คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5
Fic’Because you’re my FrienD
{Baekhyun x D.O}
#FicBD
::Chapter 5::
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ไม่ใช่ของเรา
แม้กระทั่งร่างกายของเราเองด้วยซ้ำไป
“วิชาสุดท้าย...เหลือเวลาทำข้อสอบอีกห้านาที ส่วนใครที่ทำเสร็จแล้วพลิกกระดาษคำตอบแล้วก็ออกไปได้” เสียงอาจารย์คุมห้องสอบเอ่ยขึ้นในระดับความดังที่ไม่มากนักหากแต่ได้ยินทั่วทั้งห้อง นักเรียนที่กำลังนั่งสอบหลายๆคนคว่ำกระดาษคำตอบของตัวเองแล้วลุกจากโต๊ะสอบไป
แต่โดคยองซูเองก็ยังคงนั่งทำข้อสอบอยู่อย่างนั้น เวลาตั้งห้านาทีบางทีนั่งๆทำไปอาจจะได้มาสักคะแนนสองคะแนนก็ได้
กริ๊งงง !
“เอาล่ะ หมดเวลาทำข้อสอบแล้ว วางปากกา คว่ำกระดาษคำตอบแล้วออกไปรอนอกห้อง ถ้าครูเรียกค่อยเข้ามาได้” ว่าจบทุกคนที่เหลืออยู่ในห้องก็ปฏิบัติตามคำสั่งของอาจารย์ คยองซูเดินออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย
คนตัวเล็กมองหาแบคฮยอนทันทีที่เดินออกมาก่อนจะพบว่าอีกคนกำลังยืนพิงผนังห้องอยู่อีกฟากพร้อมกับใส่หูฟังอยู่อย่างสบายใจ
แบคฮยอนตอนนี้..เท่จัง
แผ่นหลังที่เอนพิงผนังห้อง..มือหนาทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงไว้ ร่างสูงมองต่ำไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่รอบข้างเลยสักนิด...หากแต่พอรู้สึกตัวว่ามีคนกำลังจ้องมองแบคฮยอนก็รีบเงยหน้าขึ้นมาในทันที
คยองซูแทบสะดุ้งเพราะสายตาของร่างสูงที่อยู่ๆก็ปะทะเข้ามาอย่างจังทำเอาคนตัวเล็กถึงกับทำตัวไม่ถูก คยองซูเหมือนกับเด็กที่ถูกจับได้ว่าแอบฟังผู้ใหญ่คุยกันอะไรทำนองนั้น แบคฮยอนยิ้มกว้างให้เพื่อนตัวเล็กและกำลังจะเดินไปหาหากแต่ว่าอาจารย์ที่ปรึกษากลับเรียกเข้าห้องไปเสียก่อน
“ตอนนี้เราก็สอบเสร็จกันแล้วนะทุกคน โรงเรียนกำหนดปิดภาคเรียนเป็นเวลาหนึ่งเดือน...ครูหวังว่าทุกคนจะใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์นะ ม.ปลายปีสุดท้ายแล้ว..คิดดีๆล่ะว่าควรจะทำอะไร” อาจารย์ประจำชั้นพูดขึ้นเมื่อนักเรียนทุกคนนั่งที่
“เฮ ~ นี่มันช่วงเวลาที่ฉันรอคอยเลยจริงๆ” เสียงนักเรียนในห้องดังขึ้นขึ้นมาทันทีด้วยความดีใจ บรรยากาศในห้องต่างไปจากตอนสอบอย่างเห็นได้ชัด
“เอาล่ะๆ เจอกันเปิดเทอมหน้านะจ๊ะทุกคน ขอให้โชคดี” สิ้นเสียงอาจารย์นักเรียนทุกคนในห้องก็เฮลั่นออกมาด้วยความดีใจ เบียดกันออกจากประตูห้องทันทีเพราะตอนนี้ไม่มีใครอยากจะอยู่ในเขตโรงเรียนเลยสักคน
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้มาโรงเรียน...งั้นคงต้องอยู่ทำความสะอาดยาวเลยสินะ
คยองซูคิดในใจ...ผ่านไปสักพักในห้องก็ไม่มีนักเรียนคนไหนเลยนอกจากเขาแค่คนเดียว เพื่อนๆใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก็ออกจากห้องไปจนหมด อะไรจะอยากปิดเทอมขนาดนั้นกัน
คนตัวเล็กลุกจากโต๊ะของตัวเอง นาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังห้องบอกเวลาเกือบสี่โมงเย็น คยองซูจึงรีบเริ่มทำความสะอาดทันทีเพราะเขาเองก็ไม่อยากเสร็จเย็นมาก วันนี้คนคงไม่ค่อยอยู่โรงเรียนกันแน่ๆ
มือเล็กจับไม้กวาดก่อนจะใช้มันกวาดฝุ่นตามพื้นออกมาจนหมด คยองซูทำความสะอาดห้องไปเรื่อยๆพลางในคิดในใจ...พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาโรงเรียนแล้ว ไม่ต้องโดนเพื่อนเมิน ไม่ต้องถูกจองกุกแกล้ง
ดีจัง..
“อ่า...อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว งั้นวันนี้ไปหางานพิเศษไว้เลยดีกว่า” คนตัวเล็กพูดกับตัวเอง ตั้งแต่พ่อของคยองซูเสียชีวิตไป ทุกปิดเทอมเขาก็มักจะงานพิเศษทำแบบนี้เสมอ ไม่ได้ไปเรียนกวดวิชาหรือไปเที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่นๆ
“ฟู่วว ! เสร็จสักที อ๊ะ...” โทรศัพท์เครื่องบางที่วางอยู่บนกระเป๋านักเรียนสั่นเรียกความสนใจให้คนตัวเล็ก คยองซูรีบเดินไปเก็บไม้กวาดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดรับ
“ครับแม่” คนตัวเล็กรับสายเสียงใส
‘วันนี้แม่อาจจะกลับบ้านดึกหน่อยนะลูก หาอะไรทานก่อนกลับบ้านเลยนะ...แล้วอย่ากลับดึกล่ะเข้าใจมั้ยลูก’ ปลายสายสั่งลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คยองซูยิ้มแล้วตอบรับคำสั่งของผู้เป็นแม่ก่อนจะกดวางสายไป
อ่า...สี่โมงกว่าแล้วนี่นา
ครืน...
เสียงฟ้าคำรามทำเอาคนตัวเล็กที่อยู่คนเดียวในห้องถึงเกือบสะดุ้ง คยองซูมองออกไปนอกหน้าต่าง..ถึงจะเป็นเวลาสี่โมงกว่าแต่ท้องฟ้าที่เป็นสีเทาแบบนี้ก็ทำให้บรรยากาศดูน่ากลัวได้เหมือนกัน
เหมือนกับว่าฝนกำลังจะตก...ลมเย็นๆพัดเข้ามาสัมผัสต้องเนื้อคยองซู คนตัวเล็กเดินไปเก็บกระเป๋าของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจึงเดินออกนอกห้องไป....ปิดเทอมแล้ว ~
แต่ทว่า...
“ทำความสะอาดห้องเสร็จแล้วหรอคยองซู” รอยยิ้มบนใบหน้าหวานจางหายไป ตรงหน้าคือคนใจร้ายที่ทำให้คยองซูเกือบไม่รอด...คนที่ผลักคยองซูตกน้ำ...คนที่คยองซูไม่อยากเห็นหน้า...จอนจองกุก
“อ๊ะ..” ข้อแขนเล็กถูกมือหนาคว้าไว้แล้วออกแรงดึงให้เดินไปพร้อมกัน จองกุกพาคยองซูเข้ามาในห้องอีกครั้ง..ที่หลังห้องที่เดิม
ความกลัวเริ่มก่อตัวทันที...แต่ถึงอย่างนั้นคยองซูต้องเข้มแข็ง ห้ามกลัว..เหมือนที่แบคฮยอนบอกไว้ ท่องไว้สิคยองซู...เข้มแข็ง ห้ามกลัว
“นาย..ยังไม่กลับอีกหรอ” คยองซูถามพร้อมกับพยายามควบคุมน้ำเสียงให้ปกติที่สุด ใบหน้าหวานก้มต่ำมองข้อมือเล็กของตัวเองที่ยังไม่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าคนอย่างนายไม่มีสิทธิ์มีเพื่อน” จองกุกไม่ตอบคำถามของคนตัวเล็กแต่กลับเลือกที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะพูดมากกว่า
“ทำไมฉันจะมีไม่ได้”
“.....”
“ในเมื่อฉันก็เป็นคนมีหัวใจเหมือนนาย รักคนเป็น..ชอบคนได้..อยากมีเพื่อน แล้วทำไมนายต้องมาห้ามฉัน ฉันไม่ใช่ของของนาย..นายไม่มีสิทธิ์” เป็นครั้งแรกที่คยองซูกล้าเถียงออกไปขนาดนั้น ประโยคเหล่านี้คงจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่คยองซูพูดกับจอนจองกุกเลยก็ว่าได้
“เดี๋ยวนี้กล้าเถียงฉันหรอคยองซู” ร่างสูงปล่อยข้อมือของอีกคนแต่กลับเคลื่อนกายเข้าใกล้กายเล็กไปเรื่อยๆ คยองซูเองก็กระถดกายหนีแต่ระยะห่างระหว่างคนสองคนก็น้อยลงเรื่อยๆอยู่ดี
ซ่า..
เสียงฝนห่าใหญ่ที่ตกลงมากระทบกับสิ่งต่างๆบนโลกดังก้อง คยองซูสะดุ้งน้อยๆก่อนจะมองออกไปด้านนอกผ่านกระจกใส ท้องฟ้าสีเทา..เสียงฟ้าร้อง..ฝนที่กำลังตกลงมา..และบรรยากาศในห้องที่น่ากลัวกว่าทุกครั้ง
“นายบอกว่านายไม่ใช่ของของฉัน…” เสียงทุ้มเรียกสติคนตัวเล็กให้หันหน้ามาเผชิญกับความจริงอีกครั้ง คยองซูกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก...เหมือนในคอมันฝาดไปหมด
“…..”
“แล้วถ้าฉันทำให้นายเป็นของฉันล่ะ” คนตัวเล็กเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับประโยคที่คนตัวสูงเอื้อนเอ่ย มันเหมือนกับว่า...
“อ๊ะ..จ..จองกุก” ร่างเล็กกระถดกายหนีจนตอนนี้แผ่นหลังแนบชิดกับผนังห้อง...ไม่มีทางหนีอีกแล้ว
“บอกแล้วไงว่าคนอย่างนายไม่มีสิทธิ์มีเพื่อน...ต้องให้รุนแรงหรอคยองซู”
“ค..คือฉัน..ต้องกลับบ้านแล้ว อ๊ะ..ปล่อยสิ” กายเล็กถูกกักขังไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของอีกคนจนตัวเองหนีออกมาไม่ได้
“ก็บอกคนที่บ้านไปสิว่าฝนตกหนัก กลับไม่ได้” น้ำเสียงของจองกุกตอนนี้มันช่างดูเยือกเย็น..
“ปล่อยเถอะนะจองกุก...ปล่อย..ปล่อยสิ..โอ๊ย !” จากที่พยายามจะขัดขืนคยองซูกลับถูกหมัดหนักๆชกเข้าที่ท้องจนจุก มือเล็กกุมท้องตัวเองไว้ก่อนจะลงไปนั่งกองกับพื้นเพราะความเจ็บปวด
“ฉันคิดว่า...ถ้าเรามีอะไรกันแล้วถ่ายรูปไปให้แบคฮยอนดูก็น่าจะดีนะว่ามั้ย” จองกุกนั่งย่อตัวให้อยู่ในระดับเดียวกับคนตัวเล็ก
“…อึก..ปล่อยฉันไปเถอะ”
“แบคฮยอนมันคงจะไม่ชอบยุ่งของของคนอื่นหรอกเนาะคยองซู” ว่าจบ..จอนจองกุกก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนของคยองซูออกเริ่มจากเม็ดบนสุด สายตาคมจ้องมองไปที่คนตัวเล็กที่กำลังนั่งตัวสั่นเทาคล้ายกับคนจับไข้ มือเล็กจิกขาอ่อนของตัวเองผ่านเนื้อผ้า ดวงตากลมเริ่มมีน้ำใสๆคลอ
“จ..จองกุก ขอร้องล่ะ...ฉัน..ฉันต้องกลับบ้านแล้ว” พยายามทำใจไม่ให้กลัวคนตรงหน้า...พยายามจะไม่ร้องไห้ แต่คนอย่างคยองซูก็ทำไม่เคยได้
“หึ..” จองกุกไม่สนใจคำร้องขอ มือหนาปลดกระดุมต่อ..และมือเล็กก็เริ่มพยายามปัดป่าย
“จองกุก..ฮึก..ไม่..” คยองซูส่ายหัว ร่างเล็กกำลังจะลุกขึ้นหนีแต่กลับถูกมือหนาดันไหล่ไว้ให้นั่งลงตามเดิม
“กลัวขนาดนั้นเลยหรอคยองซู ตัวสั่นเชียว”
“จองกุก...ฮึก ฉันก็แค่อยากมีเพื่อน...เหมือนนายไง ปล่อยฉันไปเถอะนะ” อ้อนวอนทั้งน้ำตา หาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาจากไหนอีกคนก็ไม่เคยฟัง
“คนอย่างนายใครมันจะอยากคบเป็นเพื่อน จนก็จน...ที่แบคฮยอนมาคบกับนายคงจะเป็นเพราะว่ามันสงสารนายมากกว่า อย่าสำคัญตัวไปเลยคยองซู”
“ฮึก..ไม่ใช่ แบคฮยอนบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับฉันจริงๆ..” คยองซูพยายามปัดป่ายสองมือของอีกคนที่กำลังจัดการกับกระดุมเสื้อของเขา และแล้วสุดท้ายจองกุกก็หยุดการกระทำของตัวเองเพราะคำพูดของคยองซู
‘แบคฮยอนบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับฉันจริงๆ’
“เหอะ ! อย่าเชื่อใจคนอื่นให้มากเลยคยองซู คนที่เข้ามาในชีวิตนายมันก็แค่พวกคนขี้สงสารเท่านั้นแหละ !” จองกุกตะคอกใส่ คนตัวเล็กสะดุ้ง...น้ำตาไหลอาบแก้ม
“ฮึก...”
“ตอนนี้อาจจะดูเหมือนว่านายมีค่า แต่พอแบคฮยอนมีของเล่นใหม่มันก็จะลืมนาย..แล้วความรู้สึกนายตอนนั้นจะยิ่งเจ็บและเสียใจยิ่งกว่าการถูกฉันแกล้งเป็นพันเท่า”
“....”
“ถูกเมิน..ถูกมองว่าไร้ค่า นายจะได้รู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน !”
“พูดอะไรของนายน่ะจองกุก..” มันจะไปกันใหญ่แล้ว เหมือนจอนจองกุกจะรู้ดีว่าความเจ็บปวดพวกนี้มันแสนสาหัสขนาดไหน แต่คนอย่างจอนจองกุกจะไปเคยเจ็บปวดได้ยังไง..ผู้ชายที่มีความเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างแบบนี้
เหมือนกับจองกุกมีบางอย่างในใจ
เหมือนกับเขาเคยถูกเมิน..
เหมือนกับเขาเคยถูกมองว่าไร้ค่า..
เด็กอย่างจองกุกนี่หรอจะเป็นคนมีปม..
“เหอะ...ก็ได้..ปิดเทอมนี้นายลองเป็นเพื่อนกับมันดูก็ได้ แล้วนายจะเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดว่าแบคฮยอนก็แค่สงสารนาย”
“….”
“แล้วก็ยอมรับซะว่าคนอย่างนายไม่มีใครอยากคบเป็นเพื่อน” จองกุกพูดแค่นั้นก่อนจะหันหลังให้ร่างเล็กแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้โดคยองซูโดดเดี่ยวอยู่ในห้องเรียนแห่งนี้อีกครั้ง
ความสับสนและความไม่เข้าใจคือสิ่งที่คยองซูกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้ อะไรที่ทำให้คนอย่างจอนจองกุกยอมปล่อยเขาไปได้ง่ายๆ...อยู่ๆก็ยอมให้คยองซูมีเพื่อน...อยู่ๆก็ยอมปล่อยคยองซูไป มันเป็นเพราะอะไรกัน ทำไมต้องพยายามบอกว่าที่แบคฮยอนมาทำดีด้วยเพราะสงสาร เหมือนจองกุกจะเป็นห่วง..แต่นั่นคือการทำร้าย
...หรือบางทีมันอาจจะมีเหตุผลอย่างอื่นที่คยองซูไม่รู้ มันอาจจะเป็นปมอะไรบางอย่างในใจของจองกุก
ครืน..เปรี้ยง !
เสียงฟ้าร้องดังลั่นดึงคยองซูให้หลุดจากภวังค์ เม็ดฝนที่ตกลงมามากมายเมื่อครู่ตอนนี้กลายเป็นเพียงฝนที่ตกปรอยๆไปเรียบร้อย มือเล็กหยิบกระเป๋านักเรียนของตัวเองก่อนจะก้าวออกจากห้องไปเพราะตอนนี้มันก็เย็นมากแล้ว
ทางเดินที่ร้างผู้คน...ท้องฟ้ายามเย็นที่ถูกแต้มด้วยสีส้มอ่อนๆและพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าคือสิ่งที่อยู่เป็นเพื่อนคยองซูในขณะนี้
“...เย็นขนาดนี้แล้ว ไปหาอะไรกินแล้วกลับบ้านเลยดีกว่า..เรื่องงานพิเศษค่อยว่ากันอีกที” คยองซูพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนจะก้าวขาเล็กออกไปจนเกือบจะถึงประตูหน้าโรงเรียน หากแต่พอเขาเดินไปได้ไม่นานก็มีเสียงใครคนหนึ่งเรียกเอาไว้
“คยองซู !” คนตัวเล็กหันไปตามเสียงเรียกนั้นก่อนจะยิ้มกว้างทันทีที่เห็นว่าเป็นบยอนแบคฮยอน
‘คนอย่างนายใครมันจะอยากคบเป็นเพื่อน จนก็จน...ที่แบคฮยอนมาคบกับนายคงจะเป็นเพราะว่ามันสงสารนายมากกว่า อย่าสำคัญตัวไปเลยคยองซู’
อยู่ๆคำพูดของจองกุกก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง แบคฮยอนผู้ชายตรงหน้าคนนี้..ที่มาเป็นเพื่อนกับเขาก็เพราะความสงสารเท่านั้นหรือ..
“เป็นอะไรคยองซู...ทำไมเงียบไป” แบคฮยอนวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวเล็ก
“อ..อ๋อเปล่า นี่นายยังไม่กลับบ้านอีกหรอ”
“วันนี้ฉันเข้าตึกไปแล้วนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ขอเบอร์ติดต่อนายไว้ก็เลยกลับมาโรงเรียน..โชคดีจังที่นายยังไม่กลับ” แบคฮยอนอธิบายพร้อมกับหยิบโทรศัพท์เครื่องบางของตัวเองยื่นให้คยองซู คนตัวเล็กรับมันมาก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์ลงไป...พร้อมกับคำถามมากมายที่อยู่ในหัว
แค่สงสารจริงๆหรอ...
“คยองซู..”
แบคฮยอนอยากเป็นเพื่อนกับเราเพราะสงสารอย่างนั้นหรอ...
“เอ่อ..คยองซู”
ที่มาทำดีด้วยทุกอย่าง...
“คยองซู !!” เมื่อเรียกคนตัวเล็กหลายรอบแต่อีกคนกลับทำเหมือนไม่ได้ยินแบคฮยอนจึงตัดสินใจเพิ่มระดับเสียงจนคนตัวเล็กสะดุ้ง
“ห้ะ.. ว่าไง” คยองซูรีบดึงสติของตัวเองกลับมา
“คือ...โทรศัพท์ฉัน..”
“อ๋อๆ เออลืม ฮ่าๆ” คยองซูลนลานอย่างเห็นได้ชัด มือเล็กรีบยื่นโทรศัพท์เครื่องบางคืนให้เจ้าของของมันทันที
“เป็นอะไรรึเปล่า..ทำไมอยู่ๆก็เหม่อ” แบคฮยอนถาม ทั้งๆที่คยองซูก็กดเบอร์โทรศัพท์ให้แต่อยู่ดีๆคนตัวเล็กกลับเหม่อลอยไปเสียอย่างนั้น
“ป่าว..ไม่มีอะไร” แบคฮยอนรู้ว่าคยองซูโกหก..แต่เค้นคำตอบไปมันก็เท่านั้นแหล่ะ
“อื้ม โอเค..แล้วจะกลับบ้านเลยมั้ย”
“....แบคฮยอน..คือ” ถ้าถามออกไปตรงๆว่าเลยทำไมแบคฮยอนถึงอยากเป็นเพื่อนกับเขาจะดีหรือเปล่า แบคฮยอนจะตอบกลับมาว่ายังไง จะถามกลับมามั้ยว่าทำไมอยู่ๆถึงถามอะไรแบบนี้
“….”
“คือ..ปิดเทอมนี้นายมีงานเยอะหรือเปล่า” สุดท้ายก็ไม่กล้า สุดท้ายก็ไม่ได้ถามในสิ่งที่ตัวเองอยากจะรู้
“ไม่เยอะหรอก จะไปมีงานมาจากไหนล่ะ ซีรีย์ที่ฉันถ่ายยังไม่ออกอากาศเลยนะ..ไม่สิ ยังถ่ายเสร็จเลยด้วยซ้ำ ใครจะมารู้จักบยอนแบคฮยอนล่ะ หืม?” แบคฮยอนตอบพร้อมกับยิ้มกว้างให้อีกคน
“แล้ว..ปิดเทอมนี้นอกจากทำงานแล้วนายจะทำอย่างอื่นมั้ย”
“ก็คง..เรียนการแสดงอะไรพวกนี้แหล่ะมั้ง แล้วปิดเทอมของนายล่ะ” แบคฮยอนเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง
“ฉันกะว่าจะทำงานพิเศษเหมือนเทอมที่แล้วน่ะ แล้วก็จะอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหา’ลัยด้วย”
“ว้าวว ! ขยันจริงๆเลยนะคยองซู งั้น..ฉันต้องกลับเข้าตึกก่อนนะ แล้วเดี๋ยวคืนนี้จะส่งข้อความไปหา ”
“อื้ม โอเค” คยองซูยิ้มกว้างให้ แบคฮยอนหันหลังก่อนรีบวิ่งขึ้นรถไปทันที
ตอนนี้คยองซูเองก็ยังไม่แน่ใจว่าทำไมแบคฮยอนถึงยอมคบกับโดคยองซูผู้โดดเดี่ยว แต่ในเมื่อตอนนี้เราทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน เราก็ควรจะรักษามิตรภาพพวกนี้ไว้ไม่ดีกว่าหรือไง.. ไม่ต้องสนใจอดีต ไม่ต้องคิดถึงอนาคต ขอแค่เราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็ดีพอแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นคยองซูก็จะหาคำตอบ...จะทำให้จองกุกรู้ให้ได้ว่าแบคฮยอนอยากเป็นเพื่อนกับเขาจริงๆ
“คยองซู..แม่กลับมาแล้วนะลูก” เสียงหวานที่คุ้นหูคนตัวเล็กดังขึ้น คยองซูรีบลุกจากหน้าหนังสือแล้วเดินไปช่วยแม่ถือของในมือทันที
“โหห..หอบอะไรมาเยอะแยะครับเนี่ย” คยองซูเอ่ยถามผู้เป็นแม่ก่อนถือถุงพลาสติกที่มีทั้งวัตถุดิบปรุงอาหารและอาหารสำเร็จรูปเดินเข้าไปในครัว
“แม่ก็แค่ซื้อของมาใส่ตู้เย็นไว้เพราะลูกเองก็ปิดเทอมแล้ว มีอะไรก็หาในตู้เย็นเอานะลูกนะ” แม่ของคยองซูพูดพร้อมกับยิ้มกว้างให้ ปิดเทอมนี้คงไม่ได้ดูแลลูกรักทั้งวันเหมือนแต่ก่อน
“วันนี้แม่กลับบ้านตั้งสามทุ่มแหน่ะ...แบบนี้ผมก็เหงานะครับ” คนตัวเล็กเริ่มอ้อนเหมือนลูกหมาทันที คยองซูโผเข้าแม่ตัวเองพร้อมกับยู่ปากน้อยๆ ตั้งแต่แม่ของเขาทำงานเป็นแม่บ้านก็กลับสองสามทุ่มตลอด บางทีคยองซูก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่เหมือนกัน
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะเรา โตขนาดจะเข้ามหาลัยอยู่แล้วนะ”
“กอดแม่ดีจะตาย”
“จ้า แล้วเป็นยังไงบ้างสอบวันสุดท้าย”
“ก็ดีนะครับ เอ้อ..วันนี้ผมโทรไปสมัครงานพาร์ทไทม์แล้วนะ ร้านกาแฟร้านเดิม..เลิกงานตอนสองทุ่ม ถ้าคยองซูทำงานเสร็จแล้วจะไปรับแม่ที่บ้านนั้นได้มั้ย ไม่อยากให้แม่กลับคนเดียวเลย” ลูกชายเอ่ยถามทั้งที่ยังไม่ยอมผละจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น
“รู้หรอว่าอยู่ที่ไหน”
“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าคยองซูก็จะไปส่งแม่แล้วค่อยไปทำงาน เลิกงานแล้วก็ไปรับ..ดีมั้ย ?” คยองซูผละออกจากอ้อมกอดก่อนมองหน้าผู้เป็นแม่อย่างเค้นหาคำตอบ โดมินยองยิ้มให้ลูกชายก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
“เยส ! ดีใจจัง แม่น่ารักที่สุดเลย ~” มือเล็กทั้งสองข้างยกขึ้นหยิกแก้มแม่ของตัวเองเบาๆอย่างล้อเลียน ถึงคยองซูจะอยู่กับแม่แค่สองคนแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้มันมีความสุขมากแค่ไหน ครอบครัวเล็กๆ...บ้านหลังเล็กๆ...ไม่ได้ร่ำรวย แค่นั้นมันก็ทำให้คยองซูมีความสุขมากแล้ว
“ว่าแต่..แม่ไม่เคยเล่าเรื่องบ้านนั้นให้ผมฟังเลยนะ”
“อ้าว ! นี่แม่ไม่เคยเล่าหรอลูก..? แม่ทำงานที่บ้านตระกูลบยอน ตระกูลนี้เค้าทำธุรกิจเกี่ยวกับ..อ๊ะ จริงสิ...เพื่อนของคยองซูชื่ออะไรนะลูก” อยู่ๆมินยองก็เกิดถามเรื่องเพื่อนของคยองซูเสียอย่างนั้น
“ครับ..ก็..บยอน..บยอนแบคฮยอนไง”
“จริงหรอ ! ถ้าอย่างนั้น..ก็อาจจะเป็นคนเดียวกัน ลูกชายของเจ้านายแม่เค้ากำลังจะได้เป็นนักแสดง แล้ว....”
“….ครับ คงจะเป็นคนเดียวกัน..” คยองซูพยักหน้า ความรู้สึกสับสนยิ่งเพิ่มมากขึ้น โลกมันจะกลมอะไรขนาดนั้น..ถ้าอย่างนั้นที่บ้านแบคฮยอนก็คงรวยมากแน่ๆ เหตุผลที่ว่าแบคฮยอนมาคบกับคยองซูเพราะสงสารก็ยิ่งมีความเป็นไปได้สูง
“....”
“แม่ครับ...แบคฮยอนยังไม่รู้ใช่มั้ยว่าผมเป็นลูกของแม่” คยองซูถามด้วยน้ำเสียงเศร้าลงในทันที มินยองพยักหน้าเบาๆ
“ถ้าอย่างนั้นแม่อย่าเพิ่งให้แบคฮยอนรู้นะครับ ผมไม่ได้อายนะ...แต่ผมกำลังหาคำตอบอะไรบางอย่างอยู่” เพราะคยองซูไม่เคยเล่าว่าที่บ้านตัวเองทำงานอะไรให้แบคฮยอนฟัง แบคฮยอนก็คงจะยังไม่รู้เหมือนกันว่าที่บ้านคยองซูไม่ได้ร่ำรวย
คนมีฐานะส่วนใหญ่ก็มาคบกับคนจนๆอย่างเราเพราะความสงสารไม่ใช่หรือไง..
แต่คยองซูคงลืมคิดไปว่าบนโลกนี้ก็มีคนที่มีฐานะร่ำรวยที่มาคบกับคนธรรมดาเพราะความจริงใจมากอยู่เหมือนกัน บางคนไม่ได้ต้องการหน้าตาทางสังคม ไม่ได้ต้องการเงินทอง เขาแค่ต้องการเพื่อนและความจริงใจก็เท่านั้น
ทีแรกไรท์แต่งไว้โหดร้ายกับคยองซูมากกว่านี้นะ แบบ..โหดร้ายมากจริงๆ แต่กลัวรีดเดอร์อ่านแล้วจะมาดักตี ไรท์ก็เลยเปลี่ยนพล็อตไปนิดหน่อย เพื่อความไม่ดราม่าเกินไป หุหุ จองกุกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เอาแน่เอานอนไม่ได้เหมือนคนแต่งนี่แหล่ะค่ะ สปอยล์ไว้ว่าจองกุกเป็นเด็กมีปม แต่จะเฉลยตอนไหนก็ได้โปรดรอ เพราะไรท์เองก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ
ในฟิคก็ปิดเทอมแล้ว บทของจองกุกอาจจะน้อยลงหรือไม่มีเลย จะเป็นจงอินเองที่เข้ามาแทน !! ...ยังไม่ลืมใช่มั้ยว่าในเรื่องนี้เคยพูดถึงจงอินไปนิดนึง นิดจริงๆ แต่จะเข้ามาทำอะไร เกี่ยวข้องกับคยองซูยังไงต้องติดตามนะเธอๆ
ถึงในฟิคจะปิดเทอมแต่ชีวิตจริงอีกไม่ถึงสองอาทิตย์ไรท์ก็จะเปิดเทอมแล้วค่ะ TT ถ้ามาอัพฟิคก็อาจจะมาไม่ทีเดียว 100% แบบนี้ หรืออาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย แต่อันนี้ก็แล้วแต่อารมณ์และเวลาว่างของไรท์เหมือนกันค่ะ ฮ่าๆ
ทอร์คยาวอีกตามเคย ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่เม้น+ติดแท็ก #FicBD ให้นะคะ ถึงไม่ได้มากมายขนาดนั้นแต่ก็ต้องขอบคุณมากจริงๆ เป็นกำลังใจเค้าต่อไปเรื่อยๆแบบนี้แล้วสัญญาว่าจะไม่ดองฟิคค่ะ คึคึ (พูดเหมือนฟิคจะจบแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้ถึงครึ่ง)
ความคิดเห็น