ตอนที่ 18 : 18
18
I like you
No, actually i adore you
วางกระเป๋าลงบนเตียงพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนความนุ่มบนที่นอน ตาเรียวสวยมองเพดานห้องที่ไม่เห็นมาหลายวัน เครื่องปรับอากาศเย็นๆ กับเสียงสายฝนพรำที่ได้ยินจากชั้นห้าสิบสองทำให้เอ็นดูรู้สึกผ่อนคลายจนต้องคลี่ยิ้มออกมา
ยอมรับว่าเหนื่อย การทานข้าวกับผู้ใหญ่เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก
เหนื่อยแต่มีความสุข
สุขที่เหมือนกับว่าได้กอดคุณพ่อ ได้ใช้เวลาร่วมกันอีกครั้ง
คนผิวขาวในห้องที่เปิดไฟสลัวจับเข็มกลัดที่ติดอยู่บนอกซ้าย สัมผัสเบาๆ ด้วยการลูบ เพชรหลายสิบเม็ดถูกฝังประดับบนเข็มกลัด มูลค่าของมันเกือบล้าน เป็นเข็มกลัดที่ท่านพ่อของทรงโปรดตั้งใจทำให้เป็นของหมั้น
ไม่ใช่ของแรร์ไอเท็มนะ เพราะหม่อมเจ้าทรงยศทำขึ้นมาจำนวนสี่ชิ้น ชิ้นแรกหม่อมราชวงศ์ภูมินทร์ สามีของหม่อมราชวงศ์รฐาได้ไป อีกชิ้นอยู่กับเอ็นดู ท่านพ่อของทรงโปรดเพิ่งกลัดเข้ากับเนื้อผ้าบนอกด้านซ้ายให้เมื่อหลายชั่วโมงที่ผ่านมา
ส่วนอีกสองชิ้นที่เหลือ...เอ็นดูเดาว่าก็คงอยู่ในตู้เซฟของหม่อมเจ้าทรงยศ เก็บรักษาไว้อย่างดีเพื่อรอวันที่จะได้มอบให้กับคนที่ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง และหม่อมราชวงศ์ทรงคุณ
ยังจำความอบอุ่นของท่านพ่อได้อยู่เลย หม่อมเจ้าทรงยศทำให้เอ็นดูแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ตอนที่ถูกท่านสวมกอด ท่านรู้เรื่องที่คุณพ่อของเอ็นดูจากไป ไม่ได้ตอกย้ำ แต่เติมเต็มให้เอ็นดูรู้สึกเหมือนกับว่าได้อยู่ใกล้ๆ คุณพ่ออีกครั้ง
ท่านกอด ลูบผม มองด้วยสายตาอ่อนโยนเหมือนที่คุณพ่อเคยมอง ตอนนั้นเอ็นดูไม่ได้รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไรเลยสักนิด แต่กลับตื้นตันมากๆ จนต้องก้มลงกราบตักงามๆ ที่หม่อมเจ้าทรงยศเมตตาเอ็นดูขนาดนี้
พอได้อยู่เงียบๆ คนเดียวหางตาสวยก็เปื้อนน้ำตา มุมหนึ่งที่ไม่มีใครรู้คือเอ็นดูร้องไห้เก่ง...พอตกดึกเขามักจะร้องไห้เพราะคิดถึงคุณพอแทบทุกคืน แต่อาการเหล่านี้มันหายไปตั้งแต่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเข้ามาวนเวียนในหัวใจ
เขาทำให้เอ็นดูลืมความเศร้าหลายๆ อย่าง ทำให้เอ็นดูมีชีวิตชีวา
นี่ก็เพิ่งร้องไห้เป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกับคุณชายเขาเลยนะ
“เอ็นดู”
“คุณ...”
จู่ๆ คนที่เอ็นดูเพิ่งบอกให้กลับไปพักผ่อนก็ปรากฏตัวตรงหน้า ร่างสูงยืนบดบังดวงไฟสลัวที่เอ็นดูตั้งใจเปิดไว้แค่ดวงเดียว คนผิวขาวค่อยๆ ขยับตัวขึ้นนั่ง กำลังจะยกมือปาดน้ำตาที่ซึมออกมา แต่กลับไม่ทันมือหนาที่ยื่นมาเกลี่ยน้ำใสๆ
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดขยับตัวนั่งลงข้างๆ เจ้าของห้อง ประคองกรอบหน้าเนียนใสน่าทะนุถนอมเบาๆ เช่นเดียวกันปลายนิ้วโป้งแกร่งที่เกลี่ยเช็ดน้ำตาให้
“ไล่พี่กลับ แต่ตัวเองมานอนร้องไห้แบบนี้เหรอ”
“...ไม่ได้ไล่นะครับ” เอ็นดูไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา เขาเลยเม้มปาก กลืนก้อนแข็งๆ บางอย่างลงคอ “ผมให้คุณกลับไปพักผ่อนต่างหาก”
“เอ็นดู เราเป็นแบบนี้พี่จะปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ยังไง”
“ผมหายดีแล้วนะคุณ”
“หายดีแล้วทำไมยังดูซึมๆ”
“...”
“คิดถึงคุณพ่อใช่มั้ย”
เอ็นดูจ้องตาคมทั้งที่ยังรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าว ยู่ปากพลางส่ายหน้าเบาๆ กำลังจะปฏิเสธแต่กลับถูกรวบตัวด้วยแขนแกร่งให้ชิดกับแผ่นอกอุ่นๆ
“คุณรู้ได้ยังไงครับ”
“มองหน้าก็รู้แล้ว” ทรงโปรดลูบผมนุ่มสลับกับลูบหลังให้
คนถูกจับได้ยิ้มกว้าง แค่กอดเบาๆ กับมือหนาที่คอยลูบประโลมก็ทำให้เอ็นดูหยุดเลิกร้องไห้ได้ และจากที่เคยร้องไห้คิดถึงคุณพ่อคนเดียว ไม่มีใครเคยเห็นน้ำตาของเอ็นดูเลยสักคน...มันเปลี่ยนไปหมดในตอนที่คุณชายทรงโปรดเดินเข้ามา
เขาเป็นคนที่เห็นเอ็นดูร้องไห้ เป็นคนที่เข้ามาปลอบอย่างอ่อนโยน
เป้นคนที่รับรู้เรื่องราวของเอ็นดู
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเห็นทุกด้านของเอ็นดูครบแล้วนะ : )
“ตอนที่ท่านพ่อกอด...ผมก็คิดถึงคุณพ่อขึ้นมาเลยครับ”
เป็นคนแรกที่เอ็นดูกล้าเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง
“ตอนที่ผมหลับไป คุณพ่อมาปลุกผมด้วยนะครับ ตอนนั้นผมคิดถึงคุณแม่ คิดถึงคุณหญิงป้า...คิดถึงคุณด้วย อยากลืมตาแต่ก็ลืมไม่ได้เลย”
ทรงโปรดกระชับแขนกอดคนในอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม วางคางบนศีรษะกลมที่มีกลิ่นหอมของแชมพูสระผม กดจูบเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงนุ่มนิ่มกำลังเล่าเหตุการณ์ที่ตัวเองหลับอยู่ในโรงพยาบาลให้ฟัง
“แต่พอได้ยินเสียงคุณพ่อผมก็พยายามลืมตาขึ้นมา ผมคิดว่าตัวเองหูฟาด...แต่ในห้องไม่มีใครเลยนอกจากคุณแม่”
“ถ้าคุณพ่อไม่มาปลุกเราก็ไม่ยอมตื่นใช่มั้ย” ถามน้ำเสียงงอแงจนเอ็นดูหลุดขำ
“ตื่นสิครับ ผมยังไม่อยากตายสักหน่อย”
“ไม่ยอมให้เราตายหรอก”
“ผมคงไม่อายุสั้นขนาดนั้นหรอกมั้งคุณ”
“เปลี่ยนเรื่องคุยดีมั้ย”
เงยหน้ามองหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่จูบผมนุ่มซ้ำไปซ้ำมา พอเขาเห็นใบหน้าขาวๆ เลยเปลี่ยนมาจูบแก้มแทน
“ไม่ร้องไห้แล้วนะ เด็กดี”
ดูวิธีปลอบของเขาสิ หม่อมราชวงศ์โยกตัวเอ็นดูเบาๆ เหมือนกำลังกล่อมให้เด็กที่ร้องไห้งอแงหลับคาอก แต่ตัวเองยังตักตวงความสุขโดยการพรมจูบทั่วใบหน้าเอ็นดูอยู่เลย คนตัวขาวร้องฮือเมื่อฟันซี่คมงับปลายจมูกเบาๆ
“กัดทำไมครับ”
“มันเขี้ยว”
“เดี๋ยวผมก็ร้องไห้อีกหรอก”
“ร้องสิ เดี๋ยวปลอบเอง”
น้องซุกหน้าหนีริมฝีปาก...ทรงโปรดคลายความเศร้าของเอ็นดูทีละนิดจนกระทั่งมันจางหายไป ความคิดถึงคุณพ่อยังตราตรึงอยู่ในหัวใจตลอด แต่เอ็นดูแค่ไม่ร้องไห้แล้ว...ไม่ร้องไห้เพราะได้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดช่วยปลอบ
เอ็นดูอยู่คนเดียวมาตลอด ร้องไห้คนเดียว มีความสุขคนเดียว
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะมีอีกคนคอยรับฟังเอ็นดูทุกอย่าง
คุณชายทรงโปรดคือคนที่มาเติมเต็มชีวิตของเอ็นดูจริงๆ
*****
“...ตื่นแล้วเหรอครับ” งัวเงียผงกศีรษะขึ้นเล็กน้อย ปรือตามองร่างสูงที่อยู่ในเชิ้ตขาวกำลังกลัดกระดุมตรงปลายเตียง “ตีสี่เองนะคุณ”
แล้วก็ทิ้งศีรษะลงบนหมอนอีกครั้งเมื่อพบว่านี่ยังไม่ใช่เวลาตื่นของตัวเอง เอ็นดูหลับตาปี๋ แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะกับเตียงที่ยวบลงเลยต้องลืมตาขึ้น ยู่ปากมองคนที่แต่งตัวหล่อตั้งแต่เช้าตรู่กำลังขึ้นคร่อมร่างตัวเอง
“วันนี้มีประชุมเช้า เรื่องรีสอร์ตที่เชียงราย”
ถึงแม้ว่าเอ็นดูจะไม่ใช่คนในบริษัทของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด แต่คุณชายเขาก็เต็มใจบอกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของการประชุมให้ฟัง หลักๆ ก็เรื่องที่เกิดเพลิงไหม้ และระยะเวลาในการสร้างกับขนย้ายเฟอร์นิเจอร์จาก supplier เข้าไปวางไว้ในรีสอร์ตตามฮวงจุ้ยที่อินทีเรียแนะนำ
เอ็นดูไม่จำต้องรู้ แต่ทำไงได้ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดบอกหมดแล้ว
แต่คนเพิ่งตื่นกลับทำหน้ามุ่ย ขยับแก้มซบกับฝ่ามือหนาที่ยกขึ้นลูบโครงหน้า
“แล้วใครจะไปส่งผมที่มหา’ลัยล่ะครับ”
“ขายังไม่หายเจ็บ หยุดเรียนไปก่อน”
“ใกล้สอบแล้วครับ”
อีกอึดใจเดียวเอ็นดูจะจบปีสาม เมื่อคืนก่อนนอนเขาเข้าไปเช็กไลน์กลุ่มของสาขาบริหารการค้าระหว่างประเทศภาคอินเตอร์ที่ตัวเองไม่ค่อยมีบทบาทในนั้นสักเท่าไหร่ เห็นเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าพรุ่งนี้อาจารย์จะแนะแนวข้อสอบไฟนอลนี้ด้วย
“เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถที่บริษัทมารับ มีเรียนกี่โมงล่ะเรา”
“แปดโมงครึ่งครับ”
“โอเค…”
“แต่ผมไม่อยากรบกวนคนอื่นเลย”
“…”
“ผมขอขับรถของคุณไปเรียนได้มั้ยครับ” เม้มปากกลั้นยิ้ม กะพริบตาปริบๆ เมื่อหม่อมราชวงศ์ขมวดคิ้ว
“เจ็บขาอยู่จะขับรถยังไง”
“หายแล้วครับ วันนี้เดินเองได้แล้ว กินยาไปแล้วสบายมากเลย”
“ถ้าใช้รถพี่ แล้วพี่จะไปทำงานยังไง”
“เดี๋ยวผมไปส่ง”
“มันไกล”
“นะครับ...พี่โปรด”
คนถูกเรียกว่า ‘พี่โปรด’ ชะงัก ส่วนคนที่เปล่งเสียงนุ่มนิ่มออกมาตอนนี้ก็ทำตาแป๋วอ้อนคนโตกว่า
ทรงโปรดสบถในใจ เขายิ่งแพ้คนขี้อ้อนอยู่ด้วย…อือ ก็นั่นแหละ พอโดนเอ็นดูร่ายมนต์ใส่ ริมฝีปากก็แห้งจนต้องใช้ลิ้นเลีย
อ้อนได้น่ารักขนาดนี้ รถที่วังมีกี่คันพี่โปรดคนนี้ก็ให้เอ็นดูได้หมด
“คิดว่าจะใจอ่อนเหรอ” ใช้ปลายนิ้วแตะลงบนจมูกของคนใต้ร่าง หม่อมราชวงศ์เอียงคอมองคนน่ารักที่กลั้นยิ้มและพยักหน้าเบาๆ
เฮ้อ ทำไงได้ ในเมื่อเอ็นดูยืนยันว่าตัวเองหายดีแล้วด้วยการกระแทกเท้าลงเตียง แถมยังผงกหัวจูบแก้มซ้ายขวาของเขาอีกต่างหาก อยากยืมรถของทรงโปรดถึงขั้นลงทุนทำตัวน่ารักขนาดนี้ ถ้าใจร้ายก็กลัวว่าน้องจะงอนใส่
หม่อมราชวงศ์เลยก้มหน้าจูบริมฝีปากอวบเบาๆ ก่อนขยับจุมพิตบนหน้าผากของเอ็นดู
“ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวผมให้พี่ปันมารับก็ได้”
เห็นว่าเขาเงียบไปเอ็นดูเลยไม่อยากรบเร้าอะไรมาก รู้แหละว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดรักรถมาก...เอ็นดูก็แค่อยากขับรถของเขาไปเรียนเท่านั้นเอง
เหมือนเด็กที่อยากขับรถของพ่อแม่ไปเรียนนั่นแหละ พอมีเพื่อนมาถามว่านี่รถใครก็ยืดอกตอบแบบภูมิใจว่านี่รถพ่อรถแม่เอง แต่เอ็นดูไม่ได้อยากขับไปอวดใครหรอกนะ ไม่ได้มีความรู้สึกอยากอวดอะไรเลยสักอย่าง
แค่วันนี้อยากขับรถของคุณชายทรงโปรดเท่านั้น ไม่อยากให้ใครมารับ ไม่อยากให้ทรงโปรดไปส่ง อยากขับรถไปส่งเจ้าของรถเบนซ์คันหรูคันนั้นด้วยตัวเอง แล้วก็อยากขับไปรับเจ้าของรถกลับบ้านด้วยกัน
มันคงเป็นความรู้สึกที่อยากทำอะไรเพื่อเขาบ้าง ยอมรับเลย ตั้งแต่รู้จักหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมา เอ็นดูยังไม่เคยเทคแคร์คนตัวสูงได้ถึงครึ่งเท่าที่เขาทำให้ คุณชายทรงโปรดใส่ใจเอ็นดูทุกเรื่อง ไม่ว่าจะกิน นอน เดิน หรือแม้กระทั่งขยับตัวซ้ายขวา ชีวิตของเอ็นดูเปลี่ยนไปมากจากเดิมก็เพราะเขา
ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เอ็นดูอยากทำให้ก็ตาม ทรงโปรดจะรับรู้หรือไม่ก็ช่าง นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เอ็นดูต้องการ ที่ต้องการก็คือ...อยากดูแลคุณชายทรงโปรด อยากตอบแทนสิ่งดีๆ ในชีวิตที่ผู้ชายตัวสูงคนนี้มอบให้
ทรงโปรดไม่จำเป็นต้องรู้หรอก...ถ้ารู้ก็เขินแย่เลย
คนตัวสูงขยับตัวเอื้อมมือไปตรงโต๊ะข้างหัวเตียง เอ็นดูหลับตาปี๋เมื่ออกแกร่งของเขาลอยอยู่ตรงหน้า ถึงจะอยู่ในเชิ้ตสีขาวแล้วก็เถอะ แต่อกหนั่นแน่นของเขาน่ามองน่าซบจะตาย
แล้วก็ต้องลืมตาอีกครั้งเมื่อวัตถุเย็นๆ วางลงบนหน้าผาก คนตาแป๋วใช้มือหยิบมันออก คลี่ยิ้มเมื่อพบว่ามันคือรีโมทรถยนต์ของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด
“ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว” มือหนาลูบแก้มกลมเบาๆ
“อะไรคุณ...ตอนแรกทำท่าเหมือนจะไม่ให้ยืม”
“คิดไปคิดมา ให้เราไปส่งไปรับก็ดีเหมือนกัน”
“...”
“คนที่บริษัทจะได้รู้ว่าพี่มีเมียแล้ว”
แปะ
แขนแกร่งของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถูกมือน้อยๆ ของเอ็นดูตีเข้าให้ ดูเขาพูดสิ...เข้าท่าซะที่ไหน บอกให้เลิกพูดคำนี้เป็นสิบรอบแล้ก็ไม่ฟัง แถมยังลอยหน้าลอยตาไม่สนใจแก้มแดงปลั่งของเอ็นดูอีกต่างหาก
“นอนต่อมั้ย ตีห้าครึ่งค่อยตื่นมาอาบน้ำ”
“ไม่เอาครับ ผมไปทำอาหารเช้าให้คุณดีกว่า”
“ทำไว้ให้แล้ว”
พูดไปก็พรมจูบแก้มกลมๆ ไป เอ็นดูเอียงหน้าหลบปากอุ่นๆ ของเขาไม่ทันเลยต้องยอมมอบแก้มของตัวเองให้ทรงโปรดหอมต่อไปอย่างนั้น
“เด็กดี เดี๋ยวตีห้าครึ่งพี่โปรดมาปลุกนะครับ”
“อื้อ...ผมจะนอนแล้ว”
โดนมือหนารุ่มร่ามใส่ตรงช่วงเอวคอดแต่เอ็นดูก็ไม่ได้ปัดมือเขาออกหรอก กลับประคองกรอบหน้าของคุณชายทรงโปรดที่หล่อเหลาจนบางทีเอ็นดูก็อิจฉา และรู้สึกหวงใบหน้าของคนคนนี้ในหลายๆ ครั้งด้วย
ต่างคนต่างยิ้มกว้างให้กัน ตอนนี้พระอาทิตย์ยังไม่โผล่ขึ้นจากขอบฟ้า แต่รอยยิ้มแสนหล่อของทรงโปรดก็เป็นเหมือนพระอาทิตย์ในเช้าที่มีฝนพรำ
“อย่าไปยิ้มแบบนี้ให้ใครดูนะคุณ”
“เอ็นดูมีสิทธิ์ดูคนเดียวอยู่แล้ว”
คนที่ทำให้เอ็นดูหวั่นไหวใจสั่นทุกครั้ง ก็หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคนนี้นี่แหละ
*****
“สรุปการประชุมอยู่ในแฟ้มนะคะคุณชาย”
“ขอบคุณครับ”
ปานวาดมองคุณชายทรงโปรดที่นั่งมุ่งมั่นขมวดคิ้วอยู่หน้า iMac สีเทา ก่อนเหลือบมองแม่บ้านประจำออฟฟิศที่กำลังเดินตามเลขาฯ พร้อมกับถือกาแฟรอบบ่ายของทรงโปรดเข้ามาเสิร์ฟ
“คิ้วขมวดเลยเหรอคะคุณชาย มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ยคะ”
ท่าทางเครียดแบบนี้เดาว่าบอสของเธอคงเครียดกับงาน หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเป็นคนจริงจังกับงานมาก งานต้องออกมาเป๊ะ คุณชายเขาละเอียดเนี้ยบกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก
“ตอนที่พี่วาดแต่งงาน สามีพี่วาดเซอร์ไพรส์ของขวัญวันแต่งยังไงเหรอครับ” พอเห็นว่าบอสถามอย่างสนอกสนใจเธอก็ยิ้มเขิน ปานวาดแต่งงานกับสามีมาสิบปีแล้ว แต่ความรักยังหวานฉ่ำเหมือนคู่หนุ่มสาวที่แต่งงานกันใหม่ๆ
“ก่อนแต่งงานสามวันนะคะ เขาก็พาพี่ไปหมู่บ้านที่พี่ชอบแอบมองบ่อยๆ เวลาขับรถผ่าน สามีพี่ปิดตาพี่ด้วยค่ะ พอเปิดมาอีกทีก็เห็นบ้านหลังโตกับรถยนต์หนึ่งคันจอดอยู่”
คนฟังคลี่ยิ้ม สามีปานวาดไม่ใช่คนอื่นคนไกล ก็หัวหน้าบอร์ดบริหารของบริษัทเขานี่แหละ สามีปานวาดเป็นคนที่ดูทาทางขึงขัง ดุดัน...ทรงโปรดเองก็ไม่อยากเชื่อว่าหัวหน้าบอร์ดบริหารคนนี้จะทำให้ภรรยาที่แต่งงานกันมานานนับสิบปียืนยิ้มเขินได้
“ตอนแรกพี่ก็นึกว่าต้องย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่ของเขา พี่เคยบ่นๆ ค่ะว่าอยากอยู่แบบส่วนตัวครอบครัวเล็กๆ มากกว่า...ไม่คิดเลยนะคะว่าคุณชัชจะซื้อเรือนหอให้...ว่าแต่ คุณชายถามทำไมเหรอคะ จะเซอร์ไพรส์อะไรคุณเอ็นดูวันหมั้นหรือเปล่าคะเนี่ย”
“นิดหน่อยครับพี่วาด คนนั้นเขาอยากมีรีสอร์ตเป็นของตัวเองบ้าง”
“หูย ถ้าให้รีสอร์ตก็ไม่นิดเลยนะคะคุณชาย”
นิดหน่อยของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคือการสร้างรีสอร์ตที่มูลค่านับร้อยล้านให้ว่าที่คู่หมั้น ปานวาดยกมือกุมอกเมื่อเห็นรอยยิ้มของบอส รอยยิ้มหล่อๆ ที่มีเจ้าของครอบครองไว้แล้ว
คิ้วที่ขมวดในตอนแรกคลายออกเมื่อหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดได้คนคุยคลายเครียด เขาเรียกปานวาดมาช่วยดูแบบเพราะเธอจบคณะสถาปัตยกรรมด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แน่นอนว่าฝีมือและประสบการณ์เหนือกว่าทรงโปรดอยู่แล้ว
“เดี๋ยวคุณเอ็นดูจะขึ้นมาข้างบนครับพี่วาด ยังไงผมฝากพี่วาดดูแลหน่อยนะครับ” ทรงโปรดพูดขึ้นหลังจากที่ปรึกษารายละเอียดแบบของรีสอร์ตเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะคุณชาย” เธอวาดยิ้มสวยๆ ก่อนหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงาน
คนที่ยืมรถเบนซ์ของเขาไปเพิ่งแชตมาบอกเมื่อกี้นี้เองว่าถึงบริษัทเรียบร้อยแล้ว เอ็นดูเคยมาที่นี่เป็นครั้งที่สอง เขาไม่แน่ใจว่าน้องจะขึ้นมาบนห้องทำงานถูกหรือเปล่า
N-Doo: ลิฟต์ตัวไหนครับ
ทรงโปรดกดดูรูปที่เอ็นดูถ่าย ลิฟต์ตรงลานจอดรถชั้นใต้ดินจะมีอยู่หนึ่งตัวที่ทรงโปรดสงวนไว้ใช้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เรียกอีกอย่างว่าเป็นลิฟต์ส่วนตัวของเขานั่นแหละ
Prod: ซ้ายมือครับ กดมาชั้น 19 ได้เลย
N-Doo: งั้นผมกดชั้น 11 นะครับ
Prod: ก็ได้
Prod: พี่จะได้ลงไปรับเราขึ้นมา
Prod: ชั้นนั้นเซลล์ทำงานอยู่ด้วย จะได้เปิดตัวไปเลยว่านี่เมียพี่
N-Doo: โหยคุณ ล้อเล่นนิดหน่อยเอง
N-Doo: นี่ครับๆ กดชั้น 19 แล้ว
คุณชายทรงโปรดส่งสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กเสือตีก้นกระต่าย พอกระต่ายโดนตีแล้วก็ยืนร้องไห้น้ำตาไหล อือ มันเหมาะกับคนคูลๆ อย่างเขาดี
ทรงโปรดไม่เคยซื้อสติ๊กเกอร์มาใช้สำหรับแชตเลยจริงๆ เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ปกติทรงโปรดไม่ค่อยอินกับการใช้สติ๊กเกอร์เท่าไหร่ ไม่เหมือนคุณหญิงรฐาพี่สาวของเขาหรอก ที่มีสติ๊กเกอร์แทบทุกแบบ
แต่ไอ้ตัวนี้มันน่ารักดี เอ็นดูส่งมาให้เขาดูแล้วบอกว่าสติ๊กเกอร์ที่เป็นเสือน่ะเหมือนเขามากๆ เลย ส่วนเขาบอกว่ากระต่ายก็เหมือนเอ็นดู จากนั้นไม่นานหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดก็ทำการซื้อสติ๊กเกอร์มาใช้ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยซื้อมาก่อน
อือ นั่นแหละ แล้วครั้งแรกที่ส่งสติ๊กเกอร์นี้ให้น้อง เอ็นดูหัวเราะกลั้วจนแทบหายใจไม่ทัน หน้านี่แดงไปหมดเลย
N-Doo: เลยชั้น 11 มาแล้วครับ
Prod: อยู่ชั้นไหนแล้ว
N-Doo: 13 ครับ
N-Doo: 15 แล้วครับ
เอ็นดูเป็น Power ให้เขาเหลือเกิน
ปกติแล้วหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่จับโทรศัพท์บ่อย ใครแชตมาทีกว่าจะตอบก็นู้น ข้ามวัน ไม่ก็หลายชั่วโมงต่อมา แต่เอ็นดูทำให้เขาติดโทรศัพท์มากกว่าเดิม
แต่น่าจะติดคนในโทรศัพท์มากกว่าติดโทรศัพท์
Prod: เอ็นดู อยู่ไหนแล้ว
“คุณชายคะ คุณเอ็นดูมาถึงแล้วค่ะ”
เสียงปานวาดดังผ่านอินเตอร์คอมทำให้เขาหลุดยิ้ม เจ้าตัวดีที่ไม่ตอบไลน์ตอนนี้อยู่หน้าห้องเขาแล้ว หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่ได้ตอบกลับแต่เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนสาวเท้าตรงไปยังประตูห้องทำงาน แล้วก็ต้องยกยิ้มเมื่อเห็นคนน่ารักยืนโน้มตัวรอฟังเสียงตอบจากอินเตอร์คอม
“หัวจะทิ่มโต๊ะอยู่แล้วเอ็นดู”
“อ้าว...สวัสดีครับ”
เจ้าของชื่อสะดุ้ง ยกมือขาวเกาท้ายทอยยิ้มเก้อ
“คืนครับ”
เอ็นดูยื่นรีโมทรถคืนคนตัวสูงเมื่อทรงโปรดพาเดินเข้ามาในห้อง เขาปิดประตูมิดชิดแถมยังล็อกกลอนอีกด้วย เมื่อกี้ก่อนเข้ามาคุณชายทรงโปรดกำชับกับเลขาฯ ว่าวันนี้เขาไม่รับแขกอีกแล้ว
ที่ไม่รับแล้วเพราะว่าเขาจะสูดเอาพลังกายพลังใจจากน้องนี่ไง
“คุณนี่...จริงๆ เลย ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนี่ครับ”
พูดกันไม่กี่คำเอ็นดูก็ถูกหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจับกดลงบนโซฟาแล้วระดมจูบจนหายใจแทบไม่ทัน แต่ดีนะที่เขาไม่รุ่มร่ามถึงขั้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตกับถอดเข็มขัดกางเกงของเอ็นดูออก...ไม่งั้นแย่แน่ๆ
หม่อมราชวงศ์ไหวไหล่ เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนลุกขึ้นนั่งบนโซฟาโดยไม่ลืมที่จะประคองว่าที่คู่หมั้นที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นนั่งด้วยเหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่านั่งเฉยๆ ซะเมื่อไหร่ ตอนนี้ทรงโปรดรั้งเอ็นดูเข้าไปกอดไว้แน่นเลยแหละ
“ไกลมั้ย”
“จากมหา’ลัย มาที่บริษัทเหรอครับ”
“อือ”
“แล้วคุณว่าไกลมั้ยล่ะ”
“สำหรับพี่ไม่”
“สำหรับผมก็ไม่เหมือนกันครับ”
ถึงจะอยู่กันคนละฝั่ง แต่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดขับรถไปกลับแบบนี้เป็นประจำเขาเลยคิดว่ามันไม่ไกล ที่ไหนมีเอ็นดู ที่นั่นเขาไปได้หมด
“นี่คุณดื่มกาแฟตอนบ่ายอีกแล้วเหรอครับ”
“มันชิน”
“งั้นก็หัดดื่มแค่ตอนเช้าให้ชินบ้างสิครับ”
“ไปหยิบมาให้พี่ดื่มหน่อยสิ เริ่มปวดหัวแล้ว”
ขนาดบอกไปหยกๆ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยังไม่ฟังเลย แต่ก็นั่นแหละ คนมันเคยแล้ว ถ้าให้เลิกดื่มเขาคงจะปวดหัวแย่
เอ็นดูเลยแกะมือหนาที่คล้องเอวออกก่อนลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะทำงาน เอ็นดูเดินอ้อมไปตรงจุดที่ใกล้กับแก้วกาแฟมากที่สุด ซึ่งแก้วกาแฟของคุณชายเขาก็ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ iMac ราคาร่วมแสนนั่น
จังหวะที่กำลังจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมา สายตาของเอ็นดูเหลือบเห็นแบบรีสอร์ตบนหน้าจอที่ถูกสร้างขึ้นด้วยโปรแกรมอะไรสักอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้จัก เอ็นดูไม่ได้อยากละลาบละล้วงเรื่องงานของเขา แต่แบบรีสอร์ตที่เห็นมันคุ้นตา เหมือนกับว่า...มันเป็นแบบที่เอ็นดูเคยให้เขาดูเลยต้องหยุดมอง
“ชอบมั้ย”
แล้วเจ้าของห้องที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ขยับตัวเดินตรงเข้ามาหา หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดนั่งประจำบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง รั้งเอวบางๆ ของเอ็นดูให้นั่งลงบนตัก มือหนาจับเมาส์ขยับแบบรีสอร์ตบนหน้าจอให้เอ็นดูเห็นรายละเอียดต่างๆ
“พี่เอาแบบรีสอร์ตที่เราทำไว้ในแอพมาใส่รายละเอียดเพิ่มเติม ถ้าไม่ชอบตรงไหนบอกได้เลย เดี๋ยวแก้แบบให้”
“คุณ...เอาจริงเหรอครับ”
“พี่พูดจริงทำจริง”
“แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะคุณ”
“ไม่ได้เล่นสักหน่อยเอ็นดู พี่จริงจัง”
คนที่นั่งหันหลังให้หน้าจอกลั้นยิ้มจนแก้มป่อง เอ็นดูเอนหลังพิงอกกว้าง จับมือหนาของเขาขึ้นมาประสานนิ้วเรียวไว้ด้วยกันก่อนประคองมือหนาขึ้นมาจูบเบาๆ
“ชอบหมดเลยครับ สวยมากๆ เลย...ขอบคุณนะครับ”
คนตัวบางถูกกระชับกอดแน่นขึ้น แผ่นหลังของเอ็นดูแนบแน่นไปกับอกกว้าง ทรงโปรดวางคางบนไหล่แคบ
มากกว่านี้ก็ทำให้ได้ อะไรที่เอ็นดูอยากได้เขาจะหามาให้ทุกอย่าง
เอ็นดูเก่งจริงๆ ที่ทำให้เขาทั้งรักทั้งหลงได้มากขนาดนี้
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณมาเป็นคบกับพี่แทนดีมั้ย”
คนถูกถามชะงัก ทำหน้าเลิ่กลั่ก หัวเราะเบาๆ
“คือ...คุณจะขอผมเป็นแฟน?”
“อือ ข้ามขั้นมาตั้งเยอะแล้วเพิ่งจะขอ ไม่โกรธพี่ใช่มั้ย”
“จีบติดแล้วเหรอครับ”
“นี่ยังไม่ติดอีกเหรอ”
“คุณพูดเองเออเองหมดเลย...ชอบขี้ตู่ด้วย”
“เอ็นดู...”
“ครับพี่โปรด”
ชอบพูดจังไอ้พี่โปรดเนี้ย แล้วไม่รู้ทำไมเวลาที่น้องพูดชื่อเขาต้องทำเสียงหวานๆ มากกว่าปกติด้วย
ทรงโปรดอดใจไม่ไหวจนต้องจูบท้ายทอยหอมๆ ของคนที่นั่งอยู่บนตัก เดี๋ยวนี้น่ะอ้อนเก่งนัก พออ้อนแล้วก็ทำมึนไม่รู้ไม่ชี้ ทำเหมือนกับว่าเมื่อกี้ตัวเองไม่ได้เรียกเขาว่าพี่โปรด
“พี่จีบเอ็นดูติดหรือยัง”
“คิดว่าไงล่ะครับ”
“คิดว่าจีบติดแล้ว”
“...”
“...”
“ครับ...จีบผมติดแล้ว”
น้องขยับตัวลุกขึ้นจากตัก หันหน้าหาคนตัวสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ขยับตัวนั่งคร่อมคุณชายทรงโปรดที่ใช้มือหนาๆ จับเอวไว้ก่อน
“แล้วเป็นแฟนกันได้หรือยัง”
เกลียดสายตาเจ้าเล่ห์ของเขาจริงๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
สายตาแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของคุณชายทรงโปรดไปแล้ว
“อันนี้คิดว่ายังไงล่ะครับ”
“คิดว่าได้”
“ครับ”
“ครับอะไร”
“อื้อออ คุณอ่ะ”
“บอกมาเร็วๆ”
“...”
“...”
“ก็เป็นแฟนคุณได้แล้วนี่ไง เป็นแล้วเนี่ย”
คนเขินแก้มแดงปลั่งพูดจบแล้วก็รีบซบหน้าลงบนอกแกร่งทันที เอ็นดูกลั้นยิ้มเขินร้องฮือเพราะถูกคุณชายหอมแก้มซ้ายทีขวาที ฟัดซะจนเอ็นดูแทบช้ำไปหมด
ทรงโปรดไม่รู้มาก่อนเลยว่ากระต่ายน้อยในวันนั้นจะทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ยืนอยู่ในทุ่งสวยๆ คอยมองกระต่ายตัวขาววิ่งเล่นแบบสุขใจได้ขนาดนี้ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าเขาจะใช้หัวใจรักใครคนหนึ่งได้มากมายขนาดนี้
แต่ตอนนี้ที่รู้...หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดขาดหม่อมหลวงจิราไม่ได้เลย
จะขาดไปได้ยังไง ในเมื่อเอ็นดูเป็นหัวใจของเขา เป็นลมหายใจบริสุทธิ์ที่ต่อเติมให้ชีวิตของทรงโปรดมีสีสัน
คนที่ทำให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหยุดทุกอย่างได้...
หยุดแล้วมองแต่เอ็นดูคนเดียว
หยุดแล้วรักแค่เอ็นดูคนเดียว
#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เขินไปหมด น่ารักกันเหลือเกิน
น่ารักจนใจเจ็บไปหมด T____T
ถึงจะข้ามขั้นไปหน่อยแต่ก็เป็นแฟนกันแล้วน๊า