คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER II : Background...ภูมิหลัง (Upload 90 %)
พีระก้มมองนาฬิกาหรูบนข้อมือเป็นครั้งที่สามขณะนั่งรอผู้หญิงที่ชื่อ ‘รษา’ มานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เป็นการเจอกันครั้งแรกที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือคนไม่ตรงต่อเวลาเพราะเวลาทุกวินาทีของเขาล้วนมีค่า และเขาก็ตั้งใจว่าถ้าอีกสิบนาทีเธอยังไม่มาเขาก็จะลุกจากโต๊ะแล้วกลับทันที ซึ่งตอนนี้เวลาก็ได้ล่วงเข้าสู่นาทีที่เก้าแล้ว
“ขอโทษนะคะ ใช่พี่พีท ลูกชายคุณลุงชนะชัยหรือเปล่าคะ?”
พีระมองหญิงสาวตรงหน้าที่เพิ่งเดินเข้ามาทักอย่างพินิจ
จากการแต่งตัวที่ทันสมัยกับการแต่งแต้มใบหน้าด้วยเครื่องสำอางราคาแพงทำให้เธอดูสวยเฉี่ยวตามสมัยนิยม และคงเพราะความพิถีพิถันกับเรื่องพวกนี้นานเกินไปจึงทำให้เธอมาสายเอาป่านนี้
“ครับ ส่วนคุณคงจะเป็นคุณรษา ลูกสาวคุณลุงไกรภพ”
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
เธอยื่นมือมาข้างหน้าเพื่อเป็นการทักทายตามทำเนียมฝรั่ง พีระจึงยื่นมือจับทักทายกลับตามมารยาท
“ความจริงพี่พีทเรียกษาเฉยๆ ก็ได้นะคะ ไหนๆ
เราก็รู้จักกันแล้ว” เธอยิ้มให้เขาอย่างไม่เก้อเขิน
ถ้าเดาไม่ผิดเธอคงเป็นนักเรียนนอกหัวสมัยใหม่ที่ไม่ค่อยใส่ใจวัฒนธรรมไทยเสียเท่าไหร่
เพราะแค่การไหว้ที่คนทั่วไปน่าจะทำเป็นอันดับแรกเมื่อเจอคนอายุมากกว่ายังไม่มีให้เห็น
นี่หรือคนที่พ่อเลือกจะให้เป็นสะใภ้
“ครับ” เขาตอบสั้นๆ
ก่อนจะเดินอ้อมไปเลื่อนเก้าอี้ให้เธออย่างสุภาพ
“เชิญนั่งก่อนครับ”
หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจเหมือนเจอคู่แข่งที่เท่าเทียมกัน
พีระไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นที่เธอเคยเจอ ประเมินจากสายตาก็รู้ว่าเขาไม่ประทับใจเธอตั้งแต่แรกเพราะวันนี้เธอดันมาสาย
แต่ที่สายก็เพราะห้องเสื้อของเธอมีปัญหานิดหน่อย
หญิงสาวจึงต้องสะสางเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อน
ซึ่งคนอย่างรษาก็ไม่คิดจะอธิบายให้คนตรงหน้าเข้าใจเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวและค่อนข้างเสียเวลาที่เราจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
ชีวิตเธอมีเรื่องอะไรให้ทำอีกตั้งเยอะแยะ ถ้ามัวแต่มานั่งอธิบายชาตินี้ก็ไม่ต้องทำอะไรกับพอดี
“ขอบคุณค่ะ”
รษายิ้มโปรยเสน่ห์ที่ใครได้เห็นเป็นต้องติดกับทุกราย แต่ชายหนุ่มตรงหน้ากลับไม่สนใจรอยยิ้มที่พยายามปั้นแต่งอย่างเป็นธรรมชาตินั้นและปล่อยให้เธอยิ้มเก้ออยู่ฝ่ายเดียว
แต่ก็ช่างประไร เธอต้องแคร์ด้วยหรือ
ยิ่งเขานิ่งก็ยิ่งกระตุ้นให้คนที่ไม่เคยยอมใครอยากจะเอาชนะมากขึ้นไปอีก
“เชิญสั่งอาหารได้ตามสบายนะครับ” เขาบอกอย่างสุภาพ
หญิงสาวรับเมนูจากบริกรแล้วสั่งรัวเป็นชุดโดยไม่สนด้วยซ้ำว่าจะกินมันหมดหรือเปล่า
ที่สำคัญเธอไม่ถามความเห็นของคนจ่ายเงินสักคำเพราะอยากรู้เหมือนกันว่าคนตรงหน้าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อเจอฤทธิ์ของเธอแบบนี้
“พี่พีทอยากสั่งอะไรเพิ่มไหมคะ?” แต่หญิงสาวก็หันมาถามเอาตอนสุดท้ายเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรนักจึงไม่สนุกที่จะแกล้งต่อ
“ไม่แล้วล่ะครับ
เพราะที่คุณรษาสั่งมาเราก็น่าจะทานกันไม่หมดอยู่แล้ว”
เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยแถมยังเรียกชื่อเต็มเธอเหมือนเดิม
นั่นก็แสดงว่าเขากำลังต่อต้านอย่างไม่ต้องสงสัย
คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกดมุมปากลงและพยักหน้าเป็นการรับรู้
อืม...ปากร้ายไม่เบา
“ได้ข่าวว่าพี่พีทกำลังจะเปิดรีสอร์ทใหม่ที่ภูเก็ตเหรอคะ
คุณพ่อนี่ชมใหญ่เลยว่าพี่พีทเก่งอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ ษาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพี่พีทจะเก่งอย่างที่คุณพ่อท่านอวยหรือเปล่า
เลยอยากมาเจอตัวจริงเผื่อจะได้แลกเปลี่ยนทัศนะคติเกี่ยวกับการทำธุรกิจได้บ้างน่ะค่ะ”
เธอเปลี่ยนเรื่องแต่ก็ไม่วายท้าทายเขาอยู่ในที ถ้านี่คือสงคราม
ก็คงเป็นสงครามเย็นที่ต่างคนต่างเชือดเฉือนกันด้วยคำพูดใส่กัน
“ครับ ถ้าคุณรษาอยากรู้ก็ลองไปดูด้วยตัวเองสิครับว่าอาณาจักรของผมยิ่งใหญ่แค่ไหน
ยังไม่นับรวมกับที่ที่เรากำลังนั่งกันอยู่นี่นะครับ
เพราะอีกไม่กี่วันมันจะถูกเปลี่ยนมือมาเป็นชื่อของผมแล้ว”
ชายหนุ่มเริ่มตอบโต้ด้วยการท้าทายกลับบ้าง
เด็กเมื่อวานซืนที่นั่งอยู่ตรงหน้าจะได้รู้ว่าที่เขามีทุกวันนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
ถึงมันจะฟังดูน่าหมั่นไส้ไปหน่อยแต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่เขากำลังจะเทคโอเวอร์โรงแรมนี้มาเป็นของตัวเอง
และที่ต้องนัดทีมของกีรติมาคุยกันวันนั้นก็เพราะเขาต้องมาตกลงทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของคนเก่าพร้อมกับผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ
“ตายจริง!
ไม่ยักรู้นะคะว่าพี่พีทสนใจลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมด้วย
ษาอยากรู้จังว่าทำยังไงพี่พีทถึงได้บริหารเก่งแบบนี้
เห็นทีคงต้องขอไปศึกษาดูงานอย่างละเดียดกับเจ้าของกิจการตามคำเชิญแล้วมั้งคะ”
คำพูดเชิญชวนของรษาไม่ได้ทำให้พีระหวั่นไหว
และเขาก็รู้เจตนาดีว่าเธอกำลังท้าทายเขาอยู่เพราะแววตาที่สื่อออกมามันไม่ได้มีความเสน่หาหรือชื่นชมอย่างที่เธอพูดเลย
“ยินดีครับ” เขายิ้มตอบเป็นมารยาท แต่ในใจคิดอะไรหญิงสาวก็สุดจะรู้ได้
ยิ่งเขาเดายากเธอก็ยิ่งสนุกที่จะเล่นเกมนี้ต่อ
“แต่ช่วงนี้ษาค่อนข้างจะยุ่งน่ะค่ะ กำลังเตรียมเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ตอนรับฤดูกาลหน้าอยู่
ดีไซน์เนอร์ก็แบบนี้ล่ะค่ะ ไม่ค่อยได้มีเวลาพัก ว่างเมื่อไหร่ก็ชอบคิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อย”
จู่ๆ เธอก็วกมาเข้าเรื่องของตัวเอง
คงอยากจะอวดให้เขารู้ว่าเธอก็ไม่ได้เป็นคุณหนูอยู่แต่บ้านผลาญเงินพ่อแม่ไปวันๆ
แต่ดูยังไงก็รษาเหมือนคุณหนูที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออยู่ดีเพราะแค่เรื่องเวลาเธอยังรักษาไม่ได้
“งั้นเหรอครับ ผมก็มีเพื่อนคนนึงที่ทำงานออกแบบเหมือนกัน
แต่คนละสายงานกับคุณรษา วันๆ ก็แทบจะไม่ค่อยได้พัก
ขนาดวันหยุดยังต้องมาทำงานตัวเป็นเกลียว”
พีระเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อคิดถึงคนที่กำลังพูดถึง
ซึ่งการกระทำนั้นอยู่ในสายตาของรษามาตลอดจนเธออดสงสัยไม่ได้ว่าคนที่เขายกเอามาเปรียบเทียบกับเธออาจจะเป็นมากกว่าเพื่อน
มีแฟนแล้วแล้วยังไง
คนอย่างรษาจะต้องไม่เป็นตัวเลือกของใครทั้งนั้น เธอต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ
และถ้าความสัมพันธ์นี้จะต้องจบลง เธอจะต้องเป็นคนปฏิเสธเขาเองเท่านั้น
“ดูเหมือนคนคนนั้นจะเป็นคนพิเศษของพี่พีทนะคะ พูดถึงเขาแล้วดูพี่พีทมีความสุขจัง”
หญิงสาวยังคงยิ้มเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรถ้าเขาจะมีแฟนแล้ว
แต่ในความเป็นจริงรษาต้องการรู้ว่าคู่แข่งของเธอสมน้ำสมเนื้อพอที่จะให้เธอลงเล่นเกมนี้ด้วยหรือเปล่า
“เปล่าหรอกครับ ผมจ้างบริษัทของเธอมาทำงานให้เฉยๆ”
เขาตอบสั้นๆ เพราะการที่ยกเอาเรื่องบุคคลที่สามมาพูดคงไม่ดีเท่าไหร่
“อืม...แล้วพี่พีทมีคนรู้ใจหรือยังคะเนี่ย
มาเจอษาแบบนี้จะมีใครว่าหรือเปล่า?”
“ถ้าตอนนี้ก็ถือว่าโสดนะครับเพราะผมยังไม่ได้แต่งงาน”
เขาเลือกที่จะตอบแบบคลุมเครือเพราะถ้าบอกว่ามีคนรู้ใจแล้วเธอก็ต้องถามต่อจนเขาจนมุมแน่ๆ
“งั้นเหรอคะ แล้วแบบนี้เรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกันไว้พี่พีทก็คงไม่ขัดข้องอะไร
อุ้ย! ษาออกตัวแรงไปหรือเปล่าคะ เพราะษาเรียนเมืองนอกมานาน
มีอะไรสงสัยก็ชอบถามออกมาตรงๆ” หญิงสาวยิ้มใสซื่อ มันผิดจากที่เขาเดาเสียเมื่อไหร่
ผู้หญิงอย่างรษาอ่านง่ายจะตายไป
“ผมคิดว่าการที่เราจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างมันคงต้องใช้เวลา
ซึ่งผมก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร หรือว่าคุณรษารีบครับ?” ชายหนุ่มสวนกลับได้อย่างเจ็บแสบ
ทั้งสีหน้าและแววตาที่มองมามันสื่อความหมายว่าเขากำลังด่าเธอว่าน่าไม่อายและอยากได้เขาจนตัวสั่นสินะ
ก็ได้! ถ้าจะเล่นกันแบบนี้ เตรียมตัวรับความพินาศได้เลยคุณพีระ...
Talk : น้องคนตรงๆ เท่านั้นเอง อย่าคิดมาก ไม่ร้ายนะคะ (ยิ้มแบบมิสแกรนด์)
ความคิดเห็น