คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : one (100%)
ตอนนี้ผมกำลังยืนมอง ผู้ชายคนหนึ่ง…ที่ผมหน้าม้าถูกรวบขึ้นมัดจุกคล้ายกับหมาพุดเดิ้ลไม่มีผิด ตรงแก้มมีบรัชออนสีแดงแปร๋นแต้มอยู่เป็นวงกว้าง ที่ใบหูด้านซ้ายมีดอกไม้สีเหลืองอ๋อยดอกใหญ่ทัดอยู่ อีกทั้งยังสวมชุดลายจุดสีชมพูหวาน ในมือข้างขวาอุ้มตุ๊กตาคุมะ…
ไอ่ตุ๊ดในกระจกนั่นใคร !!!!
บอกสิว่าไม่ใช่ผม!!! ไม่ใช่บยอนแบคฮยอน!!! T___T
“ฮ่าๆ น่ารักว่ะ” ผมหันไปถอนหายใจแล้วกรอกตาใส่ดีโอที่หัวเราะเยาะผมตั้งแต่สามชาติที่แล้วจนตอนนี้มันยังไม่มีท่าว่าจะหยุด
“ถ้ามึงไม่หุบปากกูจะฟาดก้านคอมึงให้สลบจริงด้วย!”
“บยอนน้อยโหดเว้ย สภาพหน้ามึงไม่ให้โหดเลยอ่ะตอนนี้”
“แต่สภาพตีนกูพร้อมไปโปะอยู่ที่คอมึงจริงๆนะ”
“โอเค กูไม่ขำละ….แต่…อุ้บ…ฮ่าๆ”
“ไอ้เชี่ยเหลือก!!!”
“เสร็จแล้วใช่ไหม”
ในขณะที่ผมกำลังจะตรงเข้าไปขย้ำคอดีโอให้ตายคามือ ประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกพร้อมด้วยน้ำเสียงเย็นๆของใครบางคนที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี เอ่ยขัดจังหวะขึ้นมาจนทำให้ผมกับดีโอต้องชะงักและหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกัน
“หา เอ้อ….ค ครับ”ผมตอบรับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักพลางมองร่างสูงของ ‘ปาร์คชานยอล’ ที่ยืนค้ำประตูอยู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขาสวมเพียงเสื้อกราวน์สีขาว กางเกงขายาวและแว่นกรอบดำดูเหมือนหมอทั่วไป
แต่ไอ่เหี้ยยย ทำไมแม่งดูดีเกินลิมิตหมอคนอื่นวะ แง่งงงง
“หัวหน้าเรียกประชุมด่วน”
ผมพยักหน้ารับหงึกหงัก ชานยอลเห็นอย่างนั้นจึงเหลือบสายตาไปที่ดีโอที่ยืนอยู่ข้างๆผม
“คุณด้วยนะคยองซู”
“รับทราบครับ” หลังจากคำตอบรับของดีโอชานยอลก็ไม่ได้เสวนาอะไรกับเราต่อ ผมเบะปากใส่(ลับหลัง)ไปทีนึงอย่างหมั่นไส้ คนอะไรไม่มีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่นเอาซะเลย
“หล่อเนอะ” ดีโอพูดเพ้อๆก่อนจะทำตาลอยตามชานยอลไป
“หูกางขนาดนั้นอะนะหล่อ”
“หรือไม่จริง พี่เขาโคตรเท่ห์อ่ะ ขนาดกูเป็นผู้ชายยังปลื้มเขาเลย”
“อี๋” ผมทำสีหน้ารังเกียจใส่ความคิดของดีโออย่างสะดีดสะดิ้ง
“สักครั้ง”
“สักครั้งเหี้ยอะไรมึง” ผมหรี่ตามองมันที่ยังยืนเพ้อไม่เลิก
“อยากได้ ‘สักครั้ง’”
“ไอ้กามโด้พูดไรของมึงเนี่ย ไปๆ ไปประชุมได้แล้ว” ผมตีไหล่มันไปเพื่อเรียกสติ
“กูล้อเล่นหรอกน่า” มันลูบไหล่ตัวเองป้อยพลางเบะปากด้วยความเจ็บเพราะผมน่ะมือเบาซะที่ไหนล่ะ*ยักคิ้ว
“แต่พี่เขาน่ากินจริงนะมึง ไม่คิดงั้นเหรอ”
“ไม่โว้ยยยยยยยยยยยย!!!!”
//////////////////////////////
: ห้องประชุม :
ผมเดินเข้าไปในห้องประชุมพร้อมกับสายตาทุกคนที่มองมาอย่างบันเทิงกันซะเหลือเกิน ความมั่นใจในความหล่อที่เคยมีลดฮวบฮาบจนแทบติดลบเหมือนตลาดหุ้นไทย ผมพยายามเดินหลบหลังดีโอที่ดันเกิดมาเตี้ยซะเหลือเกิน
“เหี้ยแบคเดินดีๆ” ดีโอหันมากระซิบกระซาบผมที่ยังคงเดินเบียดมันไม่หยุดอย่างรำคาญ จนในที่สุดเราก็เดินไปถึงเก้าอี้ ผมรีบนั่งลงโดยหามุมที่อยู่ในจุดอับสายตาที่สุด และพยายามยกตุ๊กตาคุมะที่อุ้มมาบังหน้าเอาไว้ ในใจก็นึกโมโหว่าทำไมหัวหน้าไม่ประชุมเร็วกว่านี้ ทำไมต้องมาประชุมตอนที่ผมเปลี่ยนลุคจากชายหนุ่มผู้หล่อเหลามาเป็นคนบ้า และถ้าผมเดาไม่ผิดนี่มันคือการแกล้งของหัวหน้าอีกแน่ๆ
และแม้ว่าตอนนี้ผมจะนั่งในมุมอับสายตาแล้ว แต่ไม่วายทุกคนในห้องประชุมที่มีประมานห้าถึงหกคนก็ยังมองมาที่ผม
มองคนเดียวพอให้อภัยนะครับนี่มีสะกิดเพื่อนข้างๆให้มองมาด้วยนี่สิ=_=
แถมยังซุบซิบกันด้วยความขำ แต่อย่าเรียกว่าซุบซิบเลยครับเพราะผมได้ยินมันทุกคำพูดนั่นแหละ นี่ยังไม่รวมถึงอีกหลายคนที่ถึงต้องกับต้องแกล้งทำปากกาตกใต้โต๊ะเพื่อไปแอบขำผม
“ถ้ามึงเอามีดมาแทงกูตายๆไปซะตอนนี้กูจะไม่โกรธมึงเลย” ดีโอไม่ตอบแต่มันขำคิกคักแบบสะอกสะใจไปกับพวกคนอื่นในห้องด้วย แต่ไม่นานนักทุกคนก็กลับมาอยู่ในอาการสงบเมื่อหัวหน้าเดินเข้ามาในห้องประชุม
“สวัสดีครับทุกคน ” หัวหน้านั่งลงที่เก้าอี้ตรงหัวโต๊ะประจำตำแหน่งพลางเอ่ยทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ก่อนที่เราจะประชุมกันถึงภารกิจใหม่ ผมขอให้ทีมเรามาช่วยกันปรบมือต้อนรับสมาชิกใหม่ของทีม ซึ่งหลายคนอาจรู้จักกันดีอยู่แล้ว ‘คุณบยอนแบคฮยอนครับ’ ” หัวหน้าผายมือมาทางผมที่ยิ้มแหยๆอยู่ เสียงปรบมือในห้องประชุมทำให้ผมต้องยืนขึ้นตามมารยาทอย่างช่วยไม่ได้
คือเมื่อกี้ที่ผมพยายามอยู่ในจุดอับสายตานี่ไร้ความหมายชิบหาย T__T
หัวหน้าดูท่าทางจะมีความสุขเป็นพิเศษ แหงสิครับ คงวางแผนนี้มาเพื่อแกล้งผมโดยเฉพาะล่ะสิ
“ผมจะไม่อ้อมค้อมละนะครับ ผมได้รับภารกิจใหญ่มาโดยภารกิจนี้มีโค้ดลับคือ 614 และอย่างที่เราทราบกันมาคร่าวๆ คุณชานยอลจะเป็นเฮดของภารกิจ งานนี้ทุกคนจะได้รับบทบาทหน้าที่ที่ต่างกันออกไปซึ่งทุกคนก็คงทราบรายละเอียดในหน้าที่ของตัวเองกันแล้วกันแล้ว แต่ผมจะพูดคร่าวๆเพื่อให้เรามีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน”
“…..”
“ภารกิจนี้ทีมเราได้รับมอบหมายให้ไปสืบคดีการค้ายาเสพติดในโรงพยาบาลบ้า ซึ่งมีสายรายงานมาว่ามีคนลักลอบค้ายาแต่จับตัวคนทำไม่ได้ งานนี้พวกคุณเลยต้องไปแฝงตัวอยู่ในนั้นเพื่อสืบความผิดปกติ โดยคุณชานยอลจะรับบทเป็นหมอ คุณแบคฮยอนเป็นคนไข้ คุณคยองซูกับคุณจงแดจะรับบทเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล คุณดายอนเป็นพยาบาล คุณนานะเป็นแม่บ้าน และคุณจงฮยอนเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งผมได้จัดการทุกอย่างไว้ให้พวกคุณหมดแล้ว พวกคุณแค่ต้องสวมบทบาทให้แนบเนียนและทำการสืบข้อมูลมา”
“…”
“ผมอยากให้ทุกคนระวังตัวเพราะมีตำรวจที่ตามคดีนี้ถูกฆ่าไปแล้ว 2 นาย และคดีนี้ถือเป็นคดีใหญ่ที่สำคัญเพราะทางตำรวจรายงานมาว่าแก๊งนี้เป็นแก๊งยาเสพติดที่มีอิทธิพลอย่างมาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา หากเราจับกุมแก๊งนี้ได้เราจะสามารถสืบทอดไปยังแก๊งอื่นๆอีกได้ ยังไงผมขออวยพรให้พวกคุณโชคดีครับ” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมผมเหลือบตามองไปทางที่ชานยอลนั่งอยู่ก่อนจะพบว่าเขามองอยู่ก่อนแล้วสายตาคมกริบทำให้ผมสะดุ้งวาบก่อนจะยื่นมือคว้าเอกสารบนโต๊ะมาอ่านอย่างสะเปะสะปะ
หลังจากประชุมเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกันไป ในขณะที่ผมเองกำลังจะเดินขึ้นลิฟท์เพื่อไปขึ้นรถแล้วเดินทางไปยังโรงพยาบาล ชานยอลก็เดินเข้ามาหาผมและพูดอะไรบางอย่าง
“ตามมาผมมีเรื่องจะคุยด้วย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆที่แฝงไปด้วยคำสั่งทำให้ผมอดที่จะหมั่นไส้ในใจไม่ได้ ผมเองเอามือสอดเข้าไปในเสื้อแล้วชูนิ้วกลางให้เขา
“ทำอะไร?”
“ผม…คัน…คันพุงครับสงสัยยุงกัด” ผมตอบพลางฉีกยิ้มปลอมๆอย่างเสแสร้ง ชานยอลกรอกตาใส่อย่างรำคาญ ผมเดินตามหลังของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นโค้ชไปที่ลิฟท์และพอประตูลิฟท์ปิดลงเขาก็พ่นคำพูดรัวใส่ผมอย่างไม่ถามสักคำว่าสมองผมพอที่จะจุคำพูดของเขาหรือเปล่า
“อุปกรณ์ที่คุณจะใช้สื่อสารกับผมอยู่ในตัวตุ๊กตาคุมะนะ”
เขาพูดพลางพยักเพยิดมายังตุ๊กตาคุมะที่ผมอุ้มอยู่
“ครับ”
“ทางโรงพยาบาลนี้เขาเข้มงวดไม่ให้คนไข้พกอุปกรณ์ทุกชนิดติดตัว เพราะมันอาจกลายเป็นอันตรายต่อคนไข้ ทุกเย็นวันเสาร์คนไข้ทุกคนจะถูกตรวจโดยเครื่องสแกนโลหะซึ่งมันจะส่งสัญญาณแน่ถ้าเจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ผมคิดว่าตุ๊กตานี่อาจไม่มีใครทันสังเกต”
“…”
“คุณต้องแสดงเป็นคนบ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง” ชานยอลขยับกรอบแว่นนิดนึงแล้วพูดต่อราวกับคนท่องบท
“แต่จะมีห้องน้ำ ระเบียง ใต้บันได ห้องเก็บของเท่านั้นที่ไม่มีกล้องวงจร” ผมพยักหน้าหงึกหงักแสร้งเป็นว่าเข้าใจทั้งที่จริงยังแอบมึนงงอยู่เล็กน้อย เพราะผมไม่อยากให้เขาต้องมองผมด้วยสายตาเหยียดหยามว่าโง่
ในขณะที่ลิฟธ์กำลังเคลื่อนตัวลงไปยังชั้นล่างสุด ผมแอบเหลือบไปเห็นสายตาของร่างสูงที่มองมาที่ผมทะลุผ่านกรอบแว่น
“อยากจะขำก็ขำเถอะครับ ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
“ไม่ว่าแต่หน้าหงิกขนาดนั้นน่ะนะ หึ”
รู้ทันอีก หล่อแล้วยังเสือกเซ้นส์ดี -___-
ในขณะที่ผมก่นด่าโค้ชตัวสูงอยู่ในใจ จู่เขาก็เรียกชื่อผมขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“แบคฮยอน”
“ครับ?” ผมทำหน้าเหลอหลาตอบรับกลับไปด้วยความงุนงง
“ระวังตัวด้วยนะ”
ชานยอลแม่งทิ้งระเบิดปรมาณูไว้แค่นั้น พร้อมกับยิ้มที่มุมปากบางก่อนจะเดินนำลิ่วออกจากลิฟท์ไปโดยไม่หันกลับมามองผมที่อ้าปากค้างจนน้ำลายแทบยืด
เดี๋ยวนะ....ผมเหมือนได้ยินใครมาตีกลองแถวนี้ครับ....
ไม่นะ… ไม่ใช่เสียงหัวใจผม ม่ายยย…. T///////////T
ช่วงนี้ปิดเทอม ว่างมากกกกกกกกกกกกก เลยลองเอาฟิคที่เคยเขียนมาแก้ใหม่
ผิดพลาดประการใดเราขออภัยด้วยยย
เพราะเราก็เป็นแค่ชานแบคชิปเปอร์คนนึงที่อยากจะเขียนฟิค และเราก็ใช้เว็บเด็กดีไม่คอยเป็น 555555555555
ขอให้อ่านอย่างมีความสุขฮับ ._.
ความคิดเห็น