[Fic yaoi GOT7] Triangle {JacksonxBambamxMark} - [Fic yaoi GOT7] Triangle {JacksonxBambamxMark} นิยาย [Fic yaoi GOT7] Triangle {JacksonxBambamxMark} : Dek-D.com - Writer

    [Fic yaoi GOT7] Triangle {JacksonxBambamxMark}

    ในเมื่อความรักไม่ใช่แค่สองกลับเป็นสาม คนที่รักสองคนจะยอมแบ่งครึ่งคนรักของตัวเองหรือเปล่า?

    ผู้เข้าชมรวม

    5,064

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    24

    ผู้เข้าชมรวม


    5.06K

    ความคิดเห็น


    20

    คนติดตาม


    34
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ม.ค. 57 / 05:22 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

     Triangle


     

    Jackson x Bambam x Mark


    ในเมื่อความรักไม่ใช่เพื่อนแค่สอง

    คนสามคนจะทนได้ไหม?

    หรือจะเป็นฝ่ายที่จะจากไปเสียเอง...

    Thank



    Minor!
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


       Triangle

       

       

      เขาบอกว่าผมเหมือนฤดูฝน ที่ชุ่มช่ำ ฝนที่ช่วยชโลมจิตใจให้แก่เขา


                  “แบม...”ผมปลุกคนนอนหลับอย่างนุ่มนวล มือหนาของผมก็อดเกลี่ยผมที่ปิดใบหน้าน่ารักแกมหยอกล้อ

                  “แบมแบม...”ผมกระซิบเรียกชื่อคนนอนหลับอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีวี่แววจะตื่น

                  “นี่...”ผมลากเสียงยาน “ถ้าแบมแบมไม่ตื่น ผมจะลวมลามแบมแบมแล้วนะ”

                  ผมไม่รู้ว่าคำพูดของผมไปรบกวนโสตประสาทส่วนไหนของคนเพิ่งตื่นหรือเปล่า หรือเจ้าตัวอาจจะตั้งโปรแกรมไว้ก็ได้ว่าคำนี้มันเป็นอันตราย

                  “ปลุกแต่เช้า”คนเพิ่งตื่นพึมพำด้วยท่าทางงัวเงีย น่ารักสุดๆ

                  “วันนี้เขาเปลี่ยนเวลานิดหน่อยน่ะ แล้วอยากได้มอร์นิ่งคิสปลุกไหมล่ะครับ? เพื่อจะได้ตื่นเต็มตาไง”ผมยิ้มมุมปาก

                  “ออกไปเลยไป๊มาร์ค เดี๋ยวไปตามไป”แบมแบมทำท่าทางบ่งบอกว่าขนลุกกับคำพูดของผมมากแค่ไหน ร่างบางจัดแจงเอาของจะเข้าไปอาบน้ำ

                  “ไม่อ่ะ ผมอยากรอตรงนี้”

                  “ตามสบาย”ร่างบางพูดจบก็เข้าไปอาบน้ำทันที เจ้าตัวไม่ปฎิเสธผมสักนิด...อาจจะเป็นเพราะรู้ว่าห้ามผมไม่ได้ ผมลุกขึ้นไปยังกล่องๆนึงแล้วหยิบขนมซองสีแดงมาฉีกซองทันที เบนโตะ...มันคือขนมจากเมืองไทย ที่ผมคิดว่ามันอร่อยมากเลยล่ะ ขโมยขนมกินไม่พอ ยังอดนึกถึงเจ้าของขนมไม่ได้ ผมยังจำได้...ยังจำได้แม่น

                  ผมออดิชั่นเข้ามาเจวายพี ถึงผมจะอายุมากกว่าแบมแบมก็เถอะ แต่สำหรับการเป็นเด็กฝึกคนอายุน้อยกว่าอย่างแบมแบมกลับเป็นรุ่นพี่ แถมยังฝากฝังให้เจ้าตัวดูแลผมเสียอีก ใบหน้าบึ้งตึงทำเป็นเข้มทำให้ผมอดยิ้มในใจไม่ได้ เจ้าตัวไม่รู้หรอก ว่าใบหน้าของตนเองทำท่าดุแค่ไหนก็คงไม่มีใครคิดจะกลัว สำหรับผมมันคิดว่าน่ารักมากกว่าเสียด้วยซ้ำ

                  แบมแบมน่ะเก๊กเป็นรุ่นพี่ได้ไม่นานหรอก เจ้าตัวก็หลุดยิ้มออกมา เป็นคนอัธยาศัยดีอีก ก็เข้ากับผมได้อย่างรวดเร็ว แถมเจ้าตัวก็เพื่อนเยอะ พลอยทำให้ผมมีเพื่อนไปด้วย แต่ยังไงแบมแบมก็ถือเป็นเพื่อนสนิทของผมที่สุดคนหนึ่งเสมอ

                  จะถามว่าความรู้สึกผมมันเปลี่ยนไปตอนไหนน่ะหรอ? ก็ตอนที่แจ็คสันเข้ามานั้นแหละ แจ็คสันไม่ได้ผิดหรอกครับ บางทีผมก็ควรจะขอบคุณมันด้วยซ้ำที่ทำให้ผมรู้จักตัวเอง แต่ก็นะ...เรื่องระหว่างของเรามันพูดยาก...

                  ครั้งแรกผมคิดว่าความรู้สึกของผมมันก็แค่เพื่อนที่อยากปกป้องเพื่อนก็เท่านั้น หรือไม่ก็แค่หวงเพื่อน หวงว่าแบมแบมจะสนิทกับใครมากกว่าผม แต่จริงๆไม่จริงเลย ผมนะ...ชอบแบมแบมมาตั้งนานโดยไม่รู้ตัวต่างหาก

                  “มาร์ค! ขโมยอีกแล้วนะ”แบมแบมเข้ามาพร้อมน้ำเสียงดุ

                  “ก็อยากกินนี่นา แบมแบมไม่อยู่ เปิดห้องน้ำไปขออนุญาตก็ไม่ใช่ใช่ปะ”ผมยิ้มสู้แม้ว่าในมือจะมีหลักฐานอยู่ก็ตาม

                  “ก็ไม่ได้หวงของ ก็รู้นิว่าไม่มีให้กินทุกวัน”น้ำเสียงของแบมแบมอ่อนลง

                  “เอาเถอะ เดี๋ยวผมก็เลี้ยงข้าวแทนไง ไม่ดีหรอ?”ผมเสนอ

                  “เอาเถอะ จะทำอะไรก็ทำ”แบมแบมพูดอย่างเหนื่อยใจ “ไปหรือยังมาร์ค มาปลุกไม่ให้ไปสาย เดี๋ยวจะไปสายเองนะ”

                  ผมสะพายเป้ลุกขึ้นเดินนำออกไป ก่อนจะรอให้แบมแบมล็อคห้องแล้วเดินตามหลัง

                  “หวัดดี”ผมขมวดคิ้วนิดหน่อยเมื่อเห็นใครยืนอยู่ข้างล่าง มันคิดไงมารับแบมแบม...

                  “วันนี้ลมอะไรหอบมา”แบมแบมมองแจ็คสันอย่างไม่ไว้ใจ

                  “ลมคิดถึงครับ”แจ็คสันฉีกยิ้มกว้าง

                  “อยากจะอ้วก”แบมแบมทำท่าคลื่นไส้

                  “นานๆเล่นทีน่า”แจ็คสันยิ้มเขินๆ

                  “จะถึงไหมวันนี้ ตึกอ่ะ”ผมขัด

                  “พูดอย่างมารับแบมแบมได้คนเดียว”แจ็คสันบ่นอุบ ผมแทบจะปาเป้บนหลังผมให้เป็นของขวัญ

                  “ไม่กัดกันสักวันได้ไหม”ใบหน้าที่ยิ้มของแบมแบมเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าเบื่อหน่าย

                  “ถ้าไม่กัดกันคงไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกันหรอกเนอะ”แจ็คสันไม่ว่าเปล่ามากอดคอขอความเห็นผมอีก

                  “เอาเถอะ แล้วแต่มึงเลย”ผมปัดไหล่ที่มันเพิ่งกอดคอผมไป ก่อนจะเดินนำไป วันนี้ถ้ายังยืนอยู่ตรงนี้ก็คงไม่ถึงตึกกันหรอก

                  “กูอาบน้ำนะเว้ยไอ้มาร์ค”แจ็คสันมันตะโกนด่าไล่หลัง

                  “อ้าวหรอ กูเพิ่งรู้”ผมทำเสียงกวนตีน หลังจากนั้นคนเดินข้างๆผมก็หัวเราะออกมา

                  “ตลกตรงไหน?”ผมหันไปถาม

                  “เปล่านิ”แบมแบมฉีกยิ้มให้ผม ผมมองคนข้างๆอย่างมีพิรุธ

                  “อะไร...ไม่เชื่อหรือไง”คนตัวเล็กจ้องผมกลับ

                  “ครับๆ เป็นแบมแบมผมล่ะเชื่อเสมอ”ผมยิ้มเป็นคำตอบ

       

       

       

      เขาบอกว่าผมเหมือนฤดูหนาว ฤดูที่ผมแสนจะเกลียด

      แต่สำหรับเขามันกลับเป็นฤดูที่เขาชอบที่สุด เมื่ออยู่เมืองไทย


                  “แบมแบม...หิวอ่ะ”ผมบ่น ผมนั่งยองๆกอดแบมแบมจากข้างหลัง

                  “ไม่ได้กินข้าวเช้ามาหรือไง”คนที่ผมกอดอยู่หันมามองผม

                  “งืม”ผมทำท่าทางออดอ้อน

                  “งั้นก็ไปเร็วสิ เดี๋ยวก็หมดเวลาพักหรอก”ผมคลายกอดแล้วยืนขึ้น ร่างเล็กกว่าเดินนำผมไป

       

       

                  “เฮ้...ไปไหนไม่ไปเซเว่นหรอ?”แบมแบมหันมาถามหลังจากผมเดินไปอีกทางนึง

                  “ไม่อ่ะอยากกินอะไรที่มันอยู่ท้อง”ผมเดินตรงไปร้านโดนัททันที

                  “แบมแบมอยากกินอะไร เดี๋ยวฉันเลี้ยง”

                  “ไม่ต้องเลย...มีตังค์ซื้อเองได้”ร่างเล็กพูดจบก่อนจะเดินไปหยิบโดนัทก่อนทันที เพราะแบบนี้แหละผมถึงหลงรักแบมแบม ทั้งความใจดี ตรงไปตรงมา ความจริงใจ ความขี้เกรงใจ ทุกสิ่งทุกอย่างของแบมแบมทำให้ผมอดชอบไม่ได้

                  “ยังไม่เสร็จหรอ?”แบมแบมหันมาถามผม

                  “น่าแบมแบม ตึกไม่หนีไปไหนหรอก อีกตั้งสิบนาที”ผมยิ้มกว้าง

                  “ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงนี่นา”

                  “แบมแบมไม่เคยเป็นตัวถ่วงอยู่แล้ว เก่งด้วยซ้ำ”ผมขยี้ผมนุ่มอย่างเอ็นดูเป็นกำลังใจให้คนชอบคิดมาก

                  “อวยเกิน”

                  “แค่อยากชมบ้างนี่นา ไม่ได้หรอ?”ผมพูดด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ

                  “ได้สิ เป็นแจ็คสันนะได้อยู่แล้ว”ผมได้รอยยิ้มของแบมแบมเป็นคำปลอบโยน รอยยิ้มที่สดใส รอยยิ้มที่ผมอยากจะเก็บเอาไว้ให้ตัวเองเห็นแค่เพียงคนเดียว

                  รอยยิ้มแสนสดใสที่ติดตาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้...

                  ผมน่ะ...เป็นรูมเมทของมาร์ค ทำให้ผมพลอยได้รู้จักแบมแบมไปด้วย ได้ไปไหนด้วยกับแบมแบมอีก แบมแบมน่ะ...น่ารักมาก น่ารักจนผมอดใจไม่ไหวที่จะอยากได้เป็นของตัวเอง ผมเป็นผู้ชายคนนึงที่หวงของรัก หวงมากเสียด้วย แต่อาจจะเพราะเป็นมาร์ค อาจจะเพราะเราเห็นใจซึ่งกันและกัน ผมแบ่งแบมแบมให้ก็แค่มาร์คเท่านั้น

                  บางที...ผมก็เคยคิดว่าถ้าผมมาก่อน ผมอาจจะได้ครอบครองแบมแบมเป็นของตนเองคนเดียว ของตนเองคนเดียวจริงๆ

                  แต่ตอนนี้ผมคิดว่าถ้าผมมาก่อน เรื่องมันก็คงเกิดแบบนี้ไม่ต่างจากเดิมหรอก ไม่ว่าผมจะมาก่อนหรือมาหลังไอ้มาร์ค แบมแบมก็ยังทำแบบนี้

       



       

      ถ้าพวกเขาคือฤดูตามที่ผมบอก แจ็คสันกับมาร์คบอกผมด้วยประโยคเดียวกันว่า

      ผมก็คงไม่ต่างจากฤดูร้อนที่ทำให้หัวใจของพวกเขาพองโต


                  ผมไม่ได้ดีอะไรหรอก...ผมก็แค่คนเห็นแก่ตัวคนนึง ที่อยากจะได้สิ่งสองสิ่งไปพร้อมๆกัน ทั้งที่มันเลือกได้แค่สิ่งเดียว

                  ถ้าคนเรามีหัวใจสี่ห้อง ผมคงแบ่งให้มาร์คกับแจ็คสันคนละสองห้องเท่าๆกัน ผมรู้...ไม่มีใครอยากได้อะไรที่ควรเป็นของตัวเอง แต่ต้องมาแบ่งครึ่งกับคนอีกคนนึง

                  ไม่มีใครทนได้หรอก...สักวันมันต้องระเบิดออกมา แต่พอถึงวันนั้นผมกลับนิ่งเป็นคำตอบ จนน้ำตาไหลออกมาเอง

                  “แบมแบม...ผมทนไม่ไหวแล้ว”มาร์คระเบิดออกมาท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมมาได้เป็นอาทิตย์

                “...”ผมไม่ได้ตอบอะไร ผมได้แต่นิ่ง ได้แต่รับฟังคำพูดของมาร์ค      

      “แบมแบม บอกผมเถอะ บอกแค่ไหนแบมแบมขาดใครไม่ได้ก็ได้ บอกมาเถอะ เป็นแบบนี้ผมว่ามันก็ต้องใครสักคนสักวันอยู่ดี ถ้าแบมแบมบอกว่ารักแจ็คสัน ผมก็จะเดินออกไปเอง”มาร์คพูดกับผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาของมาร์คไม่มีความลังเลเลยสักนิด สำหรับผมมันคงไม่ต่างจากประโยคบอกเลิก...

      “...”ผมได้แต่เงียบเป็นคำตอบ แล้วไม่รู้เลยว่าน้ำตาไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไร

      “แค่คำเดียวแบมแบม บอกผมเถอะแค่ประโยคเดียว”ผมพยายามไม่สบตา ผมไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น เพราะผมรู้ว่ามันจะทำให้ผมไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้

      ผมร้องไห้อยู่สักพักโดยไม่มีเสียงสะอึกสะอื้นออกมาเลยสักนิด


      พรึ่บ!

      “พอเถอะมาร์ค มึงหยุดเถอะ”ผมหันไปมองคนมาใหม่ที่เหมือนรับรู้เหตุการณ์ตั้งแต่แรก...บอกตามตรงผมไม่อยากจะเจอทั้งสองคนพร้อมกันในเวลานี้

      “ไม่ต้องแล้วนะครับ”แจ็คสันเข้ามากอดผมทันที ฤดูหนาวที่เย็นจัดกับอากาศร้อนจัดของประเทศไทย พอมันมาเจอกัน มันกลับกลายเป็นอากาศเย็นกำลังดี“ไม่ว่ายังไง ผมก็ยังรักแบมแบม”

      “ผมขอโทษ...แบมแบมไม่ต้องตอบแล้ว ถ้ามันทำให้แบมแบมเจ็บปวด”มาร์คจับมือของผมแล้วแนบแก้มของเขาด้วยรอยยิ้มแสนอบอุ่น และสัมผัสอย่างอ่อนโยน

      “ผมขอโทษที่ทำให้แบมแบมต้องร้องไห้”ใบหน้าของมาร์คเศร้าสร้อย ผมได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบว่าผมไม่ถือโทษโกรธมาร์คหรอก

      “ผมน่ะรักแบมแบมมากรู้ไหม?”มือหนาของมาร์คลูบผมของผมเบาๆ

      “ผมก็รักแจ็คสันกับมาร์คเหมือนกัน...ขอโทษ ที่ผมเห็นแก่ตัว”คำพูดของผมกลับทำให้ตัวเองร้องไห้หนักกว่าเดิม

      “อย่าร้องสิ แบมแบมไม่ผิดหรอก”แจ็คสันยังกอดปลอบผมเหมือนเดิม

      “อือ แบมแบมไม่ผิด”มาร์คยิ้มบางให้ผม



       

      เป็นแบบนี้แหละดีแล้วผมยิ้มกว้างเมื่อมือที่จับผมเป็นมาร์ค และอีกข้างก็เป็นแจ็คสัน

       


       

      เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว... แบมแบม

      แค่ได้อยู่ข้างแบมแบม แค่รู้ว่าแบมแบมรักผมก็พอแล้ว มาร์ค

                แค่มีผมอยู่ในพื้นที่ความคิดและหัวใจของแบมแบมแค่นี้ ผมก็โอเคแล้ว แจ็คสัน













      ------------------------------------------------------------------
      Talk

      ในที่สุดก็แต่งแล้วจริงๆ ฮา ไม่รู้ว่าน้องจะออกมาคาร์แรคเตอร์แบบไหน
      แต่คิดว่ามันต้องสามเส้าแล้วมันก็คงประมาณนี้//หัวเราะ คอนเมนต์ติชมได้นะคะ><

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×