ปะป๊าสู้ชีวิต กับ แสงสว่างในมุมมืด - นิยาย ปะป๊าสู้ชีวิต กับ แสงสว่างในมุมมืด : Dek-D.com - Writer
×

    ปะป๊าสู้ชีวิต กับ แสงสว่างในมุมมืด

    เมื่อเจอความสูญเสีย ผิดหวัง พลาดพลั้ง พรัดพราก เรามักจะคิดว่าชีวิตมันจบสิ้นแล้ว ไม่ไหว ไม่ได้ นั่นเพราะเรามักจะมองแต่สิ่งที่สูญเสียไป..แต่หากลองมองย้อนดูสิ่งที่มีอยู่ แสงสว่างในมุมมืดจะปรากฏขึ้นกับคุณ

    ผู้เข้าชมรวม

    107

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    107

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 ธ.ค. 65 / 00:18 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีก่อน..

            ..ผม.. ยืนอยู่กลางถนน ท่ามกลางรถวิ่งสวนกันไปมา ในหัวคิดเพียงอยากจะตาย
    รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก รถบรรทุก รถส่วนบุคคล ขับไปมาด้วยความเร็วสูงจะชนผมก็ไม่ชน ยังหักหลบไปได้ พร้อมกับตะโกนคำสรรเสริญผมออกมาว่า..
    ไอ้ควายบ้าง!! ไอ้สัตว์บ้าง!! ได้เปรตบ้าง!! ไอ้นรกเอ้ยบ้าง!!

    ..โดยทุกคนต่างกล่าวสรรเสริญผมตรงกันว่า.. ถ้ามึงอยากตายก็ไปตายห่าที่อื่นสิโว้ย!! จะตายแล้วยังมาทำให้คนอื่นลำบากอีก ไอ้สัตว์นรกเอ๊ย!!

    ..แต่แม้ผมจะได้ยินคำสรรเสริญที่ดีงามเช่นนั้น แต่ในหัวผมมันขาวโพลน ร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด ในหัวคิดเพียงแต่ว่า..ไม่ไหวแล้ว อยู่ไม่ได้อีกแล้ว ตายไปเลยดีกว่า โชคชะตาเล่นตลกกับผม รักใครก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ เกิดมาโง งี่เง่า หัวอ่อน ทำงานก็ไม่เจริญ ทุกข์ลำบากยากแค้น มีความสุขได้ไม่นานก็มีแต่ความฉิบหาย เราไม่ควรเกิดมาเลย ไม่รู้ไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ชีวิตมีแต่ทุกข์กับทุกข์หาความสุขไม่ได้เลย..

    ..แต่เดชะบุญได้ยินเสียงเด็กชายตัวน้อยๆ พูดภาษาดอกไม้ เจื้อยแจ้วโทรหาผม นั่นคือลูกชายของผมเอง ทำให้ผมได้สติ แล้วหวนกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง พร้อมรีบหลบออกมาจากกลางถนนท่ามกลางเสียงสรรเสริญดีๆเหล่านั้น

    ..ขณะที่ออกมามองอยู่ริมฟุตบาทข้างถนน ผมมีความคิดอย่างหนึ่งว่า..ใช่ หากเราตายไปแล้วลูกเราล่ะ ยังไม่ถึง 1 ขวบเลย เรายังต้องดูแล จะสร้างเขามาแล้วทิ้งเขาไปอย่าฃนี้ไม่ได้ เราทิ้งภาระไม่ได้

    ..ในเมื่อคิดจะตายแล้ว ทำไมต้องตายด้วยหนีปัญหา ตายเพราะเลิกรา ตายเพราะผิดหวังในรัก ในครอบครัวที่ล้มเหลว ตายเพราะทำไม่ได้ ตายเพราะสิ้นหวัง ลูกโตมารู้เข้าคงอายคน คนรอบข้าง ..ทุกๆการกระทำไม่ว่าจะทำสิ่งใด เรายังทำให้มีลมหายใจได้อยู่

    ..ใช่ มันใช่จริงๆ ทุกสิ่งอยู่ที่การกระทำของเรา จะดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ เมื่อสักครู่..ที่เราจะตายนั้น ไม่ใช่เพราะปัญหา หรือความผิดหวัง หรือพบสิ่งที่เกลียดชัง หรือประสบสิ่งที่กลัว หรือความพรัดพราก แต่เป็นเพราะความคิด ตัดสินใจ เจตนาจงใจทำ  และการกระทำของเรา ..ใช้นี่คือกรรม กรรมก็คือการกระทำ การกระทำนี้แหละส่งผลกับเรา

    โลกนี้ทุกคนต้องพบสิ่งที่ใจหวังแต่ไม่เป็นดั่งหวังเป็นเรื่องปกติ ทุกๆคนล้วนพบเจอ ต้องพบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักที่พอใจ ต้องพบเจอกับสิ่งที่เกลียดชัง ต้องประสบกับสิ่งที่กลัว ต้องพรัดพรากไม่ด้วยเพราะกาลเวลา สภาพแวดล้อม ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงของใจให้เลิกรา ไม่ก็ตายจากกันเหมือนกันทุกคนเป็นธรรมดา

    ..ดังนั้นไม่ว่าจะสุข ทุกข์ ผิดหวัง สมหวัง รัก เลิก ถึงจุดสูงสุด ลงจุดต่ำสุด อับจน ไม่เจริญ มีโชค มีลาภ อัปโชค สิ่งดี สิ่งร้าย สิ่งแย่ๆ เรื่องแย่ๆ คนรัก คนเกลียด แฟน ครอบครัว ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีอายุไขยของมัน มีวันหมดอายุเป็นธรรมดา ฉะนั้นไม่ว่าเราจะโง่หรือฉลาดก็ตาม..เราก็ต้องอยู่กับสิ่งที่มีวันหมดอายุไขย อยู่เหนือการควบคุม บังคับให้เป็นดั่งใจต้องการปารถนาไม่ได้ทั้งปวงเหล่านี้ให้ได้ แรกสุดก็เพื่อตนเองให้มีลมหายใจอยู่อย่างมีคุณค่า รองลงมาก็เพื่อคนที่เรารักและรักเรา เราจะต้องมีชีวิตมีลมหายใจต่อไป

            ..สิ่งที่ต้องพบเจอเป็นเพียงองค์ประกอบในเส้นทางชีวิตเพื่อขัดเกลาเราให้ใจเข้มแข็ง ไม่อ่อนแอหวั่นไหวไปกับชีวิตที่ต้องพบเจอ มันเป็นวัคซีนให้ใจเรามีภูมิต้านทานปัญหา และรู้จักฝึกฝนอบรมตนเองให้ใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา แสงสว่างได้เกิดขึ้นในใจที่มืดมิดของเราแล้ว ด้วยเสียงของเด็กตัวน้อยที่เป็นดั่งชีวิตของเรานี่เอง ..นี่แหละจากนี้ไปเราจะมีลมหายใจอยู่เพื่อสิ่งนี้ หากต้องตายก็ตายอย่างมีคุณค่านั้นแล้ว...

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น