ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNEXPECTED TO LOVE YOU : วิวาห์ตาลปัตร (Re-write)

    ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER II : Background...ภูมิหลัง (Upload 90 %)

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 62


    รษา เจียรวัฒนะ/ดีไซน์เนอร์
    เอ็นดูหนูด้วยนะคะ...ยิ้มบาง

    พีระก้มมองนาฬิกาหรูบนข้อมือเป็นครั้งที่สามขณะนั่งรอผู้หญิงที่ชื่อ รษามานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เป็นการเจอกันครั้งแรกที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือคนไม่ตรงต่อเวลาเพราะเวลาทุกวินาทีของเขาล้วนมีค่า และเขาก็ตั้งใจว่าถ้าอีกสิบนาทีเธอยังไม่มาเขาก็จะลุกจากโต๊ะแล้วกลับทันที ซึ่งตอนนี้เวลาก็ได้ล่วงเข้าสู่นาทีที่เก้าแล้ว

    “ขอโทษนะคะ ใช่พี่พีท ลูกชายคุณลุงชนะชัยหรือเปล่าคะ?”

    พีระมองหญิงสาวตรงหน้าที่เพิ่งเดินเข้ามาทักอย่างพินิจ จากการแต่งตัวที่ทันสมัยกับการแต่งแต้มใบหน้าด้วยเครื่องสำอางราคาแพงทำให้เธอดูสวยเฉี่ยวตามสมัยนิยม และคงเพราะความพิถีพิถันกับเรื่องพวกนี้นานเกินไปจึงทำให้เธอมาสายเอาป่านนี้

    “ครับ ส่วนคุณคงจะเป็นคุณรษา ลูกสาวคุณลุงไกรภพ”

    “ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เธอยื่นมือมาข้างหน้าเพื่อเป็นการทักทายตามทำเนียมฝรั่ง พีระจึงยื่นมือจับทักทายกลับตามมารยาท

    “ความจริงพี่พีทเรียกษาเฉยๆ ก็ได้นะคะ ไหนๆ เราก็รู้จักกันแล้ว” เธอยิ้มให้เขาอย่างไม่เก้อเขิน ถ้าเดาไม่ผิดเธอคงเป็นนักเรียนนอกหัวสมัยใหม่ที่ไม่ค่อยใส่ใจวัฒนธรรมไทยเสียเท่าไหร่ เพราะแค่การไหว้ที่คนทั่วไปน่าจะทำเป็นอันดับแรกเมื่อเจอคนอายุมากกว่ายังไม่มีให้เห็น นี่หรือคนที่พ่อเลือกจะให้เป็นสะใภ้

    “ครับ” เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินอ้อมไปเลื่อนเก้าอี้ให้เธออย่างสุภาพ

    “เชิญนั่งก่อนครับ”

    หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจเหมือนเจอคู่แข่งที่เท่าเทียมกัน พีระไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นที่เธอเคยเจอ ประเมินจากสายตาก็รู้ว่าเขาไม่ประทับใจเธอตั้งแต่แรกเพราะวันนี้เธอดันมาสาย แต่ที่สายก็เพราะห้องเสื้อของเธอมีปัญหานิดหน่อย หญิงสาวจึงต้องสะสางเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งคนอย่างรษาก็ไม่คิดจะอธิบายให้คนตรงหน้าเข้าใจเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวและค่อนข้างเสียเวลาที่เราจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น ชีวิตเธอมีเรื่องอะไรให้ทำอีกตั้งเยอะแยะ ถ้ามัวแต่มานั่งอธิบายชาตินี้ก็ไม่ต้องทำอะไรกับพอดี

    “ขอบคุณค่ะ” รษายิ้มโปรยเสน่ห์ที่ใครได้เห็นเป็นต้องติดกับทุกราย แต่ชายหนุ่มตรงหน้ากลับไม่สนใจรอยยิ้มที่พยายามปั้นแต่งอย่างเป็นธรรมชาตินั้นและปล่อยให้เธอยิ้มเก้ออยู่ฝ่ายเดียว

    แต่ก็ช่างประไร เธอต้องแคร์ด้วยหรือ ยิ่งเขานิ่งก็ยิ่งกระตุ้นให้คนที่ไม่เคยยอมใครอยากจะเอาชนะมากขึ้นไปอีก

    “เชิญสั่งอาหารได้ตามสบายนะครับ” เขาบอกอย่างสุภาพ หญิงสาวรับเมนูจากบริกรแล้วสั่งรัวเป็นชุดโดยไม่สนด้วยซ้ำว่าจะกินมันหมดหรือเปล่า ที่สำคัญเธอไม่ถามความเห็นของคนจ่ายเงินสักคำเพราะอยากรู้เหมือนกันว่าคนตรงหน้าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อเจอฤทธิ์ของเธอแบบนี้

    “พี่พีทอยากสั่งอะไรเพิ่มไหมคะ?” แต่หญิงสาวก็หันมาถามเอาตอนสุดท้ายเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรนักจึงไม่สนุกที่จะแกล้งต่อ  

    “ไม่แล้วล่ะครับ เพราะที่คุณรษาสั่งมาเราก็น่าจะทานกันไม่หมดอยู่แล้ว” เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยแถมยังเรียกชื่อเต็มเธอเหมือนเดิม นั่นก็แสดงว่าเขากำลังต่อต้านอย่างไม่ต้องสงสัย

    คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกดมุมปากลงและพยักหน้าเป็นการรับรู้

    อืม...ปากร้ายไม่เบา

    “ได้ข่าวว่าพี่พีทกำลังจะเปิดรีสอร์ทใหม่ที่ภูเก็ตเหรอคะ คุณพ่อนี่ชมใหญ่เลยว่าพี่พีทเก่งอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ ษาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพี่พีทจะเก่งอย่างที่คุณพ่อท่านอวยหรือเปล่า เลยอยากมาเจอตัวจริงเผื่อจะได้แลกเปลี่ยนทัศนะคติเกี่ยวกับการทำธุรกิจได้บ้างน่ะค่ะ” เธอเปลี่ยนเรื่องแต่ก็ไม่วายท้าทายเขาอยู่ในที ถ้านี่คือสงคราม ก็คงเป็นสงครามเย็นที่ต่างคนต่างเชือดเฉือนกันด้วยคำพูดใส่กัน

    “ครับ ถ้าคุณรษาอยากรู้ก็ลองไปดูด้วยตัวเองสิครับว่าอาณาจักรของผมยิ่งใหญ่แค่ไหน ยังไม่นับรวมกับที่ที่เรากำลังนั่งกันอยู่นี่นะครับ เพราะอีกไม่กี่วันมันจะถูกเปลี่ยนมือมาเป็นชื่อของผมแล้ว” ชายหนุ่มเริ่มตอบโต้ด้วยการท้าทายกลับบ้าง เด็กเมื่อวานซืนที่นั่งอยู่ตรงหน้าจะได้รู้ว่าที่เขามีทุกวันนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

    ถึงมันจะฟังดูน่าหมั่นไส้ไปหน่อยแต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่เขากำลังจะเทคโอเวอร์โรงแรมนี้มาเป็นของตัวเอง และที่ต้องนัดทีมของกีรติมาคุยกันวันนั้นก็เพราะเขาต้องมาตกลงทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของคนเก่าพร้อมกับผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ

    “ตายจริง! ไม่ยักรู้นะคะว่าพี่พีทสนใจลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมด้วย ษาอยากรู้จังว่าทำยังไงพี่พีทถึงได้บริหารเก่งแบบนี้ เห็นทีคงต้องขอไปศึกษาดูงานอย่างละเดียดกับเจ้าของกิจการตามคำเชิญแล้วมั้งคะ”

    คำพูดเชิญชวนของรษาไม่ได้ทำให้พีระหวั่นไหว และเขาก็รู้เจตนาดีว่าเธอกำลังท้าทายเขาอยู่เพราะแววตาที่สื่อออกมามันไม่ได้มีความเสน่หาหรือชื่นชมอย่างที่เธอพูดเลย

    “ยินดีครับ” เขายิ้มตอบเป็นมารยาท แต่ในใจคิดอะไรหญิงสาวก็สุดจะรู้ได้ ยิ่งเขาเดายากเธอก็ยิ่งสนุกที่จะเล่นเกมนี้ต่อ

    “แต่ช่วงนี้ษาค่อนข้างจะยุ่งน่ะค่ะ กำลังเตรียมเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ตอนรับฤดูกาลหน้าอยู่ ดีไซน์เนอร์ก็แบบนี้ล่ะค่ะ ไม่ค่อยได้มีเวลาพัก ว่างเมื่อไหร่ก็ชอบคิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อย” จู่ๆ เธอก็วกมาเข้าเรื่องของตัวเอง คงอยากจะอวดให้เขารู้ว่าเธอก็ไม่ได้เป็นคุณหนูอยู่แต่บ้านผลาญเงินพ่อแม่ไปวันๆ แต่ดูยังไงก็รษาเหมือนคุณหนูที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออยู่ดีเพราะแค่เรื่องเวลาเธอยังรักษาไม่ได้

    “งั้นเหรอครับ ผมก็มีเพื่อนคนนึงที่ทำงานออกแบบเหมือนกัน แต่คนละสายงานกับคุณรษา วันๆ ก็แทบจะไม่ค่อยได้พัก ขนาดวันหยุดยังต้องมาทำงานตัวเป็นเกลียว”

    พีระเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อคิดถึงคนที่กำลังพูดถึง ซึ่งการกระทำนั้นอยู่ในสายตาของรษามาตลอดจนเธออดสงสัยไม่ได้ว่าคนที่เขายกเอามาเปรียบเทียบกับเธออาจจะเป็นมากกว่าเพื่อน

    มีแฟนแล้วแล้วยังไง คนอย่างรษาจะต้องไม่เป็นตัวเลือกของใครทั้งนั้น เธอต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ และถ้าความสัมพันธ์นี้จะต้องจบลง เธอจะต้องเป็นคนปฏิเสธเขาเองเท่านั้น

    “ดูเหมือนคนคนนั้นจะเป็นคนพิเศษของพี่พีทนะคะ พูดถึงเขาแล้วดูพี่พีทมีความสุขจัง” หญิงสาวยังคงยิ้มเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรถ้าเขาจะมีแฟนแล้ว แต่ในความเป็นจริงรษาต้องการรู้ว่าคู่แข่งของเธอสมน้ำสมเนื้อพอที่จะให้เธอลงเล่นเกมนี้ด้วยหรือเปล่า

    “เปล่าหรอกครับ ผมจ้างบริษัทของเธอมาทำงานให้เฉยๆ” เขาตอบสั้นๆ เพราะการที่ยกเอาเรื่องบุคคลที่สามมาพูดคงไม่ดีเท่าไหร่

    “อืม...แล้วพี่พีทมีคนรู้ใจหรือยังคะเนี่ย มาเจอษาแบบนี้จะมีใครว่าหรือเปล่า?”

    “ถ้าตอนนี้ก็ถือว่าโสดนะครับเพราะผมยังไม่ได้แต่งงาน” เขาเลือกที่จะตอบแบบคลุมเครือเพราะถ้าบอกว่ามีคนรู้ใจแล้วเธอก็ต้องถามต่อจนเขาจนมุมแน่ๆ

    “งั้นเหรอคะ แล้วแบบนี้เรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกันไว้พี่พีทก็คงไม่ขัดข้องอะไร อุ้ย! ษาออกตัวแรงไปหรือเปล่าคะ เพราะษาเรียนเมืองนอกมานาน มีอะไรสงสัยก็ชอบถามออกมาตรงๆ” หญิงสาวยิ้มใสซื่อ มันผิดจากที่เขาเดาเสียเมื่อไหร่ ผู้หญิงอย่างรษาอ่านง่ายจะตายไป

    “ผมคิดว่าการที่เราจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างมันคงต้องใช้เวลา ซึ่งผมก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร หรือว่าคุณรษารีบครับ?” ชายหนุ่มสวนกลับได้อย่างเจ็บแสบ ทั้งสีหน้าและแววตาที่มองมามันสื่อความหมายว่าเขากำลังด่าเธอว่าน่าไม่อายและอยากได้เขาจนตัวสั่นสินะ

    ก็ได้! ถ้าจะเล่นกันแบบนี้ เตรียมตัวรับความพินาศได้เลยคุณพีระ...


    Talk : น้องคนตรงๆ เท่านั้นเอง อย่าคิดมาก ไม่ร้ายนะคะ (ยิ้มแบบมิสแกรนด์)




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×