Make My Dream A Reality [Fic Wonder Girl Yuri - MinAhn]
What should I do? What if I want to make my dream come true, will you resist it?
ผู้เข้าชมรวม
826
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
Make My Dream A Reality
What should I do?
What if I want to make my dream come true,
will you resist it?
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Make My Dream A Reality
ตอนนี้เธอนั่งอยู่ข้างๆพี่ของเธอบนเตียงนอนนุ่ม
มันไม่ง่ายเลย...เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรในตอนนี้ เธออยู่ตามลำพังกับพี่สาวของเธอในห้องนอน เธออยากจ้องมองอีกฝ่าย แต่ก็ทำไมได้ ไม่งั้นมันคงเป็นการเสียมารยาทและดูแปลกพิลึก ถ้าหากจะทำเช่นนั้น
“โซฮี เป็นอะไรไป? ดูแปลกๆนะ” เธอได้ยินน้ำเสียงหวานๆจากพี่สาวของเธอ น้ำเสียงนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัว... “เป็นอะไรหรือเปล่า?”
มันไม่ง่ายเลยที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้...
เธอไม่รู้ว่าเธอควรทำตัวเช่นไร
พี่เค้ามักจะเข้ามาในห้องนอนของเธอเสมอ... เธอเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝัน แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ เธอเพิ่งฝันถึงอีกฝ่าย แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือ สิ่งแรกที่เธอเห็นในวันนี้คือใบหน้าเนียนสวยของอีกฝ่ายที่กำลังมองเธออยู่ อีกฝ่ายไม่ได้เคาะประตูเข้ามาเหมือนทุกครั้ง ก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงใกล้ๆเธอ
แล้วในตอนนี้ เธอกลับไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไร เพราะเธอรู้สึกแปลกๆกับอีกฝ่าย และเธอก็เกลียดความรู้สึกนี้...แต่ก็ไม่สามารถหักห้ามใจได้สักที
ในตอนนี้เธอรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก เธอไม่อยากอยู่ในห้องกับอีกฝ่าย ยิ่งอยู่กันตามลำพังด้วยแล้ว เธอยิ่งรู้สึกอึดอัดเข้าไปใหญ่ มันไม่น่าแปลกที่เธอจะอยู่ใกล้ๆกัน เพราะพวกเธอผูกพันกันมานาน แต่ความรู้สึกของเธอนั่นแหละที่เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องรู้สึกอึดอัดใจ ความรู้สึกที่เธอมีต่ออีกฝ่าย จนมันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องรู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจเวลาที่อีกฝ่ายอยู่ใกล้ๆ
“โซฮี ตื่นได้แล้ว ทุกคนรอเธอกินข้าวอยู่... เดี๋ยวนี้ดูแปลกๆนะ ไม่สบายรึเปล่า?” อีกฝ่ายจ้องมองหน้าเธอนิ่ง
แล้วสายตาคู่นี้ที่จ้องมองเธอก็ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนกับว่าเธออยู่ท่ามกลางทะเลทราย แล้วสายตาของอีกฝ่ายที่จ้องมองมาเป็นโอเอซิสแห่งเดียวที่มีอยู่...เป็นชีวิตของเธอ
อานโซฮีจ้องมองอีกฝ่ายตรงๆ จ้องมองอย่างที่ไม่เคยมาก่อน...เป็นครั้งแรกที่เธอจ้องอีกฝ่ายแบบนี้ แบบที่ไม่ใช่แค่พี่น้อง...
ริมฝีปากเริ่มแห้งผาก...
อานโซฮีไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ราวกับว่าตัวเธอต้องมนต์สะกด...
ดูเหมือนเธอจะต้องมนต์สะกดจริงๆ...เพราะว่าอยู่ๆเธอก็เลื่อนใบหน้าไปจูบอีกฝ่าย ดูเหมือนคนถูกกระทำไม่ได้ตอบรับสัมผัสของเธอ...ร่างบางรีบขยับตัวออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับหันใบหน้าหนีไปอีกทาง.... แต่ว่าคุณสมบัติของอานโซฮีที่ทุกคนรู้ดี...ทุกคนรู้ว่าอานโซฮีหัวดื้อขนาดไหน เธอเอื้อมมือไปจับหลังคอของอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ ก่อนที่ริมฝีปากบางจะประทับลงไปอีกครั้ง สาวแก้มป่องกัดริมฝีปากของอีกฝ่ายที่เย็นจัดเบาๆ ริมฝีปากของอีกฝ่ายไม่ได้นุ่มเหมือนที่โซฮีเคยนึกไว้ หญิงสาวหลับตานิ่งก่อนที่จะกดเน้นสัมผัสหนักหน่วงกว่าเดิม...
อานโซฮีเอื้อมมือไปสัมผัสกับเอวบางของอีกฝ่ายอย่างช้าๆ ริมฝีปากเล็กเลื่อนสัมผัสไปทั่วใบหน้าเนียนของอีกฝ่าย...ผิวสัมผัสที่นุ่มเหมือนปุยนุ่น ริมฝีปากของอีกฝ่ายเริ่มขยับตอบรับเป็นจังหวะอย่างเร่าร้อน... โซฮีดึงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้กว่านี้ เธอรู้สึกถึงอ้อมแขนของอีกฝ่ายที่โอบรอบคอของเธอ...จนเธอสัมผัสได้ถึงร่างกายที่ใกล้กันจนไม่มีระยะห่างมาขวางกั้น...
หญิงสาวอดที่จะนึกคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากร่างกายเปลือยเปล่าสัมผัสกันจะรู้สึกเช่นไร เพียงแค่คิดแค่นี้ เธอก็รู้สึกแปลกประหลาด ร่างทั้งร่างสั่นอย่างไร้เหตุผลแล้ว
อานโซฮีถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะสอดแทรกเข้าไปในกลุ่มผมสีเข้ม ริมฝีปากของทั้งสองแยกออก...ก่อนที่ลิ้นร้อนจะสัมผัสกันอย่างช้าๆ
เธอไม่เคยนึกคิดมาก่อนว่าจะได้จูบกับอีกฝ่าย แต่ในตอนนี้เธอกำลังทำสิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะทำอยู่... เธอไม่เคยคิดฝันว่าจะได้สัมผัสกับผิวนุ่มๆภายใต้เสื้อตัวหนานี่ด้วย...และเธอก็กำลังทำสิ่งนั้นอยู่...
เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่าน... บางสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ เธอรับรู้ถึงการตอบรับของอีกฝ่ายในขณะที่เธอเลื่อนมือกอบกุมอกนุ่มของอีกฝ่ายไว้ และนั่นก็ทำให้เธอได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้สวมบรา... และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกประหลาดเข้าไปใหญ่
แล้วอีกฝ่ายก็ครวญครางเสียงเบา...
“โซฮี...” เธอได้ยินที่อีกฝ่ายเรียกชื่อเธอเสียงแผ่วเบา ทั้งอ่อนโยนและอ่อนหวาน เหมือนเป็นเสียงกระซิบอันอ่อนหวานที่ยังก้องอยู่ในโสตประสาทของเธอ...
“พี่ซอนเย...”
“โซฮี ตื่นได้แล้ว...” เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นมาอีกครั้ง
“อื้อ...?”
“อานโซฮี!!!!!!!”
อีกครั้งที่อีกฝ่ายตะโกนออกมาเสียงดัง จนทำให้เธอต้องลืมตาขึ้นอย่างตกใจ ก่อนที่จะตระหนักได้ว่า...เธอฝันไป
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝัน หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ ในใจสับสนปนเปกันไปหมด เพราะไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี...
เธอหันไปมองพี่สาวของเธอที่ยังคงยืนกอดอกอยู่ข้างๆเตียง สายตาซุกซนเหลือบไปเห็นชุดของอีกฝ่ายที่ค่อนข้างล่อแหลม
“.....” อานโซฮีนิ่งเงียบในขณะที่สายตาจ้องมองไปที่อีกฝ่าย ก่อนที่เธอต้องกัดริมฝีปาก...
เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น กับสิ่งที่เธอฝันเมื่อกี้... แล้วเธอก็จ้องมองไปยังดวงตาของอีกฝ่าย แล้วเธอก็อยู่ในชั่วโมงต้องมนต์อีกครั้ง... ดวงตาคู่คมสวยของอีกฝ่ายไม่เคยทำให้เธอละสายตาไปได้เสียที ก่อนที่สายตาจะเลือนไปยังริมฝีปากอันน่าสัมผัสของอีกฝ่าย... อดสงสัยไม่ได้ว่าจะรู้สึกเช่นไรหากริมฝีปากของเธอและอีกฝ่ายได้สัมผัสกัน...และริมฝีปากแดงสดนั้นก็อยู่ห่างจากเธอไม่ถึงเอื้อม...
อานโซฮีแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก เธอไม่กล้า...
เธอไม่กล้าที่จะคิดถึงเรื่องนั้น
หญิงสาวเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย ก่อนที่จะประทับริมฝีปากอย่างแผ่วเบา... ความเป็นจริงกับความฝันต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอรู้สึกอบอุ่น...เธอรู้สึกถึงความอ่อนโยนและอ่อนหวานจากสัมผัสของอีกฝ่ายตรงริมฝีปาก
เธอหลับตาอย่างช้าๆ ต้องการจดจำช่วงเวลานี้...และไม่อยากให้ช่วงเวลานี้จบลง เธออยากจะให้เป็นแบบนี้ตลอดไป อยากจะจูบอีกฝ่ายแบบนี้ไปตลอด...
เหมือนกับว่าเธอยังคงอยู่ในห้วงของความฝัน เธอไม่รับรู้อะไร จนกระทั่งตอนนี้ เธอตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน...และเรื่องน่าอายที่เธอกำลังทำอยู่
เหมือนในความฝัน...
สัมผัสของอีกฝ่ายทั้งนุ่มนวลและอ่อนหวานจนเธอแทบละลาย
อานโซฮีค่อยๆลืมตาขึ้นมา เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ฝันไป แล้วตอนนี้เธอก็เริ่มแปลกใจว่าทำไมอยู่ๆเธอถึงอยู่บนตัวของอีกฝ่ายได้ เธอไม่ควรนึกถึงเรื่องนั้น...นี่มันเป็นเหมือนความฝันอันน่าเหลือเชื่อ...
เธอจับมือของอีกฝ่ายแน่น ก่อนที่จะกอบกุมมือกันเบาๆ...มืออีกข้างที่ว่างเริ่มสัมผัสไปทั่วร่างกายของอีกฝ่าย เธอรู้สึกอยากจ้องมองสีหน้าของอีกฝ่ายเมื่อได้รับสัมผัสของเธอ
“พี่ค่ะ....เรากำลังทำอะไรกัน?”
หญิงสาวถามขึ้นมาหลังจากที่ปล่อยให้ริมฝีปากของอีกฝ่ายเป็นอิสระ เธออาจจะรู้สึกเสียใจภายหลังที่ถามแบบนี้ไป แต่ว่าเธอก็อยากจะถามอีกฝ่ายให้แน่ชัด...
“พี่ก็ไม่รู้....เหมือนกัน”
เสียงหวานพึมพำแผ่วเบา ก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าเข้ามาจูบเธออีกครั้ง
เธอไม่เคยได้รับสัมผัสเช่นนี้มาก่อน เธอไม่เคยแม้แต่คิดว่าจะได้รับสัมผัสแบบนี้จากคนๆนี้...
แล้วเวลานี้ก็จบลงเมื่อพวกเธอได้ยินเสียงใครบางคนเคาะประตู และดูเหมือนคนเคาะไม่ได้สนใจว่าคนที่อยู่ในห้องจะขานรับหรือไม่ เพราะว่าอานโซฮีได้ยินเสียงประตูที่เปิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหันไปมองบุคคลที่เข้ามาใหม่อย่างตกใจ
คนนี้ๆจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณพี่สุดแสบของเธอ....คิมยูบิน
เยี่ยมมาก พี่ยูบิน อานโซฮีได้แต่บ่นในใจ ยัยพี่จอมทำลายบรรยากาศ!
“นี่...เยอึนให้ฉันเข้ามาเรียก...เห้ยยยยยย!”
หญิงสาวผิวแทนผงะเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า
“ขอโทษๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจมาขัดจังหวะนะ ฉันไม่คิดว่ากำลังยุ่งอยู่นี่” คิมยูบินพูดอย่างรัวเร็วก่อนที่จะหน้าแดงก่ำเมื่อรับรู้ได้ว่าสองคนในห้องกำลังจะทำอะไรกัน...
“ฉันไม่ได้ยินและไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้นนะ สาบานเลย! ไปก่อนนะ...ขอให้สนุก!!!”
อานโซฮีเหลือบมองพี่ตัววุ่นที่รีบวิ่งออกไปจากห้อง หญิงสาวหลับตาลงด้วยความอาย เธอไม่อยากลืมตา ไม่อยากยอมรับความเป็นจริง ไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรในตอนนี้
แต่ว่าเธอต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากอ่อนนุ่มของอีกฝ่ายประทับเข้ามา...
“เมื่อกี้เราถึงไหนแล้วนะ?” เธอได้ยินอีกฝ่ายกระซิบถามเบาๆใกล้ๆใบหู
“ตรงนี้คะ” อานโซฮีพึมพำพลางก้มลงสัมผัสลำคอของอีกฝ่ายเบาๆ
คงไม่มีใครนอกจากคิมยูบินรู้ว่าพวกเธอกำลังจะทำอะไรต่อไป....(แต่เธอแน่ใจว่าอีกไม่กี่นาที พี่เยอึน เฮลิม หรือแม้แต่ซอนมีต้องรู้เรื่องนี้)
และแน่นอนว่าพวกเธอจะทำอย่างไรหลังจากผ่านคืนนี้ไป
คงไม่มีใครรู้นอกจากพวกเธอสองคน....ในตอนนี้
THE END
เอาเรื่องสั้นมาฝากค่ะ เดี๋ยวนี้กวางชอบแต่งเรื่องสั้น (แถมหื่นอี้ก =w=;)
ถ้าชอบใจก็อย่าลืมเม้นท์กันนะคะ เป็นกำลังใจให้คนเขียน
แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็จะหน้าด้านลง ๕๕๕+
ช่วงนี้จิ้นมินรุกไม่ไหว เพราะเธอสาว
จิ้นน้องเปาสาวไม่ไหวด้วย เพราะเธอแมนมาก =_=;;
เจอกันเรื่องหน้าค่ะ คงมีแต่ตอนเดียวจบ โฮะๆๆ
----------------------------
ผลงานอื่นๆ ของ KwanGRaiNDeeR ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ KwanGRaiNDeeR
ความคิดเห็น