ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #65 : ตอนที่ 58 วันสำคัญของคนสำคัญ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 44.99K
      165
      13 พ.ย. 54











    ตอนที่
    58 วันสำคัญของคนสำคัญ
     





    “น้องพีม ร่อนแป้งนะคะไม่ใช่กรอกกระสอบทราย ทำเบาๆสิ” พี่อ้อมบอกผมที่กำลังหัวฟูร่อนส่วนผสมเค้กอยู่ในครัว “เดี๋ยวพี่กลับมาดูนะคะ” พี่อ้อมยิ้มให้กำลังใจผมก่อนจะเปิดเตาอบเอาถาดคุกกี้ที่อบเสร็จเรียบร้อยออกไปหน้าร้าน
     




    “ครับๆ” ผมฟังประโยคนี้จากพี่อ้อมมาสามวัน สามวันเต็มๆ สามวันที่เหมือนอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่า ผมต้องตื่น 6 โมงเช้าทุกวัน เพื่อมาฝึกทำเค้ก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ฝืนธรรมชาติบ่ายโมงของผมมาก ผมตื่นตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดจนร้านปิด ผมทำอยู่อย่างนั้นจนพี่ๆในร้านเขาเลิกงาน
     




    แต่ผมไม่เลิก หึหึ ผมก็ฝึกทำต่อทำอยู่คนเดียว ทำซ้ำไปซ้ำมา ทั้งร่อนแป้ง ตีส่วนผสม แล้วก็เข้าเตาอบตามขั้นตอนที่พี่อ้อมสอนทุกอย่าง




    ระหว่างที่รอเค้กมันกลายร่างแปรสภาพจากของเกือบเหลวเป็นของนุ่มๆหอมๆ ผมก็ฝึกทำวิปปิ้งสำหรับแต่งหน้าเค้ก และพอเค้กมันได้ที่ผมก็ฝึกแต่งหน้าเค้ก กว่าทุกอย่างจะเสร็จก็เลยเที่ยงคืน ตอนเดินกลับบ้านผมก็แทบจะลากสังขาร ล้มลงเตียงนอนหัวยังไม่ทันจะแตะหมอนผมก็หลับเป็นตายด้วยความเพลีย
     



    ผมลำบากมาก ลำบากมากจริงๆครับกับการทำเค้ก สำหรับคนอื่นอาจจะเห็นเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับผม คนมันทำไม่เป็นต่อให้พยายามยังไงก็เหมือนพายเรืองในอ่างจากุชชี่ ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่มีอะไรคืบหน้า นอกจากผลาญวัตถุดิบของร้านไปวันๆ ก็ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เข้าใจมั้ยอ๊ากกกกกกกกกกกกก
     



    วันแรกที่ผมเรียนทำเค้กกับพี่อ้อม เค้กของผมดันเสร่อออกมาหน้าเหมือนขนมครก พวกพี่ๆในร้านฮาจนลิ้นไก่ชำรุด และคงจะเอามาล้อผมจนชีวีนี้จะหาไม่ T^T วันที่สองมันก็เริ่มหน้าตาดีขึ้นเว้ย มันคล้ายๆข้าวต้มมัด หึหึ เชี่ยแม่งวันนี้ผมต้องมาเริ่มร่อนแป้งใหม่ อ๊ากกกกกก


    กูเปิดคอมแล้วทำเค้กในเฟสบุ้คให้ไอ้ภูมิจะง่ายกว่าป่ะวะ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงยากขนาดนี้ ทั้งที่อีกครึ่งวันก็จะถึงวันเกิดภูมิแล้ว แต่เค้กที่ผมทำยังเป็นแค่ขนมครกอยู่เลย แล้วผมจะทำยังไงดี พ่องงงงงงง ไอ้พีมอยากตาย
     


    ส่วนภูมิมันก็โทรมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ผมกลับมาอยู่บ้านแต่ผมก็…..ไม่รับ แฮ่ พอมันโทรถี่ๆเข้าผมก็ปิดเครื่องหนีแม่งเลย จากนั้นผมก็โทรหาตัวช่วยเพราะผมค่อนข้างจะแน่ใจว่าภูมิต้องแอบมาหาผมที่บ้านแน่ๆถ้ามันมาก็คงรู้ว่าผมแอบซุ่มทำอะไร
     



    และที่ผมรอดมาได้ตลอดทั้งสามวัน ก็เพราะได้รับความกรุณา ความอนุเคราะห์ ความช่วยเหลือจากตัวช่วยกิตติมศักดิ์ บุคคลท่านนั้นก็คือ…..ไอ้ฟ่างครับ มันช่วยดึงตัวภูมิไว้ และโทรบอกสถานการณ์ผมตลอดว่าภูมิเป็นไงบ้าง
     



    แต่กว่าจะขอร้องให้ไอ้ฟ่างยอมช่วย ผมก็แทบเสียสติกลายเป็นบุคคลวิกลจริต เชี่ยฟ่างกวนกูได้กวนกูดี รู้มั้ยครับว่ามันย่ำยีผมยังไงบ้าง พูดแล้วก็เจ็บใจ แม่งลำเค็ญยิ่งกว่าตอนที่ถูกไอ้ภูมิอัดคลิปสมัยเป็นเบ๊อีก
     



    เชี่ยฟ่างมันบังคับขืนใจให้ผมเรียกมันว่า “พี่ฟ่าง” แถมมันยังบังคับให้ผมพูดอีกว่า “พี่ฟ่างสุดหล่อครับกรุณาช่วยน้องพีมผู้ต่ำเตี้ยด้วยนะครับ”“ผมอยากเป็นเมียพี่ฟ่าง” “พี่ข้าวฟ่างหล่อกว่าไอ้แทน” และอีกสารพัดจนฟันผมแทบพรุนเพราะต้องกัดฟันพูด อย่าให้ถึงทีกูไอ้ฟ่างมึง ไอ้โคตรฮิตเลอร์ ไอ้เลวววววววว ผมไม่รู้จะด่ามันยังไงดี ใครมีคำด่าเจ๋งๆก็ส่งเข้ามาได้ที่ ที่อยู่ด้านล่างนะครับหึ
     


    จากที่ไอ้เลวฟ่างมันรายงานสถานการณ์ของภูมิให้ผมฟัง มันบอกว่าคืนที่ผมกลับบ้านภูมิอาละวาด ภูมิทำลายข้าวของ วันต่อมาภูมิไม่ยอมพูดกับใคร และจบลงที่ภูมิเมา ผมได้ยินแบบนั้นก็เกือบใจอ่อนยอมกลับไปหาภูมิด้วยความรู้สึกผิด แต่ก็ต้องอดทนเพื่อเค้ก เค้กวันเกิดที่ผมอยากทำให้คนสำคัญของผมในวันสำคัญของมัน
     






    สายข่าวของผมยังรายงานอีกว่าวันนี้พ่อกับแม่แล้วก็ญาติๆพาภูมิไปทำบุญที่มูลนิธิที่คุณแม่ก่อตั้ง ตอนเย็นๆก็มีงานเลี้ยงฉลองที่บ้าน ที่ต้องจัดงานวันเกิดก่อนวันจริงเพราะวันที่13 พ่อกับแม่ของภูมิท่านจะเดินทางไปต่างประเทศ ก็เลยจัดงานวันเกิดให้ลูกชายคนเล็กในวันนี้แทน ได้ข่าวว่าเหล่าเซเลป ชาวไฮโซ คนใหญ่คนโตที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจเดินกันเพ่นพ่านเต็มบ้าน แต่ฟ่างบอกว่าภูมิไม่สนใจใคร ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เอาแต่นั่งเหม่อ ใจลอย
     








     
    ขอโทษนะภูมิ แต่เดี๋ยวกูก็จะไปหามึงแล้ว
     












    “น้องพีม ค่อยๆเทลงไปทีละนิดสิ ถ้าเทลงไปหมดแบบนั้นมันจะไม่เข้ากันนะคะ” ผมกำลังเทไข่ไก่ลงในโถเครื่องตี

    “ครับ”

    “ตกลงน้องพีมจะทำเค้กช็อคโกแลตบัตเตอร์เค้ก หรือเค้กผลไม้กันแน่คะ” พี่อ้อมถามตอนที่กำลังช่วยผมเอาไม้พายตะล่อมแป้งในโถ

    ที่พี่อ้อมถามแบบนี้คงเพราะวันแรกผมโชว์พาวเว้ย ผมคิดว่าก็แค่ทำเค้กมันจะไปยากอะไรวะ เลยจัดเต็มครับท่านผู้ชม ประเดิมด้วยเค้กช็อคโกแลตครับ อีกอย่างภูมิก็ไม่ชอบอะไรหวานๆเลี่ยนๆ เค้กช็อคโกแลตจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็อย่างที่บอกครับว่าแม่งหน้าตาออกมาเป็นขนมครกไหม้ๆซะงั้น


    พอวันที่สองเริ่มขยาด เริ่มกลัวเลยถามพี่อ้อมว่าเค้กอะไรทำง่ายที่สุด พี่อ้อมบอกว่าบัตเตอร์เค้ก กระผมก็ไม่รีรอขอกระโจนเข้าใส่ แต่ผลงานก็ไม่ค่อยดีเท่าไร จากที่คิดว่าจะได้เค้กเนยหอมๆ ดันได้ขนมถังแตกมา และตอนนี้ผมก็กำลังหั่นกีวี่อบแห้งเพื่อทำเค้กผลไม้รวม


    “ทำทุกอย่างรวมกันได้มั้ยพี่อ้อม”



    “บ้าเหรอคะน้องพีม พี่ทำขนมมาสิบกว่าปีพี่ยังไม่เคยทำนะ ฮ่าๆ”

    “รู้หรอกน่า ล้อเล่นเฉยๆ” ผมปล่อยให้พี่อ้อมดูเครื่องตีส่วนผสม แล้วกลับมาตั้งใจหั่นผลไม้ “พี่อ้อมมีลูกพรุนอีกมั้ย
     ไอ้ภูมิมันชอบ”


    “มีค่ะ เดี๋ยวพี่หยิบให้นะ น้องพีมจำได้ใช่มั้ยว่าขั้นตอนต่อไปคืออะไร”

    “จำได้คร้าบบบ หั่นผลไม้เสร็จก็เอาไปหมักกับเหล้ารัม เออพี่อ้อม ใส่เหล้าเยอะๆเลยนะ โอ๊ย ฮ่าๆ ตีพีมทำไม”

    “ใส่เยอะก็เมาสิคะ เราใช้เหล้ารัมหมักก็เพื่อให้ผลไม้มันรสชาติดี”
    “แล้วถ้าสมมุติว่าเราไม่มีเหล้ารัม ใช้เหล้าขาวแทนได้มั้ยพีมว่รสชาติอาจจะดีกว่าก็ได้นะ ฮ่าฮ่า” ผมเบี่ยงตัวหลบมือพี่อ้อมที่เอื้อมมาหยิก ฮ่าๆ ก็ไม่แน่นะใส่เหล้าเยอะๆภูมิอาจจะชอบก็ได้นิครับ


    “อย่ามัวแต่เล่นสิคะ เดี๋ยวไม่ทันวันเกิดน้องภูมินะ”

    “เฮ้อออ ถ้าไม่ทันจริงๆ พีมคงใช้เค้กในร้านเรานี่แหละครับ พี่อ้อม พีมเหนื่อยแล้วว่ะ” ผมทำทั้งวันตั้งแต่เช้า แต่พี่อ้อมก็บอกว่าไม่ได้เรื่อง โยนให้หมามันยังแค่ดมๆแถมสะบัดหน้าเดินหนีอีกต่างหาก แม้แต่หมายังไม่แดก คิดดูว่ามันจะแย่แค่ไหน เฮ้อออ ผมจะทำเค้กวันเกิดให้แฟนไม่ได้จริงๆหรอเนี่ย ทำไมมึงถึงได้โง่ขนาดนี้ฮะพีม แค่ทำเค้กให้ภูมิ ให้คนรักมึงก็ทำไม่ได้
     


    “โธ่ น้องพีมอย่าเพิ่งท้อสิคะ พี่อ้อมว่าน้องภูมิต้องดีใจมากแน่ๆที่น้องพีมทำให้ขนาดนี้ ถึงจะเหนื่อยแต่ทำเพื่อคนสำคัญก็ต้องอดทนและพยายามนะคะ พี่ทำเค้กครั้งแรกแย่กว่าพีมอีก” ผมยิ้มตอบพี่อ้อมที่ให้กำลังใจ พี่เขาคงเหนื่อยกับลูกศิษย์โง่ๆอย่างผมไม่น้อย แต่พี่อ้อมก็ยังมีรอยยิ้มและเต็มใจช่วยสอนผมโดยไม่บ่นซักคำ



    “ขอบคุณพี่อ้อมนะครับที่ช่วยสอนพีมแล้วยังให้กำลังใจอีก ถ้าเสร็จเค้กชิ้นนี้พี่อ้อมกลับเลยก็ได้นะครับ เดี๋ยวพีมทำต่อเอง”


    “ไม่เป็นไรจ๊ะ พี่ไม่รีบ ขออยู่ชมเค้กฝีมือน้องพีมดีกว่า”


    “ถ้าเค้กพีมมันออกมาสวย พี่อ้อมก็ไม่ต้องอายนะครับ ของแบบนี้มันอยู่ที่พรสวรรค์ ฮ่าๆ” กูก็ช่างกล้า


    “จ้า พี่รออายมาหลายวันแล้วเนี่ย”
     
     





    “ว๊ายต๊าย อกอีปุ้ยจะแตก ชั้นนึกว่าโจรใต้เอาระเบิดมาลงร้านชั้น ใครทำอะไรไม่ทราบทำไมถึงเละเทะแบบนี้เนี้ย” เสียงแหลมๆสะท้านโลกา มาพร้อมใบหน้าขาวๆของอาปุ้ย ที่สองวันมานี้ขยันออกนอกบ้านเหลือเกิน
     


    พอผมถามว่าทำไมอาไปข้างนอกบ่อยจัง ทำไมไม่อยู่กับพีม อาปุ้ยก็สาดกระสุนกลับมาว่า “แหม๊ ทีแกยังย้ายสำมะโนครัวออกไปอยู่กินข้างนอกได้ แล้วทำไมอาจะไปบ้างไม่ได้ล่ะจ๊ะ” เป็นอันว่าปิดประเด็นครับ

    “น้องพีมกำลังฝึกทำเค้กน่ะค่ะพี่ปุ้ย”



    “คุณพระ!!! เธอว่าไงนะอ้อม ไอ้พีม ไอ้พีมเนี่ยนะทำเค้ก มิน่าน้ำถึงท่วมกรุงเทพ แล้วนั่นทำเค้กหรือเกลือกแป้งจ๊ะ ทำไมหัวเหอขาววอกอย่างนั้น”


    “อาอย่ามาซ้ำเติมได้มั้ย คนยิ่งเครียดๆอยู่” อาปุ้ยเดินนวยนาด จีบปากจีบคอหัวเราะผมอย่างสนุก แล้วก็เข้ามาเกาะไหล่ผมชะโงกหน้ามาดู


    “โถๆๆๆ แค่เจียวไข่มันก็ไม่รอด อะไรเข้าสิงทำไมอยู่ๆถึงได้ลุกมาทำเค้กได้ล่ะจ๊ะลูก” แดกดัน หยามเหยียดกันเข้าไป ฮึ๋ยยยย



    “วันเกิดไอ้ภูมิน่ะอา พีมเลยอยากทำเค้กให้มัน แต่แม่งโคตรยาก ไม่ทำแล้ว”

    “อ้าว เป็นงั้นไป อาไม่เคยสอนให้พีมเป็นคนเหลาะแหละแบบนี้นะ มา กลับมาทำ ไม่มีใครหน้าไหนมันทำเป็นมาตั้งแต่เกิดหรอก มันก็ต้องเรียน ต้องฝึกทั้งนั้น เรื่องรสชาติน่ะไม่ต้องไปแคร์ เพราะเราไม่ใช่ช่างทำขนมแค่ทำด้วยใจ เอาความตั้งใจเข้าสู้รู้มั้ย หรืออย่างน้อยพีมก็ควรคิดถึงความตั้งใจของพี่อ้อมเค้าบ้างที่เค้าอุตส่าห์สอนพีม”



    “น้องพีมอย่าเพิ่งท้อนะคะ ยังมีเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมง และที่สำคัญพี่ว่าเค้กของน้องพีมน่ะใช้ได้แล้วนะคะ”


    “จริงเหรอครับ” การที่ผมเทส่วนผสมทุกอย่างรวมกันแล้วแอบใช้ไข่เป็ดแทนไข่ไก่ ถือว่าใช้ได้ใช่มั้ย แม่งสุดยอดว่ะ เรียนจบขอเซ้งร้านต่อจากอาปุ้ยดีกว่า คึคึ


    “จริงสิคะ แต่น้องพีมอย่าเอาไปเปรียบกับเค้กที่เค้าทำขาย คนที่ทำขนมมาสามสิบปีกับคนที่เพิ่งเริ่มทำแค่สามวัน เราสู้เค้าไม่ได้หรอกค่ะ ก็เหมือนที่อาปุ้ยบอก ความตั้งใจ ความพยายามของน้องพีมมีค่ากว่ารสชาติของเค้กนะคะ”


    “ขอบคุณพี่อ้อม ขอบคุณอานะครับ พีมจะตั้งใจทำ แต่ว่า…….ขอเปลี่ยนไปทำเค้กสตอเบอรี่ได้มั้ย อันนี้มันยากอ่ะโอ้ย อา พีมเจ็บนะเว้ย” ผมคลำหัวตัวเองที่ถูกมะเหงกอาปุ้ยหล่นใส่


    “ฉันกับอ้อมเพิ่งพูดไปแหม่บๆ เฮ้อ มีหลานกับเค้าคนนึงก็ไม่เต็ม โอ้ยยยย ชั้นเครียด เครียดๆ ป่ะอ้อมไปช้อปแก้เครียด ปล่อยไอ้พีมมันละเลงนม เนยมันไป ความรักนี่มันช่างมีอานุภาพร้ายกาจจริงจริ้ง” เสียงบ่นปนแซวของอาปุ้ยค่อยๆไกลออกไป พี่อ้อมยิ้มให้ผมและบอกว่า สู้ๆก่อนจะเก็บของกลับบ้าน ผมมองตามหลังพี่อ้อมกับอาปุ้ย อาน่ะชอบบ่นกลบเกลื่อน แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณพี่อ้อม ขอบคุณอาปุ้ยที่ให้กำลังใจผม
     





     
    พีมสัญญาว่าจะทำด้วยหัวใจครับ




     
    และผมก็อยู่กับแป้ง เนย ไข่ ไอซ์ซิ่ง อยู่หน้าเตาอบอย่างที่อาปุ้ยว่าไว้จริงๆ ตั้งแต่อาปุ้ยกับพี่อ้อมออกไปผมก็อบเค้กได้สามก้อนแล้ว หน้าตาเค้กก็เริ่มดีขึ้นๆ จนเค้กก้อนสุดท้ายออกจากเตาอบ ผมก็อดจะยิ้มให้มันไม่ได้ แม้ว่ามันจะไหม้ไปนิดและเบี้ยวหน่อยๆไม่ค่อยกลมตามพิมพ์เพราะผมตั้งเวลานานเกินไป แต่ก็ยังถือว่าใช้ได้ และผมก็เลือกเค้กก้อนนี้แหละครับ


     
    ผมรอจนเค้กเริ่มเย็นก็ได้เวลาแต่งหน้าเค้กด้วยวิปปิ้งที่ผมทำเอง ตอนบีบวิปปิ้งมือโคตรสั่นเลย ผมแต่งหน้าเค้กเป็นรูปหมียิ้ม โดยใช้สตอเบอร์รี่สไลด์บางๆตามทางขวางให้มันกลมเพื่อทำเป็นดวงตา แล้วก็ผ่าครึ่งเสียบเป็นหู ทำจมูก ทำปากให้ไอ้หมีน้อย และตอนนี้เค้กหน้าตาแปลกๆก็อยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมไม่รู้ว่าตัวเองยืนยิ้มให้ไอ้เค้กหน้าตากวนๆนี่นานเท่าไร แต่ที่รู้คือผมดีใจมากครับ ในที่สุดความพยายามของผมก็สำเร็จซักที



    “ทำได้แล้ว กูทำได้แล้วภูมิ”



    ผมก้มลงเขียนข้อความบนหน้าเค้กเป็นอย่างสุดท้าย








    HAPPY BIRTH DAY นะ หมาภูมิ ^^
     
     
     
     
     





    ……………………………..
     





    ผมย่องขึ้นคอนโดภูมิเวลาสี่ทุ่มเปะ หลังจากโทรไปเตี้ยมกับไอ้ฟ่างแล้วเรียบร้อย ตอนนี้ฟ่างกำลังล่อลวงภูมิให้อยู่ในงานเลี้ยงต่อทั้งที่ภูมิไม่มีอารมณ์ร่วมกับมนุษย์หน้าไหนทั้งนั้น ฟ่างบอกว่าคงอีกซักพักแขกที่มาร่วมงานน่าจะทยอยกลับ จากนั้นก็จะได้เวลาที่ผมนัดมันให้พาภูมิมาส่งตอน……



     
    เที่ยงคืน
     




    เพราะฉะนั้นผมมีเวลาแค่สองชั่วโมงในการจัดสถานที่ ซึ่งเด็กศิลป์อย่างผมทำได้อยู่แล้ว อันดับแรกผมต้องสูบลูกโป่งสวรรค์ติดทุกมุมห้องเพราะภูมิชอบลูกโป่ง แต่ปัญหาคือตัวผมไปไม่ถึงเพดาน แม่ง ขนาดเอาเก้าอี้มาต่อยังแทบจะไม่ถึง กูเศร้า แต่ด้วยความพยายามมันก็สำเร็จ ตอนนี้เพดานห้องเต็มไปด้วยลูกโป่งสีฟ้าสลับขาวกับริบบิ้นที่ห้อยระโยงระยางเพราะผมมัดมันติดกับลูกโป่ง บ๊ะ จะสวยไปไหนวะ คึคึ
     




    ต่อไปก็เอาสมุนหมีเท็ดดี้แบร์ยี่สิบตัวที่ผมสั่งตรงจากเกาหลีเพื่อการนี้โดยเฉพาะมาวางเรียงกันบนโซฟาหน้าทีวี ไอ้หมีพวกนี้เล่นเอาขนหน้าแข้งผมร่วงไปหลายเส้นเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรไว้ค่อยเอาบิลล์ไปเบิกกับภูมิ ฮา ล้อเล่นครับ เพื่อภูมิแค่นี้เสี่ยพีมจ่ายได้
     




    ผมจับพวกมันมานั่งเรียงกัน บางตัวก็ทำหน้าตาน่าหมั่นไส้เห็นแล้วนึกถึงหน้าไอ้ภูมิ มันเลยถูกผมจับฟาดกับโซฟาไปซะหลายตัว ฮ่าๆซาดิสม์จริงๆเลยกูเนี่ย




    เสร็จจากการประทุษร้ายหมี ก็ต่อด้วยการนำกระถางต้นทิวลิปไปตั้งไว้ตรงกลางโต๊ะที่พวกสมุนหมีมันนั่งล้อมวงอยู่ เชี่ยภูมิมันชอบอะไรแต่ละอย่างเล่นเอาผมปาดเหงื่อกว่าจะหามาได้ นี่ยังดีนะที่ผมไม่ต้องเป่าลูกโป่งเอง ไม่งั้นล่ะก็ได้ลมเข้าท้องตายคาลูกโป่งแหงๆ


     
    และแล้วตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้วคร้าบบบบวู้ววววววววววว ต้นทิวลิป ลูกโป่ง เท็ดดี้แบร์ เค้กที่เป็นพระเอกของงาน ผมปักเทียนหนึ่งเล่มเตรียมไว้แล้ว ฟู่ว์ กว่าจะเสร็จ เล่นเอาเหนื่อยจนหอบหืดขึ้นเลยเว้ย ผมยืนชื่นชมผลงานของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจและยิ้มบ้าอยู่คนเดียว ภูมิจะชอบมั้ยนะ
     



    ผมตื่นเต้นว่ะ แต่ก็ตื่นเต้นได้ไม่นานเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกา แม่เจ้าOoOห้าทุ่มครึ่งแล้วเหรอ ผมจะอาบน้ำทันมั้ยเนี่ย ไม่อาบก็ไม่ได้เพราะเหงื่อซกทั้งตัว คิดได้อย่างนั้นผมก็ยกขาขึ้นหนึ่งข้าง บิดตัวเหมือนพวกการ์ตูนตอนที่มันเตรียมวิ่งน่ะครับ ฮ่าๆ แล้วก็ ฟิ่ววววว ขอกราบลาไปอาบน้ำซักห้านาทีนะครับ
     


    ผมรีบอาบน้ำปะแป้งใส่เสื้อที่ผมภูมิใจนำเสนอมากครับ มันเป็นเสื้อที่ผมแอบเพ้นท์เองตอนจิตตกระหว่างฝึกทำเค้ก มันเป็นเสื้อยืดสีขาวธรรมดาๆที่มีคำว่า I       Phum”>//<ผมอายนะเว้ยไม่ใช่ไม่อาย แต่ก็ดีกว่าเสื้อที่ไอ้ภูมิทำแล้วกัน โด่
     




    งานนี้ผมก็ไม่ได้เด่นแค่คนเดียวเพราะผมทำเสื้อแบบนี้ให้ไอ้หมีพวกนั้นทั้งยี่สิบตัวด้วย ตอนนี้ทุกอย่างเพอร์เฟ็คแล้วครับ เหลือแค่รอเวลาที่ฟ่างจะพาภูมิมาส่ง อีกแค่ห้านาทีเท่านั้น ผมปิดไฟทุกดวงในห้องแล้วก็ต้องไปแอบซุ่มที่เคาน์เตอร์บาร์
     




    อีกห้านาทีก็จะถึงวันเกิดภูมิแล้วครับ โอยยย ผมตื่นเต้น การเซอร์ไพรส์แฟนนี่มันตื่นเต้นขนาดนี้เลยหรอเนี้ย


    ติ๊ก ตอก ติ๊ก ตอก ติ๊กตอกๆๆๆๆๆๆ





    00.00



    13 .11. 11



    เข็มนาฬิกาบอกว่าเที่ยงคืน ตอนนี้มีผู้ชายคนหนึ่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์แล้ว
     



    ผมเริ่มกระสับกระสายกำรีโมทจนมือเย็น รอฟังเสียงว่าเมื่อไรประตูจะเปิด ซึ่งมันก็ผ่านมาสิบนาทีแล้ว 00.10 อ่า กูจะประสาทแดกแล้วฟ่าง มึงพาน้องชายมึงมาซะที


    00.20 จากความตื่นเต้นเริ่มเปลี่ยนเป็นความกังวล จะโทรหาฟ่างก็ไม่ได้เพราะกลัวว่ามันจะอยู่กับภูมิ แต่ถ้าอยู่ด้วยกันทำไมยังไม่มาอีก ไหนบอกว่าปาร์ตี้ที่บ้านใกล้เสร็จแล้วไงวะ
     


    00.30 ผมนั่งกอดเข่าพิงตู้เย็น ทำไมภูมิยังไม่กลับห้องอีกนะหรือมันจะค้างที่บ้านกับพ่อแม่ แล้วถ้าเป็นแบบนั้น ทุกอย่างที่ผมเตรียมไว้ก็คงไม่มีความหมาย…..แค่คิดผมก็ใจหวิวๆ แค่จะเซอร์ไพรส์คนรักผมก็ทำไม่ได้ อุตส่าห์ทำเค้กแทบตายสุดท้ายก็รอเก้อ ผมมองเค้กหน้าหมีที่วางอยู่ข้างตัว ผมจะไม่รอแล้ว
     






    แกร็ก
     



    เชี่ย กูตกใจ ผมกำลังจะลุกขึ้นยืน แต่เสียงประตูก็ทำให้ผมไถลตัวลงหมอบอย่างรวดเร็วจนหัวฟาดตู้เย็น สาดดดด เจ็บๆๆๆๆ แต่ แต่ว่า ภูมิมาแล้ว มันมาแล้วครับ


    ตึก ตึก ตึก ตึกตัก ตึกตัก อ๊ากกก ได้ยินเสียงหัวใจผมมั้ยครับ มันเต้นรัวแล้วครับ โคตรตื่นเต้นอ่ะ ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พร้อมกับได้ยินเสียงภูมิถอนหายใจและเหมือนว่ามันกำลังจะเดินไปทางห้องนอน ผมจึงรีบคลานมาโผล่หัวเหนือบาร์


     
    สายตาผมที่อยู่กับความมืดมาครึ่งชั่วโมง ตอนนี้มันใช้การในที่มืดได้อย่างดีเลยครับ ใช่ภูมิจริงๆด้วย ผมรีบกดรีโมทในมือที่คำว่า Play เพื่อเปิดทีวีและเครื่องเล่นดีวีดีที่ผมตั้งไว้ เสียงเท้าที่กำลังเดินหยุดชะงักลง พร้อมๆกับแสงจากทีวีและเสียงเพลงที่ผมทำเป็นของขวัญให้ภูมิดังคลอไปทั้งห้อง
     

    http://www.youtube.com/watch?v=AC7saaW01H0

    เพลงจบลง รูปสุดท้ายในวีดีโอจบลง ทีวีจอยักษ์ติดผนังมีเพียงความมืดเช่นเดิม ผมจุดเทียนบนเค้กและเดินออกมาหาภูมิที่นั่งอยู่บนโซฟาท่ามกลางสมุนหมี
     


    เซอร์ไพรสสสสสสสสสสส์สุขสันต์วันเกิดนะหมาภูมิ ผมแหกปากพร้อมกับยื่นเค้กไปตรงหน้าภูมิ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองยิ้มกว้างมากๆ แล้วก็เขินนิดๆด้วย



    ภูมิจ้องมองเค้กอยู่นานกว่าจะเงยหน้ามามองหน้าผม เราสบตากันใต้แสงเทียนริบรี่ แต่….ใบหน้าภูมิกลับไม่มีรอยยิ้มเลยแม้แต่น้อย ผมเริ่มใจเสีย ไม่รู้ว่าภูมิกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน เพราะแววตาภูมิไม่ได้สะท้อนอารมณ์ใดๆ มันนิ่งจนใจผมสั่นไปหมด
     



    อ่ะ เอ่อ อธิฐานแล้วก็เป่าสิ เค้กนี่กูอุตส่าห์ไปร่ำเรียนทำมาให้มึงเลยนะ ^^” ผมพยายามทำใจดีสู้ แต่เสียงผมที่พูดกับภูมิมันเบาเสียจนตัวผมเองก็แทบจะไม่ได้ยิน และไม่รู้ว่าทำไมผมถึงถอยห่างไปหนึ่งก้าวเมื่อภูมิยืนขึ้นเผชิญหน้ากับผม ผมทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ทำไมภูมิไม่ยิ้มเลยหรือว่าภูมิจะยังโกรธอยู่
     




    แต่ภูมิก็ยอมก้มลงเป่าเค้ก เมื่อไร้แสงเทียน ห้องก็กลับมามืดอีกหน จากที่คิดว่าจะได้เห็นรอยยิ้มมีความสุขของภูมิ ผมก็เห็นเพียงใบหน้าที่เฉยชา ที่คิดไว้ว่าภูมิจะดีใจก็ไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆหลุดจากปาก
    มันอาจจะยังโกรธผมก็ได้ แล้วผมต้องทำยังไง ผมก็แค่อยากเซอร์ไพรส์มันแค่นั้นเอง มือของผมที่ถือเค้กเริ่มสั่น ผมหลบตาภูมิที่จ้องมองมา ผมทำอะไรไม่ถูกจึงตัดสินใจวางเค้กลงบนโต๊ะ
     




    เอ่อ เดี๋ยวกูไปเอามีดมาตัดเค้กดีกว่าเนอะมึงจะได้ อ๊ะ…..” ทันทีที่ผมจะเดินหนี ภูมิก็รวบตัวผมเข้าไปกอดแบบไม่ให้ตั้งตัว ภูมิกอดผมไว้ทั้งตัว กอดแน่นจนเกือบจะหายใจไม่ออก



    ขอบคุณนะ


    แค่คำว่าขอบคุณ แค่อ้อมกอดนี้ หัวใจที่ห่อเหี่ยวของผม ความรู้สึกกลัวของผมก็กลายมาเป็นรอยยิ้มได้อีกครั้ง


    เห็นเงียบไป นึกว่าโกรธซะอีกผมยกแขนขึ้นกอดตอบภูมิ มันไม่โกรธผมแล้ว


    บอกตอนไหนว่าโกรธ กูแค่ดีใจจนพูดอะไรไม่ออกน่ะ นี่กูถูกคนโง่ๆสมองช้าอย่างมึงหลอกเหรอเนี่ย หึหึ


    ใครโง่ห๊ะ มึงว่าใครโง่

    อ้าว ก็เห็นในวิดีโอมึงบอกว่า……


    หยุด ห้ามพูด มึงเงียบไปเลยนะภูมิ แค่นี้กูก็เขินจะแย่แล้วไอ้บ้าภูมิ

    หึหึ มึงแอบไปทำตอนไหน”          


    ก็ทำมาเรื่อยๆ กูไม่ค่อยเก่ง ก็เลยได้แค่นี้แหละ แฮ่ๆผมบอกพร้อมกับดิ้นนิดหน่อยให้ภูมิปล่อยเพราะเริ่มหายใจไม่ออก มึงจะรัดแน่นอะไรนักหนา จมูกผมคงยุบเข้าไปในอกมันแล้วมั้ง


    อย่าดิ้น เดี๋ยวของขึ้น



    เหรอ กูนึกว่าขึ้นแล้วยังกล้าไปต่อปากต่อคำอีกนะ ฮ่าๆ



     
    …………………….”
     



    …………………….”
     


    ขอบคุณนะพีมภูมิบอกและกอดผมไว้ไม่ยอมปล่อย เรากอดกันอยู่แบบนั้นนานหลายนาที กว่ามันจะเดินไปเปิดไฟและกลับมานั่งมองของขวัญทุกอย่างที่ผมทำให้ ภูมิหัวเราะเมื่อเห็นเสื้อลูกสมุนของผม มันเกาท้ายทอยยิ้มๆเมื่อหันมาเจอเสื้อผม ^^
     


    ก่อนที่มันจะวิ่งมารวบตัวผมให้นอนลงบนโซฟา อ๊ากกก หลังกู เจ็บๆๆๆ ผมผลักภูมิให้ลุกขึ้นนั่ง มันยอมนั่งแต่ไม่ยอมปล่อยผมเป็นอิสระ มันกอดแน่นจนตัวผมแทบจะขึ้นไปเกยบนตักมัน
     


    มึงรู้มั้ยว่าสามวันที่ผ่านมากูคิดถึงมึงมากแค่ไหน คิดถึงจนแทบจะเป็นบ้าแต่ฟ่างก็ไม่ยอมให้กูไปหามึง พีม ถ้าไม่อยากเห็นกูตายไปต่อหน้าก็อย่าแกล้งแบบนี้อีก กูเหมือนจะตายจริงๆนะพีม ตอนที่ไม่มีมึงผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร เมื่อคำพูดทุกคำของภูมิทำให้ความรู้สึกเต็มตื้นของผมมาจุกที่อก ผมได้แต่ยิ้มให้ภูมิและลูบแก้มมันเบาๆ



    ขอโทษนะภูมิ กูสัญญาว่าจะไม่แกล้งมึงอีก แต่ว่า……กูเทพใช่มั้ยล่ะมึงถึงถูกกูต้มซะเปื่อยเลย ฮ่าๆ ว่าแต่ว่าทำไมมึงต้องตกใจด้วยวะ ตอนที่กูถามมึงว่าแอบคุยกับคนอื่นรึเปล่า หรือมึงแอบซุกสาวไว้จริงๆ



    มึงอย่ามาติงต๊องนะเตี้ย ที่กูตกใจเพราะไม่คิดว่ามึงจะมีความคิดแบบนั้น เหมือนมึงไม่รู้ว่ากูเป็นคนยังไง
     


    ฮ่าๆ กูตีบทแตกล่ะซี้ มึงรู้จักแมวมองแจ่มๆป่ะ พากู……” คำพูดผมของผมต้องหยุดลงเพียงแค่นั้นเพราะไอ้หล่อมันขโมยจูบผมแบบไม่บอกล่วงหน้า ภูมิไม่ได้จูบแบบลึกซึ้งดูดดื่ม ไม่ใช่ดีฟคิส ภูมิแค่ใช้ริมฝีปากสัมผัสริมฝีปากผมเบาๆแล้วก็เงยหน้ามาสบตากัน มัน จุ๊บๆสองครั้งแล้วก็มองหน้าผม แล้วก็จุ๊บๆอีก มันเขินยิ่งกว่าจูบอีกรู้มั้ย
     






    ภูมิ ขอให้มึงมีความสุขมากๆ

    ขอให้มึงพบเจอแต่สิ่งที่ดี


    ขอให้เรารักกันแบบนี้ อยู่ด้วยกันอย่างนี้ ได้ฉลองวันเกิดด้วยกันแบบนี้ ทุกๆปีนะ
     






    คำสุดท้ายน่ะภูมิกระซิบเสียงเบาตอนที่ริมฝีปากของเรากำลังคลอเคลียกัน ตอนที่ผมตกอยู่ในอ้อมกอดของภูมิทั้งตัว



    อื้มมม อ อะไร



    พูดให้ฟังอีกได้มั้ย


    ……………..


    นะครับ



    พีมรักภูมิครับไม่ว่าจะพิมพ์หรือพูด คำๆนี้ก็ทำให้ผมเขินได้เท่าๆกัน



    ……………..”ภูมิยิ้ม ผมยิ้ม มันก้มลงมาหาจนหน้าผากเราชิดกัน จนปลายจมูกเราสัมผัสกัน สายตาเราสบมองกัน ก่อนที่ภูมิจะประทับจูบกับหน้าผากของผมเนิ่นนาน


    แล้วมึง….ชอบของขวัญที่กูทำให้รึเปล่า

     
     
    ชอบ ชอบมากด้วยแต่…..



    ผมเอียงหน้าหลบจมูกซนๆของภูมิที่ก้มมากวนแก้มผมไม่ห่าง ทำไมต้องมีแต่ด้วยวะ ผมขมวดคิ้วมองหน้ามันเพื่อใช้สายตาคาดคั้นรอเอาคำตอบ กูอดหลับอดนอนทำเค้ก แถมสั่งเท็ดดี้แบร์ล่วงหน้าตั้งหลายเดือน เสื้อก็เพ้นท์ ต้นดอกทิวลิปสีฟ้ากว่าจะหาต้นสวยๆได้ ไหนจะวีดีโอ แล้วมึงยังมีข้อกังขาอะไรอีกเหรอ ไม่ต้องมาจูบเลยแม่ง พอผมเริ่มมีอาการเคืองภูมิก็อมยิ้ม และใช้นิ้วโป้งเกลี่ยแก้มผมเล่น



    ตั้งแต่เล็กจนโต วันเกิดทุกๆปีกูได้ของขวัญมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชิ้น ตั้งแต่หุ่นยนต์ตัวละหมื่น นาฬิกาเรือนละแสน หรือแม้แต่รถ คอนโดสิบกว่าล้านกูก็เคยได้ ต้นทิวลิปของมึงน่ะเทียบไม่ติดหรอกจี๊ดเลย ไอ้พีมจี๊ดเลยครับ ถ้าไม่ติดว่าภูมิกำลังพูดด้วยใบหน้าแห่งความสุข ผมกะจะอ้าปากด่าไปแล้ว ไม่ปล่อยให้มันสบตา จับแก้มอยู่แบบนี้หรอก



     
    ………………………”


    กูหมายถึงราคาที่เอาเงินเป็นตัววัด แต่ถ้าเอาความรู้สึกของกูวัด ของพวกนั้นก็เทียบต้นทิวลิปของมึงไม่ได้เหมือนกัน พีม…….”
     




    “หื้ม………”









     
    พีมคือของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตภูมินะครับ
     
     
     
     










     
     
    TBC >>>>>>>>>>>
     







    ………………………..
     



    -         อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขาเรินอร้ายๆๆๆๆๆๆๆ คนอ่านนี่เร็วมากมาอวยพรวันเกิดคุณภูมินทร์ตัดหน้าเค้าได้ไง ไม่ยอมๆ เค้าอยากเป็นคนแรก ฮ่าๆๆ

    -         Happy Birth Day นะคะน้องภูมิ 20 แล้ว อร้างงงง ก็ขอให้ภูมิมีความสุขมากๆหล่อๆรวยๆน่ารักแบบนี้ไปนานๆ อ้อ และก็ขอให้ความรักหวานแหววแบบนี้ตลอดไปนะคะ สุขสันต์วันเกิดจ้า ส่วนของขวัญคงได้จากพีมไปเยอะแล้ว พี่ตาลไม่ให้แล้วกันนะ อิอิ//ชิ่ง

     
    -         ทำไมมีคนคิดว่าภูมิจะแอบซุกอิหนูจริงๆ ฮ่าๆ ภูมิไม่มีกิ๊กนะจ๊ะ แต่ที่แสดงอาการแบบนั้นเพราะอารมณ์ของคนที่ถูกใส่ร้าย เหมือนเวลาที่เราจับผิดคน พวกที่มันทำผิดมันจะเงียบ นิ่ง แต่พวกที่มันไม่ได้ทำเนี่ยมันจะโวยวาย ไม่ก็ทำอะไรไม่ถูก ซึ่งภูมิก็น่าจะเป็นแบบหลัง ภูมิไม่ได้แอบคุยกับใครแต่โดนพีมใส่ความ คง งงๆปนตกใจไม่คิดว่าพีมจะคิดอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ เข้าใจมั้ยอ่า


     
     
    -          ส่วนเรื่องที่ว่าพีมทำรุนแรงเกินไป อยากจะบอกว่าไอ้พีมน่ะเด็กๆค่ะ อิอิ ตาลเคยวางแผนเซอร์ไพรส์เพื่อนแบบว่าตัดเพื่อนกันเลยนะ เล่นละครอยู่สี่ห้าวัน แกล้งร้องไห้จนตัวเองยังอึ้ง จนถึงวันเกิดมันก็เฉลย ตอนนั้นมันทรุดไปนั่งร้องไห้กับพื้นเลย ร้องแบบเด็กๆอ่ะ สะอื้นด้วย กร้ากกกกกกกก จนตาลได้ฉายาว่าอีเจ้าแม่เซอร์ไพรส์ฮ่าๆๆ
     


     
     
    -         และแล้ว we are ก็เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้วนะคะ ง่า นี่ยืดยิ่งกว่าคุณแดงเจ็ดสีแล้วนะคะเนี่ยฮ่าฮ่า ล้อเล่นๆ ตาลเองก็ยังมีความสุขที่ได้เห็นศรีนครินทร์(พัฒนาการ) ฮามั้ย ของหนุ่มๆ ยังมีความสุขกับการที่ได้อยู่กับคนอ่าน ไม่ใช่แค่คนอ่านที่อยากจะรู้ว่าชีวิตของพวกเขาจะเป็นยังไงต่อไป ตาลเองก็เรียนรู้มาพร้อมๆกัน ไม่ใช่แค่คนอ่านที่สนุกตาลเองก็สนุกก็ลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันอธิบายยากนะคือ ตาลจะพาหนุ่มๆมาในเหตุการณ์ปัจจุบัน ยึดวันเวลา ณ ปัจจุบัน ตาลอาจจะมีโครงแผนที่ว่าจะพาไปทางไหน แต่ตาลก็ไม่ได้เห็นรายละเอียดของเส้นทาง ตาลเหมือนเพื่อนผู้ร่วมเดินทางที่เดินไปพร้อมๆคนอ่านและพอมองกลับไปยังก็รู้สึกเลยว่า เราก็เดินมาไกลเหมือนกันนะอาจจะฟังดูงงๆนะคะ ฮ่าๆ ยังไงก็เคาน์ดาวน์ ได้เลยนะ อิอิ(เคาน์ดาวน์ของตาลก็คือพักใหญ่ๆนั่นแหละจ้า)



    -         ขอบคุณเครดิตรูปจากพี่สา ขอบพระคุณมากๆค่ะ แล้วพบกันตอนเปิดเทอมนะคะ
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×