ไม้จิ้มฟัน
-0-
วิชัยเป็นเพื่อนสมัยเรียนของผม มันขายลูกชิ้นอยู่หน้าปากซอย หลายครั้งที่ผมไปอุดหนุนลูกชิ้น มักจะพลั้งปากถามไปว่าไม่คิดจะไปทำงานอย่างอื่นบ้างหรอ ขายทำไมลูกชิ้น เมื่อไรจะรวย อีกทั้งยืนปิ้งลูกชิ้นหน้าไหม้ทั้งวันอย่างนี้สาวที่ไหนจะมาสนใจ
วิชัยยิ้มแหะ ๆ ถามผมว่าจะเอาลูกชิ้นกี่ไม้ ?
ผมยิ้มแหะ ๆ บอกเหมือนเดิม วิชัยถอนหายใจพลางส่ายหัว ติดทั้งปีบ่นมันบ่นเบา ๆ พอให้ผมได้ยิน
“ขายอย่างนี้เมื่อไรจะรวยวะ” ผมบอกพูดพร้อมกับคีบลูกชิ้นออกจากไม้เสียบแล้วเคี้ยว
-1-
คุณต้องการอะไรในชีวิตการทำงาน ?
ในชีวิตการทำงานคงเป็นเรื่องปกติที่เราทุกคน มักจะต้องการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ต้องการเลื่อนตำแหน่งหน้าที่ขึ้นไปสูงเสียดฟ้า พึงพอใจที่จะได้รับเงินเดือนสูง ๆ ตำแหน่งหน้าที่การงานดี ๆ และเป็นที่ยอมรับของคนรอบ ๆ ตัวและทุกคนในสังคม
คุณเคยรู้สึกบ้างไหมว่าความต้องการการยอมรับ เป็นสิ่งที่เราต้องการสูงสุดในวันที่เรายังไม่ได้รับความรู้สึกนั้น ในวันที่เรายังไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง
ด้วยความใฝ่ฝันที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ทุก ๆ ความสำเร็จที่จะลงมือกระทำ มันมีจุดเริ่มจากตรงไหน ความยิ่งใหญ่มันเริ่มจากจุดใดเราเคยถามตัวเองบ้างหรือเปล่า เราอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่าบางครั้งเราก็มักต้องการความสำเร็จจากบทสรุปของมันมิใช่จุดเริ่มของความสำเร็จ
คิดถึงแต่ความสำเร็จโดยไม่ได้คิดจะเริ่มต้นตามหาความสำเร็จ เราเฝ้าเหม่อมองจุดที่หอมหวานที่สุด โดยเลี่ยงที่จะมองจากจุดเริ่มที่ขมขื่น
ความสำเร็จมักต้องมีการเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ เพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ น้อยคนนักที่สามารถเริ่มต้นประสบความสำเร็จ...จากความสำเร็จ เพราะโดยแท้จริงแล้วผู้ประสบความสำเร็จเกือบทั้งหมด เริ่มต้นที่จะประสบความสำเร็จจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ และบางครั้งความสำเร็จก็เริ่มต้นจากการเจ็บตัวล้มลงและความผ่ายแพ้
และในจุดเริ่มของความผ่ายแพ้แรกที่มักจะเกิดขึ้นกับเราเสมอก็คือการแพ้ใจตัวเอง แพ้ความกลัวของตัวเอง แพ้ทิฐิของตัวเอง แพ้กับการกลัวที่จะเริ่มต้น
-2-
วันนี้คุณเริ่มต้นทำงานในฝันของคุณหรือยัง ?
มีหลายคนมักจะแยกงานในฝัน กับงานที่ทำไม่ออก จะมีสักกี่คนที่ชอบและรักในงานที่ทำอยู่ แม้ว่าจะมีอยู่บ้าง แต่ผมคิดว่าก็คงน้อย ถึงน้อยมาก เพราะคนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยพอใจในงานที่ทำอาจจะบ่นอยู่ตลอดเวลาว่าเบื่อ เซ็ง ไม่อยากทำแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องทนทำต่อไปหามรุ่งหามค่ำบนคำบ่นรำคาญเหนื่อยหน่าย
จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถคิดได้ว่า งานที่เรากำลังทำนั้นมันเป็นจุดเริ่มต้นของงานในฝัน เพราะถ้าคิดได้อย่างนั้นเราคงจะรักงานที่กำลังทำอยู่ได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
เรามักจะคิดกันว่า ทุกวันนี้เรามีความฝัน มีสิ่งที่เราอยากทำ มากมายและมากมาย บนกองความฝันของเรา แต่พอเอาเข้าจริง ๆ เรากลับยังไม่ได้เริ่มหยิบจับมันขึ้นมาปัดฝุ่นทำสักที เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับทำงานอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้อยากทำเลยสักนิด แต่ก็ต้องทนทำเพื่อเลี้ยงปากท้องและครอบครัว
งานที่เราไม่ชอบแต่กลับหาเลี้ยงชีพเราอยู่ทุกวัน
ได้แต่คิดอยู่เสมอว่างานที่เราทำอยู่นั้นมันช่างเล็กนิดเดียว แต่สิ่งที่เราฝันนั้นมันยิ่งใหญ่คับฟ้า คิดจนไม่กล้าที่จะเริ่มต้นทำงานในฝันเพราะคิดว่ามันยากและไกลเกินไป และมัวกังวลยึดติดอยู่กับงานที่ปากพร่ำบ่นทุกวันว่าไม่ชอบ เบื่อ
รู้หรือเปล่าว่างานในฝันไม่มีวันเริ่มต้นไม่ใช่เพราะเรามัวแต่ต้องวุ่นวายอยู่กับการทำงานที่เราไม่ชอบ แต่งานที่เราฝันไม่มีวันเริ่มต้นก็เพราะว่าเรามัววุ่นวายกับคำว่าไม่กล้า คำว่ากลัวที่จะต้องเผชิญหน้ายอมรับความจริง กลัวที่จะต้องเริ่มต้นจุดเล็ก ๆ ของความฝันที่มันไม่สวยงามสักเท่าไร
ความฝันที่สวยงามมักมีจุดเริ่มที่ไม่สวยงาม เต็มไปด้วยอุปสรรคและขวากหนาม
-3-
เริ่มต้นวันนี้ไม่มีคำว่าสายเกินไป ?
ความสำเร็จในการทำทุก ๆ เรื่องทุก ๆ สิ่งไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับคนที่รู้จักการเริ่มต้น บางครั้งที่เราคิดว่าเราเริ่มต้นจากจุดเล็กที่ไม่สำคัญ มันเล็กน้อยไร้ค่าเกินไปไม่สามารถสานให้เราไปถึงจุดใหญ่ฝันได้ แต่เราอาจจะไม่เคยคิดว่าจุดเล็ก ๆ ที่เราเริ่มต้นอย่างไร้ค่านั้น มันก็เป็นหนึ่งของสิ่งสำคัญในเส้นทางรอยต่ออันยิ่งใหญ่ของความสำเร็จ
อย่าอายที่คิดจะเริ่มต้นความสำเร็จจากจุดเล็ก ๆ ที่คนอื่นเขาพากันมองข้าม
จงอายคนอื่นถ้ามัวแต่ประวิงเวลา เพราะอายที่จะเริ่มต้นจากจุดเริ่มเล็ก ๆ
ผมคิดว่าถ้าเราอยากจะขายเรือรบสักลำ เราต้องเริ่มต้นจากขายไม้จิ้มฟันให้เป็นซะก่อน เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ขยับขยายมันไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
อยากจะขายเรือรบสักลำ แต่วันนี้ด้วยสองมือเรากำลังยังไปไม่ถึง ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรถ้าเราจะเริ่มต้นด้วยการ ขายไม้จิ้มฟันเล็ก ๆ ที่ใคร ๆ ต่างพากันมองมันอย่างไร้ค่า ไม่มีราคา
แล้วสักวันหนึ่งไม้จิ้มฟันในมือ จะเปลี่ยนเป็นเรือรบลำใหญ่จนใคร ๆ ต้องพากันยอมรับและนับถือ
-0-
วิชัยเลิกขายลูกชิ้นปิ้งขยับขยายมาขายก๋วยเตี๋ยวแทน ผมยังคงเป็นลูกค้าที่เหนียวแน่นเหมือนเดิม ยังคงเป็นเงาตามตัวตามร้านวิชัยไม่ห่างหาย กิจการของวิชัยโตขึ้นเรื่อย ๆ จากขายก๋วยเตี๋ยวรถเข็น จนกระทั่งมีคูหาเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง จนกระทั่งมีคูหาใหญ่ ๆ เป็นของตัวเอง และกลายเป็นมีสาขาขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเป็นของตัวเอง
ผมแทบไม่เชื่อเลยว่า จากกิจการขายลูกชิ้นปิ้งรถเข็นเล็ก ๆ ของวิชัย จวบจนถึงวันนี้มันจะกลายเป็นกิจการใหญ่โต ความมั่นคงมั่งคั่งของวิชัยมันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ ถ้าวันนั้นผมได้เริ่มต้นพร้อม ๆ กับวิชัย วันนี้ผมจะยังเป็นคนเดิมอยู่อย่างนี้หรือเปล่า
คนเดิมคนนี้...ที่ยังไม่มีอะไรในมือเลย แม้แต่จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ
วิชัยยังคงไม่เก็บค่าก๋วยเตี๋ยวผมเหมือนเคย และก็ไม่เคยทวงค่าลูกชิ้นปิ้งตั้งแต่ครั้งสมัยเก่าเก็บ บอกกับผมเพียงแค่ว่า เมื่อไรมีงานทำแล้วค่อยมาจ่ายก็ได้ คำ ๆ นี้แม้มันจะไม่ได้เป็นเสียงกระทบกระแทกอะไรจากเพื่อน แต่มันก็ทำให้ผมคิดได้ว่า ที่ผ่านมาผมได้แต่เลือกงาน ที่สบาย ๆ เงินเดือนสูง ๆ โดยไม่คิดว่า งานทุกงานมันมีจุดเริ่มต้นในตัวของมันเอง
ถ้าเราอยากสบาย เราต้องรู้จักลำบากให้เป็นก่อน วิชัยพูดให้ผมฟัง
ผมก็ว่าอย่างนั้นพยักหน้าพยายามทำความเข้าใจ ควานหาไม้จิ้มฟันช่องใส่ตะเกียบ
“ขายอย่างนี้เมื่อไรจะจนวะ” ผมกลั้วหัวเราะในลำคอพูดกับวิชัยขณะที่ใช้ไม้จิ้มฟันแงะเศษลูกชิ้นออกจากร่องฟัน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น