต้องการกันและกันของทั้งสองฝ่าย

     

     

    การเชื่อมประสานกันทางกายคลายความคลางแคลงใจให้หมดสิ้น หยาดเหงื่อไหลรินคละกลิ่นกายคลุ้งฟุ้งในอากาศ เซฮุนโหมกายใส่ลู่ฮานเหมือนคนไม่รู้จักพอ จบหนึ่งรอบแล้วก็ร้องขอราวกับทารกกระหายนมแม่ เรือนกายขาวบางเต็มไปด้วยจ้ำเลือดสีแดงประปรายภายใต้ฝีมือคนที่คุณก็รู้ว่าใคร อีกครั้งที่หัวใจของคู่รักกลับมาเต้นในจังหวะเดียวกัน ลู่ฮานครางเสียงสั่นเมื่อหมู่ดาวเคลื่อนลงมาใกล้จนเขาสัมผัสได้ ก่อนที่คนเป็นน้องชายจะฉุดรั้งเขาลงไปให้ไฟนรกเผาร่างกายจนวอดวายอีกครั้ง อีกครั้ง...และอีกครั้ง

     

     

    ---

     

     

                แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างกระจกบานโตที่ปลายเตียง นกน้อยพากันเรียงแถวบินออกหาอาหาร กลุ่มคนใช้แรงงานเริ่มออกเดินทางไปทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติดกับพวกมลพิษชวนปวดหัว

     

     

    เสียงนาฬิกาปลุกดิจิตอลกรีดร้องตามเวลาที่ถูกตั้งไว้ เรียกให้ร่างเล็กต้องคลานออกจากอ้อมกอดอุ่นๆ ของเซฮุนไปปิดการทำงานของมันเสีย เขาเพลียเกินกว่าจะมองเห็นว่าตอนนี้ปาไปกี่โมงกี่ยามแล้ว บทรักเมื่อคืนทำเอาพาร์ทิซิเย่ร์คนเก่งอ่อนเปลี้ยไปทั้งร่าง ลำพังจะยกแขนขึ้นพร้อมกันทั้งสองข้างยังจะยกไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ เซฮุนไม่ราแรงเลย มีเท่าไหร่ก็ใส่มาไม่ยั้ง สงสัยวันนี้ที่ร้านคงต้องทำงานกันด้วยพนักงานแค่นั้นเสียแล้ว

     

     

    ไม่นานท่อนแขนใหญ่ก็เคลื่อนไปรั้งเอาเอวบางกลับมาอยู่ใต้อาณัติตัวเองอีกครั้ง เซฮุนซุกหน้าลงบนหัวไหล่มนก่อนสูดดมกลิ่นหอมประจำกายของพี่ชายตัวเล็กเข้าไปจนชื้นปอด ความจริงเขาตื่นได้สักพักแล้ว แค่ไม่อยากขยับร่างไปไหนเพราะเกรงว่าลู่ฮานจะตื่น อีกเหตุผลหนึ่งคืออยากกอดร่างนุ่มนิ่มนี้อีกสักพัก พอบรรเทาความคิดถึงที่มีอยู่ข้างในใจชนิดที่ว่าปริ่มจนล้น อีกสองสามวันก็คงไม่ได้มาใช้เวลาอยู่ด้วยกันเช่นนี้อีกแล้ว อย่างที่บอกไปนั่นล่ะ เขามีงานเป็นบ่วงคล้องคอ ถือโอกาสโดดงานวันนี้หนึ่งวันไม่รู้พรุ่งนี้มันจะเพิ่มเป็นทวีคูณหรือไม่ แต่ก็ช่างมันไป เพราะในเวลานี้การให้ความสำคัญแก่คนที่ตนรักย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

     

     

    เซฮุน.. งือ กี่โมงแล้ว

     

     

    ดูเหมือนจะไม่ได้รับความร่วมมือจากลู่ฮานนัก เซฮุนรัดร่างขาวจัดจนแผ่นหลังนาบอังกับแผ่นอก ริมฝีปากอุ่นจนเกือบร้อนประทับจูบแผ่วเบาบนหลังใบหู ไม่อยากให้รู้และก็จะไม่บอกให้ตัวเองเสียเปรียบ ไม่กี่ครั้งนักหรอกที่เขาจะได้นอนกอดกันยันสาย ลองนับดูได้คงไม่ถึงสิบครั้งเสียด้วยซ้ำ

     

     

    ชู่ว... นอนเถอะครับ ลางานสักวัน ผมเพลียจังเลย

     

     

    ความจริงหาใช่เช่นคำพูด ให้เซฮุนวิดพื้นโชว์สักร้อยครั้งตอนนี้ก็ยังไหว พลังงานของชายหนุ่มวัยกลัดมันไม่หมดไปง่ายๆ เพียงแค่ใช้มันกับการปลดปล่อยความต้องการหรอก แต่สำหรับลู่ฮานนั้นเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าทฤษฏีนี้จะใช้ได้ผลหรือเปล่า โดนไปเกือบครึ่งโหลแล้วตื่นมาเจรจาแบบมีสติครึ่งไม่มีสติครึ่งได้ก็เก่งมากๆ แล้ว ไม่ได้หวังว่าคนตัวเล็กจะลุกขึ้นมาทำกับข้าวกับปลาหาอาหารให้ตามปกติหรอก เขาทนได้

     

     

    ฮื่อ...บริษัท

     

     

    เดี๋ยวผมโทรไปสั่งงานกียุลครับ นอนกันนะคนดี

     

     

    ร้านล่ะ... งือ

     

     

    พี่ไม่ไปสักวันมันก็ไม่พังหรอกครับ เชื่อเถอะ

     

     

    ลู่ฮานในเวลาตื่นนอนมีพลังทำลายล้างมากกว่าที่คุณคิด ริมฝีปากเล็ก ปลายจมูกมน ดวงตากลมปรือปรอยฉ่ำไปด้วยน้ำเลี้ยง เส้นผมนุ่มหอมสีน้ำตาลอ่อนยุ่งเหยิง เสียงหวานผิดเพี้ยนเป็นคล้ายจะแหบพร่า ยิ่งเป็นตอนที่เมื่อคืนเพิ่งจะเสร็จกิจมายิ่งชวนให้ใจเต้น ความจริงข้อนี้ร่างเล็กไม่เคยได้ล่วงรู้ คงไม่มีใครเดินไปส่องกระจกตอนตื่นนอนในขณะที่ตัวเองตระหนักได้ว่าไม่มีผ้าอยู่บนตัวสักชิ้น

     

     

    เซฮุนยกศรีษะทุยของคนรักขึ้นวางบนต้นแขน เบี่ยงกายนอนตะแคงเพื่อให้ทัศนะวิสัยการมองดียิ่งขึ้น ก้านนิ้วเรียวยาวเกี่ยวเก็บปลายผมที่หล่นลงมาปรกหน้าปรกตาลู่ฮานขึ้นไปก่อนมันจะสร้างความรำคาญใจไปมากกว่านี้ ดวงตากลมโตคู่นั้นกำลังจ้องมองเขา เปลือกตาสีอ่อนทำตัวเป็นกบฏโดยการจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่อยู่ตลอดเวลา ก่อนริมฝีปากนั้นจะเอื้อนเอ่ยวาจาใดๆ ออกมา เขาก็ชิงปิดมันด้วยอวัยวะเดียวกันเสียก่อน โอเค คุณอาจจะเบื่อกับเลิฟซีนของเราแต่ผมไม่เบื่อ มีภรรยาที่ชอบทำตัวน่ารักตลอดเวลาแบบนี้มีหรือจะปล่อยไปให้เสียของ

     

     

    ไม่มีการรุกล้ำไปมากกว่านั้น เซฮุนทำเพียงประทับมันแผ่วเบาก่อนจะผละออกมาอยู่ในสภาพตาจ้องตากันเหมือนเดิม ปลายจมูกของคนทั้งคู่ใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิของลมหายใจ มือใหญ่เคลื่อนเข้าช้อนซ้อนมือเล็กเอาไว้จนไม่มีที่ว่างใดๆ เหลืออยู่ พวกเขาชิดกัน ทั้งกายและใจ

     

     

    คิดถึงนะ

     

     

    วาดยิ้มบางเบาบนใบหน้า ช่างเป็นคำที่แสนล้ำค่าเหลือเกินสำหรับคนฟัง เหมือนดังความเหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งหมดถูกยกออกไปกองนอกชีวิต

     

     

    คิดถึงมากแค่ไหนครับ ?

     

     

    เซฮุนกดยิ้มตามคนน่ารัก จูบเบาๆ บนปลายจมูกมนที่ขึ้นสีแดงเหมือนรูดอล์ฟตัวน้อย

     

     

    เท่าน้ำตาลในโดนัท

     

     

    หัวเราะคิกคักชอบใจใหญ่เมื่อเห็นใบหน้าของน้องชายฉาบทับไปด้วยความสงสัย แน่สิ ก็เซฮุนไม่ได้เรียนมาเลยไม่ได้รู้ไงว่ามันหวานเท่าไหร่ ขนมหวานรสสัมผัสนุ่มกลมกล่มชนิดนี้แม้ดูไม่มีพิษสง ผู้คนสามารถหาซื้อได้โดยง่ายในราคาแพงมากจนถึงถูก ทั้งแบบอบ แบบทอด ล้วนเต็มไปด้วยน้ำตาลจำนวนมหาศาล สูตรดั้งเดิมของมันหวานเสียจนต้องหาเครื่องดื่มอย่างชาหรือกาแฟมาเคียงด้วย

     

     

    เท่าน้ำตาลในมาการองก็ได้  

     

     

    แต่ก็ยังไม่เท่าขนมอบจากฝรั่งเศสชิ้นนี้ เห็นว่าโดนัทมีน้ำตาลมากแต่เจ้านี้มีมากกว่าหลายเท่า เพียงส่วนประกอบอย่างไข่ขาว น้ำตาล และอัลมอนด์ บวกรับกับกานาชรสหวาน ก็ไม่ต้องเสียเวลาเดาเลยว่าพวกสาวๆ จะตกใจขนาดไหนขามชั่งน้ำหนักหลังกินมันเข้าไป

     

     

    ผมไม่ได้เรียนคหกรรมมานะครับ จะไปรู้ได้ยังไงว่ามันหวานขนาดไหน

     

     

    ลองไปชิมเสียสิ จะได้รู้

     

     

    โธ่ พี่ก็รู้ผมไม่ชอบขนมหวาน

     

     

    แต่พี่เป็นคนทำขนมหวาน

     

     

    ช่างหัวปะไร ผมไม่ชอบมันไม่ได้แปลว่าจะไม่ชอบพี่

     

    อา...ที่จริงต้องบอกว่ารักเลยสิ ถึงจะถูก

     

     

    ฮื้ออออ ! ”

     

     

    เล่นเขาก่อนแล้วก็ต้องกลับมาเขินเสียเอง แบบนี้มันไม่แฟร์จริงๆ เลยคุณว่าไหม ? ลู่ฮานซุกหน้าลงกับอกกว้าง พร้อมวางมือทาบตามลงไปด้วย แก้มนิ่มขึ้นสีแดง แพขนตาหรุบต่ำไม่กล้าเปิดขึ้นมาสบกับดวงตาอีกคู่ที่มองอยู่ เรียกเสียงหัวเราะได้จากร่างสูงที่โดนแกล้งไปแล้วเมื่อครู่นี้ได้อย่างดีทีเดียว

     

     

    เขินหรอครับ ฮะฮะ เมียผมน่ารักที่สุดเลย ดึงเนื้อแก้มเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว อยากจะก้มลงไปฟัดอีกสักชุดแต่ก็ห้ามใจไว้ก่อน ลู่ฮานเพิ่งได้พักไปสองชั่วโมงกว่าๆ ให้นอนต่ออีกพักคงจะดีกว่าเรียกให้ตื่นมาเถียงกันตอนนี้ นอนเถอะครับ ผมจะไปทำมื้อเช้าให้ ลางานสักวันนะคนดี เซฮุนกดจูบเบาๆ ลงบนเรือนผมนุ่ม คว้าเอาผ้าขนหนูที่ตกกองอยู่บนพื้นพรมกลับมาพันไว้ที่เอว ยันกายขึ้นสุดความสูง ก่อนจะพาตัวเองไปยังประตูหน้าห้อง

     

     

    เซฮุนนา...

    เสียงหวานดังขึ้นข้างหลัง เซฮุนเสหน้าหันกลับไปมองคนน่ารักที่นอนอยู่ในกองผ้าห่มด้วยรอยยิ้ม

     

     

    ครับ ?

    ตอบรับด้วยเสียงทุ้ม

     

     

    อรุณสวัสดิ์นะ

    และเขาก็ยิ้ม... มากกว่าที่เคย





     

    สิบโมงเช้าหลังเขาโทรไปสั่งให้กียุลยกงานมาให้ที่คอนโดแล้ว เซฮุนก็พยายามทำอาหารเช้าให้กับคนรักที่เสียพลังงานกายจนนอนซมอยู่ในห้อง ไข่ เบคอน ขนมปังโฮลวีต และผักสลัดต่างๆ ถูกยกมากองรวมกันที่เคาน์เตอร์ คนไม่ชินไม้ชินมือจึงได้แต่ยืนเกาหัวงงอยู่อย่างนั้น เขาลองเอาเบคอนเข้าไมโครเวฟ ผลที่ได้คือมันไหม้จนกินไม่ได้ ลองเอาขนมปังเข้าเครื่องปิ้ง มันก็ตกอยู่ในชะตาเดียวกันกับเบคอนเมื่อครู่นี้ นายแบบอย่างเขาไม่เคยทำอะไรด้วยตัวเองหรอก หน้าที่พื้นฐานพวกนี้เป็นงานของพี่จุนมยอนทั้งนั้น ไม่ว่าจะอาหารเช้า กลางวัน หรือเย็น ก็แค่เอ่ยปากสั่งประเดี๋ยวเดียวมาประเคนแทบจะถึงปาก

     

     

    ครับนม ผมเองนะครับ เซฮุน

     

    ที่พึ่งสุดท้ายเห็นจะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่แม่นมคนเก่ง เซฮุนกรอกเสียงนุ่มทุ่มลงไปในโทรศัพท์และยิ้มรับเมื่อได้ยินน้ำเสียงตื้นตันของแม่คนที่สองที่ไม่ได้พบหน้ากันมาสักพักแล้ว

     

     

    ( อกป้าจะแตก คุณหนูเองหรือคะ คนดีของป้า โทรมาหามีธุระอะไรกับหรือเปล่าคะ )

     

     

    รู้ใจจังเลยนะครับนม แบบนี้สงสัยต้องให้แม่เพิ่มเงินเดือนให้สักหน่อย

     

     

    พูดติดจะหัวเราะออกไปอยู่ไม่น้อย เลี้ยงมากับมือ นางไม่รู้สิคงจะแปลก

     

     

    ( ไม่ต้องหรอกค่ะคุณหนู นมไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร แค่มาให้นมเห็นหน้าบ่อยๆ ก็พอแล้วนะคะ )

     

     

    รอเคลียร์เรื่องทางนี้เสร็จผมจะเข้าไปหานะครับนม ตอนนี้เรามาเข้าเรื่องของเราก่อน พอดีเมื่อคืนนี้ลู่ฮานเพลียๆ น่ะครับ เหมือนว่าจะไม่ค่อยมีแรง ผมเลยอยากทำอาหารให้เขา แต่ติดที่ว่าผมมันทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง นมสอนผมได้ไหมครับ

     

     

    ( เรื่องแค่นี้ง่ายๆ ค่ะคุณหนู เอาล่ะ ไหนบอกป้ามาสิคะว่าตอนนี้วัตถุดิบมีอะไรบ้าง ป้าจะสอนให้ )

     

     

    ครับ!... อ่า ก็มี...

     

     

     

     

     

    กว่ายี่สิบนาทีผ่านไปอย่างยากลำบากสำหรับพ่อครัวมือใหม่ ทั้งกระทะและหม้อไหไหม้ไปเกือบครึ่ง ตลอดเวลาการฝึกปรือวิชาให้ชินมือนั้นมีหญิงวัยกลางคนที่เปรียบได้ว่าเป็นแม่คนที่สองคอยชี้แนะให้ความรู้อยู่ตลอด อาหารเช้าจานนี้จึงสำเร็จออกมาได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอยู่ไม่น้อย

     

     

    ไข่ไก่ที่ถูกทอดให้สุกอย่างพอดี เบคอนที่ไร้ไขมันจากน้ำมันพืชเพราะร่างสูงหย่อนมันลงไปต้มในน้ำ ขนมปังโฮลวีตที่ทำให้สุกโดยการเข้าเครื่องปิ้งและทาหน้าทับด้วยแยมผลไม้หลายสี แม่นมแนะนำให้มื้อเช้าครั้งนี้มีไข่ลวกสักฟองสองฟองเพื่อเซฮุนจะได้คืนฟื้นพลังด้วย เขาเอ่ยลาหญิงกลางคนด้วยความเสียดาย บอกทิ้งท้ายเอาไว้ว่าหากได้แต่งงานกับลู่ฮานแล้วจะเชิญนางไปเป็นแขกผู้ใหญ่ฝ่ายตัวเองในงานรวมกับพ่อแม่ ก่อนวางสายไปแล้วกลับมาวุ่นวายกับการตกแต่งจานอาหารต่อ ฝีมือศิลปะของเซฮุนจัดว่าแย่ แต่แค่เขามีเซ้นส์เรื่องสีตามวิสัยนายแบบที่ดีก็เท่านั้น ผักหลากหลายชนิดถูกวางบนจานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ตามด้วยของคาวในจำนวนที่ร่างกายเล็กๆ นั้นต้องการตามปกติ

     

     

    เสียงกริ่งหน้าห้องดึงความสนใจของเขาไปเสียหมด ไม่ต้องเสียเวลาคิดก็ทายได้เลยว่าใครมาเยือนถึงห้องแต่เช้าแบบนี้ เซฮุนก้าวเท้ายาวๆ ไปยังประตูหน้าห้องไม่กี่ทีก็ปลดล็อคให้กียุลเข้ามาในห้องพร้อมกับแฟ้มงานกองโตในอ้อมแขน เขาสั่งให้ชายหนุ่มวางมันไว้บนโต๊ะรับแขกหน้าทีวี เชื้อเชิญให้อยู่ที่นี้เพื่อนกินมื้อเช้าด้วยกันก่อนกลับไปทำงานที่สาขา แต่ก็ได้รับคำปฏิเสธที่แสนสุภาพกลับมาพร้อมกับคำว่าขอโทษ กียุลมีงานอีกมากที่บริษัท ยิ่งผู้บริหารลาแบบนี้เลขานุการอย่างเขายิ่งยุ่ง เมื่อเช้าตรู่เพิ่งชุลมุนกันไปเสียเกือบครึ่งบริษัท ได้ยินอย่างนั้นผีบ้างานก็ทำท่าจะมาเข้าสิง เซฮุนแทบจะแต่งตัวออกไปจากคอนโดแล้วหากแต่ถูกห้ามโดยกียุลเสียก่อน

     

     

    คุณอยู่เถอะครับคุณเซฮุน งานที่นู่นผมเคลียร์ให้ได้ อีกอย่างเอกสารสำคัญก็อยู่ที่นี่หมดแล้ว แค่ตอนเย็นคุณโทรมาผมก็จะมารับเอางานไป คุณเหนื่อยมามากแล้วนะครับ คุณลู่ฮานเธอก็พาลเป็นห่วง หลายต่อหลายครั้งที่เธอโทรเข้ามาและผมก็กะจะให้โอนสาย แต่เธอก็บอกว่าไม่เป็นไร แค่อยากรู้ความเป็นไปของคุณเท่านั้น

     

     

                ฉุกคิดได้เพราะคำพูดของเลขานุการ เซฮุนกดยิ้มเบาบางข้างมุมปาก กล่าวขอบคุณผู้น้อยกว่าด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างแท้จริง

     

     

                ถ้าอย่างนั้นก็ฝากด้วยนะคุณกียุล ผมเสร็จตรงนี้แล้วจะโทรไป

     

     

                แขกยามเช้าของวันนี้กลับออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เซฮุนนำเอาคุกกี้ที่มีติดครัวใส่กล่องให้แถมกลับไปเป็นมื้อเช้าด้วย เขาเดินกลับเข้ามาในห้องโดยหวังว่าจะมาปลุกคนตัวเล็กให้ฟื้นขึ้นจากนิทรา แต่ทว่าเสียงหยดน้ำกระทบกับพื้นกระเบื้องก็บ่งบอกได้แล้วว่าลู่ฮานนั้นตื่นขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าสะเพราะหรือชะล่าใจ ประตูไม้จึงไม่ถูกลงกลอนไว้เหมือนเคย ร่างสูงแทรกตัวเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเงียบเชียบ เขากับคนน่ารักห่างกันเพียงหนึ่งม่านกั้น

     

     

                ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเสียงบิดก๊อกน้ำปิดก็ดังขึ้น เงาเลือนรางหลังผ้าม่านขยับย้ายไปหยิบเอาผ้าขนหนูมาพันไว้ตามด้วยชุดคุมอาบน้ำ แต่คนไม่รู้ตัวอย่างไรก็ยังไม่รู้ตัวอยู่วันยังค่ำ ลู่ฮานเดินออกมาทั้งๆ ที่ยังมัดปมผ้าไม่เสร็จ ส่งผลให้แผ่นอกบางที่เต็มไปด้วยรอยประสับสีแดงประปรายเผยสู่สายตาของโอเซฮุนอย่างไม่ปิดบัง

     

     

                แพขนตายาวหรุบต่ำ ลู่ฮานเพิกเฉยละเลยจากทัศนวิสัยทางเดินตรงหน้า ก้าวขาออกมาจากส่วนอาบน้ำก่อนชนเข้ากับกำแพงมนุษย์ขนาดใหญ่ที่ยืนกั้นไว้อยู่นานแล้ว

     

     

                อ๊ะ! ”

     

     

                ปลายจมูกมนชนแผ่นอกหนาแข็งปังเข้าอย่างจัง ลู่ฮานผละถอยหลังจนเกือบจะเซล้มแต่คนตัวโตก็ใช้ความรวดเร็วฉุดรั้งเอาไว้ได้ ลูกกวางตัวน้อยชะงักกึก แก้มใสที่แดงอยู่แล้วด้วยอุณหภูมิของน้ำอุ่นยิ่งแดงขึ้นอีกเมื่อพบกับภาพข้างหน้า ผู้บริหารโอยืนกดยิ้มลึกร้ายข้างมุมปาก กลุ่มผมสีเข้มหวีจัดให้เป็นทรงพื้นฐานยามอยู่บ้าน เสื้อยืดตัวบางสีเทาเข้าคู่กับกางเกงวอร์มขายาวสีเดียวกันกับข้างต้น

     

     

                กำลังจะเข้ามาตามอยู่พอดีเลยครับ

     

     

                เซฮุน! ”

     

     

                ลู่ฮานสะบัดมือราวกับโดนของร้อน จัดผ้าผ่อนให้เข้าที่เข้าทางก่อนที่จะโนสายตาหื่นกามคุกคามไปมากกว่านี้ ร่างสูงหัวเราะกลั้วในลำคอ ก้มมองใบหน้าน่ารักที่บูดบึ้งตามอารมณ์ข้างในแล้วก็ยิ่งขำ คนรักของเขาน่ารักน่าชังเสมอยามรู้สึกงอน จำได้ว่าไม่ได้เห็นมันนานแล้ว ครั้งสุดท้ายต้องย้อนไปตอนเด็กเห็นจะได้ เพราะหลังจากทำตัวร้ายก็พาลทำให้ลู่ฮานต้องเปลี่ยนนิสัยใหม่เสียหมด

     

     

                ห้องน้ำข้างนอกก็มี เข้ามาในนี้จะเอาอะไรหรือเปล่า ? เมื่อครู่มีแขก ใครหรือ ? พี่ว่าจะออกไปดูแต่จังหวะถอดเสื้อผ้าพอดีเลยคิดว่าเราคงรับแขกแล้ว

     

     

                ห้องน้ำข้างนอกมีก็จริงครับ แต่หาเมียไม่ได้จากในห้องน้ำข้างนอก ดีแล้วที่พี่ไม่ออกไป ผมไม่อยากให้คคุณกียุลเห็นพี่ในสภาพนี้

     

     

                ลู่ฮานนึกเอะใจ ตอนเขาตื่นนอนใหม่ๆ มันไม่น่าดูเลยหรือ ?

     

     

                แย่มากเลยหรือเซฮุน พี่ว่าพี่ก็ทาครีมครบที่เราบอกให้พี่ทา เอ..หรือว่าช่วงนี้พักผ่อนไม่พอกันนะเลยดูโทรม ร่างเล็กพาตัวเองไปยังหน้ากระจก มองดูตนเองในนั้นพลางหันซ้ายหันขวา ตาก็ไม่ลึก ใต้ตาก็ไม่ดำ ผิวก็ดูอิ่มน้ำ รูขุมขนก็ไม่ได้กว้างจนมองเห็นได้ชัด แต่พี่ว่าก็ปกตินะเซฮุน เราว่าพี่โทรมหรือ ? หันกลับมาใช้ตากวางจ้อง ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก ไม่อยากบอกเลยว่าเพราะลู่ฮานเป็นแบบนี้นี่ล่ะเลยไม่อยากปล่อยออกไปให้เห็น ทั้งสวย ทั้งอ่อนหวาน บอบบาง ล่อพวกผู้ชายให้ตกหลุมพรางได้ดีนักแล ขนาดเขายังแพ้เลยให้ตาย

     

     

                พี่ดูไม่ออกหรือครับว่าโทรมลงไปขนาดไหน ต่อไปต้องกินข้าวเยอะๆ นะ ผมจะแวะซื้อวิตามินให้ถ้าไปทำงาน ส่วนเรื่องผมกลับบ้านถ้าดึกมากก็ไม่ต้องรอ ดูแลตัวเองนะครับ ให้สมกับว่าที่เจ้าสาวผู้บริหารโอคอเปอเรชั่นสาขาเกาหลีควบตำแหน่งอดีตนายแบบมือดีรอวันหวนคืนวงการเถอะนะครับ

     

     

                หัวใจตกลงไปที่ตาตุ่มจนลืมเขิน ช่วงนี้ลู่ฮานลืมดูแลตัวเองจริงๆ ด้วย มันมีบางครั้งที่เขาคิดว่าจะมานั่งรอเซฮุน แล้วจู่ๆ ก็หลับไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไนท์ครีมจึงไม่ได้ทา ผิวหน้าก็ไม่ได้ดูแล สงสัยว่างานนี้ต้องบำรุงยกใหญ่เสียแล้ว ลู่ฮานไม่ใช่คนรักสวยรักงามขนาดนั้น อย่าใช้สายตาที่คุณรู้ว่าเป็นยังไงมองผมแบบนี้สิ ปกติมีใครอยากกินขนมจากฝีมือพาร์ทิซิเย่ร์หน้าตาสกปรกไม่น่ามองกันล่ะจริงไหม ? ถึงแม้จะไม่จำเป็นต้องใช้มันเต็มร้อยเปอร์เซ็นแต่ดูแลเอาไว้ก็ไม่เสียหาย

     

     

                ผมเตรียมอาหารเช้าเอาไว้ให้นะครับ แต่งตัวเสร็จแล้วค่อยออกไปนะ ผมจะรอที่โต๊ะ

     

     

                เห เราทำอาหารเป็นด้วยหรือ ?

     

     

                ก้าวเท้าออกจากห้องน้ำได้ไม่ทันไรก็เอะใจจนต้องหันมาถาม เกิดมายี่สิบเจ็ดปีไม่เคยเลยสักทีที่เห็นเซฮุนจะจับกระทะ น้องออกจากขยาดเครื่องครัวด้วยซ้ำไปหากพูดกันตามจริง

     

     

                ความลับครับ รีบออกไปนะ

     

     

                ดันแผ่นหลังเล็กให้ก้าวพ้นกรอบประตู ก่อนจะวิ่งเหยาะๆ ออกไปรอที่โต๊ะอาหาร วาดยิ้มเสียหน้าบานราวกับเด็กตัวเล็กๆ เกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองยิ้มแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ที่ไหน และเพราะใคร

     

     

                ฝ่ายลู่ฮานก็ได้แต่ส่ายหัวน้อยๆ กับความเป็นเด็กในตัวคนรัก ยกผ้าขนหนูซับหยดน้ำที่เกาะอยู่ประปรายบนเส้นผม ชุดไปรเวทสบายๆ อย่างกางเกงขาสั้นสีขาวและสเวตเตอร์คอวีสีเหลืองอ่อนถูกสวมใส่อย่างไม่คิดอะไรนัก ก่อนจับกระปุกครีมที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งมาบำรุงผิวหน้าทีละตัวเฉกเช่นผู้หญิง บางทีนิสัยที่ได้มาจากคุณแม่มากเกินไปก็ทำให้เขากลายสภาพเป็นลูกสาวเสียมากกว่า เซรั่มตัวสุดท้ายถูกเกลี่ยบางๆ บนใบหน้า ลู่ฮานเดินออกมาทั้งๆ ที่ในมือยังมีผ้าขนหนูอยู่ เขามองเห็นน้องนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ในมือหนึ่งข้างมีสมาร์ทโฟนเครื่องหรูอยู่ด้วย เซฮุนดูเคร่งเครียดมาก ดวงตาคมๆ คู่นั้นจ้องจดไปจุดเดียวคือบริเวณหน้าจอที่มีแสงสว่าง แนวคิ้วเข้มเรียงตัวเป็นระเบียบขัดขมวดเข้าหากัน

     

     

                ไม่ทันตั้งตัวปลายนิ้วเล็กเย็นเฉียบก็แตะลงบนหว่างคิ้ว นวดคลึงให้มันคลายออกจากกันช้าๆ อย่างที่เคยทำ ขมวดคิ้วเสียแน่นเลย เครียดอะไรหรือเปล่าเซฮุน ? หุ้นตกหรอ ?

     

     

                ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม เซฮุนจับมือเล็กของลู่ฮานมาจุมพิตเบาๆ ก่อนกดล็อคโทรศัพท์ปิดกั้นความจริงทุกอย่างจากคนรักตัวน้อย แค่ไม่กี่จุดน่ะครับ ไม่ถึงขั้นวิกฤติ เดี๋ยวก็กู้สถานการณ์ได้ ไม่ได้ตั้งใจปิดบัง แต่ครั้งนี้มันเกินกว่าจะให้ร่างเล็กรับรู้ได้ อีกไม่กี่วันก็ตัดสินชะตาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าตัวเลขของรายรับจะน้อยกว่าที่บริษัทตั้งเป้าไว้ โอคอเปอเรชั่นจ่ายรายจ่ายออกไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีท่าว่าเดือนนี้จะได้รับกำไรหรือเงินทุนกลับมา ทุกอย่างย่ำแย่ ทุกคนท้อแท้จนแทบหมดแรงสู้ แต่เสาหลักซึ่งเป็นความหวังเดียวของฐานที่เกาหลียังไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ เหล่าพนักงานจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าสิ้นเดือนนี้ตนจะได้เงินมาจุนเจือครอบครัวหรือไม่

     

     

                พี่คริสเขาเป็นผู้บริหารเหมือนกัน ถ้าเรามีอะไรจะปรึกษาพี่เขาเราก็บอกพี่นะ

     

     

                ไม่ต้องรบกวนหรอกครับคนเก่ง ปัญหาแค่นี้ผมจัดการได้ สายแล้ว มากินข้าวเถอะครับ เย็นหมดแล้ว

     

     

                ร่างเล็กถูกดึงให้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ พร้อมจานอาหารที่ถูกยกมาวางตรงหน้า หน้าตาของมันดูน่าทานกว่าที่เขาคิดจินตนาการเอาไว้ ไข่ดาวฟองโตที่มีเจ้าไข่ขาวลูกกลมอยู่ตรงกลาง ผักสีเขียวตกแต่งข้างจานวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ขนมปังปิ้งที่ยังคนกรุ่นอุ่นถูกทาด้วยเนยสีเหลืองนวลรสนุ่มลิ้น เบคอนไร้ไขมันส่วนเกินด้วยเพราะถูกเอาไปต้มแทนการทอด สุดท้ายจบด้วยน้ำส้มและนมสดแก้วโตที่วางเรียงอยู่เคียงกัน

     

     

                กวางน้อยวาดยิ้มให้แทนคำชมใดๆ ที่อยู่ในอก จากนั้นก็จัดการยกอาวุธชื่อส้อมมาจิ้มลงบนอาหารเหล่านั้นทีละชิ้น รสชาติของมันก็เหมือนกันกับทุกวัน แต่คุณค่าของมันกลับประเมินค่าแทบไม่ได้ ลู่ฮานเห็นน้องเติบโตขึ้น ไม่ใช่เพียงร่างกายแต่รวมไปถึงนิสัย สภาพจิตใจ และอะไรอีกหลายอย่าง เหมาะสมเหลือเกินกับการเป็นฐานคอนกรีตเสริมใยเหล็กให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ในอนาคต ภาพแห่งความภูมิใจนี้หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะแบ่งปันให้คุณพ่อเห็น ลูกชายคนเดียวของท่านพยายามทุกทางเพื่อพยุงบริษัทเอาไว้ อาจจะใช่ที่ส่วนหนึ่งเพื่องานแต่งของเราทั้งคู่ แต่เชื่อเถอะว่าในแววตาอันมุ่งมั่นคู่นั้น ลู่ฮานเห็นความพยายามที่ชายคนนึงคิดจะสานต่อธุรกิจของครอบครัวให้รอดถึงฝั่งฝันด้วยมือของตนเอง

     

     

                กินยั่วแบบนี้ไม่ดีเลยครับ แบ่งผมบ้างสิคนเก่ง อ้า..

     

     

                โอเค มันก็ยังมีส่วนหนึ่งในตัวที่ยังเป็นเด็กอยู่ ลู่ฮานส่ายหัวพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ กับท่าทางน่าหยิกหน้าตีตรงหน้า พ่อคนทะเล้นอ้าปากเท้าคางมองด้วยสายตาราวกับว่าจะออดอ้อน ร่างเล็กบรรจงตัดเบคอนออกเป็นชิ้นเล็กๆ วางมันลงบนขนมปังขนาดพอดีคำที่ถูกเตรียมไว้เมื่อครู่ ก่อนจะส่งมันเข้าช่องปากของร่างสูง โอเซฮุนบดเคี้ยวอาหารจนได้ยินเสียงหยับๆ หน้าตาอิ่มสุขราวกับได้กินผลผลิตจากสวรรค์

     

     

                กาแฟไหมเซฮุน ?

     

                เห็นว่าเช้านี้น้องก็ยังคงมีงานกองเต็มโต๊ะ(อาหาร) ก็เลยถามเผื่อไว้

     

     

                ก็ดีครับ กำลังจะตอบออกไปแต่ในใจก็ฉุกคิดขึ้นได้เสียก่อน เขาคิดถึง บางสิ่งบางอย่างที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่จะดีกว่าถ้าได้ชานมไข่มุกรสมือพี่สักแก้วครับ ผมคิดถึงมันนะ

     

     

                อื้อ งั้นรอแป๊บนึงนะ

     

                พยักหน้ารับแข็งขัน ย้ายตัวเองไปยังส่วนของเคาน์เตอร์บาร์และหยิบเครื่องมือเครื่องใช้ออกมาด้วยความเคยชิน จับจ่ายเวลาให้กับใบชา นมสด ก้อนน้ำแข็ง และเม็ดไข่มุกเพียงครู่อึดใจก็ได้ชานมไข่มุกสูตรต้นตำหรับที่ดูจะถูกลูกชายคนเดียวของตระกูลโอที่สุด

     

     

                นาน-มาก ผมเกือบจะแย่แล้ว

     

                “ overจริงๆ เลยเรานี่ พี่ไปแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นล่ะ อะไรมันจะหิวปานนั้น

     

     

                เหลือเกินจริงๆ พ่อคุณชาย อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมาด้วยความหมั่นไส้ ลู่ฮานวางแก้วชานมลงบนโต๊ะ เลื่อนมันไปให้น้องชายตัวเขื่องที่ทำปากเบะหน้างอเหมือนรอคุณแม่มารับกลับบ้าน

     

     

                แค่พี่ห่างจากอกผมไปห้านาทีผมก็แทบขาดใจตายแล้ว

     

                เว่อร์

     

                ไม่ได้เว่อร์

     

                พอเลย รีบกินเข้า น้ำแข็งละลายแล้วรสจะชืด

     

     

                เซฮุนยกแก้วชานมขึ้นมาจรดริมฝีปาก รับเม็ดไข่มุกสังเคราะห์รสสัมผัสนุ่มหยุ่นเข้าไปเคี้ยวกันปากว่างพลางตั้งคำถามต่ออย่างไม่ลดละ ถ้ารสชืดแล้วทำยังไงรู้ไหมครับ มันถึงจะกลับมาหวาน ?

     

     

                ลู่ฮานกอดอกทำท่าครุ่นคิด เติมน้ำตาลหรือ ?

     

                ส่ายหน้าเป็นคำตอบ

     

                งั้นก็ชงใหม่ ?

     

                ก็ยังไม่ใช่อีก

     

                ออกไปซื้อของเจ้าอื่นมาผสม ?

     

                ผิ ด ถ นั ด

     

                งั้นอะไรล่ะ พี่ยอมแพ้แล้ว ทรุดลงกองกับแผ่นไม้หนาขัดเรียบ เกยใบหน้าน่ารักลงบนท่อนแขนบอบบางพลางช้อนตามองคนสูงกว่า

     

                ก็กินจากปากพี่ไงล่ะครับ

     

     

                โอเซฮุนก็เพิ่มความหวานให้กับชานมด้วยกลีบปากรสนุ่มละมุนยิ่งกว่าเม็ดไข่มุกในโพรงปาก ลู่ฮานล่อลวงให้เขาตกลงไปหลุมพรางไปเป็นพันๆ ครั้ง ซึ่งเขาอีกนั่นล่ะที่ยินยอมให้การกระทำนั้นเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

     

     

                ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ อีกฝ่ายเป็นถึงรักแรกและรักเดียวของเขาเลยนี่นา :)

     

     

    ---

     

     

                วันตัดสินการตายของร่างสูงมาถึงรวดเร็วเกินกว่าที่ใครคาดเอาไว้ บอร์ดใหญ่ของบริษัทถกเถียงกันเสียใหญ่เกี่ยวกับเหตุการณ์หุ้นตกเป็นสิบๆ จุด เซฮุนเครียดเสียจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ ตอนนี้แฟ้มงานสรุปรายรับรายจ่ายกำลังเดินทางมาหากแต่ว่าก็ยังไม่ถึง ทุกอย่างอยู่ในขั้นวิกฤติ รู้ดีแล้วว่าการแต่งงานที่สัญญากับลู่ฮานไว้เสียดิบดีไม่อาจเป็นจริงได้ ซึ่งตรงนี้นี้ก็ทำใจยอมรับความจริงได้แล้วส่วนหนึ่ง แต่มันก็ยังไม่ทั้งหมดเมื่อเขาจับจุดผิดปกติบางอย่างได้ เส้นกราฟสีแดง หุ้นหลายต่อหลายจุดที่ตก รวมถึงรายจ่ายที่พอมาเช็คย้อนหลังแล้วคล้ายกับว่าจะมากเกินกว่าความจำเป็นสำหรับการหล่อเลี้ยงกิ่งก้านของโอคอเปอเรชั่น อาจเป็นได้ว่าคนใกล้ตัวของเขาใครสักคนนี่แหละที่มันเสนอหน้าเป็นหนอนบ่อนไส้ให้พ่อ

     

     

                ถึงแม้จะใหญ่แค่ไหนแต่ร่างเล็กก็ยังคงไม่รู้ เซฮุนใช้อำนาจที่มีอยู่ปิดปากพนักงานและคนรอบข้างทุกคนให้เงียบไว้ แค่นี้เขาก็เครียดจนจะบ้าอยู่แล้ว หากลู่ฮานมารู้แล้วประเดี๋ยวมีน้ำตาเขาคงต้องพึ่งจิตแพทย์อย่างจริงจัง

     

     

                เงียบ

     

     

                เสียงจ้อกแจ้กจอแจทำให้ผู้บริหารตัวสูงเริ่มประสาทเสีย คราแรกเขาใช้เพียงเสียงเนิบนาบข่มขู่พวกคณะกรรมการเหล่านั้นแต่ก็ไม่มีใครหันมาสนใจเลยแม้แต่น้อย

     

     

                ผมบอกให้พวกคุณเงียบไง ! ”

     

     

                ฟาดมือลงบนโต๊ะไม้เนื้อแข็งตัวยาวดังปังจนทั้งห้องถึงกับเงียบสงัด รังสีที่แผ่ออกมาจากร่างนั้นราวกับประกาศกร้าวว่านี่แหละสายเลือดตระกูลโอ ร้อน หัวรุนแรง ไม่อยากจะบอกเลยว่าถอดแบบกันมาทั้งพ่อทั้งลูก

     

     

                นี่ห้องประชุม มีมารยาทกันหน่อย ผมรู้พวกคุณเดือดร้อน แต่ผมเองก็เหมือนกัน ! ” พญาราชสีห์ตัวเดิมลุกขึ้นยืนผงาด ถึงเวลาแล้วที่มันจะบอกให้ทุกคนรู้ว่าใครที่อาศัยบารมีของมันคุ้มหัวอยู่ต้องรับฟังและทำตามคำสั่งอย่างไม่มีข้อแม้ คุณกังวลเรื่องหุ้น กังวลเรื่องเงินปันผล แต่ไอ้ผมที่ต้องแบกรับชีวิตของพนักงานหาเช้ากินค่ำทั้งบริษัทนี่มันไม่ลำบากเลยหรือ ! ผมที่ต้องพยุงบริษัทให้อยู่ชูคอในวงการอสังหาริมทรัพย์นี่มันไม่มีความกังวลใจใดๆ เลยใช่หรือไม่ ! ศักดิ์ศรีของตระกูลโอกำลังจะถูกขยี้ไม่เหลือชิ้นดีโดยความคิดโง่ๆ ของพวกคณะกรรมการบอร์ดใหญ่ที่วันๆ ไม่ทำห่าเหวอะไร ได้แต่ยืนสั่งยืนวานให้คนนู้นคนที่ทำเหมือนพวกด้อยความสามารถ ไร้ค่ากว่าผู้พิการเสียอีก ! ”

     

     

                กลืนคำพูดลงคอไปเกือบไม่ทัน เพราะที่โอเซฮุนว่ามานั้นก็เป็นความจริง

     

     

                หุบปากเน่าๆ ของพวกคุณซะ ก่อนที่ผมจะสั่งถอนหุ้น แล้วอย่าคิดนะว่าผมจะง้อพวกคุณ ธุรกิจแค่นี้ผมมีน้ำยาพอที่จะดูแลมันเองได้ ! ”

     

     

                ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้า กดนิ้วลงบนหว่างคิ้วเพื่อหวังจะคลายความตึงเครียดของตนได้ อยากสบถคำหยาบคายหากอำนาจและบทบาทผู้บริหารก็ค้ำคอเอาไว้ไม่ให้เขาทำอะไรไปมากกว่านี้ กาแฟรสเข้มแก้วที่ห้าถูกเสริฟพร้อมมาการองรสหวานแหลม ไม่ชอบอย่างไรก็ยังไม่ชอบอย่างนั้น ที่ทนยัดๆ มันเพราะขนมนี้ทำให้คิดถึงใบหน้าหวานๆ ที่คอยรอเขากลับบ้าน

     

     

                คิดถึงเท่าน้ำตาลในมาการองหรือ...

     

     

                หึ... กว่าจะแก่คงเบาหวานกินกันไปข้าง

     

     

                นึกขันกับประโยคน่ารักๆ นั้นของร่างเล็กแล้วก็บิดยิ้มหมองหม่น ความฝันของเราทั้งสองคนคงพังทลายไม่เป็นท่า เขาเอง ผิดที่เขาเอง ที่ทำมันได้ไม่ดีพอ ทุ่มเทกับมันไม่มากพอ สุดท้ายจึงส่งผลร้ายสู่หัวใจของคู่รักอย่างรุนแรง

     

     

                ยังไม่พอเท่านั้น เรื่องที่เขายอมรับไม่ได้อีกเรื่องคือความพ่ายแพ้ให้แก่โอจีฮุน บุคคลที่ไม่เคยยอมหัก ไม่เคยยอมงอ บุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของเขา เชื่อเถอะ ไอ้การล้มเหลวครั้งนี้คงมีใครชักใยอยู่เบื้องหลังเป็นแน่

     

     

                สรุปยอดปีนี้มาแล้วครับคุณเซฮุน ! ”

     

     

                ประตูนรกเปิดอ้าออก พร้อมกับยมทูตที่ถือเคียวปลิดวิญญาณอันใหญ่ติดมือมาด้วย กียุลวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเล่มหนาที่เป็นตัวกำหนดชะตาทุกอย่าง ไม่มีใครล่วงรู้ความลับภายในนั้น นอกจากเขาที่กำลังจะเปิดมันภายในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้

     

     

     

     

     

                หนึ่งพันเก้าร้อยล้าน..วอน





                สิ้นแล้วซึ่งเรี่ยวแรง เซฮุนไม่อาจยืนทนอยู่ตรงนี้ได้ ธุรกิจจะเป็นเช่นไรยามไม่มีเงินมาหมุนเวียน พนักงานจะต้องถูกเลิกจ้าง ผลงานที่เคยได้รับไว้วางใจจะกลับตาลปัตร ระบบสาธารนูปโภคของบรรดารีสอร์ทจะแย่เพราะเราไม่มีแม้แต่เงินทุนสำรอง ซึ่ง...ถึงแม้จะมีแต่เขาก็จะไม่ใช่ แล้วไหนจะต้องรับผิดชอบกับสาวๆ หนุ่มๆ เมืองกรุงทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อโบนัสปลายปีนี่อีก ทุกคนจะเป็นยังไง จะมีเงินพอใช้จุนเจือครอบครัวหรือไม่เขาก็ไม่รู้

     

     

                เสียงโทรศัพท์กรีดร้องขึ้นลั่นห้อง ซึ่งต้นตอก็อยู่ในกระเป๋ากางเกงของผู้บริหารที่นั่งอยู่บริเวณหัวโต๊ะตัวยาวนั้นเอง เซฮุนจำได้ว่าเขาปิดมันเรียบร้อยแล้ว แต่คงไม่ได้ตรวจดูความแน่ใจจนเผลอไปเปิดมันใหม่หรือเปล่า มือใหญ่สอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ดึงมันออกมาดูบุคคลที่ปรากฏบนหน้าจอแล้วก็เผลออยากจะเขวี้ยงทิ้ง

     

     

                ฝันไปเถอะว่าจะรับ เหอะ

     

     

                คุณกียุล ผมฝากแจงเงินให้พนักงานด้วยนะ ให้ได้เท่าไหร่ก็ให้ไปก่อน ผมอยากจะคุยอะไรกับพ่อเสียหน่อย

     

     

                ครับ แล้ว...

     

     

                มีอะไรหรือเปล่า ?

     

     

                เห็นท่าทีอึกอักของกียุลแล้วก็นึกฉงบ เสหน้ากลับมามองลูกน้องที่เกือบสนิทใจด้วยความสงสัย

     

     

                เมื่อครู่นี้คุณจีฮุนโทรเข้ามาบอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะบินลงมาหาครับ คุณเซฮุน

     

     

                ขอบใจ

     

     

                เดินออกไปด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง ไม่รู้หรอกว่าจะมาเพื่ออะไร แต่อีหรอบนี้มันก็มีอยู่แค่สองสามอย่าง ไม่มาสมน้ำหน้า ก็สมน้ำหน้า และสมน้ำหน้า พ่อเล่นสกปรกแน่ และเซ้นส์การเป็นนักธุรกิจที่ถ่ายทอดออกมาทางสายเลือดก็บอกอะไรได้หลายๆ อย่างว่า หนอนบ่อนไส้ตัวนั้นจะเป็นใครที่ไหนไปไม่ได้ใครหากไม่ใช่นัมกียุล หลายต่อหลายอย่างทำให้เขาเริ่มมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ใครกันล่ะมันจะไม่โกรธไม่เคืองยามถูกแย่งตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้ไปต่อหน้า ทำงานมาตั้งหลายปี อายุมากกว่าเขาสามปีแต่ก็ยังต้องมาก้มหัวให้คนผู้น้อย ใครๆ มันก็ไม่ชอบทั้งนั้น ให้เซฮุนทำเขายังขยาดเลย

     

     

                หัวฟัดหัวเหวี่ยงจนเผลอขับรถเร็วเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ถ้าลู่ฮานรู้เขาคงโดนบิดจนหูเขียว จะปิดเรื่องนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกัน จะใช้วิธีไหนทำให้ข่าวนี้ซาไปในวงการธุรกิจ ไม่ช้าไม่เร็วคนตัวเล็กต้องรู้แน่ คนบ้านนู้นต้องแห่กันมาทั้งก๊ก เรื่องราวจะวุ่นวายและลุกลามจนเราเริ่มไล่ปิดมันไม่ไหว ก็เหมือนไฟไหม้ทุ่งข้าวแล้วเอาปืนฉีดน้ำไปฉีด เทหมดกระบอกยังยั้งเปลวไฟไม่ได้เลยสักนิดเดียว

     

     

                Xiaolu

     

     

                ชื่อเดียวที่ยั้งทุกอารมณ์ฉุนเฉียวคือเสี่ยวลู่ เซฮุนชะลอรถยนต์คันหรูให้ช้าลงจนหยุดนิ่งอยู่ข้างทางในที่สุด เขาพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ พ่นลมหายใจเข้าออกช้าๆ ก่อนกรอกเสียงลงไปในนั้นด้วยความมั่นใจที่มีอยู่น้อยนิด

     

     

                ครับ คนดี...

     

     

                ( เซฮุน อาการเป็นยังไงบ้าง ยาที่ให้ไปได้กินสักเม็ดหรือยัง หือ ? )

     

     

                อ่า...พูดถึงอาการปวดหัวก็แล่นขึ้นมาทำร้ายทันทีที่คนรักพูดจบ สองสามวันที่ผ่านมานี้อากาศผิดเพี้ยน ส่งผลให้คนพักผ่อนน้อยอย่างเขาไม่สบายเข้าจนได้

     

     

                กินแล้วครับ แต่ผมไม่ไหว ตอนนี้อยู่ระหว่างทาง กำลังขับรถกลับครับ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ อีกไปแดงเดียวก็จะถึงคอนโดแล้ว

     

     

                ( เสียงเราดูไม่ดีเลย พี่ไปรับไหม อยู่ตรงไหน ? )

     

     

                ไม่เป็นไรครับ ยังพอขับต่อไปได้ รอก่อนนะครับคนดี เดี๋ยวผมจะกลับไป รักนะครับ

     

     

                กดวางสายทันทีด้วยไม่อยากรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ อนาคตที่วางแผนไว้พังไม่เป็นท่า เขาอยากจะมั่นคงกว่านี้ อยากเป็นคนรักที่ดีให้ลู่ฮานได้เห็น การแต่งงานเป็นส่วนหนึ่งที่จะประกาศให้คนอื่นได้รู้ว่าความรักครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ทางกายที่จบๆ ไปหลังจากได้กันเพียงหนึ่งหรือสองครั้ง พลังของความรักให้ประโยชน์มากกว่านั้น มันทำให้เขาเปลี่ยนและมีความพยายามที่จะทำอะไรบางอย่างได้มากกว่าที่เคยทำในวันก่อน

     

     

                รถยนต์เคลื่อนตัวอีกครั้งแต่ทว่าอยู่บนพื้นฐานของความเร็วตามกฎหมายกำหนด จู่ๆ ก็อยากจะรักษาชีวิตตัวเองขึ้นมา คิดว่ายังไม่คุ้มค่ากับการดูแลรักษาลู่ฮานเอาไว้ให้ดีเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งพึงจะทำเพื่อคนที่เขารักได้ พี่ชายตัวเล็กจะอยู่ยังไงโดยไม่มีเขา เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก รักกันมาตั้งนานทั้งในฐานะพี่น้องและคนรัก จิตวิญญาณผูกพันซึ่งกันและกันจนรวมเป็นหนึ่ง ด้ายสีแดงที่พันอยู่นิ้วก้อยมีน้อยคนนักที่จะได้เห็น แต่ชะตาก็กำหนดมาแล้วว่าให้เขาทั้งสองคู่กัน

     

     

    ---

     

     

                ตายแล้ว ! ”

                หัวใจคนมองหล่นลงไปกองที่ตาตุ่ม กังวลใจยังไม่ถึงสิบห้านาทีคนที่โทรไปหาเมื่อครู่นี้ก็กลับมาถึงห้องด้วยสภาพที่ไม่สู้ดีนัก ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือด เม็ดเหงื่อเห่อเกาะพราวบนพื้นที่แถวแนวไรผม ริมฝีปากเย็นชืดไร้สีเลือด อุณภูมิผิวกายก็ร้อนเสียกลัวว่าอวัยวะภายในจะถูกลวกไหม้ มีแรงยืนยิ้มอยู่หน้าห้องครู่อึดใจก็เดินอาดๆ  เข้ามาภายใน ปิดประตูก่อนทรุดร่างลงเทน้ำหนักถ่ายไปให้คนตัวเล็กที่ตอนนี้ติดอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวใหญ่ไปโดยปริยาย ลมหายใจรวยรินรดหัวไหล่มนเนิบช้า

     

     

                เซฮุน ทำไมไม่บอกพี่ว่าอาการหนักขนาดนี้ ! ” ทั้งห่วงทั้งโมโห ไม่ได้โกรธมาเกือบสิบปีแล้วคราวนี้ก็เลยเรื่องใหญ่ จะฝืนให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหม ! ทำไมไม่ห่วงตัวเองบ้าง ! คิดบ้างไหมว่าถ้าตัวเองเป็นอะไรขึ้นมาแล้วคนข้างหลังจะอยู่ยังไง ! ” มีน้ำตาจนได้ สะอื้นฮั่กๆ จนได้ กลายเป็นว่าโกรธไป ห่วงไป ร้องไห้ไป

     

     

                น้ำตาแปรผันตรงกับความสงสาร เซฮุนกระชับกอดร่างกายเล็กบางไว้จนแนบแน่น อีกครั้งที่คู่รักรู้สึกอ่อนแอ ท้อแท้แต่ก็ต่างด้วยเหตุผล คนหนึ่งเป็นห่วงเสียจนแทบหลับนอนไม่ได้ อีกคนก็เสียใจที่อนาคตที่วางไว้ล้มพังไม่เป็นท่า

     

     

                ชู่ว.. คนเก่งของผม ไม่ร้องไห้นะครับ เสี่ยงสั่นอย่างไร้การปิดบัง เซฮุนผู้ไม่เคยมีน้ำตาร้องไห้ออกมาให้เห็นแล้วในตอนนี้ เขาเหนื่อย จริงๆ นะ รู้สึกเหมือนความพยายามที่สั่งสมมาไร้ค่าเมื่อถึงตอนจบของเรื่องขอโทษนะครับที่ไม่ดูแลตัวเองเลย ปล่อยให้พี่ต้องเป็นห่วงอยู่เรื่อย ผมนี่มันแย่จริงๆ หยดน้ำอุ่นใสตกลงบนผิวเนื้อขาวนวล ลู่ฮานรีบผละออกมามองหน้าของน้องด้วยความตื่นตระหนก ประคองสองแก้มกร้านนั้นด้วยอุ้งมือน้อยๆ บรรจงกวาดเกลี่ยให้น้ำตาของน้องมลายหายไปเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับเซฮุนเลยสักนิดเดียว

     

     

                เซฮุนร้องไห้ทำไม... ฮ...เซฮุนนาบอกพี่หน่อย

     

     

                ผู้ถูกถามกดยิ้มหม่นหมองที่มุมปาก ทุกอย่างจุกอยู่ที่คอจนอึดอัดไปหมด จะบอกอย่างไรว่าในเวลานี้บริษัทกำลังจะล้ม จะบอกอย่างไรว่างานแต่งงานที่วาดฝันกันนั้นไม่มีจริงอีกแล้ว

     

     

                ผมทำไม่ได้... งานแต่งของเรา... ลู่ฮาน ผมขอโทษ

     

     

                พูดจบก็ซบหน้าลงกับฝ่ามือเล็ก ซุกซ่อนน้ำตาเอาไว้ไม่อยากให้ลู่ฮานเห็น

     

     

                มันไม่สำคัญเลยว่าเราจะได้แต่งงานกันไหม ไม่สำคัญเลยว่าใครจะรู้หรือเปล่า เซฮุนนา พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าแค่เรากับพี่.. พี่ไม่ได้อยากได้อะไรไปมากกว่านี้

     

     

                แต่ผมอยากให้พี่ ผมเตรียมการมาอย่างดีเพื่อให้พี่มีความสุขที่สุด

     

     

                ลู่ฮานยิ้มทั้งๆ ที่มีน้ำตาอาบหน้า ทำใจกล้ากดจมูกลงบวกผิวแก้มกร้าน แค่มีเซฮุน มีคุณพ่อคุณแม่ มีม๊าป๊า พี่คริส พี่อี้ชิง ลู่หนานแล้วก็เด็กๆ พี่ก็มีความสุขแล้ว หมายความว่าอย่างนั้นโดยไม่มีอะไรผิดเพี้ยน ลู่ฮานว่ามันเหมาะมากแล้วที่ชีวิตเขามีเท่านี้ เขามีความสุขดีกับสิ่งที่เป็น พอใจกับสิ่งที่มีอยู่ ไม่ต้องหรูเลิศไปกว่านี้

     

     

                ผมทำบริษัทของพ่อพัง รายได้เดือนนี้เราเอาไปหมุนอะไรไม่ได้เลย เงินเดือนของพนักงานจะได้ถึงเดือนที่แล้วกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ พวกเขาไม่ได้มีเงินติดมือเหลือใช้แบบพวกเราๆ ซีเรียสที่สุดคงเป็นเรื่องนี้ ชีวิตผู้บริหารไม่ได้มีแค่เมียและครอบครัวขอให้เข้าใจใหม่ ผมเครียด ผมกลัวไปหมด บริษัทจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีแรงงาน เราต้องหล่อเลี้ยงคนเป็นพันๆ ด้วยเงินเพียงแค่พันเก้าร้อยล้านวอนปวดหัวเพราะไม่สบายว่าเลวร้ายแล้ว นี่ยังต้องมาเครียดเรื่องพนักงานภายในอีก แค่เอาไปจ่ายค่าไฟสี่สาขายังจะไม่พอเลย ถอนหายใจออกมาด้วยความอ่อนล้า ก่อนจะถูกคนตัวเล็กพยุงพาไปนั่งในห้องนอนบนเตียงหลังใหญ่ ร่างกายของเขาเริ่มไม่ไหวแล้ว อุณภูมิความร้อนเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนฮีทเตอร์มาตรพังอะไรประมาณนั้น

     

     

    " อย่าเพิ่งฝืนตัวเองในตอนที่ร่างกายไม่ไหวเลยนะเซฮุน เรานอนก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่ไปต้มข้าวต้มกับเอาน้ำมาเช็ดตัวให้นะ "

     

     

    แตะหลังมือลงบนหน้าผาก วัดอุณหภูมิดูแล้วก็ไม่น่าไว้วางใจสักเท่าไหร่ พิษไข้คงเริ่มลุกลามไปทั่วร่างของน้องแล้ว เขาไม่ลืมที่จะคลายเน็คไทด์ให้คนรัก พร้อมปลดกระดุมที่ดูเหมือนจะทำให้อึดอัดไม่น้อยด้วย

     

     

    ว่ากันว่าคนป่วยนั้นมักจะงอแงและงี่เง่า ซึ่งแน่นอนว่าไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายตัวเขื่องชื่อโอเซฮุนนี้ด้วย อาการปวดหัวแล่นริ้วทำร้ายปลายเส้นประสาท ถือว่าเขาพลาดเพราะหลายวันที่ผ่านมานี้กินยาบ้าง ไม่กินบ้าง ตามใจตัวเองไม่ตามใจหมอ มือใหญ่รั้งให้เจ้าของมือเล็กไปไหน ทั้งยังฉุดรั้งร่างนั้นให้ลงมานั่งกองอยู่ที่ผืนเตียงเป็นครั้งที่สอง ซุกใบหน้าลงบนหน้าท้องแบนราบ คำรามเสียงต่ำในลำคอ

     

     

                ไม่เอา...

     

     

                ลู่ฮานวางมือบนศีรษะของคนรัก ลูบไล้ไปตามแนวเส้นผมเบาๆ ด้วยความอ่อนโยนช้าๆ แป๊บเดียวนะเซฮุน พี่ออกไปแค่นี้เอง เราจะได้หายไวๆ แล้วมาช่วยกันคิดว่าจะทำยังไงให้บริษัทกลับมาคงตัวอีกครั้งไง เคลื่อนมากอบกุมแก้มกร้านไว้ด้วยมือน้อยทั้งสองข้าง พยายามกล่าวกล่อมคืนดื้อให้คลายความกังวลลงไปหลายระดับเท่าที่ตนจะทำได้ นะเซฮุน นะครับ แค่น้ำเสียงอ่อนลงก็ทำให้ใจอ่อนยวบ เซฮุนยอมคลายอ้อมแขนออกจากเอวคอด เงยมองใบหน้าสวยหวานด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์อย่างเด่นชัด แค่นี้เอง แค่ข้างนอก เดี๋ยวเขาก็กลับมา อย่างงี่เง่าสิเซฮุน บอกตัวเองเป็นรอบที่ล้านแล้วก็ยังไม่รู้จักหลาบจำ หงุดหงิดตัวเองเวลาไม่สบายเสียเหลือเกิน

     

     

                อย่านานนะครับ

     

     

                ลู่ฮานยิ้ม บอกผ่านสายตาว่าตนจะไปครู่เดียวแล้วก็รีบผละออกมาจากห้องจนขาแทบขวิด เกือบสิบนาทีที่แล้วเขายังคงเข้มแข็ง แข็งแรงดี ทำหน้าที่เป็นหลักแทนคนตัวใหญ่ที่เคยอยู่ในหน้าที่นั้นมาโดยตลอด วันนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร เซฮุนอ่อนแอลงมากหลังจากรู้ข่าวว่าบริษัทมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย น้ำตาของน้องที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตของเขาถูกปล่อยออกมาอย่างไม่กลัวอาย ไม่มีการกักเก็บไว้ไปร้องไห้ลับหลัง ลู่ฮานสัมผัสได้ว่า วันนี้คงเป็นที่สุดของน้องแล้วจริงๆ น้องเหนื่อยมามากตลอดสามเดือนที่ผ่านมา หากนับรวมดีๆ แล้ว น้องอาจจะต้องเหนื่อยกับการปั้นหน้ามาตั้งแต่เริ่มหลงรักเขา คิดเช่นนั้นน้ำตาหยดน้อยก็หล่นแหมะลงบนพื้น หมดสิ้นแล้วหน้ากากแห่งความเข้มแข็ง ลู่ฮานอ่อนแรงเหลือเกินในเวลานี้ เขาแทบพยุงกายยืนตรงไม่ได้ น้องร้องไห้ให้เขาเห็นต่อหน้า แต่ทว่าสองมือของเขาไม่อาจทำอะไรได้เลยนอกจากประคองใบหน้านั้นไว้ กล่าวปลอบไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามันจะช่วยอะไรได้มากหรือเปล่า

     

     

                เขามันแย่ แย่เหลือเกินที่ทำได้แค่นี้...

     

     

                อย่างไรก็ตามตอนนี้สุขภาพของน้องก็สำคัญที่สุด กะละมังขนาดกลางถูกน้ำอุ่นถ่ายเข้าใส่พอประมาณ ตามด้วยผ้าขนหนูที่ซับน้ำได้เป็นอย่างดี ลู่ฮานผละออกมาต้มข้าวต้มหมูง่ายๆ ในหม้อ ไม่ต้องเลิศหรูอะไรมากแล้วในเวลานี้ ทันทีที่เมล็ดข้าวบานได้ที่ ก้อนหมูสุกดี รสชาติเหมาะสมกับคนป่วย และผักโรยก็ถูกคนให้ข้าวต้มชืดๆ มีสีสันขึ้นมาแล้ว ร่างเล็กก็ตักมันใส่ชามทันทีโดยไม่รีรออะไรทั้งสิ้น กลัวว่าเซฮุนจะรอนานกว่านี้ กลัวว่าน้องจะพาลคิดมากจนเป็นอะไรไปเสียก่อน

     

     

                เซฮุน

     

     

                พาตัวเองเข้าไปในห้องพร้อมถาดข้าวต้มและกะละมังใส่น้ำอุ่น น้องยังคงนอนอยู่บนเตียง ผ่อนลมหายใจแผ่วเบามองดูแล้วคล้ายจะอ่อนแรงเกินกว่าตนจะรับไหว

     

     

                ลุกขึ้นนั่งก่อนนะ

     

     

                เป็นแสงสว่างยามราตรี เป็นนางฟ้ายามเหนื่อยล้า เป็นพยาบาลยามล้มหมอนนอนเสื่อ เป็นคนรักที่ครบเครื่องที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งพึงจะมีได้ เซฮุนฝืนยิ้มอย่างอ่อนแรง ว่ากันว่าอาการป่วยมักจะทำร้ายเราได้ยามที่จิตของเจ้าตัวอ่อนแอ ซึ่งในเวลานี้เขาก็เป็นอยู่ เรือนกายสูงโปร่งถูกพยุงให้ลุกขึ้นนั่ง แผ่นหลังตั้งฉากกับแนวหัวเตียงบุฟองน้ำนุ่ม ข้าวต้มร้อนๆ ถูกช้อนตักขึ้นมา ผ่านกรรมวิธีทำให้อุ่นด้วยลมหายใจของคนตัวเล็ก ก่อนจะถูกป้อนเข้าไปในโพรงปากของคนป่วยด้วยความเรียบร้อย คำแล้วคำเล่า ลู่ฮานไม่ปริปากบ่นว่าเมื่อย คำแล้วคำเล่า ลู่ฮานบรรจงตั้งใจส่งให้เขาด้วยความเป็นห่วงที่มีทั้งหมด ไม่นานอาหารมื้อแรกของวันนี้ก็เหลือเพียงเศษข้าวสองสามเม็ดที่ก้นชาม

     

     

                กระดุมเสื้อถูกริดออกจากรังดุม เป็นครั้งแรกที่เห็นเซฮุนเปลือยแล้วลู่ฮานไม่รู้สึกเคอะเขิน เขาบิดผ้าขนหนูที่เต็มไปด้วยน้ำให้อยู่ในสภาพหมาดๆ ชุบเช็ดไปตามผิวกายผะผ่าวของน้องด้วยความอ่อนโยน

     

     

                เช็ดตัวแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หายเป็นปกติแล้ว กินยาตามหมอจัดให้แล้วนอนหลับให้สบายพรุ่งนี้ก็เป็นปกติ..ต้องเป็นปกติ

     

     

                น้ำตาไหลอีกแล้ว ตัวสั่นไปหมด เซฮุนเห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้าไปรวบเอาคนตัวเล็กมาไว้ในอ้อมกอด ปลอบประโลมทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ไหว

     

     

                คนดีของผม...

     

     

                คุณพ่อจะตบเซฮุนอีกไหม จะทำร้ายเราอีกหรือเปล่า..ฮึก

     

     

                ไม่ครับ ผมจะไม่ยอมแน่ ไม่ร้องนะ

     

     

                พี่กลัวไปหมดเลย เซฮุนนา... ไม่เอานะ ไม่เอาแบบเมื่อก่อนแล้ว

     

     

                มันไม่มีอะไรหรอกครับ เชื่อผมนะ นะคนดี...

     

     

                กลายเป็นว่าคนปลอบกับคนป่วยเป็นคนเดียวกันไปเสียอย่างนั้น เซฮุนริบเอาผ้าขนหนูออกมาจากมือเล็ก ยังคงอ้อมกอดนั้นไว้พลางวานหาเม็ดยาที่ถูกจัดใส่ในตลับมาเข้าปาก หากยังคงฝืนต่อไปร่างกายเขาคงไม่ไหวแน่ มันร้องงอแงอยากจะพักผ่อน แน่นอนว่าเขาไม่อาจไว้ใจทิ้งให้ลู่ฮานนั่งฟุ้งซ่านคิดมากคนเดียวได้ และเมื่อตัดสินใจแบบนั้นก็เหมาเอาว่าให้นอนพร้อมกันทั้งคู่ อ้อมแขนแข็งแรงตระกองกอดแน่งน้อยให้นอนเอนกายไปตามความยาวของเตียง ขับกล่อมร่างเล็กด้วยเสียงทุ้มต่ำ ถ้อยคำหวานคลายความกังวลให้ลู่ฮานได้ไม่น้อย

     

     

                เราเคยสัญญากันไว้ว่าเราจะผ่านมันไปด้วยกันไงครับ หนักกว่านี้เราก็เจอกันมาแล้วนะ กดจูบข้างขมับชื้นเหงื่อ กอบกุมมือน้อยเอาไว้แนบแน่น พรุ่งนี้ต้องดีกว่าเดิมครับ เชื่อผมนะยกแขนพากเอวคอดเอาไว้ รั้งมาใกล้จนไร้ช่องว่างใดๆ ระหว่างเรือนกาย ตอนนี้นอนนะครับคนเก่ง ผมง่วงแล้ว.. พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ หลับตาลงด้วยความอ่อนล้า ตลอดเวลาสามเดือนที่ผ่านมาเขาเหนื่อยมามากแล้ว ถึงเวลาที่ร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ จะได้ผ่อนคลายสมองสักทีหลังจากใช้งานมันมาหนักโดยตลอด พรุ่งนี้เขายังมีนัดกับพ่อแต่เช้า ไม่รู้ว่าคุณโอจีฮุนจะเอาไม้ไหนมาฟาดฟันเขาให้ยอมแพ้อีก ที่แน่ๆ คือเกมนี้ยังไม่จบ พ่อเล่นสกปรกและเขายอมรับไม่ได้ ทำเขาไม่พอใจน่ะได้แต่ทำให้ลู่ฮานร้องไห้ คนอย่างโอเซฮุนไม่มีวันยอม

     

     

     

     

                ค่ำคืนอันยาวนานผ่านไปด้วยไออุ่นของคนรัก ลู่ฮานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองหลับไปในอ้อมกอดของน้องตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แค่ว่ามันอบอุ่นและหลับสบายราวกับได้หลับอยู่ในทุ่งหญ้าที่มีแสงแดดสาดส่องตลอดเวลา แพขนตางอนยาวกะพริบถี่ ปรับโฟกัสสายตาให้ชินกับแสงได้แล้วก็เผลอวาดยิ้มน่ารัก ก่อนหลับจำได้ว่าใบหน้าของตัวเองอยู่ที่อกน้อง ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าน้องย้ายตัวลงไปนอนต่ำกว่าเสียอย่างนั้น ปลายจมูกโด่งพ่นลมหายใจร้อนรวยรินที่คาง เปลือกตาสีงาช้างปิดสนิท คงด้วยฤทธิ์ยา

     

     

                เมื่อคืนลืมปิดม่านอีกแล้ว ลู่ฮานคิด เขาอยากจะเดินไปปิดเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนน้องแต่ก็ทำไม่ได้ ท่อนแขนใหญ่ทั้งสองข้างถือโอกาสรัดเอาเอวเขาไว้เป็นที่พึ่งพิงไปเสียแล้ว มือเล็กเลื่อนทาบข้างแก้มสาก ไล่ขึ้นไปทาบวัดอุณหภูมิในร่างกายที่หน้าผากก็รู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกไปจากอก คนป่วยเมื่อคืนมีอาการดีขึ้นมากแล้ว ได้พักผ่อนไปเยอะไข้ก็บรรเทาลงไปมาก

     

     

                เดี๋ยวตื่นมาให้กินยาดักอีกหน่อยก็คงโอเคแล้ว

     

     

                ถือโอกาสตอนที่ฤทธิ์ยายังคงทำงานอยู่ยกเอาแขนของเซฮุนออกไปช้าๆ เวลาปาไปแปดโมงกว่าแล้วน้องก็ยังไม่ตื่น ลู่ฮานสะบัดหัวไล่ความง่วงงุนเล็กน้อย ค่อยๆ ลากเท้าเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ห่างจากเตียงไปไม่มาก ล้างหน้าล้างปากแปรงฟันแล้วก็หันเดินออกนอกห้อง เตรียมทำอาหารเช้าให้อย่างที่เป็นในทุกๆ วัน พลัน, เหมือนสวรรค์แกล้ง เสียงกริ่งหน้าห้องร้องบอกว่ามีแขกมาใหม่ ไอพวกเมนูอาหารที่วางแพลนไว้ในหัวจึงพาลโดนพัดหายไปหมด

     

     

                ครับ! มาแล้ว

     

     

                ย้ำอีกสองทีเร่งให้ลู่ฮานวิ่งโร่ออกไปเปิด สภาพเสื้อเชิ้ตไม่ติดกระดุมแขนกับกางเกงขาสั้นคงไม่น่าเกลียดเกินไปในยามนี้ร่างเล็กปัดผมตัวเองให้เรียบร้อยทีสองทีแล้วก็ยื่นมือออกไปปลดล็อคกลอนประตู ทันทีที่ลูกบิดถูกคลายล็อคทั้งระบบอนาล็อกและระบบอัตโนมัติ บานประตูห้องก็อ้าออกต้อนรับแขก ร่างของชายวัยกลางคนหลังบานประตูเรียกให้ลู่ฮานหน้าซีดเผือด เหมือนเลือดถูกสูบออกไปจากร่างจนหมด จะหาว่าเขาอกตัญญูก็ได้ แต่ไม่ใช่เวลานี้เลยที่เขาพร้อมจะพบคุณพ่อ

     

     

                เซฮุนตื่นหรือยังลูก

     

                แม้เสียงของท่านจะมีอำนาจ แต่ลู่ฮานก็ยังรับรู้ได้ว่ามันเต็มไปด้วยความห่วงใยของผู้เป็นพ่อ

     

     

                คุณพ่อ... เข้ามาข้างในก่อนสิครับ

     

     

                เชิญตามหน้าที่ที่ลูกหนึ่งคนพึงกระทำ แม้วันนี้จะไม่ได้ใช้นามสกุลโอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่บุญคุณที่ท่านลงแรงฟูมฟักเลี้ยงดูตัวเองมาก็ยังคงชดใช้ไม่หมด ท่านยังคงห่วงใย ให้ที่พัก ให้ข้าวให้น้ำ ไม่ได้ผลักไสแม้ลู่ฮานจะเป็นเหมือนคนที่มาดับฝันของท่าน ลูกชายคนเดียวในตระกูลมีแฟนเป็นผู้ชาย ไร้ทายาท ไร้ผู้สืบสายเลือด ตระกูลโอจะอยู่อย่างไรหากสิ้นท่านและเซฮุนไป

     

     

                เมื่อคืนน้องไม่สบายนิดหน่อยครับ ผมเลยให้ทานยาไปหลายขนาน ตอนนี้ก็เลยยังไม่ตื่น แต่เดี๋ยวจะไปปลุกให้นะครับ

     

     

                เดินตามหลังด้วยหัวใจหวาดหวั่น พ่อจะมาเอาเรื่องไหม จะทำอะไรกับน้อง ไม่อยากเลย ไม่อยากให้น้องเจ็บตัว

     

     

                ไม่ต้องกวนเซฮุนหรอก พ่อรอได้ เรากินข้าวเช้าหรือยังน่ะหืม ?

     

     

                คุณพ่อทำตัวสบายๆ กับเขาเสมอ แต่ทว่ากลับไม่เคยชินกับมันเสียที ยังเลยครับ ผมก็เพิ่งตื่นได้เมื่อครู่นี้ คุณพ่อหิวไหมครับ ผมจะทำอาหารเช้าให้ทาน ลู่ฮานมองว่าความเคารพเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยละเลยมันตั้งแต่ยังเด็ก เขาเติบโตมาพร้อมคุณแม่ จึงสนิทกับท่านมากกว่าคุณพ่อ คำพูดคำจาจึงบ่งบอกความสนิทใจอย่างเห็นได้ชัด ผู้บริหารอย่างโอจีฮุนมีมุมน่ารักๆ กับครอบครัวน้อยจนถึงน้อยมาก จัดว่าเป็นพวกขวานผ่าซากเห็นจะได้ แต่ใช่ว่าไม่แสดงออกแล้วจะไม่มีอยู่ ลึกๆ คุณพ่อเห็นครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับท่านเสมอ

     

     

                เอาสิ ขึ้นเครื่องมาตั้งแต่หัวค่ำเมื่อคืนยังไม่ได้กินอะไรเลย ขอกาแฟให้พ่อแก้วนึงด้วยนะลูก

     

     

                เกร็งจนเสียวสันหลังไปหมดแต่ใบหน้าก็ยังปั้นยิ้ม แยกตัวออกไปชงกาแฟทำอาหารเงียบๆ อยู่ในส่วนครัว เปิดโอกาสให้โอจีฮุนได้เดินสำรวจห้องพักที่ตัวเองซื้อเอาไว้ให้ลูกอย่างมีอิสระ รูปถ่ายหลายรูปภายในห้องถูกจัดใส่ไว้ในกรอบอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนใหญ่จะเป็นรูปของเซฮุนมากกว่าลู่ฮาน จีฮุนสันนิษฐานว่าคนเอามาใส่คงไม่ใช่ใครที่ไหนหากไม่ใช่บุตรบุญธรรมของเขา หลายต่อหลายมุมที่ไม่เคยเห็นในตัวลูกชายคนนี้ถูกถ่ายทอดสู่สายตาประชาชนในฐานะนายแบบ เซฮุนกำลังรุ่งเรืองแต่เขาก็มาไม่เห็นด้วยกับลูกเสีย

     

     

                ไม่ได้หรอก จะให้ลูกเดินทางชีวิตผิดๆ ไม่ได้ นายแบบได้เงินแต่ละครั้งมากก็จริงแต่ไม่มีใครรู้ว่าดาวดวงเด่นของวงการจะได้ฤกษ์ดับตอนไหน รากฐานของชีวิตจึงเป็นสิ่งที่คนเป็นพ่ออย่างเขาพึงกระทำ ความผิดทั้งหมดทั้งมวลที่ประทับตรึงแน่นในใจลูกไม่อาจย้อนเวลาไปแก้ไขได้ มันเป็นยิ่งกว่าตราบาป นึกถึงยามลูกตัดพ้อเมื่อใดหัวใจก็แทบแหลกเป็นเสี่ยงๆ

     

     

                คุณพ่อครับ ดื่มกาแฟก่อนนะครับ ผมไม่อยากให้รอนาน

     

     

                ลู่ฮานปลุกเข้าขึ้นจากภวังค์ จีฮุนหันกลับไปมองใบหน้าของอดีตลูกชายคนโตด้วยรอยยิ้มน้อยๆ รับแก้วกาแฟพร้อมคุกกี้สองชิ้นที่วางมาคู่กันบนจานรอง กลิ่นหอมของเครื่องดื่มกระทบส่วนรับกลิ่นในโพรงจมูก มือกร้านยกมันขึ้นมาจรดริมฝีปากเพื่อรับรสขมมีสเน่ห์ของเอสเปรสโซ่ ไม่นุ่ม ไม่ละมุนลิ้น ไม่เหมือนกาแฟชนิดอื่นๆ ที่มีอยู่บนโลกนี้

     

     

                รู้หรือว่าพ่อชอบเอสเปรสโซ่ ?

     

     

                ร่างเล็กส่ายหัวน้อยๆ ปฎิเสธว่าไม่ใช่ไปด้วยความสัตย์จริง ปกติน้องดื่มรสนี้ครับ... ผมชินมือไปแล้ว ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าคุณพ่อชอบ... เป็นความบังเอิญที่เหมือนเสียจนน่าตกใจ รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าของชายวัยกลางคนช้าๆ แม้จะรู้ว่ามีหลายส่วนที่ลูกเหมือนกับเขาแต่ก็ไม่คิดว่าจะเหมือนมากมายขนาดนี้

     

     

                พ่อชอบ ไม่เคยคิดว่าเซฮุนจะชอบเหมือนกัน รสดีมากเลยลูก ไม่คิดว่าเราจะทำหน้าที่บาริสต้าได้เหมือนกับเพื่อนเรา ชื่ออะไรนะ แจฮโย? หรือเปล่า ?

     

     

                ดีใจที่อย่างน้อยชีวิตลูกนอกไส้อย่างเขาก็ยังสำคัญพอที่คุณพ่อจะจดจำ ลู่ฮานวาดยิ้มสดใส พยักหน้ารับอย่างกระตือรือร้น ครับ แจฮโยเป็นบาริสต้า ทั้งเรียนทั้งทำงานด้วยกันมาตั้งนานเลยซึมซับวิชาชีพของรายนั้นมาบ้าง ดีใจจังครับที่คุณพ่อชอบ

     

     

                จีฮุนยกยิ้ม เดินนำกลับไปยังโต๊ะอาหารแล้วก็หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ จิบกาแฟและกัดคุกกี้คำเล็กเข้าปาก รสหวานของขนมอบเข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่มรสขม อาหารเช้ามื้อแรกในชีวิตเลยกระมังที่เป็นฝีมือของลูก หลังจากไม่เคยเลยที่จะอยู่ทานข้าวเช้าที่บ้าน ถึงจะมีบ้างก็เป็นอาหารฝีมือนมมีโซทั้งนั้น แม้มันจะดูเป็นสิ่งง่ายดายเหลือเกินสำหรับพาร์ทิซิเย่ร์ที่ผ่านการทำงานอย่างโชกโชน แต่ขนมง่ายๆ ชนิดนี้ก็มีความหมายกับเขามาก รสชาติของความรัก รสชาติของความรู้สึก รสชาติของครอบครัวที่สูญหายไปอย่างไม่มีวันหวนคืน

     

     

                พ่อชอบคุ...

     

     

                ชงกาแฟหรือครับคนเก่ง กลิ่นลอยไปถึงในห้องแน่ะ ร่างสูงอยู่ในสภาพอาบน้ำมาใหม่เปิดประตูเคลื่อนกายออกมาจากส่วนของห้องนอน ไม่ทันเฉลียวมองว่ามีบุรุษกลางคนใส่สูทนั่งอยู่ที่โต๊ะ พอหายเวียนหัวก็หิวเลย มีอะไรให้กินบ้างครับ ถ้าไม่มีผมกินพี่แทนนะ เหนื่อยหน่อยแต่ก็อิ่ม... เดินยิ้มกรุ้มกริ่มผ่านพ่อไป ราวกับท่านเป็นอากาศธาตุ ท่อนแขนขาวจัดโอบรัดเอวบางมาแนบกับผิวกายใต้ร่มผ้าอย่างไร้ช่องว่าง กดจูบเบาๆ ลงบนแก้มทั้งสองข้างด้วยความหมั่นเขี้ยว ลู่ฮานจิกเล็บลงบนหัวไหล่แกร่งแน่น บุ้ยใบ้ให้คนไม่รู้ความ นาน แต่ก็ยังไม่มีทีท่าที่น้องจะรู้ได้

     

     

                ขอโทษที่ต้องขัดจังหวะ แต่เผอิญว่าไม่ค่อยชอบดูบทรักของใคร สนใจหัวฉันบ้างก็ได้.

     

     

                เปิดฉากโดยโอจีฮุนที่กระแทกแก้วกาแฟลงบนจานรองถาดเสียเสร็จสรรพ ตัดบทสนทนาของคู่รักดังฉับใหญ่ แผ่อำนาจออกไปหวังจะให้โอเซฮุนได้หงอ แต่ไม่ใช่ คงคิดผิดไป ไม่ใช่สำหรับผู้ชายคนนี้ ร่างสูงไม่เคยก้มหัวให้ใครนอกจากคุณครูผู้ให้ความรู้และแม่ อีกคนหนึ่งที่เป็นกรณียกเว้นคือลู่ฮานเพราะเขาคิดว่าเขาพอใจจะสิโรราบให้ผู้ชายตัวเล็กคนนี้ เซฮุนชักหน้านิ่ง ยอมผละออกมาจากการนัวเนียคนรักในยามเช้าแต่ก็ยังตระกองกอดเอวคอดนั้นไว้

     

     

                นี่พื้นที่ส่วนตัวของผมครับ ผมจะทำอะไรก็ได้ พ่อเข้ามาเอง จะเห็นอะไรแบบนี้มันก็เป็นปกตินี่ครับ

     

     

                คนอ่อนแอจากไปแล้ว เซฮุนตั้งท่าเตรียมรบหลังจากนอนพักฟื้นมาทั้งคืนจนความกังวลใจอันตรธานไปจนหมด อีกฝ่ายหนึ่งก็ใช่ย่อย จีฮุนเห็นลูกชายตัวเองผงาดแล้วก็นึกหมั่นไส้ เป็นใครกันถึงนึกมาลองดีกับประธานสูงสุดอย่างเขา ถึงแม้จะเป็นคนในครอบครัวก็ตาม แต่สถานะที่ตัวเองประสบอยู่มันไม่ต่างอะไรกับหมูในอวยชัดๆ บางทีมันก็ต้องมีการเกรงใจกันบ้าง ใช่หรือไม่ ?

     

     

                พื้นที่ส่วนตัวของแกแต่กรรมสิทธิ์เป็นของฉัน ว่าเสียงกร้าว

     

     

                ช่วยไม่ได้ พ่อยกมันให้ผมกับลู่ฮานแล้ว ต่อปากต่อคำแสดงความก้าวร้าวอย่างไม่ปิดบัง

     

     

                ฉันจะเอาคืน

     

     

                เอาสิครับ ถ้าผมหน้าด้านไม่ออกเสียอย่าง คนแบบพ่อจะทำอะไรผมได้ ?

     

     

                เซฮุนเบาหน่อย นั่นคุณพ่อนะ ลู่ฮานขัด

     

     

                เลิกเป็นตั้งแต่เห็นงานสำคัญกว่าครอบครัวแล้วครับ

     

     

                ราวกับเข็มพันเล่มแทงเข้าที่อกคนเป็นพ่อ ความผิดครั้งนี้โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง อยากเอ่ยคำขอโทษเหลือเกิน อยากราทิฐิลงเหลือเกิน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ทำไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ

     

     

                เพราะมีลูกอย่างแกไงฉันถึงไม่อยากจะใส่ใจครอบครัว นอกกรอบ หัวรั้น ไม่เชื่อฟัง แถมยังอกตัญญู !! ”

     

     

                ถ้าการที่ผมรักใครสักคนด้วยหัวใจและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเขา ผมก็พร้อมจะถูกตราหน้าว่าอกตัญญู ดีกว่าให้ผมทนทุกข์ทรมานอยู่กับตาแก่ไร้เหตุผลที่วันๆ ให้ความสำคัญกับงานและเงินจำนวนมากที่ตายไปก็ติดไปใช้ในปรโลกไม่ได้ !!! ”

     

     

                จะมากไปแล้วนะ โอเซฮุน !!! ”

     

     

                น้อยไปด้วยซ้ำถ้าเทียบกับที่พ่อทำไว้กับผม!! ”

     

     

                หอบหายใจทั้งคู่ ด้วยความที่ไม่ยอมใครเหมือนกันมาตั้งแต่ต้นจึงเถียงกันจนหัวชนฝา เซฮุนเองก็ไม่ลดราถ้อยคำเลย แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนที่ตนอยู่ต่อล้อต่อเถียงอยู่ตรงหน้านี้คือพ่อ ความเจ็บแค้นทุกอย่างฝังใจ เหมือนตะปูที่ตอกลงไปแล้วไม่มีทางใดที่จะใช้หัวค้อนถอนมันขึ้นมา ส่วนที่ขาด ลู่ฮานเติมเต็ม ส่วนที่หาย ลู่ฮานหามาทดแทน ลู่ฮานทำทุกอย่างเพื่อเขาขนาดนี้ พ่อยังไม่เห็นความดีของคนรักของเขาอีก

     

     

                ร่างเล็กไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรเพราะตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเป็นอย่างมาก และเขาก็ไม่ได้อยู่ในสถานภาพที่สามารถพูดอะไรออกไปได้ มือน้อยทั้งสองเย็นเฉียบ สั่นเทา ริมฝีปากเล็ก ลำคอ แห้งผาก รู้สึกเหมือนตัวเล็กลงๆ เข้าไปทุกที

     

     

                ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเสียเวลาต่อล้อต่อเถียงกับแก

     

     

                ต่อบทสนทนาด้วยประโยคใหม่ เรื่องใหม่ ใจความใหม่ แต่ก็ยังไม่ราทิฐิในใจให้ลดน้อยลง จีฮุนมาที่นี่เพื่อคุยเรื่องข้อตกลงที่เคยตกลงกันไว้เมื่อสามเดือนที่แล้ว ลูกยื่นข้อเสนอว่าอยากแต่งงาน เขาก็พร้อมจะทำให้ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนกลับไปคือลูกต้องทำรายได้ให้บริษัทไม่ต่ำกว่าสามพันห้าร้อยล้านในแต่ละเดือน รวมๆ แล้วสามเดือนต้องไม่ต่ำกว่าสิบสองล้านห้าแสนวอนถ้วน แต่สุดท้ายลูกก็ทำได้ไม่ถึงที่กำหนดไว้ ยอดเดือนสุดท้ายน้อยไปด้วยซ้ำหากเทียบยอดกับนัมกียุล ประธานคนเก่าที่เคยทำเอาไว้

     

     

                จะมาเผยธาตุแท้หรือครับ ?

     

     

                ดักทางเอาไว้แม้จะยังไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าพ่อทำจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ต้องมีสักส่วนหนึ่งที่พ่อเอี่ยวด้วย เซฮุนมั่นใจในความสามารถของตัวเอง กลยุทธทางการค้า การตลาด หุ้น การวางกลไกราคา ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เขาคุ้นชินมือพอๆ กับการโพสต์ท่าหน้ากล้อง สมัยที่เรียนมหาลัยกวาดเอมาแทบทุกตัวเลยก็ว่าได้ เขาเปล่าไร้ความสามารถขนาดทำให้บริษัทล้มในเดือนที่สาม การแทรกแซงต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างผิดแผนไปเสียหมด

     

     

                โอจีฮุนตีหน้าฉงน ไม่รู้ว่าลูกพูดถึงอะไรและอะไรที่ลูกพูดถึง แกพูดถึงอะไร ?

     

     

                อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าพ่อทำอะไร ใครเป็นหนอนบ่อนไส้ และอะไรคือเหตุผลของการกระทำของพ่อ

     

     

                ชายวัยกลางคนยิ้มติดมุมปาก ดีที่ยังได้ความเฉลียวฉลาดมาบ้างลูกถึงเดาทางออก เขาเปลี่ยนท่าทางการนั่ง อย่างไรครานี้ก็ถือไพ่อยู่เหนือกว่า ยกหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบเงียบๆ

     

     

                แกรู้ ?

     

     

                ผมไม่ได้โง่

     

     

                งั้นก็น่าจะรู้ด้วยว่าฉันไม่สนับสนุนให้แกจัดงานแต่ง

     

     

                ยังไงผมก็จะแต่ง

     

     

                ฉันไม่ให้แต่ง

     

     

                ช่างพ่อสิ พ่อไม่ได้แต่งกับผมสักหน่อย

     

     

                ไหวไหล่ ทำท่าเหมืนไม่แคร์อะไรสักอย่างบนโลก หันไปยิ้มให้คนน่ารักที่ยืนแข็งเหมือนโดนปูนโปกด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่รู้สึกรู้สา เซฮุนเศร้าเป็น แต่ไม่ใช่คนจมปลัก ยิ่งรู้ว่าพ่อชักใยอยู่เบื้องหลังเช่นนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีก เขามันคนหัวแข็ง ไม่ว่าใครจะแย้งก็ขอสู้ให้หัวชนข้างฝา ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการมาก็ต้องตายกันไปสักข้าง

     

     

                แกทำตามข้อตกลงไม่ได้

     

                ดังที่กล่าวไปข้างต้น

     

     

                เพราะมันมีหนอนบ่อนไส้ของพ่อแทรกแซงการทำงานของผมไง

     

     

                ก็ถือว่าแกทำไม่ได้ ต้องขอบใจนัมกียุลที่ช่วยให้แผนนี้สำเร็จอย่างลุล่วง เขาทำงานดี แม้ยอดขายจะไม่ได้ทะลุขีดแบบแก แต่ก็เป็นผู้บริหารที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีคนหนึ่งเลยทีเดียว

     

     

                หมาลอบกัด พ่อมันก็ดีแต่ทำตัวเป็นหมาลอบกัด!! ”

     

     

                ลู่ฮานต้องใช้แรงทั้งหมดที่มีรั้งน้องไว้ เพราะหลังจากที่คุณพ่อเอ่ยประโยคดังกล่าวจบเซฮุนก็ทำท่าจะพุ่งเข้าใส่บุพการีอย่างไม่กลัวบาปกรรมกินหัว เด็กหนุ่มไม่ได้อ่อนเดียงสา แต่ทว่าเวลานี้เขาปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือการควบคุมของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว พ่อเล่นสกปรก พ่อไม่เห็นใจเขาเลย พ่อปล่อยให้เวลาเสียไปอย่างสูญเปล่าแบบนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้

     

     

                เซฮุนเดี๋ยวก่อน !! ” เสียงหวานไม่อาจห้ามให้คนเจ้าอารมณ์ใจเย็นลงได้ ทั้งฉุดทั้งตีน้องชายแต่เซฮุนก็ไม่ได้สติ เซฮุนนั่นคุณพ่อนะ !!! เซฮุนฟังพี่หน่อย !! ”

     

     

                โอ เซฮุน แกจะทำอะไรพ่อ !!!!! ”

     

     

     

                ฉาด!!

     

     

                ในเมื่อลู่ฮานทำแล้วไม่ได้ผล ก็ถึงคราที่บุพการีจะออกโรงเตือนสติบุตรด้วยตนเอง วิธีการป่าเถื่อนถูกนำมาใช้เป็นครั้งที่สอง มือคู่นั้นที่เคยอุ้ม คอยประคองลูกในวันที่ลูกล้ม คือมือคู่เดียวกันกับมือที่ยกขึ้นมาตบเซฮุนอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาสะบัดหันไปตามแรงฟาด เลือดกบปาก แก้มชาไปทั้งซีก เจ็บอะไรเขาก็ว่าไม่เท่าเจ็บใจ แต่แปลกที่เจ็บเท่าไหร่น้ำตาก็ไม่ไหลออกมาสักที มันคงชินแล้วที่โดนทำร้าย คล้ายเหมือนจะตายแต่ก็ยังคงหายใจได้

     

     

                ตบผมเลยครับพ่อ เอาตามใจพ่อเลย ผมมันชินแล้ว ชาแล้ว โดนพ่อทำร้ายมาตั้งแต่เด็ก มากกว่านี้คงไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกครับ

     

     

                แกอย่ามาท้าทายฉัน

     

     

                แลกกับการที่ให้ผมแต่งงานกับลู่ฮาน พ่อจะกระทืบผมให้จมดินยังไงก็ได้ แค่เขาที่ผมต้องการ แค่เขาที่ผมแคร์

     

     

                เซฮุนนา...ไม่...ลู่ฮานวางมือลงบนท่อนแขน ร้องไห้ น้ำตาไหล ทั้งเพราะน้องโดนตบและทั้งวาจาที่พูดราวกับว่าเขาเป็นคนที่แสนพิเศษ

     

     

                ผมอยากให้เขามีความสุข อยากเห็นรอยยิ้มของเขา ผมไม่แคร์หรอกว่าสังคมจะมองยังไง ผมรักแค่เขา แคร์แค่เขา คนอื่นจะนินทาว่าร้ายอย่างไรผมก็จะไม่รับฟัง เพราะสิ่งที่ผมรับรู้แตกต่างจากที่พวกปากหอยปากปูเอาไปพูดกัน

     

     

                แกกำลังจะสื่ออะไร

     

     

                ผมขอโอกาส อีกแค่ครั้งเดียว ขอให้เราแข่งกันอย่างขาวสะอาด ผมทำหน้าที่ของผม พ่อทำหน้าที่ของพ่อ พี่ลู่ฮานอยู่รอดูความสำเร็จ ไม่มีหนอนบ่อนไส้ ไม่มีใครมาแทรกแซง ผมจะบริหารบริษัทด้วยมือและความสามารถของผมเอง รายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว พ่ออยากได้สามพันห้าร้อยล้านผมจะทำให้มันกลายเป็นเจ็ดพันห้า มาวัดกันตัวๆ เลยว่าพ่อหรือผมที่จะชนะ ผมไม่สนใจว่าเงินจะถูกนำไปทำอะไร พ่อมีเหตุผลของพ่อแน่ เกมเก่าผมแพ้โอเคผมยอมรับ นี่เกมใหม่ ผมตั้งกฎเอง ถ้าคราวนี้ผมแพ้อีก ผมจะไม่หน้าด้านใช้นามสกุลโออีกต่อไป และจะปล่อยให้พี่ลู่ฮานเป็นอิสระจากรักครั้งนี้

     

     

                ถ้าฉันไม่ให้ ?

     

     

     

                ผมก็จะหน้าด้านทำจนได้

                .

                .

                .

                .

                .

                ถ้าอย่างนั้น....ฉันตกลง


     


     


     

    ---



     


    เล่มสองแหกละ....
    #พื้นที่อันตราย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×