[fanfic ก้อยดาว] ชุลมุนวุ่นรักมีแฟนเป็นผี(?) - [fanfic ก้อยดาว] ชุลมุนวุ่นรักมีแฟนเป็นผี(?) นิยาย [fanfic ก้อยดาว] ชุลมุนวุ่นรักมีแฟนเป็นผี(?) : Dek-D.com - Writer

    [fanfic ก้อยดาว] ชุลมุนวุ่นรักมีแฟนเป็นผี(?)

    โดย ลอนอ

    แต่แล้วเหตุการ์ณไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อก้อยเกิดอุบัติเหตุจนวิญญาณหลุดจากร่างหาทางกลับไม่ได้ งานนี้ดุจดาวจะทำยังไง หรือเธอจะต้องมีแฟนเป็นผี?

    ผู้เข้าชมรวม

    3,570

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    3.57K

    ความคิดเห็น


    25

    คนติดตาม


    35
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ต.ค. 57 / 12:53 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    ดุจดาว จำรัสไพศาล

    ฉันอุส่าหนีแกมาไกลถึงอังกฤษ นี่แกยังจะตามฉัามาอีกหรอก้อย 
    แกจะทำให้ฉันรู้สึกแพ้ไปถึงไหนกัน  

    วิริยา ก่อเกียรติภิรมย์
    ทำไมจู่ๆแกถึงหายไปไม่ยอมบอกฉันนะดาวฉันรอแกมาตลอด2ปีเลยนะ
    หรือเพราะเรื่องคืนวันปัจฉิมหรอ 


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       กว่าที่รู้ว่าตัวเธอนั้นสำคัญเท่าไหร่

      และก็ได้รู้ในวันที่ฉันเสียเธอไป


      ก้อยมีคนฝากของมาให้

      ก้อยไปกินข้าวกัน


      นี่เรา คิดเรื่องก้อยอีกแล้วหรอ เฮ้อ ทำไมกันนะนี่ฉันยังหนีแกมาไม่ไกลพอรึไง ทำไมแกถึงยังตามมาหลอกหลอนฉันอยู่อีก

      .”ดาวเป็นอะไรนะลูก แม่เห็นทำไมเหม่อๆแล้วถอนหายใจขนาดนั้นละ

      อ่อ พอดีหนูกำลังคิดอะไรหน่อยอะค่ะ

      คนเป็นแม่อมยิ้มกับคำตอบที่ได้ยิน คงไม่คิดสินะว่าแม่จะรู้ทันนะ

      เรื่องก้อยใช่มั้ยลูก

      ดุจดาวเงียบ

      อย่าไปคิดมากเลยนะลูกเรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้วนะ เออนี่ดาว คืนนี้แม่จะบินกลับไทยนะ ลูกจะกลับด้วยรึป่าว?”


      กลับไทยนะหรอ? ฉันจะกลับไปทำไมในเมื่อฉันหนีมาก็เพราะก้อยถ้าฉันกลีบไปฉันคงต้องเจอแก แล้วเมื่อไหร่ฉันจะทำใจได้ละ


      คงไม่กลับหรอกค่ะแม่ หนูคิดว่าคงจะอยู่ที่นี่ไปอีกนานเลยค่ะ

       

       

       

      London Heathrow Airport


      ปึง

      กระเป๋าเดินทางใบยักษ์ถูกโยนอย่างทุลักทุเล

      เจ้าของกระเป๋าถอดแว่นกันแดดสีดำที่ใส่อยู่ก่อนจะมองไปรอบๆ


      ดุจดาว จำรัสไพศาล เธอหนีมาอยู่ที่นี่เองสินะ

       

      ฮัดชิ่วววววว

      ยี๋ ยัยดาวทำไมแกไม่รู้จักปิดปากเนี่ย

      เห่ยๆ อะไรกันแค่จามนิดหน่อยเอง อย่าทำเป็นบ่นไปหน่อยเลยนะแอล

      แอลเบ้ปากก่อนจะส่ายหัวอย่างเอือมๆกับคำพูดของเพื่อนสนิทเธอ

      เออนี่ดาว แกไม่คิดจะกลับไปไทยเลยหรอ

      ไม่นะ

      แล้วแกได้ติดต่อก้อยบ้างปะแอลเผลอปากถามไป

      ก็ไม่เลยนะ ตั้งแต่คืนวันปัจฉิมนะ

      ตายแล้วแอล แกจะถามจี้ปมยัยดาวมันทำไมเนี่ยยยยยยย

      เห่ยๆแอล แกไม่ต้องรู้สึกผิดที่ถามฉันนะเว้ย ฉันไม่อะไรแล้วนะ เรื่องมันก็ผ่านไปนานแล้ว

      อืม เองมันผ่านไปนานแล้ว แต่ทำไม

      ฉันยังไม่ลืมแกนะก้อย

      เห้ยนี่ดาว แกจำวันที่เราสองคนทะเลาะกันได้ปะ ที่ฉันว่าแกเพียงเพราะรักกรุ้มกริ่มอดออกอากาศเพราะแม่แกนะ

      แอลพูดขึ้นทำลายบรรยากาศเงียบๆที่เกิดขึ้นตอนนี้

      จำได้ดิ นึกถึงแล้วก็ตลกดีเนอะ5555

      ใช่ปะแก ฉันนึกถึงที่ไรก็ยังอดขำไม่ได้เลยอะ ทำไมตอนนั้นเราทะเลาะกันด้วยเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้นะ

      ครั้งนั้นที่เราทะเลาะกับแอลนะหรอ มีคนบ้าที่ไหนไม่รู้บอกว่าถ้าหายแล้วจะเลี้ยงไอติม

      คิดถึงตอนนั้นจังเลยเนอะ

      แอลพูดขึ้นเหมือนรู้ทันความคิดเธอ

      แต่แล้วเหตุการ์ณที่ไม่คาดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้น

      คนที่อยู่ข้างหน้าทั้ง2คน


      วิริยา ก่อเกียรติภิรมย์!!!!


      คนที่เธอหนีมาตลอด2ปี กำลังยืนอยู่ข้างหน้าเธอ

      ชิบหายแล้ว จะหนีก็คงต้องหนีตอนนี้แหละ

      แอลประมวนผลก่อนจะตัดสิ้นใจคว้าข้อมือดาว

      วิ่ง!”

       

       

      เห้ยๆ  เดี๋ยวสิ!!!”

      ก้อยตะโกนเรียกทั้งคู่

      แต่ก็ไม่เป็นผล

      เพราะตอนนี้ทั้งคู่โกยเกียร์หมากันจนถึงบ้านพักเรียบร้อยแล้ว

      เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันก้อยนี่ มาทำอะไรที่นี่ แล้วมาได้ไง

      ดาวรัวคำถามใส่แอล ผู้ซึ่ง... ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

      เดี๊ยวๆๆ ฉันก็กำลังงงเหมือนแกนั่นแหละ แต่เมื่อกี้แนเห็นดิวนะ เหมือนมันจะมากับก้อย

      แอลส่ายมือเป็นสัญญาณบอกให้ดาวสงบสติอารมณ์

      ไม่รู้ว่าดาวจะถามทำไมนะ เพราะเธอเองก้ไม่รุ้เหมือนกันนั่นแหละ แถมอยากรู้มากกกกก

      หลังจากสงบสติอารมได้สักพักเรื่องทั้งหมดก็ประติดประต่อได้อย่างลงตัว

      ดุจดาวยิ้ม

      นี่ เมื่อกี้แกบอกว่าเห็นดิวใช่มั้ย ฉันว่านะยัยดิวนั่นแหละตัวเสือก เอ้ยๆ ตัวสืบ มันคงสืบว่าเราทั้งคู่อยู่ที่ไหนแล้วบอกก้อย2คนนั้นก้เลยหอบกระเป๋าตามเรามาอย่างที่เราเห็นกันแน่เลย


      .ก๊อก ก๊อก

      เสียงเคาะประตูดังขึ้น


      ดาวรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะถูกขัดจังหวะแต่ก็ลุกเดินไปเปิด

      นี่ เราเป็นเพื่อนบ้านใหม่นะ เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่วันแรก ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ

      ดุจดาว จำรัสไพศาล” 

      โอ๊ย

      นี่วันนี้มันวันอะไรกัน

      ทำไมฉันต้องมาเจอยัยนี่อีกเนี่ย นี่ฉันอุส่าหนีมาอังกฤษแล้วนะ

      แต่กลับมาเจอแถมอยู่บ้านข้างๆกันอีก ให้ตายเถอะ

      หนีเสือปะจระเข้จริงๆเลยนะดุจดาว

      ดีนะที่รีบปิดประตูก่อนจะสติแตกมากไปกว่านี้

      แต่ก็ยังไม่วายเสียงของคนนอกประตูที่ตะโกนก็เล็ดลอดเข้ามา

      เข้ามาพอที่จะได้ยินได้ แถมชัดอีกด้วย


      เห้ย!!นี่คิดจะหลบหน้าฉันไปถึงไหนกัน แล้วมาปิดประตูใส่กันแบบนี้ทำไม

      ก้อยยังไม่หยุดที่ประโยคเดียว

      .”นี่แกกลัวฉันไปขโมยของบ้านแกรึไงถึงไม่ยอมเปิด

      .”หรือแกไปโล๊ะจมูกบริจาคให้คนไร้ดั้งที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ แกถึงหลบหน้าฉัน


      ปังปังปังปังปัง


      ก้อยทุบประตูรัวๆเพื่อให้ดาวออกมาเปิดประตูให้

      แอลที่ทนรำคาญอยู่นานจึงลุกไปเปิดประตู

      เห้ย นี่พวกแกว่างมากสินะ มาทุบประตูบ้านคนอื่นอยู่ได้ถ้าขืนแกยังทุบอีกนะก้อย

      ฉันให้ดาวเอาโคมไฟในบ้านฝาดหัวแกแตกแน่ ส่วนแกดิว แกนะตัวดีเลยนะ ถ้าแกยังไม่พาก้อยกลับไปตอนนี้ แกเจอระนาดเอกในบ้านฉันแน่ “


      ดิวถึงกับเงียบ หวาดกลัวสุดขีด

      เธอรู้ว่าดุจดาวเวลาโมโหจนควบคุมอารมไม่ได้เป็นยังไง

      ครั้งนั้นฉิ่ง..

      ครั้งนี้ระนาดเอก..

      อีกหน่อยคงฆ้องสินะ….นี่บ้านยัยนี่ขายเครื่องดนตรีรึไงกัน

      เมื่อคิดดังนั้นดิวรีบลากก้อยออกจากประตูทันที แต่ก้อยยังคงดื้อด้านที่จะอยู่


      ก้อย รีบไปเถอะนะ

      ไม่ ยังไงฉันก็ต้องคุยกับดาวให้ได้ก่อนก้อยยังคงยืนกรานคำตอบเดิม

      แอลหลบไป

      ดาวพูดออกมา แอลพยักหน้าก่อนจะหลบอย่างว่าง่าย


      ดิวหน้าซีด

      แน่นอนเธอรู้ว่าตอนนี้ดุจดาวสติขาดผึ่งเรียบร้อย

      วินาทีนั้นดิวตัดสินใจกระชากข้อมือก้อนก่อนจะรีบวิ่งออกมา


      โครม


      โคมไฟลายคิตตี้ลอยออกมาตรงหน้าประตูเป๊ะ

      ดีนะที่ดิวตัดสินใจหลบก่อนไม่งั้นงานนี้ก้อยตายคาประตูแน่

      ฉันเตือนแกแล้วนะก้อยยยยยยยยย

       

      เดี๊ยวนะ นี่ยัยบ้านั่น โหดขนาดนั้นเชียวหรอ

      นี่ดุจดาวร่างเจ้าแม่บุญทุ่มอย่างที่เขาลือกันมาสินะ

      เห้อออ ถ้าไม่ได้ดิวนี่ไม่อยากจะนึกสภาพตัวเอง

      ก้อยก็ได้แต่คิดในใจ

      ขืนพูดออกไปมีหวัง โต๊ะคิตตี้ที่อยู่ในบ้านคงลอยออกมากอีกแน่


      ฉันบอกแกแล้วนะก้อย ว่าดาวมันไม่อยากคุยกับแกหรอก

      เออ ฉันรู้นะดิว แต่ก็อยากลองดูไง

       

      เห้อ นี่สองคนนั้นยังไม่ไปไหนอีก

      นั่นคุยอะไรกันอยู่นะ

      ดุจดาวยืนมองทั้งคู่ผ่านหน้าต่างในบ้าน

      แอลที่เห็นดาวยืนมองสองคนนั้นก็พูดขึ้น


      นี่ดาว แกควรไปคุยกับก้อยให้รู้เรื่องนะ

      ฉันกลัวคำตอบอะแก

      2ปีแล้วนะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดสิ

      แต่ฉันยังทำตัวเป็นเพื่อนกับก้อยไม่ได้เลยนะ

      ฉันคงช่วยแกได้แค่นี้แหละก้อย

      ดาวมันไม่ยอมฟังอะไรฉันเลย

      เออนี่แอล ฉันจะออกไปวิ่งนะ เอาไรป่าว

      เหมือนเดิมแอลตอบเสียงังเงีย

       

      ไหนๆก็ไหนๆและ ลองไปดูก้อยหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร

      ดุจดาวเหลือบไปมองบ้านก้อย

      มืดขนาดนั้น คงนอนอยู่สินะ

      นี่มันก็เพิ่ง 6 โมงเช้าเอง

      รายนั้นนะตื่นสายประจำอยู่แล้วแหละ

      ว่าแล้ว

      ดุจดาวก็วิ่งไปยังสวนสาธารณะของเมือง

      ทำภารกิจของเธอเหมือนที่เธอทำทุกๆเช้าที่ผ่านมา

       

      ดุจดาว จำรัสไพศาล

      เหมือนที่แอลบอกจริงๆด้วยแหะ

      ดาวจะออกมาวิ่งทุกเช้า

      ไหนๆก็ไหนๆและ ทักกันซะหน่อย


      โอ๊ย เหนื่อยจังเลยเนอะ ออกมาวิ่งตอนเช้าเนี่ย

      ดาวมองคนตรงก่อนจะมองผ่านไปราวกับก้อยเป็นแค่อากาศ


      “sold out sorry sorry”

      เอาไงดีละ ร้านนี้หมดแล้วฉันจะซื้อไรกลับไปให้แอลละ

      นี่ดาววววววววก้อยเดินมาพร้อมกับถุงขนม

      อะ ฝากไปให้แอลด้วยนะ

      ฉันจะรับไว้แทนแอลละกันนะ แต่ถ้าซื้อมาให้ฉันนะบอกเลยว่าไม่รับของแกแน่นอน


      หืม ทำไมเดี๋ยวนี้ดาวมันปากร้ายจังนะ

      มีจะไม่รับของเราด้วย

      วิริยายิ้มในใจ


      นี่แกยิ้มอะไรของแก

      อ้าว เห้ย นี่ฉันอุส่ายิ้มในใจแกเห็นด้วยอ่อ?”

      ยิ้มในใจบ้าบออะไรของแก คนบ้าที่ไหนยิ้มในใจได้ห้ะ

      เดี๋ยวนะ นี่แกยอมคุยกับฉันแล้วนิ


      ตายละ ลืมตัวอีกแล้วนะดุจดาว

      ไม่น่าเล้ยยย

      ก็ใครจะไปทนได้ละ ยิ้มน่ารักขนาดนั้น

      คิดถึงจังเลยเนอะ

      แต่แกมีคนนั้นแล้วนะก้อย แกอย่ามาให้ความหวังฉันอีกเลย

       

      ดาว แกจะไปไหนอะแกรอฉันด้วยดิ


      ก้อยเดินตามดาวไป ในขณะนั้นเอง

      มีรถแท๊กซี่ดริฟมาแต่ไกล แต่ดันเบรกไม่อยู่

      จึงชนวิริยาเข้าเต็ม


      โครมมม


      ก้อย!!!!

      นี่คือคนที่เธอนึกถึงเป็นคนแรก

      คนที่ตามเธอมาเมื่อกี้

      คนที่อยู่ข้างหลังเธอ

      และคนที่กำลังนอนหมดสติเพราะโดนรถชนเมื่อกี้

      ด..า..ว..

      ดุจดาวกอดร่างวิริยาที่เต็มไปด้วยเลือดก่อนที่น้ำตาจะไหลมาเป็นเขื่อน

      แกต้องไม่เป็นไรนะก้อย แกต้องไม่เป็นอะไร


      ขอบคุณนะดาว

      ขอบคุณที่แกยังคุยกับฉัน

      ขอบคุณจริงๆนะดาว

       

       

       

      ฉัน...รั..ก.แ...ก..น..ะ..ด...า..ว..

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       




      ห้ะ อะไรนะ ก้อยโดนรถชน แล้วตอนนี้ก้อยเป็นไง

      “ชนได้ไงวะ แล้วก้อยอยู่ไหน”
      แอลและดิวรัวคำถามใส่ งี้ใครจะไปตอบทันละย่ะ

      “อาการหนักอยู่นะ ตอนนี้อยู่ icu นะ “

      ฉันหันไปตอบแอลกับดิว


      อ๊ะ  ยัยดิวไม่อยู่นิ

      ยัยนั่นหายไปไหน


      โน่นอะ ยัยนั่นสติแตกไปคุยกับหมอแล้วแอลชี้ไปที่ประตูห้องฉุกเฉิน

       


      โอ ด้อกเต้อ เพื่อนไอๆ เพื่อนไอ fine มั้ย

       

       

      หมอทำหน้างงส่ายมือไปมาแต่ยัยดิวก็ยังไม่หยุด

      “answer me answer me เฟรนมี ไฟน มั้ย


      เกือบลืมไปเลยว่าสกิลด้านภาษาของดิวนี่ย่ำแย่มากเลยแหละ

      แอลทนไม่ไหวกับภาษาที่นางพูดจึงเดินเข้าไปคุยกับหมอเองซะเลย


      “%^$#@$**(@*)*_)_()@%@^*__!@%$”

      “#$@&&(@_)@*&@”


      ทันทีที่แอลคุยกับหมอเสร็จ2คนก็รัวคำถามมา

      หมอว่าไงวะแอล

      ก้อยเป็นไงบ้าง


      หมอบอกว่า ก้อยยังไม่ได้สติแถมสมองได้รับการกระทบกระเทือน ตอนนี้เป็นเจ้าหญิงนินทรา

      ไม่มีกำหนดว่าจะฟื้นวันไหน”


      ทันทีที่แอลพูดจบดุจดาวก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่ได้สติ




      ก้อยฉันขอโทษ ก้อยแกฟื้นขึ้นมานะ

      ดุจดาวพูดกับร่างที่ไร้สติตรงหน้าเสียง

      ชีพจรของคนตรงหน้าดังทั่วห้อง

      ความเงียบไม่ได้ช่วยให้เธอดีขึ้นเหมือนทุกครั้ง
      กับทำให้เธอรู้สึกแย่กว่าเดิม


      แกตื่นขึ้นมาสิก้อย แกรู้มั้ยตอนนี้ฉันอยุ่คนเดียว แอลกับดิวมันจะกลับไปเฝ้าบ้านนะ

      ร่างตรงหน้ายังคงไม่มีการตอบรับไร้การเคลื่อนไหวใดใดทั้งสิ้น

      นี่ก้อย คืนนี้ฉันจะนอนเป็นเพื่อนแกเองนะ


      ดุจดาวฝุบลงข้างร่างก้อย

      ฉันหนาวจัง

      ฉันคิดถึงแกนะก้อย


      แกไม่ต้องกลัวนะดาวต่อจากนี้แกมีฉันอยู่ข้างๆนะ


      ห้ะ เมื่อกี้นี้ เสียงก้อย?

      มองดูก็เหมือนเดิม ก้อยยังไร้การเคลื่อนไหว

      สงสัยจะหูฝาด


      หูฝาดอะไรเสียงฉันชัดๆ


      ก้อย!!!!

      เดี๋ยวนะ

      นี่มันเรื่องบ้าอะไร วิญญาณก้อยหลุดออกจากร่างแบบในหนัง?

      หรือว่าฉันตาฝาด

      ทำไมมมม รักดราม่าฉันก็เล่นให้ได้ รักโรแมนติก็ได้ แต่นี่คิดจะแต่งเป็นรักกับผีนี่นะ อีไรททท

      ดุจดาวบ่นในใจ


      ก้อย ที่ตอนนี้กลายเป็นวิญญาณไปแล้วเดินไปทั่วห้องก่อนจะทดลองจับนู่นจับนี่เช็คร่างตัวเองดู


      เห้ย ดาว ฉันจับแก้วน้ำได้อะ ดูดิๆแต่มันจะวืดๆหน่อยสงสัยหนักไปแหละ

      ก้อยพูดอย่างตื่นเต้น

      แต่ดุจดาวยังคงพรึมพรำอะไรคนเดียว

      พรึมพรำอะไรของเค้านะ

      แอบฟังสักหน่อย


      หมายความว่า ฉันเห็นผี ก้อยจะเป็นผีมาหลอกฉัน ไม่สิ หรือว่าต้องบอกคุณริว

      หรือคุณเจน ยานดิฟดี หรือพี่ป๋องแป๊งดี ......”


      ยัยนี่นี่ยังขี้มโนไม่เปลี่ยน

      ไม่ไหวเล้ยยยย


      พอเลยดาว ฉันจะมาหลอกอะไร แกดูดิฉันยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ

      เห้ย แกอย่ามาพูดกับฉันนะก้อย แกเป็นผีฉันเป็นคน อย่าโกรธฉันนะ เดี๋ยวฉันจะทำบุญไปให้แก แกอย่ามาหลอกมาหลอนฉันเลยนะ

      ฉันไม่ได้มาหลอกแก แต่ไอ่เรื่องฉันเป็นผีนี่ฉันไม่ปฏิเสธแล้วกัน

       

      ก้อยมองหน้าดุจดาวที่แลยังระแวงอย่างเอือมๆ

      แต่ก้อยก็ไม่ได้ปล่อยให้ดุจดาวมองเธออยู่ฝ่ายเดียว

      เขา(?)มองกลับ

      จนดาวต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาซะเอง


      มองอะไรนะ


      เป็นผีแล้วดันมาจ้องเราซะขนาดนั้นนะ

      ใช้ได้ที่ไหนกันละ


      อืมมมม ครั้งนี้แกแพ้ฉันนะดุจดาว 

      ไอ่ผีบ้า


      ก้อยทำหน้าทะเล้นใส่ ก่อนจะลอยไปทั่วห้อง

      อันที่จริงจะเรียกว่ากระโดดก็ได้นะ

      แค่เป็นคนปกติก็อยู่ไม่สุขอยู่แล้ว

      นี่ดันเป็นผี

      ตายแน่เลยดุจดาว


      ดาว ฉันว่าสบายดีออกเป็นผีเนี่ย

      แกนะดีแต่ฉันประสาทจะกินแล้วย่ะ

      แกนะดีแต่ฉันประสาทจะกินแล้ววววว..ย่ะ

      ก้อยพูดเลียนแบบความคิดฉัน


      ห้ะ เดี๋ยวนะ

      แสดงว่า

      ก้อยก็ต้องรู้สิว่าเราคิดอะไรอยู่


      เป็นผีมันก็ดีนะ ดีตรงที่ฉันรู้ความคิดที่ได้นี่แหละดาว

      ก้อยห้อยหัวลงมาตรงหน้า ก่อนจะกระโดดลงมายืนข้างๆดุจดาว

      แต่ฉันว่านะ แกควรช่วยฉันหาวิธีกลับร่าง

      แกคิดว่ามันจะเหมือนในหนังรึไง - -*

      เอาน่าดาว ไม่ลองก็ไม่รู้ดิ พอฉันกลับร่างนะ แกก็เอาเรื่องเนี่ยไปแต่งนิยาย

      และสุดท้ายดุจดาวกับวิริยาก็ครองรักกันอย่างมีความสุข ตราบนานเท่านาน”

      ถ้าแกยังไม่เลิกมโนฉันจะกลับบ้านดุจดาวพูดตัดบท


      แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมหยุด

      เหมือนยิ่งอีกฝ่ายห้าม

      กลับเป็นการท้าทายเธอ


      หรือไม่ก็นะ ด้วยความรักของเค้าทั้ง2คนทำให้ วิรยาสามารถกลับร่างได้ บลาๆๆๆ

       


      เห้อออออออออออออ

      ผีบ้าก็อุส่าบอกไปแล้วว่าถ้ายังมโนต่อฉันจะกลับบ้าน

      คิดว่าฉันจะแค่ขู่รึไง

      ใช่แล้ว ตอนนี้ฉันอยู่บ้านแล้วนะสิ

      เตือนแล้วไม่ฟังดีนัก

      คืนนี้นอนคนเดียวไปเลยย่ะ

      ยังไงก็อาบน้ำหน่อยดีกว่า


      ซู่ ซู่


      เสียงฝักบัวไหลลงมาประทะร่างบาง

      ความเย็นของน้ำที่ไหลลงมาก้พอจะทำให้เธอใจเย็นลง

      พอที่จะคิดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้

      ว่าเธอควรจะทำไงต่อ


      นี่ดาว แกยังไม่เลิกใส่เสื้อในลายคิตตี้อีกหรอ


      ดุจดาวตกใจ

      เสียงก้อย

      เธอไม่อยากคิดว่าเขาจะเข้ามาได้

      แต่ก็เป็นไปตามความคิดเธอ

      ก้อยยืนถือเสื้อในเธอก่อนจะผลิกดูไปมา


      แล้วกางเกงในนี่ลายอะไรน้า


      ก้อยยังไม่หยุดอยู่ที่เสื้อในแต่กลับจะเดินไปหยิบกกน.อีก

      ดาวรีบวิ่งไปหยิบกกน.ก่อน ที่ก้อยจะหยิบ

      แต่ดูเหมือนว่าเธอจะลืมไปว่าตอนนี้

      เธอกำลังอาบน้ำอยู่


      ก้อยมองตาค้าง......

      เสื้อในถูกปล่อยตกลงกลับพื้น


      กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด


      แอลที่อยู่ห้องข้างๆก็รีบวิ่งขึ้นมาดูหลังจากได้ยินเสียงกรี๊ดในห้องของดุจดาว

      เปิดประตูเข้าไปก็เจอ

      ดุจดาวที่ตอนนี้ห่อหุ้มไปด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว

      พร้อมกับใบหน้าที่หงุดหงิด ระเบิดพร้อมจะลงได้ทุกที


      เห้ยดาวแกกรี๊ดทำไม เกิดอะไรขึ้น


      แอลรัวคำถามใส่ฉันแต่ ทำไมแอลกลับไม่เห็น

      อีผีที่มันยืนอยู่ข้างหน้าฉันเนี่ยยยยย

      ดูมันสิ ยังมีการมาแลบลิ้นใส่

      อีผีบ้าอีหื่นอีโรคจิต


      ดาวแกโกรธฉันหรอ ทำไมแกทำหน้าแบบนั้นอะ

      สงสัยความรู้สึกจะออกมาทางสีหน้ามากไปหน่อยนะ


      เอ้ยๆ ป่าวแอล ฉันไม่ได้โกรธนะคือว่า  โน่นนะ


      แอลมองตามที่ดาวชี้ไป

      ในห้องน้ำ?

      แอลเลิกคิ้วถามเป็นนัยๆ

      ก็ใครจะไปรู้ละ ว่าที่ยัยดาวชี้ไปนะ

      มันไม่มีอะไรเลย

      ห้องน้ำว่างเปล่าปกติ


      ดาว ฉันก็ไม่เห็นห้องน้ำมีอะไรเลยนะ


      นี่แอลไม่เห็นก้อยที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำเลยหรอ

      เป็นไปไม่ได้นะ

      แล้วทำไมฉันเห็นเนี่ยยยยTOT

      ก้อยยิ้มอย่างผู้มีชัย

      ก่อนจะพูดเบาๆแต่ก้พออ่านจากปากเป็นประโยคได้


      ยังไงเธอก้ต้องเจอฉันไปอีกนานนะดุจดาว


      ห้ะ แกพูดอะไรนะดาว ใครเจอแก แกเจอใคร

      เอ้ยป่าวๆไม่มีไรแอล  ฉันแค่บอกว่าโชคดีจังเลยที่มีเพื่อนแบบแก


      ก้อยที่ได้ยินประโยคแถของดุจดาวถึงกับเบ้ปาก

      เป็นการแถที่แย่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย

      คิดว่ายัยแอลจะเชื่อรึไง


      เห้ยไม่เป็นไรดาว ฉันก็ดีใจที่มีเพื่อนแบบแก แล้วสรุปแกกรี๊ดทำไม


      ก้อยถึงกับกุมขมับถึงความซื่อ(บื้อ)ของเพื่อนตัวเอง


      อ่อ น้ำมันเย็นไปนะ  ฉันหนาว


      แหมๆ ดุจดาวแขนถลอกหมดแล้วมั้ง

      แถซะขนาดนั้น

      แกก็บอกไปสิว่าเห็นก้อย

      ดุจดาวมองมาที่ปากของฉันก่อนจะถลึงตาให้

      เป็นเชิงว่า หุบปากแล้วเงียบๆซะ

      แต่ผีก้อย ก็ยอมทำต่างอย่างว่างาย

      เดินไปนั่งที่โต๊ะหนังสือของดุจดาวก่อนจะ2คนคุยกัน


      นี่ดาว ฉันก็คิดว่าเรื่องอะไร บางทีฉันก็ปวดหัวกับเสียงกรี๊ดแกนะ ไปและ ฝันดีนะดาว

      ก่อนจะไปแอลก็ยังไม่ลืมหันมากำชับ

      อย่ากรี๊ดอีกนะ เสียงกรี๊ดแกนี่มัน ไร้คำบรรยายจริงๆ


      และแล้วแอลก็เดินออกไป

      ทิ้งฉันไว้กับก้อย

      2คนเนี่ยนะ


      แต่เมื่อกี้เธอเซกซี่มากเลยนะดุจดาว

      ยัยผีหื่นนี่ยังไม่เลิกพูดมาก เป็นผีแล้วยังจะปากมากอีก

      น่าจะจัดการให้เข็ดๆ

      เห่ยๆนี่ แต่ก็ยังเล็กเหมือนเดิมเลยนะ หรือว่าจะจริงที่เขาบอกันว่า โกหกมากๆนมจะเล็ก

      ถึงเธอจะแบนจนไม้กระดานเรียกทวด

      แต่เธอก็ไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าเธอนมเล็ก

      นี่ก้อย นมฉันนะจะมองเห็นในที่มืด พอมืดปุ้ปนมฉันจะบูมบู้มออกมาเลยนะเว้ย

      หืมม งี้ต้องลองซะหน่อยแล้ว

      ทันทีที่ก้อยพูดจบ ไปในห้องก็ดับ


      มืดสนิท

      บรรยากาศแบบนี้มัน

      ดุจดาวกำลังจะกรี๊ด

      แต่แล้วก็มีมือมาปิดปากเธอไว้

      ถึงยังไงก้อยก้เป็นผีแหละ

      ใช่เธอกำลังกลัวคนตรงหน้า

      ทำไมแววตาที่มองเธอเหมือนกับไม่ใช่ก้อยละ


      ไม่เอานะ อย่ากลัวกันขนาดนั้นสิ

      ก้อย

      ดุจดาวพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา

      พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความกลัว

      ฟึ่บ

      ไฟทุกดวงในห้องสว่างขึ้นมา

      บรรยากาศต่างกับเมื่อกี้ลิบลับ

      โหย แกจะร้องทำไมนะดาวฉันแค่แกล้งแกนิดเดียวเอง

      ผีตรงหน้าบ่นอุบอิบ

      แต่ดาวก็วิ่งเข้ากอด

      แกอย่าแกล้งฉันแบบนี้อีกนะ ฉันกลัว

      ก้อยผงะไปนิดนึง

      นี่เราแกล้งแรงไปสินะ

      แล้วนี่

      คนกอดผีได้ด้วยหรอวะเนี่ยยยยยยยย

      อีไรททททท แกมาตอบสิ

      แต่ช่างมัน นิยาย ความมโนของอิไรททำได้ทุกอย่าง

      ฮึกฮึกฮึก

      คนตรงหน้ายังคงร้องไห้ไม่หยุด

      ก้อยที่มองนิ่งอยู่นาน

      ก็กอดตอบ

      นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้กอดกันแบบนี้

      ขอโทษนะก้อยกระซิบลงข้างหูดาว

      หึหึ

      กว่าก้อยจะรู้ตัวว่าโดนดุจดาวแกล้งกับก็ช้าไป

      ดุจดาวยิ้มอย่างผู้มีชัย

      ในขณะที่ร่างของก้อยลงไปนอนกองกับพื้น

      ร้อน

      ทำไมมันร้อนแบบนี้

      ยัยดุจดาวแกทำอะไร

      ก่อนที่สติผีจะดับวูบ ก้อยเหลือบมองเห็นส้อยพระที่แขนตัวเอง

      แสบนักนะดุจดาว

      ยังไงก็ช่วยหลับไปก่อนนะ ฉันง่วงแล้วละ


      ______________________________________________________________________


      "วิริยา ตื่นได้แล้วนะ"


      ร่างสูงง่วงเงียตามเสียงเรียก

      "นี่ๆ เป็นผีอย่าหัดตื่นสายสิ"

      "คร้าๆตื่นแล้วคร้าาาา"

      "นี่ เป็นผีก็หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์หน่อยสิ"

      "ห้ะ?"

      ก้อยเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย

      "ก็ไม่มีไรมากนะ แค่ ที่นอนอะพับ พับเสร็จก็ไปกวาดบ้าน ถูบ้าน แล้วก็ฝากตากผ้าที่ซักไว้ให้หน่อยละกัน"

      "เดี๊ยวๆ ฉันเป็นผีนะเว้ย แกจะบ้ารึไงมาใช้งานผี"

      "น่านะๆเอาหน่อยนะ เป็นผีทั้งที ถือว่าทำบุญให้ตัวเองนะจะได้เข้าร่างได้สักที"

      ดาวโบกมือไล่ก้อยเป็นนัยๆก่อนจะเดินออกจากห้องทิ้งก้อยไว้ตนเดียว

      ยัยดุจดาว
      ทำไมเธอแสบแบบนี้นะ
      คนบ้าที่ไหนมาใช่งานผีกัน--*
      เหอะ
      แต่เรานี่ก็บ้าจี้ ทำไมกัน นี่เราทำทุกอยากเสร็จจนเหลือแค่ไม่ถูพื้นทำไมกัน

      ก้อยอดที่จะตำหนิตัวเองไม่ได้เพราะถึงจะบ่นดุจดาวแต่ตัวเองก็กลับทำทุกอย่างซะงั้น

      "เห เสร็จแล้วเรอะเนี่ย ดีๆเป็นผีที่ดีจริงๆ "

      "ขอบใจสำหรับคำชม"

      "คืนนี้เตรียมตัวนะ"

      "เตรียมตัว?ตลกแล้วววว ตอนนี้ของฉันคงเตรียมวิญญาณนะ"

      "ถ้าแกไม่เลิกกวนตีนฉันอีกแกเจอยันต์แปะกลางหน้าผากแน่"

      ดาวชี้ไปที่กลางหัวก้อยเพื่อให้ก้อยนึกภาพออก

      "โหย โหดเป็นบ้า เออนี่แล้วเตรียมทำไมอะ"

      "เราจะกลับไทยกัน"

      ก้อยทำหน้าสงสัย
      ดุจดาวรีบอทิบาย

      "จะไปหาพระไม่ก็หมอผีนะเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง ที่นี่มันไม่มีนะ"


      ผีนี่ขึ้นเครื่องบินได้มั้ยนะ...

      จู่ๆคำถามนี้ก็เต็มสมองฉันไปหมด

      แต่มองไปที่ก้อย

      นางก็ไม่มีการกังวลอะไรเล้ยยยย

      กลับตื่นเต้นซะอีก

      "นี่ ฉันจะขึ้นเครื่องบิน ฉันจะเป็นผีที่ได้ขึ้นเครื่องบินแล้วนะ "

      แกนี่มันน่าปวดหัวจิงๆก้อย

      ดุจดาวกุมขมับตัวเอง

      "อ้าวๆนี่แกไม่ดีใจหรอ เห่ยๆดูดิ "

      "พอๆก้อย รีบขึ้นเครื่องเถอะ"



      ณ กรุงเทพมหานคร

      "นี่แกจะไปหาใครที่พอจะช่วยเรื่องนี้อะดาว"

      "หลวงพี่หมอกนะ เห็นได้ข่าวว่าอกหักจากพี่ขวัญเลยอยากละทางโลกก็เลยหันไปบวชแทนนะ

      "อ่อ คุ้นๆอยู่นะเหมือนจะเคยได้ยินว่าแต่ ที่ไหนละ"

      "วัดพระแก้ว"

      "ตลกและแก วัดพระแก้วไม่มีพระย่ะ"

      "แหมๆโทดทีนะก้อย แต่นี่มันนิยายอีไรทเค้าเขียนให้วัดพระแก้วมีพระก็มีไปเถอะ"

      ก้อยพยักหน้าไม่กล้าพูดอะไรมาก

      เพราะอีไรทให้บทก้อยมาแค่นี้


      "นมัสการค่ะหลวงพี่หมอก"

      ในขณะที่ดาวและพระหมอกกำลังคุยกัน

      วิญญาณข้างหลังที่ตามดาวมาก็กระโดดไปทั่วโบส

      ลอยขึ้นไปลนเพดาน เดินบนขื่อ ว่าง่ายคือๆ

      อะไรที่พิเรนๆนางทำหมดแค่นั้นไม่พอนางยังส่งเสียงเรียกดาวไปมา

      "นี่ๆดาวดูดิฉันกระโดดถึงด้วย"

      "นี่ๆฉันจะห้อยหัวลงไปแล้วนะ"

      "ฉันสงสัยจังว่าทำไมฉันเข้าวัดได้นะ"

      "ดาวๆๆๆๆๆ"


      "โอ้ยยยยย หุบปากสักทีย่ะ ฉันก็สงสัยเหมือนกันแหนะง่าแกเข้าวัดมาได้ไง"

      ดุจดาวตะโกนขึ้นมาก่อนจะลืมไปว่า พระหมอกนั่งอยู่ข้างหน้าเธอ

      "เอ่อ ขอโทษนะค่ะหลวงพี่"

      "แต่เอาตรงๆนะ อาตมาก็สงสัยว่าโยมก้อยเข้ามาได้ไง"

      ....

      ไม่มีใครให้คำตอบกับเรื่องนี้ได้

      นั่นก็เพราะมันคือการมโนว่าผีเข้าวัดได้ของไรท


      "แต่ว่านะโยมดาว ตอนนี้บอกให้โยมก้อยหยุดก่อนเถอะ อาตมาปวดหัว"

      ยัยนี่นิเป็นคนก็ทำคนอื่นปวดหัว

      นี่ขนาดเป็นผียังทำพระปวดหัว

      ให้ตายเถอะก้อย

      ครั้งแน่แกเป็นคิตตี้มั้ย เผื่อไรทจะแต่งคล้ายๆแอนนาเบลไรงี้


      "ก้อย แกหยุดแล้วนั่งลง มาฟังนี่มา พระเค้าบอกเค้าปวดหัวแล้ว"

      ก้อยลอยมานั่งอย่างว่าง่าย

      "ตามที่อาตมาเคยเจอมานะ ถ้าจะกลับร่างต้องหาเรื่องที่ติดค้าง อย่างเช่น โยมก้อยมาที่อังกฤษทำไม โยมก้อย
      ต้องการจะบอกอะไรกับดาว แล้วโยมก้อยคิดยังไงกับดาวอะไรแบบนี้"


      คิดอะไรกับดาวหรอ?

      อืม ตอบได้เลยนะว่ารัก

      ก็รักไง

      "รักค่ะ"

      พระหมอกส่ายหัว

      "สงสัยจะยังไม่ใช่ อันนี้นะโยม โยมลองนึกดีๆ "

      "พอเถอะหลวงพี่ยัยก้อยมันหัวกระแทกพื้น สมงสมองมันไปหมดแล้วคร้าาาา ประสาทฉันจะรับประทานอยู่แล้วค่ะเนี่ย"

      ก้อยตีแขนดุจดาวไปทีนึงก่อนจะหันไปบ่นๆ

      "งั้นเอางี้ ลองพาไปที่เก่าๆทำอะไรเก่าๆเผื่อจะนึกอะไรออก อาตมาไปจำวัดแล้วนะโยม "

      ว่าจบพระหมอกก็สะบัดจีวรจากไป


      รร.นาดาวบางกอก

      ผีก้อยหยุดอยู่ที่ป้ายรร.ตามที่คนข้างๆพาเขามา

      ถึงจะงงๆแต่ก็ยังเดินตามมาแหละ

      "นี่แกจะมาที่นี่ทำไมเนี่ยดาว"

      "ก็ ต้องมาสถานที่เก่าๆเผื่อจะนึกอะไรออกนะ นี่ก็ปิดเทอมรร.คงไม่ค่อยมีคนหรอกนะ"

      ดาวพูดก่อนจะเดินนำผีก้อยไปตามทางเดิน

      ทางเดินที่เขา2คนเคยเดินเข้ารร.ด้วยกัน

      ทางเดินที่เคยใช้กลับบ้านด้วยกั

      ฟึ้บ

      ร่างผีๆ(?)ของก้อยยื่นมือไปจับมือของสาวร่างบาง

      ใบหน้าที่ขาวขนาดนั้นไม่สามารถปกปิดความเขินได้

      ตอนนี้หน้าของดุจดาวแดงไปหมด

      แต่นางก็ยังไม่วายปากแข็ง

      "อะไรปล่อยมือเลยนะ"

      "หืม อะไรของแกปากบอกว่าปล่อยมือแต่ก็จับมือฉันแน่นเชียวนะ ดูสิหน้าแดงหมดแล้ว"


      เอ๋

      ดุจดาวก้มลงมองมือของตัวเอง

      เห้ยยย ไม่จริงนะ

      นี่เราเป็นฝ่ายจับมือก้อยแน่นเองจริงๆสินะ

      ไม่นะดุจดาวววววววววว

      ร่างบางปล่อยมือตัวเองออก

      "นี่ ไม่ต้องปล่อยแล้วนะ"

      แต่ครั้งนี้ก้อยซะเองที่เป็นคนจับมือเธอไว้แน่น


      นี่ฉันสงสัยจังนะก้อยว่าแกมีเรื่องอะไรที่แกอยากบอกฉันนะ

      ไม่งั้นแกคงไม่มาถึงอังกฤษหรอก



      ณ แดนอังกฤษ

      "เอ๋ ก้อยมาที่อังกฤษเพื่อเรื่องนั้นอะนะ?"

      ฉันถามย้ำยัยดิวอีกครั้ง

      ก็ใครจะไปคิดละ

      ว่าที่ยัยนั่นตามดุจดาวมาไกลถึงขนาดนี้

      แถมโดนรถชนจนสลบไปอีก

      เพียงแค่จะบอกว่า


      "ก้อยไม่ได้เป็นอะไรกับข้าวปั้น"


      ดิวพูดย้ำอีกครั้งก่อนจะถามอะไรขึ้นมา

      "เออแล้วนี้ก้อยรู้ยัง?"

      ฉันส่ายหัวเป็นคำตอบ

      "ยังนะสิ เรื่องคืนวันปัจฉิมนะ ที่ก้อยอยู่กับผช.คนนั้น

      หลังจากคืนนั้นดาวมันก็โทรมาคุยกับฉันเรื่องจะย้ายมานี่นะ ...."

      ไม่ทันที่ฉันจะพูดจบดิวก็แทรกขึ้นมา

      "นี่ถ้าไม่ใช่ฉันไปย้ำดาวว่าเป็นเบี้ยนจนน่ารำคาญจนดาวพูดประโยคนั้นออกมาก้อยกับดาวตอนนี้คงคบกันจนมีลูกแล้วเนอะ"

      "เดี๋ยวๆ ยัยดิว นี่แกอ่านฟิคมากไปปะ ฟิคน้องกาวปะแก"

      "เออใช่ นี่ฉันชอบมากเลยนะ วันหม่อยๆ น้องกาวอะ น่ารักเป็นบ้าเลย อร้ายยยย คิดแล้วฉันละอยากอ่านต่อ อยากให้ไรทวันหม่อยอัพนิยายหลายๆเรื่องเล้ยยย"

      แต่ไรทก็ชอบนะ555555เรื่องที่เกี่ยวกับเพื่อนเฮี้ยนรร.หลอน อยากให้ไรทน้องกาวมาแต่งต่อคร้าา ติดตามนะค่ะ5555555

      เดี๊ยวๆฉันว่ายัยไรทนี่ชักจะแต่งนอกเรื่องไปและ

      กลับเข้าเรื่องต่อดีกว่า

      จริงสิฉันมีเรื่องที่จะถามดิวอยู่


      "นี่แล้วทำไมตอนนั้นถึงทำแบบนั้นละ"

      ดิวดูจะคิดหนักอยู่นาน

      แต่สุดท้ายก็ยอมเอ่ยปากบอกออกมา

      "ฉันชอบก้อยนะ"


      เห้ย!!!!!

      นี่ที่ยัยดิวทำแบบนี้จนคนเค้าเกลียดกันทั้งแผ่นดินนี่คือยัยนี่ชอบก้อยอะนะ

      เห้ย!!!

      นี่มันชักจะบ้าเกินไปแล้วววว อีไรทเต้ออออ

      แอลกรี๊ดร้องในใจ

      "เห้อ ฟังดูอาจะไม่น่าเชื่อใช่ปะ แต่ฉันชอบก้อยจริงๆนะ
      ก็ฉันอุส่าจิ้นยัยดาวกับก้อย ดูก็รู้ใช่มะว่าดาวชอบก้อย
      แต่ยัยนั่นกลับปากแข็ง ฉันเลยหมั่นไส้ และอิจฉา นี่ถ้าฉันมีก้อยเป็นผัวนะฉันถวายทุกอย่างเลย อร้ายย คุณเขม"

      "เอ่อ ดิว ผิดเรื่องแล้วแหละ เรื่องนี้รับบทเป็นก้อย"

      "เออๆนั่นแหละๆ เอาเป็นว่าฉันชอบก้อย และฉันอยากมีความสุขที่เห็นคนที่ฉันรักมีความสุข ก้อยรักดาวมากนะแอล "

      สิ้นสุดประโยคที่ดิวพูด เราสองคนก็ได้แต่นิ่งเงียบ

      ในสมองฉันเต็มไปด้วยคำถาม

      นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!!



      "นี่ นึกออกยังว่าแกมาอังกฤษเพราะอะไร"

      "ก็ อืม ฉันตามแกมานะ มาเพื่อ.."

      "เพื่อ...??"

      ก้อยคิดอยู่นาน

      นี่จะคิดอะไรนักเนี่ย

      ฉันตื่นเต้นนะเห้ยยย

      และแล้วก้อยก็พูดออกมา

      "ฉันนึกไม่ออกวะแก"

      "โหย ไรเนี่ยอุส่ารอคำตอบ เห้ออ ทำไมแกคิดไม่ออกสักทีเนี่ย นี้สมองปลาทองปะ ไม่ดิอย่างแกคงสมองสาหร่ายแล้วแหละ"


      "เห่ยๆนี่แกนั่นพี่ดุจดาวปะ"

      "เออใช่ นี่เค้าเป็นไรนะพูดคนเดียวด้วย บ้าปะแก"

      "เห็นได้ข่าวว่าหนีไปอังกฤษด้วย สงสัยที่หนีไปคงจะบ้าจริงๆแหละ"

      สองสาวออยปังแห่งนาดาวซุบซิบนินทาดาวระยะเผาขน

      นี่พวกแกสองคนนะ

      จะนินทาฉัน ก็ไปหาที่ที่มันดีกว่านี้ไม่ได้รึไงยะะะะะ

      นินทาข้างหลังฉันเนี่ยนะ

      ได้ เดี๋ยวจัดให้

      "ออย ฉันรู้สึกร้อนๆหนาวๆอะ"

      "ฉันก็รู้สึกเหมือนแกแหละ...."

      ดุจดาวไม่รอให้ออยพูดจบ

      เพราะตอนนี้อารมณ์เธอเดือดแล้ว

      รองเท้าส้นสูงถูกขว้างเข้าที่กลางหัวขนมปังเข้าเต็มๆ

      ตามด้วยเสียงร่างของหนมปังสลบลงพื้น

      "ปังงงงงงงงงงงง" ออยตกใจกำลังจะหันหลังวิ่งหนี

      แต่ช้าไป

      ตอนนี้รองเท้าส้นสูงลอยอยู่บนหัวเธอแล้ว

      "หนูขอโทษค่ะพี่ดุจดาว"ออยพร่ำร่ำไห้กับจุดจบ

      อันน่า..

      นี่เราต้องมาตาเพราะร้องเท้าส้นสูงเนี่ยนะ

      แต่เดี๋ยวทำไมร้องเท้ามันไม่โดนหัวสักทีละ

      "ร้องเท้ากำลังลอย..."

      "ก้อย!!!! นี่แกไปทำให้รองเท้าลอยทำไมย่ะ กำลังจะโดนอยู่แล้วเชียว "

      "ดาวแกนี่ก็นะ ทำเกินไปป่าว สงสารน้องเค้านะ"

      ก้อยพยายามทำให้ดาวเย็นหลง แต่ก็ไม่เป็นผล

      ดาวหันกลับไปจะจัดการออยต่อ

      "แกอย่ามายุ่งอีกนะก้อย เอ๋ ยัยนี่เป็นลมไปแล้ว "

      ใช่แล้ว

      ไม่มีใครที่ไม่กลัวดุจดาวในร่างซุปเป้อไซย่า
      วีรกรรมของเธอนั้นเป็นที่ถูกขนานนามกันดี

      ปาฉิ่งกลางหัวดิว

      คว่ำโต๊ะกินข้าวกลางงานปัจฉิมเพราะทนเห็นก้อยอยู่กับผช.ไม่ได้

      ดักตบเต้ยในห้องน้ำเพราะเห็นเต้ยส่งสายตาให้ก้อย

      ขว้างโคมไฟมรณะเพราะรำคาญ

      และล่าสุด รองเท้าส้นสูงมหาประลัย


      ออยถึงกับเป็นลมไปเลยทีเดียว

      "แต่ก็เพราะแกแหละก้อยที่ทำให้คนอื่นเค้ามองว่าฉันเป็นบ้านะ" ดุจดาวทำหน้ามู่ทู่
      ก้อยอมยิ้ม

      ก่อนจะค่อยยื่นๆหน้าไปที่แก้มร่างบาง

      จุ๊บ

      ริมฝีปากบางเรียวประทับรอยเข้าที่แก้มอีกฝ่าย

      ดุจดาวจับแก้มตัวเอง

      เธอกำลังเขิน

      "นี่ง้อแล้ว นะ หายนะ "

      "หายก็หายย่ะ"

      ดุจดาวตอบส่งๆก่อนจะกลับมาคิดทบทวนเรื่องเมื่อกี้


      นี่ก้อยหอมแก้มฉันง้องั้นเรอะ

      รู้งี้

      ไม่น่าบอกว่าหายเลย

      ก้อยจะได้หอมแก้มต่อหลายๆรอบ

      อร้ายยยยย


      ก้อยหรี่ตาถามกับอาการยิ้มคนเดียวของดาว

      "ยิ้มแบบนี้ นี่คิดเรื่องลามกเกี่ยวกับฉันปะเนี่ย"

      "บ้าแล้วววววว ไม่มี มั่วว หลงตัวเองปะเนี่ยย

      อะไรก้อย แกเมาปะเนี่ย ไม่มี๊ ไม่มี ไม่มีไรหรอกกก"


      พิรุธสุดๆเลยนะดุจดาว

      เหอ เหอ

      ก้อยได้แต่เอือมในใจ


      "เหมือนฉันพอจะนึกออกและนะดาว"

      "จิงดิ ไหนๆก้อยแกนึกอะไรออก"

      "ก็ก้อยมันชอบฉันเอง"

      ก้อยพูดเสียงเรียบๆอย่างไม่ใส่ใจ

      "แต่ช่างเหอะ อย่าไปใส่ใจเลยมันนานมาแล้วนะ"

      "ขอโทษนะก้อย"

      เหตุการ์ณเมื่อวันนั้น

      ถ้าเธอไม่อยากเอาชนะดิวไปจนถึงขั้นพูดจาทำลายความรู้สึกก้อยขนาดนั้น

      เรื่องเมื่อคืนนั้นคงไม่เกิดสินะ

      "ขอโทษจริงๆนะก้อย ดาวขอโทษ"

      เธอยังคงพร่ำคำขอโทษไม่หยุด

      "เพราะฉันไม่เคยแคร์แก เพราะฉันอารมณ์ร้อน  ขอโทษจริงๆนะ ก้อย"

      น้ำตาไหลออกมาโดยที่เธอไม่รู้ตัว

      แล้วคนตรงหน้าจะยืนเฉยอยู่ได้ไง

      ฟึ่บ

      "นี่เลิกร้องได้แล้วนะ กอดผีนะอาจจะไม่อุ่นเหมือนกอดคนหรอกนะ"

      คนในอ้อมกอดยังไม่หยุดร้อง


      ตลอด2ปีที่ผ่านมา ฉันคิดถึงแกมากนะ


      ช่วยหยุดร้องไห้ก่อนได้มั้ย ฉันเจ็บนะเวลาเห็นแกร้องไห้


      ก้อยก้มลงไปกระซิบข้างหูดาว


      ดาวเงยหน้าขึ้นก่อนจะปาดน้ำตา


      อะ ฉันเลิกร้องก็ได้


      ครืดดดดดดดด ครืดดดด ครืดดด


      โทรศัพท์แกสั่นนะดาว


      คร้าๆรู้แล้วคร้า รับแล้วๆๆ


      ยังไม่ทันที่ดาวจะได้พูดปลายสางที่โทรมาก้พูดเสียงสั่น


      ดาว ก้อยกำลังแย่ !!!! ชีพจรก้อย ฮึก... ต่ำลงเรื่อยๆแล้ว!!!!”


      แอล แกใจเย็นๆๆ!!! แกอย่าเพิ่งร้องไห้ แกอธิบายก่อน


      ฮึก..หมอบอกว่า ก้อยจะอยู่ถึงแค่คืนนี้ ฮึก.....


      ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

       

      อะไรกัน

      นี่ก้อย...จะอยู่ไม่ถึงคืนนี้หรอ

      ทำไม

      นี่ดาว แกเป็นอะไร แอลโทรมาว่าไงหรอ

      นี่แกไม่สะทกสะท้านกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยรึไง

      แกไม่เคยแคร์ตัวเองเลยรึไง ก้อย

      ฉันไม่มีทางยอมให้แกตายง่ายๆหรอก

      โอ้ย หงุดหงิดเว้ย

       

      แกเป็นไรดาว?”

      ฉันถามจริงเหอะ กะอีแค่คิดว่าแกมาทีนี่เพราะอะไร มาเพื่อจะบอกอะไรกับฉันมันยากขนาดนั้นเลยรึไง!!!!!!!”

      ดุจดาวพูดด้วยความโมโห

      ดาว...ก้อยตกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของคนตรงหน้า

      ทำไมวะก้อย ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้วะ!!!”

      เออ!!ฉันขอโทษละกันที่เป็นภาระแก ฉันจะเป็นตายร้ายดียังไงแกก็ไม่ต้องมาสนใจหรอก

      นี่ทำไมแกพูดอย่างนี้วะก้อย แกอย่าเข้าใจผิดสิ

      แกเคยแคร์ฉันบ้างมั้ยดาว ฉันถามจริง คำพูดแต่ละอย่างของแกนี่มันทำร้ายฉันมากี่ครั้งแล้ว!!!”

      แล้วทำไมแกต้องขุดเรื่องเก่าๆมาพูดด้วยละ!!”

      โอเค ฉันผิด ฉันขอโทษที่ขุดเรื่องเก่าๆแก อะไรฉันก็ผิดหมด งั้นต่อจากนี้ต่างคนต่างไป

      ก้อย แกพูดว่าอะไรนะ?”

      ต่างคนต่างไป ถ้ามันเป็นปัยหาให้แกนักฉันก็จะไป

      เดี๊ยวสิ..

      ร่างของก้อยหายไปในอากาศ

      สร้างความหงุดหงิดให้ดาวเป็นอย่างมาก

      เธอมองเห็นถังขยะข้างๆ

      เธอเดินไป จับมันทุ่ม

      โครม!!

      โธ่เว้ย!!!ทำไมวะก้อย

      ตกเย็นดุจดาวตัดสินใจกลับบ้าน

      นี่ดาว ทะเลาะกับก้อยมาหรอลูก

      เรื่องบางเรื่องนะเรายอมผิด

      ดีกว่าเราเสียเขาไป ดีกว่านะ

       

      ช่างมันเถอะค่ะแม่ หนูขึ้นนอนแล้วนะ

      อย่างอนกันนานนักละ เพราะ

      บางอย่างมันสายไปแล้ว

      ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้นะลูก

      ปล.ช่วงนี้อาจหายนะ คิดตอนจบไม่ออกงะะะ สมองมันตันนนนน TOT

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×