คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #111 : Lily Of The Valley : Part 39
...นี้ข้าอยู่ที่ไหนกันแล้วนี่นะ...ข้าตกจากม้าริกนาพร้อมกับเออาเรนดิลแล้วก็หลับไป...
ท่านหญิงขาวอาเรเดลได้รู้สึกว่านอนอยู่บนพิ้นหญ้าสีเขียวอ่อนแห่งหนึ่ง สายลมนั้นก็ได้พัดผ่านเรือนผมสีดำ
เป็นมันเงาของนางไป ดวงตาของอาเรเดลก็ได้เห็นเด็กผู้หญิงในชุดกระโปรงสีขาวลูกไม้แสนน่ารัก
วิ่งเล่นและหัวเราะเสียงใสอยู่ด้านหน้าของตนเอง...นั้นคือเมื่อตอนที่ข้ายังเป็นเด็กใช่ไหม ?...
“ อิริสเซจ๊ะ อิริสเซ มาหาพ่อมา ” พรายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดทูนิคสีน้ำเงินเข้มสลับริ้วสีทอง
เรือนผมสีดำขลับยาวสยาย ดวงหน้างามสง่าคมคาย กำลังฉายรอยยิ้มแสนสดใสให้กับบุตรสาว
“ อตาร์จ๋า หนูมาแล้ว ” พรายหนุ่มคนนั้นก็ยกร่างน้อยของนางและหมุนไปรอบๆ ให้นางหัวเราะอีกครั้ง
ริมฝีปากบางสวยและมีลักยิ้มสองข้างก็วางจูบหน้าผากน้อยของนาง “ พ่อรักลูกนะ อิริสเซคนงามของพ่อ”
“ หนูก็รักอตาร์มากกกกก หนูรักพ่อมากที่สุดในโลกเลยเพค่ะ ”
พออาเรเดลจะลุกขึ้น นางก็พบว่าภาพนั้นได้เปลี่ยนไป กลายเป็นภาพที่พรายหนุ่มร่างสูงได้ตี
เด็กผู้หญิงนางนั้นที่หลังตั้งสองสามที พร้อมกับนั้นก็มีสตรีผมสีน้ำตาลอีกนางหนึ่งกำลังกอด
เด็กหญิงผมสีทองสลับเงินสุกสว่างซึ่งร้องไห้สะอึกสะอื้น ดวงหน้าของนางก็มีรอยช้ำสีแดงเป็นจ้ำๆ
“ อตาร์ หนูไม่ยอม หนูไม่ยอมนะ หนูชนะอาร์ตานิส หนูชนะนาง ”
“ เด็กดื้อ เด็กไม่ดี ทำร้ายญาติผู้น้องตัวเอง พ่อบอกแล้วไง ว่าแพ้ชนะ มันเป็นธรรมดา เจ้าแพ้นางก็ต้องยอมรับซิ
เจ้าให้จะใครๆ ว่าพ่อสอนลูกสาวไม่ดีเหรองั้ย เจ้าเป็นผู้หญิงขึ้แพ้ชวนตี มันน่าอับอายรู้ไหม ? ”
สาวน้อยนางนั้นก็เงยหน้ามองผู้เป็นบิดาด้วยความโมโห ดวงตากลมโตที่เหมือนกับของบิดาแดงก่ำ
“ หนูไม่ยอม อิริสเซคนนี้จะเป็นผู้หญิงที่เก่งที่สุดในแดนวาลินอร์ หนูจะทำได้ทุกอย่างไม่ให้แพ้ใคร
หนูจะไม่แพ้ใครเด็ดขาด และหนูไม่แพ้ผู้ชายทุกคนโดยเฉพาะพี่ๆและญาติทุกคนด้วย ”
เจ้าชายพรายองค์นั้นก็เม้มริมฝีปากของตน “ ได้ เจ้าจะชนะพ่อได้ไหม อไนเร ไปเอาเชืือกมา ! ”
สตรีพรายนางนั้นก็พยายามร้องขอ “ ท่านพี่เพค่ะ ลูกเรายังเด็ก อย่าลงโทษนางขนาดนี้เลย ”
“ เจ้าเป็นแม่ที่ตามใจแต่ลูก จะเสียเด็กก็เพราะอย่างนี้ ไปนำเชือกมา ขอร้องเถอะ ! ”
แล้วเจ้าชายพรายก็ฉุดพระธิดาที่ดิ้นรนมาไว้ที่บันไดของวัง พร้อมกับนำเชือกมามัดไว้กับเสาบันไดไว้แน่น
“ อตาร์ ปล่อยหนูนะ อตาร์ ปล่อยซิ ! ”
เจ้าชายพรายก็กล่าวย้ำ “ อยากดื้อกับพ่อก็ต้องเจอแบบนี้ รู้ไหม สมเด็จย่าอินดิสไม่ชอบเด็กผู้หญิงนิสัยเสีย ”
“ ย่าท่านรักแต่อาร์ตานิส มีอะไรก็เข้าข้างแต่นาง ที่หนูล่ะ ไม่มีใครเข้าข้างหนูบ้างเลย ”
ทันใดนั้นเองพรายหนุ่มน้อยทัวร์กอนซึ่งหอบหนังสือมาก็รีบวิ่งมาหาผู้เป็นน้องสาว
และคุกเข่าอ้อนวอน “ อตาร์ครับ ขอร้อง อย่าลงโทษนางขนาดนี้ ได้โปรด ”
“ พ่อตัดสินใจแล้ว พ่อต้องลงโทษนาง อยู่ที่นี้ไปเลยสามวันสามคืน เจ้าก็ดูแลนางแทนพ่อเถอะ”
แล้วเขาก็เดินออกจากตรงนั้นไป ผู้เป็นมารดาก็ได้นิ่งเงียบ และอุ้มหนูน้อยอาร์ตานิสตามเสด็จผู้เป็นสามี
ทัวร์กอนก็แตะไหล่บางของน้องสาว“ อิริสเซ เจ้าต้องอยู่ให้ได้นะ พี่จะอ่านหนังสือให้เจ้าฟังเป็นเพื่อนงั้ย ”
“ อตาร์ใจร้าย เสด็จพ่อโนโลฟินเวใจร้ายที่สุด ฮือๆๆๆ ”
อาเรเดลก็เม้มริมฝีปากของนางแล้วก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ภาพที่เห็นได้ปรากฎว่า
เด็กน้อยคนนั้นก็ได้รับปลดเชือกที่มัดนางออกจากบิดาขณะที่ตัวเองหลับอยู่ และเขาก็อุ้มนางไว้แนบอกแกร่ง
ดวงตาสีเทาอมครามเจิดจรัสคู่นั้นก็มีน้ำตาไหลออกมา “ อิริสเซจ๋า พ่อขอโทษนะ พ่อเสียใจที่ทำร้ายเจ้า..”
….เสด็จพ่อ...อตาร์...โนโลฟินเว ฟิงโกลฟิน...ของข้า....ทำไมท่านถึงไม่เคยบอกข้าว่าท่านทำแบบนี้?...
ภาพนั้นก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง...
นางในวัยแรกสาวกำลังขี่ม้าล่าสัตว์อยู่กับเจ้าชายพรายคนหนึ่ง เขามีเรือนผมสีทอง แววตาสีเทาแสนมุ่งมั่น
“ อิริสเซ ทำไมเจ้าถึงชอบมาทำแบบนี้กับพี่อยู่เรื่อย มันไม่ใช่งานของสตรีนะ ” เขาถามขึ้น
นางก็ตอบพร้อมถึงบังเหียนม้าไว้ “ ข้าชอบ พี่เทลโค ข้าจะเก่งกาจกว่าผู้หญิงทุกคนเลยล่ะ ”
พรายหนุ่มผมทองคนนั้นก็จับมือนางไว้ “ ลงจากม้าและไปเดินเล่นกันดีกว่า ”
แล้วพรายหนุ่มในชุดสีเขียวทะมัดทะแมงและพรายสาวในชุดกระโปรงขาวก็ได้มาจับมือกัน
ภายใต้ทิวไม้อันงดงาม และส่องสว่างด้วยแสงสีทองแห่งจากต้นพฤกษาเลาเรลิน
“ อิริสเซ ถ้าเจ้าอยากเก่งจริงๆ ก็มากับพี่เทลโคคนนี้บ่อยๆ ก็ได้นะ ”
นางก็ยิ้มแสนหวานให้เขา“ ดีจัง ข้าจะมาให้บ่อยๆ เลย เพราะข้าชอบพี่จริงๆ นะขอบอก ”
“ ให้มันจริงเถอะนะ ” แล้วมือแกร่งคู่นั้นก็มาประคองไหล่บาง พร้อมกับจูบที่หน้าผากเบาๆ
นางรู้สึกเขินอาย แต่ว่ามือบางก็โอบคอเรียวของเทลโคไว้ด้วย
“ พี่จูบแค่นี้เองเหรอจ๊ะ มันทำให้ข้าเฉยๆ จังเลย ”
“ ถ้างั้น..” พรายหนุ่มก็เชยคางของนางเบาๆ ก่อนที่จะกระซิบว่า “ขอ...เอ่อ... จูบตรงนี้ได้ไหม ? ”
แล้วริมฝีปากบางสีแดงของอิริสเซก็ถูกกทาบด้วยริมฝีปากงามแห่งโอรสที่สามของเจ้าฟ้าชายเฟอานอร์
….จูบแรกของนาง ได้จากญาติผู้พี่คนสนิทของนาง...ความประทับใจแรกที่ไม่อาจลืม
อาเรเดลก็เห็นว่านางหัวเราะและยังคงวิ่งหนีให้พี่เทลโควิ่งไล่จับนางไปอีกนาน
ถ้าทูลหม่อมลุงและพ่อของข้าไม่มีปัญหาต่อกัน..เราสองคนอาจจะ...อาจจะ...ได้แต่งงานกันก็เป็นได้...
ภาพนี้ก็หายไป และแสงสว่างก็ดับลง จนท้องฟ้านั้นกลายเป็นสีดำสนิท
เมื่อนั้น นางก็รู้สึกว่าได้เห็นตัวเองได้ขี่ม้าอยู่ในป่านันเอลม็อธ ป่ามืดแสนลึกลับที่สุดในแผ่นดินมิดเดิ้ลเอิร์ธ
จนถึงคฤหาสน์สีดำหลังใหญ่ กลางป่าลึกแห่งนั้น “ คงเป็นบ้านของใครสักคน ? ”
และมีฝีเท้าหนักคู่หนึ่งตามหลังมา แต่แล้วนางก็หันหาเจ้าของต้นเสียง...ดาร์กเอลฟ์ในชุดเกราะสีดำ..
เขานั้นมอบรอยยิ้มแสนประหลาดให้นางและคำนับลง “ ขอต้อนรับสู่บ้านข้า แม่หญิงผู้หลงทาง ”
นางก็คำนับตอบ “ ท่านเป็นใครกัน เจ้าของป่านี้เหรอค่ะ ? ”
“ ถูกต้องแล้ว ข้ามีนามว่าเอโอล เป็นญาติของราชาธิงโกลแห่งแดนโดริอัธ”
อาเรเดลก็รู้สึกว่าดวงตาของเขากำลังจ้องมองเรือนร่างของนางอยู่ นางจึงรีบใช้ผ้าคลุมสีเงินปิดไว้
“ ข้าคือ อาเรเดล อิริสเซ ท่านหญิงขาวแห่งชาวโนลดอร์ ข้าเดินทางออกมาจากเมืองกอนโดลิน
เพื่อมาหาลอร์ดเคเลกอร์มหรือพี่ชายเทลโค และลอร์ดคูรูฟินผู้เป็นน้องชายที่เข้าตั้งเมืองอยู่ใกล้ๆ นี้
ถ้าท่านเมตตาข้า ได้โปรดให้ที่พักสักระยะหนึ่งและบอกทางให้ได้ไหม ? ”
“ แล้วข้าจะได้อะไรตอบแทนล่ะ ? ” เขาถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้
นางจึงก้มหน้าลงกับพิ้นดิน “ ข้าเป็นถึงเจ้าหญิงพราย ข้าก็ต้องมีของตอบแทนให้ท่านมากอยู่แล้วค่ะ ”
แต่นางก็รู้สึกว่านางเริ่มควบคุมร่างกายไม่ได้และเคลิ้มหลับในอ้อมกอดของดาร์กเอลฟ์คนนั้น
นิ้วแกร่งคล้ำของเขาก็ลูบใบหน้าของนางกระซิบว่า “ งามแท้ งามจริงๆ ดูน่าปรารถนากว่าเจ้าหญิงลูธิเอน
ขององค์ธิงโกลที่เอาแต่เต้นรำและร้องเพลงด้วยซ้ำไป แม้จะเป็นชาวโนลดอร์ก็ช่างมันปะไร
ข้าจะทำให้นางรักข้าให้ได้ และนางจะไม่มีวันจากข้าไปที่ใดๆ อีก ฮ่าๆ ”
แล้วลอร์ดเอโอลก็ได้โอบอุ้มนางเข้าบ้านของตนไปจากที่ตรงนั้น
โอ้..ไม่นะ...แล้วมันก็ได้ข้าเป็นภรรยาแล้ว...จากนั้นข้าก็ต้องอยู่กับเขา...และลูกโลมีออนก็เกิดมา
จากนั้น...มันก็ตามข้าและลูกกลับมายังเมือง...มันนำพิษร้ายใส่ข้าและลูก..จนต้องเป็นแบบนี้...
ไม่เอา..ความทรงจำบ้าๆ แบบนี้...ไม่นะ เทพวาลาร์ ไม่นะ....
ภาพนั้นหายไปหมด บรรยากาศรอบตัวกลายเป็นสีเทา ทันใดนั้น นางก็ได้ยินเสียงอันไพเราะมาจากด้านหลัง
“ เจ้ายังนึกถึงแต่อดีตมากเกินไปต่างหากเล่า ราชธิดาแห่งกษัตริย์พรายโนลดอร์ ”
อาเรเดลจึงกล่าวว่า “ ท่านเป็นใครกัน ? ”
เสียงนั้นตอบ “ ก็หันมาได้แล้ว จิตสำนึกแห่งอาเรเดล อาร์เฟย์นีเอลเอ๋ย ”
เมื่อนางหันหลังไป เจ้าของสุรเสียงกังวานนั้นก็ต้องทำให้นางคุกเข่าลงทันที “ พระองค์คือ...”
~!~!~!~!~!~!~!~!~
น่าสงสารท่านแม่อาเรเดลจริงๆ เลยนะครับ T^T
ความคิดเห็น