คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER :: XXXX
CHAPTER XXXX
วันนี้ดูเหมือนโรงอาหารจะตรึมไปด้วยมดรวมรังมหึมาเพราะมีความหวานหกเรี่ยราดอยู่แถวนั้น คยองซูรู้สึกเอียนนิดหน่อยที่ต้องมานั่งฟังคำหยอดของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ ลู่หานครับมึงจะหยอดอะไรนักหนาครับ “ แบคฮยอนพูดขัดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้ารำคาญของคยองซู
“ เนี่ย เพื่อนมึงน่ารักดีวะกูเพิ่งเห็นหน้าจังๆก็วันนี้แหละ “ พูดแล้วก็หันไปมองหน้าคยองซูด้วยสายตาวิบวับ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนของแบคฮยอนคยองซูคงเอาส้อมจิ้มตาหลุดไปแล้ว
“ เอองั้นก็มองซะให้หนำใจ ดูหน้าเอาไว้นี่แหละเมียกู “
“ อ้าวแบคฮยอนไหนมึงบอกว่าเป็นเพื่อนมึงวะ “ คริสที่นั่งเงียบอยู่นานสองนานพูดขึ้น
“ กูล้อเล่น “ แบคฮยอนยิ้มแหยะๆเมื่อถูกเท้าของคยองซูเหยียบมาเต็มรัก
“ เล่นแรงนะเชี่ย ดูสิคยองซูของกูเขินหมดแล้ว “
“ ลู่ครับ คือเพื่อนกันอะครับ หยอกแค่นี้ไม่เป็นเชี่ยอะไรหรอก “ คยองซูวางช้อนลงกับจานแล้วดื่มน้ำทำท่าเหมือนจะอิ่มทั้งๆที่ยังกินข้าวไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ
“ แบคฮยอนกูจะกลับคณะแล้ว กูไปละนะ “ พูดเสร็จก็ลุกออกจากวงข้าวไปหน้าตาเฉย แบคฮยอนมองตามหลังจนคยองซูเดินหายลับตาไปแล้วค่อยหันกลับมาหาคริสกับลู่หาน
“ เชี่ยลู่มึงทำมันงอนกูอีกแล้วนะสัด “ ลู่หานเบะปาก แค่แซวเล่นทำไมต้องดราม่าด้วยฟะ
“ เนี่ยกูว่าคยองซูมันคิดไม่ซื่อกับมึงชัวร์ “ พอคยองซูลุกออกไปลู่หานก็ตั้งวงนินทา
“ นี่พวกมึงคิดอะไรกันอยู่วะ กูบอกแล้วไงว่าเพื่อนกัน “
“ เห็นหน้ากันทุกวัน นอนด้วยกันทุกคืน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดแบบนี้...”
“........ “ คริสกับแบคฮยอนเงียบฟังสิ่งที่ลู่หานกำลังจะพูดต่อไป
“ ถ้ากูเป็นคยองซู กูตกหลุมรักมึงล้านรอบแล้วแบคฮยอน “
“ แล้วมึงไปตรัสรู้ใจมันได้ไงครับพี่ลู่ครับ “
“ กูสังเกตเอาจากสายตา “
“ ถุ้ย จ้องนานๆระวังตามันทะลักใส่หน้ามึงละกัน “
“ ไอ้แบคฮยอน ไอ้เชี่ยโง่ มึงนี่ฉลาดซะเปล่า “ ลู่หานด่ามาเป็นชุด แบคฮยอนได้แต่นั่งนิ่งรับฟังความเห็นของคริสกับลู่หานที่มีต่อคยองซู
“ มันก็ไม่เห็นมีท่าทีแสดงออกว่าชอบกูสักนิด พวกมึงสองตัวนี่ขี้ตอแหลชิบหาย “
“ งั้นมึงลองตอบคำถามกูสิแบคฮยอน “ คริสพูดขึ้น
“ ถามมาสิไอควาย “
“ มันเคยกอดมึงปะ “ แบคฮยอนพยักหน้า
“ มันเคยอ้อนมึงปะ “ คยองซูเนี่ยนะจะมาอ้อนเขา ถ้าอ้อนตีนนี่ว่าไปอย่างเพราะคยองซูเล่นพูดจาเหมือนเพาะฟาร์มหมาไว้ในซอกฟันซะขนาดนั้น
“ ไม่เคยเว่ย คำถามมึงนี่มั่วชิบหาย “
“ แบบประมาณว่าซบไหล่เกยคางไรงี้อะคยองซูมันเคยทำปะ “ ลู่หานพูดเสริม
“ เคย ตอนมันขี่หลังกู “ คริสหันไปยิ้มให้กับลู่หานเหมือนจะชอบใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่ได้เสือกเรื่องของชาวบ้านเขาแบบนี้
“ ข้อสุดท้ายนะ มันเคยแดกหลอดเดียวกันกับมึงปะ “
“ อี๋ ไอ้เชี่ยคริสมึงพูดถึงทำไมเนี่ยกูขยะแขยง ไอ้เชี่ยแบคแม่งชอบกัดหลอด แหวะกูจะอ้วก “ ลู่หานทำหน้าพะอืดพะอมจนแบคฮยอนเอื้อมมือไปผลักหัว เป็นเพื่อนกันแท้ๆทำมารังเกียจ
“ เคยเว่ย แต่เรื่องพวกนี้เพื่อนกันทั่วไปเขาก็ทำได้มึงไม่มีคำถามที่มันแอดวานซ์กว่านี้หรอวะ “
“ งั้นตอนที่คยองซูกอดมึงอะ มันกอดที่ไหนวะ ? “
“ บนเตียง “
“ เหี้ย นี่พวกมึงนอนเตียงเดียวกันหรอ “
“ หอกูแม่งเล็กยิ่งกว่ารังแมลงสาปเลยใส่ได้แค่เตียงเดียว “
“แล้วมึงไม่ไปหาหอใหญ่ๆอยู่ละ ทนอยู่ห้องแคบๆทำไม”
“แบบนี้แหละดีแล้ว กูว่าแคบๆก็สะดวกดีออก ”
“ โอ้ยตายกูจะเป็นลม “ ลู่หานยอดนักสืบเอามือพัดหน้าเองพร้อมทำท่าเหมือนคนชราลมจับ แบคฮยอนอยากจะรู้ว่าสองคนนี้ใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการตัดสินว่าใครกำลังชอบใครอยู่ เพราะถ้าเขาไม่สารภาพออกมาว่าชอบเรา เราก็คงไม่มีทางรู้หรอกว่าเขากำลังชอบเราอยู่ แล้วไอ้คำถามที่คริสถามเขาเมื่อสักครู่นี้เพื่อนกันธรรมดาทั่วไปก็ทำกัน ก็มีแค่พวกมันสองคนนี่แหละที่ไม่เคยทำ
แบคฮยอนเล็งเห็นถึงความไร้แก่นสารของเพื่อนก็เลยก้มหน้าก้มตากินต่อไป เขาแอบมองจานข้าวที่เหลือข้าวอยู่เยอะของคยองซูตัวก็อดเป็นห่วงอีกคนเสียไม่ได้ กินข้าวแค่นี้เดี๋ยวก็ไม่มีแรงเรียนต่อหรอก หนังสือก็โหมอ่านจนดึกดื่นแถมร่างกายก็ดูเหมือนยังไม่ค่อยพร้อมที่จะมาเรียน สภาพจิตใจก็คงไม่เหมาะที่จะปล่อยให้เดินคนเดียวได้ นี่ถ้าคยองซูป่วยขึ้นมาเขาจะไม่แปลกใจเลยว่าเพราะอะไร
เย็นวันนี้แบคฮยอนกับคยองซูไม่ได้กลับบ้านพร้อมกัน คยองซูแอบชิ่งกลับมาที่หอก่อนด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากเจอหน้าลู่หาน แบคฮยอนเลยยอมให้เพื่อนของเขากลับมาถึงที่พักก่อนเขานึกถึงเรื่องการเรียนในคลาสของวันนี้อาจารย์ที่ฉายสไลด์อยู่ดีๆก็เปลี่ยนมาพูดถึงเรื่องยาปลุกเซ็กส์ มันเป็นมุกตลกที่ไม่ค่อยน่าขำเท่าไรสำหรับเขาเพราะเขาเพิ่งจะสัมผัสกับคนที่ได้กินยาแบบนั้นลงไป แบคฮยอนแอบภาวนาว่าคยองซูคงไม่ได้ถูกไอ้เด็กดำนั่นจับยากรอกเกินสามเม็ดหรอกนะ ไม่งั้นคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการติดยานั้นขึ้นมา จริงๆแล้วแพทย์เขาทำมาเพื่อบำบัด แต่กลับมีคนเลวๆเอามาใช้ในทางที่ผิดซะได้
คิดว่ายังไงซะเปิดประตูเข้าห้องมาก็ต้องเจอกับคยองซูนั่งอ่านหนังสือหลังขดหลังแข็งอยู่แน่ๆ อีกเพียงสองอาทิตย์เท่านั้นก็จะถึงวันสอบไฟนอล เนื้อหาที่มีจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนั้นถ้าไม่อ่านก่อนสักเดือนสองเดือนคงทำข้อสอบได้แค่ครึ่งๆกลางๆ
“ คยองซู มึงเป็นอะไรรึเปล่า “ เขาถามเพราะเห็นว่าคยองซูนั่งอยู่ที่ปลายเตียง เมื่ออีกคนไม่ตอบแบคฮยอนเลยเดินเข้าห้องไปแล้วก็ไม่ลืมที่จะปิดประตู เขาวางกระเป๋าเป้ไว้บนตู้เย็นแล้วเดินไปหาคยองซู ทันทีที่จับไหล่ของคยองซูอีกคนก็สะดุ้งตัวตกใจ
“ บะ..แบคฮยอน “
“ มึงเป็นอะไรวะ อย่าบอกนะว่ากำลังคิดแผนปลิดชีพตัวเองอยู่ “ แบคฮยอนพูดติดตลกแต่คยองซูก็ยังทำหน้านิ่ง
“ เปล่า กูไม่ได้เป็นอะไร “
“ มึงดูเหนื่อยๆนะ “
“ อืม กูเหนื่อย ถ้างั้นกูของีบก่อนละกัน “
“ เดี๋ยวนะ มึงจะนอนเน่าบนเตียงของเราไม่ได้นะเว้ย “
“ กูอาบน้ำแล้วน่า “ คยองซูขยับตัวขึ้นไปนอนที่ฝั่งของแบคฮยอนแต่เขาก็ไม่ได้เอะอะอะไร คยองซูอยากจะนอนทางไหนก็เชิญนอนได้เลย คงเพราะว่าเห็นเพื่อนมีท่าทีอ่อนแรงก็เลยไม่อยากจะชวนทะเลาะด้วย พอเดินเข้าไปในห้องน้ำแบคฮยอนก็ชะงัก กลิ่นไอของน้ำยังคงคลุ้งอยู่ทั่ว แสดงว่าคยองซูคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ กะว่าจะเดินออกมาถามซะหน่อยว่าคยองซูได้กินอะไรรึยังแต่พอเดินออกมาคยองซูก็หลับไปแล้ว
“ ไม่สบายอีกแล้วละสิมึง “
แบคฮยอนเดินลงไปซื้ออาหารที่หน้าปากซอยแล้วก็กลับขึ้นมาที่ห้อง คยองซูยังคงนอนหลับอยู่เขาชั่งใจว่าจะปลุกอีกคนให้ลุกขึ้นมากินหรือว่าจะปล่อยให้นอนต่อไป ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ปลุกคยองซูขึ้นมา แบคฮยอนเดินถือกล่องข้าวของตัวเองไปนั่งกินที่โต๊ะหนังสืออย่างเงียบๆ เวลาที่ไม่มีคยองซูคอยต่อปากต่อคำด้วยห้องนี้ก็ดูเหมือนจะเงียบเหงาลงไป….
นาฬิกาที่โน้ตบุ๊คของแบคฮยอนขึ้นบอกว่าสี่ทุ่มแล้ว แบคฮยอนรีบพิมพ์รายงานที่ลู่หานฝากให้เอามาช่วยแก้ไข้ให้เสร็จ ผ่านไปราวๆสามสิบนาทีแบคฮยอนถึงได้ปิดโน้ตบุ๊คลง เขาเดินไปนอนที่เตียงฝั่งของคยองซู กลิ่นแชมพูของคยองซูยังติดอยู่ที่หมอนอยู่เลย แบคฮยอนกับคยองซูใช้แชมพูคนละยี่ห้อกันเพราะเขาไม่ค่อยชอบกลิ่นผลไม้อะไรนั่นของคยองซูสักเท่าไร
ขณะที่ดวงตาของแบคฮยอนจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่คยองซูก็เริ่มขยับตัว สักพักก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ แบคฮยอนได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำก็เลยไม่ได้ใส่ใจจนในที่สุดแบคฮยอนก็หลับไป
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้วที่คยองซูทำตัวนิ่งผิดปกติ ไม่ว่าแบคฮยอนจะชวนทะเลาะด้วยหรือว่ากวนประสาทคยองซูก็ไม่ตอบโต้กลับมาเหมือนอย่างเคย คยองซูคงจะอยากมีสมาธิในการอ่านหนังสือมากขึ้นแบคฮยอนเลยเลิกหาเรื่องไปกวนใจแล้วปล่อยให้คยองซูนั่งทบทวนบทเรียนไปอย่างเงียบๆ ถึงบรรยากาศจะน่าอึดอัดแต่แบคฮยอนก็คิดว่าหลังสอบเสร็จคยองซูคงจะกลับมาลั้นลาเหมือนเดิม
เรื่องน่าแปลกที่ดูเหมือนจะเป็นเองธรรมดาทั่วไปก็คงจะไม่พ้นเรื่องการเข้าห้องน้ำ คยองซูเข้าห้องน้ำเป็นเวลาในทุกๆห้าทุ่มของทุกวัน สงสัยระบบขับถ่ายจะดีเพราะคยองซูเล่นเปิดน้ำเสียงดังลั่นห้อง คยองซูคงจะไม่อยากให้เขาได้ยินเสียงไม่พึงประสงค์ก็เลยเปิดน้ำแรงๆให้มันกลบเสียงกันไปแต่มันก็เสียงดังจนแบคฮยอนต้องตื่นขึ้นมา
ในแต่ละครั้งที่คยองซูเข้าห้องน้ำจะใช้เวลาราวๆยี่สิบนาที แต่เดี๋ยวนะนี่เขาสังเกตขนาดนั้นเลยหรอ แบคฮยอนนึกขำตัวเองที่จับตามองพฤติกรรมของคยองซูจนเกินเหตุ บางทีคยองซูอาจจะเครียดลงกระเพาะเลยปวดท้องบ่อยก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ว่าเล่นขี้มันทุกวันแบบนี้จะเอาสารอาหารไหนไปเลี้ยงร่างกายวะ...
หลังจากผ่านพ้นช่วงของการสอบไปแล้วถึงสามวันด้วยกันแต่คยองซูก็ยังไม่เลิกทำท่าทีแปลกๆ แบคฮยอนเริ่มเป็นห่วงเพื่อนขึ้นมากลัวว่าคยองซูจะกำลังกลายเป็นโรคซึมเศร้า
“ คยองซูมึงเป็นอะไรวะ ช่วงนี้ดูเงียบๆนะ “
“ ไม่ได้เป็นอะไร กูสบายดี “
“ สบายดีของมึงเมื่อก่อนมันไม่ใช่แบบนี้ “
“ กูจะเป็นอะไรก็เรื่องของกูเถอะน่า มึงมาเสือกอะไร “
“ มึงเป็นเพื่อนกูนะ กูก็ต้องเสือกสิวะ “
“ เพราะมึงเป็นเพื่อนกูนี่แหละ “
“ มึงหมายถึงอะไร ? “
“ ก็ไม่ได้หมายถึงอะไรนี่ “ คยองซูพูดพลางเริ่มลงมือเก็บกองหนังสือบนโต๊ะของตัวเองให้เป็นระเบียบ ต่อไปเขาคงจะไม่ได้อ่านมันบ่อยเหมือนเมื่อช่วงใกล้สอบแล้ว
“ เป็นอะไรก็บอกกูมา ไม่ต้องอายกูหรอก “ แบคฮยอนยังคงคาใจอยู่
“ ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรไง เลิกเซ้าซี้กูสักที! ”
“ คยองซูนี่มึงเป็นอะไร ทำไมพูดแบบนี้วะ “ อีกคนเบือนหน้าหนีแล้วกระแทกหนังสือในมือลงกับโต๊ะ คยองซูเดินตรงไปที่ประตูหมายจะชิ่งหนีแต่แบคฮยอนก็ตามไปลากตัวไว้ได้ทัน
“ ปล่อยกูแบคฮยอน !! “
“ ไม่กูไม่ปล่อย มึงต้องตอบกูมาก่อนว่ามึงเป็นอะไร! “
“ กูบอกว่ากูไม่เป็นอะไรไง!! ”
“ มึง เป็น “ เขาพูดย้ำคำหนักแน่นแล้วดึงให้คยองซูมานั่งลงที่เตียง เพราะคยองซูขืนตัวเอาไว้ก็เลยลากถูกันมาอย่างยากลำบาก
“ แบคฮยอน ออกไป !! “
“ มึงกำลังทำให้กูโมโหนะคยองซู “
“ กูไม่ได้ทำอะไรมึงสักอย่าง แล้วมึงจะโกรธกูทำไม“ แบคฮยอนมองหน้าคยองซูด้วยความไม่เข้าใจ
“ มึงรู้ดีอยุ่แก่ใจว่าทำไมกูถึงโกรธ“
“ ไม่ กูไม่รู้”
“ ......“
“ ..... “
“ มึงเป็นอะไรวะคยองซู มึงบอกกูได้รึเปล่า ? “ คยองซูส่ายหัวแล้วออกแรงผลักให้แบคฮยอนหลบออกจากตัวเขา คยองซูพยายามจะวิ่งหนีออกนอกห้องแต่แบคฮยอนเร็วกว่า เขาคว้าไหล่คยองซูเอาไว้แล้วเขย่าอย่างแรงจนอีกคนเซ
“ แบค กูเจ็บ..” พยายามแกะมือของแบคฮยอนออกเพราะแรงบีบอย่างหนักทำให้รู้สึกเหมือนความเจ็บปวดนั้นจะแทรกซึมลงไปถึงกระดูก คยองซูเองก็เสียใจที่ทำให้แบคฮยอนต้องโกรธ แต่เขาจำเป็นจริงๆ ไม่ได้เขินอายที่จะบอกความจริงแต่รู้สึกกระดากปากที่จะพูด บางทีก็รู้สึกรังเกียจตัวเองแม้แต่เงาก็ยังไม่อยากจะเห็นเลยด้วยซ้ำ
“ เจ็บก็ดี มึงจะได้มีสติสักที เลิกทำตัวงี่เง่าแล้วกลับมาเป็นคยองซูคนเดิมได้แล้ว!! “ เพราะอารมณ์โมโหที่คยองซูทำตัวแปลกไปแถมยังดูเหมือนจะซ่อนความลับเอาไว้เยอะกว่าที่เขาคิดแบคฮยอนเหวี่ยงเพื่อนให้ล้มลงไปกับพื้นแล้วเดินนออกนอกห้องเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง
ที่เขาเคยพูดกับคยองซูว่าต้องมีสติให้มั่นคงจะได้ไม่เผลอทำอะไรผิดๆลงไป ในตอนนี้เขาเองก็ยังคุมสติตัวเองไม่ได้อย่างที่เที่ยวสอนคนอื่นเขาไปทั่ว เป็นห่วงมากจนโกรธ ห่วงมาจนรู้สึกหงุดหงิด ยิ่งไม่ได้รับคำตอบที่เค้นถามไปก็ยิ่งอยากจะบีบให้คยองซูตัวแตกออกจากกัน
หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาของอารมณ์คุกกรุ่นไปได้แบคฮยอนถึงได้เดินกลับเข้าห้องมาอีกครั้ง คิดไว้แล้วว่ายังไงซะคยองซูคงต้องออกไปไหนต่อไหนแล้วแน่ๆ แต่ก็ผิดคาดคยองซูยังนอนหลับอยู่บนเตียงเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร แบคฮยอนตัดสินใจที่จะไม่เป็นฝ่ายเข้าไปหาเรื่อง เขาเลยเดินไปรื้อตะกร้าเสื้อผ้าของตัวเองเพื่อหาชุดที่จะใส่นอนแต่หาไปหามาก็เจอกับซองยาพลาสติกที่ข้างในไม่ได้บรรจุอะไรไว้ คงเป็นยาแก้ปวดที่เขาซื้อมาจากร้านหมอยา แบคฮยอนโยนซองยานั้นทิ้งแล้วหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าไปอาบน้ำ...
TBC.
PS. อย่าเพิ่งตบ เพิ่งมาลงให้เพราะว่าบ้านไม่ได้จ่ายค่าเน็ตคะ
ตอนนี้ไปจ่ายแล้วก็เลยรีบมาอัพให้เลยนะ ฮ่าาๆๆ
แล้วจะมาอัพพาร์ทที่ 5 ให้ในอีกไม่ช้านี้
" ของหาย อยากได้คืน "
ความคิดเห็น