ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Cold Love รักอันเเสนหนาวเหน็บ (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #37 : โหดร้าย!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 435
      3
      9 ก.ย. 56

    Rasp
    Free Theme dek-d By i'nut
    berry
     

     

     

    เปิดเทอมใหม่ช่างวุ่นวายเหลือแสน ก่อนหน้านั้นรินต้องสอบเทียบระดับต้น ซึ่งเป็นระบบของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนที่หยุดยาวเป็นเดือนหรือ 1 เทอม ได้ตามเพื่อนในชั้นทัน รินจึงต้องเรียนพิเศษอย่างหนัก จึงสอบผ่าน

    อีกไม่กี่วันนี้ รินก็จะได้เป็นนักเรียนม.ปลาย ปีที่สองแล้ว รินพลาดการเรียนในเทอม 1 ไป เพราะความวุ่นวายมากมายที่เกิดขึ้น

    รินยังคงอายุ 16 อยู่ แต่อีกไม่กี่เดือนก็จะ 17 เพราะรินนั้นอายุน้อยกว่าใครในชั้นเรียน

    ท้องฟ้าหน้าร้อนยามเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงดุสวยงามและปลอดโปร่ง อากาศเย็นเริ่มสัมผัสได้ทีละน้อย สวนหญ้าหน้าบ้านมีโต๊ะสีขาวตั้งอยู่ ไว้รับสายลมหน้าร้อน ต้นไม้ใหญ่ให้ความร่นรื่นร่มเย็น จึงไม่จำเป็นต้องกางร่มบังแดดเอาไว้

    บนโต๊ะสีขาวมีน้ำชาและขนมวางไว้อยู่ หนังสือหลายเล่มวางกองอยู่หลายสิบเล่ม ล้วนเป็นหนังสือเรียนที่จำเป็นต้องอ่านทบทวนเพื่อที่จะเรียนได้ทันเพื่อนๆในชั้นเรียน

    เสียงกระดิ่งที่แขวนไว้ที่หน้าต่างห้องดังแว่วมาเบาๆ รินเงยหน้ามอง มองเห็นท้องสีฟ้าใสยาวสุดลูกหูลูกตา ความคิดถึงคำนึงหาใครบางคนแล่นเข้าเกาะกุมหัวใจ พาให้ใบหน้านั้นหม่นหมองลงทันที

    เคียวซัง....ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนกันนะ?

    รินไม่เจอเขาเป็นเดือนแล้ว แม้ว่าจะได้รับการบอกเล่าจากชิเงรุว่าเขากำลังทำบางอย่างที่สำคัญอยู่ก็ตาม ซึ่งจะทำให้รินไม่ได้เจอกับเขาอีกนาน แต่รินก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเขา การเรียนพิเศษในช่วงนี้พอจะทำให้ลืมเรื่องเขาลงไปได้บ้าง แต่ว่า ความคิดถึงกลับเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ จนทรมาน

    คุณหนูเจ้าคะ อาหารกลางวันเจ้าค่ะคนใช้เดินมาพร้อมถาดอาหาร วางชามข้าวลงกับโต๊ะ เที่ยงนี้รินอยากทานข้าวหน้าปลาไหล จึงได้ทานสมใจอยาก บางทีสิ่งที่รินต้องการทาน มันก็ดูแปลกไปสักหน่อยเหมือนกัน

     “อ๊า! อร่อยจัง!” เนื้อปลาไหลเนียนนุ่มแทบละลายในปาก ทำเอารินเคลิบเคลิ้มกับความอร่อยจนลืมเรื่องของเคียวชั่วขณะ แต่เป็นแบบนั้นก็ไม่ได้นาน  ก็กลับมาคิดถึงเคียวอีก เป็นอย่างนี้แทบทั้งวัน จนไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ

    ไปเที่ยวดีกว่า!” สรุปหาเรื่องหนีเรียนนั่นเอง

    หนีขึ้นห้องไป เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้านไป โดยมีคุณยายแม่ครัวส่งที่หน้าบ้าน ใบหน้าเรียวเล็กสวมหมวกรูปทรงคล้ายขนมปัง เดินไปอย่างร่าเริง

    สถานีรถไฟมีคนอยู่จำนวนมาก เดินกันขวักไขว่ บ้างก็เป็นกลุ่มนักเรียนที่นัดกันว่าจะไปเที่ยว กลุ่มนักศึกษาที่จะไปปีนเขา หรือพนักงานบริษัทที่ต้องไปทำงานแท้จะเป็นวันหยุด

    จะไปไหนดีนะ?รินนั่งอยู่ที่ม้านั่ง พลางมองสถานที่บนแผ่นกระดานด้านบน สถานที่ต่างๆมีมากมาย ทั้งสวนสนุก สวนสาธารณะชื่อดัง ห้างสรรพสินค้า โรงหนัง ร้านอาหาร

    ดูหนังดีกว่ารินตัดสินใจทำเรื่องที่ไม่เคยทำ นั่นคือการไปดูหนังคนเดียว ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรน่าดูบ้าง

    ห้างสรรพสินค้ามิโดริคาวะเป็นห้างที่รินเคยไปแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้จึงไปได้ เพราะทางที่ขึ้นรถไฟนั้น โควเคยบอกเอาไว้แล้ว ทำให้การเดินทางราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดี

    วันนี้รินสวมชุดเอี๊ยมตัวใหม่ เอี๊ยมสีขาวกับเสื้อสีส้มสดใสดูน่ารักเหมือนตุ๊กตา ภายนอกดูเผินๆเหมือนเด็กผู้หญิง  ที่ทำเอาใครหลายคนมองอยากจะเข้ามาจีบ  แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ดูใสซื่อ ดูสูงไปจนไม่กล้าเข้ามาหาเช่นกัน เพราะเหตุนี้รินจึงนั่งสบายๆมองวิวจากหน้าต่างรถไฟอย่างสบายอารมณ์ไร้ใครมารบกวนตลอดทาง

    รถไฟจอดเมื่อถึงสถานีถัดไป ห่างจากที่เดิมที่รินขึ้นเพียงสถานีเดียวเท่านั้น สภาพไม่ต่างจากสถานีที่จากมาเท่าใดนัก มีร้านค้าในสถานี ร้านน้ำ ร้านข้าวกล่อง

    ร้านข้าวกล่อง!

    ดูเหมือนว่าตัวเองจะลืมว่าตัวเองเพิ่งจะทานข้าวหน้าปลาไหลเป็นอาการกลางวันไป จึงตงรี่ไปที่ร้านข้าวกล่อง ซึ่งมีหลากหลายเมนู มีผู้คนต่อคิวจำนวนไม่น้อย แต่ว่ากลิ่นนั้นหอมดึงดูดยั่วน้ำลาย ดึงรินเข้าไปไกล้อย่างฉุดไม่อยู่

    กลิ่นหอมของไก่ย่าง ไก่ทอดคาราเกะ กลิ่นมันฝรั่ง ปลาย่างและอีกสารพัด

    แผ่นป้ายพลาสติกสีสันสดใสแขวนอยู่หน้าร้านให้เลือกเมนูข้าวกล่อง แบ่งเป็นชุดๆ จะเพิ่มข้าว ของทานเล่นหรือกับข้าวอย่างอื่นก็ยังได้

    ในที่สุด เวลาที่รินรอคอยก็มาถึง พนักงานยิ้มหวานอยู่ตรงเคาเตอร์ รอรับเมนูจากลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม  เมื่อมองไปด้านในจะพบว่ามีพ่อครัวแม่ครัวอยู่หลาย มีถาดใส่อาหารจัดวางไว้แล้วพร้อมสรรพ และยังอุ่นๆอยู่เสมอ เพราะลูกค้าแต่ล่ะคน มักจะสั่งเมนูที่ซ้ำกันอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลามากนักในการจัดข้าวกล่อง

    ไม่ทราบว่าจะรับข้าวกล่องชุดไหนดีคะ?รินมองเมนูอีกครั้ง

    ผมเอาชุด C เพิ่มไก่คาราเกะกับแซลมอนอบพริกไทยดวงตากลมโตเป็นประกาย เมื่อมองไปยังด้านใน เห็นอาหารน่าอร่อยวางเรียงรายเต็มไปหมด พนักงานสาวยิ้มรับ ก่อนจะหันไปตะโกนบอกกับคนด้านในให้รีบจัดข้าวกล่องตามที่ลูกค้าสั่ง

    รอไม่นานนัก ในระดับที่คนต่อไปไม่ต้องรอจนหงุดหงิด เพราะคนทีสั่งก่อน หากต้องรอนาน จะสามารถไปยืนรอข้างๆเพื่อรอรับข้าวกล่องร้อนๆได้

    ข้าวปั้นสามลูกโตๆ ไส้ไก่ทอด ไข่ปลาคอดและไส้บ๊วยและเกลือ เพิ่มไก่คาราเกะกับแซลมอนอบพริกไทยในถ้วยกระดาษ แน่นอนว่ารินต้องไปที่โรงหนังก่อนแล้วนั่งทานข้าวกล่องเพื่อรอเวลาจะดู

    ตี๊ดด....ตี๊ดดด....โทรศัพท์มือถือดังและสั่นที่กระเป๋ากางเกง รินหยิบมาดูทั้งยังข้าวติดรอบปากราวเด็กน้อย พอเห็นชื่อก็แย้มยิ้มไร้เดียงสา

    สวัสดีฮะ พี่ชาย!” รินตอบรับเสียงสดใส  ปลายสายยิ้มน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงน้องชายทำเอาเขาที่ทำกิจกรรมพิเศษที่มหาลิทยาลัยหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

    รินทำอะไรอยู่เอ่ย? พี่ชายกำลังกลับบ้านนะโควถามขณะกำลังขับรถออกจากมหาวิทยาลัย

    ผมมาดูหนังฮะ! ง่ำๆตอบไปพลางเคี้ยวไก่ทอดไป เสียวกร้วมๆดังเข้าโทรศัพท์มือถือ

    เอ๋? ไปคนเดียวได้เหรอ? เป็นอะไรไหม?โควถามอย่างตกใจปนใจหาย เขากลัวว่ารินจะเป็นอันตรายจริงๆนะ น้องชายยังไม่เคยออกไปไหนคนเดียวเลยนะ ไม่นับตอนที่หนีออกจากบ้าน....

    อื้มๆๆ ผมซื้อตั๋วหนังแล้วด้วยล่ะ เรื่อง ‘Kill me last’ ล่ะ รินบอกกับพี่ชาย ชื่อหนังทำเอาโควโทรศัพท์แทบร่วง

    นั่นมันหนังผีสยองขวัญเกรด A ของฝรั่งเศสไม่ใช่เหรอ? ไอ้หนังนั่นที่ทำเอาเขาขนลุกนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะโฆษณาเพียงไม่ถึง 20 วินั่นน่ะนะ

    ทำไมน้องชายสุดที่รักถึงไปได้ไปดูหนังแบบนั้นด๊าย!!

    พี่ชายๆ พี่ชายเป็นอะไรรึเปล่าครับ?”  อีกฟากนึงพี่ชายแทบขับรถเซเพราะได้ยินชื่อหนังจากน้องชาย

    เปล่า...พี่ไม่เป็นไรหรอก..รินดูคนเดียวได้เหรอ? ให้พี่ชายไปดูด้วยมั๊ย?แม้จะกลัวและขนลุกกับหนัง แต่เขาก็ไม่อยากให้น้องชายอยู่คนเดียว ตอนนี้เขากำลังหักเลี้ยวรถย้อนกลับไปยังเส้นทางไปห้างมิโดริคาวะ เพราะเขามั่นใจว่าน้องชายต้องอยู่ที่นั่นแน่ น้องชายรู้จักสถานที่เที่ยวเพียงที่เดียวเท่านั้น

    ไม่ต้องหรอกฮะ! ผมดูคนเดียวได้ พี่ชายแค่มารับผมเท่านั้นเอง!” ไม่เป็นไร ทางข้างหน้าที่จุดให้ยูเทิร์นได้....

    ก็ได้..สักกี่ทุ่มดีเอ่ย? 1 ทุ่ม?เขาถาม  ทำใจไม่สนใจคนอื่นที่มองมา เมื่อเห็นเขากำลังดิ่งไปทางที่ให้รถกลับรถได้ทั้งๆที่เพิ่งหักเลี้ยวรถไปอีกทาง

    1 ทุ่มก็ได้ฮะ! ผมต้องไปแล้วล่ะ บ๊ายบายฮะ!” รินปิดโทรศัพท์ ก็กฎของโรงภาพยนตร์น่ะ บอกว่าต้องปิดโทรศัพท์นี่นา

    ข้าวกล่องก็ทานหมดแล้ว งั้นก็

    ซื้อป๊อบคอร์นกับน้ำอัดลม

    เย้!

    .

    .

    .

    .

    โรงงานแห่งหนึ่งในเมืองหลวง สถานที่ที่คนจบน้อยมักจะเลือกทำงาน ส่วนใหญ่เป็นคนงานที่มีวัยกลางคนและเด็กหนุ่มทำงานพิเศษ ยูนิฟอร์มเป็นชุดหมีสีเหลืองเขียวอ่อน สวมถุงมือและบูท คอยขนของ แบกลังมากมายขึ้นสู่รถบรรทุก

    ทุกคนมีสีหน้าเหน็ดเหนื่อย มีผ้าขนหนูแขวนที่คอคอยซับเหงื่อ  ไม่ไกลมีกระติกน้ำ ที่เหมือนกับโอเอซิสกลางทะเลทราย

    ชายคนหนึ่งที่ท่าทางอิดโรย ดูไร้เรี่ยวแรง แม้ร่างกายจะกำยำล่ำสัน คราบเหงื่อเกาะเต็มเสื้อผ้า พอๆกัลป์คราบฝุ่น เศษหินดินปูนที่ดูหนักหนากว่าคนอื่น ผมยาวรุงรัง หนวดเคราครึ้มดูไม่น่าไว้ใจ ปลีกวิเวกเพียงคนเดียว

    ดูมันนั่นสิ! อยู่คนเดียวอีกแล้ว น้ำท่าไม่กินรึไงคนงานคนหนึ่งพูดขึ้น กลุ่มคนงานเกาะกลุ่มกันต่อคิวกินน้ำอย่างกระหาย อย่างน้อยก็ได้ข้าวกลางวันและเย็นฟรี แถมยังได้ค่าแรงที่พอให้ประทังชีวิตไปอีก นับว่าคุ้มค่ากับชีวิตที่ต้องอยู่ต่อไป

    อย่าไปสนมันเลย เป็นงี้แหละ เดี๋ยวหิวก็มาเองอีกคนนึงร้องกล่าว ทุกคนจึงไม่สนใจเขาอีก ชายคนนั้นนั่งถอนหายใจ พลางหยิบรูปใบหนึ่งออกมานั่งดู ดวงตาที่มักแข็งกร้าวกับทุกคนมองดูรูปนั้นอย่างคิดถึง อ่อนโยนและโศกเศร้า

    เด็กหนุ่มที่มีรอยยิ้มสดใส ราวกับแสงตะวัน เส้นผมสีดำตัดกับสีผิว ดวงตาสีน้ำตาลสวยคู่นั้นราวกับจ้องมองเขาอยู่ เหมือนได้ยินเสียงว่า พยายามเข้านะฮะที่แสนคุ้นเคยดังแว่วมาแต่ไกล

    เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขายืนหยัดจนทุกวันนี้

    อีกเพียง 2 ปีและอีกไม่กี่เดือนเท่านั้น

    เราจะได้พบกัน

    .

    .

    .

    รินยืนรอโควอยู่ที่ทางข้ามหน้าห้าง ผู้คนสัญจรเดินไปมาขวักไขว่ เป็นช่วงที่แสนคึกคักของวัน นอกจากจะมีห้างแล้ว ร้านค้าใกล้ๆก็เปิดไฟสว่าง รอรับลูกค้าที่เพิ่งเลิกงาน

    รินยืนถือของไว้ในอ้อมอก ซาลาเปาเนื้อในห้าง กล่องขนมเค้กและอีกสารพัดเท่าที่จะถือไหว ทำเอาโควที่ลงมาจากรถมาหาชะงักไปเล็กน้อย

    ทำไมซื้อขนมเยอะจังเลยฮึ? เดี๋ยวทานข้าวเย็นไม่ได้นะ”  เขาไม่ได้ว่าน้องชายที่ใช้เงินซื้อขนมเยอะแยะ แต่เขากลัวน้องชายจะรับสารอาหารไม่พอมากกว่า ทานแต่ขนมแบบนี้

    ไม่เป็นไรฮะ ผมทานอิ่มแล้ว พี่ชายทานอะไรรึยังฮะ? ถามไปงับซาลาเปาไป ซาลาเปาเนื้อร้อนๆเริ่มร่อยหลอลงทีล่ะน้อยๆ

    งั้นเหรอ งั้นไปกันเถอะนะ คุณพ่อกับคุณแม่เขากลับดึกโควบอก รินนั่งจุมปุ๊กทานซาลาเปาจนแก้มป่อง

    โควยิ้มอ่อนๆ พลางออกรถออกจากลานจอดรถ แสงสีในเมืองส่องประวายวูบวาบ ร้านค้าร้านรวงและผู้คนดูคึกคัก

    พี่ชายฮะๆรินเรียกโคว  เขาชะงักเล็กน้อย แต่ก็ยังขับรถต่อไปได้

    เมื่อไหร่..ผมถึงจะได้เจอเคียวซังล่ะฮะ?

    เอ่? เรื่องนั้นพี่ชาย..เอ่อ...เขาพูดไม่ได้หรอก เรื่องแบบนี้ จะให้พูดได้ยังไงกัน ว่าจะไม่ได้เจออีกเป็นปีน่ะ

    น้องชายเฝ้ารอทุกวันแบบนี้..เขาก็อยากบอกใจจะขาด อยากจะให้น้องชายรู้

    แต่ว่า หากบอกไป ความพยายามของเขาคนนั้นก็ไร้ค่าน่ะสิ

    อดทนหน่อยนะเขาได้แต่บอกกับน้องชายที่มีใบหน้าเศร้าหมองไปทั้งอย่างนั้น

    บางที ไม่ครบกำหนด รินอาจจะรู้ความจริงสักวัน

    อาจจะพรุ่งนี้

    หรือวันนี้

    .

    .

    .

    หมอนสีขาวเปื้อนน้ำตา ใบหน้าขาวซุกใบหน้าลงกับหมอน สะอึกสะอื้นจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว

    ฮึ่ก...เคียวซัง..เคียวซัง...ฮือ... เด็กหนุ่มร้องไห้จนเสียงสะท้อน ก้องห้อง แสงจันทร์ภายนอกสาดสิ่งเข้ามา ราวกับจะฉายความเศร้านี้ให้ใครอื่นได้รับรู้

    นอกห้องที่ว่างเปล่า ปรากฏร่างสามร่างยืนคุยเสียงเบาอย่างทุกข์ใจ

    ทำยังไงดีคะคุณ ลูกเป็นแบบนี้แล้วฉันไม่สบายใจเลยเอริพูดขึ้นเสียงเบา ช้ำใจกับเสียงร้องไห้ภายในอย่างที่สุด ไม่รู้จะแก้ปัญหาเช่นนี้อย่างไรดี

    เรื่องนี้..คุณพ่อเป็นคนบอกไม่ให้บอกเอง แล้วทางคุโรอากิ ก็ไม่ต้องการให้เขารู้...ชิเงรุเองก็กังวลไม่แพ้กัน

    ถ้าอย่างนั้น...เราไม่ต้องบอกทั้งหมด แต่บอกให้รินอดทนให้มากที่สุด เพื่อจะรอเจอกับเขาในอีก 3 ปีข้างหน้า ไม่ได้เหรอครับ ทางคุณตาก็แค่ไม่อยากให้รินรู้ ว่าเคียวทำอะไรอยู่ไม่ใช่เหรอครับ? ถ้าเราพูดดีๆล่ะก็ รินจะต้องเข้าใจแน่ๆโควออกความเห็นบ้าง เขาไม่ปรารถนาให้น้องชายต้องทุกข์ไปมากกว่านี้

    ถ้างั้น เราบอกเรื่องนี้ตอนเช้าเถอะ วันนี้ ให้เขาพักผ่อนก่อน

    สิ้นสุดราตรี ความจริงบางส่วนจะถูกเปิดเผย

    .

    .

    .

    .

    แสงแดดยามเช้า เป็นสิ่งที่ต้องเผชิญเมื่อสิ้นสุดราตรี นอกจากอาหารเช้าบนโต๊ะอาหารแล้ว ยังมีเด็กหนุ่มที่ทำหน้าตกใจและช็อกโลกนั่งอยู่

    ซุปข้าวโพดเย็นชืด ขนมปังงับคาปาก นั่งฟังความจริงจากปากของคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายอย่างไม่อยากเชื่อ

    อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พ่อรู้ว่าเราลูกไม่ยอมรับแน่ แต่มันถูกตัดสินใจไปแล้ว เพื่อตัวลูกเองนะชิเงรุพยายามปลอบ สีหน้าของลูกชายคนเล็กตอนนี้ดูไม่จืดเอาซะเลย น้ำตาปริ่มๆจะๆไหลอยู่รอมร่อ ดูท่าว่าหากไม่ให้พบกับเคียวอีกครั้ง คงจะไม่รับเรื่องนี้แน่

    แต่!..แต่...แต่ว่า..ผม..เอริจุปาก เธอเองก็ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น ผู้อาวุโสที่เธอรู้จักนั้น ต้องการเช่นนี้ แม้จะรู้จักเพียงไม่นาน แต่ก็อยากให้ชายชราได้มีความสุข เห็นผลลัพธ์ที่สมควรเกิดขึ้น

    และเป็นวิธี ที่จะพิสูจน์ว่าชายคนนั้นเหมาะสมกับลูกชายเธอจริง

    จะต้องเป็นคนที่ปกป้อง ยืนหยัดและอยู่ร่วมกับลูกชายเธอ ยามเธอไม่อยู่แล้วได้ดีที่สุด

    พี่ชายเองก็เห็นด้วยนะ รินไม่อยากให้เขาอดทนเพื่อรินเหรอ ถ้าเขาอดทนไม่ได้ แสดงว่าเขาไม่ได้รักรินจริงนะโควพยายามปลอบ น้องชายดูดื้อและไม่ยอมรับสักเท่าไหร่

    แต่ว่า..ผมไม่ได้เจอเคียวซังตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ..อย่างน้อย ผมก็อยากจะคุยกับเคียวซัง..แค่ 30 นาทีก็ยังดี...อยู่ๆจะไม่ให้เจอแบบนี้ แถมยังไม่รู้กำหนด... หยดน้ำตาน้อยๆไหลผ่านพวงแก้มอย่างน่าสงสาร ทุกคนราวกับมีบางอย่างบีบคั้นหัวใจ ชิเงรุคว้าโทรศัพท์ขึ้น ก่อนพูดเอาใจลูกชายคนเล็กอย่างใจดี

    ถ้างั้น พ่อจะขอร้องคุณตาให้ ให้รินได้พบกับเขา สัก 1 ชั่วโมง  แต่รินสัญญานะว่า จะต้องไม่ไปพบเขาอีกอย่างที่พ่อตกลงกับคุณตาเอาไว้ชิเงรุลูบหัว พลางเช็ดน้ำตาสีใสบนแก้มออก ยิ่งเห็นน้ำตาของลูกชายก็แสนเจ็บปวด

    ฮะ...รินตอบรับเสียงแผ่ว เมื่อนั้นชิเงรุจึงได้ออกไปคุยธุระสำคัญ

     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สาวใช้ในชุดยูคาตะสีพื้นหยิบมันมามอบให้กับชายชรา ที่เหม่อมองท้องฟ้ากว้างใหญ่อย่างสงบ

    นั่นใคร?แม้จะรู้อยู่แล้ว ว่าใครที่โทรมา โทรศัพท์เครื่องนี้มีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้นที่โทรมาได้ ลูกๆทั้งหลายนั้นไม่เคยคิดจะโทรมาหาอยู่แล้ว เว้นแต่เพียงคนเดียว

    ผมเองครับ..ผมอยากจะคุยเรื่องสำคัญ...ชิเงรุพูด

    เรื่องอะไรล่ะ?มาซายะถามกลับไป น้ำเสียงแบบนี้คงไม่พ้นเรื่องของหลานชายสุดที่รักของเขาแน่

    30 นาทีผ่านไป

    ชิเงรุเดินกลับมาในห้องทานอาหารด้วยสีหน้าโล่งอก แต่ก็ปนหนักอก ทุกคนมองสีหน้าเขาด้วยอย่างงุนงง

    เป็นยังไงบ้างเหรอฮะ? คุณพ่อ?ตอนนี้รินอยากรู้จะแย่แล้ว

    ทุกคนพร้อมใจกันมองหน้าเขาอย่างอยากรู้ ทำเอาเขาที่เพิ่งคุยมารู้สึกกระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน

    คุณตาตกลงให้เขามาพบลูกได้ 1 วัน สุดสัปดาห์นี้

    จริงๆเหรอฮะ?!” ดวงตากลมโตมองอย่างดีใจ ในที่สุดก็จะได้พบเคียวซังแล้ว!

    แต่ทุกคนมองหน้าเขาอีก คราวนี้เขาถอนหายใจและพูดอย่างเหน็ดเหนื่อย

    รินจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศในเดือนหน้าจนกว่าจะถึงวันเกิดของรินในอีกสามปีข้างหน้าจึงจะได้กลับมา

    คราวนี้ไม่ใช่แค่เคียวแล้วที่จะต้องอยู่ห่างจากคนรัก นั่นรวมถึงเขาด้วย

    ทำไมทำแบบนี้กัน!

    ทั้งๆที่จะได้อยู่กับลูกชายตลอดไปแล้วแท้ๆ แต่กลับต้องมาจากไปอีกแบบนี้

    ทำร้ายกันชัดๆ คนแก่คนนั้น!

    โหดร้ายเกินไปเเล้ว!
                          ……………………………………

    ขอเตือนนิดนึงฮับ ดราม่าจะมาเยือนอีกครั้งฮับ ‘w’

    ช่วงนี้ใกล้สอบฮะ สอบปลายภาค ผมสอบสัปดาห์หน้าแล้ว อัพช้าอย่างวันนี้อย่าว่ากันน๊า แล้วอาทิตย์ต่อไป ต้องสอบของ มสว ด้วยฮะ อาจจะช้าหรือไม่อัพเลยฮับ ;^;


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×