คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1: ปฐมบทแห่งจันทรา
ปฐมบทแห่งจันทรา
ในเขตป่าต้องสาปรอยต่อระหว่างดินแดนปิศาจ ดินแดนมนุษย์เวทย์ และดินแดนภูตดูเงียบสงัดและน่ากลัวถึงแม้จะเป็นค่ำคืนที่มีแสงจันทราสอดส่องให้ความสว่างไสวกับป่าแห่งนี้ สำหรับพวกเขากลุ่มนักเรียนที่ได้รับมอบหมายให้นำคฑาเวทย์ไปซ่อมที่ดินแดนภูตแล้วต้องใช้เส้นทางนี้ไปกลับพอเห็นแสงจันทราสดสว่างมากเท่าไหร่ยิ่งหมายถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามาใกล้ทุกเมื่อ!!!
“คืนนี้เป็นคืนจันทร์ฉายผมว่าเรารีบหาที่ซ่อนตัวกันเถอะ” เสียงทุ้มจากบุรุษหนุ่มผิวเข้มร่างกำยำเอ่ยเสนอความเห็นหลังจากที่พวกเขาหยุดมองพระจันทร์บนท้องฟ้า
“หาที่ซ่อน? เจ้านี่ตลกรับประทานจริงๆบริเวณนี้มีแต่ป่าจะให้พวกเราไปมุดหัวที่ใดท่านราชองครักษ์” เสียงใสของบุรุษร่างบางที่สุดในกลุ่มแย้งขึ้น ในตาแสนรั้นมองอีกคนนิ่ง
“ถ้าพระองค์ไม่คิดจะหลบซ่อนก็ยืนเป็นเหยื่อล่อเหล่ามนุษย์หมาป่าอยู่นี่เถอะพะย่ะค่ะ เห็นเค้าว่ากันว่าร่างมนุษย์ของเจ้าพวกนั้นหล่อเหล่ายิ่งนักข้าว่าองค์ชายคงจะชอบพระทัย” คำพูดโต้ตอบขององครักษ์หนุ่มเรียกนัยน์ตาโกรธเกรี้ยวจากราชนิกุลร่างบางได้ดียิ่งนัก
“อะ เอ่อ...เราว่า...” ร่างสูงของราชนิกุลอีกคนกำลังจะทำการห้ามทัพแต่องค์ชายจอมรั้นในกลุ่มก็พูดแทรกเสียก่อน
“คิมจงอิน! ประเทศของเจ้าเค้าสอนให้ต่อปากต่อคำกับคนที่มีศักดิ์สูงกว่าเยี่ยงนี้รึถึงว่าทำไมถึงตกเป็นเมืองขึ้นของแอสซาเรส” องค์ชายตอบโต้กลับพร้อมแสดงปฏิกิริยาเหยียดหยามออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“องค์ชายแบคฮยอนทรงอย่าดูถูกประเทศของกระหม่อม!!” คราวนี้เป็นฝ่ายองครักษ์ที่โกรธเคือง
“พอได้แล้ว จะมายืนทะเลาะกันให้หมาป่ามาร่วมวงด้วยอีกนานมั้ย?” บุรุษผู้นำกลุ่มเอ่ยขัดเสียงเย็นก่อนที่จะมีเรื่องไปมากกว่านี้
“องค์ชายอี้ฟาน ผมพอจะจำได้ว่าแถวนี้มีกระท่อมร้างเราคืนนี้เราพักกันที่นั่นดีมั้ยครับ” องครักษ์อีกคนในกลุ่มที่นิ่งเงียบอยู่นานเสนอที่พักให้ ผู้ร่วมขบวนคนอื่นๆ ต่างเห็นด้วย
“งั้นนายก็รีบนำทางสิเทา ฉันไม่อยากยืนอยู่กลางป่านี่นานๆมันวังเวงว่ะ” องค์ชายน้องเล็กในกลุ่มรีบประกบติดองครักษ์สหายร่วมห้องทันที
“ท่านกลัวรึองค์ชายเซฮุน?” เทาหยอกล้อสหายให้เคืองเล่นไม่ได้คำนึงเลยว่าตนก็เป็นประเภทแข็งนอกอ่อนในกลัวสิ่งลี้ลับในโลกนี้ยิ่งกว่าอะไร
“เหอะ ถึงข้าจะกลาก็ไม่เคยเห็นพุ่มไม้แล้วกรี๊ดแตกแบบเจ้าก็แล้วกันองครักษ์จื่อเทา” องค์ชายหนุ่มย้อนกลับด้วยสรรพที่ใช้ในราชวงศ์ซึ่งน้อยนักที่เซฮุนจะหยิบมาใช้เวลาอยู่นอกวังถ้าไม่สุดทนแล้วจริงๆ
“เลิกกัดกันแล้วนำทาง!!!” เสียงประกาศกร้าวของพี่ใหญ่สุดดังขึ้นอีกเหล่าเด็กน้อยจึงรูดซิบปากแล้วเดินตามจื่อเทากันไปเป็นแถวโดยมีเขาเดินปิดท้าย
“เบื่อ ร้อน หิว!!” เสียงบ่นรอบที่สิบของแบคฮยอนเรียกสายตาเอือมระอาจากองครักษ์จงอินและกลุ่มองค์ชายร่างสูงยกเว้นใครบางคน
“เซฮุนกางข่ายเวทไว้ไกลพอสมควร ถ้านายเบื่อก็ออกไปเดินเล่นข้างนอกก่อนก็ได้เทากับไคทำอาหารเสร็จเมื่อไหร่ฉันจะไปตาม” เสียงทุ้มเอ่ยแนะนำอีกฝ่ายพร้อมส่งรอยยิ้มอบอุ่นที่แฝงความหมายดีๆไปให้ร่างบางผู้ไม่เคยรับรู้มันเลย
“เฮ้อ..สมแล้วที่นายเป็นเพื่อนรักของฉันชานยอลนายใจดีกับฉันที่สุดเลย” คำพูดเหมือนชมสหายแต่แอบแฝงคำตัดพ้อที่ส่งไปให้ใครบางคนได้รับรู้
...ข้าอยากให้ท่านห่วงใยข้า เหมือนที่น้องชายท่านกำลังทำอยู่แค่สักครั้งก็ยังดี...
“ทำไมมหาปราช์ญต้องให้เราพาองค์ชายเจ้าปัญหานี่มาด้วยวุ่นวายจุ้นจ้าน” จงอินบ่นตามหลังร่างบางที่เดินออกไปจากกระท่อมที่พัก
“เพราะต้องการพลังแห่งแสงของแบคฮยอนมาห่อหุ้มคฑาน่ะสิ”เทาตอบคำถามก่อนส่งจานอาหารให้อีกคนนำไปวางไว้บนโต๊ะ
จู่ๆสายลมอ่อนจากข่ายเวทย์ของเซฮุนพัดวูบเข้ามาในกระท่อมปะทะเข้าหน้าขององค์ชายเจ้าของเวทย์พร้อมกลิ่นสาปมันคือสัญญาอันตรายชั้นเยี่ยม
“เวรแล้วไง องค์ชายแห่งซันซาก่อเรื่อง” ร่างสูงลุกขึ้นแล้วรีบไปยังต้นทางของลม โดยมีคนอื่นตามมาติดๆ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำเอาทุกคนแทบจะปลิดชีพตนซะตรงนี้...องค์ชายพยอนแบคฮยอนแห่งซันซายืนประจันหน้ากับฝูงหมาป่านับร้อย
“ซะ...เซฮุนช่วยเราด้วย” เสียงหวานละล่ำละลักเอ่ยขอความช่วยเหลือจากองค์ชายรุ่นน้อง
“ก่อนที่จะให้ผมช่วย ผมอยากรู้ว่าพี่เมาอะไรถึงได้พังข่ายเวทย์ของผม”
“ก็ฉันร้อนอยากไปอาบน้ำที่รำธารแต่ข่ายเวทย์ของนายไปไม่ถึงฉันเลย..”
“พังทิ้งแม่ง...โคตรจะเห็นแก่ตัวเลยกระหม่อม” ไคต่อบทพูดแล้วเสริมคำกระทบองค์ชายจอมก่อเรื่องที่ยืนนิ่งอย่างสลด
“พวกเราแค่ขอใช้เส้นทางนี้เป็นทางผ่าน พอถึงรุ่งสางเราจะรีบออกจากอาณาเขตของพวกท่านโปรดเมตตา” ผู้นำขบวนเดินออกไปประจันหน้ากับเหล่ามนุษย์หมาป่าก่อนกล่าวต่อรองด้วยท่าทางสุภาพกับหัวหน้าฝูง
“ทางผ่าน?...อาณาเขตของเรามันด้อยค่าขนาดนั้นเลยหรือองค์รัชทายาทอี้ฟานแห่งแอสซาเรส” เสียงแห่บพร่าคำรามสื่อสารกับร่างสูง
“ทุกที่ย่อมมีค่า ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านเข้าใจเช่นนั้นท่านจ่าฝูง” เสียงทุ้มตอบกลับอย่างใจเย็น
“หึๆ ว่าที่มหากษัตริย์นี่ใช้คำพูดในการเจรจาได้ดียิ่งนัก แต่ท่านเคยได้ยินหรือไม่เจ้าชายว่าไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ถ้าอยากผ่านเขตของเราก็ต้องจ่ายค่าผ่านทาง...” หมาป่าร่างใหญ่กล่าวนัยน์ตาแดงฉานมองมนุษย์หนุ่มด้วยความเจ้าเล่ห์
“ค่าผ่านทางห่าไรวะ ขาไปโน่นไม่เห็นต้องจ่ายสักสลึงองค์ชายคริสคงไม่บ้าจี้ไปจ่ายให้มันหรอกนะ” ไคสบถเบาๆ
“แล้วขาไปมันเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงรึ?” เทาย้อนถามซึ่งอีกคนก็เพิ่งนึกขึ้นได้เลยเงียบไป
“แล้วท่านต้องการเท่าไหร่” คริสเอ่ยถามลองเชิง
“คฑาล้ำค่าของพลาเนตยังไงเล่าเจ้าชาย” หมาป่าคำรามต่ำเฝ้าดูท่าทีของชายตรงหน้าที่ยังนิ่งเฉยกับเรื่องค่าผ่านทาง
“สมุนปิศาจอย่างท่านเห็นทีข้าจะไม่ควรต่อรองอีกต่อไป” ร่างสูงกล่าวจบบทสนทนาแล้วต่อสู้กับฝูงหมาป่าปิศาจที่ต้องการแย่งชิงของสำคัญทันที
การต่อสู้ที่ดูยังไงพวกเขาก็เสียเปรียบถึงจะเป็นนักเวทย์แต่จะไปสู้อะไรกับพวกมีมนต์ดำคุ้มกันได้และใครบางคนในกลุ่มก็พลาดท่าโดนหมาป่ากัดเข้าที่ไหล่อย่างจัง!!
“อ๊ากกกก!!!”
“เห้ย!!!!!”
++++++++++++++++++++++++++++++
คุยท้ายบท ฟิคเรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซี เกี่ยวกับเวทย์มนต์และสิ่งลี้ลับ
ซึ่งเป็นแนวที่ไรท์อยากแต่งมากๆรองจากแนวพีเรียดและแนวดราม่าปกติ
คำพูดของตัวละครอาจจะดูโบราณผสมกับสมัยใหม่หน่อยนะอย่าเพิ่งงกันล่ะ
หวังว่ารีดเดอร์จะชอบและสนับสนุนฟิคเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ^^
ความคิดเห็น