ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] Because you're my frienD [BaekDo]

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 57


    Fic’Because you’re my FrienD

    {Baekhyun x D.O}

    #FicBD

     

    ::Chapter 2::

     

                   มันก็เหมือนกับดอกไม้ริมทาง

    ต่อให้สวยหรือหอมแค่ไหนก็เป็นได้แค่ของข้างทาง 

    ไม่มีใครสนใจ  มีแต่คนเหยียบย่ำ

     เป็นเหมือนสิ่งที่ไร้ค่า..ไร้ความหมาย

     

              แสงแดดยามเช้าสอดส่องเข้ามาผ่านทางหน้าต่างและผ้าม่านลายลูกไม้กระทบร่างสูงที่นอนอยู่บนผืนเตียงใหญ่  แบคฮยอนพยายามขยับกายหนีสิ่งรบกวนการนอนแต่สุดท้ายเขาก็หนีมันไม่พ้นและยอมแพ้มันในที่สุด  

               ร่างสูงในชุดนอนเสื้อยืดกางเกงขายาวค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ  ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่มากมันทำให้แบคฮยอนเอาแต่คิดว่าถ้าวันนี้เป็นวันหยุดคงจะดี  เมื่อวานเขาเหนื่อยจริงๆ..ถ่ายซีรีย์ตั้งแต่เย็นจนดึกแล้วยังต้องตื่นเช้าไปเรียนอีก

               แบคฮยอนยันตัวลุกขึ้นนั่ง  มองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังที่เข็มสั้นกำลังชี้ไปที่เลขเจ็ดก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างที่เคยทำประจำทุกวัน   แล้วไม่นานร่างสูงในชุดนักเรียนก็หยิบกระเป๋าเป้ลงมายังห้องอาหารข้างล่าง

               ลงมาแล้วหรอแบคฮยอน”  เสียงผู้เป็นปู่ที่นั่งอยู่ตำแหน่งหัวโต๊ะเอ่ยทักหลาน  แบคฮยอนโค้งให้ผู้ใหญ่ตามมารยาทก่อนจะนั่งลงที่ประจำเพื่อรอทานอาหารเช้า

               วันนี้มีงานหรือเปล่า”  บยอนแทซอง..พ่อแบคฮยอนถาม

               มีครับ  วันนี้ฉากที่ต้องเข้ามีน้อยกว่าเมื่อวาน  แต่กว่าจะได้ถ่ายก็คงเย็นมากแล้วกว่าจะเสร็จก็คงจะดึกเหมือนเดิม

               “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็ไปกับหนูซูจองแล้วกันนะ  ไปทักทายพ่อของเขาสักหน่อย”   ปู่ของแบคฮยอนพูดยิ้มๆ  และตอนนี้ข้าวต้มร้อนๆซึ่งเป็นอาหารเช้าก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะพอดี

               ไม่ครับ  พ่อต้องให้คนไปรับไปส่งผมที่กองถ่ายเหมือนเดิม  ผมไม่ไปกับซูจอง”  ว่าเป็นเชิงตัดบทก่อนจะเริ่มตักอาหารเช้าเข้าปาก   แทซองส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นของลูกชายพลางคิดในใจว่า

              แล้วแบบนี้แบคฮยอนจะยอมหมั้นกับซูจองได้ยังไง..

              เพราะแบคฮยอนรู้ดีว่าพวกผู้ใหญ่กำลังคิดจะทำอะไร เขาจึงพยายามที่จะพบปะและทานข้าวกับตระกูลจองให้น้อยที่สุด 

               อื้ม ! ข้าวต้มวันนี้อร่อยดีนะครับ  อ่า..คุณน้าใช่มั้ยครับที่เป็นแม่บ้านใหม่แบคฮยอนยิ้มพลางหันไปถามผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันกับแม่ของตัวเองที่ยืนอยู่มุมห้อง

               ค่ะ ถ้าอร่อยก็ทานเยอะๆนะคะ”  เธอตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มกว้างให้เมื่อลูกชายของเจ้านายเอ่ยปากชมก่อนจะจึงหายเข้าไปในครัวเมื่อตนทำหน้าที่เสร็จ

            ครืด..ครืด

              สมาร์ทโฟนเครื่องบางของแทซองสั่นเป็นสัญญาณว่ามีสายเรียกเข้า ไม่รอช้าชายวัยกลางคนจึงหยิบมันขึ้นมาก่อนจะกดรับสายทันที

              ครับผู้กำกับ”  จากทีแรกที่แบคฮยอนไม่ได้สนใจสายเรียกเข้านั่นเขาก็ต้องเงยหน้าขึ้นทันที   ผู้กำกับอย่างนั้นหรือ..โทรมาทำไมแต่เช้ากัน

              “อ๋อได้ครับได้  ….ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจๆ ……ฮ่าๆสวัสดีครับ”   
       
              “ผู้กำกับโทรมาทำไมครับพ่อ”  แบคฮยอนถามขึ้นทันทีที่พ่อของเขาวางสาย 


              “ผู้กำกับบอกให้แกไปถ่ายละครตอนนี้  มันเป็นฉากที่ต้องถ่ายตอนเช้า..ถ้าแกไปตอนเย็นก็จะไม่ทัน   เพราะฉะนั้นเดี๋ยวฉันจะโทรไปบอกอาจารย์ที่โรงเรียนให้ว่าแกจะไปเรียนแค่ช่วงบ่าย

              “เลื่อนคิวไม่ได้เลยหรอครับ  ฉากนี้วันศุกร์ค่อยถ่ายไม่ได้หรอ  ผมอยากไม่อยากขาดเรียน” 

               ก็แค่เป็นห่วงคยองซูกลัวว่าจะมีใครมาทำร้ายถ้าไม่มีแบคฮยอน

               ไปเถอะแบคฮยอน  ขาดเรียนแค่ช่วงเช้าเอง  อย่าเพิ่งปฎิเสธผู้กำกับเลย..แกเพิ่งเข้าวงการนะ  ไม่สิ..ยังไม่เดบิวต์เลยด้วยซ้ำ”  แทซองขอ  ไม่ใช่ว่าแบคฮยอนไม่อยากไปทำงาน  งานพวกนี้ก็คือสิ่งที่เขารัก….แต่เขาแค่เป็นห่วงคยองซูก็เท่านั้นเอง 

                แต่ทว่าสุดท้ายแบคฮยอนก็ตอบตกลงและยอมไปตามคำขอ   ขาดเรียนแค่ครึ่งวันคยองซูคงไม่เป็นอะไรหรอก

     

     

     

                ต้นหญ้าต้นเดิม

                ถนนเส้นเดิม

                หมู่บ้านและร้านค้าร้านเดิม….  คยองซูเดินผ่านสิ่งเหล่านั้นมาเรื่อยๆจนถึงโรงเรียนโรงเรียนเดิม..  และการถูกกระทำที่เหมือนเดิมหรืออาจจะเจ็บปวดกว่าเดิมคยองซูเองก็ไม่รู้

                ร่างเล็กในชุดนักเรียนสะพายกระเป๋าเป้เดินเข้ามาในโรงเรียน โค้งทักทายให้เหล่าอาจารย์ที่เขาเดินผ่านตามมารยาท   วันนี้คยองซูมาโรงเรียนเช้าและอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เช้าชนิดที่ว่าโรงเรียนแทบจะร้างผู้คนเลยด้วยซ้ำ ที่สำคัญตอนนี้คนตัวเล็กไม่เดินก้มหน้าเหมือนที่แบคฮยอนบอกเอาไว้แล้วด้วย..

                แต่ตอนนี้แบคฮยอนจะมาถึงโรงเรียนหรือยังนะ

                ขาเล็กก้าวไปตามทางเดินที่มีนักเรียนเดินอยู่ประปราย  ในมือเล็กถือนมรสช็อกโกแลตสองกล่องเอาไว้กะว่าจะเอามาฉลองกับแบคฮยอนที่กำลังจะได้เป็นดาราเสียหน่อย  คยองซูไม่มีเงินพอที่จะซื้อของขวัญดีๆให้แบคฮยอนได้หรอก

                แต่ทว่าเมื่อเดินเข้ามาถึงในห้องคยองซูก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้ในห้องเรียนไม่มีใครเลยสักคน

                บางโต๊ะก็มีกระเป๋าวางอยู่แต่เจ้าของกระเป๋าหายไปไหนกันหมดนะ

                ถึงมันจะเงียบผิดปกติแต่คยองซูก็ยังเดินเข้ามาในห้องเรียนแล้ววางกระเป๋าไว้  บรรยากาศในห้องมันแปลกจริงๆนะประตูหลังก็ถูกปิดเอาไว้  เปิดให้ใช้แค่ประตูหน้าเท่านั้น  ที่สำคัญเพื่อนคนอื่นหายไปไหนกันหมด 

                “แบคฮยอนยังไม่มาโรงเรียนหรอเนี่ย…”  คยองซูบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆเพราะโต๊ะข้างหน้ายังว่างเปล่าไม่มีแม้แต่กระเป๋าที่คนตัวสูงใช้ คยองซูฟุบลงกับโต๊ะก่อนจะหลับตาลงกะว่าจะนอนแก้เบื่อ  แต่ทว่า

                ปัง !

                เสียงประตูห้องที่ถูกปิดอย่างแรงดังลั่น  คยองซูสะดุ้งก่อนจะยันตัวขึ้นยืน

                ..จองกุก”  เป็นจอนจองกุกนั่นเองที่ทำให้เกิดเสียงประตูดังลั่นนั่นขึ้น  ทำไม..ทำไมต้องปิดประตู

                เสียงจังหวะฝีเท้าสม่ำเสมอของจองกุกที่กำลังก้าวเข้ามาช้าๆกำลังทำให้คยองซูเริ่มกลัว  แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กก็ยังไม่ลุกไปไหน  ขามันแข็งไปหมดแล้วที่ทำได้ตอนนี้ก็คือก้มหน้ามองคำด่าทอบนโต๊ะของตัวเองและรอสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก็เท่านั้น

                 ปัง !

                 มือหนาวางลงบนโต๊ะคยองซูอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง  คยองซูสะดุ้งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกคนช้าๆ

                 “แกรู้อะไรมั้ยเมื่อคืนฉันทะเลาะกับพ่อมา”  จองกุกพูดเสียงเรียบแต่แววตาแฝงไปด้วยความน่ากลัว

                 ..ไม่รู้”  คยองซูก้มหน้าลงไปอีกครั้งเพราะไม่กล้าจะมองตาอีกคน  ในใจได้แต่ภาวนาขอให้ใครก็ได้เข้ามาในห้องสักที..ตอนนี้คยองซูกลัวไปหมดแล้ว

                  แต่คยองซูไม่รู้ว่าจองกุกสั่งไม่ให้ใครเข้ามาในห้องถ้ายังไม่ถึงเวลาเรียน

                 “อ๊ะ..โอ๊ย !”  ร่างเล็กถูกโยนให้ลงไปนอนกองกับพื้นเพราะแรงผลักของคนอีก  คยองซูรีบถดกายหนีไปหลังห้องทันทีแต่ทว่ามือหนากลับกระชากคอเสื้อของเขาให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง  แววตาเรียบนิ่งที่กำลังจ้องมองมาคยองซูไม่รู้จริงๆว่าจองกุกกำลังคิดอะไร  แต่มันทำให้คยองซูกลัวไปหมดแล้ว

                 ไม่รู้หรองั้นหรอ  ทั้งๆที่แกเป็นคนทำเนี่ยนะ !”

                 ทำอะไรฉันไปทำอะไรให้นาย  ปล่อยเถอะนะ   เพราะความอ่อนแอที่คยองซูมีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรมันจึงทำให้น้ำใสๆเริ่มคลอที่ดวงตา

                 แกรู้มั้ยว่าพ่อลงโทษฉันยังไง เหอะ ! ทั้งกักบริเวณ ทั้งไม่ให้เงินฉันมาใช้เหมือนเมื่อก่อน รู้มั้ยว่ามันทรมาณขนาดไหน !”  จองกุกตะโกนใส่หน้าของอีกคนสุดเสียง  มันน่ากลัวจนคยองซูสะดุ้งอีกครั้งพลันมือเล็กทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมาไหว้อ้อนวอน

                 “ขอ..ขอโทษ  ฮึก  ฉันขอโทษ”  ถึงคนตัวเล็กจะไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร  แต่ความกลัวที่มีอยู่ทั้งใจทำให้เขาต้องพูดออกไปแบบนั้น

                 ขอโทษหรอคยองซู ห้ะ?!!”

               ตุ้บ !

                 “โอ๊ย !”  จองกุกยกมือหนาขึ้นมาซัดหมัดหนักๆเข้าเต็มแก้มของคยองซู  คนตัวเล็กร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด  ร่างทั้งร่างแทบล้มลงไปกับพื้นหากไม่มีมือหนาจับคอเสื้อไว้

                 จำไว้ว่าฉันไม่ต้องการคำขอโทษของแก!” ร่างเล็กถูกโยนให้กระแทกผนังหลังห้องอย่างแรงอีกครั้งแล้วร่างของคยองซูก็ลงไปนอนกองกับพื้น   

                 ฮึก...แล้วนายต้องการอะไรจากฉันล่ะ..อ๊ะ”  มือหนากระชากคอเสื้อของคยองซูเข้ามาอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นที่คยองซูกำลังกลัวก็กำลังจับจ้องมา

                 “ฉันต้องการให้เด็กสกปรกๆอย่างแกไม่มีเพื่อน”  ร่างสูงพูดเสียงแผ่วเบาทว่ามันกลับเต็มไปด้วยความน่ากลัว

                 “…..”

                 “แม้กระทั่งไอ้แบคฮยอนหรือใครก็ตาม  แกต้องอยู่คนเดียวแบบที่แกเคยอยู่

                 “ฮึกจองกุก..”

                 “ถ้าฉันเห็นแกกับมันยังคุยกันอีกอยู่ล่ะก็แกไม่ได้แค่โดนชกแน่คยองซู จำไว้ !”  พูดจบอีกคนจึงยอมปล่อยร่างเล็กแล้วเดินออกจากห้องไป   ทิ้งไว้ให้คยองซูอยู่กับความเสียใจเพียงลำพัง   ใบหน้าหวานมีรอยแผลและคราบน้ำตา  เลือดที่ออกมาจากมุมปากทำให้รู้ว่าตอนนี้คนตัวเล็กกำลังเจ็บแค่ไหน

                  ทั้งเจ็บทั้งเสียใจต่อไปนี้คยองซูกับแบคฮยอนคงจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันอีกต่อไปแล้ว

                  ฮึกฮือออ”  ต่อไปนี้เด็กน้อยคยองซูคนเดิมกลับมาแล้ว  ไม่มีคยองซูผู้เข้มแข็งเหมือนที่แบคฮยอนว่าเหมือนเมื่อวาน  ยังไงฟ้าก็กำหนดมาให้เขาต้องอยู่คนเดียวตามลำพัง  ไม่มีใครช่วยคยองซูได้สักคน..ไม่มีแม้แต่คนเดียว  

                   มันก็เหมือนกับดอกไม้ริมทาง ต่อให้สวยหรือหอมแค่ไหนก็เป็นได้แค่ของข้างทาง  ไม่มีใครสนใจ  มีแต่คนเหยียบย่ำ  เป็นเหมือนสิ่งที่ไร้ค่า..ไร้ความหมาย

                   คยองซูพยายามลุกขึ้นยืน  ความรู้สึกจุกและเจ็บไปทั้งตัวกำลังทำให้ร่างกายของคยองซูทรมาน  แต่ยิ่งรู้ว่าต่อไปนี้แบคฮยอนจะไม่ใช่เพื่อนของตัวเองอีกต่อไปความรู้สึกเจ็บกายมันก็เทียบไม่ได้กับความรู้สึกเจ็บที่ใจเลยสักนิด

                  ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ตัวเดิม  มือเล็กหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนบางออกมาจากกระเป๋าก่อนจะซับเลือดที่ซึมออกมาจากมุมตัวเองปากเบาๆ  แต่น้ำตานี่มันก็ไหลออกมามากมายเสียเหลือเกิน

                ทำไมอ่อนแอแบบนี้คยองซู..

                  “ฮึก..”  คยองซูหันไปมองกล่องนมสองกล่องที่เตรียมมาไว้ให้ตัวเองกับแบคฮยอนแต่คงต้องเอามาดื่มแทนข้าวเที่ยงแล้วล่ะ วันนี้คยองซูไม่ได้เตรียมข้าวเที่ยงมาเพราะคิดว่าจะได้มาทานกับแบคฮยอน  แต่เพราะเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อน คยองซูจึงรู้ว่ามื้อเที่ยงระหว่างเขากับแบคฮยอนคงจะไม่มีอีกต่อไป

     

     

     

                  “โอเค..คัท !”  เสียงผู้กำกับที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น  นักแสดงที่กำลังเข้าฉากจึงกลับมาสู่โหมดปกติอีกครั้ง  ช่างแต่งหน้าและผู้จัดการตรงเข้าไปหาสองนักแสดงที่เพิ่งเข้าฉากเสร็จทันที

                 ขอบคุณครับพี่จงอิน  ทำงานหนักมากเลยนะครับ”  แบคฮยอนโค้งให้นักแสดงรุ่นพี่ที่เพิ่งเข้าฉากด้วยกัน

                 เก่งมากเลยนะแบคฮยอน  นี่ต้องขาดเรียนมาใช่มั้ยเนี่ย”  รุ่นพี่ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

                 “ฮ่ะๆ  นิดหน่อยครับ

                 “เอาน่าๆ  ตอนพี่เรียนมัธยมก็ต้องขาดเรียนมาทำงานอยู่บ่อยๆเหมือนกัน แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ..หืม? ฮ่าๆๆ”  รุ่นพี่ร่างสูงพูดติดตลกพลางตบไหล่แบคฮยอนเบาๆ 

                 คิมจงอินนักแสดงหนุ่มไฟแรงของยุค  ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้จงอินดังแล้วก็ประสบความสำเร็จขนาดไหน  ทั้งเซ็กซี่ ทั้งหน้าตาดีแถมยังมีแอคติ้งขั้นเทพจึงทำให้ถูกอกถูกใจแฟนคลับและผู้กำกับจนตอนนี้กระแสของคิมจงอินแรงจนออกนอกประเทศไปแล้ว งานละครและงานโฆษณาที่เยอะจนวันนี้ต้องเลื่อนคิวฉากที่ต้องถ่ายอีกวันมาถ่ายในช่วงเช้าของวันนี้ทำให้แบคฮยอนปฎิเสธไม่ได้  แต่พี่จงอินไม่ว่างจริงๆนี่นา

                  ผมจะตั้งใจทำงานเหมือนพี่นะครับ

                  “สู้ๆนะแบคฮยอน พี่เป็นกำลังใจให้”  จงอินพูดก่อนจะเดินไปลาพี่ๆทีมงานแล้วขึ้นรถไปคงจะมีงานต่อสินะ

                  “แบคฮยอน  ทำได้เยี่ยมจริงๆนะเรา”  เสียงผู้กำกับดังมาจากด้านหลัง  ร่างสูงจึงหันไปตามเสียงเรียก

                  อ่า..ครับ  ทำงานหนักมาเลยนะครับผู้กำกับตอบพร้อมกับยิ้มกว้างให้

                  “ขอโทษจริงๆนะที่ทำให้ต้องขาดเรียนน่ะ

                  “ไม่เป็นอะไรหรอกครับ  ผมเข้าใจว่ามันคงเป็นเรื่องปกติในวงการที่นักแสดงต้องขาดเรียนมาทำงาน  แล้วนี่มันก็คือสิ่งที่ผมรักหนิครับแบคฮยอนยิ้ม

                  “ขอบใจมากเลยนะที่นายเข้าใจ  เด็กดีจริงๆ

                  “ฮ่ะๆ ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้น..ผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ  สวัสดีครับ”  แบคฮยอนโค้งลาผู้กำกับแล้วรีบเดินไปเก็บของเพื่อขึ้นรถไปโรงเรียนทันที

                  นาฬิกาข้อมือของแบคฮยอนบอกเวลาสิบเอ็ดโมงครึ่งซึ่งตอนนี้ที่โรงเรียนคงเป็นเวลาใกล้พักเที่ยง     ขับรถมาได้ไม่นานร่างสูงก็ถึงโรงเรียนใหม่ที่ตนเริ่มคุ้นเคย นักเรียนทุกคนยังอยู่ที่ห้องเรียนเป็นสัญญาณว่ายังไม่ถึงเวลาพักเที่ยง  แบคฮยอนจึงเร่งฝีเท้ามาจนถึงห้องเรียนของตน

                  “ขออนุญาตเข้าห้องครับ”  ร่างสูงพูดขออาจารย์  เมื่อได้รับอนุญาตจึงเดินเข้ามาที่โต๊ะเรียนของตนเองทันที  และคยองซูคือสิ่งแรกที่แบคฮยอนสนใจ

                  นั่งก้มหน้าอีกแล้ว...คยองซูก้มหน้าอีกแล้ว 

                  แบคฮยอนส่ายศีรษะช้าๆเมื่อเห็นว่าอีกคนยังทำอะไรเดิมๆไม่ยอมเปลี่ยนตัวเองใหม่สักที  แต่แปลกที่ครั้งนี้คยองซูก้มต่ำจนมองไม่เห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ

               เป็นอะไรหรือเปล่านะคยองซู..

                 กริ๊งงงง

                 “เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะนักเรียน  ไปพักเที่ยงได้ค่ะ

                 “ขอบคุณครับ/ค่ะ”  สิ้นเสียงทำความเคารพ  นักเรียนทุกคนรีบลุกจากโต๊ะของตัวเองแล้ววิ่งไปโรงอาหารเหมือนเด็กประถมทันที

                 “นี่แบคฮยอน..ไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันนะ”  ซูจองถามเมื่อคนในห้องเริ่มน้อยลงแล้ว

                “ไม่ล่ะ  เธอก็ไปกับเพื่อนเธอเถอะฉันจะไปกับคยองซู คยองซูไปทานอ้าว หายไปไหนแล้วล่ะ”  ประโยคหลังร่างสูงหันกลับไปถามเพื่อนตัวเล็ก  หากแต่ว่าที่นั่งตรงนี้กลับไม่มีคยองซูอยู่เหมือนเคย    
               

               อะไรกัน..เมื่อไม่กี่นาทีก่อนยังนั่งอยู่ตรงนี้อยู่เลย

                 “คยองซูไปไหน  ?”  แบคฮยอนถามซูจองพลางมองหาคนตัวเล็ก  แต่ตอนนี้ในห้องมีแค่ซูจองกับแบคฮยอนเท่านั้น 

                 หายไปไหน..

                 ไปตอนไหน..   
            

                  ช่างคยองซูเถอะแบคฮยอน  รายนั้นน่ะอยู่คนเดียวตลอดนั่นแหล่ะ  ไปทานข้าวกับฉันเถอะนะ”  ซูจองเขย่าแขนแบคฮยอนให้อีกคนหันมาสนใจตัวเองแต่กลับได้สายตาดุกลับมาซูจองจึงยอมปล่อยมือ

                  วันนี้คยองซูโดนจองกุกแกล้งมั้ย

                  “เฮ้อ..นายจะเป็นห่วงอะไรคยองซูนักหนาแบคฮยอน

                  “ตอบฉันสิซูจอง !”  คนถูกถามถึงกับสะดุ้งน้อยๆที่อยู่ๆแบคฮยอนก็มีท่าทางแปลกไปเหมือนกับกำลังกังวลอะไรบางอย่าง

                   แบคฮยอนเป็นห่วงคยองซูงั้นหรอเหอะ   
          

                  ฉันไม่รู้  ได้ยินแค่เพื่อนเขาพูดกันว่าเมื่อเช้าจองกุกไม่ให้เข้าห้องจนกว่าจะเรียนคาบแรก  ฉันก็ไม่รู้ว่านายนั่นจะปิดห้องไว้ทำไม  ทีนี้ไปทานข้าวกับฉันแบคฮยอน ! จะไปไหน  ยังไม่ทันที่คนสวยจะพูดจบแบคฮยอนก็ลุกจากโต๊ะแล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที  ไม่สนใจซูจองเลยสักนิด

                เมื่อเช้าจองกุกปิดห้องทำไม ?

                ทำอะไรคยองซูอีกหรือเปล่า..?

                  แบคฮยอนรีบวิ่งจากห้องเรียนมาจนถึงโรงอาหารที่คราครั่งไปด้วยผู้คน  พยายามมองหาจอนจองกุกแต่กลับเต็มไปด้วยความยากลำบาก  เพราะโรงอาหารตอนนี้คนเยอะเสียเหลือเกิน

                  “มากินข้าวครั้งนี้ไม่เอาคยองซูมาด้วยหรอแบคฮยอน”  เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง  คนถูกเรียกจึงหันกลับไปหาต้นเสียงทันที

                  เมื่อเช้าแกทำอะไรคยองซู !”  เมื่อเห็นว่าคนที่กำลังตามหาอยู่ตรงหน้าแบคฮยอนก็รีบเดินเข้าไปหาแล้วคว้าคอเสื้อไว้ทันที

                   ใจเย็นๆสิ  ค่อยๆคุยกันก็ได้”  จองกุกตอบแบบพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ  แต่เชื่อเถอะว่ามันเป็นการหาเรื่องกันมากกว่า

                   “ตอบฉันมาสิวะ !”  นักเรียนคนอื่นในโรงอาหารเริ่มหันมามองรุ่นพี่สองคนที่กำลังทะเลาะกัน  อารมณ์ของแบคฮยอนตอนนี้เดือดเสียยิ่งกว่าน้ำหนึ่งร้อยองศาฯเลยด้วยซ้ำ กะไว้แล้วว่าคยองซูต้องโดนจองกุกทำร้าย

                   “ก็แค่แนะนำว่าคยองซูควรจะใช้ชีวิตในโรงเรียนนี้ยังไงก็เท่านั้นเอง

                   “ตอนนี้คยองซูอยู่ที่ไหน”  แบคฮยอนถามเสียงเยือกเย็นทั้งที่ยังไม่ปล่อยมือออกจากคอเสื้อ

                   ฉันจะไปรู้หรือไง”  พูดพลางกระชากมือของอีกคนให้ปล่อยจากคอเสื้อตัวเอง  จัดเสื้อให้เรียบร้อยด้วยท่าทางหาเรื่องก่อนจะเดินไปตักอาหารอย่างไม่สนใจ และแบคฮยอนเองก็เลิกสนใจจอนจองกุกแล้ววิ่งออกไปตามหาร่างเล็กทันที

     

     

     

                    คยองซูนั่งลงที่ม้าหินอ่อนหลังอาคารเรียนซึ่งร้างผู้คน  ในที่สุดก็ต้องกลับมาอยู่ตัวคนเดียวอีกครั้ง  ร่างเล็กถอนหายใจช้าๆก่อนจะหยิบนมสองกล่องที่เตรียมไว้ขึ้นมาดื่มแทนอาหารกลางวัน  คยองซูก้มหน้าต่ำและนั่งอยู่คนเดียวจนผ่านไปหลายนาที

                    เพราะกลัวจะโดนจองกุกทำร้ายแบบเมื่อเช้าคนตัวเล็กจึงต้องรีบออกจากห้องมาก่อนที่แบคฮยอนจะรู้ตัว  ไม่อย่างนั้นคงต้องถูกชวนให้ไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันแน่ๆ  

                    แต่ตอนนี้แบคฮยอนจะตามคยองซูอยู่หรือเปล่านะ

                    คยองซู ! ทำไมมานั่งตรงนี้คนเดียว”  เสียงเพื่อนใหม่ที่คยองซูคุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง  ใบหน้าหวานรีบหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะยิ่งตกใจเพราะเป็นแบคฮยอนที่กำลังเดินมา  มือเล็กรีบเก็บกล่องนมบนโต๊ะแล้วเดินออกไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

                 ไม่ได้ให้แบคฮยอนมาคุยกับเราไม่ได้

                 ขอโทษนะแบคฮยอน

                    “จะไปไหนน่ะคยองซู วิ่งหนีฉันทำไม”  ร่างสูงตะโกนให้หลังก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าให้ตัวเองเดินตามคยองซูทัน   แล้วในที่สุดแบคฮยอนก็คว้าขอมือเล็กให้หยุดเดินเอาไว้ได้

                    เล่นอะไรน่ะคยองซู  วิ่งหนีฉันทำไม

                    “….ก็แค่..จะเอาขยะไปทิ้ง”  โกหกคำโต  ไม่ใช่แบคฮยอนไม่รู้ว่าคยองซูกำลังโกหก  แต่เขาแค่ยังไม่ถามออกไปตรงๆก็เท่านั้น

                    ฉันเรียกไม่ได้ยินหรอ”  ถามทั้งๆที่คยองซูยังหันหลังให้อยู่

                    “……”

                    “หันมาเมื่อกี้ก็น่าจะเห็นกันแล้วนี่  เป็นอะไรหรือเปล่าคยองซู ทำไม..”

                    “แบคฮยอนเลิกยุ่งกับฉันเถอะ 

                    “…….”  หมายความว่ายังไงคยองซู

                    “เราเลิกเป็นเพื่อนกันเถอะนะ”  หลังจากสิ้นเสียงของคยองซูความเงียบและบรรยากาศมาคุก็เริ่มปกคลุมไปทั่ว  คนสองคนไม่พูดอะไรกันต่อ  แต่แบคฮยอนก็ยังไม่ยอมปล่อยมือคยองซู  แค่ไม่เข้าใจ..ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

                     คนตัวสูงกว่าเดินไปอยู่ข้างหน้าคยองซู  ใบหน้าหวานหลุบต่ำลงทันทีเพราะไม่อยากให้แบคฮยอนเห็นแผลจากการโดนชกของตัวเอง

                     ทำไม..จองกุกมันทำอะไรนาย”  เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง 

                     เมื่อเช้านายไม่มาเรียน  คงจะทำงานอยู่ใช่มั้ยสู้ๆนะ  รักษาสุขภาพของตัวเองด้วย”  คยองซูยิ้ม..ยิ้มทั้งน้ำตา

                     “พูดแบบนั้นทำไม  พูดเหมือนเราจะไม่ได้คุยกันอีก

                     “……”

                  เพราะเราจะอาจจะไม่ได้คุยกันอีกแล้วไงแบคฮยอน..ช่วยเข้าใจหน่อยได้มั้ย

                     “อย่าทำงานหนักมากล่ะ ขอบใจนะที่อย่างน้อยก็ทำให้ฉันมีเพื่อนตั้งหนึ่งวัน ฮ่าๆฝืนยิ้ม..     
                   

                     “……”

                     “ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะ..อ๊ะ”  ร่างทั้งร่างถูกคนตัวสูงกว่าดึงเข้ามากอดจนไม่มีระยะห่างระหว่างกัน   คยองซูตั้งตัวไม่ทัน….แบคฮยอนจะมากอดเขาทำไม  ถ้าจองกุกรู้เข้าต้องเป็นเรื่องแน่ๆ..

                     ไม่ให้ไป  นายเป็นเพื่อนคนเดียวของฉันนะคยองซู”  เสียงนุ่มพูดข้างๆหูคนตัวเล็ก  ไม่เป็นแบคฮยอนคงไม่รู้ว่าเขากำลังเสียใจแค่ไหนแต่ถ้าไม่เป็นคยองซูก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าเขาก็ทรมาน 

                     คยองซูเสียใจ..ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนเลือกทางนี้เองแท้ๆ

                     “ปล่อยเถอะแบคฮยอน  อย่าทำให้ฉันต้องเจ็บไปมากกว่านี้ได้มั้ย”  คยองซูดิ้นอยู่ในอ้อมกอดก่อนที่แบคฮยอนจะยอมผละออก  ตอนนี้เองที่เห็นหน้าอีกคนชัดเจนรอยช้ำที่มุมปากนั่น 

                     เป็นเพื่อนกับฉันมันทำให้นายต้องเจ็บปวดมากขนาดนั้นเลยหรอคยองซู…” กลับกลายเป็นแบคฮยอนเสียเองที่แสดงแววตาแสนเศร้าและผิดหวังนั้นออกมา

                     ฉัน…”  ต้นแขนเล็กที่ถูกมือของแบคฮยอนจับเอาไว้ก็ถูกผละออก  แบคฮยอนมองหน้าอีกคนด้วยแววตาที่แสดงออกถึงความรู้สึกภายในใจ

                     งั้นเราเลิกเป็นเพื่อนกันก็ได้ฉันจะไม่ยุ่งกับนายอีก”  พูดแค่นั้นก่อนจะหันหลังให้คยองซูแล้วเดินจากไปทันที  คนตัวเล็กมองตามแผ่นหลังของอีกคนก่อนจะพบว่าตอนนี้ตาของพร่ามัวเกินกว่าที่จะมองเห็นอะไรได้ชัดๆ..เพราะม่านน้ำตากำลังบดบังคยองซูเอาไว้ 

                     ร้องไห้อีกแล้ว..

                     ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง..

                     จะเสียใจทำไมคยองซู  ในเมื่อนายเป็นคนเลือกทางนี้เอง..ไม่สิ  คยองซูไม่ได้เลือกแต่ถูกบังคับให้เลือกต่างหาก

                                                                    

                  


    [100%]




    [TALK]

     


     

    ขอบคุณทุกเม้นทุกกำลังใจที่เม้นให้ไรท์นะคะ 

    รักมากจุ้บๆ <3   
    ส่วนตอนหน้าจะเป็นยังไงนี่ก็ฝากติดตามด้วยเน้อ 
    เม้นแล้วติดแท็ก 
    #FicBD  เป็นกำลังใจให้ไรท์ว่ายังมีคนอ่าน  ไรท์ก็รีบมาอัพให้ในเร็ววัน  ซารางเฮ ~
     


    ปล. ที่บางคนเดาไว้ว่าแบคฮยอนจะเป็นโรคอะไรหรือเปล่า 
    สปอยล์ไว้ก่อนว่า ใช่ค่ะ  ตอนที่ 3 จะมาเฉลยว่าแบคฮยอนเป็นโรคอะไร  ปูเสื่อรอเค้านะ จุ้บ
    <3


     

    themy  butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×