Just us [BrightGulf]
.... กอดแน่นแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องปล่อย ฝันดีแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องตื่น ....
ผู้เข้าชมรวม
1,008
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ไอ้ไบร์ท จอดให้กูลงซื้อบุหรี่ก่อน”
เด็กหนุ่มร่างหนาบอกให้วชิรวิชญ์หยุดรถ ก่อนที่จะเปิดประตูแล้ววิ่งฝ่าเม็ดฝนที่กำลังตกอย่างบ้าคลั่งเพื่อเข้าร้านสะดวกซื้อ
“มึงขึ้นไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป”
สิ้นเสียงตะโกนแข่งกับสายฝนที่กำลังตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาของจอมทัพเพื่อนสนิทสมัยเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมบอกให้เขาไม่ต้องรอมันซื้อของจนเสร็จ วชิรวิชญ์เหยียบคันเร่งตะบึงรถคันงามพุ่งเข้าลานกว้างใต้คอนโดหรูใจกลางเมืองเพื่อจอดมันไว้ในช่องประจำอย่างไม่รอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เกือบจะตีสามแล้วที่ผิดเวลานัดไปหลายชั่วโมงเพราะอยู่เลี้ยงฉลองกันหนักกับชัยชนะของฟุตบอลคู่สำคัญของลีกอังกฤษ ทีมเชลซีแพ้คาบ้านตัวเองให้กับทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างหมดรูป สร้างความประทับใจจนอดใจไม่ไหวที่จะอยู่สังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยที่เขายังเป็นนักฟุตบอลประจำโรงเรียนทีมเดียวกับพวกมันเมื่อหลายปีก่อน
“พี่ไบร์ท นายรออยู่ครับ”
“อืม ขอบใจ”
ความหวังดีของเด็กรุ่นน้องวัยห่างกันไม่ถึงสองปีผู้มีหน้าที่เฝ้าลานจอดชั้นพิเศษ เร่งให้คนที่กำลังคว้าเป้ใบใหญ่ขึ้นสะพายหลังรีบก้าวขายาวออกจากตัวรถ ปรกติไม่เกินเที่ยงคืนของทุกวันศุกร์ เขาและจอมทัพจะต้องมาถึงที่คอนโดนี้นานแล้ว ไม่ต้องคิดเลยการมาล่าช้าขนาดนี้ จะสร้างความไม่พอใจให้ผู้เป็นนายขนาดไหน
..............................................................
“ไม่รักษาเวลาเลยนะมึง”
น้ำเสียงแข็งกร้าวที่พร้อมจะดุด่าทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเหลวไหล
ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรไม่ใช่เรื่องดีเลยที่จะให้คนตรงหน้าเกิดความไม่พอใจ หากมือหนาที่ยกขึ้นโบกไปมาอย่างไม่ถือโกรธออกจะรำคาญมากกว่าทำให้โล่งใจขึ้น นายก็เป็นอีกคนที่คงกำลังอารมณ์ดีไม่แพ้กัน
ทีมโปรดของเราคว้าชัยชนะให้ได้ชื่นหัวใจในค่ำคืนเมื่อวาน
“ไอ้จอมทัพไปไหน ทำไมมาคนเดียว”
“มันซื้อบุหรี่อยู่ข้างล่าง นี่ครับ”
ถุงกระดาษสีน้ำตาลหนักๆ ขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานสามถุงถูกหยิบออกมาจากเป้ใบใหญ่เพื่อยื่นให้ผู้มีอำนาจในวงการธุรกิจสีเทา ในนั้นคือเม็ดเงินจากการทายผลแพ้ -
ชนะของฟุตบอลหลายคู่
รวมทั้งแมตซ์ที่เขาภูมิใจในชัยชนะนักหนา
ใช่!! เขาเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจสีเทาของผู้ที่เป็นทั้งนายและรุ่นพี่ร่วมสถาบันศึกษาเดียวกันเมื่อแปดปีก่อน มาสุผู้มีเบื้องหลังการครอบครองธุรกิจผิดกฎหมายเกือบทุกรูปแบบ
“พี่ไม่นับก่อนเหรอ”
“กูเคยนับเงินที่มึงถือมาหรือวะ” เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ เหมือนแหย่เสือให้หงุดหงิดเล่น
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ามาสุรักเขาเหมือนน้องชายมากแค่ไหน เขาที่เคยเอาตัวเองรับคมมีดจากคู่อริที่ไม่ถูกกัน จนต้องนอนให้เลือดให้น้ำเกลือดูอาการอยู่ในห้องไอซียูเป็นสัปดาห์ หลังจากนั้นไม่นานไม่ว่าใครที่อยู่ในอาณาจักรของมาสุ เมื่อได้สบตาเขาก็เหมือนเห็นผู้เป็นนายมายืนแผ่อำนาจอยู่ตรงหน้า
“มึงกลับไปได้เลย”
ร่างโปร่งอดแปลกใจไม่ได้ คนมีอำนาจไม่แม้แต่จะยื่นมือมารับเหมือนทุกครั้ง
กลับชี้นิ้วให้ส่งซองหนากับผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวด้านซ้ายมือของห้อง
มิหนำซ้ำยังออกปากไล่ให้กลับทันทีทั้งที่ปกติอยู่คุยลากยาวกันไปจนเกือบเช้า
หรือหลายครั้งก็เป็นเช้าวันจันทร์กว่าเขาจะย่างก้าวออกจากห้องนี้
“มึงรอรับโทรศัพท์กู”
มือใหญ่ที่กำลังส่งซองกระดาษให้คนร่างยักษ์ที่เปรียบเสมือนเป็นองครักษ์และมือขวาของมาสุชะงักไปแค่เพียงนิดเดียว ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่เขาเพิ่งสังเกตว่าตั้งแต่เดินเข้ามา มาสุยังไม่ละสายตาจากจอใหญ่ในมือขึ้นมามองหน้ากันเลยสักครั้ง
เป็นสิ่งที่วชิรวิชญ์ไม่ชอบ
“อืม”
เสียงเตือนฟังดูหงุดหงิดของยักษ์ใหญ่ร่างดำที่ยื่นมือรอรับซองกระดาษดึงสติเขาให้กลับมา เด็กหนุ่มส่งซองกระดาษที่มีราคาพร้อมสายตาที่เป็นคำถามไปพร้อมกัน และแน่นอนมีเพียงดวงตาแสดงความดุดันกับใบหน้าที่ดุเหี้ยมส่ายหน้าเล็กน้อยส่งกลับมา สัญญาณเตือนที่บ่งบอกให้เขารู้ตัวว่าไม่ควรไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของผู้เป็นนาย
เป็นอีกครั้งที่เขายังคงไม่สามารถบังคับสายตาไม่ให้หันกลับไปมองคนที่กำลังสนใจอะไรบางอย่างในโทรศัพท์เครื่องใหญ่ได้ เขาเพิ่งเห็นสีหน้าคมหล่อแต่ดุเหี้ยมของมาสุ ว่ากำลังจดจ่อกับอะไรอย่างจริงจังในกรอบสี่เหลี่ยมนั้น อะไรบางอย่างที่ถูกส่งมาอาจจะเป็นรูปถ่ายหรือคลิปของสินค้าที่สามารถสร้างความพึงพอใจได้เป็นอย่างมากเพื่อแลกกับผลประโยชน์ตอบแทนที่น่าจะมากโข คืนนี้จะเป็นอะไรที่ถูกส่งมาสิ่งผิดกฎหมายที่เกินกว่าคำว่าธุรกิจสีเทา
ยาเสพติด อาวุธสงคราม
หรือแรงงานมนุษย์!!
เสียงเคาะประตูเป็นสัญญาณก่อนลูกน้องของมาสุจะเปิดออกเพื่อต้อนรับคนมาใหม่ เป็นเพื่อนสนิทของเขาที่คงรีบวิ่งขึ้นมาเพราะอาการเหนื่อยหอบยังมีให้เห็น
“ไอ้จอม”
สภาพของจอมทัพไม่ต่างอะไรกับหมาบ้าตกน้ำ เขาไม่อยากคิดถึงรถคันงามสีเขียวสะท้อนแสงที่จอดอยู่ข้างล่างจะเปียกเปื้อนขนาดไหนเพราะต้องขับรถวนไปส่งมันกลับคอนโด ก่อนที่เขาจะขับกลับคอนโดตัวเองที่ห่างไปอีกเกือบชั่วโมง
“เออ กูขอโทษ....”
“พวกมึงออกไปด่ากันข้างนอกเลย ไปมึงกลับกันไปได้แล้ว”
ก่อนข้อโต้เถียงเรื่องความเปียกปอนของจอมทัพระหว่างเขาและมันจะเกิดขึ้น สินค้าคงกำลังถูกส่งมาไว้ที่ไหนสักแห่งอีกไม่นาน เป็นอีกครั้งที่พวกเขาถูกเร่งให้ออกไปจากห้องนี้ และเป็นอีกครั้งที่มาสุยังคงไม่ละสายตาจากโทรศัพท์จอใหญ่ในมือ
ช่างมันเป็นไร
มันไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่แล้ว
..............................................................
“มึงไปทำอะไรมาวะ
ทำไมเปียกขนาดนี้
กูไม่ได้ปล่อยมึงลงไปเดินตากฝนสักหน่อย”
“ส่งมาสักทีซิวะกูหนาว
มึงก็บ่นจังหอนเป็นหมาตัวเมียเลยนะมึง”
ผ้าขนหนูผืนเล็กพร้อมเสื้อยืดสีดำจากเบาะหลังถูกรวบอย่างลวกๆ
ก่อนที่เจ้าของจะปาใส่หน้าจอมทัพอย่างแรงและเร็วจนเกือบรับแทบไม่ได้ เขาหัวเราะขำเพราะรู้ดีว่าทำไมไอ้เพื่อนคนนี้ถึงหัวเสีย
ในเมื่อเป็นที่รู้กันว่ามันรักรถคันนี้มากแค่ไหน
รถสปอตร์ราคาแพงระยับเกินกว่าที่เด็กหนุ่มเพียงอายุยี่สิบสองปีทั่วไปจะมีไว้ครอบครอง แต่ไม่ใช่คนอย่างวชิรวิชญ์ที่จะมีมันไว้เป็นสมบัติไม่ได้ ค่าตอบแทนจากน้ำพักน้ำแรงของการทำงานให้มาสุตลอดระยะเวลากว่าสี่ปี ทำให้มีทั้งบ้านหลังใหญ่ให้พ่อแม่และน้องสาวคนเดียวได้พักอาศัย มีคอนโดหรูราคาเป็นล้านไว้ให้ตัวเองได้ซุกหัวนอนในทุกคืน
มีเงินติดตัวในบัญชีไว้ใช้สอยส่วนตัวเป็นสิบล้าน แล้วนับประสาอะไรกับรถคันงามราคาไม่กี่ล้านบาท
เหนือสิ่งอื่นใดมันไม่ได้มีดีแค่ความร่ำรวยผิดปกติ เหมือนสวรรค์เทความรักให้ผู้ชายอย่างวชิรวิชญ์ไปทั้งหมด ด้วยรูปร่างสูงโปร่งลักษณะแบบชายแท้ๆ
ผิวเนื้อที่ออกไปทางคนขาวแต่ไม่ละเอียดเนียนจนเกินความเป็นชาย หน้าตาหล่อเข้มกับบุคลิกภาพที่ดูดีมีชาติตระกูล
ดูเป็นลูกคุณหนูเพราะมีเลือดเสี้ยวเชื้อฝรั่งของผู้เป็นพ่อ ที่สำคัญดวงตาดุคมที่สามารถสะกดใจสาวน้อยสาวใหญ่จนพากันอยากจะเป็นตัวจริงของมัน
หล่อฉิบหาย!!
“เร็ว
กูง่วงแล้ว
พรุ่งนี้กูว่าจะกลับบ้าน”
“กูไปด้วย”
แค่บอกจะไปด้วยสายตาคมกริบเหมือนมีดโกนก็ถูกส่งมาให้จอมทัพจนเสียวสันหลัง พี่ชายอะไรหวงน้องสาวอย่างกับลูกในไส้ ไม่ต้องต่อปากต่อคำอะไรมากไปกว่านี้เจ้าของรถหรูเหยียบคันเร่งพร้อมออกตัวทันที
โดยไม่รอให้เพื่อนรักก้าวขาขึ้นมานั่งให้เรียบร้อย เสียงเร่งเครื่องยนต์ดังลั่นไปทั่วลานจอดรถใต้คอนโดยามดึกสงัดอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร ไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยคนไหนคิดจะเข้ามาตักเตือนหรือต่อว่ากับพฤติกรรมที่ไม่สมควรทำในสังคมของการอยู่ร่วมกันเลยสักคน
ไม่มีใครอยากมีปัญหากับคนของมาสุ
..............................................................
“เจอกันมึง
ขับรถดีดี”
แรงสั่นของโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าทำให้จอมทัพรีบล้วงมันขึ้นมารับสายโดยเร็ว ด้วยรู้ว่ามีแค่คนเดียวเท่านั้นที่กล้าโทรหาในเวลาดึกขนาดนี้ วชิรวิชญ์เองก็รู้ดีเช่นเดียวกันว่าคนที่โทรมาหาเพื่อนของเขาตอนนี้คือใคร บทสนทนาในการร่ำลาจึงไม่ยืดเยื้อให้มากความ รถคันงามจึงถูกผู้เป็นเจ้าของเร่งเครื่องออกไปจากคอนโดของจอมทัพแทบจะในทันทีที่เห็นเพื่อนรับสาย
“ครับพี่ แยกกันแล้วครับ แต่พี่ครับ ผม....ได้ครับ”
แรงพ่นลมหายใจที่หนักอึ้งในอกไม่ได้ทำให้ความรู้สึกที่อึดอัดของจอมทัพเบาบางลงไปสักนิด สีหน้าเคร่งเครียดพร้อมคิ้วหนาที่ค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นคลิปของสำคัญที่กำลังจะถูกส่งมาโดยให้เขาเป็นคนไปรับในวันพรุ่งนี้ ของสำคัญในคลิปเห็นชัดเจนจนทำให้แรงจับโทรศัพท์ยิ่งกำแน่น ความไม่เต็มใจในสิ่งที่กำลังจะต้องทำสร้างความสับสนจนไม่อยากรับงานชิ้นนี้ แต่เพราะมันเป็นคำสั่งของมาสุ เพราะมันคือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ต่อให้ความรู้สึกไม่ดีแค่ไหนเขาก็ต้องทำให้สำเร็จ
..............................................................
“หิวข้าวฉิบหาย”
เกือบหกชั่วโมงที่ วชิรวิชญ์ซุกตัวเองอยู่ในความอบอุ่นของผ้าห่มผืนหนา เครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบเสียงเบาที่ถูกเปิดตลอดเวลาถ้ามีเขาอยู่ในห้องนอนใหญ่โดยไม่สนใจสภาวะโลกร้อนโลกแตกอะไรทั้งสิ้น
อาการประท้วงในช่องท้องเริ่มมีมากขึ้นด้วยไม่มีอาหารตกถึงกระเพาะตั้งแต่เมื่อคืน มีเพียงน้ำเมาสีทองไม่กี่แก้วกับกลับแกล้มรสชาติดีเพียงไม่กี่คำไม่ทำให้เขาอิ่มท้องจนความหิวเริ่มครอบงำ มือใหญ่ควานหาเครื่องมือสื่อสารบนเตียงนอนกว้างและไม่นานมันก็เข้ามาอยู่ในมือ
นิ้วยาวกดเบอร์โทร.อัตโนมัติแค่ครั้งเดียว
เพียงไม่กี่อึดใจก็ได้ยินเสียงหวานที่เขาคุ้นเคย
“สวัสดีค่ะ
ต้องการเรียนสายกับใครคะ”
“ต้องการเรียนสายกับใครดีน้า”
“พี่ไบร์ท บีมคิดถึงพี่จังเลย”
“พี่ก็คิดถึง....เดี๋ยวค่ำนี้เจอกัน บอกพ่อกับแม่ว่าพี่จะไปกินข้าวมื้อเย็นด้วย”
..............................................................
“มึงจะไปบ้านกูหรือเปล่า”
ถึงจะหวงน้องสาวคนเดียวมากแค่ไหน เขารู้ดีจอมทัพไม่เคยคิดไม่ซื่อกับน้องสาวของเขา มันก็แค่พูดจาเย้าแหย่กวนประสาทไปอย่างนั้น เพราะในความเป็นจริงมันก็รักและห่วงใยน้องสาวของเขามากเช่นกัน
“กูมีงานต้องไปทำ
เดี๋ยวเจอกันที่คอนโดพี่มาสุเลยมึง”
“งานอะไรของมึงวะ
ทำไมกูไม่รู้เรื่อง”
เหมือนได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆ
ของมันเล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์
“งานด่วนมึง คนที่เขามีบุญคุณกับกูไว้ใจแค่กูคนเดียว ฝากกราบพ่อกับแม่ฝากความคิดถึงน้องมึงด้วย แล้วเจอกันมึง”
“เออ ไว้เจอกัน”
ถึงเสียงถอนหายใจของเพื่อนรักยังคงติดหู แต่หากเหลือกำลังที่จะจัดการได้มันก็คงเอ่ยปากขอให้ช่วย เกือบสามชั่วโมงกว่าเขาจะขับรถถึงจุดหมาย สามเดือนแล้วที่ไม่มีโอกาสแบบนี้ เวลาทีจะได้อยู่พร้อมหน้าครอบครัวไม่ได้มีมากพอที่จะทำให้เขาต้องสนใจเก็บเรื่องของคนอื่นมาใส่ใจ ความสุขและความรักกำลังรอคอยเขาอยู่ที่บ้าน
..............................................................
“มึงมันเหี้ย”
หมัดหนักกระแทกเข้าที่ปากที่จมูกอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว แรงของหมัดมากพอจนทำให้ปกป้อง เซถลาก่อนจะสะดุดขาตัวเองล้มลงกับพื้น น้ำตาเริ่มเอ่อแทบจะล้นออกจากดวงตาตี่เล็ก ถึงจะรู้สึกแย่มากแค่ไหนเขาก็เลือกแล้วที่จะให้ตัวเองและครอบครัวปลอดภัย
“ถ้ากูเห็นหน้ามึงอีกครั้งไม่ว่าที่ไหน กูเอามึงตาย”
เสียงอาฆาตด้วยความโกรธจัดจากเจ้าของหมัดหนักปลุกความหวาดกลัวในใจขึ้นมาอีกครั้ง ปกป้องรู้ดีว่าคำพูดของเพื่อนเก่าคนนี้คำไหนคือคำนั้นไม่ใช่แค่คำขู่เล่นเหมือนสมัยที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน และเพราะคำว่าเพื่อนเก่าเขาถึงยังมีลมหายใจ ยังไม่ถูกฆ่าตายคามือแบบคนจริงอย่างจอมทัพ
“ไอ้จอม....”
สองขาของจอมทัพก้าวเดินไปที่รถกระบะคันใหญ่ที่ยังไม่ถูกดับเครื่อง มันไม่คิดจะฟังคำร้องขออะไรจากปากของเขาทั้งนั้น ความเกลียดชังในดวงตาคู่คมถูกส่งมาให้อีกครั้ง ก่อนบานประตูหลังของรถคันใหญ่จะถูกมือหนากระชากเปิดโดยแรง ของสำคัญของมาสุที่เขานำมาชดใช้แทนเงินค่าพนันบอลยังคงอยู่อย่างสงบนิ่งบนเบาะรถกว้าง เขาเห็นจอมทัพสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรงเมื่อแน่ใจว่าใช่ของสำคัญที่มาสุต้องการก่อนมันจะกัดฟันแน่นจนเห็นเป็นสันนูนเพื่อสะกดกลั้นความอึดอัดลงไปในอกเป็นครั้งสุดท้าย แล้วพยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาช้อนร่างคนที่ยังนอนไม่ได้สติจากเบาะขึ้นพาดบ่า
ใช่!! ของสำคัญของมาสุไม่ใช่ยาไม่ใช่อาวุธไม่ใช่สินค้า แต่เป็นหนึ่งชีวิตที่ถูกชดใช้แทนหนี้พนันนับสิบล้านของเขา
ครั้งนี้มันไม่ได้นอนขี้เซาหลับเหมือนตาย หากมันโดนเขาวางยาในแก้วเหล้าที่ผับดังแห่งหนึ่งตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืน และนั่นคือช่วงเวลาที่ปกป้องถ่ายคลิปส่งให้มาสุได้ดูเพื่อเป็นการยืนยันว่าของสำคัญกำลังรอให้คนของมาสุมารับในวันนี้
หากเขาไม่คิดว่าคนที่มาสุส่งมาจะเป็นจอมทัพ คนที่เคยมีเรื่องชกต่อยกับพวกเขามาก่อนจนแทบจะสิ้นสุดความสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อน
“ไอ้จอม...มึงฟังกูก่อน”
เพราะเสียงเรียกของปกป้องที่ยังคงเดินแกมวิ่งตามหลังจอมทัพยังไม่ยอมหยุด ร่างสูงใหญ่กว่าหันกลับไปพร้อมเหวี่ยงกำปั้นกระแทกเข้าใบหน้าที่เริ่มบวมช้ำของปกป้องอีกครั้งและอีกครั้ง
คอเสื้อถูกดึงกระชากเข้าหาเจ้าของมือหนาจนสันจมูกแทบจะชนกัน เสียงคำรามลั่นที่ปกป้องรู้ดีว่าจอมทัพกำลังพยายามสะกดอารมณ์ให้เย็นลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“มึงยังจะมาพูดเหี้ยอะไรอีก”
“กูขอ....”
“ลากมันออกไป!!”
สิ้นเสียงคำสั่งที่เด็ดขาดของจอมทัพก่อนจะหวดอีกหมัดเข้าใบหน้าปกป้องจนกระเด็นล้มลงไม่เป็นท่า เด็กหนุ่มผิวขาวจัดเชื้อสายจีนยังถูกชายร่างใหญ่อีกสองคนทั้งฉุดทั้งลากตัวกลิ้งไปตามพื้นลานจอดรถอย่างไร้ความปราณี เสียงตะโกนร้องขอยังคงดังกึกก้องด้วยข้อความที่ซ้ำไปซ้ำมา
“มึงต้องช่วยมัน ไอ้จอมมึงต้องช่วยมัน”
เสียงตะโกนที่เพิ่มความสั่นเครือในน้ำเสียงค่อยๆ
ห่างไกลไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้จอมทัพกำสองมือแน่นจนรู้สึกถึงปลายเล็บที่จิกเข้าเนื้อหากเขาไม่สนใจ
“จะมาห่วงเหี้ยอะไร มึงเป็นคนพามันมาลงนรก!!”
อารมณ์ที่ยังไม่สามารถสงบได้ของจอมทัพกลับปะทุขึ้นอีกจนเกือบจะถึงจุดเดือดที่อยากจะเปลี่ยนใจสั่งให้ลากปกป้องกลับมาฆ่าทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด
เป็นความรู้สึกที่อาจจะเรียกได้ว่าน่าสมเพชมากที่สุดอีกครั้งเท่าที่เคยได้เจอมาในชีวิต เขาเองไม่อยากจะเชื่อว่าความเห็นแก่ตัวของคนคนนึง
จะกล้าเอาชีวิตคนอีกคนมาชดใช้แทนความระยำที่มันไม่ได้ก่อ เพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากความเลวร้าย
หน้าอกบางยังคงกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจเข้าออกบอกให้รู้ว่า คนที่ยังไม่ฟื้นยังมีชีวิตอยู่บนเบาะหนังแท้ในรถหรูที่ถูกเปลี่ยนคัน มันคงไม่รู้ว่าชีวิตหลังการนอนหลับที่แสนสบายเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วจะถูกพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ หรืออาจจะจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยก็ได้
เสียงโทรศัพท์ปลุกความคิดที่กำลังจมดิ่งในด้านมืดให้หยุดชะงัก ความรับผิดชอบในการขนของสำคัญกำลังจะเกิดขึ้น งานก็คืองาน
เมื่อได้รับมอบหมายให้จัดการอะไรก็ต้องทำให้สำเร็จ
“ได้ตัวมาแล้วครับ”
*****************************************************
ผลงานอื่นๆ ของ mano2020 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ mano2020
ความคิดเห็น