โรงเรียนวุ่นชุลมุนรัก(ภาคพิเศษ Family's love) - โรงเรียนวุ่นชุลมุนรัก(ภาคพิเศษ Family's love) นิยาย โรงเรียนวุ่นชุลมุนรัก(ภาคพิเศษ Family's love) : Dek-D.com - Writer

    โรงเรียนวุ่นชุลมุนรัก(ภาคพิเศษ Family's love)

    ภาคพิเศษของเรื่องโรงเรียนวุ่นชุลมุนรักนะคะ ในที่สุดก็แต่งจบซะที สำหรับคนที่รอคอยก็ขอขอบคุณมากๆเลย และก็ขอโทษที่ทำให้รอนานนะคะสำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านลองเข้ามาอ่านถ้าติดใจก็ไปอ่านในSchool's loveได้นะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,138

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    1.13K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    6
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 ต.ค. 50 / 13:54 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Family’s love

      (โรงเรียนวุ่นชุลมุนรัก ภาคพิเศษ)

                     

                      อืม...

                      แสงแดดอ่อนๆยามเช้าส่องลอดหน้าต่างเข้ามาในห้องนอน ประกอบกับแอร์ที่เปิดมาทั้งคืนทำให้บรรยากาศในห้องนอนเย็นเยียบ ร่างบางจึงขยับร่างเข้าหาที่อุ่นๆซุกนอนทันใดนั้นก็มีวงแขนแข็งแกร่งของใครบางคนตวัดโอบร่างของเธอเข้าชิดตัว ทำให้เธอเริ่มตื่นออกจากภวังค์ของความฝันทันที

                      นี่...พี่ไค

                      ร่างบางพยายามยกแขนที่โอบอยู่รอบลำตัวออก แต่คนขี้เซาเจ้าของวงแขนกว้างก็ยังไม่ยอมตื่นสักที แถมยังกดรัดร่างของเธอเข้าไปในอ้อมแขนมากเข้าไปอีก ทำให้เธอหงุดหงิดมากขึ้นจึงใช้ฟันงับเข้าที่ลำแขนแข็งแกร่งเต็มแรง

                      โอ๊ย!!!!”

                      ได้ผลคนขี้เซาสะดุ้งสุดตัวคลายอ้อมแขนแล้วมองหน้าเธอด้วยความไม่พอใจ ผ้าห่มร่นลงมากองที่สะโพกทำให้เห็นแผงอกกว้างขาวเนียนละเอียดอย่างชัดเจน

                      ทำอะไรน่ะมามิจังร่างสูงถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ตาปรือๆกำลังจะปิดและฟุบลงไปบนเตียงอีกครั้งทำให้ร่างบางต้องใช้ความเร็วรั้งแขนของเขาไว้ทันที

                      พี่ไคจะนอนต่อไม่ได้แล้วน่ะค่ะ เช้านี้มีประชุมไม่ใช่เหรอ

                      อะไร...เรื่องแค่นี้เดี๋ยวโทรเลื่อนเอาก็ได้ เจ้าของโรงพยาบาลนั่งอยู่ตรงนี้แล้วไม่มีปัญหาแน่น้อนไม่พูดเปล่าแถมยังดึงร่างบางลงไปกอดเพื่อนอนต่ออีก

                      ถ้าพี่ไคไม่ตื่นฉันกัดอีกครั้งไม่ปล่อยเลยน่ะค่ะคราวนี้ร่างบางแยกเขี้ยวขู่แล้วทำท่าจะงับลงไปบนแขนของเขาอีกครั้ง

                      ก็ด้ายๆ ภรรยาใครก็ไม่รู้ดุเหมือน...

                      ถ้าพูดคำสุดท้ายออกมาล่ะก็...จะกัดให้ขาดเลย

                      จ้าๆร่างสูงรับอย่างหวาดๆแล้วลุกขึ้นจากเตียงก่อนที่จะก้มหน้าลงมาmorning kissภรรยาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

       

                      คงสงสัยกันใช่มั้ยล่ะค่ะว่าทำไมพี่ไคถึงเรียกฉันว่าภรรยา หลายคนคงเดาถูก ใช่แล้วค่ะ!!!ฉันแต่งงานกับพี่ไคแล้วแถมยังอยู่ด้วยกันมาสองปีแล้วด้วย พี่ไคทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลโฮนโจ ส่วนฉันก็ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลของพ่อ ถ้าถามว่าทำไมฉันถึงไม่ไปอยู่ที่โรงพยาบาลของพี่ไคก็เพราะเหตุผลของพ่อที่ว่า

                      ยังไงก็เจอกันทุกวันเช้าเย็นอยู่แล้ว จำเป็นด้วยเหรอที่จะต้องทำงานที่เดียวกันอีก

                      ดูท่า...พ่อของฉันคงกำลังประกาศตัวเป็นศัตรูกับพี่ไคซะล่ะมั้ง พ่อไม่ถูกกับพี่ไคมาตั้งแต่ครั้งอดีตแล้วนี่ แต่ยังไงซะโรงพยาบาลของพี่ไคก็ถือหุ้นของโรงพยาบาลฉันเกินครึ่งอยู่แล้วถ้าจะรวมเป็นโรงพยาบาลเดียวกันก็ไม่ยากอะไรหรอก แต่ปัญหามันอยู่ที่พ่อของฉันก็เท่านั้นแหละ

                      นี่มามิจังผ้าขนหนูของฉันหายไปไหนน่ะ

                      เสียงพี่ไคดังออกมาจากห้องน้ำทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ความคิดชั่วคราว

                      ธรรมดามันก็อยู่ในห้องน้ำตลอดเวลาอยู่แล้วนี่ค่ะ

                      แต่ตอนนี้มันไม่อยู่นี่นา มาดูให้หน่อยสิ

                      คำพูดของพี่ไค ทำให้ฉันต้องจำใจหยิบผ้าห่มขึ้นมาพันร่างกายแล้วเดินไปหาเขาที่ห้องน้ำด้วยความไม่สบอารมณ์ รู้มั๊ยทำไมฉันถึงต้องเอาผ้าห่มพันตัวก็เพราะว่าฉันไม่ได้ใส่เสื้อผ้าน่ะสิ -///- แล้วทำไมถึงไม่ใส่? ก็เพราะว่าเมื่อคืนฉันกับพี่ไค...เอ่อ...ทำเรื่องที่สามีกับภรรยาต้องทำกันน่ะสิ ว๊าก!พูดแล้วอายอ่ะ >///<!!!!

                      ไหนล่ะผ้าขนหนูของฉันเสียงพี่ไคดังออกมาจากล็อกอาบน้ำกระทบหูฉันที่ยืนอยู่ตรง

      ล็อกอ่างล้างหน้า

                      เดี๋ยวหาแป้บนึงน่ะค่ะฉันบอกแล้วหาผ้าขนหนูที่ใส่ไว้ตรงชั้นที่อยู่ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้า

                      พี่ไคตาบอดรึไงเนี่ย ผ้าขนหนูก็วางอยู่ตรงนี้ตั้ง 2 -3 ผืน ทุกวันก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรนี่หว่า

                      เอ้า! นี่ค่ะฉันหันหน้าไปอีกทางแล้วใช้มือข้างที่ว่างเปิดประตูจากนั้นก็โยนผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำที่พี่ไคยืนเปลือยอยู่

                      เฮ้! ทำอย่างงี้ก็เปียกสิพี่ไคโวยวายแล้วใช้มือยันประตูห้องน้ำที่ฉันยืนอยู่

                      ว้าก! พี่ไค พี่ไคแก้ผ้าอยู่น่ะค่ะ อย่าเพิ่งเดินออกมาให้ฉันเห็นสิฉันโวยวายแล้วหลับตาปี๋

                      โป้ก!!!!

                      ยัยบ้า! ฉันไม่ใจกล้าขนาดนั้นหรอกนะ มานี่เลย

                      อะ...อะไรค่ะ จะพาฉันไปไหนน่ะ>_<”

                      พี่ไคดึงฉันเข้าไปในห้องน้ำทำให้ฉันเห็นว่าเขาใส่ผ้าขนหนูเรียบร้อยแล้ว

                      นี่พี่ไคจะทำอะ...ฉันพูดยังไม่ทันจบพี่ไคก็อุ้มฉันขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนจากนั้น...

                      ตูม!!!!

                      พี่ไคปล่อยฉันลงไปในอ่างอาบน้ำทั้งผ้าห่ม

                      โอย...แค่กๆ

                      แก้แค้นที่เธอกัดฉันเมื่อเช้าน่ะ หึหึ^^”พี่ไคว่าพลางใช้มือยันอ่างอาบน้ำไว้แล้วโน้มตัวมาพูดกับฉัน เหตุผลที่เขาโยนฉันลงมาในอ่างอาบน้ำทำเอาฉันเถียงไม่ออกไปเลย เขาทำท่าจะเดินออกไปแต่จู่ๆ เขาก็หันกลับมาแล้วแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ฉัน

                      อ้อ...ลืมเอาผ้าห่มออกให้น่ะพี่ไคบอกนัยน์ตาพราวระยับ แล้วเขาก็ดึงผ้าห่มออกจากตัวของฉันทันที

                      กรี๊ด!!!! พี่ไค!! TTOTT”

       

                                    

       

      สายแล้ว สายแล้ว ฉันก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเองอย่างร้อนรน แล้วรีบวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลทันทีที่เท้าเหยียบถึงพื้นที่ทางเข้าของโรงพยาบาล

                      สวัสดีค่ะ คุณมามิ คุณมินาโกะทัก ขณะที่ฉันกำลังวิ่งหน้าตั้งจะไปเข้าลิฟต์

                      สวัสดีค่ะ^-^;;;” ฉันยิ้มทักอ่อนๆแล้วรีบเข้าไปในลิฟต์ทันที

                      ติ๊ง...

                      ประตูลิฟต์ปิดลง ฉันปาดเหงื่อออกจากใบหน้าแล้วเหลือบสายตาไปมองข้างๆก็เห็นชายหนุ่มรุ่นๆเดียวกับฉันยืนอยู่ รูปร่างของเขาสูงโปร่งมองจากด้านข้างก็รู้แล้วว่าหล่อ แต่จู่ๆเขาก็หันมาสบตากับฉันเข้าอย่างจัง เมื่อเห็นหน้าเขาเท่านั้นแหละฉันจึงได้แต่อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง

                      พี่...พี่ซาเคียวใช่มั้ยค่ะOoO!!!” ฉันชี้หน้าเขา ก็รู้อยู่หรอกว่ามันเป็นมารยาทที่ไม่ดีแต่มันตกใจมากจริงๆนะไม่คิดว่าจะมาเจอพี่ซาเคียวอีก เราไม่เจอกันกี่ปีแล้วนะ อืม...ห้าหกปีแล้วมั้ง

                      เอ่อ...ครับผมชื่อซาเคียว แต่ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับO_O?” เขาหันมาหาฉันแล้วทำหน้างงเต๊กปนไม่พอใจนิดหน่อย

                      ฉันมามิไงค่ะ^O^” ฉันจับมือเขาเขย่าขึ้นลงหวังว่าพี่ซาเคียวจะจำฉันได้

                      เอ๋? มามิจังงั้นเหรอ ความประหลาดใจฉายชัดในแววตาของพี่ซาเคียว แล้วสักพักเขาก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ

                      มามิจังจริงๆเหรอเนี่ย >_<!!!” พี่ซาเคียวว่าพลางเอื้อมมือมาจับใบหน้าของฉันเบาๆ...

                      ติ๊ง...

                      เสียงประตูลิฟต์เปิดออกขัดจังหวะเมื่อถึงชั้นที่ฉันกดไว้ ประตูลิฟต์ค่อยๆเลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆเผยให้เห็นร่างคุ้นตายืนทำหน้ายักษ์อยู่ตรงหน้าประตูลิฟต์ ทำให้ฉันต้องรีบถอยห่างออกมาจากพี่ซาเคียวทันที

                      ที่เธอรีบขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำก็เพราะว่าจะมาเจอไอ้หมอนี่ใช่มั้ย... พี่ไคยืนกอดอกมองฉันอย่างจับผิด ดูท่าเขาคงจะจำพี่ซาเคียวไม่ได้แน่ๆเลย แล้วอีกอย่างพี่ซาเคียวแก่กว่าเขาปีนึงน่ะเรียกว่าไอ้หมอนี่ได้ไงTT^TT

                      พะ...พี่ไค... ฉันยังพูดไม่ทันจบพี่ไคก็เดินมาลากฉันออกไปจากลิฟต์ทันที พี่ซาเคียวเดินตามออกมาช้าๆดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรมากมาย(เค้าจะไปทุกข์ร้อนอะไรล่ะฉันนี่แหละกำลังจะโดนเชือดTTOTT)

                      สวัสดีไค^^” พี่ซาเคียวยิ้มทักพี่ไค

                      อือ...กองไว้ตรงนั้นแหละ พี่ไคผงกหัวรับแล้วพูดกวนๆสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ฉัน พี่ซาเคียวยิ้มกริ่ม

                      ไง มีอะไรจะสารภาพมั้ย พี่ไคยิ้มเหี้ยมเกรียมถามฉัน

                      คือ คือว่า... ฉันกำลังคิดว่าจะอธิบายยังไงดี พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นพี่ซาเคียวยืนมองฉันกับพี่ไคทะเลาะกันอย่างสนอกสนใจ

                      เอ่อ...พี่ไคคะ เราไปคุยกันที่ห้องของฉันกันดีกว่านะคะ ฉันไม่รอให้พี่ไคปฏิเสธแล้วรีบก้มหน้าก้มตาดึงเขาไปที่ห้องของฉันทันที พี่ไคทำหน้ามุ่ยเดินตามฉันมาอย่างไม่พอใจแต่สักพักเขาก็เร่งฝีเท้าเดินมาโอบไหล่ของฉันไว้แล้วพากลับไปที่ห้อง

                     

                      ปัง!!!!

                      พี่ไคปิดประตูเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นด้วยแรงโทสะเมื่อเดินมาถึงห้อง ทำเอาฉันสะดุ้งเฮือก

                      แล้ววันนี้พี่ไคไม่มีประชุมหรอค่ะ^-^;;;” ฉันยิ้มฝืดๆพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบไว้ก่อน แล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟาสำหรับแขก พี่ไคเดินมานั่งลงข้างๆ แล้วจ้องหน้าฉัน

                      ภรรยาสุดที่รักของฉันรีบออกจากบ้านจนลืมของสำคัญไว้แล้วจะให้ฉันมีสมาธิในการประชุมได้ยังไงล่ะ หืม...^^” พี่ไคแสยะยิ้มน่ากลัวนัยน์ตาของเขาดำมืดมากยิ่งขึ้น

                      แหะๆๆ แล้วฉันลืมอะไรไว้ล่ะค่ะ ฉันกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆอย่างยากลำบาก

                      เอ้า...พี่ไคโยนโน้ตบุ๊กมาให้ ทำเอาฉันรับแทบไม่ทัน

                      ฉันก็เพิ่งสังเกตเห็นเดี๋ยวนั้นแหละว่าในมือของเขามีกระเป๋าโน้ตบุ๊คของฉันอยู่ แล้วเมื่อเช้าหลังจากที่พี่ไคดึงผ้าห่มของฉันออก อยู่ๆเขาก็เกิดอยากจะอาบน้ำกับฉันขึ้นมา มันก็เลยเสียเวลาไปหน่อยนึง >///< แถมฉันยังนัดคนไข้ไว้อีกตะหาก ถ้าไม่รีบออกมาก็เสียงานน่ะสิ แต่ดูท่าอีตาพี่ไคนี่คงคิดว่าฉันรีบออกมาเจอพี่ซาเคียวแน่ๆเลย -_-^ เฮ้อ...กลุ้ม

                      มันเป็นใคร พี่ไคถามฉัน

                      มันไหนคะ ^-^?” ฉันแกล้งตีหน้าซื่อ(บื้อ)

                      ไอ้หน้าหม้อที่อยู่ในลิฟต์นั่นน่ะ!!” พี่ไคเริ่มเดือดทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาตะหงิดๆ

                      กะ...ก็พี่ซาเคียวไงค่ะ คนที่อยู่ปี 3 ตอนที่พี่ไคอยู่ปี 2 นะค่ะ

                      พี่ไคใช้มือลูบคางตัวเองเบาๆอย่างใช้ความคิด คิ้วเข้มที่อยู่เหนือตาทั้งสองข้างของเขาเริ่มขมวดเข้าหากัน

                      คนไหนหว่า พี่ไคพึมพำออกมาเบาๆสักพักเขาก็ได้ผลสรุป

                      โอ้ย!!นึกไม่ออก แต่ไม่ว่ามันจะเป็นใครเธอก็ห้ามไปยุ่งกับมันเข้าใจมั้ย

                      ค่า... -_- เข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋เลยเจ้าค่ะ

                      ดี...งั้นฉันไปล่ะพี่ไคบอกแล้วลุกขึ้น ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างโล่งอกแล้วลุกขึ้นเดินไปส่งพี่ไคที่ประตู แต่จู่ๆเขาก็หยุดเดิน

                      มีอะไรเหรอค่ะ

                      ฉันเพิ่งนึกได้ พี่ไคยักคิ้วกวนๆ(ตั้งแต่แต่งงานกันมาเขาทำตัวกวนขึ้นเยอะเลยค่ะY_Y)แล้วหันมาทางฉันดั่งภาพสโลว์โมชั่น ทำไมไอ้หมอนั่นต้องจับหน้าเธอด้วย...

                      O_O เวรล่ะสิ...ดันนึกออกอีก ทำไมความจำดียังงี้ฟ่ะ ฉันคิดถูกมั้ยเนี่ยที่มีสามีเป็นอัจฉริยะอ่ะTT_TT

      (มานึกเสียใจตอนนี้แล้วมันจะได้อะไรล่ะยะ)     

                      เอ่อ...ฉันก็ไม่รู้น่ะค่ะ แหะๆ^-^;;”

                      มันจับตรงไหนบ้าง!”

                      แว้ก!! พี่ไคคิดลามกอะไรรึเปล่าฟะเนี่ย(เธอนั่นแหละที่คิดยัยมามิ -_-+)

                      จับแค่หน้าค่ะ ฉันบอกไปตามความจริง

                      ตรงไหน พี่ไคยกมือขึ้นลูบหน้าของฉันทันที

                      แก้มข้างซ้ายมั้งค่ะ

                      นี่เหรอ พี่ไคยกมือขึ้นจับหน้าของฉันทั้งสองข้าง แล้วฉันก็ดันบังเอิญเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขาพอดีเด๊ะ

                      นัยน์ตาสีดำของเขาค่อยๆอ่อนแสงลงจนกลายเป็นอ่อนโยน แล้วก็เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างระหว่างฉันกับเขาทำให้เขาเริ่มก้มหน้าลงมาประทับริมฝีปากกับฉันช้าๆ ลิ้นของเขาค่อยๆสอดเข้ามาในปากของฉันอย่างนุ่มนวลทำให้ฉันเริ่มเคลิ้ม

                      อืม... ฉันเริ่มเอามือโอบตวัดรัดรอบลำคอแข็งแกร่งของพี่ไคอย่างยั่วยวน

                      กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง

                      เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ฉันสะดุ้งแล้วรีบผละออกจากพี่ไคอย่างรวดเร็ว พี่ไคทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างเสียดายส่วนฉันก็รีบวิ่งไปรับโทรศัพท์ทันที

                      สวัสดีค่ะ...

                      คนไข้มารอเข้าพบแล้วน่ะค่ะ จะให้เข้าไปเลยมั้ยคะเสียงนางพยาบาลดังมาตามสาย

                      อ๋อ คนไข้ case กายภาพบำบัดที่ติดต่อมาเมื่อวานใช่มั้ย

                      ใช่ค่ะ

                      งั้นบอกว่าอีก 10 นาทีให้เข้ามาได้เลยค่ะ

                      ค่ะ

                      ฉันวางหูโทรศัพท์ลงแล้วเดินไปหาพี่ไคที่ยังยืนหน้ามุ่ยอยู่ที่เดิม

                      คนไข้ของฉันจะเข้ามาแล้วล่ะค่ะ พี่ไคน่าจะกลับโรงพยาบาลได้แล้วน่ะค่ะ

                      อืม...ก็ว่าจะกลับอยู่พี่ไคพยักหน้าเออออเห็นด้วยแล้วโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆใบหูของฉัน งั้นที่เหลือเอาไว้ต่อตอนกลางคืนล่ะกันน่ะ

                      คำพูดของพี่ไคทำให้ฉันหน้าแดงไปในทันที พลางคิดในใจว่า อีตาพี่ไคหื่นอีกแล้วนะ ฉันอดใจไม่ไหวเอื้อมมือไปจับหมับเข้าที่หูของพี่ไคแล้วบิดไปมาอย่างหมั่นไส้

                      โอ๊ะ...โอ๊ยเจ็บน่ะ พี่ไคครวญคราง

                      ก็ทำให้เจ็บน่ะสิคะ>///<”

                      ฉันจะไปแล้วปล่อยเถอะ please”พี่ไคทำหน้าออดอ้อน ฉันจึงปล่อยมือออกจากใบหูของเขาทันที พี่ไคเดินออกไปนอกห้องของฉันแต่ยังไม่วายหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ ฉันมองอย่างเอือมๆแต่ใจจริงๆของฉันน่ะ กำลังกระโดดตีลังกาสามตลบด้วยความมีความสุขเลยล่ะ วะฮะฮ่า >O< มีความสุขจริงๆเลยเหวย

                      พี่ไคเดินออกไปได้สักพัก ก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามา

                      สวัสดีครับ มามิจัง

                      พี่ซาเคียว...

                      พี่ซาเคียวยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ฉันมองเขาอย่างอึ้งๆ ไม่นึกมาก่อนเลยนะเนี่ยว่าพี่ซาเคียวจะเป็นคนไข้ของฉันอ่ะ -O-!!!

                      เอ่อ...เชิญมานั่งตรงนี้เลยค่ะ

                      ครับ...พี่ซาเคียวพยักหน้าแล้วเดินมานั่งลงตรงข้ามโต๊ะทำงานของฉัน ส่วนฉันก็นั่งอยู่ตรงข้ามเขา

                      พี่ซาเคียวเป็นอะไรหรอคะ ถึงต้องกายภาพบำบัด

                      ถ้าพี่เป็นอะไรจริง พี่จะมีแรงเดินมาหามามิจังหรอครับ^^”

                      อ้าว...- -‘’?”

                      ไม่ต้องทำหน้างงหรอกครับ พี่ล้อเล่นพอดีว่าแม่พี่ท่านเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงเอวลงไปน่ะครับ

                      อ๋อ...ก็เลยมาขอคำปรึกษา แล้วบังเอิญมาเจอฉันเข้าพอดี

                      ใช่เลยครับ^^”

                      ค่ะ ถ้าเป็นอัมพาตเราก็ต้องคอย...

                      ฉันเริ่มให้คำปรึกษากับพี่ซาเคียว แต่เนื่องจากแม่ของเขาเคยเกิดอาการแผลกดทับมาก่อนฉันจึงต้องให้คำปรึกษาอย่างละเอียดมากขึ้น จนถึง 5 โมงเช้าซึ่งเป็นเวลาที่ฉันต้องเปลี่ยนเวรกับแพทย์คนอื่นพอดี(โรงพยาบาลนี้จะเปลี่ยนเวรกันทุก 4 ชั่วโมง จากนั้นก็จะมีเวลาให้พัก 2 ชั่วโมงถึงจะเข้ามาทำงานอีกครั้ง วันนึงทำงานประมาณ 8 ชั่วโมง)

                      ถ้าทำแบบนี้ทุกวันแม่ของพี่ซาเคียวก็จะอาการดีขึ้นตามลำดับเลยล่ะค่ะ ฉันจบคำอธิบาย พี่ซาเคียวพยักหน้าอย่างเข้าใจ

                      นี่ก็ถึงเวลาที่มามิจังต้องพักแล้วใช่มั้ยครับ

                      อ่อ...ใช่ค่ะฉันเหลือบมองนาฬิกาที่ฝาผนังห้องพลางตอบเขา

                      งั้นไปทานข้าวกับพี่นะครับ ไม่ได้เจอกันมาซะนาน คงไม่ปฏิเสธนะครับ^^”

                      ฉันขมวดคิ้วครุ่นคิด ถ้าไปแล้วพี่ไคเจอฉันเข้าต้องเกิดเรื่องแน่ๆเลย  แต่พอฉันมองพี่ซาเคียวตรงหน้าก็รู้สึกว่าใจมันไม่อยากจะปฏิเสธยังไงก็ไม่รู้ ก็เราไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายปี ถ้าปฏิเสธมันก็คงจะน่าเกลียดไปหน่อยล่ะมั้ง

                      ก็ได้ค่ะ แต่แค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้นนะคะ

                      คร้าบ...ม่ายมีปัญหา^^”พี่ซาเคียวยิ้มตอบฉันอย่างอารมณ์ดี

                      ฉันกับเขาลุกขึ้นเก็บของของตัวเองแล้วเดินลงไปที่ลานจอดรถด้านล่างโรงพยาบาล พี่ซาเคียวกดรีโมทรถสปอร์ตสีแดงคันหรู

                      กึก...

                      เสียงปลดล็อกประตูรถดังขึ้น พี่ซาเคียวเดินไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้ฉันก่อนที่ตัวเองจะเดินไปนั่งประจำที่คนขับ พี่ซาเคียวขับรถออกมาจากโรงพยาบาล

                      ตอนนี้พี่ซาเคียวทำงานอะไรอยู่หรอคะฉันชวนเขาคุยพลางมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขาที่ยังหล่อเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย ให้ตายเถอะคนหน้าตาดีนี่หน้าอิจฉาจริงๆเลย

                      อ่อ...ตอนนี้ก็รักษาความปลอดภัยให้คนทั่วไปน่ะครับ

                      เอ๋? พี่ซาเคียวเป็น รปภ. หรอคะ

                      เฮ้ย...ไม่ใช่!!”

                      อ้าวก็บอกว่ารักษาความปลอดภัยง่ะ =^=”ฉันทำหน้าง้ำ

                      ฮ่าๆๆ มันก็คล้ายๆนะครับแต่มันจะไฮโซขึ้นมาหน่อย

                      มีงาน รปภ.ที่ไหนไฮโซด้วยหรอคะ -_-^^”

                      มีซิครับ ที่เขาเรียกกันว่าบอร์ดี้การ์ดไงครับ

                      อ๋อ...พี่ซาเคียวเป็นบอร์ดี้การ์ดหรอคะเนี่ย

                      คร้าบบ

                      แล้ววันนี้ไม่ต้องทำงานหรอคะ

                      พี่ลามาครับ

                      อ๋อ...แม่พี่ไม่สบายนี่เนาะ

                      ครับ

                      ฉันกับเขาคุยกันเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย จนเขามาจอดรถที่หน้าภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง

                      เป็นบอร์ดี้การ์ดนี่ท่าจะรายได้ดีกว่าหมออีกนะคะเนี่ย -*-ฉันเหน็บเขาเล็กๆขณะที่ก้าวขาลงจากรถที่เขาเปิดให้

                      ก็ไม่เชิงหรอกครับ^^”

       

                  บ่ายโมงตรง

                      วันนี้ฉันสนุกมากๆเลย ขอบคุณนะคะฉันบอกกับพี่ซาเคียวที่มาส่งฉันถึงหน้าโรงพยาบาล

                      ครับไม่เป็นไรครับ โอกาสหน้าเราคงได้เจอกันอีก

                      ค่ะ

                      ฉันมองตามพี่ซาเคียว  จนเขาขึ้นรถแล้วขับไปจนลับสายตาแล้วจึงขึ้นไปทำงานต่อที่ห้องของตัวเอง...

                      ไง...

                      พี่ไค!”

                      พอฉันเปิดประตูห้องทำงานเข้าไปก็จ๊ะเอ๋กับพี่ไคเข้าอย่างจัง

                      ทำไม...ตกใจขนาดนั้นเลยหรอ - -*

                      เอ่อ...ก็ไม่เชิง เอ้ย...ไม่ใช่ค่ะ

                      ไปไหนมาล่ะ

                      แล้วพี่ไคไม่ทำงานหรอคะ เปลี่ยนเรื่องเฉยเลยฉัน -_-

                      ถ้าทำก็คงไม่มาอยู่ตรงนี้หรอก

                      อ่า...ค่ะ

                      พี่ไคจ้องหน้าฉันด้วยสายตาแปลกๆ ทำให้ฉันรู้สึกสยองขึ้นมาตะหงิดๆ

                      ไปกินข้าวมาอร่อยมั้ย

                      ถ้าตอบว่าอร่อยนายจะเอาไม้หน้าสามตีหัวฉันมั้ยล่ะยะ

                      ก็งั้นๆแหละค่ะความจริงอร่อยม้ากมาก

                      ดีจังนะ...สามีตัวเองต้องเข้าประชุมเพื่อหาเงินมาให้ภรรยา แต่ตัวภรรยากลับออกไปเที่ยวกับผู้ชายอื่น

                      เอาแล้วไง...อย่างงี้เขาเรียกว่าประชดใช่มั้ยคะคุณผู้อ่านนนน –O-!!!

                      พี่ไคคะ พี่ซาเคียวเขาแค่ชวนฉันไปกินข้าวเพื่อตอบแทนที่ฉันให้คำปรึกษาเท่านั้นเองนะคะ -^-;;”

                      อ๋อ...หรอ...

                      แง่มๆๆ...อีตาบ้านี่งอนแล้วง้อยากซะด้วยแฮะ

                      พี่ไคประชุมเสร็จแล้วก็รีบมาที่นี่เลยหรอคะ

                      อืม...ว่าจะมาชวนภรรยาสุดที่รักไปกินข้าวซะหน่อย

                      เอื้อก...พูดยังงี้ทำให้ฉันรู้สึกผิดอย่างแรง

                      แล้วพี่ไคก็ยังไม่ได้กินข้าวหรอคะ

                      อืม

                      พี่ไครอฉันตั้งแต่ 5 โมงเช้าเลยหรอคะ

                      อืม

                      หิวมั้ยคะ

                      หิว

                      อ้ากกกก...อีตาบ้าอย่าตอบแต่คำสั้นๆได้มั้ย!!!!

                      งั้นฉันพาไปกินข้าวมั้ยคะ

                      ไปสิ

                      เฮ้ย! ถ้าจะพาพี่ไคไปงั้นฉันก็ต้องโดดงานอ่ะสิ

                      เอ่อ...เดี๋ยวขอฉันโทรหาเพื่อนแป้บนะคะ

                      พี่ไคไม่ตอบอะไร เขาพยักหน้าฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคุณมินาโกะเจ้าเก่าทันที

                      เอ่อ...คุณมินาโกะคะฉันขอสลับเวรกับคุณหน่อยได้มั้ยคะ

                      อ้อ...ได้สิคะ ฉันว่างๆอยู่พอดีเสียงใสๆของคุณมินาโกะดังมาตามสาย

                      ค่ะ...ขอสลับเป็นฉันทำบ่ายโมงพรุ่งนี้แล้วคุณมาทำวันนี้แทนฉันทีนะคะ

                      ได้ค่ะ...ฉันจะรีบไปทันที

                      ค่ะ

                      ฉันวางสายลง ถอดเสื้อกาวน์ออกพาดไว้บนพนักเก้าอี้แล้วดึงแขนพี่ไคออกมาจากห้องทำงานทันที

                      เธอจะพาฉันไปไหนพี่ไคถามขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน(เวลาที่เขาอารมณ์ไม่ดีเขาจะพูดไม่มาก)

                      นั่นสิ...เราจะไปไหนกันดีล่ะคะฉันถามด้วยใบหน้ามึนๆ

                      เฮ้อ...จริงๆเลย เธอนี่นะเขาส่ายหัวอย่างเอือมๆ

                      งั้นก็กลับบ้านกันเลยละกัน ไหนๆวันนี้เธอกับฉันก็โดดมาพร้อมกันแล้วนี่

                      อย่าพูดยังงั้นสิคะเสียชื่อเราสองคนหมด - -*”

       

                      ฉันกับพี่ไคกลับมาถึงบ้านในเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง(ว่าแต่ฉันจะคอยบอกเวลาทำไมกันนะ -  -*)แม่บ้านมองเราสองคนแปลกๆ แต่ดูพี่ไคไม่สนใจอะไรเลย เหมือนเขาจะยังไม่หายโกรธ ทำไงดียัยมามิ >_<    

                      พี่ไคเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขานั่งลงบนโซฟาหน้าโทรทัศน์อย่างไม่สบอารมณ์

                      พี่ไคคะฉันเข้าไปนั่งข้างๆพี่ไค เอาไม้ตายเลยละกันฉัน

                      ไม่เคยเรียกชื่อฉันหรอ =_=นั่น...กวนกลับมาอีก

                      ฉันรักพี่ไคนะคะ

                      ตุ้บ!

                      พี่ไคทำรีโมตที่ถืออยู่ในมือร่วงลงพื้น

                      พูดอะไรของเธอพี่ไคหน้าแดงไม่ยอมหันมาสบตาฉัน ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ สามีฉัน >_<!!!

                      ก็ฉันรักพี่ไคนี่คะทำไมจะพูดไม่ได้ >^<!!”ฉันพูดพลางกระแซะเข้าไปเบียดพี่ไค เขาหันหน้าที่แดงเถือกไปทางอื่นแต่มือของเขากลับค่อยๆโอบเอวของฉันเข้าไปใกล้

                      ฉันก็รักเธอนะ...

                      อะไรนะคะ...ไม่ได้ยินเลย ^O^”

                      ฉันรักเธอ!”

                      อะไรนะคะ...อุ๊บ...

                      ฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วโน้มหูเข้าไปใกล้พี่ไค เขาจึงดึงหน้าฉันไปจูบแทนคำตอบ ริมฝีปากของเขาค่อยๆบดเบียดริมฝีปากของฉันอย่างอ่อนโยน แต่จู่ๆฉันก็รู้สึกคลื้นไส้ขึ้นมา

                      พลั่ก!!ตุ้บ!!!

                      ฉันออกแรงผลักพี่ไคจนเขาหล่นลงไปก้นกระแทกกับพื้นเสียงดังตุ้บ แล้วฉันก็รีบวิ่งไปอ้วกที่ห้องน้ำทันที

                      แหวะ...อุ...อ้วก...

                      พี่ไครีบวิ่งมาเอามือลูบหลังฉันทันที

                      เป็นอะไรมากรึเปล่า

                      ไม่...ค่ะ...อุ...อุ...อ้วกกกกก

                      ค่อยๆอ้วกออกมาให้หมดเลยนะ

                      ค่ะ...อ้วกกกกกก

                     

                      30 นาทีผ่านไป

                      เป็นยังไงบ้าง ค่อยยังชั่วขึ้นมั้ยพี่ไคถามฉันที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียง เพราะหลังจากฉันอ้วกเสร็จก็เป็นลมไปทันที

                      ฉันตรวจแล้วเหมือนร่างกายเธอจะอ่อนเพลียมากหรือไม่ก็อาหารเป็นพิษ นอนพักผ่อนให้มากๆนะ

                      ค่ะ...

                      หรือเมื่อคืนจะหนักเกินไป...

                      จะบ้าเหรอคะ!!!!”ฉันแหวใส่เขาทันที เขายิ้มที่มุมปากนิดๆแล้วเดินมาลูบหัวฉันที่นอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนโยน

                      แล้วพี่ไคกินข้าวหรือยังคะ

                      ให้แม่บ้านชงกาแฟให้แล้ว

                      เดี๋ยวก็ไม่อิ่มหรอกค่ะ

                      ฉันไม่เป็นไรหรอกน่าพี่ไคว่าแล้วเอามือมาวางที่ท้องของฉัน เขาขมวดคิ้ว

                      ทำไมหรอคะ?ฉันถามงงๆ

                      เธออ้วนขึ้นหรือเปล่า

                      พี่ไคพูดยังงี้กับสุภาพสตรีได้ยังไงคะ!”ฉันแว้ดใส่เขาทันที นี่ถ้าฉันลุกไหวฉันคงเอาหมอนฟาดเขาไปหลายทีแล้ว

                      ฉันไม่ได้จะว่าเธอยังงั้น แต่ฉันไม่แน่ใจ…”

                      ไม่แน่ใจอะไรคะ –O-^^^^”ฉันทำหน้าบึ้ง

                      ก็...

                      อ้วกกกกกก...ฉันรีบหยิบถังขยะข้างเตียงมาอ้วกทันที เหมือนจะมีคนเตรียมไว้ให้ จู่ๆก็เกิดคลื่นไส้ขึ้นมาได้ยังไงเนี่ย

                      อ่ะ...พี่ไคยื่นแก้วน้ำให้ฉันดื่ม

                      สงสัยอาหารจะเป็นพิษมั้งคะฉันพูดขึ้นหลังจากดื่มน้ำเสร็จเป็นเวลาเดียวกับที่ห้องนอนเปิดออกพอดี

                      สวัสดีครับผู้ชายใส่เสื้อกาวน์คนนึงเดินเข้ามา

                      ช่วยตรวจให้หน่อยครับเหมือนเธอจะมีอาการแพ้อะไรบางอย่าง

                      พี่ไคบอกหมอคนนั้น พี่ไคก็เป็นหมอทำไมเขาต้องให้นายคนนี้มาตรวจให้ฉันด้วยล่ะเนี่ย ผู้ชายคนนั้นมองฉันและถังขยะที่วางอยู่ข้างๆเตียง

                      สภาพยังงี้คงไม่ต้องตรวจอะไรมากหรอกครับ

                      เห?...

                      วันนี้อาเจียนมากี่รอบแล้วครับ

                      เอ่อ...เมื่อกี้ก็รอบที่สองค่ะ

                      เชื่อมั้ยครับว่าต้องมีรอบที่สะ...

                      อ้วกกกกกกกกก....

                      เขาพูดยังไม่ทันขาดคำฉันก็อ้วกออกมาอีกครั้ง

                      หมอคนนั้นยิ้มอย่างอบอุ่นแล้วหันไปมองทางพี่ไค

                      ยินดีด้วยนะไค เมียนายท้องแล้วว่ะ

                      หา!!!!!”ฉันอุทานออกมาเสียงดัง

                      ว่าแล้วเชียวพี่ไคพูดเรียบๆแต่ริมฝีปากของเขากลับกระตุกยิ้มฉายแววยินดีออกมา

                      ขุนดีๆล่ะ...ลูกจะได้ออกมาแข็งแรง

                      กรี๊ดดดด...ฉันไม่ใช่หมูนะยะจะมาขุนฉันได้ยังง้ายยยยยย

                      ขอบใจว่ะ เอาไว้วันหลังฉันจะเลี้ยงพี่ไคพูดกับหมอคนนั้นสักพัก แล้วหมอคนนั้นก็เดินออกไป

                      มามิ...พี่ไคเรียกฉันที่กำลังมองเขาด้วยสายตาหงุดหงิด

                      พี่ไคล้อเล่นรึเปล่าคะเนี่ย

                      หน้าตาฉันน่าล้อเล่นมากเลยหรอ

                      งั้น...ฉันท้องจริงๆหรอคะ

                      ก็จริงน่ะสิ หรือจะให้พิสูจน์พี่ไคมองฉันด้วยสายตากรุ้มกริ่มแล้วมานั่งข้างๆฉัน

                      ม่ะ...ไม่ต้องค่ะ แล้วฉันจะทำยังไงต่อไปดี

                      ไม่ต้องทำอะไรหรอก...เป็นแม่ของลูกที่ดีก็พอ

                      พี่ไค

                      พี่ไคยิ้มให้ฉันแล้วเขาก็กอดฉันไว้แน่น ฉันกอดตอบเขาด้วยความตื้นตัน

                      ฉันรักเธอนะ...รักลูกของเราด้วยพี่ไคพูดข้างๆหูของฉัน

                      ค่ะ...ฉันก็รักพี่ไค

       

                      นิยายความรักของฉันก็คงจบลงเพียงเท่านี้...ต่อจากนี้ไปฉันคงต้องเริ่มนิยายบทใหม่โดยมีลูกของฉันเพิ่มเข้าไปด้วย ทุกคนคงจะมีคนรักของตัวเอง

                      ...พยายามรักษาความรักนั้นไว้ให้ดีที่สุดนะคะ แล้วเราจะได้ผลตอบแทนที่ทำให้มีความสุขตลอดไป...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×