คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER :: XXX
CHAPTER XXX
“ จงอินทำไมพาพี่มาที่บ้านนายละ “
“ เราไปไม่ทันครับทางร้านเลยเอาโต๊ะที่ผมจองไว้ให้คนอื่นไปแล้ว “
“ เพราะพี่มัวช้ารึเปล่าเลยอดไป “
“ ไม่หรอกครับ มาทานข้าวบ้านผมก็ได้ “ คยองซูเดินตามจงอินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ เขาเองก็ไม่รู้จักบ้านจงอินหรอก แต่รู้แค่ว่าจงอินรวยมากและบ้านหลังใหญ่นี่ก็อาจจะเป็นบ้านของจงอินก็ได้
“ บ้านนายนี่สวยชะมัดเลย “
“ ไม่ใช่บ้านผมหรอกครับพี่ “
“ อ้าว แล้วนี่บ้านใครละ ? “
“ บ้านของฉันเองแหละ “ คยองซูหันตามเสียงที่ดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่ง เขาจ้องมองคนมาใหม่ด้วยสายตาสงสัย
“ จงอินนี่ใครหรอ “
“ ตอนนี้มันเป็นเพื่อนผมครับ “
“ ...... “ คยองซูเงียบฟัง
“ แต่อีกสักพักมันก็จะกลายเป็นผัวพี่แล้วนะครับพี่คยองซู “ พอจ้องมองดูคนที่เข้ามาใหม่อีกทีคยองซูก็เริ่มคุ้นหน้าคนคนนี้ขึ้นมา เมื่อภาพในอดีตเมื่อปีที่แล้วตอนเขาเข้าปีหนึ่งใหม่ๆไหลย้อนกลับขึ้นมา
“ พี่ชานยอล “
“ เห้ยชานยอล กูไปแล้วนะ ฝากเอาแทนกูด้วยละกันวันนี้กูไม่มีอารมณ์ “ คยองซูตกใจ เขารีบวิ่งไปคว้ามือจงอินที่กำลังจะเดินออกจากประตูบ้านเอาไว้แน่น
“ จงอินนายจะไปไหน พี่จะกลับนะ นายพาพี่กลับนะ!! “ แขนเล็กเขย่าจงอินอย่างแรงจนเด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าชักจะหงุดหงิด จงอินผลักคยองซูจนกระเด็นไปหาร่างของชานยอล
“ จงอินอย่าไป !! จงอิน!! “ ไม่มีประโยชน์เมื่อจงอินปิดประตูบ้านลงเสียงดังโครม ชานยอลที่ล็อคคอคยองซูเอาไว้หัวเราะหึในลำคออย่างชอบใจ ที่เขาโดนรีทายออกก็เพราะไอ้เด็กนี่ ถ้าวันนั้นยอมเป็นของเขาซะดีๆเรื่องก็คงไม่บานปลาย
“ พี่ชานยอล ปล่อยผมไปเถอะนะ ผมจะกลับ “
“ มึงกลับไม่ได้ มึงต้องชดใช้ให้กูก่อน “
“ พี่ชานยอลครับ ผมกลัวแล้ว “ ตัวเล็กถูกฉุดกระชากให้มาที่โซฟาตัวใหญ่ ชานยอลกดคยองซูลงกับโซฟ้าแล้วตามขึ้นคร่อมทับอีกคนไว้
“ ตอนนั้นมึงยังปากดีอยู่เลยนะคยองซู “
“ ผมขอโทษครับ พี่ปล่อยผมไปเถอะนะ “
“ คราวที่แล้วกูเอามึงไม่ได้คราวนี้มึงไม่รอดหรอก!!” ย้อนไปเมื่อปีที่แล้วชานยอลคือรุ่นพี่ปีสามของมหาลัยเขารู้สึกถูกใจเด็กปีหนึ่งที่ชื่อคยองซูก็เลยตามจีบแต่ก็ไม่ได้ผลเขาก็เลยต้องใช้วิธีฉุด แต่กลายเป็นว่าคยองซูหนีไปได้แล้วก็เอาเรื่องนี้ไปฟ้องอธิการทำให้เขาถูกไล่ออกกลางคัน
“ อย่า!! “ มือเล็กพยายามปัดป้องใบหน้าของชานยอลที่กำลังซุกไซร้ตามลำคอขาว คยองซูกลัวจนเขื่อนน้ำตาแตก ทั้งถีบทั้งดิ้นจนชานยอลหมดความอดทน เขากระชากหัวคยองซูขึ้นมาพร้อมกับตบลงที่หน้าขาวเนียนจนเป็นรอยนิ้วแดงขึ้นมาอย่างชัดเจน
“ มึงนี่ยังเล่นตัวเหมือนเดิมเลยนะ “ คยองซูมีเลือดไหลซิบออกที่มุมปากจากแรงกระทบของฝ่ามือ เขาพยายามดึงมือใหญ่ของชานยอลออกแต่กลับต้องมาเจ็บปวดมากกว่าเดิม
“ แดกนี่เข้าไปหน่อยเป็นไง หึ “ ชานยอลล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบซองยาที่บรรจุยาเม็ดเล็กๆไว้หลายเม็ด ชานยอลปล่อยให้คยองซูนอนลงไปตามเดิมแล้วหยิบยาในซองออกมาสามเม็ด
“ มึงกับกูต้องเจอกันอีกยาว “ มือสากหนาบีบปากคยองซูให้อ้าออกแล้วกรอกยาสามเม็ดนั้นใส่ปากของคยองซูไป ความฝืดเคืองทำให้ยานั้นยังคาอยู่ที่คอ ชานยอลหยิบขวดน้ำบนโต๊ะกระจกใสขึ้นมาเปิดฝาแล้วบีบปากให้คยองซูกลืนน้ำที่เขาเทกรอกปากลงไป ชานยอลชอบใจที่เห็นคยองซูลำลักน้ำแทบเป็นแทบตาย
คยองซูรู้ดีว่ายาที่ถูกกรอกปากลงไปนั้นคือยาอะไรก็ตอนที่ร่างกายของเขาเริ่มร้อนวูบขึ้นมาอย่างกะทันหันหลังจากกินยานั้นลงไปเพียงไม่กี่นาที
“ ขอดีๆไม่ให้ก็คงต้องพึ่งยาแล้วละเมียจ๋า “ ชานยอลยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทีของคยองซูที่แดงเถือกขึ้นมา ไม่ต้องปล่อยให้ทรมานนานชานยอลก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มนั้นอย่างอารมณ์ดี คยองซูต้านทานแรงเร้าของอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ไหวก็เปิดปากออกให้อีกคนรุกล้ำเข้ามา
“ น่ารักอย่างนี้สิ พี่ชอบ “ คยองซูยกมือขึ้นกำลงบนโซฟาเมื่อร่างกายของตัวเองร้อนเหมือนตัวกำลังจะระเบิดออกจากกัน สิ่งที่คยองซูกำลังโหยหาก็คืออะไรบางอย่างที่เป็นสรรพคุณโดยตรงของยาตัวนี้
ชานยอลปล่อยมือออกจากสะโพกมนของคนตัวเล็กกว่าแล้วทรุดตัวลงไปนั่งกับโซฟา คยองซูแนบหน้าลงกับโต๊ะกระจกใสน้ำตาของคยองซูอาบนองหน้า เขารู้สึกทรมานแล้วต้องการชานยอลจนควบคุมสติตัวเองไม่อยู่ ยิ่งถูกกระทำความรู้สึกทรมานนี้ก็จะหายไป จนในที่สุดเมื่อหมดฤทธิ์ของยาร่างกายคยองซูก็ปวดร้าวขึ้นมาจนแทบไม่มีแรงจะยืน
เนื้อตัวที่ประปรายไปด้วยความต้องการของชานยอลถูกฝังลงตามผิวเนื้อนวลเนียน ความเหนื่อยล้าที่เขาถูกยัดเยียดมาด้วยความไม่เต็มใจกำลังค่อยๆกล่อมให้คยองซูฟุบหลับไปในที่สุด
ความเจ็บที่ใบหน้าอย่างแรงปลุกให้คยองซูสะดุ้งตัวตื่น ตัวเล็กลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าตัวเองนั้นสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วและกำลังนั่งอยู่ในรถโดยที่คนขับคือชานยอล
“ พี่จะทำอะไรผมอีก ผมกลัวแล้ว “ คยองซูพูดเสียงสั่นเทา
“ กูได้สิ่งที่กูอยากได้แล้ว กูจะปล่อยมึงกลับไป “ ดวงตากลมโตรื้นน้ำตาขึ้นมาเมื่อหันออกไปมองนอกกระจกก็เจอแต่ความมืดที่แอบแฝงตัวอยู่ตามซอยเปลี่ยวๆ
“ ที่นี่คือที่ไหน ? “
“ เดินไปอีกนิดหน่อยก็ถึงหอมึงแล้ว บุญแค่ไหนที่กูขับมาส่ง “ คยองซูหันไปเปิดประตูรถแต่ก็เปิดไม่ออก เขารู้สึกกลัวและรังเกียจชานยอลมากที่สุดเท่าที่เคยมีชีวิตอยู่มาถึงทุกวันนี้
“ ก่อนจะไปขอวัดฝีเท้ามึงหน่อยละกัน “
“ พี่จะทำอะไรผม “
“ ถ้ามึงวิ่งกลับหอมึงทันมึงก็อาจจะไม่โดนพวกวินรับจ้างรุมโทรม “ ชานยอลเปิดลิ้นชักรถแล้วหยิบซองที่บรรจุเม็ดยาน่ารังเกียจเอาไว้
“ ไม่นะครับ พี่ชานยอลได้โปรด “
“ เมื่อสองปีที่แล้วมึงยังวิ่งหนีจนกูตามแทบไม่ทัน คราวนี้มึงก็ทำแบบนั้นอีกซิคยองซู “ คยองซูส่ายหัวรัวในขณะที่ถูกมือหนากระชากผมแถวๆท้ายทอยให้ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ชานยอลกรอกยาจำนวนเท่าเดิมคือสามเม็ดลงในปากของคยองซูแล้วปิดจมูกคยองซูไว้ให้ขาดอากาศหายใจแล้วกลืนกินเม็ดยาลงสู่กระเพาะ
“ มึงทำชีวิตกูพัง กูจะทำให้มึงพังเหมือนกันกับกู “ ชานยอลปลดล็อครถแล้วเดินมาอีกฝากหนึ่งของรถแล้วจัดการเปิดประตูดึงตัวคยองซูให้ออกมาจากรถของเขา ชานยอลยิ้มอย่างน่ากลัวแล้วพูดถ้อยคำที่ดูไม่น่ากลัวแต่กลับชวนให้อยากร้องไห้มากที่สุด
“ ขอให้มึงโชคดี “ น้ำใสไหลออกมาจากรอบกรอบดวงตากลมโตอีกครั้ง คยองซูหันมองไปรอบด้านก็เห็นอย่างที่ชานยอลบอกคือทางข้างหน้าเป็นทางกลับหอของเขา ชานยอลเคลื่อนรถขับออกไปแล้วเหลือเพียงคยองซูที่ยืนหวาดกลัวอยู่ท่ามกลางความมืดมิด สองขาเล็กออกแรงวิ่งเพื่อกลับไปที่พักของเขาให้ถึงโดยเร็ว
คยองซูเริ่มตัวสั่นเทาเพราะยาน่าขยะแขยงนี้กำลังจะออกฤทธิ์ ยิ่งนึกถึงตอนที่เขาถูกพวกวินแซวว่าอยากนอนด้วยเขาก็ยิ่งกลัวว่าถ้าไปไม่ถึงหอพักเขาอาจะเจอเจอแบบที่ชานยอลพูดเอาไว้จริงๆ อยากจะกดโทรศัพท์หาแบคฮยอนแต่เขามันโง่เองที่ลืมเอาไว้แล้วยังโง่ยิ่งกว่าเดิมคือเชื่อจงอินมากกว่าแบคฮยอน
“ เห้ย นั่นเด็กหน้าขาวนี่หว่า ฮิ้วว “ เสียงหวีดแซวของพวกวินที่ยังทำงานกะดึกอยู่ดังขึ้นจนคยองซูน้ำตาไหลพราก เขาวิ่งฝืนความเจ็บปวดที่สะโพกของตัวเองอย่างไม่คิดชีวิต ที่พวกวินยังทำงานกันอยู่ก็เพราะว่านี่เพิ่งจะห้าทุ่มเท่านั้น มือเล็กกำเข้าหากันแน่นเมื่อร่างกายของเขาร้อนวูบขึ้นอีกรอบ คยองซูสะอื้นเสียงดังตลอดทางที่วิ่งมา ตึกสามชั้นข้างหน้านั่นทำให้คยองซูใจชื้นขึ้นมาบ้าง ก่อนจะได้ก้าวขึ้นบันไดตัวเล็กก็ทรุดลงกับพื้นก่อน
“ อืออ..” ความวูบโหวงที่ท้องทำให้เขาวิ่งขึ้นไปถึงชั้นสามไม่ไหว ยิ่งมือเล็กสัมผัสร่างกายตัวเองความร้อนก็ยิ่งพุ่งขึ้นสูง
“ อะ ..แบคฮยอน “ คยองซูพูดขึ้นเสียงแผ่วเบาก่อนที่จะรั้งกายตังเองขึ้นยืนอีกครั้ง เขาเดินเกาะขึ้นไปตามราวบันไดด้วยตัวที่สั่นเทาความรู้สึกเดิมที่เพิ่งเกิดขึ้นคือรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆย้อนกลับมาทำให้คยองซูทรุดตัวลงกับพื้นอีกครั้ง เสื้อผ้าชุดสีขาวสะอาดที่แบคฮยอนเป็นคนเลือกให้เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบดำที่เกิดจากการล้มลุกคลุกคลานของคยองซู
แบคฮยอนยังข่มตาให้หลับไม่ได้เพราะคยองซูยังไม่กลับมา เขาอยากจะโทรไปหาแต่ก็ไม่มีเบอร์ไหนที่สามารถติดต่อคยองซูได้เลยหนึ่งคือเพราะเจ้าตัวนั้นลืมโทรศัพท์ สองในเครื่องของคยองซูไม่ได้เมมเบอร์จงอินเอาไว้ เขาแอบน้อยใจอยู่นะที่คยองซูไม่ได้เมมชื่อเขาเอาไว้ในเครื่องแต่แบคฮยอนก็ไม่ได้เก็บมาคิดให้ปวดหัว นาฬิกายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆจนห้าทุ่มสิบห้านาทีแล้วคยองซูก็ยังไม่กลับมา
ตึง ตึง ตึง
แบคฮยอนสะดุ้งตัวขึ้นจากเตียงเพราะเสียงทุบประตู ดึกดื่นแล้วแทนที่จะเคาะรเรียกเบาๆแต่นี่กลับทุบมาสะดังลั่น แบคฮยอนลุกขึ้นไปเปิดประตูแล้วก็เห็นว่าเป็นคยองซู
“ แบคฮยอน ช่วยกูด้วย “ สภาพของคยองซูดูสกปรกจนแบคฮยอนตกใจ
“ คยองซูใครทำอะไรมึง “
“ กูร้อน “ คยองซูโถมตัวใส่แบคฮยอนจนเซหายกลับเข้าไปในห้อง แบคฮยอนกอดร่างของเพื่อนเอาไว้แล้วใช้เท้าถีบประตูห้องให้ปิดลง
“ มึงเมาหรอเนี่ย
“ เมื่อสบกับสายตากลมโตที่วิบวับผิดปกติแบคฮยอนเลยคิดว่าคยองซูคงดื่มเหล้าแน่ๆ แต่คยองซูกลับส่ายหัว เนื้อตัวของคยองซูสั่นเทาเหมือนคนกำลังจะลงแดง
“ แบค กูต้องการมึง “ จมูกเล็กไล่ไต่ลงที่ซอกคอของแบคฮยอน เจ้าตัวยืนนิ่งพร้อมกับกอดร่างคยองซูไว้อย่างเดิม นึกถึงอาการพวกนี้แบคฮยอนก็คิดได้อยู่อย่างเดียวว่าจงอินคงเอายาที่เกี่ยวกับเซ็กส์ให้คยองซูกินแน่ๆ
“ คยองซูทำไมมึงถึงไม่เชื่อกู “
“ ขอโทษ “ คยองซูดันอีกคนให้ติดกับกำแพงแล้วยื่นหน้าเข้าไปจูบแบคฮยอน เสียงครางหวิวจากลำคอคยองซูหลุดออกเป็นระยะ แบคฮยอนไม่ได้ปฏิเสธ เขาถอดเสื้อของคยองซูออกแล้วพลิกตัวคยองซูกลับมาชิดกำแพงแทน ในหัวของแบคฮยอนกำลังคิดวิธีอื่นที่พอจะช่วยคยองซูได้ เขาไม่ได้อยากจะแตะต้องตัวของคยองซูโดยที่เจ้าตัวกำลังถูกฤทธิ์ของยาอยู่แบบนี้ แล้วอีกอย่างคยองซูคือเพื่อนของเขา
“ อื้อ แบค..” คยองซูตัวอ่อนลงจนแบคฮยอนต้องรัดร่างอีกคนเอาไว้ไม่ให้ลื่นลงไปนอนกองกับพื้น แบคฮยอนจัดการลากตัวคยองซูให้เข้ามาในห้องน้ำ มือเรียวหมุนฝักบัวให้น้ำไหลแรงที่สุดแล้วดันคยองซูให้น้ำเย็นไหลอาบท่วมตัวของคยองซู ความเย็นทำให้คยองซูตัวสั่น
“ แบค กูหนาว “ แบคฮยอนกอดคยองซูเอาไว้กับตัวคยองซูพยายามตั้งสติให้ไม่ไหลไปกับฤทธิ์ของยานั่น แต่ทว่ายิ่งกอดก่ายแบคฮยอนเอาไว้เขาก็ยิ่งทรมานหนักว่าเดิมจนร้องครวญ
“ คยองซูมึงต้องอดทนนะ “ เมื่อตัวเล็กเริ่มจะไล่จูบเขาอีกครั้งแบคฮยอนก็พูดเตือนสติให้คยองซูฟัง แต่แล้วในที่สุดก็ต้องยอมให้คยองซูจูบเขาอีกจนได้ ทำไมในหนังเอาน้ำอาบให้นางเอกแล้วนางเอกหายบ้า แต่พอมาทำดูจริงๆน้ำกลับไม่ค่อยช่วยอะไรสักเท่าไร
“ จะช่วยมึงด้วยวิธีอื่นที่ดีกว่านี้มันไม่มีหรอวะ! ” คยองซูพอเริ่มถึงขีดสุดมากขึ้นก็ดึงให้แบคฮยอนตามออกมาที่เตียงนอน คยองซูปลดเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมดเพราะสติไม่เหลือพอที่จะรู้สึกอาย
“ แบคฮยอน ถอดออก “
“ คยองซูมึงตั้งสติหน่อยสิ “ ริมฝีปากร้อนทาบทับลงตามเสื้อของแบคฮยอน ก่อนจะเปิดเสื้อแบคฮยอนขึ้น ทันทีที่กลีบปากร้อนแตะเข้าที่หน้าท้องแบคฮยอนก็ขนลุกฮือ
“ แบคฮยอนช่วยกูด้วย “ คยองซูที่คร่อมอยู่ข้างบนเลื่อนจมูกขึ้นมาใกล้แล้วสบสายตาของแบคฮยอน สภาพใบหน้าบอบช้ำของคยองซูที่แบคฮยอนเพิ่งจะได้เห็นอย่างเต็มตา เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าคยองซูต้องไปเจอกับอะไรมา นิ้วเรียวยาวเกลี่ยน้ำตาให้ไหลออกจากพวงแก้มนิ่ม
“ กูก็อยากช่วยมึงนะแต่วิธีนี้มัน..“
“ แบคฮยอนกูทรมาน “ แบคฮยอนเม้มปากแล้วพลิกตัวคยองซูให้มาอยู่ด้านล่าง
“ ขอโทษนะคยองซู “ คยองซูพยักหน้าแล้วจากนั้นแบคฮยอนถึงได้ก้มตัวลงจูบกับริมฝีปากของอีกคน ตอนที่แบคฮยอนใช้นิ้วทาวาสลีนให้คยองซูเขาก็รู้สึกว่าปากของคยองซูนิ่มมากจริงๆ แต่เขายังไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันนี้จะได้ใช้ปากของตัวเองสัมผัสกับปากของคยองซูแบบนี้
ส่วนหนึ่งของการกระทำครึ่งหนึ่งเป็นเพราะสงสารเพื่อนแต่อีกครึ่งหนึ่งเป็นเพราะความต้องการของตัวเองที่ถูกปลุกขึ้นมา
“ แบคฮยอน..อื้ออ..”
.Cut.
เช้าขึ้นมาแบคฮยอนก็รู้สึกหนักที่ช่วงหลัง พอหันหน้ากลับไปดูก็พบว่าคยองซูนอนกอดเขาอยู่ นี่ตกลงเมื่อคืนใครเสียบใครกันแน่ แบคฮยอนค่อยๆแกะมือคยองซูออกจากตัวแล้วเขาก็ลุกขึ้นนั่ง ยังปวดเมื่อยอยู่บ้างเล็กน้อยเพราะคยองซูเพิ่งจะหมดแรงไปเมื่อตอนเกือบรุ่งสาง คยองซูคึกทั้งคืนแบบนี้ผลกรรมก็มาลงที่เขาคือต้องใช้แรงเยอะ ไอ้ยาเลวๆแบบนี้ใครเป็นคนคิดค้นขึ้นมานะ
แบคฮยอนหันไปมองคยองซูที่ร่างกายมีรอยต่างๆนาประดับไว้บนผิวขาวนวล แก้มนิ่มของคยองซูที่เขาฟัดไปหลายครั้งก็มีรอยช้ำเป็นวง ที่คอขาวก็มีรอยแดงที่เด่นชัด จริงๆแล้วรอยพวกนั้นมันควรจะจางหายไปตั้งนานแล้วถ้าเขาไม่ไปซ้ำรอยเดิมนั่นอีก
“ นอนให้ตายห่าไปเลยนะคยองซู มึงไม่ต้องตื่นขึ้นมาเป็นภาระกูอีก “ แบคฮยอนลุกเดินไปอาบน้ำทันทีที่พูดจบ คยองซูลืมตาขึ้นมาเมื่อเสียงปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น การรู้สึกตัวหลังหมดฤทธิ์ยานี่ช่างเป็นอะไรที่เจ็บปวดและทรมาน แต่เขาก็ยอมรับด้วยความเขินเลยว่าก็แอบรู้สึกดีอยู่บ้างเหมือนกัน นึกถึงหน้าแบคฮยอนตอนที่กำลังแดงจัดนั้นคยองซูแทบมุดตัวลงผ้าห่ม เห็นหน้ากันมาก็ตั้งนานไม่ยักรู้ว่ามีมุมร้อนๆแบบนี้ด้วย
“ คยองซูตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำ “ พักเดียวแบคฮยอนก็เดินออกมาพร้อมกับกลิ่นสบู่หอมโชย
“ ไม่เอา กูยังง่วงอยู่เลย “
“ ต่อไปมึงอย่าไว้ใจใครง่ายๆอีกนะ “ คยองซูครางรับเบาๆในลำคอ
“ อย่ามากระแดะร้องไห้นะคยองซู “ แบคฮยอนเอ็ดเสียงดังเมื่อเห็นว่าดวงตาคู่สวยของคยองซูกำลังคลอไปด้วยน้ำตา
“ ......... “
“ ต่อไปนี้มึงไม่ต้องกลัวนะ กูจะปกป้องมึงเอง “ แบคฮยอนนั่งลงข้างเตียงแล้วขยับตัวเข้าไปเช็ดน้ำตาออกให้คยองซู สภาพยับเยินขนาดนี้กว่าจะมาถึงมือเขาคยองซูคงผ่านศึกมาอย่างหนัก เออเชี่ย..มุกนี้ไม่ผ่าน
“ พูดยังกับเป็นผัวกูอย่างนั้นแหละ “
“ นี่ยังไม่เรียกว่าผัวอีกหรอ “
“ ไอ้เชี่ยแบค! ”
“ มึงจะแหกปากหาเหี้ยอะไรเนี่ย“
“ ก็มึงอะ “
“ ก็กูทำไมครับคุณคยองซู “
“ ไอ้บ้า “ ไม่อยากจะคิดหรอกว่าคยองซูกำลังเขินแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะคิดแบบนั้นเมื่อพวงแก้มนิ่มเริ่มซับสีเลือดขึ้นมา
“ นี่อย่าบอกนะว่ามึงเขินกูอะ “
“ เปล่า กูไม่ได้เขินกูแค่ร้อน “ แบคฮยอนถดตัวหนี
“ เหย นี่มึงร้อนอีกแล้วหรอ กูไม่มีอารมณ์จะมาเอากับมึงตอนเช้าตรู่แบบนี้นะเว้ย “
“ ไอ้แบคฮยอน ไอ้เพื่อนเหี้ย ไปเลยนะมึงจะไปไหนก็ไปเลย !!”
“ กูไปแล้วอย่ามาร้องเรียกหากูแบบเมื่อคืนนะ “ เขารู้ดีว่ามันเป็นเรื่องตลกร้ายที่ไม่ควรเอามาล้อกันเล่นแบบนี้เกิดคยองซูสะเทือนใจที่ถูกหลอกไปซั่มถึงที่แล้วเกิดมีอารมณ์อยากฆ่าตัวตายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ แต่ก็นะเห็นคยองซูกำผ้าห่มแน่นแบบนั้นเขาก็อยากจะแซวให้คยองซูเขินเล่น แต่ถ้าคยองซูเขินจริงๆมันคงไม่ด่าเขาซะยับเยินขนาดนี้หรอก
“ นี่คยองซูกูถามจริงๆนะ มึงไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเพลียบ้างหรอแหกปากอยู่ได้ “
“ กูเจ็บ แต่กูไม่เหนื่อย “ อ๋อใช่สิก็มึงอยู่ข้างล่างนี่
“ ร่างกายมึงดูจะชอบเวลาที่โดนเอาแรงๆสินะ “
“ นี่มึงเอาอะไรมาพูดเนี่ย !!! “
“ กูรู้ กูศึกษามาเยอะ “ แบคฮยอนยิ้มกริ่ม คยองซูเห็นแบบนั้นก็เลยเอื้อมมือไปหยิบหมีบนที่นอนมาฟาดใส่จนอีกคนต้องยกมือขึ้นมาป้องไว้
“ นี่มึงไม่ได้นอนกับใครมานานแล้วหรอคยองซู “ เขาถาม
“ กูก็นอนกับมึงอยู่ทุกวันนี่ไง “
“ ไม่ใช่ กูหมายถึงเอ่อ..”
“ ยังไม่เคยมีใครทำอะไรกูทั้งนั้นแหละนอกจากไอ้ชั่วนั่นกับมึง “
“ อ้าว กูมีเอี่ยวด้วยหรอวะ “
“ มึงได้กูแล้วมึงจะทิ้งหรอ! ” แบคฮยอนหัวเราะ คยองซูก็พูดจาประหลาดเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เกิดจากความเต็มใจสักหน่อย
“ เมื่อคืนมึงนั่นแหละไล่ปล้ำกู กูเกือบเสียตัวให้มึงแล้วนะถ้าไม่เอามึงไว้ด้านล่างอะ “
“ มึงเลิกพูดถึงเรื่องนี้สักทีเถอะ กูก็ชักจะเสียใจแล้วนะ “ จริงๆก็ควรจะเสียใจตั้งนานแล้วละไม่ใช่มานอนต่อปากต่อคำกับแบคฮยอนแบบนี้ แต่ก็คิดว่าคยองซูคงเข้มแข็งน่าดูที่ไม่ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนอื่นๆ สติเท่านั้นที่จะทำให้คนเราเลิกฟุ้งซ่าน
“ ไปเรียนไหวไหม ? แดกยารึยัง ? “
“ หายาให้กูกินหน่อยกูเจ็บ “
“ ยาอะไรละ ? “
“ ยาแก้ไอมั้งไอสัด “
“ เดี๋ยวมึงได้แดกตีนกูก่อน รอกูแป๊บนึงละกัน “ แบคฮยอนพูดด้วยความหมั่นไส้นิดๆจะขอความช่วยเหลือก็ช่วยพูดจาให้มันไพเราะเสนาะหูกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้...
โปรดติดตาม
PS. ใครมีปัญหากับฟ้อนต์ ใครมีปัญหากับสกินบอกได้นะ
จะจัดการเปลี่ยนให้อย่างเร่งด่วน :D
" บางครั้งความเงียบก็เป็นการปลอบใจที่ดีที่สุด "
ความคิดเห็น