ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทวตำนานเทพเจ้ากรีก โรมันและอีทรัสกัน

    ลำดับตอนที่ #50 : เทพปกรณัมกรีกโรมัน&อีทรัสกันเทพโอลิมปัสชั้นรองเพอร์เซฟะนี100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.57K
      6
      4 พ.ย. 55

    เทพีเพอร์เซฟะนี

    เพอร์เซฟะนี (อังกฤษ: Persephone)เป็นธิดาของดิมีเทอร์เทวีแห่งธัญพืชและการเกษตรกับเทพซูส พระนางมีทั้งรูปโฉมที่สวยสะคราญและน้ำเสียงอันไพเราะที่สามารถปลุกชีวิตชีวาให้แก่ธรรมชาติ เหล่าสัตว์ป่ามักจะชอบเข้ามาคลอเคลียกับพระนาง ไม่ว่าเยื้องกรายไปทางไหน พืชพันธุ์ที่เคยเหี่ยวแห้งก็จะฟื้นกลับมาอุดมสมบูรณ์ เทพีดิมีเทอร์จึงรักพระธิดาองค์เดียวอย่างสุดสวาทขาดใจ

    ในยามเยาว์เพอร์เซฟะนีมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะประพฤติตนเป็นเทพพรหมจารย์เช่นเดียวกับ เฮสเทีย ผู้เป็นป้า และอธีนากับอาร์เทอมีสผู้เป็นพี่สาว แต่ความตั้งใจนี้สร้างความไม่พอใจให้แก่เทพีอโฟรไดต์ ผู้เป็นเทวีแห่งความรักเป็นอย่างมาก เพราะการมีเทพที่ประพฤติตนเป็นพรหมจารีย์มากถึง 3 องค์นั้นมากเกินพออยู่แล้วสำหรับนาง ประกอบกับในขณะนั้นเฮดีสเทพแห่งโลกใต้พิภพเองก็ไร้คู่ เนื่องจากไม่มีเทวีองค์ใดต้องการที่จะลงไปใช้ชีวิตอยู่ใต้พิภพที่มืดมิดและเงียบเหงา อะโฟรไดต์จึงส่งอีรอส หรือ คิวปิด ไปหาโอกาสทำให้เทพเฮดีสและเทวีเพอร์เซฟะนีหลงรักกันให้ได้

    จนกระทั่งวันหนึ่งเทพ เฮดีสแห่งยมโลกได้ขึ้นมายังพื้นโลก อีรอสจึงยิงลูกศรกามเทพปักอกเทพแห่งยมโลกอย่างจัง และคนแรกที่เทพเฮดีสได้พบก็คือ เทวีคนงาม เพอร์เซฟะนี นั่นเอง ทำให้เทพเฮดีสหลงรักเทพีผู้เป็นหลานสาวอย่างสุดหัวใจ ทันใดนั้นเองเทพเฮดีสก็ได้ตัดสินใจคว้าร่างเทพีเพอร์ซิโฟเน่ขึ้นมาบนรถม้า และตรงดิ่งลงไปยังใต้พิภพและแต่งตั้งนางให้เป็นราชินีแห่งโลกใต้พิภพ

    เทพีดิมีเทอร์เศร้าโศกเสียใจอย่างหนักที่ธิดาสุดที่รักหายตัวไปจนกระทั่งพืชผลเหี่ยวแห้งทั่วโลก ชาวมนุษย์เดือดร้อนอดตายเป็นจำนวนมาก เทพซูสจึงเรียกตัวพี่ชาย เทพเฮดีส ขึ้นมา เพื่อขอเทพีเพอร์เซฟะนีคืน แต่ทว่าในระหว่างที่อยู่ในยมโลก เทพีเพอร์เซฟะนีได้เสวยอาหารทิพย์เม็ดเล็กๆ หรือในบางตำนานว่าเมล็ดของผลทับทิมของยมโลกไป 3 เมล็ด ซึ่งผู้ใดได้รับประทานอาหารชนิดนี้ไปแล้วจะต้องผูกพันอยู่กับโลกใต้พิภพและจะจากไปไม่ได้ เทพซูสจึงทำข้อสัญญาตกลงกันว่า จะให้เทพีเพอร์เซฟะนีอยู่บนโลกตามใจชอบเป็นเวลา 9 เดือน จากนั้นก็ให้กลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ยมโลกเป็นเวลาอีก 3 เดือน ซึ่งในระหว่างที่ธิดาไม่อยู่ เทพีดิมีเทอร์ก็จะเศร้าโศก พืชผลก็จะปลูกไม่ขึ้น แห้งแล้ง แต่เมื่อองค์ธิดากลับมาสู่อ้อมอก พืชผลก็จะกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของฤดูกาลนั่นเอง

    เทพีเพอร์เซฟะนี ยังเป็นเทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิด้วย ในตำนานมักระบุว่าเพอร์เซฟะนีเป็นราชินีแห่งยมโลกผู้เย็นชาไม่ต่างจากพระสวามี มีเพียงคราวที่ออร์ฟิอุสเดินทางมายังยมโลกและเล่นดนตรีเล่าถึงความโศกเศร้าที่ต้องจากคนรักเท่านั้น ที่ทั้งนางและฮาเดสถึงกับกรรแสง และจริงๆแล้วนางยังหึงหวงเฮดีสอย่างมากทีเดียว โดยในตำนานนั้น เพอร์เซฟะนีได้สาปพรายน้ำมินเธซึ่งพยายามยั่วยวนเฮดีส ให้กลายเป็นต้นมินต์

    เทพีเพอร์เซฟะนีมีค่าเทียบเท่ากับเทพีพรอสเซอร์พิน่า(Proserpina) ในตำนานโรมันและเทพีเพอร์ซีพะเนีย(Phersipnai) ในตำนานอีทรัสกัน

    ……………………………………………………………..

    เทพีพรอสเซอร์พิน่า

    พรอสเซอร์พิน่า(Proserpina) เป็นเทพธิดาโรมันโบราณที่มีเรื่องราวเป็นพื้นฐานของตำนานของฤดูใบไม้ผลิ. เธอเป็นลูกสาวของเซเรสเทพธิดาของการเกษตรและพืช และจูปีเตอร์ซึ่งเป็นเทพเจ้าของท้องฟ้าและฟ้าร้อง ในเทวะตำนานกรีกคือ เพอร์เซฟะนี (Persephone)

     

    ข้อแตกต่างระหว่างเทพีพรอสเซอร์พิน่า กับ เทพีเพอร์เซฟะนี

    ชาวโรมันคิดว่า เทพีพรอสเซอร์พิน่า จะช่วยรักษาเมล็ดพันธุ์ของพวกเขาในช่วงฤดูหนาว แตกต่าจากชาวกรีกที่เชื่อว่าเทพีเพอร์เซฟะนี ที่เชื่อว่าพืชผลทางการเกษตรและต้นไม่ใบหญ้าจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกมีเทพีเพอร์เซฟะนี เสด็จกลับจากดินแดนยมโลก

    …………………………………………………………….. 

    เพอร์ซีพะเนีย

    เพอร์ซีพะเนีย(Phersipnai) ราชินีแห่งยมโลกและเทพธิดาแห่งฤดูการของชาวอีทรัสกัน ในวัฒนกรีกคือเทพีเพอร์เซฟะนี(Persephone) หรือที่โรมันเรียกว่า พรอสเซอร์พินา(Proserpina) ทีจริงแล้วชื่อเพอร์ซีพะเนียเป็นคำเรียกที่ยืมมาจากชื่อเทพีเพอร์เซฟะนี ในตำนานกรีก


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×