ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] Because you're my frienD [BaekDo]

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 676
      7
      10 พ.ค. 57

    Fic’Because you’re my FrienD

    {Baekhyun x D.O}

    #FicBD

     

    ::Chapter 5::

     

     

     

    ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ไม่ใช่ของเรา

    แม้กระทั่งร่างกายของเราเองด้วยซ้ำไป

     

     

             วิชาสุดท้าย...เหลือเวลาทำข้อสอบอีกห้านาที  ส่วนใครที่ทำเสร็จแล้วพลิกกระดาษคำตอบแล้วก็ออกไปได้”  เสียงอาจารย์คุมห้องสอบเอ่ยขึ้นในระดับความดังที่ไม่มากนักหากแต่ได้ยินทั่วทั้งห้อง  นักเรียนที่กำลังนั่งสอบหลายๆคนคว่ำกระดาษคำตอบของตัวเองแล้วลุกจากโต๊ะสอบไป

              แต่โดคยองซูเองก็ยังคงนั่งทำข้อสอบอยู่อย่างนั้น  เวลาตั้งห้านาทีบางทีนั่งๆทำไปอาจจะได้มาสักคะแนนสองคะแนนก็ได้

     

            กริ๊งงง !

             เอาล่ะ  หมดเวลาทำข้อสอบแล้ว  วางปากกา คว่ำกระดาษคำตอบแล้วออกไปรอนอกห้อง  ถ้าครูเรียกค่อยเข้ามาได้”   ว่าจบทุกคนที่เหลืออยู่ในห้องก็ปฏิบัติตามคำสั่งของอาจารย์  คยองซูเดินออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย  

              คนตัวเล็กมองหาแบคฮยอนทันทีที่เดินออกมาก่อนจะพบว่าอีกคนกำลังยืนพิงผนังห้องอยู่อีกฟากพร้อมกับใส่หูฟังอยู่อย่างสบายใจ

             แบคฮยอนตอนนี้..เท่จัง

             แผ่นหลังที่เอนพิงผนังห้อง..มือหนาทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงไว้  ร่างสูงมองต่ำไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่รอบข้างเลยสักนิด...หากแต่พอรู้สึกตัวว่ามีคนกำลังจ้องมองแบคฮยอนก็รีบเงยหน้าขึ้นมาในทันที

             คยองซูแทบสะดุ้งเพราะสายตาของร่างสูงที่อยู่ๆก็ปะทะเข้ามาอย่างจังทำเอาคนตัวเล็กถึงกับทำตัวไม่ถูก คยองซูเหมือนกับเด็กที่ถูกจับได้ว่าแอบฟังผู้ใหญ่คุยกันอะไรทำนองนั้น แบคฮยอนยิ้มกว้างให้เพื่อนตัวเล็กและกำลังจะเดินไปหาหากแต่ว่าอาจารย์ที่ปรึกษากลับเรียกเข้าห้องไปเสียก่อน

     

             ตอนนี้เราก็สอบเสร็จกันแล้วนะทุกคน  โรงเรียนกำหนดปิดภาคเรียนเป็นเวลาหนึ่งเดือน...ครูหวังว่าทุกคนจะใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์นะ  ม.ปลายปีสุดท้ายแล้ว..คิดดีๆล่ะว่าควรจะทำอะไร”  อาจารย์ประจำชั้นพูดขึ้นเมื่อนักเรียนทุกคนนั่งที่ 

             เฮ ~ นี่มันช่วงเวลาที่ฉันรอคอยเลยจริงๆ”  เสียงนักเรียนในห้องดังขึ้นขึ้นมาทันทีด้วยความดีใจ  บรรยากาศในห้องต่างไปจากตอนสอบอย่างเห็นได้ชัด

             เอาล่ะๆ  เจอกันเปิดเทอมหน้านะจ๊ะทุกคน  ขอให้โชคดี  สิ้นเสียงอาจารย์นักเรียนทุกคนในห้องก็เฮลั่นออกมาด้วยความดีใจ  เบียดกันออกจากประตูห้องทันทีเพราะตอนนี้ไม่มีใครอยากจะอยู่ในเขตโรงเรียนเลยสักคน

             วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้มาโรงเรียน...งั้นคงต้องอยู่ทำความสะอาดยาวเลยสินะ 

             คยองซูคิดในใจ...ผ่านไปสักพักในห้องก็ไม่มีนักเรียนคนไหนเลยนอกจากเขาแค่คนเดียว   เพื่อนๆใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก็ออกจากห้องไปจนหมด   อะไรจะอยากปิดเทอมขนาดนั้นกัน

             คนตัวเล็กลุกจากโต๊ะของตัวเอง  นาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังห้องบอกเวลาเกือบสี่โมงเย็น   คยองซูจึงรีบเริ่มทำความสะอาดทันทีเพราะเขาเองก็ไม่อยากเสร็จเย็นมาก  วันนี้คนคงไม่ค่อยอยู่โรงเรียนกันแน่ๆ

             มือเล็กจับไม้กวาดก่อนจะใช้มันกวาดฝุ่นตามพื้นออกมาจนหมด  คยองซูทำความสะอาดห้องไปเรื่อยๆพลางในคิดในใจ...พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาโรงเรียนแล้ว  ไม่ต้องโดนเพื่อนเมิน  ไม่ต้องถูกจองกุกแกล้ง

            ดีจัง..

             อ่า...อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว  งั้นวันนี้ไปหางานพิเศษไว้เลยดีกว่า”  คนตัวเล็กพูดกับตัวเอง ตั้งแต่พ่อของคยองซูเสียชีวิตไป  ทุกปิดเทอมเขาก็มักจะงานพิเศษทำแบบนี้เสมอ  ไม่ได้ไปเรียนกวดวิชาหรือไปเที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่นๆ 

             ฟู่วว ! เสร็จสักที  อ๊ะ...”  โทรศัพท์เครื่องบางที่วางอยู่บนกระเป๋านักเรียนสั่นเรียกความสนใจให้คนตัวเล็ก   คยองซูรีบเดินไปเก็บไม้กวาดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดรับ

             ครับแม่”  คนตัวเล็กรับสายเสียงใส

           ‘วันนี้แม่อาจจะกลับบ้านดึกหน่อยนะลูก  หาอะไรทานก่อนกลับบ้านเลยนะ...แล้วอย่ากลับดึกล่ะเข้าใจมั้ยลูก’   ปลายสายสั่งลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน   คยองซูยิ้มแล้วตอบรับคำสั่งของผู้เป็นแม่ก่อนจะกดวางสายไป


            อ่า...สี่โมงกว่าแล้วนี่นา

            ครืน...

              เสียงฟ้าคำรามทำเอาคนตัวเล็กที่อยู่คนเดียวในห้องถึงเกือบสะดุ้ง  คยองซูมองออกไปนอกหน้าต่าง..ถึงจะเป็นเวลาสี่โมงกว่าแต่ท้องฟ้าที่เป็นสีเทาแบบนี้ก็ทำให้บรรยากาศดูน่ากลัวได้เหมือนกัน

              เหมือนกับว่าฝนกำลังจะตก...ลมเย็นๆพัดเข้ามาสัมผัสต้องเนื้อคยองซู  คนตัวเล็กเดินไปเก็บกระเป๋าของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจึงเดินออกนอกห้องไป....ปิดเทอมแล้ว ~

              แต่ทว่า...

              ทำความสะอาดห้องเสร็จแล้วหรอคยองซู”  รอยยิ้มบนใบหน้าหวานจางหายไป  ตรงหน้าคือคนใจร้ายที่ทำให้คยองซูเกือบไม่รอด...คนที่ผลักคยองซูตกน้ำ...คนที่คยองซูไม่อยากเห็นหน้า...จอนจองกุก   

              อ๊ะ..ข้อแขนเล็กถูกมือหนาคว้าไว้แล้วออกแรงดึงให้เดินไปพร้อมกัน  จองกุกพาคยองซูเข้ามาในห้องอีกครั้ง..ที่หลังห้องที่เดิม 

              ความกลัวเริ่มก่อตัวทันที...แต่ถึงอย่างนั้นคยองซูต้องเข้มแข็ง  ห้ามกลัว..เหมือนที่แบคฮยอนบอกไว้  ท่องไว้สิคยองซู...เข้มแข็ง  ห้ามกลัว

              นาย..ยังไม่กลับอีกหรอคยองซูถามพร้อมกับพยายามควบคุมน้ำเสียงให้ปกติที่สุด  ใบหน้าหวานก้มต่ำมองข้อมือเล็กของตัวเองที่ยังไม่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

              ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าคนอย่างนายไม่มีสิทธิ์มีเพื่อนจองกุกไม่ตอบคำถามของคนตัวเล็กแต่กลับเลือกที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะพูดมากกว่า

              ทำไมฉันจะมีไม่ได้    
             

              “.....

              “ในเมื่อฉันก็เป็นคนมีหัวใจเหมือนนาย  รักคนเป็น..ชอบคนได้..อยากมีเพื่อน  แล้วทำไมนายต้องมาห้ามฉัน  ฉันไม่ใช่ของของนาย..นายไม่มีสิทธิ์”  เป็นครั้งแรกที่คยองซูกล้าเถียงออกไปขนาดนั้น  ประโยคเหล่านี้คงจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่คยองซูพูดกับจอนจองกุกเลยก็ว่าได้ 

              เดี๋ยวนี้กล้าเถียงฉันหรอคยองซู”  ร่างสูงปล่อยข้อมือของอีกคนแต่กลับเคลื่อนกายเข้าใกล้กายเล็กไปเรื่อยๆ  คยองซูเองก็กระถดกายหนีแต่ระยะห่างระหว่างคนสองคนก็น้อยลงเรื่อยๆอยู่ดี

            ซ่า..

            เสียงฝนห่าใหญ่ที่ตกลงมากระทบกับสิ่งต่างๆบนโลกดังก้อง  คยองซูสะดุ้งน้อยๆก่อนจะมองออกไปด้านนอกผ่านกระจกใส  ท้องฟ้าสีเทา..เสียงฟ้าร้อง..ฝนที่กำลังตกลงมา..และบรรยากาศในห้องที่น่ากลัวกว่าทุกครั้ง

              “นายบอกว่านายไม่ใช่ของของฉัน…” เสียงทุ้มเรียกสติคนตัวเล็กให้หันหน้ามาเผชิญกับความจริงอีกครั้ง  คยองซูกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก...เหมือนในคอมันฝาดไปหมด

              “…..” 

              แล้วถ้าฉันทำให้นายเป็นของฉันล่ะ”  คนตัวเล็กเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับประโยคที่คนตัวสูงเอื้อนเอ่ย   มันเหมือนกับว่า...

              “อ๊ะ..จ..จองกุก”  ร่างเล็กกระถดกายหนีจนตอนนี้แผ่นหลังแนบชิดกับผนังห้อง...ไม่มีทางหนีอีกแล้ว

              “บอกแล้วไงว่าคนอย่างนายไม่มีสิทธิ์มีเพื่อน...ต้องให้รุนแรงหรอคยองซู

              “ค..คือฉัน..ต้องกลับบ้านแล้ว อ๊ะ..ปล่อยสิ”  กายเล็กถูกกักขังไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของอีกคนจนตัวเองหนีออกมาไม่ได้

              ก็บอกคนที่บ้านไปสิว่าฝนตกหนัก กลับไม่ได้”  น้ำเสียงของจองกุกตอนนี้มันช่างดูเยือกเย็น..

              ปล่อยเถอะนะจองกุก...ปล่อย..ปล่อยสิ..โอ๊ย !”  จากที่พยายามจะขัดขืนคยองซูกลับถูกหมัดหนักๆชกเข้าที่ท้องจนจุก  มือเล็กกุมท้องตัวเองไว้ก่อนจะลงไปนั่งกองกับพื้นเพราะความเจ็บปวด

              ฉันคิดว่า...ถ้าเรามีอะไรกันแล้วถ่ายรูปไปให้แบคฮยอนดูก็น่าจะดีนะว่ามั้ย”  จองกุกนั่งย่อตัวให้อยู่ในระดับเดียวกับคนตัวเล็ก

              “…อึก..ปล่อยฉันไปเถอะ” 

              แบคฮยอนมันคงจะไม่ชอบยุ่งของของคนอื่นหรอกเนาะคยองซู”  ว่าจบ..จอนจองกุกก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนของคยองซูออกเริ่มจากเม็ดบนสุด  สายตาคมจ้องมองไปที่คนตัวเล็กที่กำลังนั่งตัวสั่นเทาคล้ายกับคนจับไข้  มือเล็กจิกขาอ่อนของตัวเองผ่านเนื้อผ้า  ดวงตากลมเริ่มมีน้ำใสๆคลอ

               จ..จองกุก  ขอร้องล่ะ...ฉัน..ฉันต้องกลับบ้านแล้ว”  พยายามทำใจไม่ให้กลัวคนตรงหน้า...พยายามจะไม่ร้องไห้  แต่คนอย่างคยองซูก็ทำไม่เคยได้

               “หึ..”  จองกุกไม่สนใจคำร้องขอ  มือหนาปลดกระดุมต่อ..และมือเล็กก็เริ่มพยายามปัดป่าย

               จองกุก..ฮึก..ไม่..”  คยองซูส่ายหัว  ร่างเล็กกำลังจะลุกขึ้นหนีแต่กลับถูกมือหนาดันไหล่ไว้ให้นั่งลงตามเดิม  

               กลัวขนาดนั้นเลยหรอคยองซู  ตัวสั่นเชียว

               “จองกุก...ฮึก  ฉันก็แค่อยากมีเพื่อน...เหมือนนายไง  ปล่อยฉันไปเถอะนะอ้อนวอนทั้งน้ำตา  หาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาจากไหนอีกคนก็ไม่เคยฟัง

               คนอย่างนายใครมันจะอยากคบเป็นเพื่อน  จนก็จน...ที่แบคฮยอนมาคบกับนายคงจะเป็นเพราะว่ามันสงสารนายมากกว่า  อย่าสำคัญตัวไปเลยคยองซู

               “ฮึก..ไม่ใช่  แบคฮยอนบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับฉันจริงๆ..”  คยองซูพยายามปัดป่ายสองมือของอีกคนที่กำลังจัดการกับกระดุมเสื้อของเขา   และแล้วสุดท้ายจองกุกก็หยุดการกระทำของตัวเองเพราะคำพูดของคยองซู

             แบคฮยอนบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับฉันจริงๆ

               เหอะ ! อย่าเชื่อใจคนอื่นให้มากเลยคยองซู  คนที่เข้ามาในชีวิตนายมันก็แค่พวกคนขี้สงสารเท่านั้นแหละ !”  จองกุกตะคอกใส่  คนตัวเล็กสะดุ้ง...น้ำตาไหลอาบแก้ม

               ฮึก...

               “ตอนนี้อาจจะดูเหมือนว่านายมีค่า  แต่พอแบคฮยอนมีของเล่นใหม่มันก็จะลืมนาย..แล้วความรู้สึกนายตอนนั้นจะยิ่งเจ็บและเสียใจยิ่งกว่าการถูกฉันแกล้งเป็นพันเท่า

               “....

               “ถูกเมิน..ถูกมองว่าไร้ค่า  นายจะได้รู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน !”

               “พูดอะไรของนายน่ะจองกุก..”  มันจะไปกันใหญ่แล้ว  เหมือนจอนจองกุกจะรู้ดีว่าความเจ็บปวดพวกนี้มันแสนสาหัสขนาดไหน   แต่คนอย่างจอนจองกุกจะไปเคยเจ็บปวดได้ยังไง..ผู้ชายที่มีความเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างแบบนี้ 

               เหมือนกับจองกุกมีบางอย่างในใจ

               เหมือนกับเขาเคยถูกเมิน..

               เหมือนกับเขาเคยถูกมองว่าไร้ค่า..

               เด็กอย่างจองกุกนี่หรอจะเป็นคนมีปม..

               เหอะ...ก็ได้..ปิดเทอมนี้นายลองเป็นเพื่อนกับมันดูก็ได้  แล้วนายจะเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดว่าแบคฮยอนก็แค่สงสารนาย

               “….”

               “แล้วก็ยอมรับซะว่าคนอย่างนายไม่มีใครอยากคบเป็นเพื่อนจองกุกพูดแค่นั้นก่อนจะหันหลังให้ร่างเล็กแล้วเดินออกจากห้องไป  ทิ้งให้โดคยองซูโดดเดี่ยวอยู่ในห้องเรียนแห่งนี้อีกครั้ง

               ความสับสนและความไม่เข้าใจคือสิ่งที่คยองซูกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้  อะไรที่ทำให้คนอย่างจอนจองกุกยอมปล่อยเขาไปได้ง่ายๆ...อยู่ๆก็ยอมให้คยองซูมีเพื่อน...อยู่ๆก็ยอมปล่อยคยองซูไป   มันเป็นเพราะอะไรกัน  ทำไมต้องพยายามบอกว่าที่แบคฮยอนมาทำดีด้วยเพราะสงสาร   เหมือนจองกุกจะเป็นห่วง..แต่นั่นคือการทำร้าย

               ...หรือบางทีมันอาจจะมีเหตุผลอย่างอื่นที่คยองซูไม่รู้  มันอาจจะเป็นปมอะไรบางอย่างในใจของจองกุก

     

              ครืน..เปรี้ยง !

               เสียงฟ้าร้องดังลั่นดึงคยองซูให้หลุดจากภวังค์   เม็ดฝนที่ตกลงมามากมายเมื่อครู่ตอนนี้กลายเป็นเพียงฝนที่ตกปรอยๆไปเรียบร้อย  มือเล็กหยิบกระเป๋านักเรียนของตัวเองก่อนจะก้าวออกจากห้องไปเพราะตอนนี้มันก็เย็นมากแล้ว 

               ทางเดินที่ร้างผู้คน...ท้องฟ้ายามเย็นที่ถูกแต้มด้วยสีส้มอ่อนๆและพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าคือสิ่งที่อยู่เป็นเพื่อนคยองซูในขณะนี้ 

               “...เย็นขนาดนี้แล้ว  ไปหาอะไรกินแล้วกลับบ้านเลยดีกว่า..เรื่องงานพิเศษค่อยว่ากันอีกที”  คยองซูพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนจะก้าวขาเล็กออกไปจนเกือบจะถึงประตูหน้าโรงเรียน  หากแต่พอเขาเดินไปได้ไม่นานก็มีเสียงใครคนหนึ่งเรียกเอาไว้

               คยองซู !”  คนตัวเล็กหันไปตามเสียงเรียกนั้นก่อนจะยิ้มกว้างทันทีที่เห็นว่าเป็นบยอนแบคฮยอน

               คนอย่างนายใครมันจะอยากคบเป็นเพื่อน  จนก็จน...ที่แบคฮยอนมาคบกับนายคงจะเป็นเพราะว่ามันสงสารนายมากกว่า  อย่าสำคัญตัวไปเลยคยองซู

              อยู่ๆคำพูดของจองกุกก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง  แบคฮยอนผู้ชายตรงหน้าคนนี้..ที่มาเป็นเพื่อนกับเขาก็เพราะความสงสารเท่านั้นหรือ..

                เป็นอะไรคยองซู...ทำไมเงียบไป”  แบคฮยอนวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวเล็ก

                อ..อ๋อเปล่า  นี่นายยังไม่กลับบ้านอีกหรอ

                “วันนี้ฉันเข้าตึกไปแล้วนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ขอเบอร์ติดต่อนายไว้ก็เลยกลับมาโรงเรียน..โชคดีจังที่นายยังไม่กลับ”  แบคฮยอนอธิบายพร้อมกับหยิบโทรศัพท์เครื่องบางของตัวเองยื่นให้คยองซู  คนตัวเล็กรับมันมาก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์ลงไป...พร้อมกับคำถามมากมายที่อยู่ในหัว

                 แค่สงสารจริงๆหรอ...           

               คยองซู..

                  แบคฮยอนอยากเป็นเพื่อนกับเราเพราะสงสารอย่างนั้นหรอ...

                 “เอ่อ..คยองซู”              
                    

                 ที่มาทำดีด้วยทุกอย่าง...

                 “คยองซู !!”   เมื่อเรียกคนตัวเล็กหลายรอบแต่อีกคนกลับทำเหมือนไม่ได้ยินแบคฮยอนจึงตัดสินใจเพิ่มระดับเสียงจนคนตัวเล็กสะดุ้ง

                 ห้ะ..  ว่าไง”  คยองซูรีบดึงสติของตัวเองกลับมา

                 “คือ...โทรศัพท์ฉัน..” 

                 อ๋อๆ  เออลืม ฮ่าๆ”  คยองซูลนลานอย่างเห็นได้ชัด  มือเล็กรีบยื่นโทรศัพท์เครื่องบางคืนให้เจ้าของของมันทันที

                 เป็นอะไรรึเปล่า..ทำไมอยู่ๆก็เหม่อ”  แบคฮยอนถาม  ทั้งๆที่คยองซูก็กดเบอร์โทรศัพท์ให้แต่อยู่ดีๆคนตัวเล็กกลับเหม่อลอยไปเสียอย่างนั้น

                 ป่าว..ไม่มีอะไร”  แบคฮยอนรู้ว่าคยองซูโกหก..แต่เค้นคำตอบไปมันก็เท่านั้นแหล่ะ

                 “อื้ม โอเค..แล้วจะกลับบ้านเลยมั้ย

                 “....แบคฮยอน..คือ  ถ้าถามออกไปตรงๆว่าเลยทำไมแบคฮยอนถึงอยากเป็นเพื่อนกับเขาจะดีหรือเปล่า   แบคฮยอนจะตอบกลับมาว่ายังไง  จะถามกลับมามั้ยว่าทำไมอยู่ๆถึงถามอะไรแบบนี้ 

                 “….” 

                 “คือ..ปิดเทอมนี้นายมีงานเยอะหรือเปล่า”  สุดท้ายก็ไม่กล้า  สุดท้ายก็ไม่ได้ถามในสิ่งที่ตัวเองอยากจะรู้  

                 ไม่เยอะหรอก จะไปมีงานมาจากไหนล่ะ  ซีรีย์ที่ฉันถ่ายยังไม่ออกอากาศเลยนะ..ไม่สิ ยังถ่ายเสร็จเลยด้วยซ้ำ  ใครจะมารู้จักบยอนแบคฮยอนล่ะ หืม?”  แบคฮยอนตอบพร้อมกับยิ้มกว้างให้อีกคน

                 แล้ว..ปิดเทอมนี้นอกจากทำงานแล้วนายจะทำอย่างอื่นมั้ย

                 “ก็คง..เรียนการแสดงอะไรพวกนี้แหล่ะมั้ง  แล้วปิดเทอมของนายล่ะ”  แบคฮยอนเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง

                 “ฉันกะว่าจะทำงานพิเศษเหมือนเทอมที่แล้วน่ะ  แล้วก็จะอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาลัยด้วย

                 ว้าวว ขยันจริงๆเลยนะคยองซู  งั้น..ฉันต้องกลับเข้าตึกก่อนนะ แล้วเดี๋ยวคืนนี้จะส่งข้อความไปหา

                 “อื้ม โอเค”  คยองซูยิ้มกว้างให้  แบคฮยอนหันหลังก่อนรีบวิ่งขึ้นรถไปทันที 

                 ตอนนี้คยองซูเองก็ยังไม่แน่ใจว่าทำไมแบคฮยอนถึงยอมคบกับโดคยองซูผู้โดดเดี่ยว  แต่ในเมื่อตอนนี้เราทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน  เราก็ควรจะรักษามิตรภาพพวกนี้ไว้ไม่ดีกว่าหรือไง..  ไม่ต้องสนใจอดีต  ไม่ต้องคิดถึงอนาคต ขอแค่เราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็ดีพอแล้ว

                 แต่ถึงอย่างนั้นคยองซูก็จะหาคำตอบ...จะทำให้จองกุกรู้ให้ได้ว่าแบคฮยอนอยากเป็นเพื่อนกับเขาจริงๆ

     

     

                   คยองซู..แม่กลับมาแล้วนะลูก”  เสียงหวานที่คุ้นหูคนตัวเล็กดังขึ้น  คยองซูรีบลุกจากหน้าหนังสือแล้วเดินไปช่วยแม่ถือของในมือทันที

                   โหห..หอบอะไรมาเยอะแยะครับเนี่ย”  คยองซูเอ่ยถามผู้เป็นแม่ก่อนถือถุงพลาสติกที่มีทั้งวัตถุดิบปรุงอาหารและอาหารสำเร็จรูปเดินเข้าไปในครัว

                   แม่ก็แค่ซื้อของมาใส่ตู้เย็นไว้เพราะลูกเองก็ปิดเทอมแล้ว  มีอะไรก็หาในตู้เย็นเอานะลูกนะแม่ของคยองซูพูดพร้อมกับยิ้มกว้างให้  ปิดเทอมนี้คงไม่ได้ดูแลลูกรักทั้งวันเหมือนแต่ก่อน

                   วันนี้แม่กลับบ้านตั้งสามทุ่มแหน่ะ...แบบนี้ผมก็เหงานะครับ”  คนตัวเล็กเริ่มอ้อนเหมือนลูกหมาทันที  คยองซูโผเข้าแม่ตัวเองพร้อมกับยู่ปากน้อยๆ  ตั้งแต่แม่ของเขาทำงานเป็นแม่บ้านก็กลับสองสามทุ่มตลอด  บางทีคยองซูก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่เหมือนกัน

                   ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะเรา  โตขนาดจะเข้ามหาลัยอยู่แล้วนะ” 

                   “กอดแม่ดีจะตาย

                   “จ้า แล้วเป็นยังไงบ้างสอบวันสุดท้าย

                   ก็ดีนะครับ  เอ้อ..วันนี้ผมโทรไปสมัครงานพาร์ทไทม์แล้วนะ  ร้านกาแฟร้านเดิม..เลิกงานตอนสองทุ่ม  ถ้าคยองซูทำงานเสร็จแล้วจะไปรับแม่ที่บ้านนั้นได้มั้ย  ไม่อยากให้แม่กลับคนเดียวเลย”  ลูกชายเอ่ยถามทั้งที่ยังไม่ยอมผละจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น

                   “รู้หรอว่าอยู่ที่ไหน

                   “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าคยองซูก็จะไปส่งแม่แล้วค่อยไปทำงาน  เลิกงานแล้วก็ไปรับ..ดีมั้ย ?”   คยองซูผละออกจากอ้อมกอดก่อนมองหน้าผู้เป็นแม่อย่างเค้นหาคำตอบ  โดมินยองยิ้มให้ลูกชายก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

                    “เยส ! ดีใจจัง   แม่น่ารักที่สุดเลย ~”   มือเล็กทั้งสองข้างยกขึ้นหยิกแก้มแม่ของตัวเองเบาๆอย่างล้อเลียน    ถึงคยองซูจะอยู่กับแม่แค่สองคนแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้มันมีความสุขมากแค่ไหน  ครอบครัวเล็กๆ...บ้านหลังเล็กๆ...ไม่ได้ร่ำรวย  แค่นั้นมันก็ทำให้คยองซูมีความสุขมากแล้ว

                    ว่าแต่..แม่ไม่เคยเล่าเรื่องบ้านนั้นให้ผมฟังเลยนะ

                    “อ้าว ! นี่แม่ไม่เคยเล่าหรอลูก..? แม่ทำงานที่บ้านตระกูลบยอน  ตระกูลนี้เค้าทำธุรกิจเกี่ยวกับ..อ๊ะ จริงสิ...เพื่อนของคยองซูชื่ออะไรนะลูก”  อยู่ๆมินยองก็เกิดถามเรื่องเพื่อนของคยองซูเสียอย่างนั้น 

                    ครับ..ก็..บยอน..บยอนแบคฮยอนไง” 

                    จริงหรอ ! ถ้าอย่างนั้น..ก็อาจจะเป็นคนเดียวกัน  ลูกชายของเจ้านายแม่เค้ากำลังจะได้เป็นนักแสดง  แล้ว....

                    “….ครับ  คงจะเป็นคนเดียวกัน..”  คยองซูพยักหน้า  ความรู้สึกสับสนยิ่งเพิ่มมากขึ้น  โลกมันจะกลมอะไรขนาดนั้น..ถ้าอย่างนั้นที่บ้านแบคฮยอนก็คงรวยมากแน่ๆ  เหตุผลที่ว่าแบคฮยอนมาคบกับคยองซูเพราะสงสารก็ยิ่งมีความเป็นไปได้สูง          
           

                    ....

                    “แม่ครับ...แบคฮยอนยังไม่รู้ใช่มั้ยว่าผมเป็นลูกของแม่”  คยองซูถามด้วยน้ำเสียงเศร้าลงในทันที  มินยองพยักหน้าเบาๆ

                   ถ้าอย่างนั้นแม่อย่าเพิ่งให้แบคฮยอนรู้นะครับ ผมไม่ได้อายนะ...แต่ผมกำลังหาคำตอบอะไรบางอย่างอยู่”  เพราะคยองซูไม่เคยเล่าว่าที่บ้านตัวเองทำงานอะไรให้แบคฮยอนฟัง   แบคฮยอนก็คงจะยังไม่รู้เหมือนกันว่าที่บ้านคยองซูไม่ได้ร่ำรวย

                   คนมีฐานะส่วนใหญ่ก็มาคบกับคนจนๆอย่างเราเพราะความสงสารไม่ใช่หรือไง..

                   แต่คยองซูคงลืมคิดไปว่าบนโลกนี้ก็มีคนที่มีฐานะร่ำรวยที่มาคบกับคนธรรมดาเพราะความจริงใจมากอยู่เหมือนกัน  บางคนไม่ได้ต้องการหน้าตาทางสังคม  ไม่ได้ต้องการเงินทอง  เขาแค่ต้องการเพื่อนและความจริงใจก็เท่านั้น

     

          

     [100%]





     

                  ทีแรกไรท์แต่งไว้โหดร้ายกับคยองซูมากกว่านี้นะ  แบบ..โหดร้ายมากจริงๆ       แต่กลัวรีดเดอร์อ่านแล้วจะมาดักตี   ไรท์ก็เลยเปลี่ยนพล็อตไปนิดหน่อย  เพื่อความไม่ดราม่าเกินไป หุหุ     จองกุกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย  เอาแน่เอานอนไม่ได้เหมือนคนแต่งนี่แหล่ะค่ะ  สปอยล์ไว้ว่าจองกุกเป็นเด็กมีปม      แต่จะเฉลยตอนไหนก็ได้โปรดรอ   เพราะไรท์เองก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ

                  ในฟิคก็ปิดเทอมแล้ว  บทของจองกุกอาจจะน้อยลงหรือไม่มีเลย  จะเป็นจงอินเองที่เข้ามาแทน !! ...ยังไม่ลืมใช่มั้ยว่าในเรื่องนี้เคยพูดถึงจงอินไปนิดนึง  นิดจริงๆ  แต่จะเข้ามาทำอะไร เกี่ยวข้องกับคยองซูยังไงต้องติดตามนะเธอๆ

                  ถึงในฟิคจะปิดเทอมแต่ชีวิตจริงอีกไม่ถึงสองอาทิตย์ไรท์ก็จะเปิดเทอมแล้วค่ะ TT  ถ้ามาอัพฟิคก็อาจจะมาไม่ทีเดียว 100% แบบนี้  หรืออาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย แต่อันนี้ก็แล้วแต่อารมณ์และเวลาว่างของไรท์เหมือนกันค่ะ ฮ่าๆ

                  ทอร์คยาวอีกตามเคย  ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่เม้น+ติดแท็ก  #FicBD ให้นะคะ  ถึงไม่ได้มากมายขนาดนั้นแต่ก็ต้องขอบคุณมากจริงๆ เป็นกำลังใจเค้าต่อไปเรื่อยๆแบบนี้แล้วสัญญาว่าจะไม่ดองฟิคค่ะ คึคึ  (พูดเหมือนฟิคจะจบแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้ถึงครึ่ง)  


    themy  butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×