ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO :: XTRA { BAEKHYUN D.O }

    ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER :: XXXXXXXXXXX 100%

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 56


    :)  Shalunla







     

    CHAPTER :: XXXXXXXXX
         XX






     

    ภายในห้อง


                “แบคฮยอนเมื่อไรมึงจะปล่อยกู”



    “ไม่ได้หรอก เดี๋ยวมึงร้องไห้อีก”



    “บ้า กูไม่ร้องไห้หรอกน่าปล่อยกูเถอะ”



    “นอนไปเถอะน่า”



    “ไอ้แบค ถ้าไม่ปล่อยนี่กูจร้องไห้จริงๆแล้วนะ” คยองซูดิ้นให้แบคฮยอนปล่อยมือออกจากตัวเขา บ้ารึไงอยู่ดีๆก็มานอนกอด



    “มึงหวั่นไหวรึไง” แบคฮยอนพูดติดตลกโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันคือความจริง คยองซูอยากจะตัดใจแต่แบคฮยอนก็เข้ามาหยอกเขาแบบนี้อยู่เรื่อย แล้วเมื่อไรจะตัดใจได้



    “เออ กูหวั่นไหว”



    “เห้ย จริงหรอวะ มึงหวั่นไหวจริงหรอวะเนี่ย”



    “จริง มึงทั้งกอดทั้งจูบกูขนาดนี้ มึงไม่จับกูเอาเลยละสัด ปล่อยดิวะ”



    “ไอ้เหี้ย ถ้ากูเอาจริงๆมึงจะยอมหรอ”



    “มึงอยากมากรึไง ไปๆลุก” คยองซูหน้าแดงลามไปถึงหู ไอ้บ้าเอ้ยกำลังบิ้วอารมณ์ให้ดราม่าอยู่แท้ๆ



    “ก็นิดนึง คือตอนนี้ก็ตีสองแล้วไง เป็นเวลาที่ผัวเมียควรจะเชื่อมความสัมพันธ์กัน”



    “ไอ้ลามก!!!



    “ถ้ามึงนอนนิ่งๆกูจะไม่ปล้ำมึง แต่ถ้ามึงพูดมากมึงจะไม่ได้นอนยันเช้า เลือกเอาแล้วกันว่าจะเลือกแบบไหน ” คยองซูกระทุ้งศอกใส่แบคฮยอนแรงๆ ถือดียังไงมายื่นข้อเสมอแบบนี้ให้เขา ไอ้เลว ทำไมชอบทำให้รักแล้วก็เสียใจในเวลาเดียวกัน

     

     






     

              บรรยากาศตอนเช้าที่มหาวิทยาลัยในวันนี้ดูจะครื้นเครงเป็นพิเศษ เสียงเฮฮาหยอกล้อกันดังสนั่น คริสกวาดตามองไปรอบๆแล้วก็สำนึกขึ้นมาได้ว่าพวกเขาไม่ควรจะเสียงดังกันขนาดนี้ กิจกรรมบนโต๊ะม้าหินอ่อนวันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่สี่คน แต่มีถึงเจ็ดคนด้วยกัน



    คนแรกที่เป็นแกนนำก็คือลู่หาน ชายหนุ่มนั่งเห่าแซวหญิงสาวที่เดินผ่านไปมาด้วยฝีปากจัดจ้าน ด้วยความที่เป็นคนปากหวานอยู่แล้วพูดอะไรนิดหน่อยก็เรียกให้แก้มขาวของผู้หญิงขึ้นสีเรื่อได้ง่ายๆ อีกสามคนที่นั่งร่วมเห่าข้างๆลู่หานก็คือจงแด เซฮุน อี้ซิง สมาคมคนหน้าหวาน สันดารแย่ ตอแหล แต่น่ารัก แอร้... ไม่ใช่ละ



    ส่วนสองคนที่นั่งอี๋อ๋อกันอยู่ก็คงไม่พ้นแบคฮยอนกับคยองซู ไม่รู้ว่าไปอารมณ์ดีกันมาจากไหน ตอนเดินเข้ามหาลัยก็เดินคู่กันมาหัวเราะคิกคัก ทำยังกับเป็นผัวเมียข้าวใหม่ปลามัน ในบรรดาเจ็ดคนนี้คงจะมีแค่คริสคนเดียวละมั้งที่นั่งเหงาหงอย



    “เห้ยพวกมึง สนใจกูบ้างดิ” คริสสะกิดไหล่ลู่หาน แต่อีกคนก็ไม่สนใจ เพราะดวงตาหวานช่ำกำลังจ้องมองหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งน่ารักเหี้ยๆ ถ้าแดกได้มันคงทำไปแล้ว



    “ไอ้ห่าอย่าสะกิด มึงดูดิแม่งตัวเล็กแต่นอมอใหญ่เวอร์” ลู่หานลากเสียงยานคางแบบไม่อาย ดีนะที่ว่าคนถูกแซวไม่ได้ยิน ไม่อย่างนั้นลู่หานคงโดนส้นเข็มกระแทกเบ้าหน้าแน่ๆ



    “เห้ยจงแด”



    “อะไรเชี่ย อย่าเพิ่งเรียกกู” เมื่อโดนปฎิเสธคริสเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปสะกิดเซฮุนแทน



    “อิติ๋มพากูไปขี้หน่อยดิ”



              “ติ๋มแม่มึงสิ กูไม่ไปเว้ย” ไม่พูดเปล่าเซฮุนยังหันมาชูนิ้วกลางใส่คริสแบบเต็มสองลูกตา เออ ไอ้เพื่อนบรรลัยไส้ กูขอให้พวกมึงเป็นตากุ้งยิง มองแต่นอมอไอ้พวกจัญไร เมื่อถูกเดอะแก๊งค์เมินขนาดนี้แล้ว คริสคงไม่เสียเวลาไปสะกิดถามอี้ซิงหรอก เพราะรายนั้นเองก็ตาเยิ้มไม่แพ้ลู่หาน แม่งเอ้ย คนที่คิดว่าโลกสวยสุดเสือกเหี้ย สรุปคือเชี่ยพอกันทั้งกลุ่ม แต่บอกไว้ก่อนถ้าไม่หน้าตาหล่อแบบพวกเขานะอย่าไปทำแบบนี้เชียว ไม่งั้นจะเสี่ยงต่อส้นตีนมาก



                คริสเดินจากม้านั่งอีกฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งซึ่งมีแบคฮยอนกับคยองซูนั่งอยู่ด้วยกัน เห็นหน้าระรื่นแบบนี้ปัญหาครอบครัวคงจะเคลียร์กันเสร็จแล้วสินะ -_-



                “คืนดีกันแล้วหรอพวกมึงสองตัว”



                “กูก็ไม่ได้โกรธมันสักหน่อย” คยองซูเป็นคนตอบ เอาเถอะถึงครั้งนี้คริสจะไม่ได้พูดสุภาพเหมือนครั้งก่อนๆแล้วแต่คยองซูก็ไม่ถือสาอะไร แถมยังตอบแบบมึงๆกูๆกลับไปด้วย ดีซะอีกจะได้สนิทกันเร็วขึ้น



                “อย่าไปเชื่อมัน ไอ้เชี่ยเตี้ยนี่แม่งงอนกู”



    “แบคฮยอนมึงใส่ร้ายกูอะ กูไม่ได้งอนมึงนะเว่ย”



    “แล้วอะไร ไม่ได้งอนแล้วมึงเป็นอะไร น้อยใจเฉยๆงั้นดิ”



    “มึงนั่นแหละที่น้อยใจ มึงน้อยใจที่กูไปไหนมาไหนกับจงอิน”



    “เห้ย  พอแล้วพวกมึง!!!!” คริสกุมขมับ คิดว่ามานั่งฝั่งนี้แล้วเขาจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมมากขึ้นซะอีก นี่เขามาเป็นกรรมการให้มันสองตัวชัดๆ น่าแจกตีนให้แดกคนละข้างจริงๆ แม่งหมั่นไส้



    “อ้าว คริสมึงจะไปไหนละ” แบคฮยอนที่หยอกล้ออยู่กับคยองซูเป็นฝ่ายถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคริสกำลังเดินเลี่ยงออกจากพวกเขา



    “ไปขี้ หรือถ้ามึงจะตามไปแดกขี้กูก็ตามมา” แบคฮยอนพยักหน้ารับรู้จากนั้นก็หันไปเล่นกับคยองซูต่อ แม่งปัญญาอ่อน คริสเห็นแล้วอยากจิคราย ร่างสูงใหญ่เดินเรื่อยๆจนใกล้จะถึงห้องน้ำแล้ว กลิ่นหอมหวนลอยตลบออกมาจากห้องน้ำเก่าๆของมหาวิทยาลัย ที่เขาเลือกมาที่นี่เพราะไม่ค่อยมีคนเข้า ขี้สบายตดได้ไม่ต้องแคร์ แต่ถ้ามีปัญหาน้ำไม่ไหลก็คงต้องถอดเน็คไทด์มาเช็ดตูดก่อน ยี้ คิดแล้วรู้สึกรังเกียจตัวเอง ถ้าต้องให้คนหล่อๆแบบเขาทำแบบนั้นนะ ยอมขี้แตกใส่กางเกงดีกว่า

     

     

     
     

     

    คริส พาร์ท




    มหกรรมความวุ่นวายจะเกิดขึ้นทุกครั้งเวลาที่ลู่หาน เซฮุน จงแด อี้ซิง มารวมกันที่ม้าหินอ่อนโต๊ะประจำ แล้วผมก็มักจะเป็นฝ่ายถูกเมินอยู่แบบนี้ตลอด ที่จริงพวกมันไม่ได้เรียนคณะเดียวกันหรอกครับ



    แต่ไม่รู้แม่งโคจรมาเป็นเพื่อนกันได้ยังไง สงสัยคงจะเป็นเพราะงานวันรับน้อง เซฮุน จงแด แล้วก็อี้ซิงนั่งแดกเหล้าอยู่โต๊ะข้างๆกันครับ เป็นการเริ่มต้นมิตรภาพที่โคตรรดีเลย คือมันเป็นอย่างนี้ครับ หลังจากเลิกงานรับน้องพวกผมก็พากันไปดื่มต่อ แบคฮยอนก็ลากตัวคยองซูไปด้วย แล้วจากนั้นพวกผมก็เจอกับพวกไอ้เซฮุน



    ก็เป็นอันจบแค่นั้นแหละครับ จากนั้นก็ติดต่อกันตลอดจนกลายเป็นเพื่อนกัน ส่วนคยองซูนะ ตัวผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นใครมาจากไหน โพล่มาอีกทีผมก็มารู้จักคยองซูในฐานะของเพื่อนและรูมเมทของแบคฮยอนแล้ว แหม่ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะรู้ซะด้วย ถึงผมจะชอบเสือกแต่ก็เลือกเรื่องนะครับ




    ผมเดินต้อยๆหลบพวกไอ้ลู่หานมาเข้าห้องน้ำ คงเป็นเพราะกับข้าวฝีมือไอ้ลู่เมื่อวาน แดกแล้วเห็นผลเลย กับข้าวฝีมือมันแดกแล้วขี้พุ่งเร็วยิ่งกว่ายาถ่ายอีก แต่ว่าอย่าได้ริอ่านจิ้นผมกับลู่หานเชียวนะครับ ผมแค่มีปัญหากับภรรยาที่บ้านเล็กน้อยเลยได้โซซัดโซเซไปพึ่งกับข้าวของมันที่คอนโด



    ตอนนี้ผมปวดท้องขึ้นมาอีก ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าห้องน้ำเก่าๆ เพราะข้าศึกมันมาจ่อตีหน้าประตูแล้ว ขณะที่ผมกำลังเร่งรีบที่จะเข้าห้องน้ำหางตาผมก็เห็นเหมือนร่างของใครแว้บๆ เด็กปีหนึ่งที่ชื่อคิมจงอินทำให้ผมต้องชะงักเท้าและเปลี่ยนเป้าหมายจากห้องน้ำมาเป็นด้านหลังห้องน้ำแทน



    ต้นไม้ใหญ่ที่ดูดซึมขี้ไปเต็มๆนั้นบดบังร่างของใครบางคนที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ผมเห็นว่าจงอินกำลังยืมคุยอยู่ คู่สนทนาของมันคงจะตัวเล็กมากแน่ๆ มันถึงกับต้องก้มหน้าคุยขนาดนั้น ผมแอบเห็นเล็กน้อยว่ามันเป็นชายกระโปรงของผู้หญิง ที่แท้ก็มาม่อสาวอยู่นี่เอง ที่ที่มันน่าภิรมณ์กว่านี้แม่งก็มีตั้งเยอะเสือกไม่ไป เสือกมาจีบกันหลังห้องน้ำ หอมเลยสิมึง...



    “น่าพี่ครับ ช่วยผมหน่อยเถอะ”



    “ไม่เอาละ พี่ขอบาย”



    “ถ้าเรื่องแค่นี้พี่ยังช่วยผมไม่ได้ พี่จะมาพูดได้ยังไงว่าพี่รักผม”



    “ไม่นะจงอิน พี่รักนายแต่ว่าเรื่องนี้พี่คงทำไมได้” ทำอะไรวะ จะเอากันรึไงสัด



    “ถ้าพี่ทำไม่ได้ ต่อไปก็ไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าอีก” โอ้ย พ่อหล่อเลือกได้ ผมละอยากจะบินไปตบ  นี่ถ้าไม่ติดว่าผมมีเมียแล้วนะผมคงฮ็อตไม่แพ้มันอะครับ พูดแล้วอยากส่องกระจก ถ่ายเซลก้าอัพลงเฟซบุ๊ค อิอิ



    “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ เรื่องอะไรละที่นายจะขอให้พี่ช่วย” ก็อยากจะอยู่ฟังต่อนะครับ แต่ติดที่ว่าเนื้อหาของสองคนนี้มันดูจะน้ำเน่าไปหน่อย อีกอย่างข้าศึกตอนนี้ก็เตรียมจะจู่โจมผมอีกแล้วครับ ผมเลยตัดสินใจที่จะไม่เสือกเรื่องของจงอินต่อ ผมขอไปปลดทุกข์เลยแล้วกัน

     




     

     

    เมื่อแต่ละคนต่างแยกย้ายกันไปเข้าเรียนแล้วก็คงเหลือแค่แบคฮยอนกับคยองซูเท่านั้นที่ยังไม่ไป ที่จริงมันก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนของแบคฮยอนแล้วละ แต่ว่าเขาเลือกที่จะเดินมาส่งคยองซูที่ตึกคณะแทนที่จะไปเรียนพร้อมกันกับลู่หานและคริส สองคนเดินเรียบเคียงกันมาตามทางเดินเรื่อยๆ



    “คยองซูมึงจำได้ไหมว่ากูเจอมึงครั้งแรกที่ไหน”



    “จำได้ดิ แต่กูขอไม่พูดถึงได้ไหมวะ นึกถึงวันนั้นแล้วกูทุเรศตัวเอง”



    “เรื่องที่มึงวิ่งหลบพวกรุ่นพี่อะนะ กูจำได้นะว่าวันนั้นมึงแม่งโดนสีป้ายมาเต็มหน้า แต่ก็ช่วยไม่ได้ละนะก็มึงเล่นหน้าตาดีซะขนาดนี้ ถ้ากูเป็นรุ่นพี่กูจะอาบสีให้มึงเลยด้วยซ้ำ”



    “หน้าตากูมันดีขนาดนั้นเลยรึไง กูได้ยินมึงชมกูหลายครั้งแล้วนะ”



    “กูถามจริงๆมึงเคยส่องกระจกบ้างไหม”



    “เคยดิวะ ส่องทุกวัน กูยังสงสัยอยู่เลยนะว่าทำไมกูถึงได้เกิดมาหล่อขนาดนี้”



    “ถุ้ย ยอมรับเถอะว่ามึงอะน่ารักมากกว่าหล่อ ฉะนั้นอย่ากระแดะแอ๊บหล่อครับ”



    “มึงก็เหมือนกันอะ กูเห็นมึงตอนแรกนะมึงก็หน้าตาแรดๆกูไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่ามึงจะแมนสัดขนาดนี้” แบคฮยอนหัวเราะชอบใจที่ได้ยินคยองซูพูด และในวินาทีที่เดินผ่านซุ้มขายน้ำของน้องปีหนึ่งภาพเก่าๆในหัวก็ไหลกรอกลับมาอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะเมื่อปีที่แล้วเขากับคยองซูเคยยืนอยู่ด้วยกันในที่ตรงนั้น...






    แบคฮยอนรู้ว่าการหนีกิจกรรมมันไม่ใช่เรื่องดีเลยสำหรับน้องใหม่อย่างเขา แต่เขาก็ไม่ได้หนีสักหน่อยแค่มาเข้าห้องน้ำเท่านั้นเอง แต่เข้าจวนจะยี่สิบนาทีแล้วยังไม่ยอมกลับเข้าไปที่ซุ้มเลย พูดตรงๆว่าเขาไม่ชอบการออกไปเต้นแร้งเต้นกาโชว์คนอื่น ถ้าจะต้องอ้างว่าท้องเสียขี้แตกจนหมดสภาพนอนหลับคาห้องน้ำแล้วเขาจะไม่โดนรุ่นพี่ทำโทษเขาก็จะทำนะ



    “เห้นาย ดูให้ฉันหน่อยว่าพวกรุ่นพี่ไปรึยัง” แบคฮยอนขณะกำลังที่จะเดินกลับเข้าไปร่วมกิจกรรมตามเดิมเขาก็ต้องชะงักเท้าเพราะมีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นจากหลังต้นไม้ แม่งผีหลอกรึเปล่าวะ



    “ใครอะ ออกมาดิแถวนี้ไม่มีใครแล้ว” แล้วเจ้าของเสียงก็ค่อยๆก้าวออกมาจากหลังต้นไม้ แบคฮยอนจ้องมองร่างของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเขาก็ไม่รู้จัก ตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อย ย้ำนะว่าแค่นิดหน่อยจริงๆ



    “ฉันหนีรุ่นพี่มา พวกเขารุมทาสีฉัน ฉันไม่ชอบ”



    “หาเรื่องไม่ผ่านกิจกรรมอะเดะ ไปๆ กลับไปได้แล้วมาหลบแบบนี้ถ้าพวกนั้นตามเจอนายจะโดนเล่นหนักกว่านี้นะเว้ย”



    “ไม่กล้าไปอะ แล้วตอนนี้หิวน้ำด้วยอะ”




                “หิวก็ไปซื้อกินดิ ไปแล้วนะ”



    “เดี๋ยวดิ ไม่มีเงินอะ ยืมก่อนได้ปะ”



    “เห้ยบ้าปะ ไม่รู้จักกันจะให้ยืมเงินได้ยังไง”



    “ไม่บ้าหรอก ถ้าอย่างนั้นฉันขอเบอร์นายหน่อยได้ไหม เอาไว้โทรหาเวลาจะเอาเงินไปคืนไง”



    “แล้วจะเชื่อได้ไงว่าจะเอาเงินไปคืน”



    “โกหกแล้วนายจะสูงขึ้นรึไง” แบคฮยอนควักเงินที่พอมีติดกระเป๋าอยู่บ้างแล้วยื่นให้อีกคน



    “จะให้ฉันเมมเบอร์มาว่าอะไรดี”



    “เมมไว้ว่าแบคฮยอน”



    “ฉันชื่อคยองซู”



    “ใครเขาอยากรู้ห้ะ จะคืนมื่อไรไว้ค่อยโทรมาละกัน ไปละ” แบคฮยอนวิ่งหางจุกตูดกลับไปที่ซุ้มทันที เขาไม่ทันเห็นหรอกว่าคนที่เพิ่งจะยืมเงินเขาเมื่อสักครู่นี้กำลังยืนมองตามหลังเขาจนเขาวิ่งหายไปลับตา

     





     

    “แบคฮยอนมึงเหม่ออะไรวะ” คยองซูสะกิดไหล่ถามเพื่อนที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆ นี่คงไม่วายว่าจะคิดถึงพี่ดาร่าอีกซินะถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขนาดนี้



    “นึกถึงเรื่องวันนั้น วันที่มึงยืมตังค์กูอะ กูยังสงสัยอยู่เลยนะว่าวันนั้นมึงไม่มีตังค์จริงๆหรือมึงหลอกขอเบอร์กูกันแน่ ว่าไงละ มึงไม่มีเงินจริงๆหรือว่าแค่อยากได้เบอร์กู”



    “เออ กูอยากได้เบอร์มึง”



    “ตอแหลปะ กูเขินนะเนี่ย” แบคฮยอนเกาหัวเขินๆ ช่วงนี้เขาเขินง่ายเหลือเกิน



    “ก็อยากรู้จักมึงอะ ไม่นึกเหมือนกันว่าจะได้เป็นรูมเมทมึง ถ้าวันนั้นกูไม่ยืมเงินมึงนะกูก็จะไม่ได้เบอร์มึง ถ้ากูไม่ได้เบอร์มึงกูก็คงไม่ได้โทรหามึง ถ้ากูไม่ได้โทรหามึงกูก็คงไม่ได้เป็นรูมเมทมึง ถ้ากูไม่ได้เป็น รูมเมทมึงป่านนี้กูคงกำลังเดินอยู่กับใครสักคนที่ไม่ใช่มึงอะ”



    “ร่ายยาวเลยนะสัด ก็พอดีว่าวันนั้นกูช็อตนี่หว่า แล้วมึงก็เสือกไม่มีหออยู่พอดี กูเลยฉกมึงมาช่วยจ่ายค่าห้อง”



    “อ๋อ นี่ตกลงที่ให้กูอยู่ด้วยเพราะมึงช็อตว่างั้น”



    “ก็ประมาณนั้นแหละสัด” ได้ยินแบบนี้ก็เลยตบหัวแบคฮยอนไปเต็มรัก ระหว่างทางที่ชวนให้นึกถึงวันเก่าๆได้สิ้นสุดลงเมื่อทั้งสองคนเดินมาหยุดที่หน้าตึกคณะของคยองซูพอดี



    “มึงรีบกลับไปเรียนเหอะ นี่จะสายแล้วนะเว่ยไอ้เชี่ย”



    “ช่างมันเหอะน่า เออคยองซู กูมีเรื่องจะถามมึงนิดหน่อยวะ”



    “รีบถามมาดิ ถ้าตอบได้กูก็จะตอบ”



    “เดี๋ยวนี้มึงหัดใส่แหวนด้วยหรอวะ ใครให้วะ แล้วใส่ตั้งแต่เมื่อไรทำไมกูไม่รู้”



    “ไม่นานวะ กูซื้อมาใส่เองพร้อมกับวันที่กูไปซื้อหนังสืออะ มึงจำได้ไหม” คยองซูชูนิ้วชี้ที่สวมแหวนเงินขึ้นมาให้แบคฮยอนดู



    “เออ งั้นคำถามสุดท้าย”



    “.......................”



    “ถ้ากูจะเลิกรักพี่ดาร่า มึงว่ามันจะดีไหมวะ”


































     

     

    TBC.
    ไม่รู้ใครกดแบน 
    ถ้าโดนแบนอีกอาจจะมีมาตราการ ไม่อัพ เกิดขึ้น
    นี่พูดจริงๆนะ .____.

    ปล. แบคฮยอนกำลังจะตัดใจจากพี่ดาร่าแล้วนะ :'2
    ดีใจกันบัางป่ะ 



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×