ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    l love youผมรักคุณ

    ลำดับตอนที่ #2 : เสียงที่เคลื่อนไหว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26
      0
      10 พ.ค. 49

    เสียงที่เคลื่อนไหว

     

    ความจริงหรือความฝัน

    เสียงผู้หญิงคนหนึ่งปลุกให้เขาตื่น เสียงที่เขาคุ้นเคย แต่เขากลับนึกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใคร

                    เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในห้องสีขาว ลมเย็นอ่อน ๆ ที่พัดเข้ามาทำให้เขารู้สึกหนาวแปลบไปทั้งตัว เขาลุกจากเตียงเดินไปตรงหน้าต่าง ทิวทัศน์ภายนอกนั้นเป็นภาพที่ไม่คุ้นเคยสักนิดสำหรับเขา ต้นไม้แห้งไม่เหลือใบ เมฆสีขาวที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านอากาศช้า ๆ อากาศเย็นและแห้งที่โชยเข้ามาปะทะหน้า เขาพยายามนึกให้ออกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน แต่ก็นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก

                    ละจากหน้าต่าง ตรงฝาผนังนาฬิกาสีขาวยังอยู่ที่เดิมของมัน เข็มนาฬิกาไม่มีการเคลื่อนไหวมันยังหยุดอยู่ ณ เวลาเดิม เขาเหลือบมองนาฬิกา เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างต้องทำ หรือไม่ก็เหมือนบางสิ่งบางอย่างได้ถูกโปรแกรมไว้แล้ว เขาเดินออกไปข้างนอกห้องอย่างคนมีจุดมุ่งหมาย แต่เขากลับไม่รู้ว่าจุดมุ่งหมายนั้นคืออะไร

                    พรมสีแดง บันได มินิมาร์ท เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ตู้จดหมาย ทุกอย่างไหลผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว เขาเดินออกจากตึกเลาะไปตามถนนเล็ก ๆ ที่แยกตัวออกจากถนนใหญ่ หลุดออกจากถนนเล็ก ๆ ที่ริมทางเดินตรงหน้ามีร้านดอกไม้ร้านหนึ่งแผงตัวอยู่ท่ามกลางร้านค้าหลายร้านที่เรียงรายกันอยู่ เขามองไปยังป้ายชื่อร้านมันมีชื่อว่า  ดอกไม้ให้คุณ

                เขาเดินไปจนถึงหน้าร้านขายดอกไม้ มองไปข้างในไม่มีใครอยู่ในร้าน มีแต่ดอกไม้หลายชนิดที่วางเรียงรายอยู่ในตู้แช่ บางส่วนถูกจัดเป็นช่อเตรียมไว้เพื่อให้ใครสักคน กลิ่นหอมจาง ๆ ที่โชยออกมาทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังย้อนกลับไปในอดีต

                    อดีตคงจะหอมหวลมากเกินไป เขาจามออกมาโดยไม่ทันเอามือป้องที่ปาก เดินเข้าไปในร้านเหมือนกำลังมองหาอะไรสักอย่าง เขานึกไม่ออก แต่บางอย่างที่เขากำลังมองหาคงไม่ใช่ดอกไม้อย่างแน่นอน ทันใดนั้นเสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็แว่วมาจากด้านหลัง

                    มาเลือกซื้อดอกไม้หรือคะ

                    เขาหันหลังกลับไปมอง ภาพที่คุ้นเคยตรงหน้าเหมือนกับนางฟ้าที่อยู่ในความฝัน ปากอยากจะพูดอะไรออกไป แต่ก็ไม่มีคำพูดสักคำหลุดออกมา นอกจากคำว่า คุณ

                เหมือนเป็นการเจอกันเพียงครั้งแรก แต่มันไม่ใช่เจอกันครั้งแรก เขาทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไรตรงไหนก่อน มือไม้ไม่รู้ว่าจะเอาวางไว้ที่ตรงไหน เผลอหยิบดอกกุหลาบสีขาวใกล้มือขึ้นมาหนึ่งดอก แต่ด้วยความประมาทจึงทำให้หนามกุหลาบแทงมืดจนเลือดไหลซิบออกมา

                    เขาอุทานความเจ็บปวดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

                    เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เธอเดินเข้ามาใกล้ ๆ ใกล้จนได้กลิ่นหอมของเธอคว้ามือเขาขึ้นมาดู ไปล้างมือก่อนดีกว่า เดี๋ยวฉันจะเอาผ้าสะอาด ๆ มาเช็ดให้

                    เขาล้างมือในอ่างล้างหน้าในร้าน เธอเดินหายเข้าไปด้านหลังร้าน ไม่นานก็เดินออกมาพร้อมผ้าสีขาวหนึ่งผืน ยื่นให้เขา เขาเอาผ้ามาผันกดไว้ที่แผล

                    ทีหลังเวลาจับก้านกุหลาบต้องระวังนะคะ

                    เขามองเธอในระยะใกล้ ใช่แล้วเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับคนที่นอนอยู่ในห้องของเขา เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับคนที่เปิดประตูเข้าไปในห้อง เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับคนที่นั่งอยู่ในร้าน เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เตียง

                    เธอเป็นคน ๆ เดียวกันกับคนที่เขากำลังตามหา

                    คุณ เขาเรียกชื่อเธอตามที่เขารู้จัก

                    ค่ะ เธอมองมายังเขาแววตาเหมือนกำลังสงสัยถามอะไรสักอย่าง

                    เขาเงียบไปเพื่อรอให้เธอพูดอะไรออกมา หรือไม่ก็เพื่อให้เธอรื้นฟื้นความทรงว่าจำเขาได้หรือไม่ แต่เธอก็เงียบ เขาชี้นิ้วชี้เข้าหาตัวเอง จำผมได้ไหมครับ

                    เธอขมวดคิ้วเข้าหากัน ใช้เวลานึกอยู่สักครู่จึงพูดออกมา  จำได้ค่ะ คุณเป็นนักร้องใช่ไหมคะ เธอจำเขาได้แต่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยอยากจะจำสักเท่าไร

                    ครับ เสียงมั่นใจตอบออกมาสั้น ๆ ซึ่งเขาเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร ว่าเขาเป็นนักร้อง

                    มีนเป็นยังไงบ้างคะ

                    เหมือนคำพูดกลายเป็นลูกศรพุ่งเข้ามาปักที่อก เขายิ้มเขิน ๆ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

                    ฉันก็ไม่ได้เจอมีนตั้งนานแล้ว ไม่รู้ตอนนี้มันไปตายที่ไหนแล้ว เธอพูด เดินไปนั่งตรงโต๊ะเคาท์เตอร์ มองมายังเขาเหมือนไม่ต้องการคำตอบจากคำถามเมื่อสักครู่ มาซื้อดอกไม้หรือว่ามาทำอะไรคะ

                    เปล่าครับ... เขาจำได้ว่าตอบกลับไปอย่างนั้น ...เผอิญผ่านมา...คุณเปิดร้านดอกไม้นานหรือยังครับ

                    เธอไม่ได้มองหน้าเขา กำลังวุ่นๆ จดอะไรสักอย่างลงบนกระดาษ อืม...ก็ประมาณสามสี่เดือนได้แล้วมั้ง

                    คุณล่ะ เธอวางปากกาเหมือนตัวเลขในกระดาษนั้นจะลงตัว

                    อะไรครับ

                    ก็...แล้วคุณล่ะ มาร้องเพลงที่นี่ได้กี่เดือนแล้ว

                    อืม ประมาณสามเดือนได้มั้งครับ

                    ดีเนอะ

                    อะไรเหรอครับ

                    ก็ดีไง เป็นนักร้องตามผับกลางคืน ได้เที่ยวทุกวัน แถมยังได้ไปหลาย ๆ ที่ด้วย

                    อ๊อ ครับ เขาอือ ทั้งที่จริงคำตอบที่ติดอยู่ในใจเขาไม่ได้อย่างนั้นเลย การเป็นนักร้องกลางคืนไม่มีอะไรดีสักอย่าง ที่เห็นก็เป็นเพียงภาพสวยงามที่จำเป็นต้องแสดงออกมาบนเวทีเพื่อให้ดูดี เพื่อให้แขกประทับใจ ทั้งที่ความเป็นจริงเปลือกภายในของมันไม่ได้สวยงามอย่างนั้นเลย อาชีพเต้นกินรำกินที่ไม่มีความมั่นคง การงานไม่เป็นหลักแหล่ง จะตกงานเมื่อไรก็ไม่รู้ ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งทำงานแทบจะไม่มีวันหยุด ขาดลามาสายก็ไม่ได้ เวลาพักผ่อนก็ไม่เหมือนคนปกติทั่วไป นอนกลางวันทำงานกลางคืน อีกทั้งยังต้องคอยร้องเพลงให้ความบันเทิงกับผู้ฟังอยู่ตลอดเวลา จริงอยู่การร้องเพลงเป็นสิ่งที่เขาชอบและรักมัน แต่บางเวลาในสภาพจิตใจที่ไม่แจ่มใสมันก็ทำให้การร้องเพลงในบางวันของเขานั้นไม่มีความสุขเอาซะเลย แต่ก็ยังต้องทนฝืนร้องไปให้จบเพลง บางคืนเจอแขกเมาหาเรื่องเข้ามาวุ่นวายก็จำเป็นต้องระงับอารมณ์ให้อยู่ไม่ให้ไปมีเรื่องกับแขก ทั้งทีจริงความอดกลั้นมันล้นทะลักออกมาแล้ว

                    เขากลืนคำระบายทั้งหมดลงคอ เมื่อเห็นเธอกำลังจัดช่อดอกไม้

                    จัดช่อดอกไม้หรอครับ เขาถาม

                    คะ พอดีมีลูกค้าสั่งเอาไว้ คงจะเข้ามารับตอนเย็น ๆ เธอเริ่มจากเอาดอกไม้สีแดงดอกใหญ่มาตัดแต่งกิ่งก้านอย่างประณีต ดูท่าทางเธอจะมีความสุขกับสิ่งที่กำลังทำอยู่เป็นอย่างมาก เขามองเธอจนเพลินจนลืมนึกไปเลยว่าเขามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร

                    คุณจัดดอกไม้เก่งจังเลยนะครับ

                    เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาหนึ่งแวบก้มหน้าจัดดอกไม้ต่อ ก็ไม่เก่งเท่าไรหรอกคะ อาศัยใจรักซะมากกว่า

                นี่ถ้าให้ผมจัดบ้างคงไม่ได้เรื่อง

                    ก็อย่างนี้แหละคะ ถึงจำเป็นต้องมีร้านดอกไม้ไงคะ

                    เขาขมวดคิ้วสงสัย ทำไมเหรอครับ

                    ก็ เพราะมีคนแบบคุณอยู่ไงคะ

                    คนแบบผม? เอ่อ...คนแบบผมมันยังไงหรอครับ

                    ก็คนจัดดอกไม้ไม่เป็นไงคะ เวลาคนเราอยากให้ดอกไม้ใครสักช่อ ก็อยากจะได้ดอกไม้สวย ๆ ดอกไม้ที่มีความหมายดี ๆ ให้กับอีกฝ่าย แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ก็กลับไม่รู้เรื่องดอกไม้เลย จึงจำเป็นต้องมีร้านดอกไม้ไว้รองรับความต้องการคนแบบคุณ...เอ่อ...คนพวกนี้ไงคะ

                    จริงหรอครับ เขาทำท่าเหมือนเชื่อหมดใจ

                    เธอหัวเราะในลำคอเหมือนกำลังจะสำลักอะไรสักอย่างออกมา เปล่า ล้อเล่น ดอกไม้ถูกจัดเป็นช่อเสร็จแล้ว แต่มันก็มีส่วนจริงอยู่บ้างนะ

                เขามองช่อดอกไม้ดอกนั้น

                    เสร็จแล้ว เธอบอกมองมายังเขา

                    เขามองช่อดอกไม้แล้วมองเธอสลับกันไปมา แล้ว?

                    ก็เสร็จแล้วไงคะ เธอยิ้มบาง ๆ ยื่นดอกไม้มาทางเขา

                    เขามองเหรอหรา หันซ้ายหันขวา อะไรครับ

                    ของคุณไงคะ

                    ของผม

                    ใช่คะ ดอกไม้ของคุณ

                    ดอกไม้ของผม เขาสงสัย ดันปลายนิ้วชี้เข้าหาตัวเอง

                    คะ

                    คุณให้ผมหรอครับ เขารู้สึกดีใจขึ้นมาแวบนึง ที่ได้รับดอกไม้จากคุณ

                    ไม่ได้ให้คะ ขาย

                    ขาย

                    คะ สองร้อยห้าสิบ

                    สองร้อยห้าสิบ? ความรู้สึกดีใจถูกเปลี่ยนเป็นความงง เขากลายเป็นลูกค้าเธอตั้งแต่เมื่อไร

                    เขาจ่ายเงินไป รับดอกไม้มา สายตามองช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือ

                    ซื้อดอกไม้ไปให้สาวที่ไหนคะเนี่ย

                    เขามองไปยังเธอ แววตาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

                    เปล่าครับ

                     ทุกสิ่งเริ่มพล่าเลือนอีกครั้ง ดอกไม้ในมือค่อย ๆ จางหายไป คุณค่อย ๆ จางหายไป เขาค่อย ๆ จางหายไป

                    โลกกลับมาเป็นสีขาวอีกครั้ง

     

    เสียงผู้หญิงคนหนึ่งปลุกให้เขาตื่น เสียงที่เขาคุ้นเคย เสียงคุณ

                    เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในห้องสีขาว เพดานฉายความว่างเปล่าอยู่ที่เดิม พัดลมเพดานหมุนอืด ๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างถูกวางเป็นระเบียบไว้อย่างเดิม

                    แต่มีบางสิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในห้องสีขาว

                    ดอกไม้หลายช่อถูกวางไว้บนโต๊ะ บางช่อยังใหม่สดเหมือนมันเพิ่งถูกตัดออกมาจากลำต้น บางช่อก็เหี่ยวแห้งกร้าน ไม่เหลือสีสด ๆ คงเดิมเอาไว้

                    เขาเดินไปตรงดอกไม้ มองมันด้วยความสงสัย แปลกใจตัวเองว่าทำไมมีดอกไม้หลายช่ออยู่ในห้องนอนของเขา สงสัยว่าเขาเก็บช่อดอกไม้เหล่านี้ไว้ทำไม

                    หยิบช่อที่ยังไม่เหี่ยวขึ้นมาดูใกล้ ๆ  กลิ่นของมันยังลอยวนอยู่ไม่จางหาย เขารู้สึกว่ามันหอม

                เขาสงสัยในที่มาของมัน-ความหอม

                    แล้วจู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินออกจากห้อง กำลังเดินตามอะไรสักอย่างอยู่ เหมือนคนหิวที่ได้กลิ่นอาหารแล้วเดินตามไปยังครัวที่กำลังปรุงอาหาร

                    เขากำลังเดินตามกลิ่นหอมออกไป

                    เมื่อพ้นประตูสีขาว ด้านนอกเป็นที่โล่งกว้างเหมือนสนามอะไรสักอย่างที่มีแต่สีขาวโพลนไปหมด ไกลตาออกไปมีจุดเล็ก ๆ จุดหนึ่งแทรกอยู่กลางสีขาวโพลน เขารู้สึกว่ากลิ่นหอมมันถูกส่งมาจากตรงนั้น เดินเข้าไปใกล้ ๆ จนภาพปรับชัดเจน คุณยืนกอดอกทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนกำลังโกรธใครสักคนอยู่

                    ทำไมมาช้าจัง รอตั้งนานแล้วนะ เธอพูดเสียงไม่พอใจ

                    หรือใครคนนั้นจะเป็นเขาเอง

                    เขาไม่ได้พูดอะไร

                    ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ทุกทีเลยนะ นัดทีไรไม่เคยมาตรงเวลาสักที โทรไปปลุกไม่รู้กี่รอบแล้ว ก็ไม่ยอมลุกจากเตียงสักที คราวหลังถ้ามาช้าอีกจะไม่รอแล้วนะ

                    เขาพูดคำบางคำออกไปแต่เหมือนเธอไม่ได้ยินเสียงเขา และเหมือนว่าเขาไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป

                    ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายนะ เธอยิ้ม โกรธจริง ๆ นะเนี้ย

                    เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ้ม

                    เขาเดินจูงมือกับคุณผ่านสถานที่มากมาย ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ตลาดนัดเปิดท้ายขายของ ร้านอาหาร

    ตู้ถ่ายสติกเกอร์ เขาและเธอเดินเข้าไปในตู้หยอดเหรียญยิ้มกับหน้าจอเสียงแชะ ๆ ดังขึ้น ไม่นานรูปภาพที่ไม่ต่างจากภาพที่เขาเห็นในหน้าจอก็ถูกปริ้นออกมา

                    รูปภาพทำให้เขามีความสุข สิ่งที่กลายเป็นอดีตทำให้เขามีความสุข

                สิ่งที่อยู่ในภาพคืออดีต

                    ภาพต่าง ๆ ที่ไม่ต่างจากรูประหว่างเขาและเธอผุดขึ้นมาตรงหน้ามากมายนับร้อย ๆ ภาพ จนเขาตั้งรับแทบไม่ทันและภาพ ๆ หนึ่งที่ผ่านมาตรงหน้าทำให้เขาต้องหยุดมันเอาไว้

                    เขาจูงมือคุณเดินไปตรงภาพนั้น ตู้คาราโอเกะตู้หนึ่ง

                    ภายในเป็นห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ขนาดประมาณหนึ่งตารางเมตร มีตู้คาราโอเกะหยอดเหรียญอยู่ตู้หนึ่ง มีไมด์สองอัน มีโชฟาเล็ก ๆ ตัวหนึ่งอยู่ด้านหน้าตู้เพลง

                    เขาและคุณนั่งถือไมด์คนละตัว มิวสิควิดิโอในจอกำลังเปิดฉาย ทำนองดนตรีที่ไม่มีเสียงร้องดังก้องในห้องสี่เหลี่ยมตัวหนังสือด้านล่างถูกเติมเต็มด้วยสีฟ้าตามจังหวะจากซ้ายไปขวา

                    เธอกำลังร้องเพลงอะไรสักเพลง เขากำลังนั่งยิ้มอยู่ข้าง ๆ

                    ยิ้มอะไร เธอหยุดร้องมองค้อนมาทางเขา มีท่าทีเขินอาย

                    เปล่านิ เขาเฉไฉ มองกลับไปที่หน้าจอ พูดเบา ๆ เพลง ๆ นี้ความหมายดีเนอะ

                    เธอหันกลับไปที่จอร้องเพลงต่อ

                    แต่...

                เสียงเธอหยุดกึก

                    แต่อะไร!” เธอโถมตัวมาทางเขา เงื้อมือทำท่าจะตีลงไป แต่อะไร พูดดี ๆ นะ

                    เปล่า ๆ เขาเอามือป้อง

                    เปล่าอะไร ก็เห็นพูดอยู่ รู้นะจะพูดอะไร เสียงงอน ๆ ใครจะร้องเพลงเพราะเหมือนตัวเองล่ะ เค้าไม่ได้เป็นนักร้องนิหน่า

                    แต่ก็เป็นแฟนนักร้องเขาพูดเบา ๆ แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้คลื่นเสียงกระจายเคลื่อนไหวไปกลบเสียงดนตรี ในห้องเล็ก ๆ

                    เธอยิ้มด้วยความเขินอาย ทุบกำปั้นเบา ๆ ลงที่ไหล่เขา

                    ร้องให้ฟังอีกสักเพลงสิ เขาพูด

                    เธอส่ายหน้า ปฏิเสธยื่นไมด์มาทางเขา ไม่เอาหรอก ร้องไม่เพราะ เดี๋ยวคนฟังล้ออีก

                    เขายิ้มให้เธอดันไมด์กลับคืน น่านะ ผมร้องที่ร้านเบื่อแล้ว อยากฟังคุณร้องบ้าง ร้องให้ฟังอีกสักเพลงนะ    

                    เธอทำท่าเหมือนจะไม่ร้องต่อ แต่มือก็ดำเนินการกดเพลงโดยอัตโนมัติ ไร้การกังวลเขินอายอีกต่อไป

                    เพลงกำลังเล่นท่วงทำนองใหม่บนหน้าจอ

                    เธอกำลังร้องเพลง

                    เขายิ้มอย่างมีความสุขให้กับภาพ ๆ นั้น

                    แม้เสียงที่ออกมาจากภาพจะไม่ถูกคีย์สักเท่าไร

                    เขาหลับไป

     

    เสียงผู้หญิงคนหนึ่งปลุกให้เขาตื่น เขาจำเสียงนั้นได้ เสียงคุณ

                เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในห้องสีขาว ลมเย็นอ่อน ๆ ที่พัดเข้ามาทำให้เขารู้สึกเย็นชื้นบริเวณใบหน้า เขาลุกจากเตียงเดินไปตรงหน้าต่าง ทิวทัศน์ภายนอกนั้นเป็นภาพที่ไม่คุ้นเคยสักนิดสำหรับเขา หาดทรายสีขาวโพลน ท้องทะเลสีคราม เกลียวคลื่นที่สาดกระทบฝั่ง ท้องฟ้าใส ๆ กับเมฆสีขาว เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังมีความสุข-ความสุขจากอะไรสักอย่าง

                    ตรงหาดทรายมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเล่นอยู่ เขามองไปยังเธอจนภาพนั้นถูกปรับชัดเจน คุณ เขาเอ่ยคำนั้นในใจ

                    เดินพ้นประตูออกไป หาดทรายอ่อนนุ่มกำลังเอ่ยคำยินดีต้อนรับกับฝ่าเท้าเปลือยเปล่าของเขา แต่ละก้าวที่ทิ้งน้ำหนักตัวลงไป ทำให้พื้นทรายอ่อนยวบเป็นรอยเท้า ทิ้งไว้ด้านหลังคืออดีต

                    เขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ  ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่รู้สึกตัวว่าเขาได้เข้ามายืนใกล้ ๆ ขนาดนี้แล้ว เธอกำลังก้มลงเก็บเปลือกหอยหรืออะไรสักอย่างที่ผืนทราย ภาพของเธอไม่ต่างจากเด็กที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่

                    เธอกำลังยิ้ม เขาก็รู้สึกเช่นนั้นเช่นกัน

                    เธอมองมายังเขา ยิ้มเขิน ๆ เดินเข้ามาใกล้ ๆ แบบมือโชว์สิ่งที่เก็บมาได้ ไม่ต่างจากเด็กคนหนึ่งที่กำลังอวดของเล่นชิ้นใหม่

                    เปลือกหอยเยอะแยะเลย สวย ๆ ทั้งนั้นเลยดูสิ ในฝ่ามือเล็ก ๆ ของเธอมีเปลือกหอยสวย ๆ สี่ห้าอัน

                    เขาดูแล้วยิ้ม ชอบไหม? เขาถามเธอ

                    ชอบอะไรล่ะ?

                    อืม ชอบอะไรดีล่ะ...เปลือกหอย ทะเล ท้องฟ้า...หรือว่า...ผม

                    เธอหน้าแดงบาง ๆ ก็ชอบหมดแหละ

                    ถ้าคุณชอบเรามากันบ่อย ๆ นะ

                    งั้นมาทุกเดือนเลยนะ อืมไม่เอาดีกว่า มาทุกสัปดาห์เลยแล้วกัน

                    จริงเหรอ

                    จริงสิ

                    ผมขับรถมาไม่ไหวหรอกตั้งไกล ถ้าเดือนละครั้งก็พอไหว

                    อืมก็ได้ เดือนละครั้งก็ได้ แต่สัญญาแล้วนะ

                    เขาพยักหน้า

                    เธอมองเปลือกหอยในมือ หันหน้าออกไปมองทะเล ปลายผมเธอต้องลมทะเลพลิ้วไสว ทะเลของจริงสวยกว่าในรูปตั้งเยอะเนอะ     

                เขามองเธอ และมองไปยังเส้นขอบฟ้าสุดตา

                    คุณไม่เคยมาทะเลจริง ๆ หรอ ความหมายของคำถามเขาจริง ๆ ก็คือทำไมไม่เคยมีใครพาเธอมาทะเลจริง ๆ สักครั้งเลยหรือ

                    คะ ไม่เคยมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรก

                    ทำไมหรอ เขารู้สึกว่าตัวเองถามคำถามแปลก ๆ ออกไป

                    ก็...ไม่รู้สิ ไม่มีใครพามามั้ง เธอรวบผมมัดเป็นหางม้าไว้ด้านหลัง หรือไม่ก็ไม่รู้ว่าจะมากับใคร

                    คุณชอบเดินทางไหม

                    ทำไมหรอ

                    เปล่าถามดู

                    ก็ชอบนะ มีหลายที่เลยแหละ ที่อยากไปแต่ไม่ได้ไป

                    แปลกนะ

                    แปลกอะไรหรอ

                    ก็แปลกนะสิ คนที่ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยวแต่กลับไม่ได้ทำอย่างที่ชอบ ส่วนคนที่ไม่ชอบการเดินทาง กลับต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา    

                    ยังไงเหรอไม่เข้าใจ เธอทำหน้าสงสัยกับสิ่งที่เขาพูด

                    ก็อย่างผมนี่ไง ชอบอยู่กับที่ ไม่ชอบการเดินทาง แต่ชีวิตมีเรื่องให้ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ส่วนคุณชอบท่องเที่ยว ชอบการเดินทาง แต่กลับไม่ได้เคลื่อนย้ายตัวเองไปไหนสักที่

                    เธอเริ่มเข้าใจ ก็จริงเนอะ...แล้วที่เดินทางมาที่นี่เบื่อบ้างหรือเปล่าล่ะ

                    เขายิ้ม

                    เธอสงสัยกับความหมายที่แฝงรอยยิ้มนั้น ชี้นิ้วชี้ไปทางเขา ว่ายังไง เบื่อหรือเปล่า

                    เขายังยิ้มอยู่

                    หรือว่าเบื่อ...ถ้าเบื่อคราวหลังไม่ต้องมาแล้วก็ได้เธอทำหน้างอน ๆ หันหลังให้กับเขา

                    เปล่า เสียงเขามาจากด้านหลังเธอ

                    สองมือเขาสวมกอดเธอจากด้านหลัง จะเบื่อได้อย่างไรล่ะ ถ้ามากับคุณนะ จะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ทุกที่

                    คุณแอบยิ้ม

                    จริงหรอ

                    จริงสิ

                    ทุกที่แน่นะ

                    แน่นอน...เพราะเวลาอยู่กับคุณผมไม่รู้สึกว่ากำลังเดินทางเลย

                    ยังไงหรอ ไม่รู้สึกว่ากำลังเดินทาง เธอสงสัย

                    อืม ไม่รู้สึก ผมอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

                บางครั้งสิ่งที่มีความหมายก็ไม่มีคำอธิบายเหมือนกันเขารู้สึกเช่นนั้น

                    ที่แห่งนั้น-เขาและเธอยืนกอดแนบชิดกันตรงนั้น ริมทะเล เกลียวคลื่นลูกแล้วลูกเล่าสัดสาดเข้าหาฝั่งอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน ชีวิตก็เหมือนการเดินทาง มีจุดเริ่มต้น มีจุดสิ้นสุด เกลียวคลื่นซัดเข้าหาฝั่งแล้วก็หายไปเหลือทิ้งไว้แต่ความทรงจำว่าเคยมีคลื่นลูกนั้นโถมเข้ามากระทบฝั่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×