ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO:KrisLay]The Moon จันทราซ่อนซาตาน

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2: เส้นขนานที่กลับมาพบกัน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 56


     

    เส้นขนานที่กลับมาพบกัน




    ท้องนภายามเช้าบนดินแดนมนุษย์เรียกรอยยิ้มกว้างจนเกิดลักยิ้มบุ๋มข้างแก้มจนเด่นชัดจากร่างบางที่นั่งอยู่บนหลังม้าเพกาซัสตัวขาว

    เมื่อสิบกว่าปีก่อนเขาก็เคยเป็นมนุษย์เวทย์ของดินแดนเบื้องล่าง แต่ต้องพลัดพรากจากดินแดนบ้านบ้านเกิดเพราะเขาคือผู้ถูกเลือกจากมหาเทพเพื่อขึ้นเป็นเทพองค์ต่อไปตามคำทำนายที่สืบต่อกันมา

    ดวงตาวาวใสมองแผ่นดินเบื้องร่างที่เต็มไปด้วยป่าสลับและอาคารบ้านเรือนที่ทำด้วยอิฐแดงอย่างตื่นตา

    “พีแอลเจ้าคิดเหมือนข้ารึป่าว ดินแดนพลาเนตนี่ช่างเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ ตอนข้ายังเด็กบ้านเรือนถนนหนทางมันไม่ได้เยอะขนาดนี้นี่” เสียงใสพูดกับเพกาซัสหนุ่มเป็นภาษามนุษย์แต่สำเนียงออกจะฟังดูเพี้ยนๆไปนิดเพราะเจ้าตัวไม่ได้ใช้นาน

    “กาลเวลาเปลี่ยนไป ประชากรและความเป็นอยู่ย่อมแปรเปลี่ยนไปเช่นกันขอรับท่านเลย์” เพกาซัสพีแอลกล่าวตอบผู้เป็นนายตน

    “ข้าก็ว่างั้น...ป่านนี้ท่านพ่อท่านแม่ของข้าเป็นอย่างไรบ้าง ข้าคิดถึงท่านทั้งสองจัง” พอพูดถึงดินแดนนี้ทีไรเลย์ก็อดคำนึงถึงบิดามารดาผู้ให้กำเนิดเสียไม่ได้ ใบหน้าหวานสวยเริ่มเศร้าหมองจนสัตว์รับใช้ก้รู้สึกได้

    “อย่าเศร้าไปเลยขอรับท่านเลย์ เสร็จจากภารกิจของท่านนักปราชญ์แห่งพลาเนตท่านก็สามารถแวะไปหาพวกเขาก่อนกลับเทือกเขาเทพก็ได้นี่ขอรับ” พีแอลพยายามพูดให้คนเป็นนายหายเศร้าซึ่งก็ได้ผลตามที่หวัง

    “นั่นสิ เสร็จจากจัดการเรื่องมนุษย์หมาป่านั่นเจ้าอย่าลืมพาข้าไปหาท่านพ่อท่านแม่นะพีแอล”

    “ตามบัญชาขอรับ” เสียงเข้มรับคำก่อนกระพือปีกเร่งให้ถึงที่หมายเร็วๆ

    สาเหตุที่ทำให้ว่าที่องค์เทพต้องลงจากเทือกเขามาดินแดนมนุษย์นี้ก็หนีไม่พ้นเรื่องของเหล่านักเรียนกษัตริย์แห่งพลาเนตที่เดินทางไปซ่อมคฑาทรงอำนาจที่ดินแดนภูตแล้วขากลับโดนเหล่ามนุษย์หมาป่าสมุนของอสูรฮันดักทำร้าย

    ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าในบรรดาคณะผู้ร่วมเดินทางนี้ใครคือบุคคลที่โดนพิษต้องสาปจากหัวหน้าหมาป่า มหาปราชญ์ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่จึงเดินทางไปยังเทือกเขาแห่งเทพแล้วยื่นฎีกาขอความช่วยเหลือและมหาเทพก็ทรงโปรดให้ร่างบางรับหน้าที่นี้เพราะองค์เทพทรงรู้ว่าชะตาชีวิตของเลย์ได้ถูกกำหนดขึ้นใหม่นับจากนี้ต่อไป...

    กีบเท้าทั้งสี่ของเพกาซัสหนุ่มแตะลงบนพื้นหญ้าเขียวชอุ่มนัยน์ตาวาวใสมองสิ่งรอบตัวมือบางจับลำคอสหายมีปีกอย่างไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อน

    “ท่านเลย์ถึงหน้าปราสาทของโรงเรียนแล้วขอรับ” เสียงเข้มเรียกสติคนเป็นนาย

    “อ่า..อือ” เลย์รับคำก่อนรวบรวมสติแล้วกระโดดลงจากหลังเจ้าเพกาซัส

    “อีกสักพักองค์ชายลู่หานแห่งเพเลนเซียก็จะออกมารับท่านอย่ากังวลไปเลยขอรับ” พีแอลเอ่ยปลอบเจ้านายที่กำลังเหมือนเด็กน้อยเพิ่งมาโรงเรียนเป็นครั้งแรก

    “พีแอลอ่า...ข้าจากดินแดนนี้มานานนะมันก็ต้องมีทำตัวไม่ถูกบ้างแหละน่า” เลย์หันไปบ่นปอดแปดกับสหายต่างสายพันธ์ที่เอาแต่ยิ้มขำกับท่าทีของเขา

    “รอกระหม่อมนานหรือไม่องค์เทพรัชทายาท” เสียงห้าวแอบหวานเรียกเจ้าของชื่อหันไปมอง ร่างโปร่งโค้งคำนับเขาก่อนเงยหน้าขึ้นพร้อมยิ้มไมตรี

    “ผมยังไม่ถูกแต่ตั้งเป็นเทพรัชทายาทตอนนี้ผมยังคงเป็นอี้ชิงลูกคนเล็กของหมอหลวงแห่งเพเลนเซีย พี่ลู่หานโปรดทรงเรียกข้าเช่นเดิมเถอะ” คนถูกยกศักดิ์สูงรีบเอ่ยแก้ตัว

    เลย์มองลู่หานพลางเผยยิ้มดีใจเมื่อได้เจอเพื่อนสมัยเด็กอีกครั้ง เขาและองค์ชายลู่หานตอนที่ยังเด็กชอบแอบหนีออกไปเล่นด้วยกันที่ริมทะเลสาปรอยต่อดินแดนเพเลนเซียกับแอสซาเรส เขายังจำได้ดีว่าตอนนี้มีเพื่อนร่วมซนอย่างเจ้าหญิงโชรงธิดาองค์เล็กแห่งเพเลนเซียและ...และใครอีกคนที่จู่ๆเขาก็ลืมชื่อไปจำไม่ได้แม้กระทั้งหน้าตาของเด็กชายคนนั้น

    “ถ้ามันทำให้นายไม่อึดอัดพี่ก็จะเรียกนายว่าอี้...ไม่สิต้องเรียกว่าเลย์แล้วล่ะเพราะนายเปลี่ยนไปเยอะเลย” ลู่หานกับเลย์มองหน้ากันนิดๆอย่างเข้าใจกันดีว่าอีกคนหมายถึงอะไร

    “อ่าครับ...ละ แล้วคนที่ยืนอยู่ข้างหลังพี่คือ...?” เลย์เอ่ยถามถึงบุคคลที่เดินออกมาพร้อมลู่หาน

    “นี่เจ้าชายซิ่วหมินเพื่อนในห้องพี่เอง มินซอกฉันคงไม่ต้องแนะนำนะว่าเลย์คือใคร” ลู่หานกล่าวแนะนำเพื่อนของเขาให้ร่างบางได้รู้จัก ก่อนหันไปพูดกับเพื่อนของเขา

    “ยินดีที่ได้รู้จักพะย่ะค่ะองค์เทพรัชทายาทเลย์ กระหม่อมคือองค์ชายซิ่วหมินเจ้าชายแห่งดินแดนภูตหิมะจะเรียกกระหม่อมว่ามินซอกเหมือนลู่หาก็ได้นะพะย่ะค่ะ” ร่างอวบโค้งคำนับบุคคลสูงศักดิ์ตรงหน้าซึ่งอีกคนก็โค้งตอบรับ

    “อ่า..ยินดีที่ได้รู้จักครับก็โปรดอย่าถือยศศักดิ์กับผมเลยเรียกผมว่าเลย์เฉยๆเหมือนพี่ลู่หานเถอะครับ”

    “อาฮะ...นายเลย์”

    หลังจากพูดคุยกันได้สักพักเลย์ก็ต้องหันไปอำลาพีแอลเพราะโรงเรียนหลวงมีกฎห้ามมิให้สัตว์พาหนะเข้าปราสาทเจ้าม้าหนุ่มจึงต้องเดินทางกลับเทือกเขาเทพจนกว่าเจ้านายร่างบางจะเรียกหา

































































    ทั้งสามเดินเข้าไปในตัวโรงเรียนซึ่งเป็นปราสาทเก่าแก่โดยมีไกด์กิติมาศักดิ์อย่างลู่หานและซิ่วหมินค่อยบอกส่วนต่างๆของตัวโรงเรียนโดยละเอียด

    “อย่างที่เล่าให้ฟังถ้าราชวงศ์พลาเนตไม่ล่มสลายเพราะคำสาปแช่งของราชาปิศาจตนก่อนโรงเรียนกษัตริย์แห่งนี้ก็คงไม่เกิด พวกเราทุกคนคงต้องนั่งซังกะตายเรียนหนังสือในบ้านใครบ้านมันแน่ๆ” ลู่หานกล่าวสรุปบทไกด์จำเป็นกับนักเรียนน้องใหม่

    “อ่า..ห้าคนนั้นพวกเค้าเป็นใครกันหรอครับดูโดดเด่นจัง” เลย์กวาดสายตามองจุดต่างๆของโรงเรียนก่อนไปสะดุดตากับคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินมาทางพวกเขา

    “เจ้าพวกนี้แหละคือกลุ่มที่นายต้องจัดการ” ซิ่วหมินพูดพลางทำสีหน้าเบื่อหน่ายกับการทำตัวเด่นของคนเหล่านั้น

    “กลุ่มนักเรียนที่ต่อสู้กับมนุษย์หมาป่าน่ะหรอครับ?”

    “ใช่ ไว้เข้าหอแล้วค่อยพูดเรื่องนี้ละกัน” ลู่หานรีบตัดบทเพราะคนพวกนั้นกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

    “อรุณสวัสดิ์ครับพระคู่หมั้นของผม” คำทักทายจากร่างสูงเรียกสายตาค้อนขวับจากคู่หมั้นหน้าหวาน

    “เซฮุนที่นี่มันโรงเรียนกรุณาให้เกียรติรุ่นพี่ด้วย ระวังจะโดนหักคะแนนเพราะใช้คำราชาศัพท์ในสถานศึกษา” ลู่หานเอ่ยเตือนร่างสูง

    “โดนที่รักสวดกลับเป็นชุดซึ้งมั้ยล่ะโอเซ” ร่างสูงผิวเข้มที่ยืนอยู่ข้างๆกันเอ่ยล้อเลียน

    แล้วหลังจากนั้นการสนทนารอบข้างไม่ได้เข้ามาอยู่ในโสตประสาตการรับรู้ของเลย์เลยดวงตาใสจ้องมองดวงตาคมดุจเหยี่ยวที่จ้องมองเข้าอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองมองตากันเนิ่นนานดั่งต้องมนต์แต่ไม่สามารถเดินเข้าหากันได้ดั่งแรงแม่เหล็กที่มีอิฐหนาชั้นดีกั้นไว้



     

















     

    ดั่งเส้นขนานที่กลับมาพบกัน...แต่ไม่มีหนทางบรรจบให้ใกล้ชิด



















    ---------------------------------

    Writer To Readder

    มาแล้วค่ะมาแล้วสำหรับหมาป่าตอนที่สอง ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ^^





     

                                 
     

     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×