ดอปเพลแกงเกอร์....
คุณรู้จักดอปเพลแกงเกอร์หรือไม่..? ตัวเราอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเราตลอดเวลา... เงาของมนุษย์ที่ถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้มนูษย์โดดเดี่ยวเกินไป...
ผู้เข้าชมรวม
226
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
คุณรู้จักดอปเพลแกงเกอร์หรือไม่..?
ตัวเราอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเราตลอดเวลา...
เงาของมนุษย์ที่ถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้มนูษย์โดด.เดี่ยวเกินไป..
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คุณรู้จักดอปเพลแกงเกอร์หรือไม่..?
ตัวเราอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเราตลอดเวลา...
เงาของมนุษย์ที่ถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้มนูษย์โดดเดี่ยวเกินไป...
“เฮอะ ไร้สาระทั้งเพ...” ‘เมธา’ พูดพลางโยนหนังสือที่เธออ่านให้เพื่อน
ผู้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนั้น...
“เดี๋ยวเถอะเมธา..เรื่องลี้ลับถึงเธอไม่เชื่อก็ไม่ควรจะลบหลู่นะ...” แม้
เมธาจะโยนหนังสือให้เธอแบบนี้แต่ ‘พิรุณ’ ก็ไม่ได้โมโหอะไร
“เฮอะ..ใครหน้าไหนจะไปเชื่อไอ้เรื่องไร้สาระกันเล่า..ไอ้เงาตามตัวแบบนั้นน่ะ
แถมมีการบอกด้วยว่าถ้าเจอตัวเองเมื่อไหร่ จะตายเนี่ยนะ..ไร้สาระ...ฉันก็คือฉัน
จะไปเจอตัวเองได้ไง...?”
ใช่...ฉันชื่อเมธา ผู้ที่ไม่เคยคิดจะเชื่อในเรื่องลี้ลับอะไรทั้งสิ้น....
“น่าน่า...”
“เธอ ก็เหมือนกันพิรุณ...เลิกอ่านไอ้เรื่องลี้ลีบแบบนี้ซะทีเถอะ...มันทำให้เธอดู ไม่ปกตินะ นี่ถ้าฉันไม่เป็นเพื่อนเธอแล้วใครจะเป็นกันล่ะเนี่ย” เมธาหันมามองพิรุณอย่างเป็นห่วง ที่เธอพูดเป็นความจริงเพราะตอนเธอเจอพิรุณครั้งแรกเธอก็เห็นพิรุณเก็บตัวและ อ่านหนังสืออยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อน เหมือนเพื่อตีออกห่างจากพิรุณยังไงยังงั้นล่ะ...
“หะๆ...เลิกไม่ได้หรอก...” พิรุณยิ้มให้เธอก่อนจะหยิบหนังสือที่เธอโยนให้เมื่อกี้มาอ่านต่อ
หนังสือเกี่ยวกับ ‘ดอปเพลแกงเกอร์’
พอเธอทำท่าจะดุพิรุณซะหน่อยอาจารย์ก็เข้ามาสอนให้ทั้งเธอและนักเรียนในห้องต้อง
รีบกลับเข้าที่นั่งของตัวเองและเริ่มเรียนวิชาศิลปะและวัฒนธรรมไทยเป็นคาบแรก
ซึ่งคาบเรียนก็ผ่านไปอย่างช้าๆและเนิบๆชวนให้หลับเสียจริงๆ - -
“เมธา...ช่วยอ่านความหมายของวิจิตรศิลป์ให้เพื่อนฟังหน่อยซิ...”
โธ่ อาจารย์ หนูกำลังเคลิ้มๆจะหลับอยู่เลยเนี่ย มาเรียกหนูทำไม
“ค่า...”
ถึงจะคิดแบบนั้นก็เถอะ...แต่ขืนพูดแบบนั้นไปได้โดนตัดคะแนนหรือไม่ก็โดนโบกแน่ๆ
เมธาคิดพลางเปิดหนังสือไปหน้าที่มีความหมายของนาฏศิลป์จนเจอและเริ่มอ่าน
“วิจิตรศิลป์ หรือ แต่เดิมเรียกประณีตศิลป์...ปราณีตศิลป์ หมายถึง ผลงาน..ผลงาน
ศิลปะที่มุ่งเน้นคุณค่าทางความงาม...ความงาม หือ?”
ทำไมเมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงเหมือนมีใครอีกคนอ่านด้วย...เมธาคิดพลางขมวดคิ้วน้อยๆ
“ทำไมหยุดอ่านไปล่ะเมธา...?”
สงสัยคงจะหูฝาดไป...หลับตาและส่ายหัวน้อยๆและเริ่มอ่านจนจบและลงไปนั่งเรียนเหมือนเดิม
และคิดเรื่องเสียงสะท้อนนั้นน้อยๆก่อนจะล้มความคิดนั้นไปและฟุบหลับในคาบเรียน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนไปถึงเวลาพักเมธาและพิรุณมักจะซื้อพวกข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อ
มากินในที่ๆไม่มีคนเสมอ ก็ทำไงได้ล่ะ ไปโรงอาหารทีไรคนก็เต็มทุกที ซื้อแบบนี้มานั่นแหละ
เงียบๆแถมยังคุยเรื่องอะไรต่อมิอะไรได้ตามใจด้วย
“นี่ขนาดกินข้าวเธอยังอ่านหนังสืออีกเหรอเนี่ย...” เธอพึมพำเบาๆและมองไปที่หนังสือที่พิรุณกำลังอ่าน....
ดอปเพลแกงเกอร์อีกแล้ว มีอะไรกับหนังสือไร้สาระแบบนี้นักหนาเนี่ย....?
Rrrrrrrr Rrrrrrrr
และแล้วเสียงโทรศัพท์ก็มาขัดจังหวะการกินข้าวของเธอทำให้เธอต้องหยิบโทรศัพท์ไอ้โป้นขึ้นมาดู
ว่าใครโทรมา(ที่ที่เธอเรียนให้เอาโทรศัพท์มาได้แต่ต้องไม่เล่นในเวลาเรียน) แต่ อุ่ย...แม่โทรมาทำไมเนี่ย
ว่าแล้วก็ต้องกดรับและก็ต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกห่างหูแทบไม่ทัน
[เมธา!!!!]
ออกห่างเพราะคุณแม่สุดที่รักเล่นตะโกนมาแบบนี้ไง - -;;
“คะ...?” เธอเอาโทรศัพท์มาจ่อหูตัวเองเพื่อให้ได้ยินอีกครั้งและตอบรับคุณแม่ไปเสียงแห้งๆ
[วันนี้แกได้ไปเรียนรึเปล่า...?]
“เอะ...หนูก็ไปโรงเรียนและอยู่โรงเรียนมาตั้งแต่เช้านะคะ” ถึงจะหลับในคาบก็เถอะ
[แล้วทำไมตอนฉันไปตลาดตอนสายๆ ยังเห็นแกเดินใส่ชุดนักศึกษาเดินอยู่ในตลาด?]
“เอ๋...แต่หนูอยู่โรงเรียนจริงๆนะคะ...?” แม่พูดอะไรเนี่ย?
[โอเค..สงสัยฉันคงตาฝาดไปเอง...แค่นี้แหละ]
เมธาเอาโทรศัพท์ออกมาจากหูและมองโทรศัพท์อย่างงงๆ
...อะไรกันเนี่ย...อยู่ๆอะไรกันเนี่ย...เธออยู่ที่โรงเรียนตลอดนะ...จะไปตลาดได้ยังไงกัน....
“เมธา...เข้าเรียนแล้ว...” และก็ไม่ทันได้คิดอะไรอีกเช่นเคย พิรุณก็เรียกเธอให้ต้องรีบกินข้าวให้หมด
และขึ้นเรียนหนังสือ แต่เธอก็ไม่ได้มีสมาธิกับการเรียนเลยซักนิด(ปกติก็ไม่มีอยู่แล้ว)
ทั้งเรื่องเมื่อเช้า ทั้งเรื่องที่แม่เห็นเธอทั้งๆที่เธออยู่ในโรงเรียน...
ดอปเพลแกงเกอร์...?
บ้าน่า...มันเรื่องไร้สาระชัดๆ
จะเป็นไปได้ยังไงกัน...เรืองแบบนั้น...
จนเวลาล่วงเลยมาถึงเลิกเรียนเธอขึ้นรถและกลับบ้าน เธอยังคิดไม่ตกกับเรื่องนี้อยู่
ทั้งๆที่เธอไม่เคยเชื่อในเรื่องพวกนี้เลยซักนิด
โฮ่งๆๆๆๆ!!!!
เฮือก....เธอหันมองสุนัขสองสามตัวที่นอนนิ่งๆไม่มีอะไรอยู่เมื่อกี้ลุกขึ้นมาเห่าเธอ
เสียงดังทั้งที่เจ้าสุนัขสองสามตัวเนี่ย ไม่เคยเห่าใครนะเพราะเธอเดินผ่านมันบ่อยๆ
เมธารีบเดินหนีไปไกลๆเผื่อมันเข้ามากัดเธอ
....
แล้วสุนัขสองสามตัวนั้นก็หยุดเห่าลง...ให้เธอต้องสองสัยอีกรอบ
ทำไม...พอ เธอเดินผ่านมันกลับลุกขึ้นเห่าทั้งๆที่ไม่เคยเห่า...และทำไมพอเธอพ้นสายตา มันแล้ว...มันกลับหยุดเห่า...เมธาคิดและสายตาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างให้ต้อง เบิกตากว้างขึ้น
ผู้หญิง...ที่เหมือนเธอแทบทุกอย่าง...
ดอปเพลแกงเกอร์...ไม่จริงน่า!!?
ทั้งๆที่เธอไม่เชื่อเรื่องอะไรแบบนี้แต่กลับสาวเท้าวิ่งหนีผู้หญิงคนนั้นอย่างหวาดกลัว
วิ่งไปโดยไม่รู้ว่าซอยไหนเป็นซอยไหนวิ่งจนเลยบ้านของตัวเองไป
จนมายืนหอบตรงสุดของหมู่บ้าน
“นี่...ไม่คิดเลยเหรอว่าเธอจะหนีอะไรแบบนี้ไม่พ้นน่ะ....”
เฮือก!!! เมธารีบหันไปมองก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นตามเธอมาได้พบ
อะไรกัน...ทั้งๆที่ฉันวิ่งไกลและเหนื่อยขนาดนี้...ยังตามมาได้ทันอีก...
“คงคิดอยู่สินะ...ว่าทำไมฉันถึงตามเธอทันได้...”
ผู้หญิงคนนั้นค่อยๆพูดและก้าวเดินมาหาเมธาช้าๆ
“ธะ เธอเป็นใคร อย่าเข้ามานะ!!?”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มและเดินจนมาอยู่ประชิดข้างหน้าเธอ...
“ฉันคือฝาแฝดหรือเงาตามตัวของเธอ...และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงตามเธอทัน...”
ไม่จริงน่า!?
“เธอ คงคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้อยู่สินะ...” ผู้หญิงคนนั้นที่บอกว่าตัวเองคือเงาของตัวเองค่อยหยิบอะไรบางอย่างออกมา จากกระเป๋าที่เป็นแบบเดียวกับเธอ และที่น่าแปลกใจมากๆคือร่างกายของเธอกลับขยับตาม ในมือของผู้หญิงคนนั้นที่หยิบมาไม่มีอะไร แต่ในมือเธอ...
มีดคัตเตอร์!!!?
“เคยได้ยินรึเปล่าที่ว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่น่ะ...”
“เดี๋ยวเถอะเมธา..เรื่องลี้ลับถึงเธอไม่เชื่อก็ไม่ควรจะลบหลู่นะ...”
“คงเคยได้ยินมาจากเพื่อนของเธอที่ชื่อพิรุณบ้างสินะ....”
ทำไมพอผู้หญิงคนนั้นเอามือแบบถือคัตเตอร์จ่อคอตัวเอง
เธอถึงจ่อคอไปด้วย เมธามองคมมีดคัตเตอร์อย่างหวาดหวั่น
“มะ ไม่....”
“ฮึๆ...ใบหน้าของเธอตอนหวาดกลัว...น่ารักดีนะ...” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างมีความสุข
พลางทำให้เธอเอามีดกรีดคอตัวเองไปด้วย
เจ็บ...กลัว...ปล่อยฉันไป
“ปล่อยไปไม่ได้หรอก...เพราะเธอเจอฉันเรียบร้อยแล้ว...ทางของเธอคือ ‘ตาย’ อย่างเดียว”
ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยเสียงเย็นๆพลางทำท่าทางเหมือนแทงคอให้เธอต้องจับมีดจ่อคอตัวเองไปด้วย...
“ลาก่อน...’อดีตเมธา’ “
กรี๊ดดดดดดดดด!?!?!?!?!?
ฉึก!!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
...
ดอปเพลแกงเกอร์....
ตัวเราอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเราตลอดเวลา...
เงาของมนุษย์ที่ถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้มนูษย์โดดเดี่ยวเกินไป...
“อะ อรุณสวัสดิ์จ้ะ...เมธา....” พิรุณที่อ่านหนังสืออยู่กล่าวทักทายเพื่อนของ
ตัวเองที่เดินเข้ามาในห้องเรียน
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ พิรุณ....” ‘เมธา’ ยิ้มกลับไปให้เพื่อนของตัวเองและนั่งลงตรงที่นั่งของเธอ
ไม่มีอีกแล้ว...เมธาคนก่อน...เพราะฉันนี่แหละคือเมธา...
เงาที่พร้อมจะกลืนกินและมาแทนที่คุณ....
ผลงานอื่นๆ ของ น้ำตาสีขาว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ น้ำตาสีขาว
ความคิดเห็น