คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER I : Again...อีกครั้ง (Upload 120 % END)
ขณะที่หญิงสาวกำลังเหม่อลอยมองไปยังสายฝนเบื้องหน้า
แสงไฟจากรถยนต์คนนึงก็สาดเข้ามา ก่อนที่ยานพาหนะสมรรถนะสูงจะแล่นมาจอดนิ่งสนิทพร้อมกับกระจกด้านหลังคนขับที่เลื่อนลงอย่างช้าๆ
ปรากฏให้เห็นใบหน้าคนที่นั่งอยู่ภายใน
“ยังไม่กลับอีกเหรอครับคุณกีรติ” พีระชะโงกหน้าออกมาตะโกนถามพลางมองไปที่รองเท้าในมือ
“แล้วทำไมถึงหิ้วรองเท้าไว้แบบนั้นล่ะครับ?”
“เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ แถมฝนก็ตกหนักไม่มีแท็กซี่ผ่านมาสักคันกีร์ก็เลยติดแหง็กอยู่ที่นี่”
กีรติตะโกนแข่งกับเสียงฝนแต่มันก็ดังพอจะทำให้คนในรถได้ยินชัดเจน
“งั้นขึ้นรถมาสิครับ เดี๋ยวผมไปส่ง” เขาพูดพลางเปิดประตูให้แล้วกระเถิบตัวไปนั่งหลังคนขับเพื่อให้อีกคนนั่งได้
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวบอกพลางเดินกะเผลกเข้ามานั่งในรถอย่างยากลำบาก
ขณะที่เธอกำลังก้มลงเพื่อเข้าไปนั่งในรถโดยไม่ทันระวังเสื้อเชิ้ตที่สวมอยู่ก็เปิดออกเผยให้เห็นก้อนเนื้อนุ่มนิ่มบดเบียดกันอย่างน่าอึดอัด
พีระพยายามไม่มองไปยังสิ่งล่อตานั้นแต่ก็อดที่จะชื่นชมไม่ได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ซ่อนรูปใช่เล่น
อยู่ดีๆ
พีระก็รู้สึกว่าตัวเองหื่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น หรือเขาอยากจะมีอะไรๆ เหมือนเธอ บ้าน่า! เขาไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงเสียหน่อย
ก่อนที่ความคิดจะตีกันไปมากกว่านั้น เขาจึงหันไปให้ความสนใจกับข้อเท้าของกีรติพลางก้มลงไปจับเท้าของเธอขึ้นมาดูอย่างไม่นึกรังเกียจ
“ข้อเท้าคุณเจ็บนี่ครับ ดูสิ บวมใหญ่เลย ขอผมดูหน่อยนะครับ”
เขาเอื้อมมือไปดึงขาข้างที่บวมเป่งของเธอขึ้นมาวางไว้บนตัก
แม้จะอยากชักขากลับแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเขาล็อคขาเธอไว้แน่นจนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย! ไม่เป็นไรค่ะ กีร์นวดแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย”
เธอบอกก่อนจะก้มลงไปดูคนที่กำลังทำอะไรบางอย่างกับข้อเท้าของเธอ
ประจวบเหมาะกับที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาพอดีทำให้ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่ปลายจมูกสัมผัสเท่านั้น
เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
ทั้งคู่ไม่อาจละสายตาไปจากกันได้
เหมือนมีแรงดึงดูดที่มองไม่เห็นผูกสายตาของทั้งคู่เอาไว้
ก่อนที่เสียงของคนขับจะทำให้พวกเขาผละออกจากกันโดยอัตโนมัติราวกับเป็นแม่เหล็กขั้วเดียวกัน
“ให้ไปส่งคุณผู้หญิงที่ไหนครับคุณพีท?”
“แวะร้านขายยาแล้วไปซื้อยานวดมาให้คุณผู้หญิงก่อน”
เขาหันไปตอบคนขับ ส่วนหญิงสาวก็ทำทีเสมองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างเก้อเขิน
หัวใจเธอเต้นแรงอย่างไม่อาจควบคุมได้
เพราะนอกจาก ‘คนคนนั้น’ แล้วเธอก็ไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมากขนาดนี้มาก่อนจึงทำให้เธอประหม่าเป็นพิเศษ
“ครับคุณพีท”
‘ยอด’ คนขับรถวัยกลางคนรับคำอย่างขันแข็งก่อนจะเคลื่อนรถออกจากหน้าโรงแรมตามคำสั่ง
ยอดเป็นคนขับรถประจำบ้านของพีระมานานหลายปีแล้ว ซึ่งนานๆ ทีเขาจะเรียกมาใช้งานสักครั้งที่เขาเหนื่อยจากการทำงานหรือไม่อยากขับรถเองเช่นวันนี้
“คุณพีระประชุมเสร็จเร็วเหมือนกันนะคะ กีร์ออกมารอรถแค่ชั่วโมงกว่าๆ
เอง” หญิงสาวถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบที่เริ่มปกคลุมจนรู้สึกอึดอัดทั้งที่ก่อนหน้านี้เราคุยกันถูกคอมากแท้ๆ
“ประชุมเล็กๆ น่ะครับ ผมแค่ไปแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับรีสอร์ทแห่งใหม่ให้ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ
ฟังเท่านั้นเอง”
“อ๋อค่ะ นี่ถ้าคุณพีระไม่ผ่านมากีร์ก็ไม่รู้ทำยังไงนะคะเนี่ย
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ จริงๆ
ก็เป็นความผิดของผมด้วยเหมือนกันที่นัดคุณมาที่นี่ ในวันที่คุณควรจะพักผ่อนแบบนี้”
“แค่นี้กีร์ทำเพื่อลูกค้าได้อยู่แล้วค่ะ” เธอตอบพลางยิ้มกว้างให้เขาอย่างไม่คิดอะไร
บรรยากาศจึงกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
รถยนต์แล่นมาจอดที่หน้าร้านขายยาแห่งหนึ่งไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก
ยอดซึ่งเป็นคนขับรถกำลังวิ่งฝ่าฝนไปซื้อยาตามที่เจ้านายสั่งโดยที่ทั้งสองคนนั่งรออยู่ในรถมองดูฝนที่ตกลงมาอย่างหนักโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเอาง่ายๆ
“บ้านคุณกีร์อยู่ไหนเหรอครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวกีร์ลงตรงนี้เลยก็ได้
แค่นี้ก็เกรงใจคุณพีระจะแย่” เธอยิ้มอายๆ บางทีก็นึกถึงคำพูดของพ่อที่คะยั้นคะยอให้เธอเอารถมาใช้
ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องมาเป็นภาระของคนอื่นแบบนี้
“ทำไมคุณชอบพูดว่าไม่เป็นไรอยู่เรื่อยเลยครับ
ผมแค่อยากแสดงน้ำใจต่อเพื่อนใหม่เท่านั้นเอง หรือคุณไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมแล้ว”
เขาถามหน้าเศร้าไม่มีแววความขี้เล่นหลงเหลืออยู่จนเธอรู้สึกใจเสียไปด้วย
“เปล่านะคะ เอางั้นก็ได้ค่ะ คุณพีระไปส่งกีร์ที่บ้านก็ได้”
เมื่อเขามามุขนี้เธอคงต้องยอมโอนอ่อนให้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง
อีกอย่างเธอกับเขาก็ต้องทำงานกันอีกนาน
สนิทกันไว้ก็น่าจะทำให้การทำงานง่ายขึ้นเป็นกอง
“ได้แล้วครับคุณพีท ยานวดบรรเทาปวด” ยอดยื่นถุงยาที่เพิ่งซื้อมาให้เจ้านาย พีระหยิบถุงนั้นมาพลางแกะกล่องทันทีแล้วทำท่าจะก้มลงไปทายาให้กีรติ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวกีร์ไปนวดเองที่บ้านก็ได้
มือคุณจะได้ไม่เหม็นยาด้วย” เธอชักขาหนีอีกครั้งและครั้งนี้เธอก็จะไม่ยอมให้เขาลดตัวมาทำอะไรแบบนี้ให้เธออีกแล้ว
“ถ้าไม่รีบนวดจะอักเสบมากกว่าเดิมนะครับ” เขาให้เหตุผล
“คุณช่วยกีร์มาเยอะแล้ว
คราวนี้กีร์ขอช่วยตัวเองบ้างนะคะ” เธอพูดแบบไม่ทันคิดทำเอาชายหนุ่มเลิกคิ้วพลางยิ้มมุมปาก
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ กีร์หมายถึงกีร์จัดการเองได้ค่ะ”
เธอรีบแก้ตัวเพราะรู้ว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรกับคำพูดสองแง่ของเธอ
“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ” เขายิ้มขำกับพฤติกรรมร้อนตัวของเธอก่อนจะหันไปสั่งยอดให้ขับรถไปตามที่หญิงสาวบอก
เป็นเวลานานเกือบสองชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงบ้านของกีรติ
ด้วยความที่ฝนตกหนักรถราในเมืองหลวงก็ย่อมติดขัดเป็นธรรมดา
หลังจากที่พูดคุยกับพีระได้สักพักกีรติก็ผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้าและร่างกายที่อ่อนเพลียจากการทำงานมาทั้งสัปดาห์
เธอมักจะหลับในรถเมล์เสมอถ้าทำงานตลอดเจ็ดวัน บางทีถึงขั้นหลับจนเลยบ้านตัวเองก็มี
ทันทีที่รถแล่นมาจอดหน้าบ้านที่คาดว่าจะเป็นบ้านของหญิงสาว ชายหนุ่มจึงปลุกเธอให้ตื่นเพื่อบอกว่าถึงที่หมายแล้ว
“คุณกีรติครับ ถึงบ้านแล้วครับ” เขาเขย่าแขนเธอเบาๆ
หญิงสาวกระพริบตาถี่ๆ พยายามมองทะลุกระจกรถที่เธอพิงอยู่ไปยังบ้านคุ้นตาตรงหน้า
ซึ่งตอนนี้ข้างนอกฝนหยุดตกแล้วเหลือไว้เพียงไอจางๆ เกาะบนกระจกเท่านั้น
“อืม...ถึงแล้วเหรอคะ
ขอโทษทีนะคะกีร์เพลียไปหน่อยก็เลยเผลอหลับไป” เธอบอกเสียงงัวเงีย
“ไม่เป็นไรครับ ได้พักผ่อนบ้างก็ดี ดูคุณเหนื่อยๆ
มาทั้งวันแล้ว” เขามองใบหน้าที่อิดโรยด้วยสายตาอ่อนโยนจนคนตรงหน้าทำตัวไม่ถูก
จึงได้แต่ยิ้มเจื่อนกลับไปอย่างเสียไม่ได้
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” เธอบอกพลางเปิดประตูก้าวลงจากรถ
แต่ก็ยังไม่ลืมหยิบรองเท้าที่พังแล้วของตัวเองพร้อมกับถุงยาติดมือมาด้วย
“ให้ผมช่วยพยุงคุณเข้าบ้านไหม ข้อเท้าคุณยังเจ็บอยู่เลย”
เขามองไปยังเท้าข้างหนึ่งของเธอที่เขย่งเหนือพื้นเล็กน้อย
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่ไม่กี่ก้าวเอง แค่นี้สบายมาก
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” เธอบอกก่อนจะดันประตูปิดแล้วโบกมือลา
วันนี้กีรติกล่าวขอบคุณเขากี่ครั้งแล้วชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจ
แต่เขาก็ไม่คิดรำคาญเสียงแจ้วที่กล่าวแบบนี้ซ้ำๆ เลยแม้แต่น้อย
ก่อนจากไปพีระก็เลื่อนกระจกแล้วชะโงกหน้าเพื่อบอกเรื่องสำคัญที่พึ่งนึกออกเมื่อครู่กับเธอ
“คุณกีรติครับ ผมอยากจะขอร้องอะไรคุณอย่างนึง” หญิงสาวเลิกคิ้วมองเขาอย่างสงสัยก่อนที่เขาจะเฉลยมันใประโยคต่อมา “เรื่องของผมที่คุณรู้ ผมอยากให้คุณเก็บมันไว้เป็นความลับได้ไหมครับ?”
“ได้สิคะ กีร์สัญญาค่ะ” เธอทำท่ารูดซิปปาก
“คุณไว้ใจกีร์ได้นะคะ”
“ขอบคุณนะครับ”
เมื่อรถของพีระเคลื่อนตัวออกไปไกลมากแล้ว
กีรติก็หันหลังเดินกะเผลกเข้าบ้านไปอย่างยากลำบาก
ทันทีที่เปิดประตูผู้เป็นแม่ก็ปรี่เข้ามาหาลูกสาวพลางถามด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรลูก ทำไมขาถึงบวมขนาดนั้นล่ะ?”
“ส้นรองเท้าหักน่ะค่ะแม่ ข้อเท้าก็เลยเคล็ดนิดหน่อย”
เธอวางรองเท้าไว้ในตู้แล้วเดินไปหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาสีเข้มอย่างเหนื่อยอ่อน
ก่อนจะบีบยานวดมาทาที่ข้อเท้าแล้วลงมือนวดด้วยสีหน้าเหยเก
“เดี๋ยวแม่นวดให้ดีกว่า เรานวดมันจะไปได้เรื่องอะไร”
ผู้เป็นแม่ฉวยหลอดยาจากลูกสาวแล้วจัดการนวดอย่างเบามือ “แล้วใครมาส่งล่ะนั่น แม่ได้ยินเสียงรถจอดที่หน้าบ้าน”
“ลูกค้าน่ะค่ะแม่ แต่ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันไปแล้ว
เขาเลยบังคับกีร์มาส่งถึงบ้าน” เธออมยิ้มเมื่อคิดถึงคำอ้างที่พีระใช้มาส่งเธอ
เรียกว่าบังคับก็คงไม่มากไปหรอกมั้ง
“บังคับ? เพื่อนที่ไหนเขาบังคับขู่เข็นกัน
หรือว่าเขาคิดกับเรามากกว่าเพื่อน” คนเป็นแม่ตั้งข้อสังเกต
จะมีลูกค้าสักกี่คนที่อยากเป็นเพื่อนกับลูกจ้าง แถมยังอาสามาส่งถึงบ้านอีก
“เพื่อนค่ะ ไม่มีทางพัฒนาไปเป็นอย่างอื่นได้แน่นอน”
เธอรีบตัดความหวังผู้เป็นแม่อย่างรู้ทัน เรื่องชงแม่เธอเก่งยิ่งกว่าอาแปะขาโอเลี้ยงหน้าปากซอยอีก
มีครั้งนึงเคยชงเธอกับชายนี่ตอนที่ยังไม่รู้ว่าชายนี่ชอบผู้ชายด้วย คิดแล้วก็ขนลุก!
“ก็ไม่แน่น้า...น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนได้
นับประสาอะไรกับใจคนล่ะจริงไหม?” ผู้เป็นแม่เงยหน้าขึ้นมามองลูกสาวแวบนึงก่อนจะก้มลงไปนวดต่อพลางอมยิ้ม
“แล้วทำไมไม่ชวนเขามาทานน้ำในบ้านก่อนล่ะลูก เขาอุตส่าห์มีน้ำใจมาส่งเราที่บ้าน”
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพ่อเห็นเข้าจะโดนซักยาว”
เธอทำหน้าสยองเมื่อนึกถึงสีหน้าของผู้เป็นพ่อเวลาเธอพาผู้ชายมาบ้าน
แม้แต่ชายนี่ก็เคยโดนซักจนซีดมาแล้ว
“พ่อเรานี่ก็ยังไง
ลูกสาวจะขึ้นคานอยู่แล้วยังจะหวงอยู่ได้”
“แม่ก็รู้นี่คะว่ากีร์ไม่มีความคิดเรื่องแต่งงาน”
เธอบอกเสียงอ่อน “และกีร์ก็ยังยืนยันคำเดิมค่ะ”
“เรานี่น้า หัวแข็งจริงๆ แล้วดูซิเนี่ย
ถ้าเป็นอย่างวันนี้ใครจะคอยดูแล ใครจะคอยช่วยเหลือเวลาเราลำบาก คิดดีๆ นะลูก
ถึงคราวต้องอยู่คนเดียวจริงๆ แล้วลูกจะเข้าใจในสิ่งที่แม่บอก”
กีรติไม่ได้ตอบอะไรหลังจากประโยคนั้น
ได้แต่นั่งมองคนเป็นแม่นวดเท้าให้อย่างเงียบๆ แล้วปล่อยให้สมองได้ทำงานตามความคิดเรื่อยเปื่อยของตัวเองต่อไป
Talk : หล่อดี อะไรก็ดี เสียดายไม่ดีที่มีแฟนแล้ว...
ความคิดเห็น