ไดอารี่ในลิ้นชักกลาง
ไดอารี่ในลิ้นชักกลาง
ผู้เข้าชมรวม
224
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ไดอารี่ในลิ้นชักกลาง
ฉันไม่อยากระบายความในใจออกไปเป็นตัวหนังสืออีกต่อไปแล้ว
ด้วยความที่ฉันเป็นคนขี้อาย เวลาที่รู้สึกอะไรคิดอะไรฉันมักจะถ่ายทอดทุกความในใจเป็นตัวหนังสือลงบนหน้ากระดาษ ในลิ้นชักกลางของโต๊ะเขียนหนังสือ ฉันมีสมุดไดอารี่สีชมพูอยู่เล่มหนึ่งซึ่งเขียนอยู่เป็นประจำทุกวัน ไดอารี่เล่มนี้ฉันจะเขียนทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันคิด ที่ฉันรู้สึกลงไปโดยไม่ต้องแคร์ว่าใครจะมาหัวเราะเยอะ (แน่นอนฉันไม่มีทางให้ใครได้อ่านเด็ดขาด) และไม่ต้องมัวกังวลเก็บความรู้สึกไว้ในใจไว้คนเดียว เพราะอย่างน้อยฉันก็ได้ระบายความให้ตัวฉันเองได้ฟัง(อ่าน)
ข้อความที่ฉันเขียนเป็นส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเรื่องรอบ ๆ ตัวที่ฉันผ่านมาในแต่ละวัน หากวันไหนฉันรู้สึกไม่สบายใจไม่รู้จะคุยกับใครฉันก็จะเขียนระบายความในใจลงบนหน้ากระดาษ วันไหนฉันมีความสุขเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะฉันก็ไม่พลาดที่จะเก็บเรื่องราวดี ๆ เหล่านั้นลงหน้ากระดาษ ไดอารี่ของฉันจึงมีครบทุกรสชาติในความเป็นตัวฉัน
บ่อยครั้งที่ฉันนึกแปลกใจอยู่เหมือนกันเวลาที่เปิดย้อนกลับไปอ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนไว้ ว่าตอนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้เขียนอย่างนั้นออกไป เรื่องเศร้าบางเรื่องในวันวานกลับเรียกรอยยิ้มเล็ก ๆ ของฉันให้เผยอออกมาได้ไม่รู้ตัว แต่กลับกันเรื่องดี ๆ บางเรื่องในวันวานกลับทำให้ฉันฉีกยิ้มไม่ออกเลยในวันนี้-อยากจะฉีกบางหน้าทิ้งไปแต่ใจก็ไม่กล้าพอ
ตอนนั้นฉันกำลังคิดอะไรอยู่ ตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรอยู่ ฉันถามตัวเองอยู่บ่อย ๆ เมื่อเปิดผ่านหน้าที่ฉันเคยคิดที่จะฉีกมันทิ้ง แต่สุดท้ายก็เขียนมันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างคนห้ามใจตัวเองไม่เป็น บางคืนที่รู้สึกเหงา ๆ จนนอนไม่หลับ ฉันมักจะลุกขึ้นมาจรดปากกาลงในไดอารี่เขียนอะไรเรื่อยเปื่อยในความเงียบ ความเงียบของราตรีทำให้ฉันได้คุยอะไร ๆ กับตัวเองชัดเจนมากขึ้น และยิ่งเข้าใจตัวเองมากขึ้นเมื่อได้อ่านความคิดตัวเองที่ถูกถ่ายทอดลงบนหน้ากระดาษ
ถ้าเปิดย้อนอ่านข้อความบนกระดาษหน้าแล้วหน้าเล่า จะทำให้ฉันวิเคราะห์ตัวเองได้ว่า เป็นคนอย่างไร แน่นอนฉันเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ชอบอ่านหนังสือ กินเผ็ดไม่เป็น ชอบของสวย ๆ งาม ๆ เป็นคนหน้าตาน่ารัก...ในระดับกลาง ๆ ซึ่งก็ไม่ได้โดดเด่นและก็ไม่ได้ขี้เหร่จนเกินไป ฉันเป็นคนรักอิสระ ชอบทะเลมากกว่าภูเขา ถ้ามีเวลาว่างอันดับแรกที่จะทำคือนอนเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลย ร้องเพลงไม่เก่งแต่ก็ไม่ละความพยายามทุกครั้งที่ไปคาราโอเกะ เขียนหนังสือไม่ได้เรื่องแต่ยังอยากเขียนไดอารี่ทุก ๆ วัน-โสด
การระบายออกโดยไม่รู้ตัวในข้อความในไดอารี่ที่ฉันเขียน หลาย ๆ ข้อความที่เขียนเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์จะเป็นเรื่องราวความรัก(ลับ ๆ) ของตัวฉันเอง ความรักที่ถูกซ่อนเอาไว้ในสมุดที่ฉันเก็บไว้ในลิ้นชักกลางของโต๊ะเขียนหนังสือในห้องนอนฉันเอง แน่นอนไม่มีใครมีทางได้อ่านมันแน่นอน และแน่นอนไม่มีใครจะสามารถรู้ความในใจฉันได้แน่นอนถ้าฉันไม่พูดมันออกไป
ทุกครั้งที่ความรู้สึกดี ๆ ในใจฉถูกถ่ายทอดออกมา ฉันจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุขกับสิ่งที่เขียน แต่เมื่อเขียนเสร็จสิ้น ฉันมักจะรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ ทุกครั้งว่ามันจะถูกเปิดเผยออกไป-ฉันไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม
ฉันไม่เข้าใจตัวเองว่า ทำไมเมื่อเวลามีความรู้สึกดี ๆ กับใครสักคนหนึ่งฉันถึงไม่กล้าที่จะเดินไปบอกเขาตรง ๆ ทำไมทำได้แค่เพียงพูดกับตัวเองในใจแล้วระบายออกมาเป้นตัวหนังสือ จริงอยู่อาจจะเป็นเพราะว่าฉันเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่ขี้อายคนหนึ่ง แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่าเกลียดน่ากลัวไม่ใช่หรือที่ฉันจะรู้สึกพิเศษกับคน ๆ หนึ่ง-บางคืนฉันกลัวความเขินอายของตัวเองจนนอนไม่หลับ
จริงอยู่เรื่องอย่างนี้สำหรับคนอื่นมันอาจจะเป็นปัญหาเล็ก ๆ ที่แก้ไขได้ง่ายมาก แต่สำหรับฉันมันแตกต่างกัน เพราะความกลัวและความขี้อายของฉันมันเป็นปัญหาใหญ่ของฉันตลอดมา ไม่งั้นฉันคงไม่มานั่งเขียนไดอารี่อยู่ทุกวันอย่างนี้
ฉันจำได้ดีว่าเรื่องราวแรกที่เริ่มต้นเขียนมันเกี่ยวข้องและเริ่มต้นจากความรัก ความรักที่ไปแอบรักผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งวันนี้คน ๆ นั้นได้หายไปแล้วโดยที่ฉันไม่ได้พูดอะไรกับเขาสักคำ ว่าฉันรู้สึกอย่างไรคิดอย่างไรกับเขา ฉันเพียงทำได้แค่พูดกับเขาในหน้ากระดาษและเก็บมันไว้อ่านเพียงคนเดียว
วันนี้ยังไม่ต่างจากวันนั้น ความรู้สึกดี ๆ ของฉันยังถูกเก็บเอาไว้ที่เดิมโดยไม่มีใครได้รับรู้
ฉันไม่อยากให้วันพรุ่งนี้เป็นอย่างวันนี้เลย-วันพรุ่งนี้ฉันอยากมีความรู้สึกดี ๆ กับสิ่งที่ฉันเขียนมากกว่านี้ บางครั้งฉันอยากหัวเราะกับความผิดหวังของตัวเอง
การบอกว่ารักมันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย-เมื่อไรฉันจะเลิกกลัวความอายเสียที
ฉันอยากจะระบายคำพูดกับใครสักคนหนึ่งเหมือนที่ฉันพูดกับไดอารี่ของฉัน
ผลงานอื่นๆ ของ เรื่อยเปื่อยฯ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เรื่อยเปื่อยฯ
ความคิดเห็น