คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 อยากได้...รีไรท์
ตอนที่ 2
สายๆของวันต่อมา “โอ๊ยย... นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ยะ
ทำไมริมาถึงไม่มาปลุกนะ” เอลดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน
พลันสายตาของเขาเหลือบไปเห็นขาของใครคนหนึ่งโผ่ลพ้นผ้าห่มนอนอยู่ข้างกาย
“เฮ้ย! ใคร! ริมาเหรอ” เอลเริ่มรู้สึกตัวหันไปมองรอบๆ
ห้อง แล้วจึงสบทออกมาอย่างอารมณ์เสีย
“ฮึ่ย! จนได้สิน่า
ป่านนี้ริมาจะเป็นไงบ้างนะ” พอหัวสมองลำดับเรื่องราวได้แล้ว
เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยร่างกายที่เปล่าเปลือย
เปิดฝักบัวปล่อยให้น้ำเย็นไหลมาชำระร่างกาย
สักครู่จึงเดินออกมาแต่งตัวในชุดเดิมที่เขาใส่ออกมาเมื่อคืน
เทย่าที่นอนมองคู่นอนหมาดๆ
แต่งตัวอย่างอดไม่ได้ที่จะปริปากทักท้วงเขา “คุณจะไม่จูบลาฉันซักหน่อยหรือคะเอล” เทย่าส่งสายตาหวานๆ
ให้เอลที่กำลังแต่งตัวอยู่ที่หน้ากระจก
“ทำไมผมจะไม่จูบลาตัวนำโชคของผมล่ะ
...จุ๊บ... แล้วเจอกันคืนนี้ที่เดิมนะครับ” เอลกดจูบและหอมแก้มคู่นอนแล้วเดินออกไป
เทย่าคว้าโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียงมากดโทรหานายจ้างของเธอทันทีที่เอลก้าวพ้นประตูห้องไป
“ทุกอย่างเรียบร้อยค่ะ
คืนนี้เขานัดที่เดิม ได้ค่ะมือชั้นนี้ไม่พลาดอยู่แล้ว
ครั้งนี้เทย่าขอเยอะกว่าครั้งก่อนหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ” เทย่ากดปิดโทรศัพท์แล้วโยนไว้ข้างๆ
กาย เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ได้ทั้งเงินค่าจ้างราคางาม
ไหนจะได้เงินจากกาสิโนอีกและที่สำคัญได้อิ่มเอมรสสวาท
จากหนุ่มหล่อที่ปรนเปรอเธออย่างเต็มอิ่ม คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
เธอนอนยิ้มและหัวเราะร่าออกมาอย่างมีความสุข
ทางด้านชาริมา
เธอนั่งรอเอลคนรักที่โซฟาจนเผลอหลับไป
ชาริมาลืมตาตื่นเมื่อแสงแดดจากนอกหน้าต่างส่องมากระทบกับใบหน้างามของเธอ
“เช้าแล้วเอลกลับมารึยังนะ
ลองไปดูซักหน่อยดีกว่า” ชาริมาลุกเดินไปที่ห้องของเอลคนรักและเคาะเบาๆ
ที่ประตูห้อง
ก๊อก
ก๊อก “เอล เอลคะ
คุณตื่นรึยังคะ เอล” ชาริมายืนนิ่งฟังสักครู่
ก็ไม่ได้ยินเสียงของชายคนรัก เธอจึงเอามือคว้าลูกบิดเปิดประตูเข้าไปมองหาเอลคนรัก
ชาริมาเดินไปที่ห้องน้ำก็ไม่มีเขา เธอเดินมาหยุดอยู่ที่เตียงนอนของเขา
ผ้าปูดูตึงเรียบไม่มีรอยยับยู่ยี่เหมือนทุกๆ เช้าที่เธอต้องเข้ามาจัด
เสื้อผ้าในตระกร้าก็ไม่มีชุดนอนที่ใส่แล้ว
งั้นเมื่อคืนเขาก็ไม่ได้กลับมานอนสินะ ชาริมาถอนหายใจแล้วเดินออกมาจากห้องของคนรัก
นี่เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนแล้วมั๊ง
ที่เอลทิ้งให้เธอต้องอยู่เพียงลำพังอย่างนี้ โดยเฉพาะช่วงหลังๆ
เอลไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เกือบจะแทบทุกคืน แต่ชาริมาก็ไม่นึกโกรธเขา
เพราะเอลจะเอางานมาอ้างเสมอๆ และเพื่ออนาคตของเขาและเธอ
ชาริมาจึงต้องทนอยู่อย่างนี้ เพราะเธอมีเขาเป็นที่พึ่งเพียงคนเดียว
แม่ของชาริมาพาเธออพยพมาที่แคนนาดาตั้งแต่เธอยังเล็กๆ
ตั้งแต่จำความได้ชาริมาก็มีแต่แม่นี่แหละที่เลี้ยงดูเธอมาตลอด จนเมื่อเธออายุ18 ปี แม่ก็มาจากเธอไปด้วยโรคร้าย
ชาริมาจึงต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิตเพียงลำพัง จวบจนมาเจอกับเอลชายคนรัก
ที่ชาริมาหวังให้เป็นที่พึ่ง
ช่วงก่อนๆ
เอลดูแลเธอดีมาก เขาเอาใจใส่เธอไม่ขาด แต่มาช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมา เอลดูแปลกๆ
ไป เขาเริ่มเที่ยวกลางคืน
และเริ่มมีความลับ ทุกครั้งที่มีโทรศัพท์เข้ามา เขาจะต้องลุกเดินหนีออกไปทันที
ชาริมาก็ได้แต่สงสัย เพราะเธอไม่กล้าที่จะถามเขา
แต่เอลก็เอาเรื่องงานมาอ้างทุกครั้ง
“เจ้านายโทรมาจ้ะ
ผมก็ต้องไปริมาเข้าใจผมหน่อยนะ ที่ผมทำงานหนักก็เพื่ออนาคตของเราไงจ๊ะ” ชาริมาจะใจอ่อนทุกครั้งที่เอลบอกกับเธอแบบนี้
ชาริมาเดินกลับมาที่ห้องของตัวเอง
เธอเดินไปหยิบชุดคลุมแล้วเดินเข้าห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จเรียบร้อย
จึงเดินออกมาแต่งตัวเตรียมตัวไปทำงาน แล้วเดินออกมาจากห้องของตัวเอง
ก็เห็นแซนวิชสองสามชิ้นและนมแก้วใหญ่วางอยู่บนโต๊ะ ชาริมารู้ทันทีว่าคนรักกลับมาแล้ว
เอลเดินถือถ้วยกาแฟออกมาจากในครัวแล้งส่งยิ้มหวานมาให้เธอ
“ริมาผมเตรียมอาหารให้คุณด้วยนะ
มานั่งทานได้แล้วเร็ว เดี๋ยวสายนะครับ
ถ้าริมาทานเสร็จผมจะเดินไปส่งริมาถึงร้านเลยเอ้า”
เอลเดินไปคว้าแขนของชาริมา
แล้วพาเธอมานั่งที่โต๊ะอาหาร ชาริมามองการกระทำของเขาและหันไปมองหน้าคนรัก
“เมื่อคืนเราสังสรรค์กันดึกไปหน่อยและมันไกลมากถ้าจะกลับมาที่คอนโด
ผมก็เลยนอนที่คอนโดของเพื่อนผม ผมรู้ ว่าริมาจะต้องห่วงผม
แต่ที่ไม่ได้รับโทรศัพท์ก็เพราะ ผมลืมไว้ที่คอนโดของเพื่อน
และเราก็กลับมาถึงดึกมากแล้ว เลยไม่ได้โทรมาบอกริมา พอตื่นเช้าผมก็รีบมานี่แหละ
ริมามีอะไรจะถามผมอีกมั๊ย” เอลหันมาจ้องหน้าหญิงคนรัก
หลังจากเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดจบลง เขารู้ว่าชาริมาจะต้องถามเขาแน่ๆ
เขาเลยต้องทำเสียงเข้มใส่ และมันก็ได้ผล
“ไม่ค่ะ ริมาเข้าใจค่ะ” ชาริมาตอบเอลเพียงเท่านี้แล้วยิ้มเจื่อนๆ
ก้มหน้าทานอาหารที่เขาจัดเตรียมไว้ให้
เพราะถ้าขืนเธอยังดึงดันที่จะถามซักไซ้ไม่รู้จบ
เอลจะต้องโมโหและอาละวาดใส่เธออีกแน่ๆ
การยอมเงียบจึงเป็นการกระทำที่ดีที่สุดในเวลานี้
ทานอาหารเสร็จชาริมาลุกเตรียมตัวไปทำงาน
“คุณไม่ต้องไปส่งริมาก็ได้ค่ะ
ริมาเดินไปเองได้ แค่นี้เอง คุณคงยังนอนไม่พอ คุณไปพักผ่อนเถอะค่ะ” ชาริมาบอกเขาปนเสียงของความน้อยใจแล้วรีบสาวเท้าเดินออกจากห้องไป
เอลมองคนรักที่เดินออกไปด้วยหางตา
เขารู้ว่าเธอจะต้องโกรธและน้อยใจ แต่เดี๋ยวตอนเย็น
เธอก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมเอง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเป็นแบบนี้
เอลลุกเดินเข้าห้องของตัวเองและล้มตัวนอนบนเตียงหลับตาลง
ในใจก็ครุ่นคิดถึงเรื่องหนี้สินอันล้นพ้น
‘สองล้านดอลล่าร์ จะหาได้ที่ไหนวะ’
ชาริมาเดินมาถึงหน้าร้านหนังสือที่เธอทำงานอยู่
เธอรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพื่อที่เพื่อนร่วมงานจะได้ไม่สงสัย
“สวัสดีค่ะทุกๆ คน” ชาริมาร้องทักทายออกไปเหมือนที่เธอทำประจำทุกๆ
วัน
“อ้าวริมา
มาแล้วเหรอจ๊ะ เมื่อกี๊พี่ได้ยินคุณเฮเลนถามหาอยู่นะ รีบๆ ไปหาเธอเถอะ
ขืนช้าจะโดนดุเอา”
“ค่ะ” ชาริมารับคำแล้วรีบเดินไปที่ห้องผู้จัดการโดยด่วน
“ก๊อก ก๊อก ริมาเองค่ะ”
“เข้ามาสิจ๊ะ”
“ริมาวันนี้จะมีโรงพิมพ์เอาหนังสือมาส่งนะ
พี่อยากให้ริมาช่วยตรวจสอบและเอาไปจัดเรียงให้หน่อย เพราะคนอื่นทำแล้วไม่เรียบร้อย
ฝากด้วยนะจ๊ะ” ผู้จัดการสาวสั่งงานเสร็จแล้วก็เดินกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะ
ชาริมาเดินกลับออกมาจากห้องของผู้จัดการ
ในมือถือกระดาษใบสั่งงานเอาไว้ เธอเดินไปหยุดที่เคาเตอร์ที่ประจำของเธอ
ยืนจัดโน่นนี่สักพัก เพื่อนร่วมงานก็เดินมาบอกว่ารถของโรงพิมพ์มาส่งหนังสือแล้ว
ชาริมาจึงหยิบกระดาษสั่งงานแล้วเดินออกไปต้อนรับทันที
หลังจากที่เธอเอาหนังสือมาจัดเรียงบาร์โค๊ดเสร็จ
ก็เหลือแต่เอาไปเก็บเรียงที่ชั้นวางเท่านั้น ชาริมายืนบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยล้าและขนหนังสือกองโตไปจัดเรียงตามชั้นขายหนังสือ
“ร้านนี้แหละครับคุณเฮคเตอร์
ที่เธอทำงานอยู่” ลูซิโอ้รายงานเจ้านายเมื่อรถจอดตรงหน้าร้านที่ชาริมาทำงานอยู่
“รออยู่ตรงนี้ก่อน
เดี๋ยวฉันมา” เฮคเตอร์สั่งลูกน้องแล้วเดินเข้าไปในร้านหนังสือ
เฮคเตอร์สอดสายตามองหาชาริมาหญิงสาวที่เขาอยากพบ มองหาไปทั่วๆ ร้าน
แต่ก็ไม่เห็นเธอ จนเมื่อเขาเดินออกมาจากชั้นหนังสือ
ก็ถูกหนังสือลอยได้ชนเข้าอย่างจัง “โครม! โอ๊ย!”
“เป็นอะไรรึเปล่าคุณ” เฮคเตอร์รีบเข้าไปช่วยพนักงานหญิงที่โดนกองหนังสือทับ
เขาพยุงตัวเธอขึ้นมา จนเห็นใบหน้างามที่เขากำลังตามหา เฮคเตอร์ตกตะลึงเล็กน้อย
เพราะไม่คิดว่าจะได้ใกล้ชิดตัวเธอมากขนาดนี้
“อูยยย... ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ
ว่าแต่คุณเถอะเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า” ชาริมารีบเบี่ยงตัวเองออกจากอ้อมแขนของเขาทันทีที่เธอลุกขึ้นมายืนทรงตัวเองได้
“ผมไม่เป็นอะไรหรอก
ไม่ได้โดนหนังสือทับ ยังปลอดภัยดี” เฮคเตอร์พูดจาติดตลก
เขายิ้มนิดๆ มุมปาก
“ขอโทษด้วยนะคะฉันไม่ทันได้ดูทาง
เห็นว่ายังเช้าอยู่ไม่คิดว่าจะมีลูกค้า” ชาริมากล่าวขอโทษและก้มตัวเล็กน้อย
เธอยิ้มหวานๆ ให้เขาในฐานะลูกค้าของร้าน
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ถืออะไร
มาผมจะช่วยคุณเก็บ” เฮคเตอร์ช่วยชาริมาเก็บหนังสือมาเรียงๆ
ไว้ เขาลอบสังเกตหน้าตาของหญิงสาว เธอมีดวงตาหวานสีน้ำตาลอ่อน
จมูกโด่งรับกับใบหน้า ริมฝีปากที่อวบอิ่มแดงระเรื่อจนน่าสัมผัส แก้มขาวนวลเนียน
น่ากดจูบเป็นที่สุด เฮคเตอร์จ้องมองหญิงสาว จนเธอต้องหลบหน้าด้วยอายสายตาของเขา
“ขอหนังสือด้วยค่ะ” ชาริมายื่นมือมาจับหนังสือที่มือของเฮคเตอร์
เขาได้โอกาสจึงจับมือของชาริมาและกุมเอาไว้แบบนั้น จนหญิงสาวอาย รีบดึงมือกลับ
“นี่ครับหนังสือของคุณ”เฮคเตอร์ยิ้มและเอาหนังสือในมือคืนให้เธอ
“ขอบคุณค่ะคุณลูกค้า” ชาริมารับหนังสือมาแล้วยิ้มหวานๆ
ให้กับเขาทำให้เฮคเตอร์ถึงกับยืนตะลึงมองตามชาริมาจนเธอเดินลับตาไป
เขาจึงเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าร้าน
ตลอดทางเฮคเตอร์นั่งยิ้ม
นึกถึงเจ้าของใบหน้างาม และเสียงหวานๆ ของเธอ
เขาตกหลุมรักเธออย่างเต็มหัวใจแล้วสินะ แต่เธอมีเจ้าของแล้วนี่สิ! เฮคเตอร์หันไปหาลูกน้องคนสนิท
เขานึกอะไรบางอย่างได้จึงรีบสั่งการลูกน้องทันที
“ลูซิโอ้
บอกเทย่าให้เริ่มจัดการได้เลย ฉันให้เวลา 1 อาทิตย์
ฉันต้องได้ตัว ชาริมา มาเป็นของฉัน! และถ้า
1 อาทิตย์หล่อนยังทำไม่ได้ก็เตรียมตัวออกจากแคนนาดาได้เลย!” เฮคเตอร์สั่งลูกน้องเสียงเข้ม
แล้วหันไปมองวิวด้านนอก นึกถึงแต่หน้าหวานๆ ของชาริมา
“ครับ คุณเฮคเตอร์”
..............................................................................................
ความคิดเห็น