คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
Fic’Because you’re my FrienD
{Baekhyun x D.O}
#FicBD
::Chapter 1::
มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะให้คนทั้งโลกมารักเรา
ในเมื่อมีคนรัก…ก็มักจะมีคนเกลียด
เราห้ามให้คนอื่นหยุดว่าเราไม่ได้
แต่เราสามารถห้ามการกระทำที่ไม่ดีของเราได้
“แบคฮยอน…นายกินเถอะ ฉัน..”
“ไม่เอา มีเพื่อนก็ต้องกินข้าวกับเพื่อนสิ ไปตักอาหารกัน ~” ว่าจบแบคฮยอนก็คว้าข้อมือของเพื่อนตัวเล็กให้เดินไปด้วยกันทันที
ความรู้สึกเวลามีเพื่อนมาชวนกินข้าวมันก็ดีอยู่หรอกนะ…แต่สายตาของนักเรียนคนอื่นที่กำลังมองมานี่สิ..
‘คนอย่างคยองซูมีเพื่อนคบด้วยอย่างนั้นหรอ ?’ พวกเขาคงจะคิดอย่างนั้นกัน
แบคฮยอนและคยองซูนั่งทานข้าวด้วยกันท่ามกลางสายตาของนักเรียนหลายร้อยคนที่จับจ้องมา แต่ถึงอย่างนั้นเด็กใหม่ก็ไม่ได้ใส่ใจสายตาของคนอื่นเลยสักนิด แบคฮยอนมีแต่ชวนคยองซูคุยและทำให้เพื่อนตัวเล็กรู้สึกโดดเดี่ยวน้อยที่สุด
แต่ในทางตรงกันข้าม…คยองซูแค่นั่งก้มหน้าก้มตาจัดการกับข้าวเที่ยงตรงหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เท่านั้น จะตอบคำถามแบคฮยอนก็แค่ไม่กี่คำเท่านั้นเอง
“ทำไมต้องเดินก้มหน้า” คำถามเดิมรอบที่สองออกมาจากปากแบคฮยอนในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินกลับห้องเรียนด้วยกัน และคำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิมกับครั้งแรกที่ถาม…คยองซูเงียบ
“ทำไมไม่ลองสู้คนอื่นดูบ้าง” แต่แบคฮยอนก็ยังถามต่อไปอย่างนั้น
คยองซูหยุดเดินก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวสูงช้าๆ
“ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับฉัน..อย่าถามแบบนี้อีกได้มั้ย” ตัวเล็กเอ่ยแผ่วเบา แบคฮยอนที่อยู่ล้ำหน้าไม่กี่ก้าวจึงหันหน้ากลับมา
“ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับฉัน ก็ช่วยตอบคำถามฉันหน่อยได้มั้ย” คนตัวสูงกว่าก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าคยองซู ความเงียบเข้าปกคลุมทางเดินที่ร้างผู้คนอีกครั้ง ตรงนี้มีแค่แบคฮยอนกับคยองซูสองคนเท่านั้น คนตัวสูงจึงเลือกที่จะถามคำถามเหล่านั้นที่นี่ ที่ที่มีแค่เราสองคน
“……”
“ฉันไม่อยากให้นายอ่อนแอ ฉันอยากให้นายเข้มแข็ง ไม่มีใครอยู่กับนายได้ตลอดหรอกนะคยองซู”
“…มันก็ไม่เคยมีใครอยู่กับฉันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะ” ร่างเล็กว่าอย่างน้อยใจก่อนจะออกเดินด้วยฝีเท้าที่เร็วกว่าเดิม ดูก็รู้ว่าคยองซูกำลังน้อยใจมากแค่ไหน
อาการเหล่านั้นทำให้แบคฮยอนรู้สึกผิด…แบคฮยอนไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คนตัวเล็กรู้สึกแบบนี้เลยสักนิด แค่อยากให้อีกคนมีความมั่นใจในตัวเองมากกว่านี้ ถ้าวันไหนที่แบคฮยอนไม่ได้มาโรงเรียนเพราะงาน..แล้วคยองซูจะไม่โดนแกล้งอีกหรือไง
ตอนนี้คงจะมีแค่ซูจองเท่านั้นที่รู้ว่าแบคฮยอนกำลังจะได้เป็นดาราวัยรุ่นคนใหม่ บางทีแบคฮยอนอาจจะติดงานจนไม่ได้มาเรียน ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีวันนั้น…แล้วถ้าวันนั้นมาถึงคยองซูจะยังไง
ทั้งสองคนเดินมาเงียบๆไม่ได้คุยหรือมองหน้ากันเลยสักนิดจนถึงหน้าห้องเรียนทว่าคยองซูกลับยังไม่เดินเข้าไปในห้องนั้น ร่างเล็กชะงักฝีเท้าอยู่ที่ประตูหน้าห้องอย่างเคย ดวงหน้าหวานเงยขึ้นก่อนจะมองเข้าไปในห้อง
“ทำไมไม่เข้าไปล่ะคยองซู” เอ่ยถามจากด้านหลัง ร่างเล็กไม่ยอมตอบ..แบคฮยอนจึงมองตามสายตาของคยองซูแล้วก็พบว่า..โต๊ะของคยองซูกำลังถูกเพื่อนบางคนขีดเขียนอะไรบางอย่างอย่างสนุกสนาน
เมื่อเห็นว่ากำลังมีคนแกล้งเพื่อนตัวเล็ก แบคฮยอนจึงดันร่างของคยองซูออกก่อนจะแทรกตัวเดินเข้าไปในห้องเรียนนั่น สองขาก้าวอย่างไวไปที่กลุ่มนักเรียนเหล่านั้นก่อนจะกระชากแขนของจองกุกให้หันมาเผชิญหน้ากัน
“ทำอะไร !” แบคฮยอนถามจ้องตาเขม็ง
“เสือก !” จองกุกว่าอย่างหยาบคายพร้อมกระชากแขนตัวเองให้หลุดจากมือของแบคฮยอน คนสองคนจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร เพื่อนคนอื่นที่กำลังขีดเขียนโต๊ะถึงกลับผละออกและแยกย้ายกันออกจากบริเวณโต๊ะของคยองซูทันที
สองคนนี้คงต้องได้มีเรื่องกันแน่ๆ
“แกก็อีกคนไอ้เด็กใหม่ ระวังจะเจอดีเข้าสักวัน !” จองกุกขู่พร้อมกับกระชากคอเสื้อของแบคฮยอน
“ทำไม จะพาฉันเข้าห้องปกครองแบบนายหรือไง หึ..เป็นไง แอร์เย็นมั้ย” แบคฮยอนยกยิ้มที่มุมปากอย่างร้ายกาจ เพื่อนทุกคนที่อยู่ในห้องเริ่มซุบซิบกันถึงเรื่องที่แบคฮยอนพูดว่า ‘จองกุกเข้าห้องปกครอง ‘
ตั้งแต่ตอนเที่ยงข่าวก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วว่าบยอนแบคฮยอนเป็นผู้กล้าที่สามารถลากคอจองกุกถึงมืออาจารย์ฝ่ายปกครองได้
แต่ไม่มีใครรู้ว่าจองกุกโกรธแค่ไหน
ไม่รู้ใครรู้ว่าต่อไปแบคฮยอนกับคยองซูจะต้องโดนอะไรต่อไป
“แบคฮยอน..กลับไปนั่งที่นายเถอะ ใกล้ได้เวลาเรียนแล้ว” คยองซูที่เพิ่งเดินเข้ามาพูดขึ้น แบคฮยอนปัดมือของจองกุกออกก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง หัวโจกของห้องมองคนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้าก่อนจะใช้มือหนาผลักอีกคนออกให้พ้นทางจนคยองซูเกือบล้มแล้วจึงเดินกลับไปที่นั่งของตัวเองอย่างหัวเสียเช่นกัน
กริ๊งง ~
เสียงออดหมดเวลาดังขึ้นก้องโรงเรียนเป็นสัญญาณว่าการเรียนการสอนของวันนี้หมดลงแล้ว นักเรียนทุกคนต่างเก็บสมุดหนังสือและภาระงานต่างๆลงกระเป๋าก่อนจะทยอยเดินออกจากห้องกันทีละคนสองคน จนตอนนี้ในห้องเหลือแค่แบคฮยอนและคยองซูอีกครั้ง
“แบคฮยอน..ตื่นได้แล้ว เลิกเรียนแล้วนะไม่กลับบ้านหรอ” คยองซูลุกจากโต๊ะของตัวเองก่อนจะเดินไปสะกิดเพื่อนใหม่ให้ตื่นจากภวังค์ ความจริงตอนหมดชั่วโมงซูจองก็พยายามปลุกแบคฮยอนแล้วนะ แต่เขาก็ไม่ยอมตื่นเสียที
“แบคฮยอนตื่นได้แล้ว” คยองซูเขย่าไหล่ของคนที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะแรงขึ้นแบคฮยอนจึงค่อยรู้สึกตัว คนที่เพิ่งตื่นเงยหน้าขึ้นอย่างงัวเงียก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็ก
“เพื่อนหายไปไหนหมดอ่ะ…เลิกเรียนแล้วหรอ”
“เลิกแล้ว กลับบ้านได้แล้ว” คยองซูว่าก่อนจะเดินไปที่กระดานไวท์บอร์ดหน้าห้องแล้วเริ่มใช้แปรงลบกระดานลบรอยปากกาสีน้ำเงินออก แบคฮยอนมองการกระทำของคนตัวเล็กอย่างสงสัยก่อนจะเอ่ยปากถาม
“วันนี้เวรทำคววามสะอาดนายหรอ ?”
“…..”
“แล้วเวรฉันวันไหนอ่ะ ? ”
“….” เมื่อเห็นว่าอีกคนเงียบไป แบคฮยอนจึงลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินไปยืนข้างๆคนตัวเล็ก หากแต่คยองซูก็ไม่สนใจการกระทำของอีกคน
พอลบกระดานเสร็จคยองซูจึงไปเดินหยิบไม้กวาดที่อยู่ข้างๆ พลันข้อมือของตัวเองก็ถูกคว้าไว้ ใบหน้าหวานหันไปหาอีกคนเป็นเชิงถามว่ามีอะไรหรือเปล่า
“ฉันถามว่าเวรฉันวันไหน แล้ววันนี้เวรนายหรอ” แบคฮยอนพูดย้ำพลางจ้องตาคยองซู
“ไม่มี..ไม่มีเวรนายหรอก กลับไปได้แล้ว” ร่างเล็กพูด ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนใหม่ช้าๆ
แบคฮยอนถอนหายใจต่ำให้ความดื้อของอีกคนที่คอยแต่จะไล่เขาให้กลับบ้าน ท่อนขายาวย่างกายเข้าไปหาคยองซูเรื่อยๆแต่คนตัวเล็กกลับถดกายหนีไปทางหลังห้อง มือเล็กกำด้ามไม้กวาดเอาไว้แน่นพลันสายตาก็มองเพื่อนใหม่เป็นระยะ แบคฮยอนเองก็ไม่พูดอะไร เขายังคงย่างกายเข้าหาคยองซูที่ถอยหนีอยู่อย่างนั้นจนแผ่นหลังของคนตัวเล็กแนบชิดกับผนังห้อง
และถึงอย่างนั้นคนที่ตัวสูงกว่าก็ยังเดินก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ…เรื่อยๆจนระยะห่างระหว่างคนสองคนน้อยลงไป
ใบหน้าของอีกคนมันใกล้ขนาดไหนคยองซูก็ไม่รู้หรอก รู้แค่แผ่นอกกว้างของอีกคนมันใกล้มากจนคยองซูไม่กล้าจะเงยหน้าขึ้นมอง
“เรื่องเวรทำความสะอาดก็โดนเพื่อนแกล้งให้ทำทุกวันหรอ” เสียงทุ้มของอีกคนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เสียงนั่นมันใกล้หูของคยองซูมาก
รู้แล้ว..รู้แล้วล่ะว่าตอนนี้ใกล้กันขนาดไหน
“.....” คยองซูไม่ยอมตอบ...อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่คยองซูเองก็ไม่แน่ใจ มือเล็กกำด้ามจับไม้กวาดไว้แน่นกว่าเดิมแถมยังกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเพราะความรู้สึกแปลกๆนั่นอีกต่างหาก
ความรู้สึกอะไรก็ไมรู้..รู้แค่คนตัวเล็กไม่เคยรู้สึกแบบนี้
“คยองซู…เงยหน้าขึ้นมาคุยกันก่อน”
แต่คำร้องขอของแบคฮยอนก็ไม่สำเร็จ ร่างเล็กยังไม่ยอมมองอย่างอื่นนอกจากพื้นหรือรองเท้า มือหนาจึงเอื้อมไปจับคางเล็กให้เงยหน้าขึ้นเพื่อสบตากัน
หน้าของเราสองคน..ใกล้กันจริงๆด้วย
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันทำช่วยนะ” แบคฮยอนพูดพลางยิ้มหวานให้อีกคน คนตัวสูงเดินหันหลังไปหยิบเอาไม้กวาดมาก่อนจะเริ่มกวาดห้อง คยองซูมองการกระทำของอีกคนก่อนจะค่อยๆยกยิ้มอย่างมีความสุข
...แบคฮยอนจะเป็นเพื่อนกับคยองซูตลอดไปใช่มั้ย?
หลังจากที่ทั้งสองคนช่วยกันทำความสะอาดห้องจนเสร็จแบคฮยอนและคยองซูจึงจัดการเก็บกระเป๋าของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกัน โรงเรียนในเวลาเย็นๆแบบนี้มักจะมีนักเรียนไม่มากนัก ส่วนมากจะเป็นพวกนักกีฬาที่กำลังฝึกซ้อมกันมากกว่า
ครืด ครืด..
แรงสั่นจากสมาร์ทโฟนเครื่องบางของแบคฮยอนทำให้ร่างสูงหยุดเดิน เขาหยิบมันขึ้นมาก่อนจะกดรับสาย คยองซูกำลังจะเดินไปที่อื่นเพราะแบคฮยอนอาจจะต้องการความเป็นส่วนตัว..หากแต่อีกคนกับคว้าข้อมือเล็กไม่ให้ไปไหน
“ครับ...”
‘ทำไมตอนนี้ยังไม่กลับบ้าน แกอยู่ไหนแบคฮยอน..ต้องไปถ่ายซีรีย์ไม่ใช่หรือไง’
“อยู่โรงเรียน”
‘พ่อให้คนขับรถรออยู่ที่หน้าโรงเรียน รีบขึ้นรถแล้วไปที่ตึกได้แล้ว ไปสายตั้งแต่วันแรกจะโดนว่าเอา ที่สำคัญแกจะอยู่โรงเรียนแบบนั้นคนเดียวมันก็อันตรายนะ สุขภาพแกยิ่ง…’
“ผมอยู่กับเพื่อน แล้วผมก็สบายดี แค่นี้นะครับ” ว่าจบแบคฮยอนก็กดตัดสายปลายทางทันที คยองซูมองหน้าอีกคนอย่างไม่เข้าใจเพราะเมื่อตอนออกมาจากห้องเรียนยังอารมณ์ดีอยู่เลย…แล้วทำไมพอคุยโทรศัพท์ต้องอารมณ์เสียกันนะ
“สงสัยหรอว่าใครโทรมา” ถามออกไปทั้งที่ยังไม่ยอมปล่อยมือของอีกคน คยองซูพยักหน้าเบาๆ
“แต่ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรนะ ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของนาย”
“ถ้าไม่อยากให้รู้จะจับแขนไว้แบบนี้ทำไมล่ะ หืม?” แบคฮยอนพูดยิ้มๆพลางยกข้อมือของคนตัวเล็กที่ตัวเองจับไว้ขึ้นมาในระดับสายตา
“แล้วมีอะไรหรือเปล่า ทำไมนายดูอารมณ์ไม่ดีเลย” ร่างเล็กถามก่อนที่ทั้งสองคนจะออกเดินพร้อมกัน แบคฮยอนปล่อยมือก่อนจะเริ่มอธิบาย
“วันนี้ตอนค่ำๆฉันมีถ่ายซีรีย์ แต่ตอนนี้ฉันยังอยู่โรงเรียนอยู่ พ่อก็เลยไม่ค่อยพอใจ”
“ถ่ายซีรีย์ ? เดี๋ยวนะ..นี่นายเป็นดาราหรอเนี่ย” คยองซูถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ก็…กำลังจะได้เป็นนั่นแหล่ะ ฮ่าๆ ตึกของสถานีอยู่แถวนี้ฉันเลยต้องย้ายโรงเรียนเผื่อว่ามันจะสะดวกขึ้น”
“แบบนี้มันต้องเลี้ยงฉลองหน่อยแล้วมั้ง ฮิๆ” คนตัวเล็กแซว “แล้วทำไมก่อนจะวางสายต้องบอกว่า…ผมสบายดี ด้วยล่ะ ?”
“ก็…เอ่อ…พอดีฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่ะ พ่อก็เลยเป็นห่วงมั้ง อ่า…รถฉันมารับแล้วล่ะ ไปก่อนนะคยองซู อย่าลืมทำการบ้านอ่านหนังสือด้วยนะเด็กน้อย” แบคฮยอนว่าพลางยิ้มกว้างให้แล้วถึงขึ้นรถไปทันที
เหตุผลของเพื่อนตัวสูงมันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลยสักนิด…แบคฮยอนไม่สบายอะไรตรงไหน..? แต่ก็ช่างเถอะ เขาคงเพิ่งออกจากโรงพยาบาลจริงๆนั่นแหล่ะ
แต่ว่า….
คยองซูไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองชอบฉายา ‘เด็กน้อย’ ของตัวเองมากขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ
เมื่อรถคันหรูของแบคฮยอนเคลื่อนออกไปคยองซูจึงกลับมาอยู่ในโลกความเป็นจริงที่ไม่มีใครปกป้องอีกครั้ง โรงเรียนในเวลานี้เริ่มร้างผู้คนแล้วจริงๆ ท้องฟ้าที่เริ่มเป็นสีส้มแดงบอกให้คยองซูรู้ว่าเวลานี้เย็นมากแล้ว
คิดได้ดังนั้นคนตัวเล็กจึงออกเดินจากเขตโรงเรียนเพื่อเดินทางกลับบ้าน ไม่มีใครขับรถคันหรูมาส่งคยองซูที่โรงเรียนเหมือนแบคฮยอน คนตัวเล็กอยู่กับแม่แค่สองคนและแม่เองก็ต้องทำงาน ที่บ้านของคยองซูไม่มีรถ มีแค่จักรยานคันเก่าๆคันเดียวก็เท่านั้น
คยองซูเดินมาเรื่อยๆจนถึงบ้านของตัวเอง บ้านเดี่ยวชั้นเดียวที่ไม่ใหญ่มากหลังนี้คือบ้านของคยองซู เมื่อสองปีก่อนพ่อของคยองซูถูกรถชนจนเสียชีวิต คู่กรณีจึงจ่ายค่าเสียหายและหาที่อยู่ใหม่ให้สองแม่ลูก ชีวิตของคยองซูจึงดีขึ้นบ้าง
แต่ถ้ายังมีพ่ออยู่...ชีวิตของคยองซูคงจะดีกว่านี้
“กลับมาแล้วครับ” คยองซูว่าเมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน รองเท้าคู่เดิมของแม่วางอยู่ที่ชั้นเป็นตัวบ่งบอกว่ามารดาของตนคงอยู่ที่บ้านแน่ๆ คยองซูเดินเข้าไปในห้องครัวซึ่งเป็นห้องประจำที่คนที่ตัวเองรักที่สุดชอบเข้ามา ร่างเล็กเห็นผู้เป็นแม่กำลังปอกผลไม้อยู่บนโต๊ะทานข้าวก็รีบเข้าไปนั่งลากเก้าอี้มานั่งข้างๆทันที
“ว่าไงลูก เรียนวันนี้เหนื่อยมั้ย” ผู้เป็นแม่เอ่ยถามลูกอย่างใจดี
“ไม่เหนื่อยเลยครับ แม่รู้มั้ย..วันนี้มีเพื่อนใหม่ย้ายเข้ามา เขายอมเป็นเพื่อนคยองซูด้วยนะ” คนตัวเล็กรีบอวด ไม่ใช่ว่าแม่จะไม่รู้ว่าเรื่องของคยองซูที่โรงเรียนเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เธอทำได้ก็คงจะมีแต่ปลอบโยนลูกชายเท่านั้น
“จริงหรอลูก…..ว้าย ! คยองซู..ทำไมเนื้อตัวถึงได้มอมแมมแบบนี้ล่ะลูก” เมื่อผู้เป็นแม่ละจากการปอกเปลือกผลไม้แล้วมองเห็นรอยเปื้อนบนเสื้อนักเรียนของคยองซูถึงกับหวีดร้องออกมาอย่างนึกเป็นห่วง เธอวางมีดและผลแอปเปิ้ลลงแล้วจึงเริ่มสำรวจเนื้อตัวลูกทันที
“ฮื่อ ! แม่ครับ คยองซูไม่เป็นอะไรหรอก แต่ว่า..เพื่อนคนนั้นชื่อแบคฮยอนนะครับแม่ แถมกำลังจะได้เป็นดาราด้วย” คยองซูแกะมือของแม่ออกจากแขนของตัวเองก่อนจะเริ่มอวดต่ออย่างอารมณ์ดี
ความจริงตอนนี้ผู้เป็นแม่เองก็มีความสุขไม่แพ้กันที่ตอนนี้เห็นลูกตัวเองยิ้มได้อย่างที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่พ่อของเขาเสีย
อยากจะขอบคุณเด็กที่ชื่อแบคฮยอนจริงๆ
“แม่ก็มีเรื่องจะมาอวดเหมือนกัน...แม่ได้งานเป็นแม่บ้านประจำแล้วนะ ถึงอาจจะต้องทำงานทั้งวันแต่ก็เป็นงานที่โอเคเลยล่ะ แถมตระกูลนี้เขาให้เงินเดือนแม่ตั้งเยอะแหน่ะ”
“จริงหรอครับแม่ แบบนี้แม่ก็ไม่ต้องไม่เป็นพนักงานเสิร์ฟเลิกดึกๆแล้วใช่มั้ย ดีใจจัง” ตัวเล็กโผเข้ากอดแม่ของตัวเองในทันที
“ต่อไปนี้คยองซูอยากกินอะไร อยากได้อะไรแม่ก็จะพยายามหามาให้ลูก” พูดพลางลูบผมหนาอย่างอ่อนโยนและกระชับอ้อมกอด
แม่ของคยองซูไม่ใช่คนที่เรียนจบสูงๆ ฐานะทางบ้านไม่ดีมาก็ตั้งแต่ไหนแต่ไร พอได้แต่งงานกับพ่อคยองซูถึงได้พอสร้างเนื้อสร้างตัวได้บ้าง…แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อสองปีก่อน พอพ่อคยองซูเสีย..คนตัวเล็กก็เหลือแค่แม่คนเดียว เด็กที่เพิ่งขึ้นมัธยมปลายจึงต้องเจออะไรต่างๆมากมาย มันจึงทำให้คยองซูเข้มแข็งมาได้จนถึงวันนี้ เห็นแม่เหนื่อยมาก็มาก..
คนตัวเล็กจึงสัญญากับตัวเอง…ต้องเรียนจบมีงานทำ แม่จะได้สบาย
จะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง..แม้แต่เรื่องเดียว
“คัท ! โอเค..วันนี้ทำได้ดีมากทุกคน เลิกกองครับ” หลังสิ้นเสียงผู้กำกับวัยกลางคน ทั้งนักแสดงและทีมงานก็โค้งและยิ้มให้กันตามมารยาทเมื่องานเสร็จ
“นักแสดงสมัครเล่นจริงๆหรอเนี่ยแบคฮยอน ทำได้ดีมากเลยนะ” ผู้กำกับเดินเข้าไปหาเด็กมัธยมปลายอย่างบยอนแบคฮยอนซึ่งเป็นตัวละครหลักในเรื่องนี้
“ไม่หรอกครับ ผมต้องไปฝึกอีกมาก” ร่างสูงยิ้ม
“รับรองว่าถ้าซีรีย์เรื่องนี้ฉายแล้วนายต้องดังแน่ๆ ทำงานหนักมากเลยนะ” ผู้กำกับตบบ่าแบคฮยอนเบาๆก่อนจะเดินออกไป ร่างสูงโค้งตัวตามมารยาทก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อเก็บของและเตรียมกลับบ้าน
หากแต่ห้องแต่งตัวของเขาไม่ได้มีแค่คนที่เกี่ยวข้อง ยังมีคนนอกอย่างจองซูจองนั่งอยู่ที่โซฟาอีกด้วย และเมื่อแบคฮยอนเข้ามาเห็นเธอร่างสูงก็ถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่เธอจะทัก
“ถ่ายเสร็จแล้วหรอแบคฮยอน ไปหาอะไรกินกันมั้ย ? จะเข้าตึกหรือเปล่า ?” ซูจองลุกจากโซฟาแล้ววิ่งไปหาอีกคนที่กำลังเก็บของอยู่ทันที
“ไม่ล่ะ ฉันเหนื่อย จะรีบกลับบ้าน”
“….เอ้อ..แล้วเรื่องผู้จัดการล่ะ หาได้หรือยัง ให้พ่อฉันช่วยมั้ย?”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ยุ่งถึงขนาดต้องมีผู้จัดการ ไปก่อนนะ” พูดแค่นั้นก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินจากห้องแต่งตัวไป
ไม่ใช่ว่าแบคฮยอนจะไม่ชอบซูจองหรอกนะ แต่เพราะเธอเกาะแกะเกินไปหน่อยร่างสูงจึงรู้สึกรำคาญ นี่ก็ไม่รู้ว่าถ้าตอนเย็นขึ้นรถมากับซูจองจะต้องฟังเธอพูดอะไรบ้าง ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมทุกคนถึงบอกว่าเธอหยิ่ง ทั้งๆที่ความจริงเธอพูดมากจะตาย
แบคฮยอนเดินออกมาจากกองถ่ายซึ่งวันนี้ใช้สวนสาธารณะใกล้โรงเรียนเป็นที่ถ่ายทำ ร่างสูงขึ้นรถที่ทางบ้านส่งมารับแล้วไม่นานก็ถึงคฤหาสน์ตระกูลบยอน
“กลับมาแล้วครับ” แบคฮยอนพูขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟาหรู
“ถ่ายละครวันนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ วันแรกหนิ” ผู้เป็นพ่อวางหนังสือพิมพ์ลงก่อนเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ก็ดีครับ แต่เหนื่อยหน่อย ผมขอตัวไปพัก....”
“แล้วทำไมวันนี้ถึงออกมาจากโรงเรียนช้า มัวแต่อยู่กับเพื่อนหรือไง” คุณชายบยอนพูดตัดทั้งที่แบคฮยอนยังพูดไม่จบ ร่างสูงถอนหายใจออกมาเบาๆแต่ก็ไม่ตอบอะไร
“เพื่อนเป็นใครล่ะ ที่บ้านทำธุรกิจอะไร”
“ไม่ทราบครับ ผมรู้แค่เค้าเป็นคนดี ผมขอตัว” แบคฮยอนเหนื่อยเกินที่จะมาต่อล้อต่อเถียงกับพวกตรรกะบ้าบอของพ่อเขาแล้วจริงๆ ทำไม…เพราะตัวเองเป็นคนรวยก็เลยคบได้แต่กับคนรวยด้วยกันอย่างนั้นหรอ บอกตรงๆว่าแบคฮยอนไม่ชอบความคิดพวกนี้
ร่างสูงโค้งตัวให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะหันหลังเตรียมเดินขึ้นห้อง และคุณชายบยอนก็ทิ้งท้ายมาแค่ประโยคเดียว…
“อ้อ ! ฉันรับแม่บ้านใหม่เข้ามานะ แต่ไม่ได้อยู่ประจำหรอก แม่บ้านใหม่จะเริ่มมาทำงานพรุ่งนี้เลย” พูดแค่นั้นก่อนจะหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านต่อ
เหอะ..นี่แหล่ะครับคือประโยคทิ้งท้าย ไม่ได้แสดงความห่วงใย…ไม่ได้ใส่ใจผมสักนิด
ทีแรกกะว่าจะให้ชีวิตคยองซูดราม่ากว่านี้นะ
ทำนองว่าแม่ก็ไม่รักอะไรอย่างนั้น..แต่มันจะดาร์กไปค่ะ
ก็เลยให้พี่แบคฮยอนของเรามีปัญหากับทางบ้านแค่คนเดียวพอ แบดบอยสุดๆ ฮริ้ง ~
ตอนนี้หลายๆคนอาจจะยังเดาเนื้อเรื่องไม่ออกว่าจะไปยังไงมายังไง
แต่พอตอนที่ 2-3 ก็เริ่มแบบ..เฮ้ย อัยย๊า เยเฮท โอโฮรัท โอ้วโอ้วย่าห์…แก๊บซอง อุงยาๆ หรืออะไรก็ว่าไปแน่นอน
แต่รับรองได้ว่าตอนท้ายๆดราม่าพันเปอร์เซ็น คิดพล็อตไปน้ำตาไหนไป ฮึก..TT
เอาเป็นว่าเรื่องนี้อย่าเพิ่งดราม่าทั้งเรื่องเลยแล้วกันเนาะ เอาแค่หนักๆตอนท้ายพอ ฮี่ๆๆ
พอดีไรท์เป็นคนบอบบางแล้วก็อ่อนไหวง่าย..ไม่อยากแต่งดราม่าน้ำตาแตกเท่าไหร่ [หรา !?]
พล่ามมาซะยาว..แต่เราก็จะพล่ามต่อไป
สวัสดีปีใหม่ไทยนะจ๊ะรีดเดอร์ผู้น่ารักทุกคน
แดดแรงแบบนี้ไปเล่นน้ำระวังสีผิวจะเหมือนจงอินเอาล่ะ
อย่าคิดว่าตัวเองผิวแบบนั้นแล้วจะเซ็กซี่เหมือนไคนะ NoNoNo~ ฮิๆๆๆ
[แต่ถ้าใครคิดว่าตัวเองเซ็กซี่ก็ส่งรูปมาให้ไรท์ดูบ้างได้ ไม่ถือๆ .เฮ้ยพูดอะไรออกไป ]
เอาล่ะพอได้แล้วสำหรับการพล่ามในแชปนี้ อย่าถือสาไรท์เลยนะ สวัสดีปีใหม่ไทยจ้า
ปอปลา.และลอลิง . อย่าลืมเม้นแล้วก็แท็ก #FicBD ในทวิตให้หน่อยนะจ๊ะ
เดี๋ยวจะไปส่อง
แล้วจะรีบมาอัพให้ในเร็ววัน เย่~
#แก้คำผิด 17 / 04 / 2557
ความคิดเห็น