ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] Because you're my frienD [BaekDo]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 707
      8
      27 เม.ย. 57

     

    Fic’Because you’re my FrienD

    {Baekhyun x D.O}

    #FicBD

     

    ::Chapter 3::

     

    มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์จะได้รัก

    แต่จะมีสักกี่คนที่ได้ความรักกลับคืนมา

    เพราะความรักมักไม่ยั่งยืน

     

           โลกใบเดิม

           คยองซูกำลังก้าวเข้าสู่โลกใบเดิมของเขาอีกครั้ง  โลกที่มีแต่ความโดดเดี่ยว  โลกที่มีแต่คนมาทำร้าย

           ขาเรียวเล็กหยุดลงที่หน้าห้องเรียนเหมือนทุกครั้ง แค่ไม่อยากเดินเข้าไปเพื่อพบกับความเจ็บปวด  ต่อให้ต้องยืนอยู่ที่หน้าห้องแบบนี้ทั้งวันคนตัวเล็กก็ยอมถ้ามันช่วยให้คยองซูไม่โดนรังแก

           ยิ่งเข้าไปแล้วต้องเจอหน้าแบคฮยอนก็ยิ่งรู้สึกผิด  ทั้งๆที่แบคฮยอนทำดีกับคยองซูทุกอย่างแต่คยองซูกลับพูดทำร้ายจิตใจไปแบบนั้น  พูดเหมือนแบคฮยอนเป็นตัวถ่วงในชีวิต  ทั้งๆที่ร่างสูงเป็นเพื่อนคนเดียวของตัวเองแท้ๆ 

            คยองซูเห็นแก่ตัวเกินไป..ไม่อยากให้ตัวเองเจ็บจนต้องพูดทำร้ายจิตใจคนอื่น  ความจริงคยองซูเองก็เจ็บเหมือนกัน...ทั้งๆที่แบคฮยอนทำให้ตัวเองมีความสุขแท้ๆแต่กลับบอกว่าเพราะแบคฮยอนจึงทำให้ตัวเองต้องเจ็บปวด 

            คิดอะไรอยู่นะโดคยองซู.. 

     

            เฮ้อ..”

            “ขอทางหน่อยได้มั้ย”  เสียงเรียบนิ่งที่ดังมาจากด้านหลังทำให้คยองซูถึงกับสะดุ้ง  ร่างเล็กรีบหลีกทางให้อีกคนก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองช้าๆ

            บยอนแบคฮยอน

            เอ่อ....แบคฮยอน..สวัส..” ยังไม่ทันที่คยองซูจะเอ่ยทักจนจบประโยค  คนร่างสูงก็เดินตัดหน้าเข้าห้องไปทันที  ไม่ได้สนใจคยองซูเลยสักนิด

            อ้าวคยองซู ! มัวทำอะไรอยู่ เข้ามาสิเด็กน้อย”  จอนจองกุกที่นั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนในห้องตะโกนเรียก  วินาทีนั้นเองที่คยองซูต้องยอมรับความจริงแล้วก้าวเข้ามาในห้อง

            คยองซูหลับตาปี๋มันต้องมีอะไรบางอย่างโยนมาใส่ตัวเขาแน่ๆ

          ปึก !

            โอ๊ย !”  มือเล็กยกขึ้นถูหน้าผากตัวเองเบาๆเพราะความเจ็บปวดที่มากกว่าทุกครั้งที่โดนทำร้าย  ไม่ใช่เศษกระดาษที่โยนมาอย่างเคย  แต่มันคือแท่งปากกาที่ฟาดเข้าหน้าผากคยองซูเต็มๆจนมันเป็นแผลและเลือดออก

            แบคฮยอนเพียงแค่หันกลับไปมองคยองซูแวบหนึ่งเท่านั้นก่อนจะเดินไปที่นั่งตัวเองด้วยท่าทีเมินเฉย

           เฮ้ย ! คยองซูเป็นแผลเลยหรอ  ขอโทษๆยังไงก็ฝากทิ้งปากกาด้ามนั้นด้วยแล้วกันนะ ฮ่าๆ”  โดนแกล้งแบบเดิมๆเหตุผลเดิมๆ

            คยองซูใช้มือเล็กปิดแผลตัวเองไว้ถึงแผลจะไม่ได้ลึกแต่มันก็เจ็บมากพอสมควร  ร่างเล็กก้มลงเก็บปากกาก่อนจะเดินไปที่หลังห้องแล้วนั่งลงกับโต๊ะเรียนตัวเดิม  นั่งเงียบๆคนเดียว

           เจ็บจัง..

            วันนี้แบคฮยอนไม่เล่นด้วยหรอคยองซู หืม?”  จองกุกหันถามกวนประสาท  ทั้งๆที่เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นก็เพราะตัวเองทั้งนั้น

            “จะคุยอะไรกันก็คุย  ไม่ต้องเอาฉันไปเกี่ยวข้อง”  แบคฮยอนพูดเสียงเรียบพร้อมกับส่งสายตาเย็นชาให้จองกุก  หัวโจกของห้องกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างสะใจ

           แบคฮยอนพูดแบบนี้คงโกรธคยองซูมากๆเลยใช่มั้ย?

            จอนจองกุก ไปนั่งที่ได้แล้ว”  เป็นอาจารย์ประจำชั้นที่เดินเข้ามาในห้องแล้วเอ่ยสั่งเสียงเรียบ จองกุกเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองอย่างหัวเสียเพราะถูกขัดจังหวะการแกล้งคยองซู   และเมื่อห้องทั้งห้องเริ่มเงียบอาจารย์สาวสวยจึงเริ่มพูดขึ้น

            พวกเราคงรู้กันดีอยู่แล้วนะว่าอีกหนึ่งอาทิตย์จะมีการสอบปลายภาค

            “โอ๊ยย ! สอบอีกแล้วหรอเนี่ย”  เสียงนักเรียนในห้องเริ่มบ่นกันจ้อกแจ้กจนอาจารย์สาวต้องกระแอมให้ทั้งห้องเงียบแล้วจึงเริ่มพูดต่อ

            “เอาล่ะๆ  ถ้าสอบเสร็จแล้วก็จะมีการปิดเทอมเป็นเวลาหนึ่งเดือน  ครูหวังว่าพวกเธอจะใช้เวลาหนึ่งเดือนนี้ให้เป็นประโยชน์นะ  อีกสิบนาทีเริ่มเรียนคุณครูคนสวยว่าแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากไป  เสียงคุยกันดังจ้อกแจ้กดังขึ้นในทันที  คยองซูเองก็ตัดสินใจลุกจากโต๊ะของตัวเองเพื่อจะออกไปล้างแผลหากแต่เขากลับถูกจอนจองกุกยืนขวางทางไว้

            “จะไปไหนคยองซู

            “ไป..ล้างแผล”  คนตัวเล็กเอ่ยแผ่วเบา  ใบหน้าหวานก้มมองพื้นไม่ยอมเงยขึ้นไปคุยกับอีกคน

            หรอ  งั้นรีบไปเถอะเอ้อ ไม่ต้องเข้าไปล้างในห้องพยาบาลนะ  ใช้น้ำจากก๊อกล้างก็พอแล้ว”         คยองซูเงยหน้าขึ้นมองจองกุกทันที  อะไรกันไปห้องพยาบาลก็ไม่ให้ไป  แล้วแบบนี้คยองซูจะไปหาพาสเตอร์ปิดแผลจากที่ไหนกัน

             “แต่ว่า..ฉันไม่มีอะไรปิดแผล ฉันขอไปเอาพลาสเตอร์ที่…”

             “อย่าให้ฉันเห็นว่ามีพลาสเตอร์ปิดแผลนายนะ...ไม่อย่างนั้นจะเจอเยอะกว่าเมื่อวานประโยคหลังคยองซูแทบต้องกลั้นลมหายใจ  จองกุกยื่นหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆอย่างน่ากลัว  คนตัวเล็กทำได้แค่เม้มปาก..พนักหน้าช้าๆเป็นเชิงว่าเข้าใจก่อนจะค่อยเดินออกจากห้องไปทันที

     

     

              Baekhyun’part

     

                ไม่ว่าจะเจอกันกี่ครั้งๆคยองซูก็ยังยืนก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม  ทำไมไม่ยอมฟังกันบ้างนะ

                แต่ว่า..ฉันไม่มีอะไรปิดแผล ฉันขอไปเอาพลาสเตอร์ที่…”

              “อย่าให้ฉันเห็นว่ามีพลาสเตอร์ปิดแผลนายนะ...ไม่อย่างนั้นจะเจอเยอะกว่าเมื่อวาน”  ผมได้ยินคยองซูกับจองกุกคุยกันชัดเจน  แต่ผมแค่ไม่อยากจะสนใจเพราะในเมื่อคยองซูพูดแบบนั้นออกมาแล้วผมควรจะหยุดเป็นห่วงคยองซูดีกว่า

                เพราะผมทำให้คยองซูต้องเจ็บ  เพราะผมเป็นห่วงคยองซูเพราะฉะนั้นในฐานะเพื่อนก็ต้องยอมถอยออกมา 

                ไม่ใช่ผมว่าไม่อยากเป็นเพื่อนกับคยองซูหรอกนะแต่คยองซูไม่อยากเป็นเพื่อนกับผม..คนที่ทำให้คยองซูต้องถูกทำร้าย  เพิ่งย้ายโรงเรียนมาวันแรกผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นคยองซูที่ผมอยากจะคุยด้วย

                ว่าแต่แผลของคยองซูคงไม่ลึกมากหรอกใช่มั้ย

                ไวเท่าความคิดผมลุกขึ้นจากโต๊ะเรียนของตัวเองแล้วเดินตรงไปห้องพยาบาลทันที และจองกุกก็ใช้หางตามองมาด้วยท่าทางแปลกๆ  แต่ช่างเถอะจะไปสนใจทำไมกันล่ะ

                ผมเดินออกจากห้องมาคนเดียวจนถึงห้องพยาบาล  โชคดีที่อยู่ชั้นเดียวกันก็เลยไม่ต้องเดินไกลมาก 

                เอ่อ..อาจารย์ครับ  ผมมาขอพลาสเตอร์ปิดแผลครับ

                “เป็นแผลตรงไหนล่ะ  ต้องล้างแผลก่อนนะ”  อาจารย์ห้องพยาบาลสาวแนะนำ

                อ่า..ไม่เป็นอะไรครับ  ผมขอแค่พลาสเตอร์ก็พอ

                “อืมถ้าอย่างนั้นก็เขียนบันทึกข้อมูลตามนี้นะ  เดี๋ยวครูไปเอามาให้”  ว่าจบครูสาวก็ยื่นสมุดเล่มยาวๆออกมาให้ผมเขียนแล้วเธอก็เดินไปหยิบแผ่นพลาสเตอร์ก่อนจะกลับมาตอนที่ผมเขียนเสร็จพอดี

              ชื่อผู้ป่วย..เอาเป็นชื่อเราแล้วกัน

                นี่ครับอาจารย์….ขอบคุณครับ”  ผมรับพลาสเตอร์มาจากมือก่อนจะโค้งลาแล้วเดินกลับมาที่ห้องเรียนเหมือนเดิม 

                ผมขอมันมาแต่ไม่ได้จะเอามาใช้เองหรอกครับ  แค่จะเอามาให้คยองซู  คนตัวเล็กคงจะไม่มีพลาสเตอร์แน่ๆ..เอาใส่กระเป๋าไว้ก่อนแล้วกัน  ถ้าจองกุกเห็นจะแย่เอา

                ไหนบอกจะเลิกเป็นห่วงคยองซูไงบยอนแบคฮยอน

              กริ๊งงง !

                เสียงออดเริ่มคาบเรียนคาบแรกดังขึ้นแบคฮยอนจึงรีบวิ่งเพื่อให้ทันเข้าห้องเรียนทันที กลัวจะช้ากว่าอาจารย์วิชาแรกแล้วจะโดนดุเอาได้

                แต่มันเหมือนกับผมเห็นใครกำลังเดินมาจากอีกฝั่งเหมือนกันนะ  ผมคิดว่าเป็น

                “คยองซู..”  ผมเผลอเรียกชื่อเพื่อนตัวเล็กออกมาแผ่วเบาเมื่อแน่ใจแล้วคนตรงหน้าคือใคร  จากที่เราสองคนรีบวิ่งจะเข้าห้อง แต่พอเห็นกันและกันต่างคนต่างก็เดินช้าลงทันที 

              ผมกับคยองซูเราไม่ได้ตั้งใจจะมองตากันหรอกใช่มั้ย

                คยองซูหยุดเดินทันทีทั้งๆที่อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงประตูห้องแล้ว  ใบหน้าหวานของอีกคนเบือนหนีไปอีกทางทันที  ผมหน้าม้าสีดำเปียกชุ่มไปด้วยน้ำและบางทีคยองซูก็อาจจะไม่รู้ตัวว่าเลือดกำลังซึมออกมาจากแผลอีกครั้ง

                เพราะความเป็นห่วงหรืออะไรสักอย่างผมจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนบางออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินไปหาคนตัวเล็ก แต่คยองซูกลับยิ่งเดินถอยหลังกลับไปเสียอย่างนั้น

                คยองซู..พอดีเลือดนายมันยังออกอยู่เลย  เอาผ้าเช็ดหน้า..”

                “อาจารย์เดินมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันเข้าห้องก่อนนะ”  ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบคยองซูก็ปฎิเสธความหวังดีของผมเสียอย่างนั้น  ไม่ชอบกันขนาดนั้นเลยหรอคยองซู


                ผมมองคนตัวเล็กเดินก้มหน้าเดินเข้าห้องก่อนจะเดินตามเข้าไปด้วยเหมือนกันเมื่อเห็นว่าอาจารย์กำลังมาแล้วจริงๆเดินเข้าไปพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ

                อยากเป็นเพื่อนกับคยองซูแค่ไหนก็เป็นไม่ได้

                อยากจะดูแลคนตัวเล็กแค่ไหนก็ทำไม่ได้

                ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องรู้สึกแบบนี้


                End Part..

     

     

     

               “ทำความสะอาดห้องเสร็จแล้วรีบกลับบ้านนะคยองซู  ฉันเป็นห่วง..หึ”   จองกุกเดินมาหาคนตัวเล็กหลังจากคาบเรียนสุดท้ายสิ้นสุดลง  เพื่อนทุกคนได้กลับบ้าน..มีแต่คยองซูที่ยังต้องอยู่ต่อ

               พูดเหมือนเป็นห่วงแต่ความจริงจองกุกก็แค่จะมาเยาะเย้ยก็เท่านั้น

               คยองซูก้มหน้ารับฟังอีกคนพูดอยู่อย่างนั้นไม่ได้ตอบโต้อะไร  ไม่นานเพื่อนทั้งห้องรวมถึงจองกุกก็ออกจากห้องไปจนหมด  เหลือแค่คนตัวเล็กคนเดียวเท่านั้น

     

     

     

     

               คยองซูนอนฟุบลงกับโต๊ะเรียนด้วยความเหนื่อยอ่อนเพราะเพิ่งทำความสะอาดห้องทั้งห้องเสร็จด้วยตัวคนเดียว  คนตัวเล็กยังไม่กลับบ้านทันทีเพราะตอนนี้แม่ของเขาก็คงไม่อยู่  แม่บอกว่ากว่าจะทำงานเสร็จก็คงจะสองสามทุ่ม  คยองซูจึงไม่นึกรีบร้อนที่จะกลับบ้าน

               คงจะเป็นเพราะความเหนื่อยร่างเล็กจึงเผลอหลับโดยไม่รู้ตัว...ไม่รู้ตัวจริงๆว่ามีบางคนกำลังเดินเข้ามาในห้อง

     

               คยองซู….”  บุคคลที่เข้ามาใหม่เอ่ยเรียกแผ่วเบา

               “…..”  เพราะคนที่ถูกเรียกกำลังหลับสนิทจึงไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากปากของคยองซู

               หลับหรอ..?”  แบคฮยอนถามทวนอีกครั้ง  นึกสงสัยว่าทำไมเพื่อนถึงได้มานอนหลับในห้องแบบนี้  แกล้งหลับหรอ….ไม่หรอก  ดูยังไงๆก็หลับจริงๆ  หลับสนิทด้วย

               แต่ก็ดีเหมือนกัน..

               คนตัวสูงกว่าเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่หลับอยู่บนโต๊ะ  แก้มใสนอนทับแขนของตัวเองอยู่  ถึงจะเห็นหน้าไม่ค่อยชัดแต่ก็เห็นแผลที่เกิดจากเมื่อเช้าชัดเจน

             ยังเป็นรอยแดงๆอยู่เลย..เจ็บมากมั้ยคยองซู

                 แบคฮยอนใช้มือของตัวเองล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วเอาพลาสเตอร์ปิดแผลออกมาก่อนจะนั่งย่อเข่ากับพื้นเพื่อที่จะได้เห็นแผลอีกคนชัดๆ... ถ้าเอาวางไว้คยองซูคงไม่ยอมติดมันแน่ๆ  งั้นทำให้เลยแล้วกัน

                 มือหนาจัดการแกะกระดาษที่ติดกับพลาสเตอร์อยู่ให้ออกจากกัน  ค่อยๆเลื่อนใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานของอีกคนช้าๆ  ปัดผมหน้าม้านุ่มออกเบาๆเพื่อให้รอยแผลชัดๆแล้วจึงจัดการแนบแผ่นพลาสเตอร์ลงกับแผลของคนตัวเล็กอย่างเบามือ 

                อ๊ะ !”  คยองซูร้องออกมาเพราะความรู้สึกแสบที่แผล  คนตัวเล็กสะดุ้งตื่นแต่ก็ยังนอนอยู่แบบนั้น  มือเล็กเอื้อมไปสัมผัสแผลของตัวเองก่อนจะพบว่ามีพลาสเตอร์ปิดไว้อยู่  ไวเท่าความคิดคยองซูจึงรีบลืมตาขึ้นทันที

                แล้วก็เห็นคนตรงหน้าบยอนแบคฮยอน

                ..เจ็บหรอคยองซู  ฉันขอโทษนะ”  แบคฮยอนมองหน้าคนตัวเล็กทั้งในท่าคุกเข่า  นัยน์ตาของคนสองคนตอนนี้กำลังมีกันและกันอยู่ในนั้น... 

                 คนตัวเล็กจึงรีบลุกขึ้นยืนทันทีเพราะอยู่ๆคยองซูก็รู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าขึ้นมาแปลกๆ มือเล็กกำลังจะแกะพลาสเตอร์ออกเพราะถ้าจองกุกเห็นคงจะได้มีเรื่องกันแน่ๆ  แต่ทว่า..แบคฮยอนกลับเอ่ยห้ามขึ้นพร้อมกับจับแขนเล็กข้างนั้นไว้ไม่ให้คยองซูแกะพลาสเตอร์ออกได้

                 แผลนายถึงมันจะไม่ลึกมากแต่มันก็อาจจะติดเชื้อได้นะคยองซู..ติดไว้เถอะนะ”  แบคฮยอนบอกน้ำเสียงอบอุ่น

                 นายไม่ได้ยินที่จองกุกพูดหรอ…” 

                 ได้ยิน..ฉันได้ยินหมดทุกอย่าง

                 “แล้วทำไม..”

                 “คยองซูฉันไม่เคยไม่เป็นห่วงนายเลยนะ

                 ตึกตักตึกตัก

               อะไรกันทำไมอยู่ๆใจมันก็เต้นแรงแบบนี้


     

                 “ถึงนายจะบอกว่าเราไม่ใช่เพื่อนกัน  แต่ฉันยังห่วงนายเสมอ..ยังอยากเป็นเพื่อนอยู่

                 “….”  คยองซูเงยหน้าขึ้นมองอีกคนช้านี่แบคฮยอนไม่เคยโกรธเขาเลยอย่างนั้นหรือ  ที่ไม่ยอมคุยกันตอนที่จองกุกอยู่ด้วยคงเพราะเป็นห่วงกลัวคยองซูจะโดนทำร้ายสินะ

                 “เงียบทำไม...เข้าใจมั้ยเด็กน้อย”  แบคฮยอนถามย้ำด้วยน้ำเสียงอบอุ่น  รอยยิ้มจริงใจที่ส่งมาให้แบบนี้มันทำให้คยองซูยิ้มน้อยๆตามออกมาได้อย่างไม่รู้ตัว

                 “ยิ้มแล้วน่ารักจะตายแต่ทำไมไม่ชอบยิ้ม หืม?”  แบคฮยอนยกมือขึ้นมายีผมคนตัวเล็กเบาๆ                 คยองซูปัดมือหนาของคนที่ตัวสูงกว่าออกพลางยู่ปากอย่างน่ารักจนแบคฮยอนเผลอขำออกมา

                 “แบคฮยอน..ขอบคุณนะแล้วก็ขอโทษด้วย”  ขอบคุณที่ไม่โกรธกัน  ขอบคุณที่ยังเป็นห่วงกันเสมอทั้งๆที่ฉันทำร้ายจิตใจนายแท้ๆ

                 แบคฮยอนไม่เคยโกรธคยองซูเลยครับร่างสูงตอบมาอย่างอารมณ์ดี

                 “ขอบคุณครับแบคฮยอน  ฮ่าๆ  จะพูดแบบนี้กันทำไมเนี่ยแต่นายกลับไปได้แล้วล่ะ  เดี๋ยวมีใครเห็นเข้า

                 “มีคนเห็นแล้วยังไงต่อ”  แบคฮยอนเอียงคอ  ทำท่าสงสัยแบบล้อเลียน

                 ก็..กลัวมีคนเอาไปบอกจองกุกแล้วฉันจะ..”

                 “แบคฮยอนจะเป็นเพื่อนกับคยองซูแบคฮยอนก็ต้องดูแลคยองซูสิ

                 ประโยคที่แบคฮยอนพูดมันเหมือนกับประโยคที่คยองซูเคยได้ยิน   ถ้าเราจะรักหรือแต่งงานกับใครเราก็จะต้องดูแลและรักคนคนนั้นสุดหัวใจ

                 ขอบคุณนะแบคฮยอน  งั้นกลับบ้านกัน”  ว่าจบคนตัวเล็กก็หันหลังกลับไปเก็บกระเป๋าของตัวเอง

                 เออ..แล้วทำไมเมื่อวานกินแค่นมแล้วเอามาสองกล่องเลยหรอ”   แบคฮยอนก็แค่สงสัย  เพราะถ้าคยองซูจะกินข้าวก็น่าจะเตรียมข้าวมาสิไม่ใช่นม

                 “ก็แค่..วันนั้นฉันตั้งใจจะเอามาให้นาย  นายกำลังจะได้เป็นดารา..ฉันเองก็ไม่ได้มีเงินซื้ออะไรแพงๆให้ก็เลยตั้งใจจะเอามากินด้วยกัน  แต่ว่า…”  แววตาของคนตัวเล็กหมองลงทันทีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น  ถึงมันจะผ่านมาแล้วแต่คยองซูก็ยังจำความรู้สึกเจ็บปวดตอนที่โดนจองกุกซ้อมกับความเจ็บปวดที่บอกว่าจะไม่เป็นเพื่อนแบคฮยอนอีกได้ดี

                 เจ็บมาก..

                 นายไม่จำเป็นต้องให้อะไรฉันหรอก แค่เป็นเพื่อนฉันก็พอ..ได้มั้ยคยองซู”  ความเงียบเข้าปกคลุมห้องเรียนสี่เหลี่ยมที่มีแค่แบคฮยอนกับคยองซูอีกครั้ง  ความจริงคนตัวเล็กอยากมีเพื่อนมากขนาดไหนใครๆก็รู้  แต่ถ้าคยองซูเป็นเพื่อนกับแบคฮยอนจริงๆทั้งสองคนก็อาจจะเดือดร้อน

                 แต่ถ้าฉันยอมเป็นเพื่อนกับนาย  จองกุกไม่ปล่อยนายไว้แน่

                 “แล้วยังไงต่อ ? ฉันเคยลากจองกุกเข้าห้องปกครองมาแล้ว  คนอะไรก็ไม่รู้ทั้งหล่อทั้งเก่ง เฮ้อเพลียจริงๆ”  บรรยากาศ
    มาคุกลับมาครึกครื้นอีกครั้งเพราะแบคฮยอนเล่นมุกหลงตัวเอง  คยองซูหลุดขำกับท่าทางปาดเหงื่อของอีกคนก่อนจะเริ่มพูดต่อ

                 ถ้าอย่างนั้น..เราก็แอบๆเป็นเพื่อนกันได้มั้ย  อีกแป๊ปเดียวก็ปิดเทอมแล้วนี่

                 “ทำไมต้องแอบด้วย

                 “นะแบคฮยอน...เพื่อความสบายใจ

                 “…..”

                 “นะแบคฮยอนคนหล่อ  งืออ..”

                 “ทำไมชอบพูดความจริง..โอเคๆ ก็ได้ๆเพราะยังไงก็ยังได้เป็นเพื่อนกับเด็กน้อยอยู่ดี”  แบคฮยอนพูดพร้อมกับยิ้มกว้างให้  คยองซูเองก็ยิ้มตอบจนตายี หลังจากนั้นทั้งสองคนจึงเดินออกจากห้องแต่ไม่พร้อมกันเพราะกลัวว่าจะมีใครมาเห็น

                  สำหรับคยองซูแค่ได้มีเพื่อนอย่างแบคฮยอนก็ดีใจแล้ว

                  สำหรับแบคฮยอนแค่ได้ดูแลคยองซูก็ดีใจแล้ว

                  ทั้งสองคนสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม  คยองซูเองก็จะพยายามเข้มแข็งขึ้นเหมือนที่แบคฮยอนบอก  อาจจะได้กินข้าวคนเดียว อาจจะได้เดินคนเดียวแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเพื่อนคบสักหน่อย

                   เพราะแบคฮยอนเข้ามาชีวิตคยองซูถึงได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  มันเป็นความรู้สึกที่คยองซูไม่เคยได้รับมาตลอดสิบแปดปี ตอนนี้คยองซูมีเพื่อนแล้ว..มันมีความสุขแบบนี้นี่เอง

                  ขอบคุณนะแบคฮยอน..ขอบคุณมากจริงๆ


    เราสองคนจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป..




    [100%]

     
     

    มาอัพกันแล้วกับฟิคบีดีของเรา
    มาถึงตอนนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไปว่าแบคฮยอนเป็นโรคอะไร ฮ่าๆๆๆ 
    แต่ตอนหน้าเอาจริงๆแล้ว จะยอมบอกแล้วว่าแบคเป็นอะไร


    ตอนติดพลาสเตอร์ให้กันนี่ฟินกันบ้างมั้ยคะ  ไรท์ยังแต่งไม่เก่งก็พยายามที่สุดแล้ว ฮ่าๆๆ

    ยังไงก็เม้น และแท็ก #FicBD ในทวิตเป็นการให้กำลังเค้าด้วยนะตัวเอง  แล้วจะรีบมาอัพในเร็ววัน ขอบคุณ

    ปล. ทำไมตอนนี้ทอร์คสั้น  แหม่..ไม่ใช่สไตล์ของไรท์เลยจริงๆ

      

    #แก้คำผิด 24 / 04 /2557



    themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×