ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรัก .. เปื้อนสี ( Yaoi )

    ลำดับตอนที่ #37 : ตอนพิเศษ :: หญิง – พี่เอ็ม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      9
      16 ธ.ค. 54


     

     

    “พี่เอ็ม หญิงรออยู่ที่เดิมนะคะ”  สิ้นเสียงของน้องหญิง ผมวางหูโทรศัพท์แล้วหลับตาลงอีกครั้ง  วันนี้ผมมีนัดไปรับหญิงมาทานข้าวเที่ยงครับ ตั้งแต่ผมเริ่มจีบ และเริ่มคบกัน การทานข้าวเที่ยงของเราสองคนก็ดูเป็นอะไรที่ต้องพบ ต้องเจอกันทุกวันแล้วสิ

     

    ที่หลับตานี่เพราะว่ากำลังนึกถึงช่วงที่จีบๆกันครับ หลายคนคงงง ว่าผมเข้าไปในชีวิตหญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ และหญิงละเข้ามาในชีวิตผมตั้งแต่เมื่อไหร่

     

    ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนเลยว่า ผมเป็นคนค่อนข้างขี้อายครับ จึงไม่ค่อยมีแฟนตลอดเวลาอย่างกับคนอื่นเค้า แต่ก็มีคนเข้ามาคุยกับผมเรื่อยๆ แต่ก็นั่นละครับ ในเมื่อมันไม่ใช่ ผมก็ไม่ฝืนใจเท่าไหร่

     

     

    จนไอ้โป้มันมาจีบน้องน้ำมนต์ และทำให้ผมรู้ว่าหญิงกับน้ำมนต์ไม่ได้เป็นแฟนกัน  ตอนนั้นมันก็ทำให้ผมมองหญิงในมุมมองที่เปลี่ยนไป จะว่าชอบก็ใช่  แต่ก็ยังไม่กล้าจีบหรอกครับ ก็บอกแล้วไงว่าผมเป็นคนขี้อาย

     

     

    จนกระทั่งวันนั้น

     

    .

    .

    .

     

     

    “พี่เอ็มคะ  ..” เสียงน้องหญิงเรียกผม ผมหันไปมองเธอ

    “ว่าไงครับน้องหญิง” ถามไปหน้าสงสัย พอๆกับเธอที่ทำหน้าสงสัยเช่นกัน

    “พี่พอรู้เรื่องน้ำมนต์ กับพี่ปีโป้หรือเปล่าคะ พอดีหญิงเห็นว่าช่วงนี้น้ำมนต์แปลกๆไป เค้าสองคนทะเลาะกันหรือเปล่า” น้องหญิงถามผมมาด้วยความสงสัย เช่นเดียวกัน ผมก็สงสัยในประเด็นนี้ เพราะพักนี้ไอ้โป้มันดูแปลกๆไป

    “พี่คิดว่าต้องมีเรื่องอะไรบ้างแหละ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร พี่ถามมัน มันก็ไม่ยอมบอก”  ผมบอกเธอไป ใจก็กลุ้มใจว่าสองคนนี้มีปัญหาอะไรกัน

    “ยังไงพี่เอ็มรู้เรื่องอะไร พี่เอ็มบอกหญิงด้วยนะคะ หญิงเป็นห่วงน้ำมนต์ รายนั้นยิ่งเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่ด้วย”  น้องหญิงบอกผม แต่สีหน้าและแววตาก็ยังเต็มไปด้วยควาเมป็นห่วงเป็นใยในตัวน้องน้ำมนต์

     

    “เออ น้องหญิง เดี๋ยวครับ” ผมเรียกไว้ก่อนที่น้องหญิงจะเดินออกไป

    “มีอะไรเหรอคะ” น้องหญิงหันมาถามอีกครั้ง

    “พี่ขอเบอร์น้องหน่อยสิ  .. เผื่อมีอะไรพี่จะได้โทรบอก” ถึงจะมีเหตุผลมารองรับ แต่ก็ต้องยอมรับครับ ว่าเขินเหมือนกันกับการขอเบอร์สาวแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้

     

    น้องหญิงคงเห็นรอยยิ้มและความเขินของผม เธอก็เลยอมยิ้มตาม และคงรู้ว่าแม้จริงแล้วผมอยากได้เบอร์เธอทำไม

     

    .

    .

    .

    .

     

    หลังจากวันนั้น ผมก็โทรคุยกับหญิงทุกคืน แรกๆก็เรื่องของน้ำมนต์กับปีโป้ แต่หลังชักจะเป็นเรื่องของเรา .. จนสุดท้ายก็มีแต่เรื่องของเราสองคนเท่านั้นที่พูดคุยกัน

     

    “พี่เอ็มโทรมาคุยกับหญิงทุกวันแบบนี้ ไม่เบื่อแย่เหรอ” มีครั้งหนึ่ง เธอเคยถามผมแบบนี้

    “ไม่นี่ครับ หรือว่าน้องหญิงเริ่มเบื่อพี่แล้ว” ผมถามกลับบ้าง แอบกลัวคำตอบเล็กน้อย

    “ไม่เบื่อหรอกค่ะ แค่ช่วงหลังๆ เหมือนเรื่องคุยมันจะน้อยลง หญิงกลัวพี่เอ็มจะเบื่อๆอ่ะค่ะ” เธอตอบผมมา

    “ไม่หรอก สำหรับพี่ คุยมากคุยน้อยไม่สำคัญ แค่ได้คุยกัน พี่ก็ดีใจแล้ว” ผมบอกเธอไป

     

     

    เราสองคนเงียบกันอยู่ครู่ใหญ่ ไม่ต้องบอกว่าทำไม ก็เขินนั่นแหละครับ ..

     

     

     

    เราเปลี่ยนจากคุยโทรศัพท์กันน้อยลง แต่เจอกันบ่อยขึ้น น้องหญิงอนุญาตให้ผมไปรับส่งเธอทุกวัน ซึ่งปกติเธอจะไปจะมากับช้างน้อย ทำให้ผมต้องตื่นเช้าทุกวันมารับมาส่งเธอ ก็ดีเหมือนกันครับ ผมได้เข้าเรียนกับเขาบ้าง

     

     

    ต้องบอกว่าเมื่อได้รู้จักน้องหญิงจริงๆขึ้นแล้ว เขาน่ารักกว่าที่คิดเลย ปกติหญิงจะเป็นคนพูดน้อย แต่เวลาอยู่กับช้างน้อยและน้ำมนต์ก็พูดเยอะหน่อย แต่พออยู่กับผมนี่ พูดเยอะสุดๆเลย  เธอมีมุมมองของผู้หญิง ที่บางทีก็ผู้หญิงจ๋า แต่บางทีเธอก็มีมุมมองของผู้ชาย สงสัยเพราะเธออยู่กับน้ำมนต์และช้างน้อย เธอเลยเข้าใจความคิดความอ่านของผมดี

     

     

     

     

    “หญิงคิดยังไงกับเรื่องไอ้โป้จีบน้ำมนต์เหรอ” ครั้งหนึ่งผมเคยถามเธอ

    “คิดยังไง หมายถึงอะไร ถามให้ชี้เฉพาะหน่อยสิ” เธอมักต้องการคำถามที่ตรงไปตรงมาเสมอ

    “ชอบ หรือไม่ชอบ รังเกียจ หรือเฉยๆ” ผมเลยถามแบบให้ตัวเลือกไป

    “อืม ก็ชอบนะ พี่ปีโป้ดูน่ารักดี ถ้าไม่มาหลอกน้ำมนต์นะ แต่ก็ไม่รู้สิ ว่าน้ำมนต์จะชอบพี่แกหรือเปล่า เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา ก็ไม่เห็นทีท่าว่ารายนั้นจะมีแฟนเลย ใครมาจีบ น้ำมนต์ก็เชิดใส่ตลอด หลายรายเลยท้อ จนหายไปหมด”

    “แล้วถ้าเพื่อนเป็นแฟนกับผู้ชาย เราไม่คิดอะไรบ้างเหรอ”

    “แล้วเราจะไปคิดแทนเขาสองคนทำไมละ เขารักกันสองคน ไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย” เธอตอบผมพร้อมกับรอยยิ้ม เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่มองโลกในแง่บวกหรอกครับ เธอแค่มองในมุมมองที่มันควรจะเป็น ยอมรับและปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของมัน  นี่แหละครับที่ทำให้ผมหลงใหล

     

     

     

     

    แต่ก็ใช่ว่าเวลาแค่ไม่นาน ทำเอาผมหลงผู้หญิงคนนี้หัวปักหัวปำนะครับ มีอะไรอีกหลายๆเรื่องเลยภายในเวลาแค่ไม่นาน ที่ทำให้เธอมีความน่าสนใจ ผมเคยถามเธอว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่มีแฟน เธอบอกว่าเธอรอให้ใครมาจีบน้ำมนต์ก่อน เพราะใครหลายคนเข้าใจว่าเธอเป็นแฟนน้ำมนต์ ถ้าเธอชิงมีแฟนก่อน คนจะหาว่าเธอนอกใจน้ำมนต์ คนจะมองว่าตัวเองไม่ดี และน้ำมนต์ก็จะตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น

     

    “ถามจริง หญิงชอบน้ำมนต์หรือเปล่า” ผมถามไปทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้

    “อืมมมม  เคยชอบ” เธอยิ้มตอบมา

    “แล้วตอนนี้ทำไมไม่ชอบแล้วละ”

    “มีคนอื่นให้ชอบมากกว่า” และต้องบอกว่าเธอยิ้มมาทางผม ด้วยรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิม

     

     

    ผมถามว่าทำไมเธอถึงชอบน้ำมนต์ เธอก็บอกว่า น้ำมนต์เป็นคนน่ารัก ใครเห็นใครก็ชอบ ทั้งชายทั้งหญิงนั่นแหละ หลงเสน่ห์หนุ่มน้อยหน้าหวานคนนี้ทั้งนั้น

    “พอหญิงได้มาเป็นเพื่อนกับน้ำมนต์ หญิงเลยเข้าใจคำว่าเพื่อนได้ดีเลย จนคิดว่าไม่อยากจะเปลี่ยนไปเป็นแฟน เพราะน้ำมนต์เป็นคนที่มีเพื่อนไม่ค่อยเยอะ  เพราะเขาต้องการคนที่เข้าใจเขา และเขาก็ศึกษาเพื่อนแต่ละคนจนรู้จักจริงๆ ไม่ได้คบเอาปริมาณ แต่คบเอาคุณภาพ หญิงเลยคิดว่า เป็นเพื่อนกันนี่แหละ ยั่งยืนดี” เธอบอกผมมาแบบนี้

     

     

     

    ผมลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว รอไปรับสาวน้อยที่มาครอบครองหัวใจดวงน้อยๆของผมไปกินข้าว เรากินอาหารธรรมดา ร้านป้าตามสั่ง ขนมจีนหน้าเมือง มีบ้างบางมื้อที่อยากไปกินในห้างแก้เลี่ยน  แต่ก็ไม่บ่อยมากหรอกครับ บางมื้อเท่านั้น

     

    การไปกินกันแต่ละครั้งก็มีผมออกบ้าง เธอออกบ้าง บางมื้อก็แชร์กัน เธอบอกผมว่า ถ้าเป็นแฟนกันเมื่อไหร่เธอจะไม่ออกเลยสักมื้อ แต่ผมเห็นพอตกลงเป็นแฟนกัน เธอก็ยังช่วยผมออกอยู่ดี

     

    นั่นแหนะ อยากรู้ละสิ ผมขอเธอเป็นแฟนอย่างไง ไม่อยากจะเล่าเลย ผมเขินเหมือนกันนะเนี่ย เพราะถึงขนาดเพื่อนๆผม เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าผมขอคบกับน้องหญิงตอนไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร

     

    เอาวะ เล่าก็เล่า

     

     

    ก็วันนั้นผมกับน้องหญิงก็ไปกินข้าวกันปกติ ยอมรับครับว่าเราสองคนสนิทกันมากขึ้น ด้วยช่วงเวลาที่รวดเร็ว แต่หนูนา กวนมึนโฮยังบอกเลย ว่ารักไม่ต้องการเวลา พี่เอ็มก็เลยเพิ่มว่า มันต้องการความเข้าใจ และผมคิดว่า เราสองคนเข้าใจตรงกัน

     

     

    “หญิงรู้มั๊ย ว่าเราคุยกันมานานเท่าไหร่แล้ว” ผมถามเธอ

    “ก็จะครบเดือนแล้วมั้ง” เธอตอบแบบไม่ได้คิดอะไร

    “สามสัปดาห์ หกวัน สิบสามชั่วโมง ยี่สิบห้านาที ใกล้จะยี่สิบหกแล้ว” ผมบอกเธอ

    “เอ๊ยย จริงอ่ะ มั่วหรือเปล่า”

    “ไม่เชื่อก็ลองนับดูสิ” ผมท้าเธอ

    “ไม่เอาละ แล้วมีอะไร ทำไมต้องนับด้วย”

    “ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากบอกเฉยๆ”

    “เหรอคะ ทำตัวน่าสงสัยนะเนี่ย” เธอถามมาเชิงเล่นเชิงจริงจัง แต่ก็ยังยิ้มๆในแบบของเธอ

     

     

    “หญิง เดี๋ยววันนี้พี่พาไปรู้จักแฟนพี่นะ”  ผมบอกเธอไปใจสั่นระรัว

    “แฟนของพี่ ?” เธอถามกลับมาหน้าเศร้า รับรู้ได้เลยว่าเธอคงใจแป้วเล็กน้อย

    “ใช่ พี่อยากให้เรารู้จักไว้” ผมใจสู้บอกเธอไปอีกครั้ง

    “อ๋อ ค่ะ ได้ค่ะ” เธอบอกผมมา ก้มหน้าก้มตา

     

     

    แล้วเมื่อผมทานอาหารเที่ยงกับเธอเสร็จ ผมก็จูงมือเธอมาในส่วนของชั้นขายเสื้อผ้าของห้าง เธอไม่พูดไม่จากับผมเลย แม้แต่มือเธอก็ยังไม่อยากให้ผมจูง แต่ผมก็ยังพยายามจับมือเธอไว้ ไม่ยอมปล่อยมือเธอ

     

    “ถึงแล้ว นี่ไงแฟนพี่ รู้จักกันไว้วะ” ผมพาเธอมาในมุมหนึ่งของโซนเสื้อผ้าหญิง แล้วจับบ่าเธอหันเข้าหากระจกบานใหญ่ที่มองเห็นเธอได้เต็มตัว เห็นหญิงแอบปิดตาเล็กน้อย ก่อนจะเปิดตาและพบว่าตัวเองอยู่ในกระจกบานนั้น

     

    นี่แหละครับ  แฟนผม

     

    “เป็นแฟนกับพี่นะหญิง” ผมบอกเธอ เห็นสายตาเธอที่งง เหมือนไม่เข้าใจว่าผมกำลังเล่นอะไร กว่าเธอจะนึกได้เล่นเอาผมใจแป้วไปเลย เธอยิ้มตอบกลับผมมา ในแววตาเธอแอบมีน้ำตาซึมๆเล็กน้อย

     

     

    “แฟนพี่เอ็มนี่ สวยใช่ย่อยเลยนะ”  เธอพูดประโยคนี้ออกมา รอยยิ้มของเธอแสดงให้เห็นอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่แสนวิเศษ เพราะมันทำให้ผมยิ้มตามอย่างง่ายดาย

    “พี่ตาถึง จะมีแฟนทั้งทีก็ต้องให้ได้แบบนางสาวไทย” ผมแซวเธอไป เธอหัวเราะชอบใจใหญ่ ก่อนจะหมุนซ้ายหมุนขวาหน้ากระจกไปมา

     

     

    และนั่นแหละครับ ฉากขอเธอเป็นแฟนของผม ผมจำได้จากหนังเกาหลีเรื่องนึงที่เคยดู ที่พระเอกให้รูปถ่ายคนที่รักกับนางเอกไป บอกว่าในนี้มีคนที่พระเอกรักที่สุด พอนางเอกเปิดดูก็เป็นกระจกส่องมาที่หน้านางเอก  ผมประทับใจฉากนั้นมาก

     

     

    เห็นผมโหดๆ แต่ผมก็มีอารมณ์โรแมนติกกับเขาเป็นเหมือนกันนะ

     

     

     

    แล้ววันนี้ผมก็มารับเธอตรงเวลาเหมือนเดิม หลังๆเธอจะนั่งรถสองแถวมารอผมที่หน้าวิทยาลัยเธอ เพราะเธอไม่อยากให้ผมขับรถไปไกล ผมก็ไม่อยากขัด เพราะผมก็ไม่อยากตื่นไว้กว่านี้ วันนี้เธอมาในชุดลำลองธรรมดา กับเดรสสีน้ำตาลรับกับผมของเธอที่ทำกับสีโค้ก ติดกิ๊บอันเล็กบนหัวเล็กน้อย น่ารักใช่เล่นเลยนะเนี่ยแฟนผม

     

     

    “รอนานมั๊ย” คำถามแรกที่ผมถามเธอเมื่อจอดมอเตอร์ไซค์เทียบฟุตบาตร เธอยิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า

    “นาน !!” และหน้าบึ้งใส่ ..

     

     

    จะให้ไม่นานได้ไงละครับ ก็ผมมัวแต่เพ้อระลึกอดีตอยู่ แต่ทำไงได้ละครับ สายไปแล้ว ผิดไปแล้ว เลยได้แต่ยิ้มใสซื่อน่าเอ็นดูให้เธอไป

     

    “ไม่ต้องมายิ้มเลย มื้อนี้เลี้ยงหญิงด้วย” เธอบอกผมแค่นั้นแล้วก็ขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มา

     

     

     

    ถ้าความรักเปรียบเสมือนเส้นทางของสองคนมารวมกัน  ตอนนี้ผมคงมีเส้นทางลาดยางที่ตัดผ่านขั้วหัวใจของผมแล้ว ไม่มีใครรู้หรอกว่าถนนลาดยางสายนี้จะตัดได้ยาวเท่าไหร่  มันคงขึ้นอยู่กับงบประมาณของหัวใจที่ให้กันมั้ง ถ้าผมยังสู้ งบประมาณยังเยอะ และถ้าเธอพร้อม ทรัพยากรเต็มที่ ถนนสายนี้ก็จะเดินทางไปสู่จุดนิรันดร์ของมัน

     

    เส้นทางข้างหน้าอาจจะมีปัญหาแล้วอุปสรรคอีกมากมาย มีหลุมมีบ่อ มีป่า มีน้ำ หลายต่อหลายอย่างขวางกั้น แต่ผมเชื่อว่าถ้ามีมือใครอีกคนกำไว้อย่างอุ่นๆ และลุยไปพร้อมๆกัน เส้นทางสายนั้นคงจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถึงจะยิ้มบนขวากหนามก็ตาม

     

     

    “พี่เอ็ม” หญิงเรียกผมมาจากด้านหลัง ขณะที่ผมจอดรถติดไฟแดง ผมหันไปมองเล็กน้อย

     

     

     

    “ไฟเขียวแล้วค่ะ  เหม่ออะไรเนี่ย เดี๋ยวเหอะ !!!

     

     

     

     

     

    โอย โอยย .. เธอแค่สร้างภาพดุเฉยๆครับ ปกติ .. เธอไม่กล้าหรอก

     

     

     

     

    เดี๋ยวปั๊ดดดดดดดดดดดดด   จูบเลย !!!!








    ...........................................................................................................................................................
    ขอกำลังใจเป็นแสดงความคิดเห็น ติชม วิจารณ์ กดโหวตให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ
    ...........................................................................................................................................................


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×