ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนกินผัว(รีไรท์)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 59










    “ดื่มนมนะกัน”

    เรืองฤทธิ์เอานมอุ่นมาให้นภัทร  ที่ตอนนี้ยังรู้สึกเศร้าเรื่องของอาณัตพลที่เสียชีวิตไปหลายเดือนอยู่  ถึงตอนนี้น้องชายของเขายังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น  เขารู้ว่านภัทรยังเสียใจไม่เลือนรางเสียทีได้แต่คอยเอาใจใส่ประคองใจไม่ให้นภัทรคิดมากในแต่ละวัน

    “ขอบคุณนะริท”

    นภัทรบอกสั้น  ก่อนที่จะรับแก้วนมมาดื่ม   

    “ขอบคุณแล้วก็ดื่มซะนะ  จะได้หลับสบาย”

    “อื้อ”

    เรืองฤทธิ์ยิ้มๆ   มองนภัทรดื่มนมที่ตนเองเอามาให้โดยไม่อิดออด  พอเห็นนภัทรมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างก็สบายใจหน่อย  เขาชอบรอยยิ้มนภัทรเสมอ  แต่ทุกวันนี้หาได้ยากมากจริงๆรอยยิ้มที่สดใสของนภัทร  แต่เขาจะทำให้นภัทรยิ้มออกมาให้ได้

    “ดึกแล้วนะกัน  นอนซะ  พรุ่งนี้จะได้ตื่นขึ้นมาจะได้สดใส”

    “อืม”

    นภัทรทำตามอย่างว่าง่าย   เรืองฤทธิ์เดินมานั่งข้างๆ  พลางเอามืออุ่นๆของตนลูบไล้ใบหน้าที่มีดวงตาหวานประดับประดาบนใบหน้าสวยใบนั้น

    “หลับให้สบายนะกัน”

    “อื้อ”

    เรืองฤทธิ์ยิ้ม  ก่อนที่เดินออกจากห้องไปปล่อยให้นภัทรนอนบนเตียงอยู่ในห้อง  หมดหน้าที่พี่ชายที่คอยเอาใจใส่ไปหนึ่งวัน  แล้วจะกลับมาอีกในวันพรุ่งนี้  หน้าที่และภารกิจสำคัญที่เขาไม่มีวันลืม

    เรืองฤทธิ์และนภัทรเป็นพี่น้องฝาแฝดเติบโตมาด้วยกัน  ถึงแม้ว่าหน้าตาของเขาทั้งสองจะไม่มีส่วนใดคล้ายคลึงเลยแม้แต่นิดเดียวรวมทั้งอุปนิสัยของทั้งสองคนก็ต่างกัน  นภัทรเดิมทีมีอุปนิสัยร่าเริงสดใสใครมองเป็นต้องหลงรัก  ต่างจากเรืองฤทธิ์ที่ใบหน้าควรจะมีแต่ความสดใสกลับเคร่งขรึมไม่ค่อยพูดจาแถมบางทียังมีรัศมีความดุจนกลบใบหน้าที่หวานไม่ต่างจากน้องชายจนเกลี้ยงมีแต่คนเกรงขามเพราะเรืองฤทธิ์มีนิสัยดุมากจนไม่มีใครเกล้าเข้าใกล้  ถ้าไม่สนิทใจเรืองฤทธิ์ไม่มีทางเป็นมิตรกับใครได้ง่ายๆเลยแม้แต่นิดเดียว   แต่ถึงกระนั้นต่อให้เรืองฤทธิ์จะเป็นที่เกรงขามผิดหน้าตาตนเองแค่ไหน  คนที่เรืองฤทธิ์กลายเป็นคนอ่อนโยนได้มีเพียงนภัทรน้องชายฝาแฝดของเขาคนเดียว  เรืองฤทธิ์เป็นแฝดพี่ที่รักนภัทรผู้เป็นแฝดน้องมาก  มากถึงขั้นหวงเลย  ไม่ชอบเวลาที่นภัทรถูกชายหนุ่มหลายคนจับตามอง  เพราะเขาหวงน้องชายของเขาสุดๆจนเพื่อนสนิทที่มีไม่กี่คนแซวว่ายังกะพ่อ  สมัยมัธยม  ใครก็ตามที่มาจีบหรือลวนลามนภัทร  เรืองฤทธิ์ถึงกับตามไปเล่นงานจนใครๆทั้งโรงเรียนไม่กล้าจีบนภัทรแม้แต่คนเดียวเพราะไม่กล้าต่อกรเรืองฤทธิ์ผู้เป็นพี่ทั้งที่ภายนอกไม่มีอะไรน่ากลัว  ใครที่ไม่รู้จักกิตติศักดิ์แล้วเข้ามาตอแยตามจีบนภัทรแต่พอเจอเรืองฤทธิ์เผ่นกลับแทบไม่ทัน  และมันก็เป็นแบบนี้ จนนภัทรและเรืองฤทธิ์สอบติดและเข้าเรียนมหาวิทยาลัย  โดยที่เรืองฤทธิ์สอบเข้าคณะแพทย์เพราะผลการเรียนดีเยี่ยมไร้ที่ติเนื่องจากเรืองฤทธิ์เป็นคนที่มีความอัจฉริยะมาแต่ไหนแต่ไรทำอะไรก็เป็นที่หนึ่ง   ส่วนนภัทรเรียนเกี่ยวกับคณะบริหารธุรกิจ  การที่ต่างคณะของสองฝาแฝดไม่ได้ทำให้ความหวงของเรืองฤทธิ์ลดลงแต่เมื่อคณะที่ต่างกันทำให้ความใกล้ชิดติดตัวเกือบตลอดเวลาจางไป  นภัทรอยู่ในสายตาเรืองฤทธิ์น้อยลงแต่นั่นใช่ว่าเรืองฤทธิ์จะปล่อยให้นภัทร

    แต่แล้ว  วันที่เรืองฤทธิ์ไม่อยู่บ้าน  เนื่องจากติดกิจกรรมทางมหาวิทยาลัย  นภัทรอยู่บ้านคนเดียวไม่มีใครอยู่บ้าน  วันนั้นเองที่เป็นฝันร้ายตลอดกาลของนภัทร  เพราะคืนนั้นนภัทรถูกข่มขืนจนย่อยยับ  พอมาตอนเช้า  เรืองฤทธิ์เข้าไปหานภัทรหลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัย  ก็เจอนภัทรในสภาพบอบช้ำบ่งบอกว่าเกิดอะไรขึ้นเป็นอย่างดี  ตอนแรกเรืองฤทธิ์จะแจ้งความ  แต่นภัทรขอร้องไว้เพราะอับอายเสียใจไม่อยากจะจดจำมันอีกแม้รู้ดีว่ายังไงก็ไม่มีทางลืมได้   เรืองฤทธิ์ไม่พอใจเท่าไหร่นักแต่ก็ยอมปล่อยเลยตามเลยในเมื่อนภัทรร้องขอถึงแม้ว่ามันจะขัดใจเขาเท่าไหร่ก็ตาม

    นภัทรจมอยู่กับความเศร้าเป็นแรมปัดีที่เรืองฤทธิ์คอยปลอบประโลมและเคียงข้างเสมอมากว่านภัทรจะพอหายเศร้าลงได้บ้างก็มาเรียนจบพอดีพร้อมกับเรืองฤทธิ์ที่เป็นคนหัวดีสามารถเรียนจบคณะแพทย์พร้อมกับนภัทรได้ทั้งคู่ก็ต่างทำงานตามที่แต่ละคนเรียนมา  ในช่วงนี้เองเรืองฤทธิ์  ยอมให้นภัทรสามารถคบหาใครก็ได้  แต่ต้องผ่านสายตาเขาเท่านั้น  และคนรักคนแรกคือสน  นิสัยดีและสุภาพบุรุษกว่าจะสามารถชนะใจนภัทรและฝ่าด่านผู้เป็นแฝดพี่ได้ก็ใช้เวลาเกือบปีกว่าที่เรืองฤทธิ์จะอนุญาตให้คบกันแต่พอคบกันอย่างเป็นทางการไม่นานก็มาเกิดเรื่อง   อยู่ๆก็มีคนพบว่าสนตกตึกตาย  ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการพลัดตกลงมา  เนื่องจากในห้องไม่มีรอยต่อสู้  นภัทรเสียใจมากเรืองฤทธิ์ใช้เวลาอยาหลายเดือนกว่าจะปลอบใจให้นภัทรดีขึ้น  ต่อมาเวลาผ่านไป  สุกฤษฎิ์ คนรักคนที่สองกว่าจะสามารถคบหากับนภัทรได้ต้องฝ่าด่านเรืองฤทธิ์เลือดตาแทบกระเด็นกว่าที่เรืองฤทธิ์จะยอมให้คบจนถึงเวลาใกล้จะแต่งงาน  สุกฤษฎิ์กลับจมน้ำตายอีกคน

    คนที่สาม  ณัฐพัชร์  คนนี้เป็นรุ่นน้องที่ทำงานและเป็นน้องชายหัวหน้าแผนกเดียวกันกับนภัทร  ตามจีบตามตื้อจนนภัทรใจอ่อนและสามารถฝ่าด่านความหวงของเรืองฤทธิ์ได้และก็ได้คบหาดูใจกันจนกำลังจะแต่งงาน  แต่สุดท้ายณัฐพัชร์ก็แขวนคอตาย  ตำรวจสันนิษฐานว่าเกิดจากการใช้ยาเสพติดมากจนเกิดประสาทหลอนเป็นสาเหตุทำให้ฆ่าตัวตาย

            เพราะคนรักนภัทรตายมาแล้วถึงสามคนในเวลาไม่กี่ปี  นภัทรเริ่มถูกคนตราหน้าว่าเป็นคนกินผัว   ต่างพากันรังเกียจ  มีเพียงเรืองฤทธิ์และวรินรัตน์ผู้เป็นแม่ที่คอยอยู่เคียงข้างพยายามปลอบใจไม่ให้คิดมากเรื่องนี้เพราะรู้ดีว่าเรื่องแบบนี้มันกระทบจิตใจนภัทรมากเหลือเกินแต่ถึงกระนั้นนภัทรก็ไม่ยอมคบใครเลย  จนมาเจอวาโย คนนี้เป็นหมอโรงพยาบาลเดียวกับเรืองฤทธิ์นี่เอง  ซึ่งคนนี้เรืองฤทธิ์ไม่มีทีท่าว่าจะขัดเหมือนคนก่อนๆและออกตัวเชียร์ด้วยซ้ำจนทั้งคู่ก็ได้คบกัน  ทั้งคู่ก็ดูราบรื่นดีไม่มีอะไรน่าห่วงจนวันหนึ่งวาโยพานภัทรไปเที่ยวเขาโดยมีเรืองฤทธิ์ไปด้วย  จนถึงขากลับวาโยเสียหลักขับรถตกเขาตายอีกคนต่อหน้าต่อตานภัทรที่นั่งอยู่ในรถของเรืองฤทธิ์ที่ขับตามรถวาโย  ภาพความตายที่เกิดขึ้นทำให้นภัทรขาดความมั่นใจ  เชื่อไปแล้วว่าตนคือตัวซวย  เป็นคนกินผัวจริงๆ  ในขณะที่เรืองฤทธิ์ที่ไม่เคยไม่เชื่อเรื่องพวกนี้คอยปลอบประโลมให้กำลังใจไม่ให้คิดมากกับเรื่องไร้สาระ  ทั้งยังบอกว่าคนเหล่านั้นถึงคราวตายเอง  ย้ำเสมอว่านภัทรไม่ใช่ตัวซวยเป็นคนกินผัวอย่างที่ใครๆคิด  รักครั้งสี่อันเจ็บปวดของนภัทรครั้งนี้  ทำเอานภัทรไม่คิดจะรักใครอีกเลย

    จนมาถึง  อาณัตพล  คนรักคนที่ห้าที่เพิ่งจะเสียชีวิตเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมานั้นเอง  คนนี้เป็นรุ่นพี่คนนึงของนภัทรที่เคยเฝ้ามองนภัทรห่างๆมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแต่ยังไม่ทันได้จีบก็ต้องไปเรียนต่อเมืองนอกก่อนที่จะกลับมาพบนภัทรอีกครั้ง   ทั้งที่อาณัตพลได้ยินเรื่องราวรับรู้ว่านภัทรมีอดีตมายังไง  แต่รายนั้นกลับไม่รังเกียจ  ดึงดันว่าจะขอนภัทรแต่งงาน  อาณัตพลใช้ความพยายามถึงสามปีกว่าจะสามารถเอาชนะใจนภัทรได้ด้วยความเพียรพยายามมากกว่าคนรักคนก่อนๆของนภัทรด้วยซ้ำเพราะนภัทรเองก็มีบาดแผลไม่กล้ารักใครเพราะกลัวว่าจะทำให้อาณัตพลตายเหมือนคนรักของตนเองที่ผ่านมาแต่สุดท้ายด้วยความพากเพียรและจริงใจของอาณัตพลนภัทรจึงยอมเปิดใจ  ความรักครั้งนี้ของนภัทร  เรืองฤทธิ์ยอมให้อาณัตพลเข้ามามีตำแหน่งน้องเขยเขาได้เพราะเห็นว่าคนนี้จะทำให้นภัทรหายจากแผลใจที่สะสมมานาน  จึงปล่อยให้นภัทรมีความรักอีกครั้ง  แม้มันจะมีความระแวงและกดดันกลัวเป็นอย่างที่ผ่านมาแต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนว่าสวยงามและราบรื่นดี  จนทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ทั้งสถานที่ก็ไม่มีปัญหา  แจกการ์ดอะไรก็ราบรื่น  ทุกอย่างสงบไม่มีเรื่องร้อนใจจนก่อนที่จะถึงวันงานเพียงวันสองวันสุดท้ายอาณัตพลก็มาประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตายคาที่ไปอีกราย

         ยิ่งตอกย้ำให้นภัทรเชื่อจริงว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้คนรักตาย  ทุกคนพากันตราหน้าด่าทอต่อว่านภัทรเป็นตัวซวย  เป็นคนกินคู่ ดวงกินผัว  เป็นกาลกิณี ไม่ว่าจะแต่งงานกับใคร  คนรักของกันทุกคนต้องมีอันเป็นไปทุกคนไม่มีใครกล้าเข้ามาหา ทุกคนพากันรังเกียจและนินทาไม่ยอมรับนภัทรต่างกลัวดวงกินคู่กินผัวของนภัทร  เพราะคนรักของกันทุกคนล้วนมีอันเป็นไปก่อนวัยอันควร  ทั้งที่คนเหล่านั้นเป็นคนดีแท้ๆแต่มาตายด้วยสาเหตุเดียวกันคือใกล้วันแต่งงานเพียงไม่กี่วัน  คนรู้จักจึงพากันครหาว่านภัทรเป็นตัวกาลกิณีคนกินผัวที่ทำให้คนรักแต่ละคนมีอันเป็นไปนั่นเอง

         มีเพียงคนเดียวที่ไม่เชื่อเรื่องนี้และเคียงข้างนภัทรเสมอนั่นคือเรืองฤทธิ์แฝดพี่ที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้  เพราะมันไร้สาระเกินไป  ความคิดเขาคือแค่คนเหล่านั้นถึงคราวตายเอง  ก็แค่บังเอิญเท่านั้น  เรืองฤทธิ์เป็นคนเดียวที่เข้าใจนภัทรเป็นอย่างดีถ้าไม่รวมมารดาของเขาด้วย  และครั้งนี้เขาจะเคียงข้างนภัทรอีกครั้ง  จะไม่ให้นภัทรคิดมากเรื่องนี้อีก

    “กัน  เมื่อไหร่จะเลิกคิดมากซะที  ริทบอกแล้วไงว่ากันไม่ใช่คนกินผัวบ้าบออะไรนั่น  ทำไมไม่เชื่อริท”

    และเป็นอีกครั้งที่เรืองฤทธิ์พูดแบบนี้กับนภัทร  ไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ที่ต้องบอกแบบนี้  แต่ดูเหมือนว่าแผลใจครั้งนี้มันใหญ่จนยากที่จะสมานกันได้ง่ายๆ

    “ริทก็เห็นนี่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับกัน  ฮึก”

    “แล้วยังไง  ไม่คิดจะเดินหน้าต่อเลยหรอ”

    นภัทรเงียบ  เรืองฤทธิ์ส่ายหน้า

    “กัน  ริทบอกกันกี่หน  ว่าอย่าไปเชื่อเรื่องบ้าๆนั่น  มันไม่มีจริง  ดวงกินผัวบ้าบอคอแตกสิ  ไร้สาระสิ้นดี  เลิกโทษตัวเองบ้าๆได้แล้วนะ  ริทบอกแล้วไง  ไม่ว่าพี่สน  พี่บี้  ไอซ์  พี่เก่ง  และพี่อาร์  ไม่ได้ตายเพราะกัน  คนเราเกิดมาทุกคนก็ต้องตาย  จะช้าหรือเร็วแค่นั้น  มันเป็นเรื่องบังเอิญที่สามารถเกิดขึ้นได้  กันจะไปคิดมากทำไม  ริทไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรเลย”

    “แล้วริทไม่เห็นหรือไง  ฮึก  ใครต่อใครมาเจอแบบนี้ก็รู้  ขนาดเด็กอนุบาลยังรู้เลย  ฮึก  กันมันตัวซวย  ดวงกาลกิณีทำให้ใครต่อใครตาย”

    เรืองฤทธิ์ส่ายหน้า  นภัทรดูจะไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่นัก

    “เอาเถอะ  ริทรู้ว่ากันคงเจ็บมามาก  เอายังงี้ริทจะพากันไปผ่อนคลาย  คืนนี้เราไปเที่ยวกัน  ไปกันนะ  ลมเย็นๆยามค่ำคืนจะช่วยให้จิตใจกันผ่อนคลาย”

    “แต่กันไม่อยากไป  กันไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรทั้งนั้น”

    “ไม่เชื่อใจริทหรอ”

    นภัทรอึ้งไปทันที  เมื่อเรืองฤทธิ์พูดกับตนแบบนั้น  ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาผู้เป็นพี่ทีเดียว

    “ริท  คือกัน”

    “บอกแล้วไง  ที่ผ่านมาก็ผ่านไป  ไม่ต้องไปจำ  ถ้าคิดว่าจะไม่มีใครรักก็ขอให้รู้ไว้  ว่ากันยังมีริท  กันเป็นน้องของริท  ริทจะอยู่ปกป้องดูแลกันเอง  เชื่อริทนะ  ใครจะว่ายังไงก็ช่าง  แต่ขอให้รู้ว่ากันมีริทอยู่ตรงนี้ทั้งคน  กันไม่ต้องไปสนใจสัพเพเหระบ้าบออะไรทั้งนั้น  ปล่อยวางซะ  แล้วไปเที่ยวกับริท  ตกลงไหม”

    เรืองฤทธิ์ชวนออกแนวบังคับเล็กน้อยเพราะรู้ดีว่าแฝดตนดื้อแค่ไหน  และเพราะความห่วงใยจากใจของพี่ชายสุดท้ายนภัทรจึงฟังเรืองฤทธิ์โดยดี

    “ก็ได้”

    นภัทรพยักหน้า   ก่อนที่จะทำตามที่เรืองฤทธิ์แนะนำ  นั่นคือการที่เรืองฤทธิ์ขับรถพานภัทรมากินลมยามค่ำคืน  หวังเพื่อให้นภัทรรู้สึกผ่อนคลายบ้างซึ่งมันก็ได้ผล  เรืองฤทธิ์ขับรถพานภัทรท่องราตรีมาพักใหญ่ก็ขับรถเข้าบ้านเพราะได้เวลาพักผ่อน  พอเข้าบ้านเรืองฤทธิ์ก็ให้นภัทรอาบน้ำก่อนที่ตนเองจะทำกิจวัตรที่ทำทุกวันไม่เคยบกพร่อง  นั่นคือ  เอานมอุ่นๆให้นภัทรก่อนนอน

    “อ่ะ  ดื่มนมนะ จะได้หลับสบาย”

    เรืองฤทธิ์ส่งนมอุ่นๆให้ตามเคย  ด้วยเหตุผลว่าเพื่อสุขภาพของนภัทร  เหตุผลที่หวังดีของพี่ชายมีหรือนภัทรจะปฏิเสธได้  มีแต่รับความหวังดีของพี่ชายอย่างเต็มใจ

    “ขอบคุณนะริท”

    “ดื่มแล้วนอนซะนะ  พรุ่งนี้จะได้ปลอดโปร่ง  สดใสไวๆนะ  น้องของริท”

    เรืองฤทธิ์ยีหัวนภัทรเล่นยิ้มให้จนนภัทรยิ้มตอบก่อนที่จะหลับตานอน  เรืองฤทธิ์ยืนมองอยู่นานสักพักแล้วถึงจะกลับห้องนอนตนเอง   

     

     

    “อ้าวริท  มึง  พักนี้ไม่โผล่หน้ามาเลยนะมึง”

    อิสริยะ  เจ้าของร้านกาแฟเพื่อนสนิทของเรืองฤทธิ์ทักเพื่อนทันทีที่เห็น  เพราะเรืองฤทธิ์ไม่ค่อยจะมาไหนไปไหนเท่าไหร่  ส่วนใหญ่ถ้าไม่อยู่ที่โรงพยาบาลก็อยู่บ้านใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับนภัทรแค่สองคน

    แต่วันนี้  เรืองฤทธิ์พานภัทรมาเที่ยวนอกบ้านบ้าง  คงเพราะว่านภัทรยังคงเสียใจเรื่องอาณัตพลไม่หายนั่นแหละ

    “อืม  เออ  ฮั่น  วันนี้กูขออเมริกาโน่ละกัน  ส่วนกันโกโก้ร้อน”

    “อืม  จัดไป  ไปรอที่โต๊ะได้เลยครับลูกพี่  เดี๋ยวฮันนี่จัดให้

    “กระแดะนะมึงทุเรศว่ะ  กูไปรอที่โต๊ะละกัน”

    “ครับ  คุณเพื่อน  ไปรอเถอะครับท่านเดี๋ยวกระผมจะเอาไปให้ถึงโต๊ะเลยครับ”

    “เหอะ  กวนตีนตลอดนะมึง  เออๆ  กูไปล่ะ”

    “ครับ”

    เรืองฤทธิ์ส่ายหน้ากับความกวนบาทาของเพื่อนตัวโตที่โตแต่ตัวก่อนที่จะพานภัทรไปนั่งโต๊ะมุมนึงที่ค่อนข้างส่วนตัวและสงบไม่มีใครผ่านไปมา

    แต่ยังไม่วายพ้นสายตาใครซักคนที่มองมานานแวอยู่ดี

    “แกง  มึงมองอะไรวะ”

    อิสริยะถามธนทัต  ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทอีกคนและยังเป็นหุ้นส่วนของร้าน  แต่พอมองสายตาธนทัตที่มองไปทางสองฝาแฝดก็พอจะเดาออก

    “ไอ้แกง  นี่มึงอย่าบอกนะ  ว่ามึงยังไม่เลิกมองกัน”

    ธนทัตมองอิสริยะด้วยสายตามีเลศนัย

    “เออ  มึงก็รู้นี่ฮั่น  ว่ากูแอบชอบกันก่อนที่กันจะสนใจพี่สนซะอีก”

    อิสริยะส่ายหน้า

    “แต่มึงก็รู้ว่ากันไม่มีทางเป็นแฟนนายได้หรอก  เพราะกันไม่เคยรักนาย  ตัดใจเหอะ  ยังมีคนดีๆหลายคนรออยู่นะเว้ย”

    อิสริยะตบบ่าธนทัตหวังให้เพื่อนเปลี่ยนใจแต่ธนทัตหาสนใจไม่

    “ไม่  ก็กูบอกแล้วไง  ว่ากูรักกัน  กูไม่มีทางให้กันเป็นของใครหรอก”

    “แล้วมึงไม่กลัวหรอ”

    ธนทัตมองเพื่อนตัวใหญ่ของตนเอง

    “กูไม่สน  ไอ้เรื่องดวงกินคู่คนกินผัวกูไม่เชื่อหรอก  กูรักกัน  ซักวันกันต้องเป็นของกูให้ได้”

    “แกง  กูว่ามึงอย่าเลย  กูเป็นเพื่อนหรอกนะกูถึงได้เตือน  ไม่ใช่แค่กันน่ะดวงแรงจนใครต่อใครที่รักกันพามีอันเป็นไปหรอกนะ  แต่มึงก็รู้นี่ว่าไอริทมันหวงกันมากแค่ไหน  น่าจะรู้เห็นมาตั้งแต่มอปลายแล้ว  มึงยังไม่เข้าใจอีกหรอวะ  ตัดใจเหอะว่ะมึง  ผู้หญิงสวยๆหลายคนก็มี  ผู้ชายน่ารักๆก็หลายคน  ทำไมมึงต้องมองแค่กันคนเดียววะ  ทั้งที่รู้ว่ายังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้”

    ธนทัตขมวดคิ้ว

    “แล้วยังไง  เหอะมันจะหวงอะไรนักหนาวะมันน่าจะดีใจนะ  ที่มีคนจะมาดูแลกันแทนมันซักที  มันจะได้ไปหาเมียไม่ต้องคอยห่วงน้องชายมันแบบนี้”

    “แกง  กูว่า”

    “ไอ้ฮั่นมึงไม่ต้องมายุ่ง  กูบอกแล้วไงว่ากันต้องเป็นของกู  กูไม่สนว่าที่ผ่านมาจะเป็นยังไง  ก็รู้อยู่อย่างเดียวว่าตอนนี้กูมีสิทธิ์”

    “ไอ้แกง  กูเตือนมึงแล้วนะ”

    “กูไม่สน  มึงเลิกพูดเหอะ  น่ารำคาญ”

    “ไอ้แกง”

    อิสริยะพยายามหวังว่าธนทัตเปลี่ยนใจ แต่ธนทัตก็หาเปลี่ยนใจไม่  เขาได้แต่พยายามปลง

    “แกง  กูเตือนมึงแล้วนะ  ไม่เชื่อกูก็ตามใจ”

     

    “กัน  โกโก้ร้อนของกันมาแล้ว  กินสิ”

    “อืม”

    นภัทรพยักหน้าเบาๆ  ก่อนที่จะยกโกโก้ร้อนมากิน  ส่วนเรืองฤทธิ์ได้แต่นั่งมองด้วยรอยยิ้มไปที่แฝดน้องของตนเอง

    “ริท  มองกันมีอะไรหรอ”

    “เปล่าหรอก  เห็นท่าทางกันแล้วตลกดี  กินอะไรแล้วดูท่าทางเด็กน้อยดีนะ”

    นภัทรหน้าเบ้

    “ริทอ่ะ  เดี๋ยวกันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

    “เอาสิ  ริทไปเป็นเพื่อน”

    “ไม่ต้องหรอกน่า  กลัวกันหลับในห้องน้ำหรือไง”

    “ก็ใช่น่ะสิ  กันยิ่งขี้เซาอยู่”

    “ริทอ้ะ  กันไม่ใช่เด็กแล้วน้า  ไม่ต้องตามถึงขนาดนั้นก็ได้”

    “ก็ริทเป็นห่วง”

    “ห้องน้ำแค่นี้เอง  นะริท  กันไปแปบเดียวก็มาแล้ว  ห้องน้ำพี่ฮั่นแค่นี้เอง”

    “ก็”

    “แล้วแบบนี้เมื่อไหร่กันจะโตเล่า  ไม่รู้ล่ะ  ไม่ต้องตามกันไปนะไม่งั้นกันจะงอนริทจริงๆด้วย”

    “เอ้า  ซะงั้น”

    เรืองฤทธิ์ถอนหายใจ  ก็นิสัยยังเด็กแบบนี้เขาจะเลิกห่วงได้ตอนไหน  ในเมื่อนภัทรยังมีความเป็นเด็กแถมพุ้งซ่านบ่อยๆเขาก็ห่วงน่ะสิ  แต่สุดท้ายก็จำใจปล่อยให้นภัทรไป  ไม่อยากให้เด็กขี้งอนงอนเท่าไหร่  บอกตรงๆว่าเวลาน้องชายเขางอนนี่ง้อยาก  ง้อลำบากแต่ก็ชอบง้อนะ  เวลากันงอนมันน่ารักดี 

    เรืองฤทธิ์มาคิดตรงนี้ก็หัวเราะ  ก่อนที่จะดื่มกาแฟของตนเองไปตามเรื่อง

     

    ห้องน้ำ

    “เฮ้อ  ค่อยยังชั่วหน่อย”

    นภัทรพึมพำ  หลังจากออกมาจากห้องน้ำ  ร่างสีน้ำผึ้งเดินมาล้างมือของตนเอง

    “กัน”

    เสียงเรียก  ทำให้นภัทรหันไปทางเสียง

    “แกงส้ม”

    นภัทรถอยหลังกรูด  เพราะธนทัตมองตนเองด้วยสายตาที่ไม่ดีนัก  ราวกับหมาป่าจ้องแกะไม่มีผิด

    “เอ่อ  แกง  มีอะไรหรอ”

    “ก็ไม่มีอะไร  เราก็แค่อยากจะมาหาคนที่เรารักก็เท่านั้นเอง”

    นภัทรชักสีหน้า

    “แกง  แกงก็รู้ว่ากันไม่ได้คิดกับแกงแบบนั้น”

    “แต่เราคิด  ทำไมกัน  แกงรักกันแค่ไหนกันไม่เคยสนใจเลยหรอ  ใช่สิ  แกงมันสู้ไอ้อาร์ไม่ได้ใช่ไหม”

    ธนทัตเสียงเกรี้ยวกราด  นภัทรพอได้ยินชื่ออาณัตพลก็เสียงสั่น

    “แกง  อย่าพูดถึงพี่อาร์ได้ไหม”

    ธนทัตเข้ามาประชิดนภัทรทันที

    “ทำไม  รับไม่ได้หรอ  กันอย่าลืมสิ  ว่าไอ้อาร์น่ะมันตายไปแล้ว  แกงสิที่ยังอยู่  แกงรักกันนะ  ทำไมกันไม่เปิดใจให้บ้าง”

    ธนทัตพูดตัดพ้อ  นภัทรรู้สึกหวาดกลัวคนตรงหน้า

    “แกง  อย่ายุ่งกับกันเลย”

    “ไม่  แกงรักกัน  แกงจะไม่ปล่อยให้กันเป็นของใครเด็ดขาด”

    พูดจบ  ธนทัตก็ลวนลามและปลุกปล้ำร่างสีน้ำผึ้งทันทีทั้งที่นี่มันห้องน้ำร้านซึ่งอาจจะมีคนเข้ามาก็ได้แต่เขาไม่สน  พยายามจูบคนในอ้อมแขนให้ได้แถมยังดึงให้นภัทรเข้าไปด้านในของห้องน้ำอีก

    “แกง  กันขอร้อง  อย่าทำแบบนี้”

    “ไม่  กันต้องเป็นของแกง”

    “อย่า  ฮึก  แกง  กันกลัวแล้ว  อย่า  ฮือ”

    “ไม่มีทาง  แกงรักกันนะ  รู้ไว้ซะด้วย”

    ผัวะ

    อยู่ๆธนทัตก็ถูกกระชากออกจากนภัทรก่อนที่จะถูกหมัดของใครคนนึงชกเต็มแรงจนเซถลา  ธนทัตหันกลับมาด้วยความโมโห  เลือดกลบที่มุมปาก

    “ไอ้ริท”

    “เออ  กูเอง”

    ธนทัตมองเรืองฤทธิ์ด้วยสายตาไม่พอใจและโกรธแค้น

    “ไอ้ริท  มึงอย่ายุ่ง  กูมีเรื่องต้องเคลียร์กับกัน”

    “แต่กูคงไม่ยุ่งไม่ได้  เพราะมึงทำบัดซบกับกันน้องกู”

    เรืองฤทธิ์จ้องธนทัตด้วยโทสะสายตาแทบอยากจะฉีกคนตรงหน้าเป็นชิ้นๆที่บังอาจมาลวนลามแฝดของเขา

    “กะแค่น้อง  มึงจะอะไรนักหนา  มึงน่าจะดีใจนะที่อนาคตจะได้กูเป็นน้องเขยมึง”

    “แต่กูไม่ต้องการน้องเขยที่เป็นเพื่อนเลวๆอย่างมึง  มึงไม่สมควรที่จะมาแตะต้องกัน  ไอ้เชี่ยแกงกูเผลอไม่ได้  ทำไมมึงชอบขโมยปลาย่างตอนเจ้าของไม่อยู่วะหา”

    เรืองฤทธิ์ปรี่ตรงไปที่ธนทัตคู่กรณีกระชากคอเสื้อด้วยแรงโกรธ  ถ้าเขามาไม่ทัน  ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีก

    “อย่ามายุ่งกับกัน  ไม่งั้นมึงเจอดี  เห็นแก่มึงที่ยังเคยเป็นเพื่อนกู  ถ้าครั้งหน้ากูเจอมึงทำแบบนี้อีกรับรองเลยว่ากูจะกระทืบมึงให้จมดิน  หวังว่ามึงจะจำมั่งนะไอ้สารเลว”

    เรืองฤทธิ์เอ่ยฝากด้วยความชิงชัง  ก่อนที่จะผลักธนทัตจนชนกับกำแพงและชี้หน้าประกาศก้อง  ถึงอีกฝ่ายจะตัวโตกว่าแต่หาได้ทำให้เรืองฤทธิ์สนไม่  ดีนะที่เขาเอะใจเพราะนภัทรเข้าห้องน้ำนานแล้วไม่กลับเสียทีเลยมาตาม  และก็มาเจอสิ่งที่ทำให้เขาเป็นปีศาจได้ทันทีอย่างเหตุการณ์ตรงนี้นี่เอง

    “กัน  กลับกันเถอะ”

    “ฮึก  อื้อ”

    นภัทรกลัว   น้ำเสียงนี่สั่นไปหมด  ก่อนที่เรืองฤทธิ์จะโอบตัวนภัทรให้ตามตนเองไปเชิงปลอบขวัญ  ก่อนที่จะหันมาย้ำอีกครั้ง

    “จำไว้  อย่ามายุ่งกับน้องกู”

    เรืองฤทธิ์พานภัทรออกไป  เจอกับที่อิสริยะเดินเข้ามาพอดีเพราะพอเดาได้ว่ามีเรื่อง

    “ริท”

    อิสริยะทัก  ก่อนที่เรืองฤทธิ์จะหันมาทางอิสริยะ

    “ไอ้ฮั่น  มึงระวังเพื่อนของมึงให้ดี  ว่าอย่ามายุ่งกับน้องกูเด็ดขาด”

    เรืองฤทธิ์เสียงยังแข็งกร้าว  ก่อนที่จะจับมือนภัทรเดินออกไป  อิสริยะหันมาทางธนทัตด้วยสายตาไม่พอใจเท่าไหร่นัก

    “ทำเชี่ยอะไรไอ้แกงมึงทำแบบนี้คิดหรอว่าจะได้กันหรอ  กูเตือนมึงแล้วนะเลิกยุ่งกับกันเถอะ  เห็นหรือยังว่าริทมันเป็นยังไง”

    อิสริยะส่ายหน้าเอือมระอา   ก่อนที่จะกลับไปทำงานต่อ  ธนทัตกำมือแน่น  ก่อนที่จะชกกำแพง

    “โธ่เว้ย”

     

     

    ที่บ้าน

     

    “กัน  ดีขึ้นหรือยัง”

    เรืองฤทธิ์ประคองนภัทรให้มานั่งหลังจากถึงบ้านแล้ว 

    “กันค่อยยังชั่วแล้วล่ะ”

    นภัทรส่ายหน้า  เรืองฤทธิ์ตรวจตราร่างกายนภัทรด้วยความห่วงใย

    “กัน  เจ็บตรงไหน  ไอ้สันดานนนั่นมันทำอะไรหรือเปล่า”

    “ไม่หรอกริท  แกงส้มยังไม่ทันทำอะไรกันหรอก”

    เรืองฤทธิ์นึกถึงธนทัตก็โมโห

    “ไอ้เลว  กล้าดียังไงมาทำกัน  ริทจะกลับไปสั่งสอนมัน”

    “อย่าริท  เรื่องมันแล้วก็แล้วไปเถอะ  แกงคงไม่มายุ่งกับกันแล้วล่ะ”

    นภัทรดึงมือเรืองฤทธิ์เต็มแรง  เนื่องด้วยเรืองฤทธิ์แรงค่อนข้างเยอะกว่า

    “แต่ว่า”

    “นะ  กันขอ  ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่”

    เรืองฤทธิ์ส่ายหน้า ก่อนที่จะกลับมานั่งตามเดิม

    “ก็ได้  งั้นกันพักก่อนนะ  เดี๋ยวริทจะไปหาอะไรมาให้”

    “อืม”

    นภัทรพยักหน้า  ก่อนที่แฝดร่างเล็กเข้าไปในครัว  นภัทรก็นั่งเอนหลังพิงโซฟาเพื่อผ่อนคลายด้วยความอ่อนล้า

    ...................................................................................................................................................................

    มาต่อแล่ว   ฝากติดตามด้วยนะ  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×