คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4
Fic’Because you’re my FrienD
{Baekhyun x D.O}
#FicBD
::Chapter 4::
ความรักเป็นบ่อเกิดของความเกลียด
แต่จงจำไว้ ถ้าไม่มีความเกลียด...ก็จะไม่มีความรัก
“ชั่วโมงนี้ก็เป็นชั่วโมงสุดท้ายแล้วนะทุกคน วิชาพลศึกษาไม่มีสอบในตาราง ครูเก็บคะแนนของพวกเธอหมดแล้ว เพราะฉะนั้นชั่วโมงนี้จะปล่อยฟรี ใครจะเล่นน้ำก็ระวังด้วยนะ มีปัญหาอะไรไปแจ้งครูที่ฝั่งนู้นครูอยู่ที่นั่น เข้าใจมั้ย?...แยกย้ายได้ทุกคน” อาจารย์ผู้ชายประจำวิชาพลศึกษาเอ่ยกับนักเรียนที่นั่งเป็นกลุ่มอยู่ใกล้ๆสระน้ำ เนื่องจากพอถึงเวลาใกล้สอบปลายภาคในรายวิชาต่างๆที่ไม่มีสอบในตารางก็มักปล่อยฟรีให้นักเรียนเหมือนกับวิชานี้
เมื่ออาจารย์ประจำวิชาพูดจบนักเรียนทุกคนก็ทำความเคารพแล้วแยกย้ายกันออกไป บางคนก็กระโดดลงสระเพื่อเล่นน้ำต่อ แต่บางคนก็เดินไปที่ห้องเปลี่ยนชุดเพื่อห้องเปลี่ยนชุดทันที
โดคยองซูเลือกที่จะไปนั่งที่ม้านั่งยาวเงียบๆคนเดียว คนตัวเล็กว่ายน้ำไม่เก่งก็เลยไม่อยากลงสระ ถ้ามีคนแกล้งคยองซูก็อาจจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ถ้าไปเปลี่ยนชุดก็กลัวจะเจอกับจอนจองกุกแล้วโดนแกล้งอีก คนตัวเล็กจึงเลือกที่จะนั่งคนเดียวแบบนี้ดีกว่า
“คยองซู” เสียงทุ้มหนึ่งเอ่ยเรียกคนตัวเล็ก คยองซูเงยใบหน้าหวานขึ้นมองอีกคนก่อนจะยอมลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือจอนจองกุก
“มี..อะไรหรอ” เอ่ยถามทั้งที่ไม่กล้ามองหน้าอีกคนเหมือนเคย แต่ตอนนี้คยองซูกลัวจองกุกน้อยกว่าเมื่อก่อนแล้ว เพราะเมื่อก่อนคยองซูไม่มีเพื่อน...แต่ตอนนี้คยองซูมีแบคฮยอน
“ไปซื้อน้ำให้หน่อยสิ...นี่เงิน” คนตัวสูงกว่าว่าพลางยื่นค่าน้ำให้คยองซู คนตัวเล็กทำได้แค่รับเงินนั้นมาแล้วลุกขึ้นออกไปซื้อน้ำตามคำสั่งของหัวโจกของห้อง
“หึ...ตามแผน” จองกุกพูดเสียงเรียบพลางมองแผ่นหลังของร่างเล็กในชุดคลุมที่กำลังเดินออกไป
มีแค่คยองซูที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง...
คยองซูเดินกลับเข้ามาในโรงยิมฝั่งที่ใช้เรียนว่ายน้ำอีกครั้งหลังซื้อน้ำเสร็จ มือเล็กถือน้ำเปล่าสองขวดเอาไว้พลางมองไปรอบๆเพื่อหาตัวของคนที่สั่งให้เขาไปซื้อ หากแต่คยองซูกลับไม่เจอจอนจองกุกอย่างที่หวัง..ไม่สิ ไม่เจอใครเลยสักคนต่างหาก
บรรยากาศแบบนี้...
“ห..หายไปไหนกันหมดนะ” บ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้นักเรียนอาบน้ำและเปลี่ยนชุด ร่างเล็กมองหาเพื่อนร่วมชั้นจนทั่วห้องแต่ก็ไม่พบใครสักคน ทั้งสิ่งของ ผ้าเช็ดตัว ชุกนักเรียน เสื้อคลุมต่างๆและเจ้าของของมันก็ไม่ได้อยู่ที่นี่
คนตัวเล็กเริ่มกลัว..เหตุการณ์แบบนี้มันเหมือนกับตอนที่จองกุกบอกให้เลิกคบกับแบคฮยอน ร่างเล็กตัดสินใจว่าควรจะเปลี่ยนเป็นชุดนักเรียนแล้วกลับห้องเรียนไปดีกว่า
คยองซูวางขวดน้ำสองขวดนั้นลงกับเก้าอี้ไม้ตัวยาว เดินไปที่ล็อกเกอร์ของตัวเองก่อนจะเปิดออกเพื่อหยิบผ้าเช็ดตัวกับชุดนักเรียน
แต่ทว่าเขากลับพบแค่เพียงความว่างเปล่า...ของใช้ต่างๆของคยองซูไม่มีอยู่ในตู้นี้อีกต่อไป มันเหลือแค่กระโน้ตสีเหลืองที่แปะติดเอาไว้อยู่ มือเล็กรีบหยิบมันขึ้นมาอ่านทันที
‘ฉันคิดว่าเสื้อผ้านายมันสกปรกน่ะก็เลยเอาไปล้างน้ำให้’
เพียงแค่นี้คยองซูก็รู้ได้ทันทีว่ากำลังถูกแกล้งอีกแน่ๆ ขาเล็กรีบพาตัวเองกลับมายังสระน้ำทันที แล้วสิ่งที่คยองซูคิดก็เป็นความจริง...ชุดนักเรียนที่เปียกชุ่มของเขาลอยอยู่ในสระ แถมมันยังอยู่กลางสระซึ่งเป็นบริเวณที่ลึกพอสมควร ถ้าให้คยองซูลงไปเอาเขาต้องจมน้ำแน่ๆ
ไม่มีอะไรพอจะใช้เขี่ยมาได้เลย...
ทำยังไงดีนะ..
ร่างเล็กตัดสินใจหยิบแปรงขัดพื้นที่ด้ามจับยาวที่สุดมาช่วย คยองซูย่อตัวลงนั่งและพยายามยื่นจนสุดแขนแล้วแต่เขาก็ยังเกี่ยวเอาเสื้อผ้าตัวเองมาไม่ได้ ถ้าตกลงไปคงแย่แน่ๆเพราะฝั่งที่คยองซูกำลังพยายามเกี่ยวเสื้อผ้าคือฝั่งที่ลึกที่สุด นอกจากจะตัวเล็กแล้วคยองซูเองก็ยังว่ายน้ำไม่แข็ง
ถ้าตกลงไปก็คง...
“ทำไมอยู่ไกลขนาดนี้กันนะ” บ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะยืดตัวขึ้นยืนเหมือนเดิม กำลังครุ่นคิดถึงวิธีที่จะเอาเสื้อของตัวเองกลับมาให้ได้อยู่ไม่นาน...คยองซูก็โดนผลักลงน้ำโดยไม่รู้ตัว
เสียงเหมือนสิ่งของที่ตกลงไปในน้ำดังลั่น เพื่อนในห้องคนอื่นที่แอบอยู่ตามมุมต่างๆเดินออกมาจากที่ซ่อนพร้อมกับหัวเราะพร้อมกัน เป็นจอนจองกุกนั่นเองที่แกล้งโดคยองซู
“เห็นวันนี้คยองซูยังไม่ลงน้ำ ฉันก็เลยช่วย ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะร่วนของเพื่อนในห้องดังไปทั่ว จองกุกเลือกช่วงเวลาใกล้เลิกคาบเรียนเป็นเวลาแกล้งคนตัวเล็กเพราะอาจารย์มักจะไม่อยู่แถวๆนี้
“อึก..ช่..ช่วยด้วย..ฉันว่ายน้ำ..ไม่เป็น..แค่กๆ” คยองซูร้องขอความช่วยเหลือออกมาอย่างยากลำบาก แขนขาเล็กตีน้ำจนกระเด็นไปทั่ว ตะเกียกตะกายที่จะขึ้นมาแต่เขาก็ทำไม่ได้เพราะมันอยู่ห่างจากขอบสระเกินไป
“นี่จองกุก...คยองซูจะไม่จมน้ำหรอ” เพื่อนผู้ชายอีกคนเอ่ยถาม
“นายจะไปกลัวอะไร เปลี่ยนชุดกันหมดแล้วใช่มั้ย กลับห้องเรียนกันทุกคน” ว่าจบจองกุกและเพื่อนในห้องก็หันหลังให้คนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ ไม่มีใครสนใจเสียงร้องขอ..
“อย่า..เพิ่งไป ช่วยด้วย..แค่กๆ” เพราะคนตัวเล็กยังตั้งสติไม่ได้แถมตอนนี้ทั้งกลัวจมน้ำอีกต่างหาก คยองซูจึงทำได้แค่เพียงพยายามตะเกียกตะกายอยู่ในสระเหมือนคนบ้า
ทำไมต้องแกล้งกันแรงขนาดนี้นะ...
เพราะชั่วโมงนี้เป็นชั่วโมงสุดท้ายของการเรียนการสอนในวันนี้จึงไม่มีห้องไหนใช้ที่นี่ต่อ เว้นแต่ว่าจะเป็นพวกนักกีฬาว่ายน้ำที่มาใช้สระเพื่อฝึกซ้อม แต่กว่าทุกคนจะมา...คยองซูก็อาจจะไม่รอด
“อึก..” คนตัวเล็กหมดแรง...หลังจากพยายามร้องตะโกนและตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำมานานหลายนาที คยองซูพยายามแล้ว....แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด
ใครก็ได้...ช่วยคยองซูที
แม่ครับ..ช่วยผมด้วย
แบคฮยอน..นายอยู่ที่ไหน
มีคนเคยบอกว่าถ้าเรากำลังจะตาย..ภาพตั้งแต่สมัยเด็กของเราจะผุดขึ้นมาในห้วงความคิดอีกครั้ง เหมือนกับที่คยองซูกำลังเจออยู่ตอนนี้ ภาพครอบครัวโดที่มีทั้งพ่อ แม่และคยองซูตัวน้อยกำลังนั่งทานไอศกรีมด้วยกันหลังจากที่พ่อของคยองซูเสร็จงาน ภาพที่แม่ของคยองซูมาส่งที่โรงเรียนอนุบาล ภาพที่พ่ออุ้มคยองซูตัวน้อยขึ้นขี่หลัง...
คยองซูไม่ไหวแล้ว..
คนตัวเล็กมองขึ้นไปบนขอบสระน้ำที่อยู่ด้านบน...เหมือนเขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ เหมือนผู้ชายคนนั้นคือพ่อของคยองซูที่ขึ้นสวรรค์ไปแล้ว
พ่อ..พ่อมารับผมไปอยู่ด้วยใช่มั้ยครับ
...หลังจากนั้นสติของคยองซูก็หมดลง
ซ่า !
เสียงเหมือนสิ่งของตกลงไปในน้ำอย่างแรงดังไปทั่ว แบคฮยอนรีบกระโจนลงไปในสระแล้วนำร่างที่ไม่ได้สติของโดคยองซูขึ้นมาบนฝั่ง
ใจของเขากระตุกวูบ...อย่าเป็นอะไรนะคยองซู
“คยองซู....คยองซูได้ยินฉันมั้ย” ร่างสูงวางร่างเล็กลงที่บริเวณข้างสระน้ำ นั่งชันเข่าอยู่ข้างๆพลางเรียกอยู่อย่างนั้นหวังว่าอีกคนจะได้สติ มือหนาตบที่แก้มใสเบาๆหากแต่คยองซูก็ยังนอนนิ่งอยู่
แบคฮยอนแนบหูลงกับหน้าอกข้างซ้ายของอีกคน หัวใจยังเต้นอยู่แสดงว่าคยองซูยังรอด ร่างสูงพยายามเรียกแต่เรียกยังไงคยองซูก็ไม่ได้ยิน ร่างเล็กยังนอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้นจนแบคฮยอนใจไม่ดี
คงเหลือวิธีสุดท้าย..ผายปอด
“นายต้องตื่นขึ้นมานะคยองซู” แบคฮยอนพูดแค่นั้นก่อนจะหายใจเข้าเต็มปอดพร้อมกับใช้มือหนาบีบจมูกคนตัวเล็กไว้เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไป ร่างสูงรีบก้มลงแล้วใช้ปากของตนครอบทับกับปากของคยองซู เปาลมเข้าไปในปอดของคนตัวเล็กสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามอง
“คยองซูตื่นสิ..ได้ยินฉันมั้ย” แบคฮยอนพยายามร้องเรียกพร้อมกับช่วยผายปอดให้คยองซูอยู่สักพัก...ไม่นานคนตัวเล็กก็ได้สติ
“แค่กๆ..อึก”
“คยองซู !! ฟื้นแล้วหรอ” เมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเล็กลืมตา แบคฮยอนก็ดึงร่างที่นอนราบกับพื้นอยู่ขึ้นมากอดทันที
“มันเกิดอะไรขึ้นน่ะคยองซู..ฉันตกใจแทบแย่นะรู้มั้ย” ถามทั้งที่ยังกอดอีกคนไว้แน่น
“แค่กๆ แบคฮยอน..ปล่อยก่อนฉันหายใจไม่ออก”
“อ๊ะ..ฉันขอโทษๆ” คนตัวสูงกว่ารีบผละอ้อมกอดนั่นออกทันที คยองซูที่เพิ่งได้สติค่อยๆหายใจเข้าช้าๆเพราะเขาเองก็ตกใจเหมือนกัน
“แค่กๆ...ขอบใจนายมากเลยนะแบคฮยอนถ้าไม่ได้นายฉันคง..อ๊ะ ชุดนักเรียนนายเปียกหมดเลยนี่” คยองซูทำตาโตเมื่อเห็นว่าอีกคนเปลี่ยนเป็นชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าชุดนักเรียนมันกลับเปียกชุ่ม
“ไม่เป็นไรหรอกน่าเดี๋ยวก็กลับบ้านแล้ว นายนั่นแหล่ะไปเปลี่ยนชุด...แล้วมาเล่าให้ฉันฟังด้วยว่าทำไมถึงเกือบจมน้ำแบบนี้”
“…..”
“ฉันตกใจขนาดไหนนายรู้บ้างมั้ยคยองซู” เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนสองคน คยองซูไม่ได้ตอบอะไรออกไป รู้แล้วว่าแบคฮยอนเป็นห่วงตัวเองมากแค่ไหน แต่ตอนนี้มัน..
ตึกตัก..ตึกตัก
คยองซูกำลังรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงเกินไป มันเกี่ยวกับที่ตัวเองเกือบจมน้ำหรือเปล่านะ...บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาตกใจเกินไปก็ได้
“แบคฮยอน..คือ ชุดนักเรียนฉันมัน..” คนตัวเล็กพูดๆช้าพลางมองไปทางสระว่ายน้ำ เสื้อและกางเกงนักเรียนลอยอยู่กลางสระ มันเปียกชุ่มน้ำไปหมด
“ฉันพยายามจะเอามันกลับมาแต่ก็ดันพลาด แล้วฉันก็ไม่ได้เอาชุดพละมาเปลี่ยนด้วย…วันนี้ก็คงได้เดินกลับตัวเปียกแบบนี้แหล่ะ” คนตัวเล็กยู่ปากอย่างขี้เล่น หากแต่แบคฮยอนกลับไม่ขำด้วย ร่างสูงลุกขึ้นแล้วลงไปเอาเสื้อผ้าในสระมาให้ก่อนจะลงข้างๆคนตัวเล็กเหมือนเดิม
“ขอบคุณนะ..”
“จองกุกใช่มั้ย ?”
“แกล้งกันถึงตายขนาดนี้..จอนจองกุกอีกแล้วใช่มั้ย” แบคฮยอนถามเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยแววตาจริงจัง “ทำไมยอมให้มันแกล้งได้อีกล่ะคยองซู”
“ก็ฉันไม่รู้ว่าจะมีคนผลักจากด้านหลังนี่” ตอนนี้คยองซูเหมือนเด็กที่กำลังถูกอาจารย์จับได้ว่าทำความผิด เด็กน้อยอมลมจนแก้มพองพลางก้มหน้างุดเหมือนรู้สึกผิด
“….”
“แบคฮยอนดุคยองซูทำไม..”
“....”
“แหน่ะ..เงียบ ฮ่าๆๆ ทนความน่ารักของคยองซูไม่ได้อ่ะดิ๊” คยองซูเงยหน้าขึ้นพร้อมกับหลุดขำที่เห็นแบคฮยอนเงียบไป สายตาของคนร่างสูงมองมาที่ใบหวานแล้วแบคฮยอนก็ยิ้มออกมาเขินๆเช่นกัน
“ง..เงียบอะไรล่ะ ไม่ต้องมาแอ๊บเด็กเลยนะคยองซู ไปๆลุกขึ้นได้แล้ว เดี๋ยวนายเอาชุดพละของฉันไปเปลี่ยนซะ...แล้วรีบกลับบ้าน เดี๋ยวไม่สบาย”
“แล้วแบคฮยอนล่ะ” คยองซูถามด้วยความเป็นห่วง
“ก็เดี๋ยวมีคนมารับค่อยให้ที่บ้านเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนก็ได้ ลุกได้แล้วเด็กน้อย” พูดแค่นั้นก่อนจะพยุงอีกคนให้ลุกขึ้นตาม แบคฮยอนเดินไปหยิบเสื้อพละของตนให้คยองซูก่อนจะรอคนตัวเล็กเปลี่ยนชุดอยู่หน้าห้องอาบน้ำ
คยองซูชอบกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มอ่อนๆที่ติดอยู่ที่ชุดของแบคฮยอนนะ...เวลาอยู่ใกล้ๆกันคยองซูก็มักจะได้กลิ่นของมันเสมอ คนตัวเล็กไม่รู้หรอกว่ากลิ่นนี่มันเป็นกลิ่นของดอกไม้หรือกลิ่นของอะไร แต่คยองซูชอบมันมากจริงๆ ...ไม่รู้ว่าชอบเพราะมันหอมหรือชอบเพราะว่าแบคฮยอนเป็นคนใช้กลิ่นนี้กันแน่
อะไรที่เป็นแบคฮยอน..คยองซูก็ชอบหมดนั่นแหล่ะ
อ่า..นี่เป็นอะไรไปเนี่ยโดคยองซู
[70%]
“กลับมาแล้วครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างไร้อารมณ์หวังให้ผู้เป็นพ่อได้ยิน รองเท้านักเรียนถูกถอดออกแล้วร่างสูงจึงนำมันไปวางไว้ในตู้เก็บรองเท้า
ไม่มีเสียงตอบกลับมาอย่างเคย แบคฮยอนจึงเดินเข้ามาในตัวบ้านผ่านห้องโถงกลางที่มักจะใช้เป็นที่รับแขกและเป็นที่พักผ่อนประจำของสมาชิกในบ้าน แต่ครั้งนี้กลับไม่มีใครอยู่เลยทั้งคุณพ่อและคุณปู่ ร่างสูงจึงเดินเข้าไปในห้องทานข้าวเผื่อว่าทุกคนอาจจะรับประทานอาหารกันอยู่
“อ้าวแบคฮยอน วันนี้ไม่มีงานหรอทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นลูกชายคนเดียวกำลังเดินเข้ามา
แบคฮยอนมองภาพตรงหน้า...มันเป็นภาพที่คุ้นเคยตั้งแต่แม่ของเขาเสียชีวิต มันเป็นภาพที่ต้องทนดูมานับสิบๆปี ภาพที่พ่อของเขาเอาผู้หญิงอื่นมานั่งดื่มในบ้าน
แทซองรู้มาตลอดว่าลูกชายของตนไม่ชอบอะไรแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร แต่เขาก็มักจะบอกกับลูกเสมอว่ารักแม่ของแบคฮยอนคนเดียว คนอื่นมันก็แค่ของเล่น..ทั้งๆที่แทซองไม่เคยถามใจตัวเองจริงๆสักครั้ง
“ผมบอกแล้วไงว่าถ้าจะดื่มกับใครพ่อก็ควรพาผู้หญิงของพ่อไปที่อื่น....ไม่ใช่ที่บ้านของผม” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แววตาที่มองผู้หญิงคนนั้นกลับมากด้วยความเกลียดชัง ที่นี่คือบ้านของตระกูลบยอน...ที่ที่แม่ของแบคฮยอนอยู่ แบคฮยอนจึงไม่ชอบใจนักที่พ่อเอาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามา
“มันเป็นการไม่ให้เกียรติแม่ของผม” พูดแค่นั้นก่อนที่ร่างสูงจะเดินหายเข้าไปในครัว บยอนแทซองถึงกับผงะไปเล็กน้อยเมื่อแบคฮยอนพูดถึงภรรยาที่ล่วงลับไปแล้วของเขา
“วันนี้คุณปู่ไม่อยู่หรอครับ ทำไมพ่อเอาผู้หญิงเข้ามาได้” แบคฮยอนเอ่ยถามกับเมดสาวเมื่อมาถึงในห้องครัว
“ไม่อยู่ค่ะ วันนี้คุณท่านเข้าบริษัทไปตอนบ่าย..เห็นบอกว่ากลับสักสามสี่ทุ่มนู่นแหน่ะค่ะ” เธออธิบาย
“อ๋อครับ พี่ช่วยเอาอาหารเย็นขึ้นไปบนห้องให้ผมหน่อยนะ...วันนี้ผมไม่มีอารมณ์ทานที่โต๊ะ” ร่างสูงเอ่ยสั่งกับเมดสาวก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไป ตอนเดินผ่านผู้เป็นบิดาก็ไม่แม้แต่จะมอง
แบคฮยอนโยนกระเป๋าลงกับเตียงนอนกว้างก่อนจะล้มตัวลงนอนตามกระเป๋าของตัวเองไปบ้าง
“ตอนนี้คยองซูจะเป็นยังไงบ้างนะ...จะเป็นหวัดหรือเปล่านะเด็กน้อย” ร่างสูงพึมพำกับตัวเองเบาๆ นึกเสียใจอยู่นิดๆที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายอาทิตย์แต่กลับไม่ได้ขอเบอร์โทรศัพท์คยองซูไว้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงจะได้โทรคุยกันไปแล้ว
ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น แบคฮยอนเด้งตัวขึ้นจากที่นอนก่อนจะเดินไปเปิดประตู เป็นแม่บ้านคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานนี่เองที่ถืออาหารเย็นเข้ามาให้ เธอยิ้มให้ลูกชายคนเดียวของเจ้านายอย่างใจดี
“เอาเข้ามาวางไว้บนโต๊ะก่อนครับป้า” แบคฮยอนหลีกทางให้ผู้อาวุโสกว่าเดินเข้ามาในห้อง เธอจัดการวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะตามคำสั่งแล้วเตรียมจะออกจากห้องแต่โดนแบคฮยอนเรียกไว้ก่อน
“มีอะไรหรอคะคุณหนู”
“อย่าเรียกผมว่าคุณหนูเลยครับป้า เรียกว่าแบคฮยอนก็พอแล้ว”
“ค่ะ..คุณแบคฮยอน มีอะไรให้ป้าช่วยหรอคะ”
แบคฮยอน..ชื่อนี้มันคุ้นๆ
“ผมแค่อยากทำความรู้จักกับป้านิดหน่อยน่ะครับ ป้าก็ทำงานที่บ้านหลังนี้มาหลายวันแล้ว...แต่เรายังไม่รู้จักกันเลย ป้าชื่อมินยองใช่มั้ยครับ” แบคฮยอนพูดยิ้มๆพลางเดินไปหยิบถุงยาในกระเป๋านักเรียนแล้วนำมาวางไว้ข้างๆอาหารเย็นของตน
“คุณแบคฮยอน..ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ” เธอเอ่ยถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเมื่อมองเห็นถุงยานั่น
“ผมมีโรคประจำตัวน่ะครับ ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นหรอก...วันนี้อาการก็เกือบกำเริบที่โรงเรียน”
“เอ..จะว่าไป คุณแบคฮยอนเองก็อยู่โรงเรียนเดียวกับลูกชายของป้าเลยนะคะ..พอดีลูกชายป้าได้ทุนไปเรียนที่นั่นน่ะค่ะ”
“จริงหรอครับ ถ้าอย่างนั้นป้าคง...ภูมิใจในตัวลูกมากเลยใช่มั้ยครับ”
“ใช่ค่ะ..ป้ามีแค่ลูกชายคนเดียว แล้วแกก็ไม่เคยทำให้ป้าผิดหวัง” ไม่รู้ทำไมแบคฮยอนถึงได้รู้สึกอิจฉาลูกชายของป้ามินยองขนาดนี้กันนะ... เหมือนกับว่าลูกชายของป้าได้ความรักความอบอุ่นเต็มที่แม้จะมีแค่แม่คนเดียว แต่แบคฮยอนก็ยังเหลือพ่อ..ทำไมเขาไม่เคยรู้สึกแบบนั้น
“ป้าโชคดีมากเลยครับ” ร่างสูงพูดยิ้มๆ
“ว่าแต่..คุณแบคฮยอนเป็นโรคอะไรกันแน่คะ ป้าจะได้เตรียมของว่างแล้วก็ดูแลคุณหนูของป้าได้ถูก”
“.....”
“บอกป้าเถอะค่ะ ป้าเป็นห่วง” แบคฮยอนยิ้มให้มินยองทันทีที่เธอบอกว่าเป็นห่วงเขา ร่างสูงพาผู้อาวุโสนั่งลงกับเตียงแล้วแบคฮยอนก็นั่งข้างๆก่อนจะเริ่มพูดต่อ
“วันนี้ชั่วโมงสุดท้ายห้องผมมีเรียนว่ายน้ำครับ แต่วันนี้อาจารย์ปล่อยฟรี” แบคฮยอนเริ่มเล่าเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น ป้ามินยองเองก็ต้องใจฟังเผื่อว่าลูกชายของเจ้านายอาจจะมีอะไรอยากระบาย
“เพื่อนผมคนหนึ่งในห้องถูกแกล้งครับ...เขาโดนผลักตกน้ำ แต่เจ้าตัวว่ายน้ำเองไม่เป็น โชคดีที่ผมมาช่วยไว้ได้ทัน...เพื่อนผมคนนี้เลยไม่เป็นอะไร”
“...”
“แต่ผมก็ตกใจมาก ผมกลัวว่าผมจะเสียเค้าไปด้วยซ้ำ” แบคฮยอนพูดยิ้มๆเพราะขำตัวเองที่ดูจะเป็นห่วงคยองซูเกินไป
“แล้ววันนี้อาการของผมก็เกือบกำเริบเพราะความกลัวของผม...ผมสัญญาว่าผมจะดูแลเค้า วันนี้ผมเกือบผิดสัญญา ถ้าผมมาช้าอีกแค่นิดเดียว..”
“คุณ..”
“ผมเป็นโรคหอบครับ..อาการของผมมันชอบกำเริบตอนที่ผมกลัวหรือเครียด”
“….”
“ก็แค่กลัวว่าวันหนึ่งที่ผมเป็นฝ่ายอ่อนแอเองแล้วผมจะดูแลเพื่อนของผมคนนี้ไม่ได้ เขามักจะถูกแกล้งแบบนี้อยู่เสมอ เขาพยายามจะสู้แต่ผลที่ได้กลับมามันกลับไม่เป็นอย่างที่ต้องการ”
“ป้าเข้าใจแล้วค่ะ เพราะอย่างนั้นคุณแบคฮยอนก็ต้องเข้มแข็งนะคะ คุณจะได้อยู่กับเพื่อนของคุณไปตลอด จะได้ดูแลเขาตลอดไปไง”
“ผมกลัว...ถ้าวันนี้อาการของผมกำเริบ..”
“เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่านะคะ...ทานข้าวเยอะๆแล้วทานยานะคะ อย่าเครียดนะคนเก่งของป้า” ป้ามินยองให้กำลังใจพร้อมกับยิ้มกว้าง มือนุ่มลูบศีรษะของร่างสูงอย่างอ่อนโยน แบคฮยอนรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ...เหมือนเขาไม่ได้กำลังปรึกษากับใครคนอื่น เหมือนเขากำลังปรึกษากับคนที่เป็นแม่...
“ผม..ขอกอดป้าได้มั้ยครับ” แบคฮยอนเอ่ยถามเสียงแผ่ว ผู้อาวุโสกว่ายิ้มกว้างให้ก่อนจะดึงร่างสูงเข้ามากอดอย่างเอ็นดู
มันอบอุ่นจริงๆด้วย...
[100%]
พี่แบคฮยอนของเราเป็นโรคหอบนี่เอง...แหม่ ก็ไม่ได้ร้ายเเรงอะไรมากนะคะโรคนี้
แต่ก็แค่มีข้อมูลบอกว่ามาว่า...
' โรคนี้เมื่ออาการกำเริบหนักจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะอาจทำให้หลอดลมตีบจนไม่สามารถหายใจได้ จนทำให้หัวใจล้มเหลวในที่สุด'
ไรท์ก็แค่พูดเฉยๆอ่ะนะคะ ไม่มีอะไรเลยจริงๆ จริงจริ๊งงงง
เม้น + แท็กในทวิตเตอร์ #FicBD ให้ไรท์ด้วยนะคะ
เค้าต้องการกำลังใจ คึคึ
ถ้ารีดเดอร์น่ารักไรท์เตอร์ก็จะไม่ดองฟิค
ซารางเฮ จุ๊บๆ
ความคิดเห็น