ตอนที่ 19 : 19
19
It's quite difficult not to fall for you
เสียงคนคุยกันคละเคล้ากับเสียงช้อนกระทบจานบนโต๊ะอาหารมื้อค่ำในวังวงศ์ประดิษฐ์ อาหารเสิร์ฟได้สิบห้านาทีแล้ว แต่พวกผู้ใหญ่กินไปคุยไปกับข้าวบนโต๊ะเลยไม่พร่องสักเท่าไหร่ มีแต่ไวน์ราคาแพงที่พร้องไปเยอะที่สุด เพราะมันเป็นของชอบของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดและใครอีกหลายคนที่นั่งร่วมทานมื้อค่ำในคืนนี้
ทรงโปรดไม่ได้ร่วมบทสนทนาด้วยและผู้ใหญ่ก็ไม่ได้พูดถึงเขา แต่กำลังพูดถึงเรื่องเก่าผสมกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่พวกท่านพบเจอ รวมทั้งลามไปเรื่องที่เมื่อก่อนเขามักถูกถามบ่อยๆ ว่า ‘จะแต่งงานเมื่อไหร่’
อือ ตอนนี้เขาไม่ได้โดนถามคำถามนั้นเพราะว่าที่คู่หมั้นที่จะเข้าพิธีหมั้นกันในวันพรุ่งนี้นั่งอยู่ข้างๆ แต่คนที่โดนถามคือทรงคุณกับทรงเพลิง พี่ชายของเขาเอง
ทรงโปรดขำไหล่สั่นตอนที่เห็นสีหน้าของพี่ชาย เขารู้ว่ามันเป็นคำถามน่าเบื่อ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ มันเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่เรียนจบมีงานทำแล้ว
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนพี่คือหนึ่งในสามที่โดนถาม”
“ตอนนี้ล่ะครับ”
“ตอนนี้เป็นคนถามเอง เอ็นดูอยากแต่งงานเมื่อไหร่”
“คุณนี่นะ...”
เจ้าของพิธีมงคลในวันพรุ่งนี้นั่งกระซิบกระซาบกันเบาๆ เอ็นดูกล้าที่จะฉีกยิ้มกว้างและยกมือตีแขนแกร่งเพราะตัวเองไม่เป็นจุดสังเกตเท่าไหร่ ใช่ เอ็นดูมีกำแพงหนาๆ อย่างกายของทรงเพลิงกับทรงโปรดบังอยู่ เดิมทีแค่ทรงโปรดนั่งข้างๆ ก็บังเอ็นดูแทบมิดแล้ว แต่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไหล่กว้างตัวหนากว่าทรงโปรดมาก ตอนนี้เอ็นดูเป็นกระต่ายตัวน้อยไปเลย
“สามีนั่งหัวโด่ตรงนี้ ทำไมคุณเมียเอาแต่มองคนอื่นล่ะครับ”
“เบาๆ เลยนะคุณ...มั่วตลอด” น้องตีแขนเขาไปป้าบหนึ่งเต็มๆ อือ แต่อย่างที่บอก ทรงโปรดกับเอ็นดูไม่ได้เป็นจุดสนใจเท่าไหร่น้องเลยกล้าทำร้ายร่างกายเขาต่อหน้าคนเยอะๆ “ไม่ได้มองสักหน่อย”
“เห็นอยู่ว่ามองพี่เพลิง”
“พี่ชายคุณไม่ใช่คนอื่นนี่ครับ”
“ยอมรับว่ามอง?”
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเลิกคิ้วขวาขึ้น เขาเอาตัวบังหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่เอ็นดูเพิ่งใช้ตาหวานๆ มองเมื่อกี้ ทรงโปรดวางศอกบนขอบโต๊ะ ขยับตัวหันหาเอ็นดู เอียงเล็กน้อยเพื่อให้ตัวเองบังพี่ชายได้มิด ดุนลิ้นข้ามแก้มเมื่อเจ้ากระต่ายของเขาทำคอยืดคอยาวมองผ่านเขาไปอีก
“เอ็นดู” เสียงทุ้มๆ โหดๆ ของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดทำให้เอ็นดูใจสั่นรัวจริงๆ
เอ็นดูกลั้นยิ้มเม้มปากแน่น พอเห็นหน้าหงิกๆ ของทรงโปรดเลยหดคอกลับเป็นปกติแล้วหันหน้าตักอาหารเข้าปาก
“เดี๋ยวจะอดกินมื้อเย็น”
“หึงแม้กระทั่งพี่ชายตัวเองได้ไงครับเนี่ย”
“ไม่รู้ หึงหมด”
“มองเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเลยครับ”
ทรงโปรดรู้ว่าเอ็นดูไม่สนใจคนอื่น แต่เคยได้ยินคำนี้มั้ย คนเจ้าชู้มักขี้หึง อือ นั่นแหละ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคนนี้ขี้หึงมาก ทั้งหึงทั้งหวง
“จะไม่ให้เจอพี่เพลิงแล้ว”
“อ้าว คุณนี่”
“อยากมองดีนัก”
“ผมมองเพราะพวกคุณหน้าตาเหมือนกันไงครับ...แต่นิสัยพี่เพลิงคงไม่เหมือนคุณ”
คงมีแต่เอ็นดูนี่แหละที่บอกว่าเขากับพี่ชายหน้าตาเหมือนกัน ทั้งๆ ที่คนอื่นบอกว่าหน้าตาพวกเขาไปกันคนละทางเลย หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดอมยิ้ม มองเจ้าคนน่ารักที่ก้มหน้าก้มตาจิ้มอาหารเข้าปาก
“เหมือนตรงไหน แล้วนิสัยพี่มันเป็นยังไง”
“เหมือนกันบางมุมเท่านั้นแหละครับ” เอ็นดูลู่ไหล่ “ไม่คุยแล้ว เดี๋ยวคุณทำหน้าหงิกใส่ผมอีก”
คุณชายทรงโปรดหัวเราะ ไม่ได้หัวเราะเอ็นดูหรอก แต่หัวเราะให้กับความขี้หึงไม่เข้าเรื่องของตัวเอง กับพี่ชายเขาไม่ได้หึงจริงจังอะไรขนาดนั้น จริงอยู่ที่อารมณ์หนึ่งเป็นความหึง แต่อีกอารมณ์ก็อยากแกล้งเอ็นดูด้วยเหมือนกัน
“หน้าแดงแล้วนะครับ” คนดื่มไวน์หมดไปหลายขวดถูกดึงแก้มเบาๆ เอ็นดูเอียงคอมองเขา เหลือบมองแก้วไวน์ที่ทรงโปรดถืออยู่ไม่ยอมปล่อย “คุณไม่ค่อยกินข้าวเลย เอาแต่ดื่มไวน์”
“ไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกินครับ ไม่มีอะไรรองท้องคุณเลย”
“งั้นป้อนหน่อย”
“อะไรคุณ”
“ป้อนหน่อย” ทรงโปรดย้ำ
“วางแก้วไวน์นะครับ แล้วหยิบช้อนตักข้าว”
“ป้อนพี่โปรดหน่อยครับ”
อือ เขามันดื้อด้าน
แต่ไหนแต่ไรแล้วที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถูกเลี้ยงมาแบบสปอยทุกอย่างในชีวิต เขาเป็นลูกชายคนเล็กของภัสร์ฤทัยที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ แต่ไม่ได้เอาแต่ใจจนเสียคน แค่อยากทำอะไรก็ทำ แต่ยังอยู่ในกรอบของความถูกต้อง (ในบางเรื่อง)
แล้วมีเหรอที่ตื๊อไปขนาดนั้นว่าที่คู่หมั้นจะเฉยเมยใส่ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นว่าเจ้าคนน่ารักอมยิ้มไปด้วยส่ายหัวไปด้วย มือขาวหยิบช้อนกับส้อมในจานของเขาขึ้นมาถือไว้
“คุณอยากกินอะไรล่ะครับ”
เอ็นดูตั้งท่าเตรียมตักอาหารให้เขาแล้ว
“มาใกล้ๆ นี่มา”
ทรงโปรดกวักมือเรียก พอน้องขยับตัวเข้าใกล้ เขาเลยโน้มหน้าลงไปกระซิบ
“อยากกินเอ็นดู”
“คุณ!” น้องรีบชะงักแล้วขยับตัวกลับไปนั่งท่าเดิมทันที ตาสวยๆ มองค้อนทรงโปรด “พูดดีๆ หน่อยครับ ผู้ใหญ่อยู่เยอะแยะ”
“นี่ก็ดีแล้วนะ ถ้าอยู่สองคนจะพูดอีกอย่าง...” ทรงโปรดลากเสียงยาว แต่ยังคุมเสียงให้เบาแบบที่ได้ยินแค่สองคน “อยากฟังมั้ย”
“คุณ...พอเลย ไม่ต้องกินแล้ว”
ไม่ใช่กระต่ายที่ตกหลุมพรางเสืออย่างทรงโปรด แต่เป็นกระต่ายที่เขินจนหาทางหนีไม่ได้
เอ็นดูแก้มแดงปลั่ง ข่มความเขินของตัวเองด้วยการนั่งเหยียบเท้าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไว้
อือ ตอนแรกก็ไม่เจ็บเท่าไหร่แต่พอนานๆ ไปเริ่มเจ็บแล้วว่ะ
แหม่ เหยียบมาได้ ถ้าไม่ใช่เมียนี่มีเรื่องเลยนะครับเอ็นดู
“ถ้าคุณไม่กินอะไรแล้วก็ไปเถอะครับ...ผมอิ่มแล้วด้วย”
“ไปไหน”
“ขนเสื้อผ้าไปไว้ที่รีสอร์ตคุณไง”
“สรุปคืนนี้จะไปนอนรีสอร์ตพี่?”
“ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึงให้คุณขนเสื้อผ้าของคุณออกจากห้องผมไปไว้ที่รีสอร์ตคุณต่างหาก”
ที่ถูกไล่แบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอก...ตั้งแต่ขับรถจอดเทียบหน้าวังวงศ์ประดิษฐ์ ทรงโปรดก็รีบให้สาวใช้ถือกระเป๋าเป้ของเขาขึ้นไปไว้ในห้องเอ็นดูทันที เจ้าของห้องได้แต่อ้าปากทำหน้างง เขาไม่ได้โดนเจ้าของห้องไล่ทันทีเพราะคุณหญิงป้าเห็นดีเห็นงามด้วยที่คืนนี้ทรงโปรดจะร่วมห้องกับเอ็นดู
ถึงจะโดนไล่ทรงโปรดก็ไม่แคร์ ยังไงคืนนี้เขาก็ต้องนอนกับน้องอยู่แล้ว เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามาทำบุญและเข้าพิธีหมั้นด้วยกัน
“ไม่ไล่กลับกรุงเทพไปเลยล่ะ”
“ไล่แล้วจะกลับเหรอครับ”
“ถ้าพี่กลับแล้วเราจะหมั้นกับใคร”
“เฮ้อ...”
รู้มั้ย โคตรชอบเสียงเฮ้ออะไรนี่ของน้องมากเลยว่ะ
แต่ถึงเอ็นดูจะถอนหายใจจนผู้ใหญ่หันมามอง ทรงโปรดก็ไม่รู้สึกสลดที่เป็นต้นเหตุให้น้องถูกจับจ้องทั้งที่อุตส่าห์หลบสายตาของพวกท่านได้แล้วแท้ๆ
“อะไรจ๊ะเอ็นดู มาฮงมาเฮ้อต่อหน้าผู้ใหญ่ซะเสียงดังเชียว” คุณหญิงป้าเหล่มอง น้ำเสียงของท่านฟังดูไม่ได้อยากเอ็ดหลานชายที่เผลอเสียมารยาทกลางโต๊ะอาหาร แต่ดูเป็นการแหย่เล่นมากกว่า
“ขอโทษครับคุณหญิงป้า ประทานโทษครับท่านพ่อ...ขอโทษทุกคนนะครับ”
พอเจ้าตัวก้มศีรษะขอโทษก็เป็นอันจบ บทสนทนาที่ยังมันส์ติดปากคุณหญิงป้าเริ่มขึ้นอีกครั้งเหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอ็นดูไม่ได้เป็นจุดสนใจแล้ว ไม่ได้ถูกสายตาของใครมองทั้งสิ้น
แต่กลายเป็นเขาที่ถูกสายตาหวานๆ ของคนที่เพิ่งกล่าวขอโทษไปจ้องเขม็ง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดชะงัก เอียงคอมองหน้าง้ำงอของว่าที่คู่หมั้น
“โกรธอะไร เป็นกระต่ายตาแดงเชียว” จะยกมือลูบแก้มกลมแต่กลับโดนรวบมือหนาไปวางไว้บนตักนุ่มๆ แทน
“อย่าจับนะครับ เดี๋ยวก็โดนกัดหรอก”
“รู้ครับรู้ กระต่ายตาแดงดุจะตาย”
เอ็นดูเลิกเล่นแล้ว น้องปล่อยมือทรงโปรดก่อนเปลี่ยนไปนั่งหลังตรงเหมือนเดิม นี่ถ้าอยู่กันแค่สองคนนิ้วทรงโปรดมีรอยฟันของเอ็นดูประดับไว้แล้วแน่ๆ
ก็ชอบเล่นกันแบบนี้แหละ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เอ็นดูเล่นกับเขาด้วยวิธีกัดบางส่วนบนร่างกายของฝ่ายตรงข้ามให้มีร่องรอย ทรงโปรดชอบกัดคอเอ็นดู แต่พอโดนน้องบ่นบ่อยๆ เลยเปลี่ยนไปกัดอกขาวๆ แทน ส่วนเอ็นดูน่ะชอบกัดคอกับกัดนิ้วชี้ของเขา บางทีก็งับหูงับจมูกเหมือนกระต่ายตัวน้อยๆ ที่ปีนขึ้นตัวแล้วซุกซนไปทั่ว
แต่ทรงโปรดจะเล่นแบบนี้กับเอ็นดูเฉพาะตอนที่อยู่กันแค่สองคนเท่านั้น สถานที่เล่นประจำก็คือเตียงในห้องของน้อง มันมีความหมายแฝงสำหรับการเล่นกัดกันแบบนี้ก็คือการที่เขากับน้องจะรักกันแบบลึกซึ้งในนาทีต่อมา
อือ นั่นแหละ น้องส่งสัญญาณลับให้แล้ว ทรงโปรดกระชุ่มกระชวยขึ้นมาเลย : )
“อิ่มหรือยังเรา” หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกระแอมไอ
“อิ่มแล้วครับ”
“ไปเดินย่อยกันมั้ย”
“ดึกแล้วมีที่ให้น่าเดินย่อยที่ไหนครับ ฝนก็ตก”
“เห็นคุณหญิงป้าบอกว่าที่นี่มีโรงจอดรถชั้นใต้ดิน”
“ครับ คุณอยากดูเหรอ”
“อือ กำลังคิดไอเดียร์ที่จอดรถหลบฝนชั้นใต้ดินในรีสอร์ตเหมือนกัน”
“ก็ดีนะครับ”
“พาไปดูหน่อย”
เอ็นดูแหงนมองคนตัวสูงที่จิบไวน์หน้าระรื่น ดึกดื่นป่านนี้ยังมีอารมณ์อยากดูนู่นอยากดูนี่ คนผิวขาวเม้มปากเล็กน้อย เอื้อมมือติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำที่เขาปลดมันออกถึงสามเม็ดให้เหลือปลดไว้แค่เม็ดเดียว
“งั้นก็แต่งตัวให้มิดชิดหน่อยนะครับ เดี๋ยวยุงมากัดอกเอา”
“ยุงที่ชื่อเอ็นดูเหรอ”
“ยุงก็คือครับ ยุงที่บินได้...ไม่ใช่ผม” ปากจิ้มลิ้มขยับเล็กน้อย “จะไปก็ไปครับ ขออนุญาตลุกออกจากโต๊ะให้ผมด้วย”
พอเห็นท่าทางเหวี่ยงหน่อยๆ กับสายตามองค้อนแบบน่าฟัดของน้องทรงโปรดก็ยกยิ้มร้ายกาจกว่าเดิม อือ ให้ทำไงได้ ตอนนี้เขาโคตรจะมีความสุข
ทรงโปรดชอบให้เอ็นดูยุ่งกับเสื้อผ้าหน้าผมของเขา เลยจงใจทำตัวไม่เรียบร้อยเพื่อรอให้น้องมาจัดแจง แล้วมันก็ได้ผลเลยแหละ เอ็นดูใส่ใจตั้งแต่หัวจรดเท้าของทรงโปรด
มีเมียดีเป็นลาภอันประเสริฐ
มีเมียน่ารักอยากฟัดให้ตายคาอก : )
“ผมกับเอ็นดูขอตัวก่อนนะครับ” หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหาจังหวะเหมาะสมบอกกล่าวผู้ใหญ่
“อิ่มกันแล้วเหรอจ๊ะ” คุณปนัดดาที่นั่งอยู่ตรงข้ามคุณหญิงป้าถามขึ้น เธอชะเง้อมองลูกชายคนเล็กที่นั่งถัดจากพี่ชายทั้งสองคน
“ครับคุณแม่ ผมจะออกไปเดินเล่นกับน้องครับ”
“กางร่มไปนะชายโปรด อย่าให้โดนฝนเอาเดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่สบาย”
“ครับคุณแม่”
ส่งยิ้มให้คุณแม่ที่เป็นห่วงเป็นใยไม่เปลี่ยน คุณชายทรงโปรดกุมมือเล็ก กำลังจะขยับตัวลุกขึ้นพร้อมกับเอ็นดูแต่ก็ต้องชะงักเมื่อถูกมือหนาของคุณชายทรงเพลิงจับบ่า
“จะไปสวีทกันตรงไหน พี่กับพี่คุณจะได้เลี่ยงไม่เดินไปตรงนั้น” คุณชายทรงเพลิงยกยิ้ม กระซิบกับน้องชายเบาๆ
“โรงจอดรถชั้นใต้ดินครับ”
“มิดชิดดี เก็บเสียงด้วยมั้ย”
คนชอบแซวน้องชายหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นว่าทรงโปรดยกยิ้มที่ร้ายกาจเจ้าเล่ห์กว่าเขาหลายเท่า มือก็กุมมือขาวของว่าที่คู่หมั้นไว้แน่น อือ แน่นอนว่าเอ็นดูได้ยินสิ่งที่สองพี่น้องกระซิบกระซาบกันถึงได้หน้าแดงก่ำขนาดนั้น
“อยากรู้ต้องลองเดินผ่านแถวนั้นครับพี่เพลิง”
“...คุณ ไปได้แล้วครับ” เจ้าคนหน้าเเดงรีบเบรกบทสนทนาของสองพี่น้อง
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะพร้อมๆ กับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ยักไหล่ให้ นี่ขนาดแค่คุยกันสองคนเอ็นดูยังหน้าแดงขนาดนี้ เชื่อเถอะว่าถ้าหม่อมราชวงศ์ทรงคุณร่วมบทสนทนาด้วย เอ็นดูคงได้เป็นลมกลางโต๊ะอาหารมื้อค่ำแน่ๆ
พี่น้องบ้านนี้ร้ายจะตาย โดยเฉพาะผู้ชายสามคนนี้
คุณชายทรงโปรดกางร่มขนาดพอดีสำหรับสองคน เดินไปตามทางที่สองข้างล้อมไปด้วยสนามหญ้า ไฟสีนวลสลัวท่ามกลางฝนโปรยลงมาคละเคล้ากับกลิ่นชื้นของหญ้าทำให้บรรยากาศตอนนี้เหมาะกับการนั่งซุกอยู่ในผ้าห่มมากกว่าออกมาเดินให้น้ำฝนกระเด็นใส่ขากางเกง
อือ เอ็นดูอยากนอนอยู่ในห้องมากกว่าออกมาเดินอยู่ข้างนอกแบบนี้ แต่ทำยังไงได้ในเมื่อหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเขาอยากไปดูสถานที่จอดรถชั้นใต้ดินนักหนา
คนตัวขาวที่เดินเคียงข้างคุณชายทรงโปรดใต้ร่มคันเดียวกันกอดอกพลางเม้มริมฝีปาก พยายามทำตัวเล็กตัวน้อยอยู่ในร่ม เบี่ยงตัวไปทางขวาเพื่อไม่ให้ไหล่ข้างซ้ายของคนที่ถือร่มอยู่เปียกฝน
“เข้ามา” ทรงโปรดพูดพร้อมกับรั้งไหล่เล็กๆ ให้ขยับเบียดชิดกันมากกว่าเดิม
“คุณก็ขยับเข้ามาด้วยสิครับ” ยู่ปากเงยหน้าบอกคนตัวสูงที่ขยับตัวออกจากร่ม เอ็นดูชะโงกหน้ามองไหล่ข้างซ้ายของเขา พอเห็นว่าเสื้อเชิ้ตราคาแพงของคุณชายทรงโปรดเปียกน้ำก็ทำหน้างอ “เสื้อเปียกหมดแล้วคุณ”
“เราก็อยู่นิ่งๆ สิครับ”
น้ำเสียงดุไม่จริงจังกับริมฝีปากอุ่นๆ ของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่กดลงบนขมับข้างซ้ายเหมือนเป็นการสยบให้คนที่พยายามขยับตัวออกจากร่มอยู่นิ่งๆ...มันก็ได้ผลแหละ เพราะหลังจากที่ถูกคุณชายเขาจุ๊บเหม่งเจ้าเด็กน่ารักคนนี้ก็นิ่งไปเลย
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะเมื่อคนที่ถูกดุเมื่อกี้นิ่งไปได้แค่แป๊บเดียวก่อนจะใช้แขนนุ่มๆ คล้องเอวแกร่งของเขา เอ็นดูออกแรงรั้งเอวของคุณชายเบาๆ ให้ขยับตัวเข้าใกล้ แต่แรงน้องมีน้อยเกิน จากที่รั้งก็เหมือนกับแค่สะกิดเท่านั้น
“ขยับเข้ามาหน่อยสิครับ”
“ไม่เป็นไร”
“เป็นครับ...เดี๋ยวคุณไม่สบาย”
“ถ้าไม่สบายก็ดี เราจะได้เอาใจพี่เยอะๆ”
“นี่ผมยังเอาใจคุณไม่เยอะอีกเหรอครับ”
“เยอะแล้ว แต่อยากได้มากกว่านี้”
“...โลภมาก”
เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ทุกช่วงของการสนทนามักจะมีเสียงหัวเราะเบาๆ ของทรงโปรดและเอ็นดูปนกัน เป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสุข อุ่นใจ เป็นเสียงหัวเราะที่หาที่ไหนไม่ได้ เพราะเอ็นดูไม่เคยหัวเราะแบบนี้กับใคร...ทรงโปรดก็เหมือนกัน
จนกระทั่งเอ็นดูชะลอเท้าเมื่อถึงหน้าประตูสถานที่จอดรถชั้นใต้ดิน เสียงหัวเราะหายไปแล้วเปลี่ยนเป็นเสียงคุยกันของคนสองคน เอ็นดูหยิบรีโมทขึ้นมา กดให้ประตูม้วนสีครีมเลื่อนขึ้น
“สวย” หม่อมราชวงศ์กระซิบ
“คิดเหมือนผมเลย โรงจอดรถนี่เพื่อนคุณพ่อออกแบบนะครับ”
“ไม่ได้หมายถึงโรงจอดรถ พี่หมายถึงเรา”
“...”
“สวยจังแฟนพี่โปรด”
“...ผมเป็นผู้ชาย ต้องบอกว่าหล่อสิครับ” เงยหน้าตอบคนที่เพิ่งหุบร่มแล้วจับพิงไว้กับกำแพง
แล้วอะไรดลใจให้เอ็นดูจับมือหนาไว้แน่นๆ ก็ไม่รู้ ไม่ได้จับอย่างเดียว เอ็นดูยังช้อนตามองคนตัวสูงพร้อมกับปิดปากอมยิ้มอีกต่างหาก ไฟสีส้มสว่างจากโรงจอดรถที่เปิดอัตโนมัติไว้ตลอดทั้งคืนสาดส่องให้เห็นโครงหน้าหล่อเหลาของคุณชายทรงโปรดชัดเจน
หน้าโรงจอดรถมีหลังคายื่นพอที่จะให้คนสองคนยืนหลบฝน เอ็นดูกับทรงโปรดไม่ได้ก้าวเข้าไปดูภายในเพราะเอาแต่ยืนส่งยิ้มให้กัน ทรงโปรดก้มหน้ามองเจ้าคนผิวขาว เขาใช้มือทัดผมกลุ่มหนึ่งไว้ที่หลังใบหูนิ่มของน้อง ขยับเท้าเดินไปข้างหน้า ส่วนเอ็นดูก็สาวเท้าถอยหลังจนกระทั่งแผ่นหลังเล็กๆ แนบไปกับผนังสีครีม
เอ็นดูหลบสายตาที่หวานซึ้งผิดปกติของทรงโปรดโดยการหันมองสายฝนที่กระหน่ำแรงกว่าเดิม ฝนที่สาดเข้ามาบางส่วนไม่ทำให้ทรงโปรดเลิกมองเอ็นดูด้วยสายตาแบบนี้ได้...เอ็นดูไม่ชินกับสายตาของเขา เพราะปกติจะถูกทรงโปรดมองแบบคนเจ้าเล่ห์ซะมากกว่า
แต่นี่อะไร...จู่ๆ ก็ทำตาหวานเยิ้มลึกซึ้งใส่ คนถูกมองจะละลายจมกองพื้นแล้ว
“เข้าไปข้างในมั้ยครับ...อื้อ”
ในเมื่อฝนมันน่ามองกว่าเขา คุณชายทรงโปรดเลยเบี่ยงเบนความสนใจด้วยจูบนุ่มๆ บนริมฝีปากหวานฉ่ำ มือหนาจับคางน้องเบาๆ พลางบีบนวดให้คนน่ารักค่อยๆ เผยอกลีบปากออก...แล้วก็สมดั่งใจคุณชายเขาเลย น้องเปิดปากรอรับความลึกซึ้งจากเขา แต่คุณชายกลับไล้เลียริมฝีปากอวบเล่น
“ย...อย่าแกล้งสิครับ”
เบี่ยงหน้าหลบจูบได้ครู่เดียวทรงโปรดก็ขยับหน้าตามาปิดปากต่อ เขาหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงหายใจฟึดฟัดจากคนตัวขาว คุณชายทรงโปรดละเลียดเม้มปากสีชมพู ดูดกลืนจนเกิดเสียงสลับกับผละออกแล้วจูบใหม่อยู่อย่างนั้นจนน้องต้องยกแขนขึ้นคล้องคอแกร่งแล้วรั้งให้คุณชายบดเบียดริมฝีปากแนบแน่นกว่าเดิม
ทรงโปรดยกยิ้ม สองมือล็อกเอวบางให้แนบชิดกับตัวของเขา หน้าท้องนุ่มๆ สัมผัสโดนกลางลำตัวที่แสดงถึงความเป็นผู้ชายแข็งแกร่ง เอ็นดูขยับตัวปลุกเขาให้ตื่น จากอากาศที่เย็นฉ่ำก็กลายเป็นร้อนรุ่มเหมือนมีพระอาทิตย์เต็มดวงมาส่องอยู่ตรงหน้า
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดรู้ความปรารถนาของตัวเอง เขาต้องการน้องทุกเวลา...ตอนนี้ก็ใช่ เขาอยาก outdoorตรงหน้าโรงจอดรถนี่แหละ แต่ติดอยู่ที่ว่าพรุ่งนี้มีงานสำคัญของพวกเขา ถ้าเกิดเผลอไปฟัดน้องตอนนี้...มีหวังเอ็นดูต้องงอแงตื่นเช้าไม่ไหวแน่ๆ
แปะ
“อย่ายั่ว เดี๋ยวไม่ได้นอนหรอก”
หน้าผากของคนผิวขาวถูกตีด้วยนิ้วสองนิ้ว ทรงโปรดไม่ได้รุนแรงอะไรกับน้อง เขาออกจะถนอมเอ็นดู แต่เจ้าคนน่ารักกลับทำหน้างอยกมือขึ้นลูบหน้าผากป้อยๆ
“เจ็บเหรอ”
“ถ้าผมตีบ้างอย่าโกรธก็แล้วกัน”
“เอาเลย ตีคืนสิ”
คุณชายทรงโปรดยื่นหน้าให้ว่าที่คู่หมั้นตีกลับ ถ้าน้องจะใช้ห้านิ้วกับฝ่ามือนุ่มๆ ฟาดลงบนแก้มเขาก็ไม่โกรธ เอาที่เอ็นดูทำแล้วสบายใจเลย
จุ๊บ
“ตีคืนแล้วครับ”
คุณชายทรงโปรดมองคนผิวขาวที่กลั้นยิ้ม นิ้วเล็กๆ ก็จิ้มแก้มทรงโปรดข้างที่เพิ่งใช้ริมฝีปากแนบลงมา
“ตีแรงไม่ได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณไม่หล่อ”
“...ปกติชอบทำตัวน่ารักแบบนี้กับไอ้ภูด้วยหรือเปล่า”
“จะหมั้นกันแล้วคุณยังถามถึงภูอีกเหรอครับ” เอ็นดูหัวเราะจนไหล่สั่น
อือ แต่ก็ชอบให้เขามาหึงมาหวงแบบนี้ เอ็นดูไม่ได้รู้สึกรำคาญกับท่าทีขี้หึงขี้หวงของทรงโปรด กลับรู้สึกชอบเอามากๆ
“ไม่เคยครับ”
“แสดงว่าพี่เป็นคนแรก”
“คุณเป็นคนแรกของผมเสมอ”
หม่อมราชวงศ์หัวเราะชอบใจกับคำตอบแสนเอาใจของว่าที่คู่หมั้น คนโตกว่ารั้งคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่น ทรงโปรดวางคางบนศีรษะกลมพลางหอมและจูบสลับกันไป
เอ็นดูเรียนรู้ที่จะมัดทรงโปรดไว้กับตัวและหัวใจทีละนิดจนกระทั่งตอนนี้น้องแทบไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง ทรงโปรดก็ยินยอมมอบตัวและหัวใจทั้งดวงไว้ที่น้อง
สาบานได้เลย...ทั้งชีวิตนี้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่เคยรู้สึกรักใครเท่าที่รู้สึกรักเอ็นดูมาก่อน
“เอ็นดู พี่โปรดรักเอ็นดูนะครับ”
“...”
“พี่ไม่เคยพูดกับใคร”
รักจนสามารถพูดคำนี้ได้ เป็นคำแรกในชีวิตที่ทรงโปรดยกให้คนคนนี้
“ขอบคุณครับ”
เสียงอู้อี้ในอกแกร่งกับแก้มแดงๆ ที่ทรงโปรดก้มมองทำให้เขายิ้มกว้าง
“ผมก็รักคุณเหมือนกันนะครับ”
“…”
“แล้วก็...ไม่เคยพูดคำนี้กับใครด้วย”
และที่กล้าพูดออกมาก็เพราะว่ามั่นใจแล้ว...
มั่นใจว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคนนี้คืออีกหนึ่งชีวิตที่เติมเต็มเอ็นดูจริงๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เขินทุกตอนเลยจ้าาา แต่ว่าอยากให้น้องเปลี่ยนจากคุณเป็นพี่โปรดบ้าง แทนตัวเองด้วยชื่อหรือน้องก็จะน่ารักมากขึ้นอีกน๊า
พี่โปรดก็แสนนนละมุน เอ็นดูก็แสนน่ารักน่าฟัด แงแงงงแงแงแงแง ㅜㅡㅜ