ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Infinity online (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #30 : ตอนที่ 27 รู้สึกตัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.57K
      118
      13 เม.ย. 61

    ตอนที่ 27 รู้สึกตัว

     

     

    “อืม”ผมค่อยๆเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งอย่างช้าๆ รู้สึกอ่อนแรงจังเลย นี่คือคำแรกที่ผมคิดได้  ผมค่อยๆปรับสายตาให้เข้ากับแสงสว่าง ตรงหน้าของผม เป็นเพดานไม้เก่าๆ ผุๆ จากนั้นก็พยายามลุกขึ้นนั่ง  ก็เห็นสภาพรอบๆ

                ตอนนี้ ผมอยู่ในห้องๆหนึ่ง สภาพโทรมใช้ได้  ผนังบ้านทำด้วยไม้และเหมือนจะผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนานจนผุพังไปเป็นช่องเล็กๆหลายช่อง ที่ผมนั่งอยู่นี้เป็นเตียงไม้ขนาดเล็กนอนได้คนเดียว เตียงถูกปูด้วยผ้าห่มบางๆ  และมีผ้าห่มเก่าๆผืนหนึ่งอยู่ตรงช่วงล่าง ตอนนี้ ผมอยู่ที่ไหน?

                ผมลองขยับร่างกายดูก็รู้สึกว่าติดๆขัดๆ และแล้วก็เจอสาเหตุ ว่าสิ่งที่ทำให้ร่างกายของผมติดขัดก็คือ ผ้าที่พันรอบตัวผม กับคราบเลือดที่ติดและซึมออกมาจากผ้า

    แต่มันแห้งแล้วนั่นเอง ผมจึงนั่งทบทวนเรื่องทั้งหมดทันที

     

                ไดความว่า  ผมถูกเล่นงานตอนที่ออกมาจากประตู โดยพวกนั้น(คนปริศนา) แล้วร่างกายของจริงกับอวตาร์ก็ถูกพวกนั้นใช้วิชาหลอมรวมกันอีก  แถมยังใช้วิชาคงสภาพกาย ซึ่งเป็นวิชาที่เหนือกฎเกณฑ์  ถามว่าทำไมถึงไม่ฆ่าผมนะเหรอ ก็ถ้ามันฆ่าผม วิญญาณของผมก็ยังอยู่และเมื่อผมกลับไปยังฐานก็จะเริ่มภารกิจทันที กวาดล้างและทำลาย  อีกอย่างพวกนั้นจะผนึกวิญญาณของผมก็ยังได้ แต่เพราะพวกนั้นเคยทำมาหลายครั้ง และไม่ประสบผลสำเร็จนะสิ 

                ผมจำได้ว่าก่อนที่จะมาอยู่ตรงนี้ ผมถูกต่อย เอ่อ อย่างแรงด้วยพลังของพวกนั้น จนหมดสติ แล้วก็มาอยู่ที่นี่ ซึ่งผมไม่รู้ว่าที่ไหนนะสิ ผมทบทวนได้สักพัก

     

                “อ้าวตื่นแล้วเหรอคะ”เสียงๆหนึ่งเอ่ยออกมาเป็นภาษาอะไรไม่รู้ แต่สมองผมมันแปลได้ แถมยังส่งคำตอบเป็นภาษานั้นออกมาด้วยสิ ก็ถือว่าโชคดีแหละนะ ที่พรข้อนี้ไม่ได้หายไป(ถามว่าผมมีพรด้วยเหรอ  ความลับครับ)

                “ครับ ไม่ทราบว่าที่นี่ที่ไหนเหรอ” ผมพูดเป็นภาษาของเขาออกไป ถึงแม้ว่าจะไม่คอยชัดเจนก็เถอะ เขาได้ยินก็ยิ้ม

                “ที่นี่คือ หมู่บ้านเรดิค่ะ อาการคุณดีขึ้นแล้วเหรอคะ”เธอถาม

                ผู้หญิงที่ผมกำลังคุยอยู่นี้ เอ่อ ส่วนสูง 170 กว่าๆ  ผิวออกขาวนวล ผมสีดำ นัยย์ตาสีตำ รูปร่างก็สมส่วนอยู่นะครับ น่ารักใช้ได้ แต่ชุดที่เธอใส่ช่างขัดกับบุคลิกเธอเหลือเกิน  ก็ชุดที่เธอใส่เป็นชุดผ้าขาดๆนี่สิ แถมแววตาเธอยังเศร้าๆอีกด้วย

                “ผม มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ จำอะไรไม่ได้เลย”ก็แหงสิครับ คุณเมิงสลบเหมือดขนาดนั้นนี่

                “เมื่อ 7 วันก่อน คุณพ่อฉันเจอคุณนอนจมกองเลือดไม่ได้สตอยู่หน้าหมู่บ้าน ตอนที่กำลังลัดเลาะเก็บฟืนตามชายป่าหน้าหมู่บ้าน จึงนำคุณมารักษาที่นี่ค่ะ”เธอตอบ

                “ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยชีวิตผมไว้ แล้วคุณชื่อ

                “มาเรียค่ะ แล้วชื่อของคุณล่ะคะ”

                “ออฟครับ ว่าแต่คุณมาเรียครับ”

                “มีอะไรเหรอคะ”แต่ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรออกไปก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

     

                จ๊อก!!!  

     

     เอ่อ แบบว่า  เสียงท้องผมร้องเองครับ เหมือนมันคงหิว  มั้ง

    “อ๊ะ  จริงสิ คุณหลับไปตั้ง 7 วันนี่นา รอฉันสักครู่นะคะ จะนำอาหารมาให้เดี๋ยวนี้แหละค่ะ”แล้วเธอก็กุลีกุจอออกจากห้องไป

                ส่วนผมนะเหรอ ก็ได้แต่ยิ้มเหยยๆนะสิ  น่าอายชะมัด

                ระหว่างที่มาเรียไปเอาอาหาร ผมก็ได้ตรวจสอบสภาพร่างกายของผม ก็ไม่รู้สึกว่าบาดเจ็บตรงไหนนี่ คงเป็นเพราะพลังฟื้นฟูใช้งานได้แล้ว จากนั้นก็ตรวจสอบของที่ติดมากับผม ซึ่งก็คือ กำไลผู้เล่น กับเหวนเก็บสัตว์เลี้ยงก็อยู่ด้วย อีกอย่าง เฟิร์ส มินเนส มาซาร์ ก็ยังอยู่ดี ยังสามารถติดต่อได้อยู่

                ผมสอบถามข้อมูลนี้กับเฟิร์ส เอบอกว่า กำไลผู้เล่นของผม  มันมีวงจรและการทำงานเป็นของมันเอง สามารถวัดระดับต่างๆ และใช้งานในหลายๆส่วนได้อยู่ไม่มีบกพร่อง ยกเว้นส่วนที่ต้องเชื่อมกับระบบเท่านั้นที่ไม่สามารถใช้งานได้ เช่น สกิลของระบบ  ทักษะที่อยู่ในการอำนวยของระบบ เป็นต้น ส่วนทักษะที่มีในตัวผมอยู่แล้วก็ยังอยู่ เช่น เลือดที่สามารถสลายพิษและคำสาป ยังคงอยู่และก็ได้ยกระดับขึ้นอย่างมาก  ส่วนทักษะต่างๆที่ผมใช้เองโดยไม่พึ่งระบบนั้นก็ใช้ได้ไม่มีบกพร่อง เธอยังบอกอีกว่า ตอนนี้พลังของผมส่วนใหญ่ถูกผนึกไว้โดยอะไรไม่รู้ที่เธอไม่สามารถหาสาเหตุได้ ผมถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น(วันที่ผมถูกเล่นงาน)เธอบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย เฮ้อ คิดไปยิ่งปวดหัว

                ผมทำการเช็คไอเทมของผมที่อยู่ในกำไล ปรากฏว่าช่องไอเทมยังใช้ได้ไม่บกพร่อง ส่วนรายการต่างๆ ที่เป็นวัตถุดิบ อาวุธ หรือสิ่งที่เป็นรูปธรรมยังคงอยู่ แต่พวกป้ายกิลด์ กล่องสุ่มสัตว์เลี้ยง กล่องสุ่มไอเทมระดับ X ทีเหลืออยู่ กลายเป็นรูปคำถาม ??? ไปแล้ว แถมเปิดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ไอเทมหลายส่วนก็เช่นกัน ผมเช็คเงินของผมก็ยังอยู่ดีมีสุข ถึงแม้จะใช้ในโลกนี้ไม่ได้ก็เถอะ แต่หากนำมาสกัดเอาแร่ก็ว่าไปอย่าง พอผมเช็คเสร็จสักพัก คุณมาเรียก็เดินถือถาดอาหารมา

                “ขอโทษนะคะ รอนานมั้ยคะ นี่ค่ะอาหาร”เธอนำถาดมาวางตรงตักผม ในถาดมีของอยู่สองอย่าง คือ ขนมปัง?(น่าจะนะ)  กับน้ำชุปใสๆไม่มีเครื่องอะไรเลยถ้วยหนึ่ง

                “ขอบคุณครับ” ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ต้องทานสินะ หิวนี่ครับ

                “นี่เป็นของที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถหาให้คุณได้แล้วค่ะ ต้องขออภัยด้วยนะคะ”เธอก้มหัวทำหน้าเศร้า ผมเห็นอย่างนั้นก็ตกใจทันที นี่คืออาหารที่ดีที่สุดอย่างนั้นเหรอ แสดงว่าครอบครับเธอคงขัดสนสินะครับ ไม่ต้องห่วง(ผมคิดในใจ)ไว้ผมจะหาทางตอบแทนเอง

                “มะ ไม่เป็นไรครับ แค่มีให้ทานก็ถือว่าวิเศษแล้วครับ”ไม่รอช้าครับ ผมจัดการอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ถึงแม้จะทานหมดก็ยังไม่รู้สึกอิ่มสักนิด เอาไงดี(ผมคิดในใจ) แต่เฟิร์สก็รู้ได้ในสิ่งที่ผมคิด

                [ข้าวกล่องไงค่ะนายท่าน]

                [ห๊ะ อะไรนะครับ ข้าวกล่องเหรอ]

                [ค่ะ ข้าวกล่องที่ท่านได้รับตอนเริ่มเกมไงคะ ตอนนี้ก็ยังคงอยู่ค่ะ อีกอย่างยังไม่บูดค่ะ ทานได้  อ้อ ยังมีอาหารกระป๋องที่ซื้อตุนไว้อีกนะคะ]

                [เอ้อ    จริงด้วยสิครับ งั้นผมขอข้าวกล่องสี่กล่องนะ]

                [รับทราบค่ะ]

                เมื่อผมบอกเฟิร์สไปแล้วก็กดตรงกำไล จากนั้นก็มีช่องมิติเล็กๆเปิดออกมา ผมก็ล้วงเข้าไปในช่องที่เฟิร์สเลือกให้ ก็ได้ข้าวกล่องมาสี่กล่อง เมเรียที่เห็นอย่างนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา

                “คะ คุณออฟค่ะ เมื่อกี้มันเวทย์มนต์ใช่ไหมคะ”เธอถามด้วยเสียงที่ตื่นเต้น

                “อ๋อ ครับ มันเป็นเวทย์มนต์ที่ติดมากับอุปกรณ์นะครับ เอาไว้เก็บของรับ และของที่อยู่ในนี้จะถูกย่อขนาดให้เล็กลงเพื่อความสะดวกในการเดนทางครับ”ผมตอบออกไป

                “งั้นก็คล้ายๆกับกระเป๋าย่อส่วนนะสิคะ “เธอตอบมา  

                ห๊ะ ผมไม่รู้ว่าได้ยินผิดหรือเปล่า เธอบอกว่าเวทมนต์ กับกระเป๋าย่อส่วน นี่แสดงว่าโลกนี้มันเป็นโลกยุคคล้ายๆแฟนตาซีสินะ

                จากนั้นผมก็เนียนถามเรื่องต่างๆจากเธอ โดยไม่ลืมยื่นขาวกล่อง ที่ทำมาจากกล่องไม้ให้เธอสามกล่อง ผมทาน 1 กล่อง เราคุยกันไปเรื่อยๆ ผมก็ได้ความว่า

                โลกนี้มันโลกแฟนตาซีชัดๆ คนส่วนใหญ่มีพลังเวทย์มนต์เป็นหลัก มีการกำจัดสัตว์อสูร ปีศาจ และสัตว์จิปาถะต่างๆ  เพียงแต่ว่าเมื่อสัตว์ตัวนั้นๆตาย เราต้องทำการแล่เนื้อเอง อาวุธก็ต้องทำเองทั้งหมด โลกนี้ มีการแบ่งระดับเป็นชนชั้น  ระดับชั้น  จำนวนดาว และเลเวล ซึ่งการที่จะมีระดับเหล่านี้ได้ ต้องรอให้อายุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์ก่อน แล้วไปลงทะเบียนรับแฟลกที่เมืองหลวง แล้วเราจะได้รับพรจากพระเจ้า คือ

    การฟื้นคืนชีพ เมื่อตายแล้วจะฟื้นคืนชีพในสี่ปี และจะสูญเสียระดับทั้งหมด ต้องนับหนึ่งใหม่

     สองคือเวทย์มนต์ เราจะได้รับเวทย์มนต์จากพระเจ้าให้มีมากขึ้น

    สามการเพิ่มขีดจำกัดของร่างกาย จะเพิ่มตามระดับชั้น ดาว และเลเวล   

    สี่นามสกุล ซึ่งเราจะได้รับตอนลงทะเบียน โดยการสุ่มจากค่าต่างๆของเรา  และนามสกุลเป็นสิ่งบ่งบอกถึงระดับพลังอีกด้วย(ซึ่งอันนี้ผมก็งงว่ามันบอกยังไง)

     

                อีกอันหนึ่งที่ผมรู้จากมามาเรีย คือวันพรุ่งนี้เป็นวันที่ทหารจากเมืองหลวงจะเชื่อมวงเวทย์ มารับชาวบ้านอายุ 17 ปีขึ้นไปที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนไปลงทะเบียนกับเมืองหลวง

    ซึ่งเธอก็อายุครบ 17 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว จึงต้องไปด้วย เธอบอกว่าเธอรอมานานมาก เมื่อเธอได้รับพรแล้วเธอจะพัฒนาตัวเองละกลับมาช่วยหมู่บ้านของเธอ  ส่วนผมนะเหรอ เมื่อเธอรู้ว่าผมอายุ ย่างเข้า 21 แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงทะเบียนก็ตกใจ แล้วกำชับให้ผมไปกับเธอในวันพรุ่งนี้ เพราะการที่ไม่ได้ลงทะเบียน เมื่อเราตายแล้วก็จะตายเลยนั่นเอง

                มาเรีย อยู่กับพ่อและน้องสาวกันสามคน คุณแม่ของเธอเสียชีวิตเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนี้รอการฟื้นคืนชีพอยู่ เธอได้เล่าว่า หมู่บ้านของเธอแต่ก่อนก็อยู่ดีมีสุข อาหาร ข้าวของก็หาได้สะดวกจากในป่า แต่สองปีมานี้ มีสัตว์อสูร หมูป่าฝูงใหญ่ได้เข้ามายึดพื้นที่ป่าของหมู่บ้าน เมื่อชาวบ้านออกไปหาของป่าก็ถูกฆ่า ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตไปหลายร้อยคนแล้ว และเคยมีช่วงหนึ่งที่หมู่บ้านเกณฑ์คนไปปราบหมูป่า แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้ สูญเสียชาวบ้านไปหลายคน รวมถึงแม่ของเธอด้วย ทำให้ตอนนี้ การที่จะเข้าไปหาอาหารแต่ละครั้ง ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก  การเกษตรของชาวบ้านก็ไม่เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตหลายร้อย  สภาพดินก็ย่ำแย่ลงทุกที

                (อย่าสงสัยเลยครับ เธอพูดว่าหมูป่าไม่ผิดแน่นอน  หมูป่าเนี่ยนะ อะไรมันจะปานนี้ ผมได้แต่ยิ้มเหยยๆ)

                คุยกันได้สักพักเธอก็ขอตัวไปทำงานบ้านต่อ ผมจึงออกจากบ้านมาเพื่อสำรวจหมู่บ้านทันที

                สภาพของหมู่บ้านตอนนี้ เรียกได้ว่าโทรม  บ้านไม้ แต่มีแต่รู มีแต่รอย ผ่านการซ่อมแซมมาหลายรอบ สภาพดินก็ไม่ค่อยดี จิตใจของชาวบ้านก็หมองหม่น อะไรจะปานนี้เนี่ย  แต่ละคนกำลังช่วยกันเก็บผักเหี่ยวๆ  ที่อยู่ในแปลงขนาดเล็ก ผมเดินสำรวจได้สักพักก็ได้ยินเสียงระฆังดังขึ้น ชาวบ้านก็แห่กันมารวม ณ จุดๆ หนึ่งซึ่งน่าจะเป็นทางเข้าหมู่บ้าน แล้วก็มีชาวบ้านชายสมอม(เพราะมอมแมม และมีแต่แผลเหวอะหวะ กันเกือบทุกคน กำลังพยุงกันมาอย่างทุลักทุเล แล้วชาวบ้านก็แห่กันไปช่วย ผมได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นจากปากผู้บาดเจ็บ

                “ขอโทษ  พวกเรานำกลับมาได้แค่นี้แหละ“พูดจบเขาก็เทกระเป๋าใบหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยผลไม้ กะแล้วประมาณ 1ตะกร้าเล็ก แล้วคนอื่นๆก็เทกันออกมา ก็ปรากฏผลไม้ ผัก สมุนไพร เนื้อเล็กๆน้อยๆอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมกันแล้วได้ประมาณ 1 กะละมัง

                “เราตายไป 20 คน รอดมาเท่าที่เห็นนี่แหละ ข้าขอโทษ”ชายคนหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด

     

                “คุณพ่อ !!!  คุณพ่อ!!!”เสียงๆหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของผม  มันคือเสียงของมาเรียนั้นเอง เธอวิ่งมาด้วยท่าทีที่แตกตื่น

                “ลุงอาร์คคะ  คุณพ่อของหนูอยู่ไหน”มาเรียถามด้วยใบหน้าที่มีน้ำตา

                “ลุงขอโทษ  บ๊อปพ่อของเธอล่อพวกหมูป่าไปอีกทางเพื่อให้เราหนีมาได้ ตอนนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ข้า  ข้า”ลุงอาร์คพูดแค่นี้ก็ก้มหน้าที่มีน้ำตาหยดลงพื้นเรื่อยๆ

                มาเรียได้ยินอย่างนั้นเธอก็ทรุดกับพื้นทันที เธอร้องให้โฮออกมา เสียงประสานกับคนที่รู้ว่าครอบครัวของตัวเองสิ้นชีวิต

                ผมได้ยินอย่างนั้นก็เดินไปยังประตูของหมู่บ้านทันที ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกไป

                “ไอ้หนูจะไปไหน” เสียงชายคนหนึ่งเรียกผม แต่ผมไม่ตอบ ยังเดินไปเรื่อยๆ

                มาเรียเมื่อเห็นผมเดินออกไปทางประตูหมู่บ้านก็ตะโกนเรียกทันที

                “คุณออฟ อย่าออกไปนอกหมู่บ้านนะคะ มันอันตราย”ผมหยุดเดิน แล้วหันมาสบตากับเธอ

                “ไม่เป็นไรหรอกครับ  เดี๋ยวผมก็กลับมา   กลับมาพร้อมกับพ่อของคุณ”ผมพูดแค่นี้ก็เดินออกไปทันทีโดยไม่หันหลังกลับ  ส่วนมาเรียเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ลุกขึ้นหมายจะตามผมออกไป แต่ก็ถูกผู้หญิงหลายคนรั้งเอาไว้ ทิ้งไว้ให้เธอสับสนอยู่อย่างั้น


             ได้โปรดอย่าทิ้งให้ฉันอยู่กับน้องสาวเพียงลำพัง คุณออฟ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×