ทุ่งดอกไม้แห่งความตาย - ทุ่งดอกไม้แห่งความตาย นิยาย ทุ่งดอกไม้แห่งความตาย : Dek-D.com - Writer

    ทุ่งดอกไม้แห่งความตาย

    ทุ่งดอกไม้อันลึกลับ จะมีอะไรเกิดขึ้น

    ผู้เข้าชมรวม

    611

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    611

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ส.ค. 54 / 19:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     หลังจากเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้สติขึ้นมาแล้วมองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืน เขารีบลุกขึ้นด้วยความกระวนกระวายแ้ล้วมองออกไปรอบๆตัว เขาจำได้ว่าเมื่อครู่ยังอยู่กลางถนนในเวลากลางวัน

    บัดนี้กลับกลายเป็นทุ่งดอกไม้สีม่วงครามกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา แสงสว่างเล็กๆราวกับละอองแสงลอยล่องออกมาจากดอกไม้แต่ละดอก
    แสงจากดวงจันทร์กลมโตบนฟ้าสาดส่องลงมาสว่างไสว

    สายตาของเขายังคงมองไปรอบๆ คำถามมากมายวิ่งแล่นผ่านเข้ามา ทำไมอยู่ดีๆเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ทำไมอยู่ดีๆกลางวันถึงกลายเป็นกลางคืนได้ และที่สำคัญที่สุดคือ
    ที่นี่คือที่ไหน
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       " กะ...เิกิดอะไรขึ้น"

      เด็กหนุ่มเฝ้าถามตัวเองอย่างเปลี่ยวใจ ไม่ว่าจะมองออกไป
      ด้านไหนก็ไม่มีใครนอกจากเขาในที่แห่งนี้ 


      เขาเดินสำรวจทั่วทุ่งดอกไม้ด้วยความหวังเล็กๆว่าจะเจอใครซักคนมอบคำตอบให้แก่เขา

      หลังจากสำรวจไปได้ไม่นาน ในขณะที่ความท้อแท้กำลังครอบงำจิตใจ เขาก็มองเห็หญิงสาวคนหนึ่งส่วมหมวกฟางใบใหญ่และ่ชุดไหมสีขาว ก้มลงเด็ดดอกไม้สีม่วงครามเหี่ยวๆออกมาแล้วปล่อยมันบินขึ้นไปบนฟ้า 

      หลังจากเธอมองดูดอกไม้ดอกนั้นหายลับไปกับฟ้า เธอก็หันมามองเด็กหนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับรู้อยู่แล้วว่าเด็กหนุ่มจะมาหา
      ใบหน้าของเธอชั่งดูสดใส ผมสีดำยาวของเธอที่พริ้วไหวไปตามสายลม

      " สวัสดีค่ะ"

      เด็กหนุ่มหน้าแดงเมื่อได้เห็นหญิงสาวน่ารักยิ้มให้ เขาเอามือกุมท้ายทอย อ้ำๆอึ้งๆทำอะไรไม่ค่อยถูก

      " อะ..อะ.. อา... สวัสดีครับ !!" 

      หญิงสาวยังคงยิ้มให้ เธอเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วมองหน้าเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างใจจดใจจ่้อ หลังจากพบกับหญิงสาวปริศนา พายุคำถามมากมายก็โถมเข้าใส่หัวเด็กหนุ่ม 

      " ที่นี่... คือที่ไหนเหรอครับ ?"

      เมื่อได้ยินแบบนั้น หญิงสาวก็ถอยห่างออกมาในระยะพอประมาณ เธอนำมือทั้งสองไขว้เอาไว้ด้านหลังแล้วก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส 

      " ทุ่งดอกไม้แห่งความตายค่ะ"

      " ทะ... ทุ่งดอกไม้แห่งความตาย !?"

      ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ความหมายจริงๆของชื่อสถานที่แห่งนี้ แต่ชื่อของมันก็ถึงกับทำให้เขาหน้าซีด 

      " ความตาย.... มะ .. มันหมายความว่าอย่างไรเหรอครับ !?"

      เมื่อหญิงสาวเห็นท่าทางของเด็กหนุ่ม เธอจึงหันหลังกลับแล้วมองไปมองมา เมื่อเธอพบดอกไม้เป้าหมาย เธอจึงเดินไปยังดอกไม้สีม่วงครามเหี่ยวๆดอกหนึ่ง เธอก้มลงแล้วมองมันอย่างใจจดใจจ่อ 

      " ดอกไม้ทั้งหมดที่คุณเห็นคือตัวแทนชีวิตในโลกแห่งความจริงค่ะ"

      เด็กหนุ่มยังคงทำหน้าสงสัยแม้เธอจะตอบออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ สิ่งที่เธอพูดชั่งสวนทางกับพื้นฐานทางความคิดที่เขาเคยมีเสียเหลือเกิน
      เมื่อหญิงสาวยังเห็นว่าเด็กหนุ่มไม่เข้าใจ เธอจึงเด็ดดอกไม้สีม่วงครามเหี่ยวๆดอกนั้นขึ้นมา


      " ละอองแสงที่ออกมาจากดอกไม้เหล่านี้คือพลังชีวิตทีั่จะส่งมอบให้แก่เจ้าของ ในโลกแห่งความจริง และถ้าฉํนเด็ดมันออกมา สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวพันกับดอกไม้ดอกนี้ในโลกแห่งความจริง จะต้องตายโดยไม่สามารถหลีกหนีได้.. "

      เด็กหนุ่มแทบจะหัวใจวายเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอผู้นี้ตอบ

      " มะั...หมายความว่า ตลอดมา.. คุณเป็นคนทำให้คนบนโลกตายเหรอครับ !?"

      " ... ใช่ค่ะ"

      เกิดมาเด็กหนุ่มพึ่งจะได้ฟังเรื่องแบบนี้ ช่วงเวลาตลอดมาตราบแต่โลกถือกำเนิด ที่ทุกชีวิตต้องดับสูญมันเป็นเพราะเธอผู้นี้นี่เอง 

      " ผมไม่เข้าใจ... ทำไมคุณต้องฆ่าพวกเขาด้วยล่ะครับ คุณรู้มั้ยว่ามีผู้คนอีกมากมายที่ต้องเศร้าเสียใจกับการตายที่คุณมอบให้"

      หญิงสาวยังคงถือดอกไม้อยู่บนมือ สีหน้าของเธอหลังจากได้ยินคำถามดูเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด จนเด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกผิดที่ถามแรงเกินไป 

      " คุณเห็นดอกไม้เหี่ยวๆเหล่านี้ไหมคะ ?"

      เด็กหนุ่มพึ่งมาสังเกตุ ดอกไม้ที่เธอเด็ดทุกดอกมีสภาพเดียวกันคือเหี่ยวใกล้ตาย 

      " ถ้าฉันไม่เด็ดมันก่อนที่จะถึงคราวแล้วปล่อยขึ้นฟ้า ซากดอกไม้เหล่านั้นก็จะร่วงหล่นลงสู่พื้นและไม่ได้ไปสู่สุคคิตลอดกาล "

      เด็กหนุ่มพึ่งจะมาได้ยินเหตุผล ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง

      " คุณก็เลยเดินสำรวจทั่วทุ่งดอกไม้เพื่อหาดอกที่สมควรแก่การตาย แล้วส่งพวกเขาไปสู่สุคคิเหรอครับ"

      หญิงสาวปล่อยดอกไม้บนมือให้ลอยขึ้นไปบนฟ้า แสงจันทร์สาดส่องมาลงกระทบหน้า รอยยิ้มที่มอบให้แก่ดอกไม้ดอกนั้นชั่งให้ความรู้สึกอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความรัก ราวกับภาพในโลกนิยาย เด็กหนุ่มยังคงยืนมองเธออย่างไม่กระพริบตา 

      " ใช่ค่ะ .. ".

      ความรู้สึกผิดซาบซ่านเข้ามาในหัวใจ ความตายมักทำให้ผู้คนเสียใจ ท้อแท้ และ หมดหวัง ท่ามกลางความรู้สึกเหล่านี้ของคนบนโล เธอผู้นี้จำต้องปลิดชีวิตผู้คนเพื่อใหพวกเขาไปสู่สุคติ 

      " ผมขอโทษด้วยที่ถามคุณแรงไปแบบนั้น"


      " ไม่เป็นไรหรอกค่ะ"


      หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกถึงความเป็นมิตรของหญิงสาวผู้นี้แล้วติดสินใจถามสิ่งที่คาใจออกไปอย่างไม่ลังเล

      " แล้วผมมาอยู่ที่นี่ำได้อย่างไรเหรอครับ ?"

      " เพราะคุณคือผู้ถูกเลือกค่ะ"

      หัวของเขาเริ่มสับสน เขาไม่้เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเขาถึงถูกเลือกได้ แล้วการคัดเลือกที่เธอบอก มันมีความหมายว่าอย่างไรกันแน่

      " ทุกๆร้อยปี กฏแห่งกรรมจะเลือกคนที่ตายไปแล้วหนึ่งคนมายังโลกนี้ เขาคนนั้นจะมีพลังอำนาจในการส่งสิ่งมีชีวิตไปสู่สุคติ และทำหน้าที่แทนฉัน "

      ราวกับสายฟ้าจะฟาดลงมา นอกจากรู้ว่าตัวเขาได้ตายไปแล้ว เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องมาเดินเด็ดดอกไม้เป็นเวลาร้อยปีแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าเวทนา สู่ตายๆไปยังจะดีกว่าเสียอีก

      " งะ....งั้นเหรอครับ"

      เด็กหนุ่มก้มหน้ากล่าวออกมาในเชิงกึ่งยอมรับกึ่งเสียใจ เขาคิดแค่ว่าทำไมต้องเป็นเขาด้วย 

      " แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ.. "


      หญิงสาวพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ราวกับแสงสว่างจะเจิดจ้าในใจของเด็กหนุ่ม

      " กฏก็แค่บังคับให้มีคนมาทำหน้าที่อยู่ที่นี่อย่างน้อยหนึ่งคน และก็ดึงคุณเข้ามาในโลกนี้ แต่คนที่จะตัดสินใจก็คือฉันค่ะ ฉันสามารถให้คุณไปสู่สุคติแล้วก็ทำหน้าที่ต่อได้"

      " หมายความว่า คุณสามารถเลือกได้่ว่าจะให้ผมทำแทนหรือจะอยู่ต่อเหรอครับ"

      " ใช่ค่ะ.. และฉันก็จะทำหน้าที่นี้ต่อ คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก"

      ถึงแม้เด็กหนุ่มจะดีใจเล็กๆว่าไม่ต้องมาคอยเด็กดอกไม้ทนทุกข์เป็นร้อยๆปี แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่เขายังคาใจ และเขาจะต้องรู้ให้ได้

      " คุณอยู่ที่นี่มานานเท่าไรแล้ว"

      " ก็..สิบเอ็ดครั้ง... ประมาณ 1100 ปีละมั้งคะ .. "


      ยิ่งฟังก็ยิ่งน่าเศร้า การที่ต้องมาทำอะไรน่าเบื่อแบบนี้กว่าพันปี สู้ตายไปยังจะสบายกว่าเสียอีก 

      " ทำไมคุณต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย"

      หญิงสาวยิ้มบานออกมา ดูเหมือนเธอจะดีใจมากที่ถูกถามออกมาแบบนี้

      " คนที่เข้ามายังโลกนี้เมื่อได้ยินว่าต้องมาทำหน้าที่แทนฉัน ต่างก็เป็นทุกข์กันทุกคน ฉันเลยคิดได้ว่า แทนที่จะให้คนหลายคนต้องมาทนทุกข์ สู้ให้ฉันรับมันไว้คนเดียวจะดีกว่าน่ะค่ะ"

      ขณะนี้ เด็กหนุ่มกำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาไม่อยากเห็นหญิงสาวผู้นี้ต้องมาทนทุกข์แบบนี้ตลอดไป และ หาหนทางทำลายวัฎจักรอันโหดร้ายนี้ เขาอยากรู้จริงๆว่า ใครกันนะที่เป็นกำหนด และ กฏบ้าๆแบบนี้มันมีมานานแค่ไหนแล้ว 

      " ผมไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นหรอก "

      " ถึงคุณจะเป็นห่วงฉัน แต่ฉันคงให้คุณมาทำแทนไม่ได้หรอกนะคะ ... ความทุกข์นี้ให้ฉันแบกรับไว้คนเดียวเถอะ" 

      ด้วยความเห็นใจที่เธอต้องทนทุข์มากว่าพันปี ชายหนุ่มคิดไปเหมือนกันว่าเขาจะยอมเสียสละทำหน้าที่แทนเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ยอม ชายหนุ่มหลับตาลงแล้วคิดวิธี 

      " ฉันจะส่งคุณไปสุคติแล้วนะคะ .. ฉันดีใจมากคุณเป็นห่วงและคิดจะรับความทุกข์เอาไว้แทนฉัน.. "

      ถึงแม้เธอจะยิ้มแย้มแต่น้ำตาก็ไหลรินออกมา ช่วงเวลาสุดท้ายที่ต้องจากกันนี่คือสิ่งที่เธอตัดสินใจจะพูด

      " ถึงแม้เราจะพึ่งพบเจอกัน แต่ตลอดเวลากว่าพันปีที่ได้พบเจอผู้ถูกเลือกกว่าสิบคน .. แค่เพียงพบหน้า มีแต่คุณเท่านั้นที่ทำให้ความรู้สึกทุกทรมานของฉันก็หายไป "

      ชายหนุ่มพึ่งมารู้สึกตัวว่าที่จริงแล้ว เธอไม่ใช่คนสดใสร่าเริงอย่างที่เห็น ที่จริงแล้วเธออ้างว้างโดดเดี่ยวจนอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ที่เธอยิ้มออกมาแบบนั้นได้เพราะตัวเขาเองต่างหาก
      หญิงสาวยกมือทั้งสองออกมา แสงสว่างเล็กๆก่อเกิดขึ้นมาจากอากาศ พิธีส่งสู่สุคติได้เริ่มขึ้นแล้วท่ามกลางน้ำตาที่ไหลรินออกมา

      " ลาก่อน..นะคะ "

      " หยุดนะ !!"

      ทันใดนั้น มือทั้งสองที่กำลังทำพิธีอยู่ก็ถูกจับกดลง พลังแสงสว่างต่างๆหายไป พิธีการส่งสู่สุคติได้ถูกยกเลิก ผู้ที่หยุดพิธีนี้คือชายหนุ่ม ท่ามกลางการกระทำที่เหนือความคาดคิด สายตาของเขายังคงมุ่งมั่นไม่เปลื่ยนแปลง
      เขามองไปยังตาของหญิงสาว ด้วยการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่


      " คุณจะมารับหน้าที่แทนฉันไม่้ได้นะ !! ฉันไม่อยากให้คุณต้องมาแบกรับความทุกข์ ปล่อยมือฉันทีเถอะ !!"

      " ใครบอกว่าผมจะรับหน้าที่แทนคุณ"

      หญิงตกใจมากกับคำพูดที่ชายหนุ่มบอก เธอไม่เข้าใจเลยว่าถ้าชายหนุ่มคนที่เธอรักไม่ได้ต้องการจะรับหน้าที่แทนเธอแล้วเขาจะหยุดเธอไว้ทำไม

      " ผมก็เหมือนกันแหละ แค่ได้เห็นหน้าคุณครั้งแรกผมก็หน้าแดงทำอะไรไม่ถูกแล้วล่ะ "

      หญิงสาวอึ้งพูดอะไรไม่ออก ชายหนุ่มเลื่อนมือที่จับแขนของเธอเอาไว้ลงมา ฝ่ามือของทั้งสองจับด้วยกันอย่างแนบแน่น 

      " ผมจะอยู่ที่นี่กับคุณ"

      ราวกับทุกอย่างจะหยุดนิ่ง ช่วงเวลากว่าพันปี นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนขออยู่ด้วยกันกับเธอ ความรู้สึกอิ่มเอิ่มดีใจปะปนไปกับความรู้สึกขัดแย้ง 

      " ตะ...แต่ว่า คุณก็จะ.. "

      " คุณบอกเองใช่ไหมว่าไม่ต้องการให้ผมทนทุกข์ .. ผมไม่คิดว่าการได้อยู่กับคุณจะเป็นความทุกข์ตรงไหนเลย"

      หญิงสาวดีใจมาก เธอยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกดีที่มีคนอยู่เคียงข้าง แต่แล้วสีหน้าของเธอก็เปลื่ยนไป ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรบางอย่างออก

      " แต่คนที่มีพลังในกาีรส่งสิ่งมีชีวิตไปสู่สุขติจะมีได้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น
      .กฏแห่งกรรมจะไม่ปล่อยให้คนที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับโลกแห่งความตา้ยนี้ดำรงชีวิตอยู่ได้."


      " ดอกไม้เหล่านี้น่ะ ผมจะเป็นคนปลูกมันเอง"

      หญิงสาวตกใจมากกับความคิดของชายหนุ่ม เธอไม่คาดคิดเลยว่าจะมีวิธีนี้เหลืออยู่

      " ขอแค่มีหน้าที่เกี่ยวกับโลกแห่งความตายก็พอแล้วใช่ไหมล่ะ ... เมล็ดพันธ์ต่างๆก็คงมีอยู่ ไม่งั้นโลกแห่งความจริงก็คงไม่สามารถอยู่ดำรงได้ขนาดนี้หรอก"


      " อือ...ก็มีอยู่"


      ทั้งคู่หลบตากันซักพัก ต่างคนต่างก็เขินอายในสิ่งที่ตนกระทำไป ถึงกระนั้น ด้วยใบหน้าของหญิงสาว ชายหนุ่มอดไม่ไหวที่จะโอบแขนทั้งสองกอดเธอเอาไว้แนบแน่น


      " ถ้าหากต้องอยู่บนโลกแห่งความตายด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวและเป็นทุกข์ สู้เปลื่ยนมันเป็นความสุขไปไม่ดีกว่าเหรอ ? ด้วยการมีอยู่ของเราทั้งสองไง"


      ช่วงเวลากว่าพันปีที่เธอต้องดำรงอยู่กลางทุ่งดอกไม้ด้วยความหนาวเย็น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น มันเป็นความอบอุ่นจากคนที่ตนรักที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาแทนที่ได้

      ท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีม่วงคราม กาลเวลาที่่ผ่านพ้นไป มีผู้คนมากมายที่โชคร้ายต้องรับกรรม 
      วัฎจักรส่งมอบความทุกข์์ให้แก่ผู้ที่ถูกเลือกดำเนินไปไม่จบไม่สิ้น
      แต่ตอนนี้ วัฎจักรเหล่านั้นได้ถูกทำลายลง 
      ที่แห่งนี้กลับเปี่ยมไปด้วยความสุขด้วยความรักของทั้งสองที่ตกลงจะอยู่ที่นี่ด้วยกัน ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปแค่ไหน 
      ทั้งสองจะอยู่ด้วยกันตลอดไป .. 

      " ขอบคุณนะ .. "




      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×