ดอปเพลแกงเกอร์.... - ดอปเพลแกงเกอร์.... นิยาย ดอปเพลแกงเกอร์.... : Dek-D.com - Writer

    ดอปเพลแกงเกอร์....

    คุณรู้จักดอปเพลแกงเกอร์หรือไม่..? ตัวเราอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเราตลอดเวลา... เงาของมนุษย์ที่ถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้มนูษย์โดดเดี่ยวเกินไป...

    ผู้เข้าชมรวม

    226

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    226

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 ต.ค. 57 / 22:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    คุณรู้จักดอปเพลแกงเกอร์หรือไม่..?

     

     

    ตัวเราอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเราตลอดเวลา...

     

     

    เงาของมนุษย์ที่ถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้มนูษย์โดด.เดี่ยวเกินไป..

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      คุณรู้จักดอปเพลแกงเกอร์หรือไม่..?

       

       

      ตัวเราอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเราตลอดเวลา...

       

       

      เงาของมนุษย์ที่ถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้มนูษย์โดดเดี่ยวเกินไป...

       

       

       

       

       

      “เฮอะ ไร้สาระทั้งเพ...” ‘เมธา’ พูดพลางโยนหนังสือที่เธออ่านให้เพื่อน

      ผู้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนั้น...

       

       

      “เดี๋ยวเถอะเมธา..เรื่องลี้ลับถึงเธอไม่เชื่อก็ไม่ควรจะลบหลู่นะ...” แม้

      เมธาจะโยนหนังสือให้เธอแบบนี้แต่ ‘พิรุณ’ ก็ไม่ได้โมโหอะไร

       

       

      “เฮอะ..ใครหน้าไหนจะไปเชื่อไอ้เรื่องไร้สาระกันเล่า..ไอ้เงาตามตัวแบบนั้นน่ะ

      แถมมีการบอกด้วยว่าถ้าเจอตัวเองเมื่อไหร่ จะตายเนี่ยนะ..ไร้สาระ...ฉันก็คือฉัน

      จะไปเจอตัวเองได้ไง...?”

       

       

      ใช่...ฉันชื่อเมธา ผู้ที่ไม่เคยคิดจะเชื่อในเรื่องลี้ลับอะไรทั้งสิ้น....

       

       

      “น่าน่า...”

       

       

      “เธอ ก็เหมือนกันพิรุณ...เลิกอ่านไอ้เรื่องลี้ลีบแบบนี้ซะทีเถอะ...มันทำให้เธอดู ไม่ปกตินะ นี่ถ้าฉันไม่เป็นเพื่อนเธอแล้วใครจะเป็นกันล่ะเนี่ย” เมธาหันมามองพิรุณอย่างเป็นห่วง ที่เธอพูดเป็นความจริงเพราะตอนเธอเจอพิรุณครั้งแรกเธอก็เห็นพิรุณเก็บตัวและ อ่านหนังสืออยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อน เหมือนเพื่อตีออกห่างจากพิรุณยังไงยังงั้นล่ะ...

       

       

      “หะๆ...เลิกไม่ได้หรอก...” พิรุณยิ้มให้เธอก่อนจะหยิบหนังสือที่เธอโยนให้เมื่อกี้มาอ่านต่อ

       

       

       

      หนังสือเกี่ยวกับ ‘ดอปเพลแกงเกอร์’

       

       

       

      พอเธอทำท่าจะดุพิรุณซะหน่อยอาจารย์ก็เข้ามาสอนให้ทั้งเธอและนักเรียนในห้องต้อง

      รีบกลับเข้าที่นั่งของตัวเองและเริ่มเรียนวิชาศิลปะและวัฒนธรรมไทยเป็นคาบแรก

      ซึ่งคาบเรียนก็ผ่านไปอย่างช้าๆและเนิบๆชวนให้หลับเสียจริงๆ - -

       

       

      “เมธา...ช่วยอ่านความหมายของวิจิตรศิลป์ให้เพื่อนฟังหน่อยซิ...”

       

       

      โธ่ อาจารย์ หนูกำลังเคลิ้มๆจะหลับอยู่เลยเนี่ย มาเรียกหนูทำไม

       

       

      “ค่า...”

       

       

      ถึงจะคิดแบบนั้นก็เถอะ...แต่ขืนพูดแบบนั้นไปได้โดนตัดคะแนนหรือไม่ก็โดนโบกแน่ๆ

      เมธาคิดพลางเปิดหนังสือไปหน้าที่มีความหมายของนาฏศิลป์จนเจอและเริ่มอ่าน

       

       

      “วิจิตรศิลป์ หรือ แต่เดิมเรียกประณีตศิลป์...ปราณีตศิลป์ หมายถึง ผลงาน..ผลงาน

      ศิลปะที่มุ่งเน้นคุณค่าทางความงาม...ความงาม  หือ?”

       

       

      ทำไมเมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงเหมือนมีใครอีกคนอ่านด้วย...เมธาคิดพลางขมวดคิ้วน้อยๆ

       

       

      “ทำไมหยุดอ่านไปล่ะเมธา...?”

       

       

      สงสัยคงจะหูฝาดไป...หลับตาและส่ายหัวน้อยๆและเริ่มอ่านจนจบและลงไปนั่งเรียนเหมือนเดิม

      และคิดเรื่องเสียงสะท้อนนั้นน้อยๆก่อนจะล้มความคิดนั้นไปและฟุบหลับในคาบเรียน

       

       

      เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนไปถึงเวลาพักเมธาและพิรุณมักจะซื้อพวกข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อ

      มากินในที่ๆไม่มีคนเสมอ ก็ทำไงได้ล่ะ ไปโรงอาหารทีไรคนก็เต็มทุกที ซื้อแบบนี้มานั่นแหละ

      เงียบๆแถมยังคุยเรื่องอะไรต่อมิอะไรได้ตามใจด้วย

       

       

      “นี่ขนาดกินข้าวเธอยังอ่านหนังสืออีกเหรอเนี่ย...” เธอพึมพำเบาๆและมองไปที่หนังสือที่พิรุณกำลังอ่าน....

      ดอปเพลแกงเกอร์อีกแล้ว มีอะไรกับหนังสือไร้สาระแบบนี้นักหนาเนี่ย....?

       

       

      Rrrrrrrr  Rrrrrrrr

       

       

      และแล้วเสียงโทรศัพท์ก็มาขัดจังหวะการกินข้าวของเธอทำให้เธอต้องหยิบโทรศัพท์ไอ้โป้นขึ้นมาดู

      ว่าใครโทรมา(ที่ที่เธอเรียนให้เอาโทรศัพท์มาได้แต่ต้องไม่เล่นในเวลาเรียน) แต่ อุ่ย...แม่โทรมาทำไมเนี่ย

      ว่าแล้วก็ต้องกดรับและก็ต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกห่างหูแทบไม่ทัน

       

       

      [เมธา!!!!]

       

       

      ออกห่างเพราะคุณแม่สุดที่รักเล่นตะโกนมาแบบนี้ไง - -;;

       

       

      “คะ...?” เธอเอาโทรศัพท์มาจ่อหูตัวเองเพื่อให้ได้ยินอีกครั้งและตอบรับคุณแม่ไปเสียงแห้งๆ

       

       

      [วันนี้แกได้ไปเรียนรึเปล่า...?]

       

       

      “เอะ...หนูก็ไปโรงเรียนและอยู่โรงเรียนมาตั้งแต่เช้านะคะ” ถึงจะหลับในคาบก็เถอะ

       

       

      [แล้วทำไมตอนฉันไปตลาดตอนสายๆ ยังเห็นแกเดินใส่ชุดนักศึกษาเดินอยู่ในตลาด?]

       

       

      “เอ๋...แต่หนูอยู่โรงเรียนจริงๆนะคะ...?” แม่พูดอะไรเนี่ย?

       

       

      [โอเค..สงสัยฉันคงตาฝาดไปเอง...แค่นี้แหละ]

       

       

      เมธาเอาโทรศัพท์ออกมาจากหูและมองโทรศัพท์อย่างงงๆ

      ...อะไรกันเนี่ย...อยู่ๆอะไรกันเนี่ย...เธออยู่ที่โรงเรียนตลอดนะ...จะไปตลาดได้ยังไงกัน....

       

       

      “เมธา...เข้าเรียนแล้ว...” และก็ไม่ทันได้คิดอะไรอีกเช่นเคย พิรุณก็เรียกเธอให้ต้องรีบกินข้าวให้หมด

      และขึ้นเรียนหนังสือ แต่เธอก็ไม่ได้มีสมาธิกับการเรียนเลยซักนิด(ปกติก็ไม่มีอยู่แล้ว)

       

       

      ทั้งเรื่องเมื่อเช้า ทั้งเรื่องที่แม่เห็นเธอทั้งๆที่เธออยู่ในโรงเรียน...

      ดอปเพลแกงเกอร์...?

      บ้าน่า...มันเรื่องไร้สาระชัดๆ

      จะเป็นไปได้ยังไงกัน...เรืองแบบนั้น...

       

       

      จนเวลาล่วงเลยมาถึงเลิกเรียนเธอขึ้นรถและกลับบ้าน เธอยังคิดไม่ตกกับเรื่องนี้อยู่

      ทั้งๆที่เธอไม่เคยเชื่อในเรื่องพวกนี้เลยซักนิด

       

       

      โฮ่งๆๆๆๆ!!!!

       

       

      เฮือก....เธอหันมองสุนัขสองสามตัวที่นอนนิ่งๆไม่มีอะไรอยู่เมื่อกี้ลุกขึ้นมาเห่าเธอ

      เสียงดังทั้งที่เจ้าสุนัขสองสามตัวเนี่ย ไม่เคยเห่าใครนะเพราะเธอเดินผ่านมันบ่อยๆ

      เมธารีบเดินหนีไปไกลๆเผื่อมันเข้ามากัดเธอ

       

       

      ....

       

       

      แล้วสุนัขสองสามตัวนั้นก็หยุดเห่าลง...ให้เธอต้องสองสัยอีกรอบ

      ทำไม...พอ เธอเดินผ่านมันกลับลุกขึ้นเห่าทั้งๆที่ไม่เคยเห่า...และทำไมพอเธอพ้นสายตา มันแล้ว...มันกลับหยุดเห่า...เมธาคิดและสายตาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างให้ต้อง เบิกตากว้างขึ้น

       

       

      ผู้หญิง...ที่เหมือนเธอแทบทุกอย่าง...

       

       

      ดอปเพลแกงเกอร์...ไม่จริงน่า!!?

       

       

      ทั้งๆที่เธอไม่เชื่อเรื่องอะไรแบบนี้แต่กลับสาวเท้าวิ่งหนีผู้หญิงคนนั้นอย่างหวาดกลัว

      วิ่งไปโดยไม่รู้ว่าซอยไหนเป็นซอยไหนวิ่งจนเลยบ้านของตัวเองไป

      จนมายืนหอบตรงสุดของหมู่บ้าน

       

       

      “นี่...ไม่คิดเลยเหรอว่าเธอจะหนีอะไรแบบนี้ไม่พ้นน่ะ....”

       

       

      เฮือก!!! เมธารีบหันไปมองก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นตามเธอมาได้พบ

      อะไรกัน...ทั้งๆที่ฉันวิ่งไกลและเหนื่อยขนาดนี้...ยังตามมาได้ทันอีก...

       

       

      “คงคิดอยู่สินะ...ว่าทำไมฉันถึงตามเธอทันได้...”

       

       

      ผู้หญิงคนนั้นค่อยๆพูดและก้าวเดินมาหาเมธาช้าๆ

       

       

      “ธะ เธอเป็นใคร อย่าเข้ามานะ!!?”

       

       

      ผู้หญิงคนนั้นยิ้มและเดินจนมาอยู่ประชิดข้างหน้าเธอ...

       

       

      “ฉันคือฝาแฝดหรือเงาตามตัวของเธอ...และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงตามเธอทัน...”

       

       

      ไม่จริงน่า!?

       

       

      “เธอ คงคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้อยู่สินะ...” ผู้หญิงคนนั้นที่บอกว่าตัวเองคือเงาของตัวเองค่อยหยิบอะไรบางอย่างออกมา จากกระเป๋าที่เป็นแบบเดียวกับเธอ และที่น่าแปลกใจมากๆคือร่างกายของเธอกลับขยับตาม ในมือของผู้หญิงคนนั้นที่หยิบมาไม่มีอะไร แต่ในมือเธอ...

       

       

      มีดคัตเตอร์!!!?

       

       

      “เคยได้ยินรึเปล่าที่ว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่น่ะ...”

       

       

      “เดี๋ยวเถอะเมธา..เรื่องลี้ลับถึงเธอไม่เชื่อก็ไม่ควรจะลบหลู่นะ...”

       

       

      “คงเคยได้ยินมาจากเพื่อนของเธอที่ชื่อพิรุณบ้างสินะ....”

       

       

      ทำไมพอผู้หญิงคนนั้นเอามือแบบถือคัตเตอร์จ่อคอตัวเอง

      เธอถึงจ่อคอไปด้วย เมธามองคมมีดคัตเตอร์อย่างหวาดหวั่น

       

       

      “มะ ไม่....”

       

       

      “ฮึๆ...ใบหน้าของเธอตอนหวาดกลัว...น่ารักดีนะ...” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างมีความสุข

      พลางทำให้เธอเอามีดกรีดคอตัวเองไปด้วย

       

       

      เจ็บ...กลัว...ปล่อยฉันไป

       

       

      “ปล่อยไปไม่ได้หรอก...เพราะเธอเจอฉันเรียบร้อยแล้ว...ทางของเธอคือ ‘ตาย’ อย่างเดียว”

      ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยเสียงเย็นๆพลางทำท่าทางเหมือนแทงคอให้เธอต้องจับมีดจ่อคอตัวเองไปด้วย...

       

       

       

       

      “ลาก่อน...’อดีตเมธา’ “

       

       

      กรี๊ดดดดดดดดด!?!?!?!?!?

       

       

      ฉึก!!!!

       

       

      .

       

       

      .

       

       

      .

       

       

      .

       

       

      .

       

       

      .

       

       

      .

       

       

      .

       

       

      .

       

       

      .

       

       

      ...

       

       

       

       

      ดอปเพลแกงเกอร์....

       

       

      ตัวเราอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเราตลอดเวลา...

       

       

      เงาของมนุษย์ที่ถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้มนูษย์โดดเดี่ยวเกินไป...

       

       

       

      “อะ อรุณสวัสดิ์จ้ะ...เมธา....” พิรุณที่อ่านหนังสืออยู่กล่าวทักทายเพื่อนของ

      ตัวเองที่เดินเข้ามาในห้องเรียน

       

       

      “อรุณสวัสดิ์จ้ะ พิรุณ....” ‘เมธา’ ยิ้มกลับไปให้เพื่อนของตัวเองและนั่งลงตรงที่นั่งของเธอ

       

       

      ไม่มีอีกแล้ว...เมธาคนก่อน...เพราะฉันนี่แหละคือเมธา...

       

       

      เงาที่พร้อมจะกลืนกินและมาแทนที่คุณ....

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×