sky rider car

เนื้อเรื่อง

            นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงนิยายวิทยาศาสตร์ที่ส่งในวิชาวิทยาศาสตร์เท่านั้น
ขอขอบคุณน้องเเหนม สำหรับเนื้อเรื่อง   เอลลี่จัง (คนพิมนี่เเหละ) สำหรับพลอตเรื่องนอกนั้นก็ไม่รุเเล้วอ่านกันให้สนุกนะ 
---------------------------------------------
                    

มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่า  "ฟิล์ม" ครอบครัวของเขามีอาชีพขายรถเเละซ่อมรถฟิล์มมีเพื่อนบ้านชื่อ"บีม" พ่อเเม่ของบีมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ฟิล์มมีความสามารถในการออกเเบบสิ่งของต่างๆทั้ง2คนเคยคิดที่จะประดิษฐ์อะไรใหม่ๆมากมายหลายอย่าเเต่ไม่เคยสำเร็จสักทีเขาทั้ง2พยามคิดเเล้วคิดอีกเพื่อที่จะได้มีชื่อเสียงโด่งดังในอนาคตข้างหน้า
                 วันหนึ่งขณะที่ฟิล์มเเละบีมออกมาเดินเล่นด้วยกันฟิล์มได้เอ่ยถามว่า"นี่บีมเรามาประดิษฐ์หุ่นยนต์เเปลกๆดีไหมหรือว่าไทม์เเมชชีนดีละเหมือนในโดรเรม่อนไงน่ารักดีนะ"เเต่บีมไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้"เเต่..........ฉันว่าไม่ดีหรอก อืม..........บ้านของนายขายรถส่วนบ้านของฉันมีพ่อเเม่เป็นนักวิทยาศาสตร์งั้นเรามาสร้าง.............."เขาทั้ง2ก็พูดพร้อมกันว่า  "รถบินได้"  ฟิล์มเเละบีมดีใจมากเขาคิดว่าจะต้องทำให้สำเร็จอย่างเเน่นอน

                เย็นของวันต่อมา ฟิล์มได้ไปที่บ้านของบีมโดยนำอุปกรณ์และวัสดุเหลือใช้จากการซ่อมรถมาด้วย ”เราไปทำกันในโรงจอดรถดีกว่า” (ขอร้องอย่าคิดลึก) บีมชักชวนเพื่อนของตน เมื่อทั้ง2คนมาถึงโรงรถฟิล์มก็วางอุปกรณ์ทั้งหมดลงบนโต๊ะเล็กๆบริเวณมุมของโรงจอดรถฟิล์มเริ่มวาดรูปออกแบบรถส่วนบีมก็จัดการแยกประเภทของอุปกรณ์ทั้งหมด “บีมมาดูนี่สิเป็นอย่างไรบ้างฝีมือซะอย่าง “ ฟิล์มพูดชมโอ้อวดผลงานการออกแบบของตนเอง และคู่หู 2 คนนี้ก็เริ่มสร้างสรรค์ผลงานออกมาเขาทำกันทั้งคืน(ข้อร้องละอย่าคิด)

                จะกระทั้งรุ่งเช้า(เค้าเหนื่อยกันมา(ล้อเล่นๆ)) วันต่อมาบีมพบฟิล์มอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับลากฟิล์มให้ไปที่บ้านของตนโดนด่วน “ โอ้โห สวยมากๆเลยล่ะ”ฟิล์มเห็นแล้วต้องตกตะลึงเพราะสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือ รถคันหนึ่งที่ตกแต่งอย่างดี แต่บีมบอกไว้ว่ามันเป็นแค่รูปภายนอก ตัวเครื่องยนต์ยังไม่ได้ใส่เข้าไปเลยยังใช้การไม่ได้ “ วันนี้เราเอาอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมมาด้วยรวมถึงใบพัดที่ช่วยในการบินด้วยน่ะ “ ฟิล์มพูดแล้ววางถุงใส่อุปกรณ์ซึ่งเยอะมากๆๆ เขาหยิบไขควงขนาดพอดีมือออกมาแล้วปรับปรุงตัวเครื่องให้ดีกว่าเดิม สักพักบีมก็ได้ทักขึ้นมาว่า “ งั้นเราลองไปขับกันดูดีไหม “ แต่ฟิล์มยังรู้สึกผวาอยู่บ้างเพราะกลัวว่ารถอาจจะพังขึ้นมาในขณะที่ใช้งานอยู่ แต่บีมก็ยังไม่ยอมแพ้ยังอยากจะลองดูบีมก็เลยขึ้นไปบนรถแล้วเริ่มหมุนกุญแจ “ หวังว่าคงจะดีน่ะ “ บีมพูดแล้วขับออกไป รถเริ่มเคลื่อนไปเรื่อยๆเริ่มกางปีกออกอย่างสง่าผ่าเผยรถออกตัวบินขึ้นสูงไปเรื่อยๆแต่....มันกลับขึ้นสูงบ้างต่ำบ้างและก็   โครม!! (ตกลงมาอย่างไม่ค่อยสวยงามนัก)สภาพยังดีอยู่ บีมรีบเปิดประตูออกจากรถแล้วพูดว่า”เอ่อ...คงต้องปรับปรุงเพิ่มแล้วล่ะ งั้นเราทำออกไปนอกจักวาลด้วยดีไหมล่ะ” แต่ฟิล์มกลับตอบว่า “ของให้บินอยู่บนท้องฟ้าดีๆก่อนแล้วกันแล้วค่อยคิดกันใหม่” บีมเรียกพ่อให้ออกมาช่วยซ่อมแซมบางส่วน ฟิล์มเสนอว่า”ควรประหยังพลังงานในการใช้ด้วยน่ะ”แล้วเขาก็กลับบ้านไป

                ปี๊น....ปี๊น....เสียงแตรรถดังขึ้นในเช้ามืดของวันต่อมา แต่ฟิล์มร็สึกว่าเสีงนั้นมันช่างใกล้เหลือเกิน เขาเปิดไฟในห้องนอนและมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็พบ.....รถคันนั้นลอยอยู่ข้างหน้าต่างห้อง “ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ย” ฟิล์มหยิกแขนตัวเองเพื่อให้แน่ใจ จริงๆด้วยเราทำสำเร็จแล้ว “รีบขึ้นมาสิจะได้ไปลองขับรถคันใหม่ดูกัน” ฟิล์มรีบเปิดประตูเข้าไปข้างใน แล้วเขาก็ร้องออกมา “ช่างวิเศษมากแล้วเราจะตั้งชื่อว่าอะไรดีล่ะ อืมม...สกาย คาร์ ดีไหมล่ะ” ฟิล์มออกความคิด “แต่ฉันว่า เอาเป็น...อื...สกาย ไรเดอร์คาร์ ดีกว่าชื่อเท่ดี” บีมเสนอความคิดของตนเอง... “ตกลงไปกันเถอะสกาย ไรเดอร์คาร์ไปท่องเที่ยวด้วยกัน” แล้วทั้งฟิล์มและบีมก็ขีบ(ขับ)รถคันนั้นไปเรื่อยๆ...

(( - 3 ปีผ่านไป - ))

                ตอนนี้รถในนาม ”Sky Rider Car” ได้เห็นอยู่ทุกพื้นที่บนโลกผ็คนส่วนใหญ่พอใจกับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้มากเพราะทำใหเดินทางสะดวก และยังประหยัดพลังงานอีกด้วยตอนนี้ ฟิล์ม และ บีม ได้มีชื่อเสียงโด่งดังก้องโลกแล้ว “เพราะความคิดของเรา2คนไงล่ะ” บีมกล่าวกับฟิล์ม