ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนกินผัว(รีไรท์)

    ลำดับตอนที่ #17 : บทที่ 16

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 75
      1
      3 ก.ค. 59






    “ริท  วันนี้ริทไม่ต้องไปส่งกันก็ได้นะ”

    นภัทรเอ่ยขึ้น  หลังจากที่เห็นว่าเรืองฤทธิ์จะไปส่งตามปกติ  แต่วันนี้เขาอยากไปคนเดียว

    “ทำไมละกัน  ริทก็ไปส่งกันตามปกติอยู่แล้ว”

    “วันนี้กันอยากลองไปคนเดียว”

    “ไม่ได้”

    เรืองฤทธิ์เผลอตวาด  ทำเอานภัทรงงไม่ใช่น้อย

    “ริท  แต่กันโตแล้ว”

    “แต่ในสายตาริท  กันเป็นเด็กอยู่”

    “อะไรน่ะริท  กันอยากลองเดินด้วยตัวเอง”

    เรืองฤทธิ์ส่ายหัว

    “ก็เดินทางด้วยตนเองสุดท้ายเป็นยังไง  ที่ผ่านมาลืมแล้วหรอกัน  ทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตกัน  กันเป็นคนเลือกใช่ไหม  สุดท้ายเป็นยังไง  ไม่มีใครดูแลกันได้”

    นภัทรเงียบ

    “ไม่ว่ายังไง  ริทจะไปส่งกันเอง”

    “แต่ว่า”

    “ไม่มีแต่  ต่อไปนี้  ริทจะดูแลกันทุกฝีก้าว  เกิดว่ามีอันตรายขึ้นมาถ้าริทไม่อยู่ใครจะช่วยกัน  กันปกป้องตนเองได้หรือไง”

    นภัทรจ๋อย

    “กัน  เพราะริทเป็นห่วง  อย่าลืมนะกัน  ว่าไอ้แกงส้มมันจ้องเล่นงานกันอยู่นะ  ฟังบ้าง  กันโตแล้ว  อย่าเอาแต่ใจเข้าใจมั้ย  เห็นมั้ย  ริทไม่อยู่เกิดอะไรขึ้นกับกัน  ถ้าริทกลับมาไม่ทันไม่รู้ว่าอาการกันจะแย่ขนาดไหน”

    เรืองฤทธิ์บ่นมาอีกเป็นระลอก  ถ้าวันนั้นเขามาไม่ทันไม่รู้ว่านภัทรจะมีอาการแย่ขนาดไหน

    “ก็ได้”

    นภัทรจำยอม  เพราะที่เรืองฤทธิ์พูดมานั้นมีส่วนถูก  วันนั้นเขขาอยู่คนเดียว  ขนาดอิสริยะเพื่อนของเรืองฤทธิ์ที่แวะเวียนมาเยี่ยมมาหา  สุดท้ายก็ไม่วาย  ไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นก็จริง  แต่พอนภัทรป่วย  ก็ไม่มีใครดูแล

    แล้วแบบนี้  จะให้ผู้เป็นพี่ชายหายห่วงได้ไง

    และเรืองฤทธิ์ก็ไม่ไว้ใจใครให้มาดูแลน้องของเขาด้วยซ้ำ

    “เอาล่ะ  แต่งตัวเสร็จและทานข้าว  วันนี้ริททำข้าวต้มปลาให้  กินเสร็จแล้วก็แปรงฟัน  และไปรอที่รถ”

    “อืม”

    นภัทรทำตามโดยดี  เรืองฤทธิ์ส่ายหน้าระอาความเป็นเด็กไม่รู้จักโตของน้องชายฝาแฝดคนนี้ซักที

    นับวันยิ่งดื้อเอาการ

     

    “ขอบคุณนะริท”

    นภัทรเอ่ยขอบคุณพี่ชายก่อนที่จะลงจากรถ  แต่เรืองฤทธิ์เรียกก่อน

    “เดี๋ยวตอนกลางวันริทจะมารับไปทานข้าวด้วยกัน”

    “เอ่  ไม่ต้องก็ได้  เพราะว่ากันจะไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมงานบ้าง”

    “เอางั้นหรอ”

    “อืม”

    เรืองฤทธิ์พยักหน้า

    “เอาอย่างนั้นก็ได้  แต่เพื่อนร่วมงานที่ว่า  ริทอนุญาตให้แค่แคนเท่านั้นนะ”

    นภัทรแปลกใจ

    เรืองฤทธิ์ตีหน้านิ่ง

    “หลังจากที่ริทพิจารณาแล้ว  แคนคงไว้ใจได้  เอาล่ะริทอนุญาตให้กันคบคนในฐานะเพื่อนร่วทมงานที่สนิทกันได้”

    นภัทรงงเล็กน้อย  แต่ก็พยักหน้ารับ

    “ขอบคุณนะริท กันไปก่อนนะ”

    “อืม  เหนื่อยก็พักล่ะ  อย่าหักโหม  เข้าใจมั้ย”

    “ครับ  พ่อ”

    นภัทรว่างอนๆเพราะเรืองฤทธิ์เจ้ากี้เจ้าการจนเจ้าตัวแอบปวดหัว  เรืองฤทธิ์มองตามน้องชายอมยิ้มนิดๆ

    ก่อนที่

    “เพราะยังไง  แคนก็ไม่มีทางได้ใจกันไปอยู่ดี”

    พูดจบ  ร่างเล็กก็สตาร์ทรถ  ก่อนที่จะขับเคลื่อนออกไปข้างหน้า

     

    “พี่กัน  หายดีแล้วหรือครับ”

    เสียงอติรุจดังขึ้น  หลังจากที่เหฌนนภัทรเข้ามาทำงานที่บริษัทหลังจากที่เรืองฤทธิ์โทรมาลาป่วยกับศุภรุจไว้  ทุกคนทราบข่าวของนภัทรก็มีเป็รนห่วง  แต่จะมีบางคนที่ยังแขวะบ้างตามประสาคนที่ชอบว่าร้ายให้คนอื่น

    “จ้ะ  พี่หายดีแล้ว”

    นภัทรตอบสั้น  อติรุจยิ้มโล่งอก  หลังจากที่เขาไปเยี่ยมนภัทรที่โรงพยาบาลวันนั้น  และมาเทียบตอนนี้  นับว่านภัทรกลับมาสดใสดังเดิมแล้ว

    “แล้ววันนี้พี่ริทมาส่งหรือเปล่าครับ”

    นภัทรยิ้ม

    “ก็ตามปกติ  จนพี่รู้สึกว่าริทนี่ท่าทางจะเป็นพ่อพี่มาส่งพี่ที่โรงเรียน”

    อติรุจขำมุกของนภัทร

    “พี่กันนี่ก็แอบอารมณ์ดีเหมือนกันนะครับ”

    “หรอ  ก็พี่คิดอย่างนั้นจริงๆนี่นา”

    นภัทรว่า  จะหันไปสนใจเอกสารแต่นึกได้

    “จริงสิ  แคน  วันนี้ทานข้าวกับพี่นะ วันนี้พี่ไม่มีเพื่อนทานข้าว

    อติรุจแปลกใจ

    “เอ้ะ  พี่กัน  แล้วพี่ริทล่ะครับ  ทุกทีพี่ริทเขาจะมารับไปทานข้าวด้วยกันไม่ใช่หรือครับ”

    นภัทรส่ายหน้า

    “ไม่ล่ะ  วันนี้พี่ขอไปทานข้าวกับเพื่อนๆบ้าง  ริทเขาก็ไม่ว่าอะไร”

    “แต่พี่กันช่วยแคนแบบนี้พี่ริทเขาจะมาฆ่าผมหรือเปล่า”

    นภัทรส่ายหน้า

    “ไม่มั้ง  ดูท่าทางริทจะยอมรับแคนแล้วล่ะ  เพราะว่าแคนเป็นน้องที่ดีของพี่ไง”

    นภัทรว่า  ทำเอาอติรุจหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย  แต่ก็กลับมายิ้มตามปกติ

    “หรอครับ  ดีจังนะครับ  อย่างน้อยผมจะได้ไปเป็นเพื่อนพี่กันยามไปไหนบ้าง”

    อติรุจบอกสีหน้ายิ้มปรีดา  แต่ในใจแอบเศร้า  เพราะยังไง  นภัทรยังคงมองเขาเป็นน้องชายอยู่ดี

    แต่ไม่เป็นไร  ถ้าอะไรเป็นความสุขของนภัทร  ไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะไหน  เขาก็ยอม

    เพราะรักนภัทรอย่างหมดหัวใจ  ต่อให้นภัทรไม่เห็นมันเขาก็จะขอรักเงียบๆจนกว่าเขาจะสิ้นใจไปนั่นแหละ

    “แล้ววันนี้  พี่กันอยากทานอะไรครับ  เดี๋ยวแคนเลี้ยงเอง”

    “จริงหรอ   แต่ว่าพี่กินจุนะ”

    “ผมให้พี่กันกินเป็นกะละมังเลยครับ”

    ทั้งสองหัวเราะทันที

    “บ้าสิ  เดี๋ยวพี่ก็อ้วนเป็นหมูพอดี”

    “อ้วนก็ดีนะครับ  น่ารักออก”

    นภัทรแอบหน้าแดงเล็กน้อย  เมื่อถูกอติรุจชมอ้อมๆ

    “เอ่อ  พี่ทำงานก่อนนะ  เดี๋ยวตอนเที่ยงเจอกัน  แคน”

    “ครับ  พี่กัน”

    นภัทรหันไปสนใจเอกสารในโต๊ะต่อ  อติรุจได้แต่มองยิ้ม

    “ขอให้รอยยิ้มพี่กันอย่าหายไปไหนนะครับ”

    อติรุจเอ่ยในใจ  ก่อนที่จะกลับไปที่ทำงานของตนเองเพื่อเคลียร์ที่ค้างคา

     

    ภาคิณอยากพานภัทรไปทานข้าว  เลยตัดสินใจขับรถมารอ

    “อ้ะกัน  นั่นมากับแคนนี่”

    ภาคิณเห็นนภัทรเดินลงจากออฟฟิศมากับอติรุจ

    “เฮ้อ  ท่าทางกันจะมีใจให้หมอนั่นนะ”

    ภาคิณว่าเศร้า  แต่เขายังไม่ยอมหรอก

    ร่างสูงตัดสินใจบีบแตรรถ  เรียกร้องความสนใจ

    “กันๆ”

    ภาคิณเรียก  และเดินเข้าไปหา  นภัทรหันมามองก่อนที่จะตกใจ

    “พี่โน่”

    “พี่โน่นี่พี่กัน  แคนว่าเราไปคุยก่อนมั้ยครับ”

    นภัทรปฏิเสธ  เพราะไม่อยากให้ภาคิณมีปัญหากับแฝดพี่ตนเอง

    “แคน  พี่ว่าเรารีบไปดีกว่า”

    “แต่ว่า  เดี๋ยวก่อนก็ได้นะครับพี่กัน  เราหนีเขาแบบนี้ถือว่าเป็นการเสียมารยาทนะครับ”

    อติรุจว่า  นภัทรจึงนึกได้  และภาคิณก็เดินมาถึงที่นภัทรและอติรุจยืนอยู่

    “กัน  อ้าวแคน  แคนมาด้วยหรอ”

    ภาคิณทัก  ก่อนที่อติรุจจะทักกลับ

    “ครับ  พอดีวันนี้พี่กันชวนแคนไปทานข้าวด้วยกันนะครับ”

    ภาคิณยิ้ม

    “งั้นพอดีเลย  พี่ว่าจะมารับกันไปทานข้าวด้วยกันพอดี  แคนไปด้วยก็ได้”

    นภัทรตกใจ

    “เอ่อ  แต่”

    อติรุจเห็นนภัทรทำท่าปฏิเสธ

    “นะพี่กัน  ผมว่าไปกับพี่โน่ก็ได้นะครับ  ไปหลายคนสนุกดีออกนะ”

    “แต่พี่”

    อติรุจรู้ว่านภัทรหมายถึงอะไร  รู้ดีว่าเรืองฤทธิ์อาจจะมีปัญหากับภาคิณ  หากมาเห็นภาคิณกับนภัทรมาอยู่ด้วยกัน

    “พี่กันครับ  ไม่ต้องกังวลเรื่องพี่ริทหรอกครับ  วันนี้พี่ริทไม่มานี่ครับ”

    “แต่ พี่เกรงใจพี่โน่”

    ภาคิณพูดขึ้นมาทันที

    “เกรงใจอะไรกัน  พี่ตั้งใจมาชวนกันเลยนะ  แคนไปด้วยก็ได้  หลายคนสนุกดีออก”

    นภัทรยังคงลังเล  จนอติรุจกุมมือนภัทรแน่น

    “นะครับพี่กัน  อย่าให้พี่เขาเสียน้ำใจนะ”

    อติรุเตือน  จนนภัทรยอมตกลง

    “ก็ได้”

    อติรุจยิ้มโล่งอก

    “งั้น  ขึ้นรถพี่นะ”

    ภาคิณนำทั้งสองให้เดินขึ้นรถ  อติรุจและนภัทรตามมาทันที 

    “เชิญกันและแคนเลย”

    อติรุจเห็นว่านภัทรมีอาการเกร็งเมื่ออยู่ใกล้ภาคิณ  คิดว่าทั้งสองควรจะทำความคุ้นเคย  แม้ว่าเขาจะรักนภัทรยากเป็นคนที่ปกป้องนภัทร  แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดมาก  แต่จิตใจนภัทรสำคัญกว่า  ดังนั้น

    “เดี๋ยวพี่กันนั่งหน้านะครับ”

    อติรุจว่าก่อนที่ตนเองจะนั่งด้านหลัง  ทิ้งให้นภัทรอึ้ง

    “แต่พี่จะนั่งกับแคน”

    “รังเกียจพี่ถึงขนาดไม่นั่งกับพี่เลยหรอกัน”

    นภัทรอึ้ง ก่อนที่จะปฏิเสธ

    “ไม่ใช่ครับ  เพีบงแต่”

    อติรุจเลยชะโงกหน้าบอก

    “พี่กันนั่งหน้านั่นแหละครับ  เร็วเถอะครับ  เดี๋ยวเราสองคนจะเข้าบริษัทไม่ทัน”

    อติรุจเตือน  ทำเอานภัทรจำนั่งไปกับภาคิณ

    ภาคิรหันไปสบตากับอติรุจอย่างเข้าใจกัน  ซึ่งอติรุจยิ้มรับ  จนภาคิณแอบชื่นชมในใจไม่ได้

    “นายแคน  นายนี่มันลูกผู้ชายเกินหน้าเกินตาเราไปหรือเปล่านะ  ไม่ได้  อย่ายอมแพ้สิวะไอ้โน่”

    “พี่โน่  เมื่อกี้พี่โน่ว่าอะไรหรอ”

    นภัทรถาม  เมื่อเห็นภาคิณพึมพำอะไรซักอย่าง  จนภาคิณได้สติ

    “อ้อ  เอ่อ  ไม่มีอะไรหรอก”

    อติรุจส่ายหน้าขำ  เพราะเขานั่งด้านหลังภาคิณเลยพอจะจับใจความได้

     

    ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

    ทั้งสามคนได้สั่งอาหารเรียบร้อย  ตอนนี้ทั้งหมดกำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

    โดยเฉพาะนภัทร

    ที่รู้สึกว่ามื้อนี้อร่อย  เนื่องจากภาคิณพามาที่ร้านอาหารเจ้าประจำของนภัทร

    นภัทรทานอาหารอย่างเพลิดเพลิน ทำเอาภาคิณและอติรุจมองนภัทรยิ้มๆอย่างมีความสุข  จนนภัทรรู้สึกได้นั่นแหละ

    “มองอะไรหรอครับ”

    เท่านั้นแหละ  ชายหนุ่มทั้งสองก็อดหัวเราะไม่ได้

    “ไม่มีอะไรหรอกครับพี่กัน  พอดีเห็นเด็กน้อยทานข้าวก็เลยรู้สึกว่าน่ารักดี”

    ภาคิณพยักหน้าเห็นด้วย

    “นั่นสิ  พี่ว่าถ้ากันยิ้มไปมีความสุขไป  แบบนี้พี่ว่ามันทำให้กันน่ารักกว่าเดินนะ”

    นภัทรหน้าแดง

    “แคน  พี่โน่  ชมแบบโต้งๆแบบนี้กันจะกินลงได้ไง”

    ทั้งสามหัวเราะทันที  ก่อนที่ภาคิณยังคงมองนภัทรไปอย่างมีความสุขและทานข้าวไปพลาง

    บางครั้ง  ทั้งสองก็เผลอสบตากัน  ทำเอานภัทรหน้าแดง

    อติรุจทานข้าวไปสังเกตตรงหน้าไป  แอบเจื่อนเล็กน้อย  เพราะนภัทรไม่เคยมีท่าทีเขินเขาแบบที่เขินภาคิณโดยไม่รู้ตัวเลย

    “ขอให้แคนมีความหวังบ้างนะครับพี่กัน  อีกซักนิดก็ยังดี”

    อติรุจนึกในใจ  ก่อนที่จะลงมือทานข้าวต่อ

    ภาพทั้งสามที่กำลังทานข้าวอย่างมีความสุข

    แต่กลับไม่รู้ตัว  ว่ามีบางคน  มองด้วยความไม่พอใจและอิจฉา

    “กัน  มาทานข้าวกับใคร  ไอ้ริทมันปล่ยน้องมาทานข้าวกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ได้ไงวะ”

    ธนทัตนั่นเอง  วันนี้เขามาทานข้าวร้านนี้เหมือนกัน  แต่พอเห็นนภัทร  ภาคิณและอติรุจทานข้าวด้วยกัน  มันทำให้เขาโกรธ

    “หึหึ  ไอ้ริท  มาแสดงบทหวงน้องหน่อยเป็นไง”

    พูดจบ  ธนทัตหยิบโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปทันที

    และส่งให้เรืองฤทธิ์  ที่ตนเองแอบไปได้เบอร์มาจากอิสริยะ  ตอนที่อิสริยะลืมมือถือไว้ที่ร้าน

    “ถ้ากูไม่ได้  ก็อย่าหวังว่าคนอื่นจะได้”

     

    เรืองฤทธิ์กำลังทานข้าวกับเพื่อนหมอในโรงพยาบาล  โดยมีภูหิรัณย์และวิชญาณีนั่งทานด้วย  ตอนแรกเรืองฤทธิ์ทำท่าจะไปทานข้าวคนเดียวข้างนอก  แต่เพราะวิชญาณีชวนเลยเกรงใจ

    “นานๆที  ริทจะมาทานข้าวแบบนี้กับเซนบ้างนะ”

    ภูหิรัณย์พูดไปยิ้มหวานให้เรืองฤทธิ์ไป  เรืองฤทธิ์รับรู้แต่ไม่สนใจ  ทำเอาภูหิรัณย์หน้าเจื่อน

    วิชญาณีเลยชวนคุย

    “เอ  ริท  พี่เห็นเรามักไปรับกันไปทานข้าวด้วย  วันนี้มาแปลก  ทำไมถึงยอมมาทานข้าวกับพวกพี่ได้ล่ะ”

    “พอดี  กันเขาขอทานข้าวกับเพื่อนร่วมงานบ้างนะครับ  ริทเห็นว่ากันน่าจะมีเพื่อนบ้าง”

    เรืองฤทธิ์ตอบ  ภูหิรัณย์ยิ้มเยาะ

    “เพื่อน  หรือผู้ชาย”

    ประโยคนั้น  ทำเอาเรืองฤทธิ์หันขวับไม่พอใจ  ภูหิรัณย์ทำเป็นตกใจ  พอเรืองฤทธิ์เลิกสนใจตนเองก็ยิ้มวาว

    ตึ้ง

    เสียงข้อความอะไรซักอย่างดังจากโทรศัพท์เรืองฤทธิ์  เรืองฤทธิ์จึงหยิบมาดู

    ภาพที่เห็น  ทำเอาเรืองฤทธิ์ตาวาวโรจน์

    “พี่โตโน่”

    พูดจบ เรืองฤทธิ์ก็ลุกพรวดทันที  จวิชญาณีตกใจเพราะเรืองฤทธิ์ไม่พูดจากับใคร  ลุกพรวดไปเฉยๆ

    “ริท  เราจะไปไหน”

    เรืองฤทธิ์ไปแล้ว  ไม่ได้ยินที่วิชญาณีถาม  ทำเอาหญิงสาวรุ่นพี่งง

    “อะไรของเขา”

    ภูหิรัณย์เองก็แปลกใจ  แต่ก็เดาได้  ว่าเกี่ยวกับนภัทรแน่นอน

    “งานนี้ไอ้กันมันคงอ่วม  หึหึ”

     

     

     

    ..................................................................................................................................................................

     

    หายไปนาน  ยังมีคนอ่านอยู่มั้ยเอ่ย  อย่าลืมกันนะเบเบ๋

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×