รักข้ามชาติ Goodbye Thailand (อีบุ๊ก) - นิยาย รักข้ามชาติ Goodbye Thailand (อีบุ๊ก) : Dek-D.com - Writer
×

    รักข้ามชาติ Goodbye Thailand (อีบุ๊ก)

    "ที่รักผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก ได้พบคุณ ความงามของคุณไม่ต่างกับดอกกุหลาบในดงหนาม" ทำเป๋นอีบุ๊กแล้วคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    7,565

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    31

    ผู้เข้าชมรวม


    7.56K

    ความคิดเห็น


    61

    คนติดตาม


    21
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  26 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  17 ก.พ. 58 / 23:39 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เรื่องนี้ทำเป็นอีบุ๊คแล้วค่ะ ขอขอบคุณที่ติดตามผลงาน เรื่องนี้เรื่องแรกที่เขียนจบคะ
    <iframe width="430" height="220" src="https://www.mebmarket.com/embed.php?seller_link=https%3A%2F%2Fwww.mebmarket.com%2Findex.php%3Faction%3DBookDetails%26data%3DYToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNzM2NjkyIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjIxNDgiO30" frameborder="0" ></iframe>


    เรื่องนี้เขียนออกจากใจ พอมีคนเข้าไปอ่านมากกว่าพันในเว็บไซต์ทำให้มีกำลังใจเขียนต่อจนจบเรื่อง แนะนำเรื่องแบบย่อๆ

     

    ที่รักผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก ที่ได้พบคุณ ความงามของคุณไม่ต่างกับดอกกุหลาบในดงหนาม

     

                                       รักข้ามชาติ Goodbye Thailand แนะนำเรื่องแบบย่อๆ

                    ที่รักผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก ที่ได้พบคุณ ความงามของคุณไม่ต่างกับกุหลาบในดงหนาม

     

                                                               ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    สุดารัตน์:

                    วัย 28 สาวไทยใจแตก ท้องไม่มีพ่อ โดนไล่ออกจากบ้าน ซมซานไปขอพักที่บ้านหญิง ได้เริ่มชีวิตใหม่กับชาวเยอรมัน หัวใจแตกสลายไร้รัก แม้ว่าชายคนใหม่ จะหล่อกว่าซุปเปอร์สตาร์ร้อยพันเท่า เขาเป็นเพียงใบเปิดทางสู่ถนนเส้นใหม่ ที่จะได้โกอินเตอร์เท่านั้น เธอต่อสู้ชีวิตเพื่อลูกชายคนเดียวที่เธอมีอยู่ เวลาผ่านไปชายที่เป็นสามีจะเอาชนะหัวใจเธอได้หรือไม่? และเขาได้มีคู่แข่งคนสำคัญ

     

    มาร์ทีน:

                    วัย 30หนุ่มวิศวะ เป็นคนรักความอิสระ มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี หน้าตากระชากวัย ขยี้ใจสาว คือชายคนใหม่ เขายอมเป็นแพะรับบาป รับเลี้ยง ลูกชายไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่สนใจปากชาวบ้าน

     

    ฮิเดอร์กาด:

                    แม่ผัวมีสองใบหน้า เคยเป็นครูสอนเด็กชั้นประถม เกษียณ รับเงินบำเหน็จบำนาญ ยามดีก็ดีใจหาย ยามร้ายจริงจังยิ่ง ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก แต่เมื่อได้มาเจอเด็กชายไทย เกิดความเอ็นดู หลงรักเหมือนลูกเหมือนหลานแท้ๆ

     

    วาเดอร์:

                    พ่อผัวปลดเกษียณแล้วเช่นกัน ผู้รักสันโดษ เป็นนักอ่านตัวยง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ นิยายสืบสวนสอบสวน ฆาตกรรมปริศนาโหดไม่โหด นิยายแฟนตาซี สารคดี ท่องเที่ยว อ่านให้หมด บ้านแทบจะทั้งหลังเต็มไปด้วยหนังสือ หนังสือทุกเล่มจะถูกจัดหมวดหมู่ไว้ตามลำดับจาก เอ ถึง แซด เก็บไว้บนชั้นหนังสืออย่างดี ชั้นหนังสือจะไม่เคยมีฝุ่นเกาะแม้แต่น้อย ก่อนจะเดินทางไปยังต่างประเทศจะนำผ้าสีขาวมาคลุมไว้ พอกลับมาจะเปิดผ้าปัดฝุ่นอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหนังสือของเขาทุกเล่ม เขารักเท่ากัน จึงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ห้องใต้ดินทั้งหมดทุกห้องจะเต็มไปด้วยหนังสือ ทุกครั้งที่ได้พบเขา จะมีแก้วเบียร์วางอยู่ข้างๆ ในมือจับหนังสือ ปากเขาจะทักทายแต่สายตาของเขาจะจับจ้องอยู่บนตัวอักษร หากวันใดขาดเบียร์ไปแสดงว่าเขาไม่สบาย แต่ในมือยังมีหนังสืออยู่ดี

     

    เด็กชายนพรัตน์:

                    เด็กไทย ลูกนอกกฎหมาย ที่ถูกพ่อบังเกิดเกล้าทิ้งไป ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง ขณะนั้นด้วยวัย 5 ปี น่ารักพูดเก่ง เป็นเด็กฉลาด ช่างซักช่างถาม ในบางครั้งผู้ใหญ่ต้องจนมุม เพราะหาคำตอบที่ดีให้กับเด็กไม่ได้ ต้องมีการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องอย่างแท้จริง ถึงจะตอบกับเด็กคนนี้ได้ เพราะในบางครั้งจะถูกเด็กทดลอง หยั่งความรู้ ถ้าใครให้คำตอบได้ไม่ดีเท่าที่ควรอาจเสียความเชื่อถือจากเด็กไปโดยไม่ทราบ สาเหตุ

     

    รศ. ดร. มาค์เทียด ซุบเล้อ:

                    วัย 48 ปี ผู้บังคับบัญชางานของสุดารัตน์ เป็นคนจริงจัง กับงาน เขาจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับงาน ใช้เวลาแทบทั้งหมดที่มีอยู่ ทำงานศึกษาวิเคราะห์ หาข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด ต้องการความเป็นเลิศ ประสบความสำเร็จในชีวิต ด้านหน้าที่การงาน แต่ไร้คู่เคียงกาย จนใครมองว่าเขาแต่งกับงาน งานที่เขาทำคือคู่ครองที่เขาเป็นคนเลือกเอง มีความสุขกับมันที่ได้ทำ จนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ขอให้มีสมองคอยคิดอ่านเท่านั้น ให้ความยุติธรรมกับทุกคน

     

    สิวานา สมิด:

                    วัย 35 ปี ผู้ช่วยของ ศร. ดร. ซูบเล้อ คอยแต่จะแย่งชิงอำนาจ เวลา ศร. ดร. ซูบเล้อ ไม่อยู่หล่อนจะวางตัวเป็นใหญ่ ใช้อำนาจในทางที่ผิด เป็นพวกชาตินิยมไม่ชอบคนเชื้อชาติสีผิว ถ้าสีผิวต่างไปจากเธอ หมายความว่าต่ำต้อยด้อยพัฒนาหมด ชอบกลั่นแกล้งสุดารัตน์ ด้วยวิธีสกปรก ไม่ว่าจะมีความเสียหายเท่าไร อย่างไร? ขอให้สุดารัตน์ หนีออกจากประเทศของตนก็พอ เป็นคนกินจุ หงุดหงิดง่าย

     

    จอห์น สจั๋ว:

                    วัย 30 ปีชาวอเมริกัน ทั้งเก่งทั้งหล่อ มีความเพียบพร้อมไปหมดทุกด้าน ทุกมุมมองของคนรอบข้าง ราวกับว่ามือของเขาดังทองคำ จับต้องสิ่งใดมีแสงสว่างไสวไปหมด นักบริหารชั้นเซียนฝีมือดี ระดับต้นๆ ของโลก ถูกระดมสมองช่วยงานด้านบริหาร จึงเป็นเพื่อนร่วมงานคนใหม่ ที่ตกหลุมรักสาวไทย คู่แข่งคนสำคัญของมาร์ทีน

     

                    ประเทศไทยได้สูญเสียทรัพยากรมนุษย์ ไปอีกคนหนึ่ง เช่นเดียวกันกับเด็กไทยหลายๆคน ที่ได้จากบ้านเกิดเมืองนอน พลัดถิ่นตามมารดาที่รักข้ามชาติ ข้ามศาสนากับสามีใหม่ ซึ่งกลายเป็นพ่อฝรั่งของเขา ไปศึกษาเล่าเรียนที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งแม่เป็นคนบันทึกเขียนไว้นานแล้ว ไม่เคยได้เผยแผ่ที่ไหนมาก่อน เวลาผ่านไปกว่าสิบปี เรื่องราวของเขาน่าติดตามเป็นที่สนใจ ของหลายคน เขาได้ทิ้งความทรงจำไว้บนโลกใบนี้อย่างไร? เขาคือใคร?

     

                    เรื่องนี้คือชีวิตเด็กไทยคนหนึ่งที่เกิดในแผ่นดินไทย แต่ได้เติบโตในต่างประเทศ ที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอน

     ต้องจากกลิ่นดิน กลิ่นหญ้าท้องทุ่งนา สู่ถนนเส้นใหม่เส้นทางสายอินเตอร์

                    เขียนอิงความจริง บทบางบท มาจากชีวิตจริงของสุดารัตน์ การต่อสู้ชีวิตด้วยมือเปล่า ของลูกผู้หญิงไทยคนหนึ่ง และคงไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวของประเทศไทยที่มีชีวิตเช่นนี้ เป็นเรื่องเล่าถึงการใช้ชีวิต ที่เคยล้มเหลวในชีวิตคู่ และเคยพลาดโอกาสทุกด้านในการดำรงชีพ เธอได้อำลาภูมิลำเนาบ้านเกิด มุ่งหน้าเดินไปยังทิศทางใหม่ในถิ่นที่ไม่คุ้นเคย ไม่เคยรู้จักมาก่อน ที่แปลกใหม่ต้องเริ่มต้นนับจากศูนย์ กว่าจะเอาตัวรอดผ่านพ้นจากภัยมนุษย์มาได้ เธอได้โบกมืออำลาประเทศไทย แม้จะไม่ได้ร่ำเรียนจบสูง หรือเป็นคนมีชื่อเสียงที่โด่งดังในสังคม เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง สามารถผลักดันตัวเองจนกลายเป็นคนเก่ง สร้างชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในแดนไกล ที่ใครๆ ไม่รู้จักภูมิลำเนาเก่าความหลังมาก่อน ใช้ทุนส่วนตัวของมาร์ทีนผู้เป็นสามีชาวต่างชาติโดยไม่มีข้อผูกพันใดๆ ทั้งสิ้น นำมาดัดแปลงให้เป็นบทละคร ที่สะท้อนสังคมไทยในยุคปัจจุบัน เราจะพบเห็นหญิงไทยจำนวนมากที่ได้เดินทางออกนอกประเทศ ไปอยู่ต่างแดน หลังจากที่เธอมีงานทำมั่นคง ก็บินกลับมารับลูกชายไปอยู่ด้วย ไม่ง่ายอย่างที่คิดที่จะนำลูกออกนอกราชอาณาจักรไทย มีปัญหาเรื่องวีซ่า เอกสารต่างๆ ที่เล่ามาเป็นข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ(โก อินเตอร์) เป็น ข้อมูลหนึ่งที่ควรทราบ

    คนเขียนเรียนจบจากประเทศเยอรมนี ไม่กล้าเอาลงเปิดเผยสู่สาธารณชน เอาก็เอาถึงไหนถึงกันสำนวนออกจะเป็นสำนวนแบบชาวต่างชาติ มุมมองของนานาประเทศในสายตาของเขามองประเทศไทย ได้ใช้ชีวิตอยู่นานกว่าสิบปี ขณะที่เขียนอยู่ประเทศเยอรมนี เขียนส่วนใหญ่ในต่างประเทศ จึงมีบทวิวเมืองนอกเยอะอย่างที่เคยบอกมาว่า เธอเดินทางระหว่างเขียนเรื่องนี้อยู่ ไปมาหลายประเทศ เช่นกรุงปารีส กรุงเวียนนา มิลาน เมืองสำคัญๆ ของยุโรป เป็นนักเดินทางตังยง เพราะจากบ้านมา เกิดความเหงาจึงหัดขีดเขียนขึ้นในโรงแรมที่มีชื่อเสียงก่อนจะเข้านอน แรงบันดาลใจให้เขียนนานแล้ว หลับตาไม่ลง เพราะความเหงาที่อยู่ต่างแดน เมื่อพบเห็นอะไรมามากมาย อยากจะถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ เรื่องนี้เธอตั้งใจเขียนมาก อย่าเบื่อกันก่อน จะพาไปเที่ยวยุโรป คุณพร้อมที่จะออกเดินทางหรือยัง? พร้อมแล้ว!!! เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เราจะเริ่มต้นที่ประเทศไทยบ้านเราก่อนนะคะ ตรวจสอบด้วยว่าจะนำอะไรติดตัวไปบ้าง? กรุณาตรงต่อเวลาด้วยค่ะ เดี๋ยวตกเครื่อง ไม่รู้ด้วยนะเออ

     

    บทนำ

                    เขียนเรื่องนี้ออกมาจากหัวใจดวงน้อยๆ เพื่อเป็นสื่อกลาง เพราะไม่อยากให้คนไทยด้วยกันมองเมียฝรั่ง ว่ามาจากหญิงขายบริการ เมียฝรั่งบางคนมีงานทำ งานดีกว่าฝรั่งหลายๆคนในเมืองนอกด้วยซ้ำไป ในเรื่องเรียกความสงสารให้นางเอก ซึ่งเคยอยู่ที่บ้านพักหญิง เคยผิดพลาดไป จนมีลูกติด และเจอบ่อยครั้งในสังคมฝรั่ง ที่รับเลี้ยงลูกติดจากเมียคนไทย นางเอกได้ต่อสู้ชีวิตที่ลำเค็ญจนได้ทำงานในแบงค์ชาติ มีแม่ผัวขี้อิจฉา

     

                   

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น