คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : LOVE RAIN
LOVE RAIN
คุณเชื่อในพรหมลิขิตไหม?? คุณเชื่อว่าว่าเพียงแค่เดินส่วนกันนั่นก็คือพรหมลิขิตแล้ว แล้วถ้าทักแล้วรู้จักกันละ มันจะส่งต่อเป็นความรักได้หรือเปล่า? ไม่รู้หรอกว่าพรหมลิขิตจะทำให้คนรักกันหรือแค่พบกัน แต่เมื่อมาพบกันขนาดนี้ก็ขอ “รัก” หน่อยแล้วกัน
ความรักที่เกิดขึ้นเพราะพรหมลิขิต ท่ามกลางสายฝนอันชื่นฉ่ำ
เสียงกระดิ่งสีสวยที่ถูกแขวนไว้ที่ประตูทางเข้าซึ่งอยู่ถัดลงมาจากป้าย “@TEENTOPCAFe” ป้ายร้านขนาดปานกลาง ดังขึ้นมันเป็นสัญญานบอกว่ามีคนกำลังเข้ามา หน้าหล่อเงยหน้ามองผู้มาเยือน ก่อนจะยิ้มกว้าง กว้างจนทำให้อีกคนยิ้มตาม
“บยองยิ้มอะไรดูดิ่ยังกับก็อซซิล่าเลย” เสียงของผู้มาเยือนทักเมื่อเห็นหน้าอีกคนยิ้มแก้มแตกขนาดนั้น
“ก็ยิ้มต้อนรับแฟนคนสวยไง” หนุ่มหล่อพูดพลางเดินไปกอดอีกคนที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ มือหน้าค่อยๆสวมกอดไปทางด้านหลังอย่างแผ่วเบาก่อนที่ใบหน้าอันหล่อเหลาจะซุกกับต้นคอของอีกคนที่ได้แต่ยืนยิ้มกับการกระทำของบุคคลหน้าหล่อคนนี้
“ตัวหอมจังเลย ที่รักใครน๊า” ชอนจีขำกับคำพูดน่ารักๆอ้อนๆของคนตัวโตก็อดไม่ได้ที่จะกอดตอบก่อนที่คนตัวใหญ่จะนั่งลงบนเก้าอี้ของร้านมิวายจับคนตัวเล็กในอ้อมกอดนั่งลงไปบนตักใหญ่ คนตัวเล็กค่อยๆซบลงไปบนอกกว้าง
“อ้อมกอดนี้ของจี้ อกที่มีไว้ซบก็ของจี้ ตักแกร่งๆก็ของจี้ มือคู่นี้ที่โอบจี้ไว้ก็ของจี้ ผู้ชายหน้าตี๋คนนี้ก็ของ...”
“ลี ชานฮี ตรงนี้มันก็เป็นของจี้นะ” บยองฮอนบอกพลางจับมือเล็กๆไปกอบกุมที่หน้าอกข้างซ้าย “หัวใจ”
“ตรงนี้ของจี้ก็มีไว้ให้บยองนะ” คนตัวเล็กพูดก่อนจะก้มหน้าอายๆ
“แล้วจูบนี้มันก็ของจี้” คนตัวโตก้มหน้าไปประชิดหน้าคนตัวเล็กก่อนริมฝีปากจะค่อยๆบรรจงแตะลงไปบนริมฝีปากสีเชอรี่ของอีกฝ่าย คนตัวเล็กค่อยๆเผยอริมฝีปากเพื่อให้คนตัวโตลุกล้ำ ลิ้นหนาค่อยๆสอดไปในปากของคนตัวเล็ก ทั้งสองแลกลิ้นกันไปมา จูบหวานฉ่ำท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมาอย่างไม่ขาดสาย
ภาพความทรงจำของเราสองคนที่พบกันครั้งแรกที่มันจะตราตรึงในหัวใจมิรู้ลืม
ภาพที่เราพบกันครั้งแรกที่ผมพบกับเธอ เธอที่ทำให้ผมเข้าใจความหมายของคำว่ารัก รักที่ไม่ว่าจะเกิดที่ไหนเวลาใด กับใคร มันก็สวยงาม
ในฤดูฝนเช่นนี้ไม่แปลกที่น้ำใสๆจะหยดลงมาจากฟากฟ้าได้ทุกวัน ซึ่งอาจจะสร้างความรำคาญใจให้กับใครหลายๆคนที่เกลียดความชื้นแฉะ และการเดินทางในช่วงฝนตกที่รถติดกันจนแน่นขนัด ซึ่งวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฝนตกเหมือนทุกวัน แต่ในนั้นคงไม่ใช่หนุ่มหน้าหล่อคนนี้
“บยอง แกคิดว่าแกจะไปรอดไหมกับกิจการร้านเครื่องดื่มแกในหน้าฝนเนี่ย” เสียงดังของเพื่อนสนิทเจ้าของชื่อเมื่อสักครู่เอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ
“ไม่รู้สิ ฉันไม่ใช่หมอดูจะไปรู้อนาคตได้ยังไงกัน” บยองฮอนตอบไปตามความจริงแต่ก็ยอมรับว่าแอบกวนเพื่อนรักอยู่บ้าง
“กวนได้ตลอดเลยนะ ฉันกลับดีกว่า ว่าจะอยู่เป็นเพื่อนกวนๆแบบนี้อยู่คนเดียวไปเถอะกลับไปกินข้าวเย็นกับนีแอลดีกว่า” มินซูพูดแล้วก้าวฉับๆออกไป เจ้าของร้านมองเพื่อนที่เดินออกไปอีกฟากของถนนก่อนจะขับรถคันหรูออกไป หน้าหล่อหันกลับไปจัดแก้วที่ทำค้างไว้เมื่อสักครู่ แล้วต้องหันกลับมาอีกเมื่อเสียงกระดิ่งสีสวยที่เค้าติดเองเมื่อเช้าดังขึ้น
“ลืมไรวะมินซู” เจ้าของร้านหน้าหล่อหันไปถามผู้มาเยือนแต่ไม่ใช่เพื่อนสนิทของเค้าอย่างที่คิดไว้
“เอ่อ...คือว่าขอผมหลบฝนแป๊บนึงนะครับ” เสียงหวานใสของอีกคนเรียกสติเจ้าของร้านให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว
“อ่อ ครับๆเชิญนั่งเลย” บยองฮอนผายมือไปที่เกาอี้สีขาวที่ทำจากไม้อย่างดี
“ไม่เป็นไรครับ แค่ผมมายืนก็เลอะเทอะร้านคุณไปหมดแล้ว ถ้าไปนั่งอีกมีหวังร้านคุณเลอะเทอะ น้ำท่วมร้านเพราะผมแน่ๆ” อีกฝ่ายพูดอย่างเกรงใจด้วยท่าทีเป็นมิตร
“ไม่เป็นไรหรอกครับ กว่าฝนจะหยุดคงอีกสักพัก ถ้าผมปล่อยให้คุณยืนอยู่แบบนั้นมีหวังเมื่อยกันพอดี นั่งเถอะครับ” เจ้าของร้านยังคงรบเร้าให้ผู้มาเยือนนั่ง ก่อนที่อีกคนจะค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงบนเกาอี้ด้วยความเกรงใจ
“ที่นี่พึ่งเปิดหรอครับ ผมผ่านมาหลายรอบไม่เคยเห็นเลย” ผู้มาเยือนพูดทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบ
“ครับ กำลังจะเปิดพรุ่งนี้แล้วครับ” เจ้าของร้านบอกก่อนจะเดินยกแก้วสวยที่ถูกบรรจุด้วยชาร้อนๆมาให้อีกคน
“ชาจัสมินครับ กลิ่นหอมของมันจะช่วยให้คุณผ่อนคลาย แล้วก็เพิ่มความอบอุ่น ตัวคุณเปียกมากนะครับ” เจ้าของร่ายประโยคแสนยาวที่ไม่ค่อยจะหลุดออกมาเท่าไหร่
“ขอบคุณครับหอมมากเลย” ผู้มาเยือนค่อยๆจิบชาทีละน้อยๆเหมือนตั้งใจให้อีกคนรู้ว่าเค้าเกรงใจและค่อยซึมซับรสชาติหวานหอมแต่อบอุ่นในเวลาเดียวกัน
“คุณแต่งร้านเองหรอครับ” คนหน้าหวานถามพลางมองไปรอบๆร้านตกแต่งด้วยสีเหลืองอ่อนแซมแดงดูอบอุ่นและสวยหวาน
“ใช่ครับผมแต่งเองหมด ผมว่ามันไม่เปลืองแล้วก็ได้ตามแบบที่เราต้องการด้วย” เจ้าของร้านค่อยๆอธิบายการตกแต่งที่ละส่วนของร้านให้คนแปลกหน้าอีกคนฟัง อีกคนที่ฟังก็ฟังอย่างตั้งใจพร้อมทั้งออกปากชมไปหลายที
“น่าอิจฉาคุณจัง ผมเคยอยากเปิดร้านเบเกอรี่นะ แต่ผมไม่ค่อยมีฝีมือทางด้านนี้เลย” เสียงใสฟังดูเศร้าๆ
“ถ้าฝึกเรื่อยๆเดี๋ยวคุณก็เป็นครับ อย่าไปคิดว่าทำไม่ได้สิ ตอนแรกที่ผมจะมาเปิดร้านเพื่อนๆก็ล้อก็ถามกันเยอะว่าอย่างผมจะทำได้หรอ ผมก็พยายามพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผมทำได้ คุณเองถ้าอยากทำอะไรก็ทำเลยอย่าไปคิดว่าทำไม่ได้” เจ้าของร้านให้กำลังใจอีกฝ่าย ก่อนที่คนแปลกหน้าจะยิ้มรับแก้มปริแล้วพยักหน้าเบาๆ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะฝนซาแล้ว ค่าเครื่องดื่มเท่าไหร่ครับ” เจ้าของร้านส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรครับผมเลี้ยงคุณแล้วกัน ถือว่าเลี้ยงฉลองเปิดร้านพรุ่งนี้” คนแปลกหน้าพยักหน้าอีกครั้ง ปากบางค่อยๆระบายยิ้มให้หนุ่มหน้าหล่อคนนี้
“งั้นผมจะแวะมาอีกนะครับ อ่อผมชื่อ ลีชานฮีนะเรียกจี้ก็ได้” กว่าที่เจ้าของร้านจะแนะนำตัวเอง เจ้าของชื่อน่ารักคนนี้ก็เดินลิ่วๆหายลับไปแล้ว
ไม่รู้ทำไมตั้งแต่วันนั้นเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งดังเจ้าของร้านคนนึ้จะสนใจทุกครั้ง แต่มันก็ไม่ใช่สักครั้ง ไม่ใช่คนที่อยากพบ
“ฮยองผมกลับก่อนนะฝนตกลูกค้าไม่ค่อยมีนัดกับแฟนไว้ด้วย” ชางโจ เด็กเสิร์ฟร้านพูดล่ำลาก่อนจะเดินออกไปท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมาหลังจากไม่ตกมาถึง3วัน
“สวัสดีครับ” เสียงทักใสๆที่คุ้นหู บยองฮอนจำมันได้ดี หน้าหล่อหันขวับกลับมา แล้วก็เป็นไปตามที่เค้าคิด เจ้าของร่างเล็กๆหน้าหวานๆคนนั้น
“ผมนึกว่าคุณจะไม่มาที่นี่แล้วซะอีก” เจ้าของร้านถามด้วยอารมณ์ที่ไม่อาจจะคาดเดาได้
“พอดีผมต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดพอถึงบ้านปุ๊บก็ตรงมาร้านคุณเลยนะ” เสียงใสรีบบอกไปอย่างกับกลัวว่าอีกคนจะเข้าใจผิด ทำให้เจ้าของร้านหน้าหล่ออดยิ้มไม่ได้
“ครับๆ รับทราบจี้จะรับเครื่องดื่มอะไรดี” เจ้าของชื่อที่กำลังนั่งดูบรรยากาศรอบๆร้านเพลินๆต้องหันกลับมาด้วยความแปลกใจ
“เอ๊ะ...คุณรู้จักชื่อผม” อีกฝ่ายเอียงคอถาม
“ก็คุณบอกผมวันนั้นไง ก่อนจะเดินออกไป” เจ้าของร้านบอกด้วยอารมณ์นึกขันคนตรงหน้า บอกเองแท้ๆดันลืม
“จริงด้วย ขอโทษน๊า ผมความจำไม่ค่อยดี ว่าแต่คุณชื่ออะไร”
“บยองฮอนครับเรียกบยองเฉยๆก็ได้” อีกคนพยักหน้าก่อนจะสำรวจใบหน้าอีกฝ่าย หน้าหล่อ ตาตี่ๆที่ถูกเขียนด้วยอายไลเนอร์ รอยยิ้มที่ยิ้มเมื่อไหร่ก็ถึงเจ้าก็อซซิล่าให้ได้เลย
“อยากดื่มอะไรเดี๋ยวบยองทำให้” เจ้าของร้านเปลี่ยนสรรพนามทันที
“เอาน้ำมะนาว จี้ชอบกินน้ำมะนาว” บยองฮอนพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์ อีกคนเดินตามไปนั่งที่เก้าอี้หมุนสายตาจับจ้องไปที่คนตัวโตที่ทำน้ำมะนาวอย่างชำนาญ ใช้เวลาเพียงไม่นานน้ำมะนาวก็มาอยู่ตรงหน้า
“อร่อยจัง” คนตัวเล็กเอ่ยปากชมหลังจากดูดไปเกือบครึ่งแก้ว ทำให้คนทำยิ้มรับอย่างพอใจ
“บยองวันหลังบยองสอนจี้ทำบ้างนะ จี้อยากทำน้ำมะนาวเป็น จี้ชอบกิน” บยองฮอนมองอีกฝ่ายก่อนจะพยักหน้ารับรู้
หลังจากวันนั้นทุกวันพนักงานในร้านจะเห็นเจ้านายหน้าหล่อกับผู้ชายตัวเล็กหน้าหวานมาเรียนทำน้ำ ลองสูตรขนมทุกวันก็อดที่จะยิ้มกลับภาพตรงหน้าไม่ได้
“ต้องใส่น้ำตาลไปแค่นี้ แป้งแค่นี้” คนตัวโตตวงส่วนผสมให้คนตัวเล็กดู ก่อนจะใช้เครื่องปั่นให้เข้ากัน แล้วนำมาทำเป็นคัพเค้กหลากสีสัน
“กินอันนี้สิ สีชมพูๆอันนี้อ่ะ” บยองฮอนยื่นไปให้ชอนจีที่มองดูเค้าอยู่ มือเล็กๆเอื้อมมารับก่อนจะค่อยๆกินมันแต่กินไปสักพักก็ต้องหยุดกินเมื่อเจอสิ่งแปลกปลอมในคัพเค้กสีชมพูชิ้นนี้ มือเล็กแหวกดูนิดๆก็พบแหวนเงินมีลายเล็กๆน่ารักๆอยู่ข้างใน
“บยองนี่มัน....” ชอนจีชูแหวนให้ดู เจ้าของร้านหน้าหล่อยิ้มแป้นก่อนจะเอ่ยประโยคที่เค้าอยากพูดมานานแสนนาน
“บยองรักจี้นะครับ แต่งงานกันนะ” เจ้าของร้านพูดก่อนที่คนตัวเล็กจะโถมกอดเข้ามา เสียงสะอื้นที่กลั้นไม่อยู่ทำให้อีกคนแปลกใจ
“จี้ยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องร้องไห้นะ” บยองฮอนพยายามกอดปลอบแต่ชอนจีกลับส่ายหน้าไปมาในอ้อมกอด
“ไม่ใช่ไม่อยากแต่ง มันดีใจต่างหากเล่าก็อซซิล่าหน้าตี๋” เสียงกระชิบเล็กๆข้างหูทำให้อีกคนยิ้มเอ๋อๆออกมาก่อนจะก้มลงหอมแก้มนวลขาวไปสองฟอด แล้วค่อยๆใส่แหวน
“บยองรักจี้ บยองรักจี้มาก จี้คือสายฝนที่ชื่นฉ่ำและสดชื่นที่สุดของบยองนะ” ชอนจีโอบกอดคนรักแม้อยากจะกลั้นน้ำตาสักเพียงใดแต่เมื่อนึกสิ่งที่คนตรงหน้าพูดก็อดร้องไม่ได้
“จี้ก็รักบยองนะ รักมาก มากที่สุดเลย”
ผมอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงวันแรกที่เรารู้จักกัน จนมาถึงตอนนี้เรานอนอยู่ข้างกัน ตื่นมาเจอกันทุกวัน แค่นี้ในชีวิตผู้ชายคนนี้จะไม่ร้องขออะไรอีกแล้วในชีวิต ขอให้คนตัวเล็กอยู่กับผมตลอดไปก็พอ เราจะเดินกางร่มคู่กันไปทุกๆหน้าฝนเลย
คุณล่ะครับหน้าฝนนี้มีสักคนมาเดินกางร่มคู่แล้วหรือยัง?
End .
ช่วงนี้ฝนตกทุกวันเลยยยอย่าลืมพกร่มดูแลตัวเองด้วยนะคะผู้อ่านแม่ยก อิ___________อิ
ความคิดเห็น