คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3: รูมเมท
รูมเมท
“นายคุ้นหน้าเด็กใหม่ที่มากับพี่ลู่หานมั้ย?” แบคฮยอนหันมาถามเซฮุนทันทีที่พวกเขามารวมตัวกันในห้องของสามหนุ่มรุ่นน้องเซฮุน ไค และเทา
“ผมว่าผมไม่เคยเจอคนๆนี้มาก่อนเลยนะ ไอ้องครักษ์องค์ชายลู่แกพอจะรู้จักพี่ยิ้มสวยคนนั้นมั้ย” องค์ชายอายุน้อยสุดในกลุ่มส่ายหน้า ก่อนจะหันไปขอความเห็นจากราชองครักษ์ประจำพระองค์ของเจ้าชายลู่หาน
“รู้จักสิ และองค์ชายคริสกับพวกคนแอสซาเรสก็รู้จักเค้าคนนั้นดีด้วย” ไคตอบพลางบุ้ยหน้าไปทางองค์ชายใหญ่ที่นั่งเงียบอยู่บนเตียง
“พี่คริสรู้จักนายนั่นด้วยหรอครับ?” แบคฮยอนเอ่ยถามอีกคนทันที
“อืม” ร่างสูงแค่ครางรับไม่คิดจะตอบอะไรเพิ่มเติม
“ลักยิ้มเด่นแบบนั้นใช่คุณหนูอี้ชิงรึป่าว?” เทาโพล่งขึ้นหลังจากนั่งคิดอยู่นาน
“เออใช่ ฉันก็ว่าคุ้นๆ แต่ทำไมโตขึ้นมาเค้าแมนได้ขนาดนี้วะ?” ชานยอลที่ตามมาสมทบกลุ่มทีหลังพอจะได้เห็นหน้าของเลย์อยู่บ้างเอ่ยพูดกับเทา
“อี้ชิงถูกเลือกจากคำพยากรณ์เทพเพื่อเป็นองค์เทพรัชทายาทองค์ต่อไป มหาเทพควรเป็นชายชาตรีนี่คือสิ่งที่เปลี่ยนนารีเป็นบุรุษ...เปลี่ยนคุณหนูอี้ชิงเป็นท่านเทพรัชทายาทเลย์” คริสอธิบายให้ทุกคนเข้าใจถึงสาเหตุ สายตาทุกคู่หันไปมองเจ้าชายแสนเย็นชาอย่างแปลกใจที่ครั้งนี้ร่างสูงเอ่ยวาจาเยอะกว่าปกติ
“พึ่งจะรู้วันนี้เองว่าพี่ชายผมก็พูดได้เยอะเหมือนกัน” ชานยอลพูดด้วยความปลาบปลื้มราวกับเจอสิ่งมหัศจรรย์
“ถ้าไม่ใช่เรื่องคุณหนูอี้ชิง องค์ชายคงไม่สนใจจะสนทนากับพวกเราเลยใช่มั้ยกระหม่อม” องครักษ์จื่อเทาเอ่ยล้อผู้เป็นนาย โดยไม่ทันสังเกตสีหน้าริษยาของใครอีกคนที่ต้องการเป็นคนที่อยู่ในบทสนทนาของบุคคลทั้งสาม
“พี่ๆเพื่อนๆครับ จะทำอะไรเกรงใจว่าที่พระคู่หมายบ้างนะครับ ตอนนี้หึงเจ้าชายอู๋ฟานจนเลือดขึ้นหน้าแล้ว” เซฮุนรีบพูดกลบบรรยากาศย้อนวันวานของเหล่าประชาชนชาวแอสซาเรสกับชายหนุ่มจากดินแดนพาเลนเซียด้วยคำกึ่งราชาศัพท์ที่เขาไม่ค่อยใช้นักเพราะรังสีหึงหวงที่แพร่ออกมาจากรุ่นพี่หน้าสวย
“ว่าที่พระคู่หมายในความหมายของราชวงศ์แอสซาเรสไม่ได้หมายความว่าองค์ชายแบคฮยอนจะทรงถูกเลือกให้เป็นพระคู่หมั้นขององค์ชายคริสแค่พระองค์เดียวซะหน่อย ยังมีองค์ชายชานยอลอีกพระองค์ที่มีสิทธิ์พิจารณาในคุณสมบัติของพระองค์” องครักษ์แห่งพาเลนเซียพูดกฎการเลือกพระชายาของราชวงศ์แอสซาเรสเพื่อเตือนสติองค์ชายแห่งดินแดนภูตแสงว่าอย่าทรงหวังให้สูงมากนัก
“องครักษ์จงอินถ้าเจ้าไม่คิดจะหุบปากพล่อยๆของเจ้าก็จงกลับไปนั่งเฝ้าเจ้าชายของเจ้าซะที่นี่ไม่มีคนของพาเลนเซียให้เจ้าต้องปกป้อง!” องค์ชายอารมณ์ร้อนแผดเสียงลั่นอย่างเหลืออดกับวาจาขององครักษ์ร่างสูง
“พอเถอะครับพอเถอะ คนกลางอย่างผมปวดหัวนะครับพี่กับไอ้ไคทำไมชอบกัดกันจังเลย” องค์ชายผู้รักความสามัคคีรีบโค้งขอความกรุณาจากรุ่นพี่ร่างบางและสหายผิวเข้มให้หุบปากสงบศึกก่อนที่จะมีใครมาได้ยินวาจาราชวงศ์แล้วเอาไปฟ้องอาจารย์ฝ่ายปกครองให้มาหักคะแนนกันทั้งคณะ
ก็รู้อยู่ว่าโรงเรียนแห่งนี้มีกฎแห่งความเสมอภาคไม่ว่าจะเป็นลูกเจ้าแผ่นดินหรือคุณหนูจากตระกูลดีมาจากไหนก็แล้วแต่ มาอยู่ที่นี่ทุกคนต้องทิ้งยศฐานันดรและอยู่ร่วมกันเยี่ยงสามัญชนไม่มีราชาศัพท์หรือคำยกยอยศใดๆทั้งสิ้น แล้วทำไมชอบงัดคำเหล่านั้นมาใช้กัดกันนักนะ!!
“ปกติเหล่าทายาทองค์เทพเค้าเรียนกันที่วังเทพอยู่แล้วไม่ใช่หรอครับ แล้วทำไมท่านเลย์ต้องลงมาเรียนรวมกับพวกเราที่นี่ด้วย” ชานยอลแสร้งไม่สนใจคำโต้แย้งของแบคฮยอนกับไค แล้วหันไปคุยกับพี่ชายแทน
“ฉันว่านายไม่โง่จนดูไม่ออกนะชานยอลว่าเทพรัชทายาทลงมาทำไม” คริสไม่ตอบแต่เลือกตั้งคำถามย้อนกลับให้น้องชายคิดตาม
“เรื่องพวกเรางั้นหรอ?” พอได้ฟังคำตอบแกมถามกลับจากชานยอลคนที่เหลือต่างพากันเงียบกริบจนได้ยินเสียงลมพัดจากนอกหน้าต่าง
“ท่านเลย์เป็นแค่ว่าที่เทพเค้าคงไม่มีพลังอะไรมากมายหรอกใช่มั้ย?” แบคฮยอนเอ่ยถามบ้างพลางเปลี่ยนสรรพนามเรียกอีกคนใหม่เพราะร่างบางที่กำลังเอ่ยถึงตอนนี้มีศักดิ์สูงกว่าจนไม่สามารถเรียกเล่นๆได้
“เรื่องนี้ฉันไม่รู้ แต่ยังไงก็ระวังตัวไว้จะดีที่สุด” คริสพูดด้วยน้ำเสียงไร้ความรู้สึกเพื่อไม่ให้คนอื่นๆเป็นกังวลกับเรื่องนี้ ร่างหนายืนขึ้นเต็มความสูงก่อนก้าวเท้าเดินออกจากห้องพักรุ่นน้องทั้งสาม
ร่างสูงเดินขึ้นบันไดจนมาถึงชั้นสามตาคมปะทะกับร่างโปร่งบางที่พึ่งอยู่ในบทสนทนาเมื่อครู่กำลังยืนลังเลอยู่บันไดขั้นบนสุด
“มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย?” เขาเอ่ยถามอีกคนตามมารยาทและความรู้สึกอยากอยู่ใกล้...
ใบหน้าหวานแสนคุ้นตาหันไปมองผู้ให้ความช่วยเหลือก่อนเผยยิ้มกว้างจนเกิดลักยิ้มข้างแก้มด้วยความดีใจ
เลย์ไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มแสนหวานนั้นทำหัวใจเจ้าชายผู้เย็นชาในสายตาใครต่อใครสั่นไหวแค่ไหน
“อ่า...ผมกำลังหาห้องพักอยู่ครับแต่ไม่รู้ต้องไปทางไหน” เลย์พูดกับบุคคลมาใหม่ด้วยสำเนียงเพี้ยนๆจากเทพที่พยายามพูดแบบมนุษย์ จนคนได้ฟังยังแอบขำกับเสียงพูดน่าเอ็นดูของร่างบาง
“นายอยู่ห้องไหนล่ะ” ร่างสูงถามพลางมองป้ายกุญแจที่อีกคนถืออยู่
“305 ครับ” เลย์ตอบกลับพลางยื่นหมายเลขห้องที่สลักอยู่บนป้ายกุญแจให้ร่างสูงดู
อยู่ห้องเดียวกัน...
“ตามฉันมาสิ” คริสเดินนำร่างบางไปทางปีกขวาของตัวปราสาทแล้วมาหยุดอยู่หน้าห้องประตูไม้สลักลวดลายวิจิตร
อี้ชิงยืนนิ่งอยู่กับที่มองประตูห้องข้างๆทั้งสองห้องซึ่งเป็นแค่ไม้สักสีน้ำตาลธรรมดาไม่มีลวดลายอะไร แล้วหันกลับมามองห้องตรงหน้าอีกครั้ง
“ทำไมห้องนี้แตกต่างจากห้องอื่นล่ะ?” ร่างบางเอ่ยถามดวงตาใสเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย
“ก็ห้องนี้คือห้องของหัวหน้าชั้นปีสามแห่งสาขากองพลอารักษ์ขายังไงล่ะ” คริสตอบคนฟังถึงกับเหวอรับประทานทันที
มือหนายื่นไปหน้าประตูแล้ววาดวนกลางอากาศ พอวงเวทย์มาบรรจบครบรอบประตูบานใหญ่ก็เปิดออกให้ร่างสูงเดินเข้าไปโดยที่อีกคนยังยืนอยู่หน้าห้องนี้
“ทะ...ทำไมผมได้มาอยู่กับรุ่นพี่ได้เนี่ย ผมต้องอยู่กับพวกปีสองสิท่านมหาปราชญ์ต้องให้กุญแจผิดห้องแน่ๆ” เลย์เกิดอาการรนรานกับการปล่อยไก่ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาอยู่ที่นี่
“ไม่ผิดหรอก สัมภาระของนายก็ถูกส่งมาไว้ในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” คริสผายมือไปยังอีกเตียงที่มีสัมภาระมากมายวางอยู่
ใช่...เลย์ไม่ได้บังเอิญที่มาอยู่ห้องเขาหรอกแต่มันเป็นการจงใจของมหาปราชญ์ที่ต้องการจะสืบเรื่องของพวกเขาให้จบโดยเร็วที่สุดโดยใช้เทพร่างบางเป็นตัวดำเนินเกมค้นหาปิศาจแล้วจัดการฆ่าหรือทำอะไรสักอย่างทันทีที่รู้ตัว
ซึ่งเขาก็คงต้องยอมให้เลย์เป็นผู้สืบหาปิศาจร้ายที่สิงอยู่ในร่างของใครคนใดคนหนึ่งในหมู่พวกเขา เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาหรือใครกันแน่ที่เป็นมนุษย์หมาป่าตัวจริง
“ถ้างั้น...ผมชื่อเลย์ครับถ้าให้แนะนำศักดิ์ผมว่าพี่คงรู้จักผม ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับรุ่นพี่” เลย์โค้งให้ร่างสูงตามวุฒิภาวะและอายุอย่างที่ควรจะทำเมื่ออยู่ในโรงเรียน
เขาไม่ได้สนใจยศศักดิ์ของตนที่สูงกว่าคริสเลยสักนิด ซึ่งคริสเองก็คิดเช่นนั้นร่างสูงโค้งรับคำแนะนำตัวจากรุ่นน้องผู้สูงศักดิ์
“ฉันคริส เจ้าชายรัชทายาทอู๋อี้ฟานแห่งแอสซาเรสยินดีที่ได้รู้จักองค์เทพรัชทายาทเลย์” คริสแนะนำตัวเต็มยศ
เขามองปฏิกิริยาร่างบางว่าพอจะจำหรือคุ้นในชื่อและตัวเขาบ้างรึป่าว แต่มันก็ว่างเปล่าคนตรงหน้าไม่แสดงอาการว่าจำได้หรือคุ้นเคยใดๆในตัวเขา
...องค์เทพรัชทายาท กับ เจ้าชายรัชทายาท...
ไม่ต่างอะไรกับหอคอยผู้โดดเดี่ยวที่รอวันให้ดวงดาราบนนภาโน้มลงมาหาตน
หอคอยจะสูงสักแค่ไหนก็หาได้สูงเทียบชั้นกับดวงดาวที่ประดับอยู่บนท้องฟ้าไม่
“ผมดีใจจังที่มีเจ้าชายเป็นรูมเมท” เลย์พูดกับอีกคนด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
“ฉันก็ดีใจที่มีรูมเมทเป็นถึงเทพ”
ช่างดูตอกย้ำเรื่องทฤษฎีเส้นขนานเสียจริง
---------------------------------
To. Readder
มาต่อกันเลยนะคะกับตอนที่3 คริสเลย์มีบทเข้าพระเข้านางกันสักที คึคึ
ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ^^
ความคิดเห็น