คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER :: XXXXX
CHAPTER :: XXXXX
การนอนหันหลังให้กันในตลอดเวลาสองสามวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันครั้งนั้นถือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แบคฮยอนไม่ได้ใส่ใจที่จะถามคยองซูว่าเป็นอะไรเพราะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าตัวคงไม่ตอบ เขาก็เลยไม่คิดที่จะหาเรื่องมาให้ตัวเองต้องร้อนรน ก็น่าแปลกดีที่ในห้องแคบๆนี้มีคนอยู่ถึงสองคนแต่กลับรู้เหมือนว่ากำลังอยู่เพียงแค่คนเดียว คยองซูไม่พูดกับแบคฮยอน แบคฮยอนก็เลยไม่ปริปากถามหรือพูดคุยอะไรกับคยองซูเช่นเดียวกัน
“ เชี่ยแบคมึงดูซึมๆนะ เมียไม่รักหรอ ? “
“ กูไม่มีเมียครับไอสัด “
“ แล้วมึงเป็นอะไร “ แบคฮยอนขมวดคิ้วแน่นเขากระแทกช้อนในมือลงกับจาน เขาพยายามไม่ถามคยองซูว่าเป็นอะไร แต่แล้วเขากลับถูกลู่หานถามเขาซะเอง
“ ทะเลาะกับคยองซู “ แตกต่างกันตรงที่เขาเลือกที่จะตอบไปตามความจริงแต่คยองซูไม่
“ นั่นไงตีกันกับเมียจริงๆด้วย “ ถ้าเป็นเมียป่านนี้เขาบอกเลิกไปนานแล้วละ แต่คยองซูคือเพื่อนยังไงก็บอกเลิกไม่ได้ ยังต้องอยู่ท่ามกลางความอึดอัดกันต่อไปจนกว่าจะมีใครสักคนทนไม่ไหว
“ คยองซูมันเป็นเชี่ยอะไรก็ไม่ยอมบอกกูสักอย่าง ไปไหนก็ไม่เคยบอกกู“
“ เป็นห่วงมันอะดิ “
“ ก็เออสิวะ มึงก็พูดจาควายๆ “
“ กูว่าถ้าถามแล้วมันไม่ตอบมึงก็ต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง “ ลู่หานพูดเหมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจับผิด
“ แล้วมึงจะให้กูทำยังไงตามไปดูงั้นหรอ ? “
“ ใช่มึงต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าคยองซูมันไปทำอะไรที่ไหนกับใคร “
“ ทำตัวยังกับตามจับผิดผัวมีเมียน้อย “ แบคฮยอนถอนหายใจกับความคิดที่ลู่หานเสนอมาให้ เขาจะไปรู้ได้ยังว่าคยองซูไปไหนเวลาไหนบ้างตัวไม่ได้ติดกันตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อนนิ
“ ทฤษฎีเดียวกันนั่นแหละ ตามไปแม่งเลยจะได้รู้ความจริง “
“ ไม่อะ มันจะทำไรก็เรื่องของมันกูไม่สนละ “
“ มึงไม่รักคยองซูแล้วหรอวะ “
“ กูไม่เคยคิดกับมันเกินคำว่าเพื่อน กรุณาใช้คำว่ารักให้เหมาะสมด้วยครับไอสัด “
“ กูว่าสายเกินไปแล้วละแบคฮยอน มึงแม่งถอนตัวไม่ขึ้นแล้วไอ้โง่ ควายยย!! “ แบคฮยอนรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของลู่หาน ผีเจาะปากมาพูดหรือไง
“ มึงจะรู้ดีกว่ากูได้ไงครับไอลู่ “
“ แล้วมึงละ มึงจะรู้ดีกว่าคนอื่นได้ยังไงวะ “ ก็จริงอย่างที่ลู่หานบอกเวลาเรามองตัวเองกับเวลาที่คนอื่นมองเรามันไม่เหมือนกัน มีคนเคยบอกไว้ว่าถ้าอยากรู้ว่าตัวเองเป็นคนนิสัยอย่างไรให้ถามคนรอบข้างดู เพราะถ้าถามตัวเองคำตอบมันก็ต้องเข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว
“ เออ กูจะลองดูก็ได้ “
พอจบสไลด์สุดท้ายแบคฮยอนก็รีบปรี่ออกจากห้องทันที เขาตรงไปที่คณะของคยองซูยังไงซะวันนี้ก็จะต้องไปดักรอแล้วสะกดรอยตามไปให้ได้ ถึงจะพยายามทำตัวไม่สนใจคยองซูแล้วแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง บางทีถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปนานๆความกดดันอาจจะผลักให้คยองซูถอยห่างจากเขามากขึ้นกว่าเดิม
เป้าหมายเดินลงมาจากตึกของคณะด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง คยองซูเดินลงมากับกลุ่มเพื่อนร่วมคลาสแล้วยิ้มเหมือนคนขาดสารอาหาร แบคฮยอนจับตามองคยองซูจากทางด้านหลังต้นไม้ คยองซูเดินมานั่งที่ม้าหินอ่อนสักพักก็มีผู้ชายตัวสูงเดินเข้ามาหา มือใหญ่ยื่นเข้ามาให้คยองซูจับเอาไว้แล้วก็จูงมือคยองซูให้เดินตามเข้าไปในรถที่เขาแสนจะคุ้นตา คุ้นๆว่ามันเหมือนรถของจงอิน รถคันนั้นเคลื่อนตัวออกไปแล้ว ทำยังไงดีละเขาก็ไม่มีรถที่จะขับตามซะด้วย
“ เห้ย เชี่ยเตี้ย ทางนี้เว้ย “ เสียงคริสกับลู่หานตะโกนดังมาจากริมฝั่งถนนสองคนนั้นกวักมือเรียกให้แบคฮยอนขึ้นมา เขาเลยไม่รอช้าที่จะวิ่งเข้าไปหาแล้วเปิดเข้าไปนั่งข้างคนขับ
“ พวกมึงมาได้ยังไงวะ ? “
“ ไอ้ลู่เล่าให้กูฟังแล้ว เดี๋ยวกูจะขับรถตามให้มึงเอง “ พูดจบคริสก็ขับรถตามรถของจงอินไป จากนั้นแบคฮยอนก็หันไปหาลู่หานที่นั่งเป็นพระเอกอยู่ที่เบาะหลัง
“ ขอบใจมึงนะไอ้ลู่ “
“ นี่มันแผนกู กูก็ต้องช่วยดำเนินการสิวะ “
“ แหม ไอ้ห่าแล้วทำไมมึงไม่เอารถมึงละครับ เอารถกูทำเหี้ยอะไร “ คริสแอบแขวะลู่หานที่เป็นตัวตั้งตัวตี แบคฮยอนละสายตาจากลู่หานแล้วไปจับตาดูรถคันสีดำของจงอินแทน
“ รถกูไม่มีน้ำมันเว่ย “
“ ตอแหลไอสัด เมื่อวานกูยังเห็นมึงขับไปเติมอยู่เลย “ คริสเบะปาก
“ กูขับไปเติมมาห้าสิบบาท “
“ ไอ้เหี้ยรถบีเอ็มพ่อมึงหรอเติมน้ำมันห้าสิบบาท “
“ เออ! รถพ่อกูนี่แหละ “
เสียงทุกอย่างเงียบลงไปหลังจากแบคฮยอนถอนหายใจเสียงดัง คริสยังขับตามรถของจงอินอยู่รักษาระยะห่างแบบมืออาชีพ รถของจงอินเลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านทาวน์เฮ้าของพวกคนมีเงิน
“ ชิบหายละไอสัด ยามไม่ให้เข้า “ คริสสบถ แบคฮยอนได้ยินแบบนั้นก็ร้อนรน ตามมาจนถึงนี่แล้วถ้าไม่ได้เข้าไปถึงข้างในก็คาใจหนักกว่าเดิมสิ
“ พี่ยามคะ ผมเอ้ย หนูเป็นเพื่อนของรถคันนั้นนะให้ผมเข้าไปเถอะนะ “ ลู่หานพูดออดอ้อน เขากำลังพยายามใช้หน้าของตัวเองให้เป็นประโยชน์
“ แต่คุณชานยอลเขาไม่เห็นได้บอกอะไรไว้เลยนะครับ “
“ นี่พี่คะ งั้นดูนี่นะ “ ลู่หานหยิบเงินแบงค์พันนับสิบใบขึ้นมาสะบัดเล่นเพื่ออวดว่าตัวเองก็รวยพอที่จะมีเพื่อนอาศัยในหมู่บ้านนี้ได้
“ เปิดให้ผมนะคะ “ เจ้าของใบหน้าหวานยิ้มแล้วยื่นเงินให้ยามสามพันบาท ชายชุดสีฟ้ายิ้มแก้มแตกแล้วรับเงินไว้ก่อนจะรีบวิ่งไปเอาที่กั้นออกให้ คริสเลยรีบขับเข้าไปตามที่แบคฮยอนบอก เมื่อเห็นว่ารถของจงอินเลี้ยวเข้าไปในเพจแล้วคริสเลยแอบจอดรถไว้ข้างกำแพงบ้านหลังหนึ่ง แบคฮยอนรีบเปิดประตูรถออกมาแล้วชะโงกดูว่ารถของจงอินขับเข้าไปจอดที่บ้านหลังไหน
“ ลู่หานมึงไปเอาเงินมาจากไหนว่าเป็นหมื่น “
“ เงินมึงนั่นแหละ กูเห็นเหน็บไว้ที่เบาะรถ “
“ อ้าวไอสัดลู่ มึงขโมยเงินกูหรอ “
“ กูแค่ยืมเว่ย สามพันถือว่าให้พี่ยามแกเอาไปซื้อหมากมาเคี้ยวเล่นก็แล้วกัน “
“ เออไอ้หอก มึงก็พูดได้สิไม่ใช่เงินมึงนี่ “
“ เพื่อเพื่อนแค่สามพันเดี๋ยวกูคืนให้กูได้ “ พอหันกลับไปอีกทีแบคฮยอนก็หายตัวไปจากมุมกำแพงแล้ว ลู่หานกับคริสตัดสินใจที่จะไม่ตามลงไปแล้วนั่งรอให้แบคฮยอนกลับมา
“ ยามบอกว่าไอคนขับชื่อชานยอลวะไอ้คริส “
“ เออนั่นสิ ไหนไอ้เชี่ยเตี้ยมันบอกว่ารถของจงอิน “
“ กูว่ามันต้องมีปมอีกหลายอย่างที่รอให้เราเข้าไปแก้ไข “ คริสพูดเหมือนตัวเองเป็นโคนัน ลู่หานได้ยินแบบนั้นก็แล่บลิ้นใส่ด้วยความหมั่นไส้
“ เข้าไปแก้ไขหรือเข้าไปเสือกครับไอ้ห่าคุณคริส ”
“ กูจะจำที่มึงพูดคะขาไปจนวันตายเลยไอ้เชี่ยลู่ “ (-_-)
แบคฮยอนแอบปีนเข้ามาภายในรั้วบ้านที่ไม่สูงมากแล้วเดินวนๆหาหน้าต่าง มันต้องมีสักบานสิที่ทำให้เขาได้เห็นว่าคนข้างในกำลังทำอะไรกันอยู่ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพยายามทำตัวเหมือนเป็นขโมยแบบนี้ด้วย แบคฮยอนเดินหลบไปเรื่อยๆก็เจอกับหน้าต่างที่ผ้าม่านถูกเปิดออกเพียงเล็กน้อยแต่มันก็ทำให้เขาพอจะเห็นว่าข้างในเป็นอย่างไร มีโซฟาแล้วก็ทีวี ส่วนคนที่นั่งหันหลังอยู่ที่โซฟาคงจะเป็นคยองซู แบคฮยอนใจเต้นอย่างหนักเพราะเขาเองก็ไม่เคยต้องมาแอบดูอะไรแบบนี้
ผู้ชายที่ขับรถมาไม่ใช่จงอินแต่เป็นใครก็ไม่รู้ที่เขาไม่คุ้นหน้า ร่างสูงนั่งลงข้างๆคยองซูแล้วพูดคุยอะไรกันบางอย่าง คยองซูดูจะไม่ค่อยอยากโดนมือใหญ่นั่นจับตามตัวสักเท่าไร และแล้วถูกบีบปากเพราะเหมือนจะไปพูดอะไรที่ไม่เข้าหู
แบคฮยอนกำหมัดแน่นเมื่อคยองซูเริ่มถูกลวนลามสารพัดแต่เจ้าตัวเองก็ดูเหมือนจะเต็มใจอยู่ไม่น้อย จนเสื้อนักศึกษาของคยองซูถูกโยนออกมาแบคฮยอนถึงได้ละสายตาออกจากหน้าต่าง ที่แท้คยองซูก็มาหาความสุขอยู่นี่เอง แบคฮยอนตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปทำร้ายคนข้างใน เขาปีนรั้วกลับออกมาตามเดิม วินาทีที่เห็นสองคนกำลังแลกจูบกันอยู่เหมือนหัวใจรู้สึกเจ็บหนึบขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือว่าเพราะอะไร แต่เขาคงไม่สามารถทนดูต่อไปได้
“ เป็นไงบ้างวะแบคฮยอน “
“ ไม่มีเห็นมีอะไร พากูไปส่งหอหน่อยสิ “ ลู่หานกับคริสมองหน้ากันเลิ่กลัก แบคฮยอนเดินทำหน้าเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองเป็นโรคร้ายยังไงยังงั้น สองเพื่อนไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะคิดว่าแบคฮยอนคงจะไม่ยอมปริปากอะไรแน่ๆ ขับมาสักพักในที่สุดรถคันสวยก็จอดสนิทที่หน้าหอของแบคฮยอน
“ ขอบใจพวกมึงมาก กูไปละ “ แบคฮยอนเดินหายเข้าไปในตึกแล้วแต่คริสก็ยังไม่ได้ขับรถกลับออกไป
“ กูเป็นห่วงไอ้เชี่ยเตี้ยวะ “
“ ทำไงได้ละ มันคงไปเจอของดีมาแน่ๆถึงได้หูตกขนาดนั้น “
“ มันไม่ใช่หมาครับไอ้สัดลู่ “
“ กูก็ไม่ใช่สัตว์เหมือนกัน ไอ้เหี้ย “
“ กูก็ไม่ใช่เหี้ยครับ “
หนึ่งทุ่มตรงเสียงประตูห้องก็เปิดออกคยองซูคงจะกลับเข้ามาแล้ว แบคฮยอนไม่ได้พูดอะไรนอกจากนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ ถึงคยองซูกลับมาเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะเกิดการพูดคุยดังขึ้นในห้องหรอกกลับกลายเป็นว่าห้องยิ่งตกอยู่ในสภาพที่อึดอัดมากกว่าเดิม
คยองซูอาบน้ำแล้วก็มานอนทันที จากนั้นพักเดียวแบคฮยอนก็ลุกขึ้นจากโต๊ะหนังสือแล้วมานอน คยองซูเป็นฝ่ายพลิกตัวตัวหันหนีไปอีกข้างยิ่งเห็นว่าคยองซูเป็นฝ่ายแสดงท่าทีห่างเหินออกมาก่อนแบคฮยอนก็เริ่มเคืองขึ้นมาเล็กๆ จะไปไหนมาไหนกับใครก็ไม่บอกเขาสักคำ แถมไปแอบมีแฟนตั้งแต่เมื่อไรเขาก็ไม่เคยรู้นี่คยองซูคิดจะปิดบังอะไรเขานักหนา
เวลาเกือบจะห้าทุ่มแล้ว สักพักคยองซูจะต้องลุกไปเข้าห้องน้ำอีกแน่ๆ แบคฮยอนไม่ได้หลับเขาแค่นอนรอให้ถึงเวลาที่คยองซูจะเดินไปเข้าห้องน้ำ อย่างที่คาดเอาไว้เสียงขลุกขลักจากคนฝั่งข้างๆที่เริ่มขยับตัวเหมือนจะรื้อหาอะไรสักอย่าง เสียงนั้นเงียบไปสักพักแล้วก็ตามมาด้วยเสียงของประตูห้องน้ำที่ปิดลง แบคฮยอนเท้าตัวขึ้นตะแคงแล้วลงมือรื้อหาของที่ใต้หมอนของคยองซู เขาเจอซองยาพลาสติกอีกแล้วแต่ซองนี้บรรจุยาเอาไว้อยู่สองเม็ด แบคฮยอนหยิบยาเม็ดเล็กออกมาแล้วเอามาซ่อนไว้ใต้หมอนตัวเองก่อนจะล้มตัวลงนอนตามเดิม
TBC.
ฟิคมาเร็วเดี๋ยวก็จบเร็ว เรื่องนี้ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันยาวมากหรอกคะ
แต่ก็คงจะไม่สั้นมาก จะมาอัพให้เรื่อยๆนะถ้าไม่ติดปัญหาอะไร :D
อัพดึกอะ T^T ใครขาประจำเล่นยันสว่างก็คงจะได้เอาไปอ่านแก้ง่วง 555
"หัวใจที่เปรียบดั่งทะเลทราย ยังเฝ้ารอหยดน้ำเสมอ"
ความคิดเห็น