ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่เลี้ยงสุดซ่าส์ ... ป๊ะป๋าสุดเฮี้ยว ( Yaoi )

    ลำดับตอนที่ #39 : มีทางเดินให้เราเดินเคียง .. และมีเสียงของเธอกับฉัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.28K
      42
      7 ต.ค. 54

    คุณเวย์”  ผมหันไปดูตามเสียงนั้น พร้อมก้าวออกมาจากตัวรถ

    น้องอ๊อฟผมพูดขึ้นกับตัวเอง เมื่อหันหน้าไปมองคนที่เรียกผมนั่นคืออ๊อฟ ความรู้สึกตอนนี้ เหมือนเดินในที่มืดแล้วเจอแสงไฟ เหมือนกำลังหลงทางแล้วเจอทางออก เหมือนร่างกายขาดน้ำ แล้วฟ้าประทานฝนลงมา ... นี่ผมเป็นเอามากเลยนะเนี่ย แค่รู้สึกเหงา ... และเหมือนขอใครสักคน ... แต่ไม่คิดว่าจะเจอ ก็เท่านั้นเอง

    คุณเวย์มาทำอะไรสยามครับ นั้นแหน่ แอบนัดหนุ่มๆหรือสาวๆหรือเปล่าอ๊อฟยังไงก็ยังเป็นอีอฟนั่นสินะครับ ยังมีแต่รอยยิ้มให้กับคนอื่นเสมอ

    พี่มาเดินเล่นนะครับ น้องอ๊อฟละ มาคนเดียวเหรอผมน่าจะถามว่ามาทำอะไรมากกว่า แต่ที่เผลอถามไปเพราะผมอยากได้คำตอบว่ามาคนเดียว 

    อ๋อ มากับคนอื่นครับ แต่ตอนนี้อยู่คนเดียวแล้วอ๊อฟตอบเสร็จก็ยิ้มกลับมาให้ผม ถึงจะงงๆในการตอบของเค้า แต่ก็พอเข้าใจว่า ตอนนี้มาคนเดียวแล้ว

    งั้นไปหาไรทานเล่นกันมั๊ย รีบไปไหนรึเปล่าด้วยอะไรผมไม่รู้หรอกครับ แต่ผมรู้ว่าตอนนี้ผมอยากมีเพื่อนคุยเหลือเกิน ไม่อยากจะนั่งฟุ้งซ่านคนเดียวอีกแล้ว

    ได้ครับ แต่คุณเวย์ต้องเลี้ยงอ๊อฟนะอ๊อฟพูดขึ้นมา พร้อมทำหน้าอ้อนเหมือนเด็ก

    ได้ครับ เดี๋ยวพี่เลี้ยงน้ำเปล่าเองผมก็ตอบไปอย่างแกล้งๆอ๊อฟ

    โหไรว้า งั้นซื้อน้ำปั่นตรงนี้ดูดแล้วยืนคุยเอาดีมั๊ยครับมันพูดพร้อมกับโบ้ยหน้าไปทางรถเข็นขายน้ำปั่นที่มีคนต่อแถวซื้ออยู่สองสามราย

    โอ๋ๆๆ พี่ล้อเล่น ไปครับไปหาไรทานกัน พี่ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย โคตรหิวผมพูดไปพร้อมกับเอามือลูบท้องโชว์เป็นนัยนัย ว่ายังไม่ได้กินอะไรเลย

    โอเคครับ แต่ผมกินจุนา กินแต่ของแพงๆด้วยผมเดินนำอ๊อฟไป ฟังอ๊อฟโม้อะไรไปเรื่อยเล็กน้อย ... ผมว่าผมคงได้เพื่อนช่วยบำบัดความเหงาแล้วละครับ ... ขาดอย่างเดียวคือคนคอยบำบัดใจ




                คุณเวย์จะอิ่มเหรอครับ ทานแค่นี้อ๊อฟถามผมเมื่ออาหารที่ผมสั่งไปมาเสริฟ ไม่มีอะไรมากครับ แค่ข้าวผัดจานนึงกับน้ำซุป ส่วนอ๊อฟไม่ทานอะไร สั่งแค่ขนมมานั่งทานเล่น

    อิ่มสิครับ น้องอ๊อฟเห็นพี่ทานจุขนาดนั้นเลยเหรอครับ กินมากเดี๋ยวลงพุง บรรดากิ๊กพี่หายหมดผมตอบไปแบบทีเล่นทีจริงครับ ที่จริงก็ไม่อิ่มไรมากหรอกครับ แต่มาร้านแบบนี้ มันร้านนั่งชิวๆ อาหารก็คงไม่เยอะ อีกอย่างอ๊อฟก็ไม่กินด้วย ผมเกรงใจ ... แฮะๆๆ

    นั่นสินะ เดี๋ยวยัยเต้จะไม่ชอบเอา อิอิผมถึงกับเงียบเมื่อได้ยินประโยคที่อ๊อฟพูดออกมา นี่ใช่มั๊ยครับที่เค้าเรียกว่าแทงใจดำ มันเจ็บจี๊ดๆยังไงก็ไม่รู้

    คุณเวย์เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมเงียบไปเลย หรือว่า ...อ๊อฟพูดมาพร้อมทำหน้าเสียๆ เหมือนเป็นห่วงความรู้สึกผม และตบท้ายด้วยหน้าระแวง ปนเข้าใจ

    พี่ว่าพี่จะถอนตัวแล้วละ ... คนเค้ารักกัน จะไปขัดเค้าทำไม จริงมั๊ยครับผมพูดไปพร้อมตักข้าวเข้าปาก อาหารร้านนี้ช่างจืดชืดจริงๆ

    อันที่จริงอ๊อฟว่า คุณเวย์ไม่ได้ไปขัดอะไรเค้าหรอกครับ คุณเวย์มีสิทธิ์ที่จะคิด มีสิทธิ์ที่จะรัก แต่แค่ไม่มีสิทธิ์บังคับให้เค้ามารักเราแค่นั้นเองผมเงยหน้ามองอ๊อฟ สนใจในสิ่งที่อ๊อฟพูด

    บางทียัยเต้มันไม่ได้เกิดมาคู่คุณเวย์ก็ได้ ของแบบนี้มันต้องตามหากันไป เชื่อผมสิ คนหล่อๆดีๆอย่างคุณเวย์ไม่นานก็เจอผมได้ยินคำพูดที่อ๊อฟพูดมาบ่อยมากแล้วครับ แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน พออ๊อฟพูดผมถึงรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมากกว่าเดิม และมากกว่าที่ได้ยินจากคนอื่นๆด้วย ... หรือว่าเพราะอ๊อฟเข้าใจผม ... เข้าใจมากกว่าคนก่อนๆที่เคยพูดประโยคนี้

    ขอโทษนะครับคุณเวย์ ... จะรังเกียจมั๊ย ถ้าจะให้เล่าว่าทำไมถึงชอบยัยเต้มัน คือมันอยากรู้จริงๆ แต่ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมไม่อยากรู้แล้วก็ได้ผมอดตลกกับท่าทางของอ๊อฟไม่ได้เลยครับ เหมือนอายๆที่จะต้องพูดออกมา ว่าไปผมก็ไม่ค่อยเห็นอ๊อฟอายนะ 

    ได้ครับ มันไม่ได้เป็นความลับอะไร ถ้าอยากรู้ผมจะเล่าให้ฟัง แทนการมานั่งเป็นเพื่อนผมอันที่จริง ผมกลับดีใจ ที่จะได้ถ่ายทอดมุมมองของผม ให้คนอื่นฟัง ไม่ใช่อยากให้คนอื่นเห็นใจนะครับ ... อยากให้เข้าใจมากกว่า ...

    เริ่มจากตรงไหนดีละ

    .
    .
    .
    .
                จ๊ะเอ๋ เจเจหลานอา”  คงเริ่มที่วันแรกที่ผมเจอกับนายเต้ ที่ห้องของไอ้เท่ห์สินะ    

                เอ๊ยยยยยประโยคแรกที่มันทักกลับมา คงตกใจกับการกระทำของผมเมื่อครู่

                เอ๊ยยยยผมก็ตกใจกับสิ่งที่เห็นเหมือนกันว่าคนที่มาปิดประตูให้เป็นใครกัน

                แกเป็นใคร มาอยู่ห้องเพื่อนชั้นได้ยังไง แล้วหลานชั้นละตอนนั้นคิดว่ามันต้องเป็นโจรแน่ๆ เป็นห่วงเจเจขึ้นมาเลยครับ

                เอ่ออ ผมเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ของเจเจครับ คุณเป็นเพื่อนของเจ้านายใช่ป่ะครับ เชิญเข้ามานั่งข้างในก่อนครับ เจ้านายอยู่ในห้อง เดี๋ยวผมไปตามให้”  มันตอบมาว่าเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ ... เอ่อ

                อ่อ พี่เลี้ยงคนใหม่นี่เอง ว่าแต่หน้านายมันคุ้นๆจังวะ เหมือนเคยพบเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่นึกไม่ออกไม่ได้มุขนะครับ ว่ารู้จักเค้าทั่ว แต่ตอนนั้นผมคุ้นๆหน้ามันจริงๆ

                เชิญคุณเข้ามาข้างในก่อนดีกว่าครับ เพราะผมจะปิดประตู หรือว่าจะรอข้างนอกละครับผมถึงกับงงกับคำพูดของมันครับ เป็นแค่พี่เลี้ยงหัดมาสั่งเพื่อนเจ้านายได้ยังไง

                ตลกแล้ว ถ้าชั้นจะรอข้างนอก ชั้นจะกดออดทำไมมากวนกับผม ผมก็กวนกลับสิครับ ผมยอมคนอื่นซะที่ไหน

                 “ดื่มน้ำก่อนนะครับ”  ผมลองพิจาณาพี่เลี้ยงของเจเจอีกที ความรู้สึกที่หายไปนานของผมก็เริ่มกลับมารู้สึก ผมไม่รู้ว่ามันเร็วไปหรือเปล่าในตอนนั้น แต่ผมรู้สึกว่าผมรู้สึกพิเศษกับเด็กคนนี้จริงๆ 

                พี่เลี้ยงเจเจคนใหม่นี่ น่ารักจังเลยนะครับทำเอาผมหลุดปากชมไปไม่ได้ พี่เลี้ยงคนนี้จะรู้ตัวหรือเปล่านะ

                อ่อ ใช่ครับ นี่เพ่เต้ครับ พี่เลี้ยงคนใหม่ของเจเจ เพ่เลี้ยงที่หล่อที่สุดเท่าที่เจเจเคยมีมา จริงมั๊ยอาเวย์ ฮ่าๆๆเจเจหลานรักช่างสนับสนุนอาได้ดียิ่งนัก ...

                ก็มันแน่อยู่แล้ว เจเจเคยมีพี่เลี้ยงเป็นผู้......ชาย ซะที่ไหนกันละ ฮ่าๆๆตอนนั้นผมมองก็รู้แล้วครับ ว่าพี่เลี้ยงคนนี้ไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบผู้หญิงแน่นอน ... ชื่ออะไรนะ ... เต้เหรอ ... เข้าทางผม

                พี่เต้ครับ นี่อาเวย์ครับ เพื่อนสนิทพ่อเจเจครับผมยืดอกรับให้กับคำแนะนำของเจเจในตอนนั้น ... นายจะรู้มั๊ยเนี่ยว่าตอนนั้นผมใจสั่นไปหมดแล้ว

                แล้วเท่ห์ละเสร็จยังต้องหาอะไรพูดกลบเกลื่อนความรู้สึกครับ ... ตอนนั้นต้องทำอะไรให้นายเต้คนนี้ไม่แสดงท่าทีน่ารักให้ผมหวั่นไหว

                นายเต้ !!!!  ไอ้เท่ห์เสร็จยังใครจะไปรู้ครับ ว่านายคนนี้นอกจากจะน่ารักแล้ว ยังน่าแกล้งอีก

                อ๋อ แป๊บนะครับ เดี๋ยวผมไปตามให้ผมยังจำการกระทำนั้นได้ดีเลยครับ ขำหน้าของนายต้ตอนนั้นจริง

    .
    .
    .
    .
                ตอนหลังพี่จึงมารู้ว่าเคยเจอหน้าน้องเต้กับเพื่อนน้องเต้มาก่อนแล้วครั้งนึงที่ร้านเหล้า แล้วตอนนั้นมันเมามาก มีเรื่องกับเพื่อนมันด้วย พี่เลยคุ้นๆหน้ามันผมหยุดเล่าเรื่องของผมกับนายเต้ แล้วยกกาแฟขึ้นมาจิบคั่น

                แสดงว่าคุณเวย์ก็รักแรกพบเลยสิครับอ๊อฟถามขึ้นมาเมื่อผมหยุดเล่า ... หน้าตาอ๊อฟตอนนี้ดูสนใจเรื่องที่ผมเล่าเป็นพิเศษ

                คงงั้น ... ถ้าพี่รักใคร พี่จะรักเค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่พี่รัก”  ผมตอบอ๊อฟไป แล้วมองอ๊อฟนิ่งไปซักพักเหมือนกำลังคิดอะไร ก่อนที่จะถามกลับมา

                แต่ที่เล่ามา คุณเวย์ยังไม่บอกเลย ว่าชอบยัยเต้มันตรงไหน หรือเล่าไปแล้ว .... ยังๆๆ ยังไม่เล่าเลย เล่ามาๆดูเหมือนอ๊อฟจะสับสนในตัวเองเล็กน้อยนะครับ ดูตลกจริงๆเด็กคนนี้

                อ่าโอเค เล่าก็ได้ ...

                ผมพยายามคิด หวนรำลึก และนึกในหลายๆสิ่งที่ทำให้ผมชอบในตัวนายเต้ ก่อนที่จะพูดออกมาสั้นๆ

                พี่ว่านายเต้มันมีเสน่ห์ที่ทำให้คนรอบตัวหลงรักเค้าโดยไม่มีเหตุผลนะ ถ้าน้องอ๊อฟลองไปถามไอ้เท่ห์ ไอ้เท่ห์ก็จะตอบคล้ายๆกับพี่นี่แหละ เรื่องบางเรื่องมันไม่ต้องมีเหตุผลก็ได้ น้องอ๊อฟว่ามั๊ยผมพูดจบ ก็ถามอ๊อฟไปในตัว

                อืมมมม โอเคครับ ความรักมักจะมีเหตุผลในตัวของมัน ซึ่งเหตุผลนั้นคือไม่มีเหตุผล อ๊อฟเข้าใจแล้วครับอ๊อฟพูดทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผมพูด แต่ดูงงๆยังไงชอบกลแฮะ

                เออ นั่งคุยมาตั้งนาน ว่าแต่อ๊อฟเถอะ เป็นไงมาไงมาเดินสยามละผมถามขึ้นเมื่อนึกได้ มัวแต่สนใจเรื่องตัวเอง จนลืมถามอ๊อฟเลย

                แหม คุณเวย์ครับ สยามนี่เด็กวัยรุ่นเค้ามาเดินเล่นกันไม่เห็นต้องมีที่มาที่ไปเลย ปกติผมก็มาเดินตามประสาวัยรุ่นเค้านั่นแหละครับอ๊อฟพูดไป พร้อมกับดูดน้ำในแก้วที่เหมือนจมีแต่น้ำแข็ง

                ปกติ ... งั้นวันนี้มีอะไรไม่ปกติเหรอ ??” ผมว่าผมพอจับใจความที่มันไม่ไปกติได้นะเนี่ย

                วันนี้อ๊อฟมาเดทครับอ๊อฟพูดพร้อมกับดูดหลอดดูเสียงดังย๊วบ !!!

                เอ่อ สั่งน้ำเพิ่มมั๊ย มันหมดแล้วนะผมถามเมื่อสังเกตเห็นอีอฟดูดแก้วน้ำที่มีน้ำแข็งนั้นอยู่พักใหญ่แล้ว

                อ๋อ ไม่เป็นไรครับอ๊อฟตอบพร้อมกับวางแก้วน้ำนั้นลงอย่างเขินอาย ... เออเว๊ยย อ๊อฟอายเป็นด้วย

                แล้วไหนละครับ คู่เดทอ๊อฟผมถามเพราะเห็นไม่มีทีท่าว่าคู่เดทอ๊อฟจะมาเลย

                เค้ากลับไปแล้วละครับอ๊อฟตอบมาหน้าตาพร้อมแววตาเศร้า ... เกิดอะไรขึ้นนะ

                มีอะไรที่พอจะเล่าให้พี่ฟังได้ ก็เล่าออกมาได้นะผมไม่เคยเห็นอ๊อฟในมุมนี้เลยนะครับ แม้ว่าเราจะรู้จักกันไม่กี่วัน แต่ผมว่าอ๊อฟก็มีมุมเศร้าๆ เหงาๆกับเค้าเหมือนกัน เบื้องหน้าของคนอารมณ์ดี มันจะมีอีกมุม ที่ใครเห็นแล้วอาจจะอึ้ง ว่าคนแบบนี้มีด้านนี้ด้วยเหรอ

               

    พูดแล้วก็น่าขำนะครับคุณเวย์ คนอย่างเราๆ ไม่สิ คนอย่างอ๊อฟต่างหาก ไม่อยากเอาคุณเวย์มาร่วมก๊วน พวกเราเป็นพวกเพ้อฝัน จินตนาการ และมีความต้องการสูง พูดง่ายๆว่าอยากได้คนที่เฟอร์เฟ็กซ์จริงๆมาเป็นแฟน แต่คนที่เค้าเฟอร์เฟ็กซ์จริงๆ ก็ต้องการคนที่เหมาะสมกับเค้า ไอ้เราคนไม่เฟอร์เฟ็กซ์ทำได้มากสุดก็แค่ทางผ่าน ผ่านมา ได้ไป แล้วจึงผ่านไป ไม่มีอะไรที่จะหยุดสิ่งเหล่านั้นได้เลยจะว่าไปที่อ๊อฟพูดมา ผมก็ยังไม่เข้าใจ ว่าอ๊อฟต้องการจะสื่ออะไร ได้แต่นั่งทำหน้างง

                คุณเวย์คงไม่เข้าใจสินะครับ ผมแค่อยากจะบอกว่า วันนี้ผมมาเดทกับคนที่เพิ่งคุยกันเมื่อวาน เค้าไม่หล่อเหมือนคุณ ไม่เท่ห์เหมือนคุณเท่ห์ และไม่ได้เฟอร์เฟ็คอะไร ซึ่งก็คงจะพอๆกับผม เพราะผมก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบตรงไหน ตอนนี้ผมแค่อยากลองศึกษาใครซักคน เพราะก่อนหน้านี้ผมก็แค่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาในวงจรชีวิตของใครต่อใคร แค่อยากลองพักอาศัยเป็นขาประจำบ้าง เบื่อกับการเป็นขาจร ... แต่ผมคงคาดหวังมากไป และไอ้คู่เดทผมมันก็คงไม่มากไปกับผมด้วย มันต้องการแค่ร่างกาย มันอยากได้แค่เซ็กซ์ พูดแล้วอยากร้องไห้ ... ฮือๆๆผมจะเศร้าไปกับอ๊อฟ หรือจะตลกกับการกระทำนี้ดีละครับ

                บางที ผมก็แค่ต้องการเริ่มต้นกับใครด้วยความรัก มากกว่าความต้องการทางเพศ ... เพราะผมคิดว่าถ้าเริ่มด้วยเซ็กส์ วันนึงถ้าผมให้เค้าไม่ได้ เค้าก็จะไม่รักผม เหมือนแฟนคนเก่า ที่เค้าต้องไปหาคนอื่นเพื่อมาบำเรอในส่วนนั้น แต่ถ้ามันเริ่มต้นที่ความรัก ... วันนึงถ้าห่างกันไป แต่ความรักยังอยู่ ผมเชื่อว่าเราจะยังรักกันโดยที่ไม่ต้องมีคำว่าเพศสัมพันธ์มาผูกมัด ... ผมอยากเจอคนแบบนั้น คนแบบที่รักผมที่ใจ ... ใช่แค่รูปร่างหน้าตาอ๊อฟพูดจบแล้วยิ้มให้ผม รอยยิ้มที่จริงจังในคำพูด คำพูดที่ใช้แทนความคิดของผู้ชายตัวเล็กๆ ที่มีหน้าตาน่ารักน่าหยิกคนนี้ กลับทำให้ผมรู้สึกแปลกๆที่ใจอย่างบอกไม่ถูก ... 

                เริ่มต้นที่รักนะเหรอ ???

                “ ****ทุกวันนี้ผมว่า ถ้าใครพูดถึงแฟน พูดถึงกิ๊ก คนฟังก็ต้องคิดนั่นแหละ ว่าเค้าต้องมีอะไรกันอยู่แล้ว เซ็กซ์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้วในกลุ่มวัยรุ่น ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าเซ็กซ์ทำไปเพื่ออะไร บางคนบอกว่าก็เพราะรัก แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่เลย การแสดงความรักไม่จำเป็นต้องมีเซ็กซ์ เซ็กซ์เป็นแค่หนึ่งในหลายๆวิธีที่เราจะทำร่วมกันกับคนรัก แต่คนสมัยนี้ก็ให้ความสำคัญ ถ้าคบกันไม่ยอมมีอะไรกัน ก็เลิกกันเหอะ บางคนคบกันวันเดียว ก็ยอมกันซะแล้ว พวกเกย์ก็คิดว่ามันไม่เสียหายอะไรหรอก ต่างได้กันทั้งคู่ ผมก็ไม่รู้ว่าได้อะไร มีแต่เสียตัว กับเสียใจ สุขใจก็แค่เดี๋ยวเดียว พอน้ำแตกก็แยกทางกัน แล้วคุณค่าของความรักอยู่ที่ตรงไหน ถ้าหากมีรักต้องมีเซ็กซ์ ผมขอเป็นคนไม่มีหัวใจซะดีกว่าอ๊อฟพูดจบก็เอาแก้วน้ำแก้วเดิมขึ้นมาดูดน้ำอีก คงจะคอแห้ง

                เอาของผมไปดื่มก่อนก็ได้ มันหมดแล้วนัแก้วนั้นผมยื่นแก้วน้ำของผมที่มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งแก้วให้กับอ๊อฟไป อ๊อฟรับแล้วดูดมันหมดแก้วในทีเดียว สงสัยจะหิวจริงๆ บอกให้สั่งใหม่ก็ไม่ยอม ...

                หลังจากดูดเสร็จก็วางแก้วน้ำลง พร้อมถอนหายใจทีเดียวยาวๆ

                เฮ้อออ  เพ้อเจ้อใหญ่แล้วผม คุณเวย์อย่าถือสาผมเลยนะครับ มันก็แค่มุมมองความรักในโลกแห่งจินตนาการ บนโลกแห่งความเป็นจริงใบนี้ ผมก็กำลังตามหาอยู่ ... และคงจะตามหามันต่อไปอ๊อฟยิ้มให้เป็นการปิดประโยคสนทนาเรื่องนี้

                แต่ชั้นก็กำลังตามหาคนที่มาความคิดแบบนี้นะไม่รู้ว่าอะไรดลใจเหมือนกัน ทำให้ผมพูดประโยคนี้ไป จะเป็นเพราะการได้พูดคุยกับอ๊อฟหรือเปล่าที่เข้ามาทำลายสิ่งที่เติมเต็มอยู่ในหัวใจของผมให้ว่างเปล่าขึ้นอีกครั้ง หรือว่าจะเป็นความคิดเรื่องความรักของอ๊อฟ ที่ทำให้ผมเปิดใจที่จะลองรักอีกสักครั้ง

                เอ่อ ... เหรอครับ ... ดีจังมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อ๊อฟพูดไปเขินไป แต่ก็ยังถ่อมตัวเอามือขึ้นเกาหัวแก้เขิน 

                ถึงแม้ว่าพี่จะผ่านใครๆมาเยอะ แต่พี่ก็อยากจะหยุดที่ใครคนใดสักคนเหมือนกัน ... คนที่รักพี่ และพี่ก็รักเค้าจริงๆ”  มันไม่ใช่คำพูดที่ไพเราะเพราะซึ้ง ผมไม่ได้ทำแววตาชวนฝัน แต่สิ่งที่พูดก็กลั่นกลองออกมาจากความรู้สึกข้างใน ... ความรู้สึกที่ต้องการความรักจากใคร ... สักคน

                คุณเวย์ หายเศ้ราแล้วใช่มั๊ยครับ ไม่เสียใจเรื่องยัยเต้แล้วใช่มั๊ยเหมือนอ๊อฟกล้าๆกลัวๆที่จะถามผมยังไงยังงั้น ... อ๊อฟในวันนี้ เหมือนคนละคนที่ผมเคยรู้จักเลย หรือว่านี่กันแน่คือตัวตนของอ๊อฟ

                หายแล้วครับ เหมือนความเหงาที่มันเกาะกินหัวใจพี่ มันจะโดนสารละลายไปบ้างแล้ว ตอนนี้ก็รอแต่การซ่อมแซมส่วนที่มันสึกหรอก็เท่านั้นเองผมตอบไปยิ้มไปทางอ๊อฟ เล่นเอาคนที่ผมมองเขินอายใหญ่

                เหอะๆ คุณเวย์ก็พูดเข้า ลิเกจังเลยนะครับ  อิ่มหรือยังครับ ไปเดินย่อยกันหน่อยดีมั๊ยอ๊อฟพูดพร้อมกับมองมาที่กระเป๋าสตางค์ผมที่วางอยู่บนโต๊ะ ..

                โอเคครับ พี่รู้แล้วว่าต้องลี้ยง ไม่ต้องทำสายตาไซโคขนาดนั้น พี่ไม่เบี้ยวหรอกน่าผมพูดพร้อมยกมือให้พนักงานเชคบิลจ่ายตังค์ ส่วนอ๊อฟเหรอครับ ยิ้มเล็กยิ้มน้อยใหญ่เลย  ...


                คุณเวย์ เคยมีรักแห่งสยามกับเค้ามั๊ยอ๊อฟพูดขึ้นขณะที่เดินนำผมไป ... แล้วหันหน้ามาถาม

                ยังไงเหรอ รักแห่งสยามผมถามกลับไป เพราะยังไม่เข้าใจในคำถามที่ถามมา

                ก็เหมือนกับ เคยจีบใครที่สยามบ้าง เคยชอบใคร รักแรกพบ เดทแรกที่สยามไรงี้ เคยบ้างป่ะอ๊อฟอธิบายให้ผมฟัง พร้อมกับเดินนำหน้าไปอีก

                มีสิ บ่อยด้วยผมตอบเมื่อเดินตามทันอ๊อฟ ตัวแค่นี้เดินไวชิบหาย

                เหรอครับ ดีจัง นี่ถ้าผมได้เรียนมหาลัยในกรุงเทพนะ สยามคงเป็นดินแดนแห่งความรักของผมแน่ๆ มีแต่คนน่ารักทั้งนั้นอ๊อฟตอบพร้อมมองดูหนุ่มเล็กหนุ่ทใหญ่ที่เดินผ่านไปผ่านมา

                อะไรกัน มากับพี่ยังมองคนอื่นอีกผมพูดพร้อมกับเอามือผมไปจับกับมือของอ๊อฟ เหมือนอ๊อฟจะตกใจ มีการกระตุกมือนิดนึง

                เอ่อ คุณเวย์ครับ อายคนอื่นเค้าครับ จะจับมือผมทำไมอ๊อฟพยายามเอามือออกจากมือของผม แต่ก็ได้แต่บิดไปบิดมา เพราะผมกำไว้ซะแน่น

                จะอายอะไรละ ... พี่ไม่เห็นอายเลย หรือว่าพี่มันน่าอายมาก ถึงกับเดินด้วยไม่ได้ผมพูดพร้อมกับปล่อยมือออก แล้วก็เดินนำหน้าไป ขอวัดอะไรหน่อยเหอะ

                อ้าว อะไรว้า งอนซะงั้น ผมล้อเล่นครับคุณเวย์ แก่แล้วนะนั่น ทำเป็นงอนเหมือนเด็ก น่ารักตายเลยมันพูดพร้อมกับวิ่งมาเพื่อจะให้ตามทันผม

                อะไรกัน ว่าพี่แก่เหรอถึงแม้มันจะจริง ... แต่ก็ยังอยากโกหกตัวเอง

                เปล่าครับ ไอ้เด็กน้อยมันพูดพร้อมกับเอามือมาตบบ่าผมเบาๆ ชักจะลามปามแล้ว ... แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่เอาเรื่องมัน ก็ไอ้มือที่ตบบ่าผม พอตบเสร็จมันก็ลดระดับมาอยู่ข้างตัว พร้อมกับจับมือผมไว้ และก็นำเดินไป ...



                ไม่มีคำพูดใดๆจากผม

                และก็ไม่มีคำพูดใดๆจากอ๊อฟเช่นกัน

                ความรู้สึกตอนนี้เหมือนมีคนกำลังซ่อมแซมความเสียหาย ส่วนที่สึกหรอภายในให้กลับมาใช้งานได้อย่างเดิม

                นี่ผมมองคนๆนี้ข้ามไปตั้งแต่ตอนแรกได้ไงนะ ...

                ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ

                อ๊อฟหยุดเดินแล้วมองหน้าผม แววตาที่ใสๆ แอบซ่อนนิสัยเหวี่ยง และความเป็นคุณหนูคู่นั้น ยิ้มมาให้ผม เหมือนกับปากสีอมชมพูนั้น ... 

                ก่อนที่จะพูดอะไรให้ใจของผมเต้นแรงขึ้น ..













                ปลอดภัยแล้วครับคุณตา ... ผมพาข้ามถนนเรียบร้อยแล้ว


                อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×