ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNEXPECTED TO LOVE YOU : วิวาห์ตาลปัตร (Re-write)

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER I : Again...อีกครั้ง (Upload 30 %)

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ค. 62



    สดใส กว่าใครทั้งนั้น กลิ่นหอม ฟุ้งถึงดวงจันทร์....

    กลับมาแล้วค่า...

    กีรติหรือ กีร์หญิงสาวร่างสูงชะลูดดูกระฉับกระเฉงส่งเสียงแจ้วเป็นสัญญาณบอกว่าเจ้าตัวกลับถึงบ้านแล้วพลางก้มลงถอดรองเท้าส้นสูงที่ชุ่มไปด้วยน้ำอย่างทุลักทุเล ด้วยความที่เป็นคนแขนขายาวดูเก้งก้างแต่ถ้ามองอีกมุมนึงหญิงสาวก็เป็นคนหุ่นดีมากทีเดียว  บวกกับความสูงถึง 172 เซนติเมตรทำให้เธอสามารถเป็นนางแบบได้สบายๆ ถึงหน้าตาจะไม่ได้สวยเฉียวอย่างนางแบบวิคตอเรีย ซีเคร็ท แต่เธอก็ดูสวยในแบบฉบับสาวหมวยอินเตอร์ที่มีรอยยิ้มพิมพ์ใจจนใครๆ ก็ต้องหลงรักอย่างแน่นอน

    กลับมาแล้วเหรอลูก ดูซิ ตัวเปียกมาเชียว แม่บอกแล้วว่าให้เอารถไปใช้ก็ไม่เชื่อ

    วิไลหรือ ดร.วิไล ศักดิ์ไพบูรณ์ผู้เป็นมารดาเดินเข้ามาพร้อมกับผ้าขนหนูในมือก่อนจะเข็ดผมให้ลูกสาวด้วยความเอ็นดู

    ก็รถมันติดนี่คะแม่ กีร์ว่านั่งรถเมล์สะดวกกว่าตั้งเยอะเธอกล่าวก่อนจะฉวยผ้าขนหนูไปเช็ดผมด้วยตัวเองพลางเดินเข้ามาในบ้าน แล้วพ่อล่ะคะ?

    พ่อเขากำลังเช็ดตัวให้ไทเกอร์อยู่ในครัวแน่ะ แอบไปเล่นน้ำฝนซะตัวเปียกโชกเลย

    คนเป็นแม่กำลังกล่าวถึงไทเกอร์สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่กีรติเลี้ยงไว้ตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ จนตอนนี้ตัวมันโตและสูงเกือบเท่าต้นขาของเธอเสียแล้ว เจ้าสุนัขตัวนี้มักชอบแอบไปเล่นน้ำฝนจนเธอปวดหัวที่ต้องมานั่งเช็ดขนให้ประจำแต่ถ้าวันไหนที่มีฟ้าร้องหรือฟ้าผ่ามันจะเอาแต่มุดอยู่ใต้โต๊ะกินข้าวไม่ยอมออกมาจนกว่าฝนจะหยุด

    นึกแล้วเชียวว่าต้องออกไปเล่นน้ำจนได้ งั้นกีร์ขอไปดูมันหน่อยนะคะเธอถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่คลุมตัววางไว้บนเก้าอี้ไม้ในห้องรับแขกก่อนจะเดินเข้าไปในครัวและพบว่าเจ้าตัวแสบกำลังถูกพ่อของเธอจับนอนหงายแล้วเช็ดขนให้อย่างเมามันซึ่งดูเหมือนว่ามันก็ชอบให้คนเกาพุงให้อยู่ไม่น้อย

    สวัสดีค่ะพ่อ ว่าไงเจ้าตัวแสบ ขนยุ่งเชียวนะกีรติยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อก่อนจะยื่นมือไปยีหัวเจ้าสุนัขตัวโปรดอย่างมันเขี้ยว

    ทำไมไม่โทร. ให้พ่อไปรับล่ะลูก ฝนตกหนักขนาดนี้มันอันตรายนะ พ่อให้รถไปใช้ก็ไม่เอา พ่อเองก็ไม่ได้ใช้มันแล้ว จอดทิ้งไว้ก็เสียเปล่าๆ

    เกียรติหรือ ดร.เกียรติ ศักดิ์ไพบูรณ์อดีตอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกับภรรยาบ่นลูกสาวเป็นครั้งที่ร้อยแล้วเรื่องให้เอารถเก่าของตนไปใช้แต่ก็ได้รับคำตอนเช่นเดิมกลับมาเสมอ

    หลังจากส่งลูกสาวทั้งสองคนเรียนจบและเป็นฝั่งเป็นฝาไปหนึ่งคน เขาและภรรยาก็ลาออกจากการเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งตามคำขอของลูกสาวเพราะอยากให้พ่อกับแม่พักและใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ด้วยกัน รถโฟล์กสีครีมรุ่นเก่าที่ใช้ขับไปทำงานประจำจึงถูกจอดทิ้งไว้ในโรงรถอย่างเงียบเหงา ครั้นจะซื้อรถคันใหม่ให้ลูกสาวคนเล็กสักคันก็บอกว่ายังไม่อยากได้ คนเป็นพ่อก็ได้แต่บ่นอย่างเหนื่อยใจกับความรั้นของลูกสาวมาตลอด

    พูดเหมือนแม่เปี๊ยบเลยนะคะ แต่กีร์ก็ยังยืนยันคำเดิมว่ารถเมล์และเอ็มอาร์ทีสะดวกกว่าอยู่ดี ใช่ไหมไทเกอร์?เธอหันไปพูดกับสุนัขตัวโปรดอย่างอารมณ์ดี

    กีร์ นี่เสื้อใครน่ะลูกวิไลเดินตามเข้ามาในครัวพลางชูเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวตัวโคร่งที่ดูยังไงก็ไม่น่าใช่ของลูกสาวในมือขึ้นมา

    อ๋อ มีคนให้ยืมน่ะค่ะ เค้าเห็นกีร์ตัวเปียกก็เลยให้มาคลุมไว้

    พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็ทำให้กีรติอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายใบหน้าคมสันคมสันติดไปทางเชื้อสายจีนนิดๆ ที่ให้เสื้อเธอมาวันนี้จะเป็นเกย์ ไม่น่าล่ะถึงดูสนิทสนมกับหนุ่มตี๋ดูสะอาดสะอ้านอีกคนจนผิดปกติ แถมยังกระซิบกระซาบกันใกล้ชิดเกินเพื่อนไปอีก ทำไมตอนแรกถึงไม่นึกเอะใจบ้างเลยนะ

    แหม...ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะ หนุ่มที่ไหนให้มาล่ะเนี่ยผู้เป็นแม่แซว ทำเอากีรติหลุดขำออกมาครืนใหญ่

    หนุ่มที่ไหนกันล่ะคะแม่ สาวล่ะสิไม่ว่า ทีแรกกีร์ก็นึกว่าจะมาลวนลาม ที่ไหนได้เป็นคู่เกย์ซะงั้น เขาเห็นกีร์จะข้ามถนนก็เลยอาสาจะพาข้าม แต่พอกีร์บอกว่าไม่ข้ามแล้วจะเดินหนีไปทางอื่นผู้ชายอีกคนก็บอกให้เขาถอดเสื้อให้กีร์มาคลุมนี่ล่ะค่ะ ดีนะคะที่ไม่ได้โวยวาย ไม่งั้นอายเขาแย่เลยพูดอีกก็นึกขำตัวเองไม่หาย ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเธอโวยวายไปตอนนั้นจะหน้าแตกยับเยินแค่ไหน

    ถึงว่าสิ ลูกสาวแม่ถึงได้โสดมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะพวกผู้ชายหันไปอนุรักษ์พันธุ์ไม้เดียวกันนี่เองนี่เอง นี่ก็ปาเข้าไปสามสิบแล้วยังตามพี่สาวเราไม่ทันเลยผู้เป็นแม่แซ็ว

    แต่ไม่เกี่ยวกับพ่อนะแม่ พ่อยังชอบสาวๆ อยู่ โดยเฉพาะสาวสวยอย่างแม่เนี่ย ถูกใจพ่อนักผู้เป็นพ่อแอบหยิกแก้มภรรยาอย่างหยอกล้อจนคนเป็นลูกที่เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เล็กจนโตยังอดเขินแทนไม่ได้

    “โอ๊ย เห็นใจคนโสดกันบ้างไหมคะ” เธอแกล้งโวย

    พ่อว่าอยู่แบบนี้ก็ดีนะลูก การงานเราก็มั่นคง หาเลี้ยงตัวเองก็ได้ ไม่เห็นต้องพึ่งผู้ชายตัวใหญ่ๆ เลยจริงไหม?” คนเป็นพ่อแนะ ไม่แปลกหรอกที่เกียรติจะบอกแบบนั้นเพราะเขาขึ้นชื่อว่าเป็นคุณพ่อที่หวงลูกสาวมาแต่ไหนแต่ไร กว่าคนพี่จะออกเรือนได้ก็เล่นเอาเกือบได้ตัดพ่อตัดลูกกันไปข้าง

    จริงค่ะพ่อ กีร์ไม่เห็นต้องง้อผู้ชายเลย ในเมื่อกีร์มีครอบครัวที่น่ารักแบบนี้กีรติเดินเข้าไปแทรกกลางพลางก้มลงหอมแก้มผู้เป็นพ่อและแม่ฟอดใหญ่

    มันจะลำบากเอาตอนแก่สิไม่ว่า พอไม่มีพ่อแม่แล้ว ไปใครจะดูแลลูกหึ๊?” วิไลทำสีหน้าจริงจัง เธอพยายามเกลี่ยกล่อมลูกสาวคนเล็กหลายต่อหลายหนว่าให้คิดเรื่องการมีครอบครัวได้แล้ว แต่กีรติก็ยังยืนยันคำเดิมว่ายังไงชาตินี้ก็จะไม่ยอมแต่งงานออกเรือนไปไหนจะอยู่เกาะพ่อกับแม่ไปจนตลอดชีวิต ใครๆ ก็ว่าเธอกลัวการมีครอบครัวหรือมีความรัก แต่ใครจะรู้ว่าเหตุผลที่เธอไม่ยอมลงจากคานนั้นคืออะไรนอกจากตัวเธอเอง

    ไม่เอาสิคะแม่ เราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะคะ ไม่ดีหรือไงคะที่กีร์อยู่กับพ่อแม่แบบนี้ เอาเป็นว่ากีร์ขอตัวไปอาบน้ำก่อนดีกว่าเนอะ รักพ่อแม่นะคะเธอยื่นมือไปหยิบเสื้อจากมือผู้เป็นแม่ก่อนจะก้มลงหอมแก้มทั้งคู่อีกครั้งแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องอย่างรวดเร็ว

    เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ที่ไรกีรติจะเป็นแบบนี้เสมอ เธอไม่เคยยอมรับและไม่อยากจะยอมรับว่าบางทีก็กลัวกับการที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวในภายภาคหน้า แต่ตอนนี้มันเลยจุดที่จะมองหาคู่ชีวิตไปแล้ว ถ้าต้องให้เลือก เธอขอเลือกที่จะอยู่คนเดียวจะดีกว่า

    เช้าวันรุ่งขึ้น

    ขายาวก้าวเท้าลงจากบันไดพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดดูเบอร์ลูกค้าที่จะต้องไปพบเพื่อพรีเซนต์งานในเช้าวันนี้ หญิงสาวพยายามติดต่อลูกค้าอยู่หลายครั้งเพื่อคอนเฟิร์มสถานที่ที่เลขาทางนั้นแจ้งมาแต่ก็ไม่มีใครรับสายเสียที

    วันหยุดยังต้องไปทำงานอีกเหรอลูก?วิไลที่นั่งถักนิตติ้งอยู่ตรงโซฟาร้องถามเมื่อเห็นท่าทางรีบร้อนของลูกสาวในเช้าวันอาทิตย์ที่ควรจะเป็นวันหยุดแบบนี้

    ก็กีร์เป็นหัวหน้างานนี่คะ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวจะดูไม่น่าเชื่อถือเอาหญิงสาวเดินลงบันไดขั้นสุดท้ายพลางกดต่อสายไปยังลูกค้าคนเดิมอีกครั้ง

    สวัสดีครับ

    น้ำเสียงทุ้มตอบรับกลับมาจากปลายสาย หญิงสาวนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจเพราะนี่เป็นสายที่ห้าแล้วที่เธอติดต่อไปแต่คนปลายสายเพิ่งจะมารับเอาป่านนี้

    สวัสดีค่ะ ดิฉันกีรติเป็นครีเอทีฟจากบริษัทฟ็อกซ์ซี่ครีเอทโปรดักชั่นนะคะ คือว่ากีร์จะโทร. มาคอนเฟิร์มเรื่องสถานที่ที่จะพรีเซนต์งานวันนี้น่ะค่ะ ตกลงเป็นโรงแรมการ์เดนแกรนด์ใช่ไหมคะ?”

    ครับ เขาตอบเพียงสั้นๆ ไม่มีแม้คำอธิบายว่าทำไมถึงให้เธอต่อสายอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีคนรับสาย ซึ่งโดยปกติแล้วก็ควรเป็นเช่นนั้น

    อ๋อค่ะ ขอโทษที่โทรมารบกวนเวลานะคะเธอบอกตามมารยาท ถึงเธอจะมีอคติอยู่บ้างแต่ยังไงเขาก็เป็นลูกค้า

    “ครับ”

    คราวนี้เธอถึงกับกลอกตาขึ้นบน เหอะ! ‘ครับ...พูดได้คำเดียวหรือยังไง

    “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูก” เมื่อเห็นลูกสาวทำสีหน้าบอกบุญไม่รับวิไลจึงได้ถาม

    “เปล่าหรอกค่ะ กีร์ไปทำงานก่อนนะคะ” เธอบอกปัด ด้วยความที่มีแม่เป็นอาจารย์ถ้ารู้ว่าเธอทำกิริยาแบบนี้ลับหลังลูกค้าคงโดนบ่นยาวเหยียด

    ไม่ทานข้าวเช้าก่อนเหรอลูกผู้เป็นแม่ร้องถามไล่หลัง

    วันนี้กีร์รีบน่ะค่ะแม่หญิงสาวเอ่ยพลางก้มลงสวมรองเท้าส้นสูงคู่ใจที่ตากพัดลมจนแห้งสนิทแล้วและออกไปอย่างรีบร้อน

    ความจริงเธอมีเวลาให้เลทอีกตั้งยี่สิบนาทีแต่ยังไงก็ต้องไปให้ตรงเวลาเพราะมันแสดงถึงความรับผิดชอบและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง  


    Talk : อ๊ะๆ ใครกันนะที่เป็นลูกค้าของเจ้เขา จะเป็นคนที่เราเดาไว้หรือเปล่า ?

              ตามกันต่อพรุ่งนี้นะคะ อาจจะมาดึกหน่อย แบบ...ดึกมากกกกก เด้อ นอนก่อนได้เลย


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×