ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนกินผัว(รีไรท์)

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 59







    สนามบิน  สุวรรณภูมิ

    “เอ  ไหนว่าจะลงบ่ายสาม  นี่ริท  แน่ใจหรอว่าไอ้โน่มันลงเวลานี้  นี่มันเลยมาเป็นครึ่งชม.แล้วนะ”

    ภัทรธิดาหันมาทางเรืองฤทธิ์  ก่อนที่คนร่างเล็กส่ายหน้า

    “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  พี่โน่เขาบอกมาตอนนี้”

    เรืองฤทธิ์พูดเสียงเรียบ  ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรเท่าไหร่  ก็แค่รุ่นพี่ที่รู้จักกัน  ถ้าถามตามจริง  เรืองฤทธิ์จะสนิทกับภัทรธิดามากกว่าอีก

    “อืม  คงใกล้แล้วล่ะถ้าอย่างนั้น”      

    “ไงโม”

    เสียงทุ้มดังขึ้น  ทำให้ทั้งสองหันไปทางต้นเสียง

    “อ้าวนี่  ตายยากนะแก  พอพูดถึงนี่ก็โผล่มาทันทีเลย  ไง  หรือว่าได้กลิ่นธูปละแก”

    ภาคิณเขกหัวอดีตแฟนสาว  แต่ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนที่สามารถเล่นหัวเล่นหางกันได้

    “ก็เหมือนแกนั่นแหละยัยโม”

    “เฮ้ย  อย่ามาเรียกว่ายัย  ถ้าไอ้ฉันไม่โกรธ”

    “นี่ฉันกะแกหลงคบเป็นแฟนกันได้ยังไงเนี่ย  เฮ้อ  ก็อย่างว่า  คบกันไปเหมือนยังกะเพื่อน”

    ภาคิณและภัทรธิดาแหย่เล่นกันจนเพลิน  ก่อนที่จะนึกได้ว่าเรืองฤทธิ์มองอยู่

    “เอ่อ  ริท  พี่ขอบใจนะที่พารับพี่น่ะ  ว่าแต่พอจะหาที่พักได้ไหมละ”

    ร่างเล็กพยักหน้า

    “ก็ได้  อยู่แถมสีลม  แต่ว่าราคาสูงหน่อยนะพี่  เอ้า  นี่รายละเอียด  ผมว่าตอนนี้พี่โมก็อยู่  ริทขอตัวก่อนนะครับ  ริทจะกลับไปดูน้อง”

    พูดจบ  เรืองฤทธิ์ก็หันกลับไปทันที  ทิ้งให้ภาคิณมองงงๆ

    “ไรของมัน  ช่วยแค่นี้”

    ภัทรธิดาส่ายหน้า  ตบบ่าเพื่อนตัวเอง

    “เห็นใจน้องมันหน่อยสิ  ก็น้องของริทมันมีปัญหานี่นา  ริทมันออกจะหวงห่วงมากก็เลยเอาแต่ดูน้อง  ก็เป็นอย่างนี้แหละ  แกไม่มีน้องแกจะเข้าใจอะไร”

    “หือ  น้อง  ที่เป็นแฝดกันหรอ”

    “ก็ใช่ไง”ภัทรธิดาพยักหน้า

    “แล้วปัญหาที่ว่าน่ะคืออะไรวะ”ภาคิณถาม  ภัทรธิดาชักสีหน้านิดหน่อย  เพราะรุ่นน้องตนเองขอว่าอย่าพูด

    “เอ่อ  ช่างมันเถอะ  เฮ้ยแก  รีบกลับเถอะ  เดี๋ยวเราไปส่ง  รีบจะแย่อยู่แล้ว”

    ภัทรธิดาดึงเพื่อนให้ตามไวๆ  ภาคิณหัวเราะ  เพราะรู้ว่าภัทรธิดารีบเพราะอะไร

    “ทำไม  มารับเพื่อนแต่ห่างแฟนนิดเดียวทำมาโวย”

    “อ้าว  แฟนเราทั้งคนนะโว้ย  อย่ามายุ่ง  ไปๆ  จะไปหาฐิสา”

    “เออ  ไปก็ไป”

     

    เรืองฤทธิ์ขับรถมาหยุดที่สวนสาธารณะ  สายตาไม่สบอารมณ์

    “กลับมาทำไมพี่โน่  กลับมาทำไม  ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี  แต่พี่กำลังทำให้ผมเป็นแบบนี้อีกแล้ว  นี่เราต้องเป็นแบบนี้อีกเท่าไหร่”

    เรืองฤทธิ์แววตากร้าว    มือเล็กจับพวงมาลัยแน่น  จนเส้นเลือดปูด

     

    บ้าน  ศิริพานิช

    เรืองฤทธิ์กลับมาบ้านแล้ว  มาถึงเขาก็ขึ้นไปหานภัทรทันที

    “กันไปไหน”

    เรืองฤทธิ์มองนภัทรไปทั่วห้อง  พอไม่เห็นแฝดตัวเองก็ร้อนรน

    “กัน  กันอยู่ที่ไหน”

    เรืองฤทธิ์ตะโกนลั่นบ้าน 

    “ริท  กันอยู่นี่”

    นภัทรเดินออกมาจากห้องน้ำ  เรืองฤทธิ์โล่งอก

    “นึกว่าไปไหนเสียอีก  ริทห่วงแทบแย่”

    นภัทรยิ้มบางๆ

    “ก็กันเหนียวตัวนี่นา  เลยไปอาบน้ำ”

    “หรอ  เอาเถอะ  นี่กินข้าวยัง”

    นภัทรส่ายหน้า  บอกว่ายัง

    “ถ้างั้น  กันรอริทตรงนี้นะ  เดี๋ยวริทไปทำอาหารให้”

    “อื้ม”

    แฝดพี่เข้าไปในครัว  ส่วนนภัทรก็แต่งตัวรอ

     

    “โห  น่ากินจัง”

    นภัทรร้องทันทีเมื่ออาหารทุกอย่างวางตรงหน้า  หน้าตาของมันน่ากินมากจนเจ้าตัวอดกลืนน้ำลายหลายครั้ง

    “ก็กินสิ  อร่อยนะ  ทานเยอะๆนะ  จะได้แข็งแรง”เรืองฤทธิ์ยิ้ม

    “อื้อ”

    ร่างสีน้ำผึ้งจัดการอาหารตรงหน้า  ท่าทางของแฝดน้องทำเอาเรืองฤทธิ์ยิ้มไม่หยุด

    “มองไรอ่ะ”

    “มองกันไง  เวลากินนี่เหมือนเด็กไม่เปลี่ยนแปลง”

    “หรอ  ริทก็ชอบว่ากันเรื่อย  เอ้ะ  ว่าแต่ริทไม่กินหรอ”

    ผู้เป็นพี่ส่ายหน้า

    “ไม่ล่ะ ไม่อยากแย่งเด็ก”

    “ก็บอกแล้วไงไม่ใช่เด็กอ่ะ”ร่างบางหน้ายู่

    “เออน่า  กินๆไปเถอะ  เดี๋ยวริทขอเข้าไปทำอะไรในครัวให้เรียบร้อยก่อนนะ  อ้อ  เดี๋ยวทานข้าวเสร็จนี่  ไปรอริทในห้องนะ  เดี๋ยวจะเอานมไปให้”

    “อื้ม”

    นภัทรรับคำอย่างว่าง่าย  เรืองฤทธิ์ยิ้มก่อนที่จะเดินหายไปในครัว

     

    ที่ห้อง

    “อ่ะนม  ดื่มแล้วก็แปรงฟันซะ  จะดึกแล้ว  อย่าลืมนะกัน”

    เรืองฤทธิ์ยื่นนมอุ่นๆให้นภัทรเหมือนทุกวัน  ผู้เป็นน้องรับมันมาดื่มตามที่พี่ให้

    เรืองฤทธิ์มองน้องจนน้องดื่มหมด  ก็เลยรับแก้วมาและสั่งตามเคย

    “อย่าลืมแปรงฟันนะกัน”

    “อื้อ  ริทนี่  เห็นกันเป็นเด็กไปได้”

    “ในสายตาริท  กันเป็นเด็กเสมอล่ะ   อืม  ริทไปนอนก่อนนะ  ราตรีสวัสดิ์  น้องรัก”

    เรืองฤทธิ์หอมหน้าผากเหมือนทุกวัน  นภัทรหลับตารอรับไออุ่นจากผู้เป็นพี่  ก่อนที่เรืองฤทธิ์จะออกไปจากห้อง

    “อืม”

    นภัทรเดินหายไปในห้องน้ำ  ก่อนที่พอจัดการตัวเองเสร็จก็เข้านอน

     

    โรงพยาบาล

    “ริท  อ่ะ   นี่เป็นประวัติคนไข้ที่ริทฝากเราหา”

    ภูหิรัณย์ยื่นเอกสารให้  เรืองฤทธิ์พยักหน้า

    “ขอบใจนะ”

    ร่างเล็กพูดจบก่อนที่จะสนใจเอกสารในมือต่อ  แต่พอผ่านไปซักพักรู้สึกว่าเพื่อนร่วมอาชีพยังไม่ไป

    “เซน  มีอะไรหรอ”

    “ไม่มีอะไรหรอก  เซนอยากชวนริทไปกินข้าวน่ะ”

    เรืองฤทธิ์ฟังแล้วเฉยๆ

    “ไม่ล่ะ  ริทจะไปกินข้าวที่บ้าน”

    ร่างเล็กไม่สนใจคนที่ชวนแม้แต่น้อย  ภูหิรัณย์รู้สึกหน้าชา  ที่อีกฝ่ายไม่รับไมตรี

    “ริท”

    “ทำไม”

    “คือเซน”

    เรืองฤทธิ์วางเอกสารในมือทันที  ก่อนที่จะลุกเต็มความสูง

    “ริทรู้ว่าเซนคิดอะไรกับริท  บอกกี่ครั้งว่าเราไม่เคยคิดอะไรกับเซนนอกจากน้องชาย  อย่าพยายามอีกเลย”

    เรืองฤทธิ์จะออกไปจากห้องตนเอง  แต่ภูหิรัณย์รั้งแขนเอาไว้

    “ทำไมริท  เราไม่ดีตรงไหน  ริทถึงไม่เคยสนใจเรา  ฮึก  เราไม่ดีตรงไหน  บอกเซนมาสิ”

    ภูหิรัณย์ตัดพ้อ  ตนเองพยายามให้อีกฝ่ายสนใจ  แต่เรืองฤทธิ์กลับไม่มีทีท่าว่าจะสนแม้แต่น้อย

    “เซนก็รู้ว่าริทต้องดูแลกัน  ริทไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้หรอก”

    ภูหิรัณยืไม่พอใจเมื่อนึกถึงนภัทร

    “ทำไมริท  ริทรักมันมากหรอ”

    “ใช่  ก็กันเป็นน้องของริท  ถ้าริทไม่รักกัน  แล้วจะให้รักใคร”

    “ริท  เซนไม่เข้าใจ  ทำไมล่ะ  เด็กนั่นทำไมริทต้องเอาใจใส่ตลอดเวลา  เด็กนั่นมันก็โตแล้ว  ริท  ริทหันมาทางนี้บ้าง  เรารักริทนะ”

    “แต่ริท  ไม่ได้รักเซน”

    เรืองฤทธิ์ย้ำคำชัดเจน  ก่อนที่จะแกะแขนคนที่เกาะกุมเขาและจากไปไม่หันมามอง

    แต่ภูหิรัณย์ตะโกนไล่หลัง  จนเรืองฤทธิ์หยุดกึก

    “หึ  ดูแลมันมากเข้า  ไอ้คนกินผัว  มันมีดีอะไร  ถึงทำให้ริทไม่เคยสนใจเซน  หึ  โอ๋มันเข้าไป  อีกหน่อย  มันจะทำให้ริทเดือดร้อน”

    เรืองฤทธิ์หันขวับ  สายตาแข็งกร้าว

    “กันไม่ใช่คนกินผัว  อย่ามาพูดพล่อยๆ”

    “ทำไม  มันน่ะตัวซวย  ทำให้ใครต่อใครตายมาเยอะแล้วนี่  หึ  ริทเองก็ห่างมันบ้างจะดีกว่า  ถึงริทจะเป็นพี่ชายมัน  ริทก็อาจจะซวยได้  เพราะมันคือตัวซวย  คือกาลกิณี  ที่น่ารังเกียจขยะแขยง”

    “งั้นเซนก็ไม่ต้องมายุ่งกับริท  เซนจะได้ไม่ต้องมาซวยเหมือนกัน  แล้วอย่าพูดว่ากันเป็นคนกินผัวอีก  ไม่อย่างนั้น  ริทไม่เกรงใจแน่  ริทน่ะ  ไม่ได้อ่อนโยนกับทุกคนหรอกนะ  โดยเฉพาะ  กับคนที่คิดไม่ดีกับกัน”

    ร่างเล็กพูดจบ  ก็ส่งสายตาไม่พอใจให้ภูหิรัณย์  ก่อนที่จะเดินออกไป   ทิ้งให้ภูหิรัณย์แค้น

    “ฮึ้ย  ฮึก  ทำไม  ริทไม่เคยสนใจเซนบ้าง  กัน  แกแย่งความรักของฉัน  แกดึงความรักของริทไปที่ตัวแกจนหมด  หึ  รับรองได้เลย  ถ้าฉันสามารถแต่งงานกับริทได้เมื่อไหร่  แกได้เฉดหัวออกไปจากชีวิตริทคนแรกแน่  ริทต้องรักฉัน  ฉันไม่ยอมให้แกมาเป็นหนามเด็ดขาด  นังคนกินผัว  ตัวกาลกิณี”

    ภูหิรัณย์กำมือแน่น  ผู้ชายในฝันที่เฝ้ารอมานานแรมปี  แต่กี่ปีที่ฝ่ายนั้นไม่เคยสนใจ

    เพราะเอาแต่  ดูแลนภัทร

    ถึงนภัทรจะเป็นฝาแฝดเรืองฤทธิ์  ที่เป็นธรรมดาว่าพี่น้องจะรักกัน  แต่ภูหิรัณย์รู้สึกอิจฉาริษยา  เพราะมันทำให้เรืองฤทธิ์ไม่เคยแบ่งความรักมาให้ตนเองเลย

    หึ  นภัทร  แกจะต้องเป็นที่รังเกียจของทุกคนไปอีกนาน  แกจะได้ไม่มีความสุข  เหมือนฉันทุกวันนี้

     

    เรืองฤทธิ์เดินมาที่รถ  ก่อนที่จะปลดรถตนเองและเข้าไปข้างในด้านคนขับ

    “ขอโทษนะเซน  ริทรักใครไม่ได้อีกแล้ว”

    เรืองฤทธิ์สตาร์ทรถ  ก่อนที่จะขับออกไป

     

    บริษัท

    “อ้าวกัน  เสร็จงานแล้วหรอ”

    ศุภรุจ  หัวหน้าของนภัทรถามเมื่อเห็นว่านภัทรทำท่าจะกลับ  ดูเหมือนว่าร่างบางจะเสร็จงานแล้ว

    “ครับพี่รุจ  กันจะกลับบ้านแล้วล่ะครับ”

    “แล้วใครมารับล่ะ  คงจะเป็นริทล่ะสิ”

    ร่างบางพยักหน้า

    “ครับ  เดี๋ยวพี่ชายกันจะมารับครับ”

    ศุภรุจยิ้มให้กับพี่น้องคู่นี้

    “กันนี่น่าอิจฉานะ  มีพี่ที่แสนดีแบบนี้  เฮ้อ   ทำเอาคิดถึงไอซ์มันเลย”

    ศุภรุจพูดไปไม่ได้ตั้งใจ  ลืมไปว่ามันไปสะกิดนภัทรเข้า

    “ฮึก  กันขอโทษนะครับ  เพราะกันคนเดียว  ถ้ากันไม่ยอมแต่งงานกับไอซ์  ไอซ์คง”

    ศุภรุจนึกได้ว่าพูดอะไรออกไป

    “กัน  อย่าคิดมากสิ  พี่ไม่เคยโทษกันเลยนะ  คนเรามันถึงที่ตายจะให้ทำยังไง  คนเราน่ะ  มันก็ต้องตายทุกคน  กันอย่าคิดมากเลยนะ  พี่ไม่เคยว่ากันเลยนะ”

    “แต่กันมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆนี่ครับ  ฮึก”

    ศุภรุจส่ายหน้า  คงเป็นเพราะคนในบริษัทนินทาร่างบางจนนภัทรคิดมาก

    ทั้งที่  มันไม่เกี่ยวกันซักหน่อย

    คนเรายังไงมันก็ต้องตาย  จะช้าจะเร็วก็เท่านั้น  อีกอย่างน้องชายของเขาทำตัวเอง  ที่ดันไปใช้ยามากเกินขนาด  จนตัวเองประสาทหลอนจนฆ่าตัวตาย

    คนกินผัวตัวซวยดวงกาลกิณีมีจริงที่ไหน  คิดมากกันไปเอง  พูดเป็นตุตะไร้สาระ

    “อย่าคิดมากน่ะเรา  คคนเราถ้าไม่ตายวันนี้  วันหน้าก็ตายอยู่ดี  อย่าได้โทษตัวเอง  คนเหล่านั้น  เขาตายเพราะถึงคราวของเขา  อย่าคิดมากเลยนะ”

    ร่างบางรับ

    “ครับ  กันจะพยายาม”

    “งั้นพี่ไปล่ะ  ดูแลตัวเองดีๆละเรา”

    ศุภรุจทิ้งท้ายด้วยความเอ็นดู  เสียดาย  น้องชายเขาไม่น่ามาตายเลย  ไม่อย่างนั้น  เขาคงได้น้องสะใภ้น่ารักคนนี้มาอยู่ร่วมชายคาเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว  นภัทรเป็นคนดีแต่อาภัพเท่านั้น 

    แต่สำหรับเขา  ไม่เชื่อหรอก  เรื่องดวงกินคู่บ้าบอ  แต่ว่าคนทั้งบริษัทน่ะสิ  ไม่รู้ว่าไม่มีอะไรทำกันหรือไง

    ถึงได้ว่าร้ายคนอื่นเขา  ไม่คิดเลยว่าคำพูดมันส่งผลจิตใจแค่ไหน

    นภัทรพอจะทำใจให้เป็นปกติ  กำลังจะออกจากบริษัท  แต่แล้ว

    “พี่กันครับ”

    นภัทรหันไป

    “แคน”

    ภาพที่เห็น  คือภาพที่อติรุจหอบดอกไม้มา  ช่อกุหลาบสีขาว

    “เอ่อ  แคน  มีอะไรหรอ”

    นภัทรถาม  อติรุจยิ้มให้

    “แคน  เอาดอกไม้มาให้ครับ  พี่กันรับไว้นะครับ”

    นภัทรรับมาเสียไม่ได้  ก่อนที่จะยิ้มให้รุ่นน้อง

    “เอามาให้พี่ทำไมหรอ”

    “พี่กันไม่น่าถาม  ก็แคนเห็นว่ามันสวยดี  มัเหมาะสำหรับคนอย่างพี่”

    นภัทรรู้สึกอึดอัด

    “พี่กันครับ  ถ้าพี่กันลืมพี่อาร์ได้เมื่อไหร่  ขอให้พี่มองมาที่ผม  ขอให้พี่รู้ไว้นะครับว่าผมยังอยู่ตรงนี้  หากมีโอกาส  ผมขอเป็นคนดูแลพี่เองนะครับ”

    “แคน  แต่พี่  แคนอย่าสนใจคนตัวซวยอย่างพี่เลยนะ”

    อติรุจส่ายหน้า

    “ไม่หรอกครับพี่กัน  สำหรับผม  พี่กันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนว่า  พี่กันจะเป็นยังไงผมไม่สน  แต่พี่กันเป็นคนดี  ผมรักพี่กันเพราะพี่กันเป็นคนดี”

    นภัทรส่ายหน้า

    “ไม่หรอกแคน  พี่ไม่ใช่อย่างที่แคนว่า  อย่ารักพี่เลยนะ  พี่ไม่อยากทำร้ายแคนอีก”

    นภัทรปฏิเสธ  เข็ดขยาดกับความรัก

    อติรุจเข้าใจทันที

    “ไม่เป็นไรครับ  พี่กันไม่พร้อมจะเปิดใจให้ผมไม่เป็นไร  แต่ถ้าพี่กันจะเริ่มต้นใหม่  อย่างน้อย  นึกถึงผมบ้างนะครับ”

    อติรุจยิ้มอ่อนโยน  ก่อนที่จะเดินออกไป  นภัทรมองตาม

    “แคน  แคนเป็นคนดี  อย่ามารักคนอย่างพี่เลย”

     

    อติรุจเดินมาหน้าบริษัท  หันหลังไปทางนั้น  ทางที่ตนเพิ่งเดินออกมา

    “ผมจะรอวันนั้นนะครับ”

    อติรุจยิ้ม  เขาหลงรักนภัทรตั้งแต่วันแรกที่เห็น  วันที่นภัทรมาทำงานที่นี่ครั้งแรก  แต่เนื่องจากว่านภัทรไม่ได้รักตนที่สำคัญนภัทรมีคนรักคือยุกต์  ที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  และต่อมาเป็นน้องชายหัวหน้าแผนกเขา  แต่อติรุจไม่ได้คาดหวังว่านภัทรจะหันมามองตน  เพราะเขาถือว่า  ความรัก  มันไม่สามารถบังคับกันได้  ได้แต่ถ้ามีโอกาสซักวัน  จะขอเป็นคนดูแลนภัทรบ้าง

    อติรุจหยุดความคิด  ก่อนที่จะเดินไปที่รถ  แต่ต้องชะงัก  เมื่อหันไปแล้ว  เห็นใครคนนึงเดนมาทางเดียวกัน  แต่เป็นการเดินสวนมา

    “เอ่อ  พี่ริท  สวัสดีครับ”

    อติรุจยกมือไหว้ผู้มาใหม่  เรืองฤทธิ์มองอติรุจด้วยสายตาเรียบเฉย

    “กัน  ลงมาหรือยัง”

    อติรุจพยักหน้า  เกร็งตัวเมื่อเห็นพี่ชายฝาแฝดของนภัทร  ใครๆก็รู้ว่าหมอเรืองฤทธิ์รักและหวงน้องชายแค่ไหน

    “คงกำลังลงมาน่ะครับ”

    “หรอ”

    อติรุจทำตัวไม่ถูกเท่าไหร่  ถึงแม้ว่าภายนอกเรืองฤทธิ์จะดูอ่อนโยน  แถมรูปร่างฝ่ายนั้นไม่ได้บ่งบอกว่าจะเป็นคนดุแค่ไหน  ที่สำคัญหวงนภัทรยิ่งกว่าอะไรดี  น้อยคนนักที่สามารถพิสูจน์จนเรืองฤทธิ์สามารถปล่อยให้คบกับนภัทรได้

    “ครับ”

    อติรุจตอบแฝดพี่ของนภัทรไป

    “อืม”

    เรืองฤทธิ์ตอบสั้นๆ  มองอติรุจแวบเดียวก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับน้องชายตนเอง

    “นายเป็นคนดีนะ  แต่ยังไง  ฉันก็คงไม่ปล่อยให้กันมาคบกับนายหรอก   เพราะนาย  ไม่เหมาะกับการมาเป็นคนดูแลน้องฉัน”ล

    อติรุจถอนหายใจ  สบตาเรืองฤทธิ์ตรงๆ

    “ผมรู้ครับ  ว่าผมไม่เหมาะที่จะมาดูแลพี่กันแทนพี่ริท  ผมรู้ดีครับ  พี่ริทไม่ต้องห่วงนภัทร  ผมรักพี่กันด้วยความจริงใจ  ไม่หวังอะไรตอบแทน  ถ้าพี่กันเขาไม่ได้รักผม  ผมก็ไม่คิดจะฝืน  ผมรู้ตัวดีครับ  พี่ริทไม่ต้องห่วง  คนอย่างผม  ก็ได้แค่แอบรักพี่กันแบบนี้ละครับ  แต่ผมขอบอกพี่ริทตรงนี้  ว่าผมรักพี่กันจริง  และจริงใจกับพี่กันมาตลอด  ผมอยากเป็นคนดูแลพี่กัน  ถึงแม้ว่าสายตาพี่ริท  จะมอง  ว่าผมไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาดูแลพี่กันต่อจากพี่ริทได้  ไม่เป็นไรครับ  ผมขอแค่รักพี่กันตลอดไปก็พอ  ผมให้เกียรติพี่กันเสมอครับ”

    เรืองฤทธิ์พยักหน้า

    “อืม  ถ้าได้ยินอย่างนี้ฉันก็เบาใจ  นายต้องเข้าใจ  ฉันรักและห่วงน้องชายฉันมากแค่ไหน  ฉันคงไม่วางใจให้ใครมาดูแลกันได้หรอก  แต่ก็ดี  นายดูลูกผู้ชายดี  ที่มาพูดกับฉันตรงๆ  ถึงแม้ว่านายอาจจะดูไม่น่าแกร่งก็ตาม  แต่ฉันจะพูดตรงๆเหมือนกัน  นายอย่าคิดเกินเลยน้องฉันมากกว่านี้อีก  น้องฉันทั้งคน  คงไม่ปล่อยให้นายมาแตะต้อง  จริงใจแบบนี้ดี  ฉันชอบ”

    เรืองฤทธิ์พูดด้วยสายตาเย็นๆ  อติรุจรับรู้แต่ไม่ได้กลัว  เขามันลูกผู้ชายพอ

    “ครับ  ผมจะจำไว้”

    “อืม  นายไปได้แล้ว  หมดเรื่องแล้ว  แล้วอย่าลืมที่พูดล่ะ  แค่แอบรัก  แต่ห้ามมาปีนระดับ  จำไว้”

    “ครับ”

    อติรุจพยักหน้าก่อนที่จะลาเรืองฤทธ์และอกไป  เรืองฤทธิ์มองตาม  ก่อนที่จะเดินไปรับนภัทร

     

    “กัน  ลงมาแล้วหรอเรา”

    “อ้ะ  ริท  ริทมาแล้วหรอ”

    “ก็ใช่น่ะสิ  เห็นริทเป็นคนอื่นหรือไง”

    เรืองฤทธิ์แหย่น้องชายเล่น  นภัทรหน้าบึ้ง

    “เปล่าซักหน่อย  แค่เห็นว่ามาเร็วก็เท่านั้น”

    นภัทรทำหน้างอนๆแต่ไม่นาน  ก็ยิ้มให้แฝดพี่

    “หิวอะไรยังล่ะกัน”

    ร่างบางพยักหน้า

    “ก็นิดหน่อยน่ะ  พอดีวันนี้ทานน้อยไปหน่อย”

    เรืองฤทธิ์ยิ้ม

    “งั้นเราไปกินข้าวกัน  เดี๋ยวริทพาไป”

    “คร้าบ  คุณแฝดพี่ตัวเตี้ย”

    “แน่ะ  แล้วเตี้ยๆนี่ไม่ใช่พี่เราหรอห๊ะ  ไปๆ  เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก”

    “อื้อ”

    เรืองฤทธิ์นำน้องตัวเองเดินตาม  ก่อนที่จะเปิดประตูให้นภัทร  นภัทรยิ้มบางๆก่อนที่จะทำตามที่พี่ชายบอก  เรืองฤทธิ์ยิ้มอารมณ์ดีก่อนที่จะไปนั่งฝั่งคนขับ

    และก็ออกเคลื่อนไปข้างหน้า

    ......................................................................................................................................................

    อัพแล้วจ้า  อ่านเยอะๆน้า

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×