เวทเสน่หา - นิยาย เวทเสน่หา : Dek-D.com - Writer
×

    เวทเสน่หา

    ผู้เข้าชมรวม

    1,543

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    1.54K

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    5
    จำนวนตอน :  9 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  31 ม.ค. 59 / 14:26 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                    ค่ำคืนที่มืดสนิท ในเมืองอโยธยา มีเพียงดวงจันทร์ส่องประกายจนเหล่าดวงดาวถูกบดบัง คืนนี้เป็นคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง ชาวบ้านกำลังลอยกระทงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทุกคนมีความสุขกับการขอขมาพระแม่คงคาที่พวกเขาเคยล่วงเกินมามาก และต้องขอขมาทุกปี

                    สาวน้อยวัยสิบห้า ใบหน้าจิ้มลิ้มในชุดโจงกระเบนกับเสื้อคอกระเช้า กำลังมีความสุขกับการลอยกระทงสีเขียวที่มีดอกไม้สีชมพูอ่อนโปรยปรายอยู่ข้างบน เธออธิษฐานให้เธอได้พบกับ เขา อีกครั้ง และพบทุกชาติไป เธอยอมทำทุกอย่างเพราะเธอรักเขามาก แต่หารู้ไม่...ความรักอันบริสุทธิ์ของสาวน้อยอาจหยุดเพียงเท่านี้...

                    “ข้ามิได้เมา...” เสียงชายผู้หนึ่งดังขึ้น ทำให้สาวน้อยต้องหันไปดู ก็พบว่าพี่ชายของตนที่นั่งอยู่ที่ใต้ถุนเรือนได้เมาเหล้าเสียแล้ว

                    “เอ็งกลับเรือนไปเถิด จงเชื่อข้าเถิด” เพื่อนของชายผู้เมาเหล้าบอกด้วยความเป็นห่วง โดยในมือมีไหเหล้าที่แย่งมาจากชายขี้เมา

                    “ข้ามิได้เมา!!!” น้ำเสียงโมโหดังขึ้นกว่าเดิม จนสาวน้อยต้องลุกจากท่าน้ำขึ้นไปห้ามปรามพี่ชาย

                    “พี่จ๋า พี่เมาแล้ว พี่จงขึ้นไปยังเรือนของเราเสียเถิด...ข้าขอร้อง ถ้าพี่เมาตกคลองไป ข้าจะมิลงไปช่วยพี่”สาวน้อยเดินไปหาพี่ชาย แต่พี่ชายของสาวน้อยกลับไม่ฟัง ดึงไหใบนั้นออกจากตัวเพื่อนและฟาดลงบนหัวน้องสาวตนเองเข้าอย่างจังหลายครั้ง ก่อนจะฟาดลงบนหัวเพื่อนชายเข้าอีกคน

    จนทั้งสองหัวแตกและล้มลง ชายผู้เป็นเพื่อนของชายขี้เมาแน่นิ่งไปแล้ว ทว่าสาวน้อยกลับไม่ เธอยังคงรอคอยเขาผู้นั้นมาช่วยเธอ แม้ว่าลมหายใจของเธอจะเหลือน้อยเต็มที แต่เธอก็จะพยายามรอ...เพราะเขาสัญญาว่าวันนี้เขาจะมา

    ...ท่านพิรุณ...สาวน้อยนึกชื่อชายผู้เป็นที่รัก

    “จำไว้ พวกเอ็งอย่ามาสั่งข้า”

    ชายผู้เมาเหล้ากำลังจะไปหยิบเหล้ามาดื่มต่อโดยไม่สนใจสองบุคคลที่ตนได้ทำร้ายลงไป ทว่า...มีเด็กหนุ่มขึ้นมาจากท่าน้ำ มีเครื่องแต่งกายด้วยสีเขียวแปลกตา มีสร้อยคอทำจากมรกต ผิวกายสีขาว ริมฝีปากสีแดง ใบหน้าเรียบเฉย แต่ก็เผยถึงความตกใจในเวลาต่อมาเมื่อเห็นสาวน้อยนอนแน่หายใจรวยรินอยู่ที่พื้น โดยที่พี่ชายของเธอไม่ได้มาสนใจใยดีเลย

    “ตาล!!!” เด็กหนุ่มร้องออกมาด้วยความตกใจสุดขีด

    “ท่านพิรุณ...” เสียงแหบพร่าของสาวน้อยดังขึ้น ในขณะที่เด็กหนุ่มพยายามประคองร่างสาวน้อย “เหตุใดท่านจึงมาช้าเหลือเกิน...ร่างกายข้าทนพิษบาดแผลนี้มิได้แล้ว”

    “ข้าขอโทษ เจ้าอย่าเพิ่งสิ้นใจไป” เขาอุ้มร่างเธอด้วยใจอาวรณ์

    “ข้าก็ต้องขอโทษ ที่ทำตามดังที่ท่านขอ...มิได้...” สาวน้อยกล่าว ก่อนจะแน่นิ่งและสิ้นลมหายใจในที่สุด...

    ความโกรธในใจเด็กหนุ่มพุ่งขึ้นสูงปรี๊ดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน วางร่างสาวน้อยไปหาชายผู้เมาเหล้าด้วยแววตาเกรี้ยวกราด เขาพอจะเดาเหตุการณ์ออกว่าเกิดอะไรขึ้น สาวน้อยนามว่าตาลตายเพราะอะไร...

    “ไอ้เต่า...” เสียงเด็กหนุ่มตะคอกเรียกชื่อฆาตกร

    “ว้อย...ใครเรียกข้าอีกวะ” ไอ้เต่าที่ว่าบ่นพลางหันไปทางต้นเสียง ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าใครมา ทำให้ความเมาหายเป็นปลิดทิ้ง “ท่านพิรุณ!!!

    “ใช่ ข้าเอง” พิรุณพูดอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะด่าว่าต่อ “ทำไมเจ้าต้องฆ่าตาล ตาลทำผิดอันใด หรือเพียงเพราะนางห้ามเจ้าดื่มเหล้า แลชายผู้นี้ก็เหมือนกันใช่หรือไม่ จิตใจเจ้าช่างเลวทรามเหลือเกิน”

    “ข้า...ข้ามิได้ตั้งใจ...” เต่ารีบวิ่งเข้าไปกราบเด็กหนุ่มเพราะรู้ว่าตนเองจะโดนอะไร

    “เอาเถิด ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า” พิรุณพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่เกรี้ยวกราดมากกว่าเดิม “แต่ฆาตกรอย่างเจ้าหรือ ข้าจะปล่อยไป เจ้าต้องรับใช้ข้า...เจ้าต้องอยู่ตามหาตาลในชาติต่อไปร่วมกับข้า”

    พูดจบ พิรุณยกมือซ้ายขึ้น ก่อนจบทำปากขมุบขมิบเหมือนร่ายมนตร์ กลุ่มพลังสีขาวรวมตัวกันที่มือข้างนั้น และฟาดลงที่ตัวของเต่าอย่างรวดเร็ว

    “อ๊าก!!!” เต่าหงายลงไป ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ผิวกายซีดลงจนเป็นสีขาวราวหิมะ เขี้ยวยาวดั่งเสือโคร่ง นัยน์ตาเป็นสีแดงฉานดั่งโลหิต

    “ต่อไป เจ้าจะกินอะไรไม่ได้ ต้องดื่มเลือดเท่านั้น แลต้องแสงแดดมิได้ นี่คือผลกรรมของเจ้า” พิรุณกล่าวอย่างเย็นชา “แลเจ้าจะเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย จนกว่าข้าจะถอนคำสาป”

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น