ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] Because you're my frienD [BaekDo]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ △

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.16K
      13
      17 เม.ย. 57

     

                 Fic’Because you’re my FrienD

    {Baekhyun x D.O}

    #FicBD

     

    ::บทนำ::

     

     

    เพราะมนุษย์คือสัตว์สังคม..มันจึงเป็นเรื่องยากที่เราจะสามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว

    บางครั้งมนุษย์ที่มีทั้งคนรัก เพื่อน และ คนรอบข้าง

    ก็ยังเหงาและเศร้าอยู่ก็บ่อย

    แต่มนุษย์บางคนไม่มีทั้ง คนที่รัก’  และ  ‘เพื่อน’  หรือคนรอบข้างอยู่เลย

    พวกเขาเหล่านั้นจะโดดเดี่ยวขนาดไหน

    …..พวกคุณเคยหันกลับไปมองหรือเปล่า…..

     

     

              “เฮ้ยพวกเรา ! คยองซูมาโรงเรียนแล้วเว้ย !”  เสียงเด็กชายวัยมัธยมปลายซึ่งเป็นหัวโจกประจำห้องตะโกนขึ้นเมื่อเห็นร่างของคนตัวเล็กเดินก้มหน้าก้มตาเข้ามา   เรียกเสียงโห่และเสียงหัวเราะจากเพื่อนร่วมชั้นได้เป็นอย่างดี 

              ยิ่งเสียงโห่และเสียงหัวเราะดังมากเท่าไหร่คยองซูก็ยิ่งไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปในห้องเรียนมากเท่านั้น  คนตัวเล็กจึงต้องหยุดเดินและยืนนิ่งอยู่ที่เขตประตูห้องพร้อมกับก้มหน้างุดคางแทบจะชิดอกอยู่อย่างนั้น

              ถึงโต๊ะเรียนของคยองซูจะอยู่หลังห้องแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ประตูหลังเพราะถ้าคยองซูใช้มันคนตัวเล็กก็จะไม่ถูกปาข้าวของใส่เหมือนทุกวันแต่จะโดนกระทำเหมือนไม่ใช่คนมากกว่า

             “เดินเข้ามาสิคยองซู  กลัวอะไรหรอเด็กน้อย”  เด็กน้อยฉายาที่ถ้าใครหลายๆคนได้รับมันมันอาจจะดูน่ารัก   แต่มันกลับไม่เข้ากับวัยมัธยมปลายของคยองซูเอาเสียเลย

              ที่สำคัญมันไม่ได้มีความหมายว่าคยองซูน่ารักหรอกนะ    แค่คยองซูตัวเล็ก..แค่คยองซูสู้คนอื่นไม่ได้...แค่คยองซูยอมถูกแกล้งมาตลอด  ก็เลยต้องยอมถูกเรียกว่า เด็กน้อย’  แบบนี้นี่แหล่ะ

                คยองซูเงยใบหน้าหวานขึ้นมองหัวโจกของห้องที่พูดขึ้นเพียงแวบหนึ่งก่อนจะถอนหายใจน้อยๆแล้วยอมก้าวขาเล็กเข้าห้องไป

                และหลังจากนั้นของต่างๆมากมายก็ถูกปาเข้ามาที่ตัวคยองซูเต็มไปหมด  โดนทั้งศีรษะ  ใบหน้า  แขนและขา  มันเจ็บไปหมดทุกส่วนนั่นแหล่ะ   โดยเฉพาะข้างในอวัยวะใต้อกข้างซ้าย..เจ็บที่สุด

                “ที่นั่งนายใกล้ถังขยะฝากเอาไปทิ้งหน่อยนะคยองซู  พอดีสมุดเล่มนั้นไม่ใช้แล้วน่ะ   อ้อ ! จะเอาไปใช้เองก็ได้นะ  ได้ข่าวว่าที่บ้านยากจน  ฮ่าๆๆ”  เสียงเด็กชายอีกคนพูดและตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเพื่อนทั้งห้องอีกเช่นเคย  เมื่อสิ่งของที่ถูกปาเข้ามาใส่ร่างของคยองซูหล่นลงพื้นและคำด่าทอพวกนั้นจบลงคนตัวเล็กจึงค่อยๆก้มเก็บขยะเหล่านั้นตามคำสั่ง   พร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจของเพื่อน   

                หัวเราะเยาะเหมือนคยองซูเป็น..ผู้แพ้

                เมื่อคนตัวเล็กเดินมาถึงโต๊ะเรียนของตนที่อยู่หลังห้องก็จัดการวางกระเป๋าและนำสิ่งที่อยู่ในมือทิ้งลงถังขยะตามคำสั่งอย่างเลือกไม่ได้   เพราะสิ่งของพวกนั้นมันไม่มีค่า

                ‘ฝากทิ้งขยะด้วยนะ’  มันก็แค่ข้ออ้างของคนที่อยากแกล้งปาข้าวของมาใส่ก็เท่านั้นแหล่ะคยองซูรู้ดี

                ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งประจำที่โต๊ะเรียนตัวเดียวโดดๆหลังห้องที่ถูกขีดเขียนด้วยถ้อยคำด่าทอต่างๆนั่นแหล่ะคือที่ของคยองซู

                ต้องนั่งคนเดียว

                เดินคนเดียว

                ถูกแกล้ง..นี่แหล่ะชีวิตของเขา

                แม้กระทั่งเวลามีนักเรียนใหม่เข้ามา  เพื่อนๆในห้องก็จะกีดกันและด่าทอคยองซูให้เด็กใหม่ฟังจนไม่มีใครคิดอยากจะคบกับคยองซูเป็นเพื่อนเลยสักคน      มันก็คงไม่แปลกที่จะไม่มีใครอยู่ข้างคยองซูเลย

                ส่วนเหตุผลที่โดนแกล้งน่ะหรอก็เพราะ จน’  ยังไงล่ะ  เพราะแม่ของคยองซูไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต      เพราะคยองซูได้ทุนมาเรียนโรงเรียนนี้….โรงเรียนที่พวกลูกคนรวยเขาเรียนกัน                     คนจนๆอย่างคยองซูก็เลยถูกหมั่นไส้เป็นธรรมดา    ถ้าจะให้ไปเรียนที่อื่นเขาก็คงไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอมหรอกอย่างกับซีรีย์เกาหลีอะไรทำนองนั้น  แต่ตัวละครในซีรีย์ที่ถูกแกล้งก็ยังมีเพื่อน   ตรงข้ามกับคยองซูที่ไม่มีเพื่อนเลยสักคน

                   เพราะเดินไปไหนก็โดนแกล้ง  เดินไปไหนก็ถูกจิกตาใส่ คนตัวเล็กก็เลยต้องเดินก้มหน้าจนตอนนี้มันกลายเป็นท่าเดินของคยองซูไปแล้ว

                อีกปีเดียวก็จบแล้วล่ะคยองซูทนหน่อยนะ

                  

                   “เอาล่ะค่ะนักเรียนทุกคนวันนี้ห้องเรามีเพื่อนใหม่ย้ายเข้ามาใหม่นะคะ”  เสียงเล็กแหลมของอาจารย์ประจำชั้นดังขึ้นที่หน้าห้อง   อาจารย์เดินเข้ามาตอนไหนคยองซูไม่เคยสนใจหรอกคนตัวเล็กได้แต่นั่งก้มหน้าเหม่อลอยอยู่แบบนี้เสมอแหล่ะ

                  “สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะ  เราชื่อบยอนแบคฮยอน เพิ่งย้ายเข้ามายังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”  เสียงเด็กนักเรียนชายคนใหม่พูดขึ้น     แบคฮยอนอะไรนี่หน้าตาเป็นยังไงไม่รู้หรอก  เพราะคนตัวเล็กเอาแต่นั่งก้มหน้าอยู่แบบนี้

                  “แบคฮยอนหรอน่ารักอ่ะแก~” เสียงคุยกันกระซิบกระซาบของนักเรียนหญิงในห้องดังขึ้น      คยองซูได้ข้อสันนิษฐานใหม่  นอกจากแบคฮยอนจะเป็นผู้ชายแล้ว..คงจะหน้าตาดีด้วยสินะ

                  “แบคฮยอนไปนั่งที่ว่างได้เลยนะ  เลือกเอาเลยว่าจะนั่งตรงไหน..เหลืออยู่สองที่”  อาจารย์ที่ปรึกษาพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มให้แบคฮยอนบางๆ  ร่างสูงโค้งตัวให้อาจารย์ก่อนจะเดินมานั่งที่

                  ที่ตรงนั้นก็คือโต๊ะข้างหน้าคยองซู..แต่เหตุผลคงจะไม่ใช่เพราะแบคฮยอนอยากจะมาเป็นเพื่อนกับคยองซูหรอก  มันคงเป็นเพราะซูจองมากกว่า..เธอเป็นที่รู้จัก  ทั้งขาวทั้งน่ารัก  แถมยังเป็นทายาทอันดับสองของสถานีโทรทัศน์อันดับหนึ่งของเกาหลีอีก  ใครๆก็อยากคบหาเป็นธรรมดา   แต่ติดที่ว่าเธอออกจะหยิ่งอยู่หน่อยๆก็เท่านั้นเอง

                 “สวัสดีแบคฮยอน  ยอมมาเรียนที่นี่แล้วหรอ”  ซูจองทัก  สะลัดคราบสาวจอมหยิ่งทิ้งทันที

                 “อืมแต่กลับกลายเป็นแบคฮยอนผู้ร่าเริงเองต่างหากที่ดูหยิ่งขึ้นมาทันตา

                 “เย็นนี้เลิกเรียนเสร็จแล้วนายมีอัดรายการใช่มั้ยงั้นเราไปด้วยกันนะ  วันนี้ฉันจะเข้าตึกของสถานีไปหาป๊าพอดี

                 “อืม” 

                  ข้อสันนิษฐานข้อที่สอง  เหมือนสองคนนี้จะรู้จักกันสินะก็เลยมานั่งด้วยกันคยองซูคิดว่าอย่างนั้น

                 “อีกสิบนาทีจะเริ่มเรียนวิชาแรกให้นักเรียนเตรียมสมุดกับหนังสือขึ้นมารออาจารย์นะคะ”  อาจารย์ที่ปรึกษาคนเดิมว่าจบ นักเรียนก็ทำความเคารพแล้วเธอจึงเดินออกจากห้องไป    เสียงจ้อกแจ้กจอแจในห้องจึงเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง

                 และครั้งไหนที่ไม่มีอาจารย์คยองซูก็มักจะโดนแกล้งเสมอ

     

                 ปึก!

                 แผ่นกระดาษหลายแผ่นที่ถูกปั้นจนเป็นก้อนกลมๆก้อนใหญ่ถูกโยนมาโดนศีรษะของคยองซู  ถึงความรู้สึกเจ็บกายมันจะมีไม่ค่อยมากแต่มันก็ยากที่คยองซูจะไม่เจ็บใจ   เมื่อก้อนกระดาษหลายๆก้อนถูกโยนมาที่ตัวคยองซูคนตัวเล็กก็เริ่มโกรธ.แต่เขาก็ทำได้แต่นั่งก้มหน้าอยู่แบบนี้แหล่ะมันคือสิ่งเดียวที่คยองซูทำได้

               “มัวทำอะไรอยู่ล่ะคยองซู  เอาไปทิ้งสิอาชีพเก็บขยะน่าจะเหมาะกับเด็กจนๆแบบนายนะ ฮ่าๆๆ”  ถึงจะเจ็บใจที่โดนดูถูกแต่ผู้แพ้อย่างคยองซูก็จำต้องลุกจากโต๊ะเรียนและก้มลงไปเก็บเศษกระดาษพวกนั้นลงถังขยะตามคำสั่งของคนผู้ชนะ

               “โยนมาทำไมไม่เป็นคนทิ้งเองล่ะ..”  คยองซูบ่นพึมพำเบาๆ

               “เฮ้ย !จองกุก  คยองซูแม่งบ่นด้วยว่ะ..เมื่อกี้กูได้ยิน

     

     

               “นี่ซูจอง  ทำไมคนที่ชื่อคยองซูถึงโดนแกล้งแบบนี้อ่ะ  ไม่ห้ามหรอ”  แบคฮยอนหันไปถามซูจองที่นั่งอยู่ข้างๆเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เหมือนกับว่าเพื่อนใหม่ที่ชื่อ คยองซู’  กำลังจะโดน จองกุก’  หัวโจกของห้องแกล้งอะไรทำนองนั้น

               “เฮ้อ..จองกุกอ่ะหัวโจกของห้อง  ส่วนคยองซูน่ะโดนเพื่อนเกลียดทั้งห้อง..ไม่สิ  ทั้งโรงเรียนเลยมั้ง”  ซูจองอธิบายทำท่าทางเบื่อหน่าย  เรื่องจองกุกแกล้งคยองซูเป็นเรื่องที่มันต้องเกิดขึ้นทุกวันอยู่แล้ว ซูจองมองว่าเรื่องพวกนี้ว่ามันไร้สาระเธอจึงไม่เคยเข้าไปยุ่งหรือไปแกล้งอะไรคยองซูหรอก

               “เขาก็น่ารักดีหนิ..ไปแกล้งเขาทำไม”  ถึงจะได้คำตอบแต่แบคฮยอนก็ยังไม่เลิกสงสัย  สายตาคมยังคงจับจ้องไปที่จองกุกที่กำลังเดินไปหาเพื่อนตัวเล็ก

               “เหตุผลที่คยองซูโดนแกล้งอยู่ทุกวันน่ะหรอ….ก็เพราะที่บ้านจนน่ะสิ  แล้วจองกุกก็เกลียดพวกเด็กทุนอาศัยงบโรงเรียน   ใครคบกับคยองซูก็โดนจองกุกอัดจนน่วมหมดแหล่ะ”  ซูจองว่าก่อนจะหันไปมองจองกุกกับคยองซูที่อยู่หลังห้องเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ

                ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามเลยสักคน

                “ทำไม บ่นอะไร”  จองกุกถามเสียงเรียบพลางกระชากคอเสื้อคยองซูให้ลุกขึ้นมามองหน้ากัน  แต่มีหรือที่คนตัวเล็กจะกล้าคยองซูก็ทำได้แค่เบือนหน้าหนีไปเท่านั้น

                “ฉันถามว่าบ่นอะไร !”

                “พะ..พวกนายทำไมไม่เอาขยะไปทิ้งเองกันบ้างล่ะ  ทำไมต้องโยนมาใส่ตัวฉันมันเจ็บนะ”        คยองซูพูดน้ำเสียงแผ่วเบา

                จองกุกอะไรนี่ท่าจะเกลียดคยองซูมากสินะ..แบคฮยอนคิดว่าอย่างนั้น

               “ก็แม่แกเก็บขยะขายไม่ใช่หรอ  ลูกก็น่าจะทำได้ดีนี่  แล้วก็..บางทีเราก็มองแกเป็นถังขยะไร้ค่าว่ะ

               “แม่ฉันไม่ได้เก็บขยะขาย อย่ามาว่าแม่ฉันนะ ! ”  เป็นครั้งแรกที่คยองซูกล้าเผชิญหน้ากับจองกุกที่แสนร้ายกาจ

                “เถียงหรอคยองซู ห้ะ!” 

                 ตุ้บ !

                 จองกุกผลักคนตัวเล็กกว่าให้ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นก่อนจะใช้ของต่ำเตะเข้าไปที่ขาและตามเนื้อตามตัวของคยองซูอย่างแรงจนกายเล็กเริ่มบอบช้ำ  แต่คนที่ถูกกระทำก็ได้แค่นอนขดตัวอยู่ที่พื้นให้โดนทำร้ายอยู่อย่างนั้น

               บอกแล้วยังไงคยองซูก็คือผู้แพ้

               “เฮ้ย !อย่าแกล้งเพื่อนดิจองกุก”  แบคฮยอนลุกขึ้นหลังจากทนดูเหตุการณ์ไม่ไหว

               “ยุ่งอะไรเด็กใหม่  ถ้าไม่อยากเจอดีก็อยู่เฉยๆ”  แต่จองกุกกลับสวนกลับอย่างไม่ใส่ใจ  ทั้งยังทิ้งคำขู่ไว้อีกต่างหาก..แต่คิดหรอว่าคนอย่างแบคฮยอนจะกลัว

               “เฮ้ย อาจารย์มาแล้ว”  เสียงเพื่อนอีกคนตะโกนมาจากหน้าห้อง   นักเรียนทุกคนหันกลับมาประจำที่ของตัวเอง  ทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น   เพราะแบบนี้ยังไงล่ะอาจารย์ถึงไม่รู้ว่าคยองซูถูกเพื่อนแกล้ง  ไม่มีใครช่วยคยองซูได้สักคน

               การเรียนในแต่ละวิชาผ่านไปอย่างเชื่องช้า  คยองซูเหม่อบ้าง….ฟังอาจารย์บ้าง   เขาไม่ใช่ลูกศิษย์คนโปรดของอาจารย์วิชาไหนเลยสักคน   ถ้าในคาบคยองซูไม่ถูกสุ่มให้ตอบคำถามเขาก็คงจะไม่เคยคุยกับอาจารย์เลยสักครั้ง  คนตัวเล็กเอาแต่นั่งเงียบ  ดวงตาก็มีแต่จ้องตัวหนังสือก็เท่านั้น

              ถ้าจะให้เดาคยองซูคิดว่าพวกอาจารย์คงรู้นั่นแหล่ะว่าตัวเองโดนแกล้ง  เพราะบนโต๊ะเรียนมีแต่คำด่าทอเต็มไปหมดแบบนี้  เหอะ แต่จองกุกเป็นลูกคนใหญ่คนโต  ที่บ้านบริจาคเงินให้โรงเรียนแต่ละทีก็เป็นหลักสิบล้าน  ไม่มีใครกล้าทำอะไรจองกุกหรอก

            กริ๊งง !

              เสียงออดเป็นสัญญาณหมดเวลาของคาบเรียนสุดท้ายในช่วงเช้าดังขึ้น  นักเรียนทุกคนเดินออกจากห้องเพื่อตรงไปยังโรงอาหารสุดหรูของโรงเรียน  ยกเว้นก็แต่คยองซูกับแบคฮยอนนี่แหล่ะที่ไม่ยอมลุกออกไป 

              แบคฮยอนนอนแหมะลงกับโต๊ะเรียนทันทีเมื่อหมดคาบ  คยองซูจัดการเก็บอุปกรณ์การเรียนทุกอย่างลงไปแล้วนำห่อข้าวมาวางไว้แทน   ดวงตากลมแอบหลุบมองร่างของเพื่อนใหม่ที่นอนอยู่ไม่ยอมออกไปไหน

              แต่ถึงอย่างนั้นคยองซูก็ไม่ได้สนใจหรอกนะว่าทำไมอีกคนถึงไม่ออกไป..

              มือเล็กจัดการเปิดฝากล่องข้าวพลาสติกที่ตัวเองเตรียมมาช้า   กับข้าวตรงหน้าของคยองซูมันไม่ใช่อาหารที่มีหน้าตาน่าทานมันเป็นแค่ข้าวเปล่ากับกิมจิแค่นิดๆหน่อยๆก็เท่านั้น 

              ทำไมไม่ไปกินข้าวที่โรงอาหาร”  แบคฮยอนเลิกฟุบโต๊ะ   พร้อมกับถามเสียงเรียบก่อนจะหันมาหาอีกคน    คยองซูได้แต่นิ่งอึ้งไม่กล้าสบตาเพื่อนใหม่   ก็แค่สงสัย..ว่าทำไมแบคฮยอนถึงยังกล้าคุยกับตัวเองทั้งๆที่เพิ่งโดนจองกุกขู่ไปเมื่อเช้า

              “….”

              “ค่าอาหารกลางวันเขาก็รวมเข้าไปในค่าเทอมอยู่แล้วนี่  ไม่เสียดายตังค์หรือไง  จะห่อข้าวมาทำไมมีแต่กิมจิกับข้าวเปล่าแค่นี้จะอิ่มหรอ

                ไม่เคยไม่เคยมีใครถาม ไม่เคยมีใครคุยกับคยองซูเหมือนแบคฮยอนเลย

               ..อิ่มสิ”  คยองซูตอบเสียงพร่าทั้งที่ยังไม่ได้มองหน้าแบคฮยอนเลยด้วยซ้ำ

               ไป..กินข้าวด้วยกัน”  แบคฮยอนลุกขึ้นก่อนจะคว้าข้อมือเล็กให้ลุกตาม

               อ๊ะ....ไม่  นายไปเถอะ”   คยองซูมองหน้าแบคฮยอนเพิ่งเห็นชัดๆก็ตอนนี้แหล่ะว่าอีกคนหน้าตาดีขนาดไหน

               “….”

               “ถ้าฉันไป..คนอื่นก็จะมาแกล้ง  ฉันกินข้าวเที่ยงคนเดียวแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ  นายไปเถอะ”  ส่งยิ้มบางๆให้อีกคนพร้อมแกะมือของแบคฮยอนออกแล้วจึงนั่งลงกับโต๊ะเหมือนเดิม

                แบคฮยอนถอนหายใจกับความดื้อรั้นของอีกคนก่อนจะเดินออกจากห้องแล้วตรงไปยังโรงอาหาร  กะไว้ว่าจะตักข้าวเที่ยงไปให้คนตัวเล็กด้วย  กินแค่นั้นคงไม่อิ่มแน่ๆ

     

                เมื่อแบคฮยอนเดินออกไป  ห้องทั้งห้องจึงเหลือแค่คยองซูคนเดียวเท่านั้น  ร่างเล็กก้มลงจัดการกับข้าวเที่ยงของตัวเองช้าๆ   ผ่านไปกว่าสิบนาทีที่คยองซูอยู่ในห้องคนเดียว  และไม่นานก็รู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้ามาในห้อง

                จองกุก..

                “กินข้าวอยู่หรอคยองซู” 

                “..ใช่”  คยองซูตอบคนตัวโตกว่าที่กำลังเดินเข้ามาหาตน  มือเล็กวางลงที่ข้างกล่องข้าวพร้อมกับกำตะเกียบแน่น   ไม่รู้ว่าจองกุกจะมาหาเรื่องอะไรเขาอีกหรือเปล่า

                  หัวโจกของห้องเดินมาจนถึงโต๊ะเรียนที่คยองซูกำลังนั่งทานข้าว  จ้องคนตัวเล็กได้ไม่นานกล่องข้าวพลาสติกที่ในนั้นยังมีข้าวอยู่เกือบเต็มก็ถูกปัดตกจากโต๊ะลงพื้นห้องอย่างแรง เม็ดข้าวและส่วนผสมของ    กิมจิกระจัดกระจายไปทั่ว  

                  คยองซูนิ่งค้าง...ไม่กล้าแม้แต่จะก้มมองเม็ดข้าวบนพื้น  ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ  ไม่รู้ว่าอีกคนไปโกรธอะไรมาถึงได้มาทำลายข้าวของของตัวเองแบบนี้

                 “..จองกุก  นี่ข้าวเที่ยงฉันนะ”  ในที่สุดคยองซูก็ตัดสินใจพูดออกไป   แต่น้ำเสียงมันทั้งสั่นและเต็มไปด้วยความกลัว

                 แกไปบอกพ่อทำไมว่าฉันแกล้งแก !”  จองกุกตะโกนเสียงดังพร้อมกับชี้หน้าคนตัวเล็ก                   คยองซูเงยใบหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าช้าๆอย่างงงๆ 

                 ..บอกอะไร  อ๊ะโอ๊ย!”   ยังไม่ทันที่คยองซูจะเข้าใจอะไรจองกุกก็กระชากคอเสื้อคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นแล้วผลักร่างของคยองซูให้กระแทกกับผนังห้องอย่างแรง  

                 ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่อง ! คิดว่าบอกพ่อฉันแล้วฉันจะไม่แกล้งแกหรอคยองซู   หึ..คิดผิดแล้วล่ะเด็กน้อย   ถ้าฉันกลับไปแล้วโดนพ่อทำโทษ  แกจะโดนหนักยิ่งกว่า !”   

                 “ฉันไม่รู้จักพ่อนายนะ  โอ๊ย!”  คยองซูเซล้มลงกับพื้นอีกครั้งเมื่อถูกหมัดหนักๆชกเข้าที่แก้มเนียน

                 ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร ! คนอื่นเค้ากลัวฉันทั้งโรงเรียนแม้กระทั่งผู้อำนวยการ  ทำไม..เดี๋ยวนี้เก่งหรอ !”

                  “โอ๊ย ฮึก  ไม่ได้ทำ  ฉันไม่ได้ฟ้อง  โอ๊ย !”  จองกุกเตะเข้าที่ช่องท้องของคยองซูอย่างไม่สนใจใยดี  ถึงแม้อีกคนจะร้องไห้เสียงดังหรือปฎิเสธขนาดไหน   แต่ยังไงก็โดนทำร้ายอยู่ดี

                   ไม่เคยมีใครสงสารคยองซูหรอก

                  “ฉันไม่ได้ทำจริงๆ  ฮึก..พอแล้ว โอ๊ย !”   เสียงอ้อนวอนของคยองซูดังก้องไปทั่ว  จองกุกจึงต้องหยุดการกระทำของตัวเองเพราะกลัวจะมีใครมาเห็นเข้าแล้วเรื่องจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่

                  คนตัวเล็กยังคงนอนขดตัวนิ่ง แผ่นหลังบางแนบชิดติดกับผนังห้อง  เสื้อผ้ายับยู่ยี่และมีรอยเปื้อนเต็มไปหมด

                  เจ็บไปหมดทั้งตัว..

                  ถ้าแกไม่ได้ทำแล้วใครจะทำ ! ไอ้เด็กขอทาน !”

                  “ฉันทำเอง”   เสียงบุคคลที่สามดังขึ้นจากด้านหลัง  จองกุกหันไปทางต้นเสียงเหมือนคนตัวเล็กที่ค่อยๆยันตัวลุกขึ้น

                  แกเองหรอ  ยุ่งอะไรด้วยว่ะไอ้เด็กใหม่ แกต้องเจอดีแน่ !”  กลับกลายเป็นแบคฮยอนที่โดนจองกุกกระชากคอเสื้อแทน  หากแต่คนที่โดนกระทำกลับจ้องตาจองกุกอย่างไม่มีท่าทีหวาดกลัวใดๆ

                  เหอะ..แล้วถ้าฉันกลัวนายฉันจะฟ้องพ่อนายทำไม

                  “ไอ้..!!”  แบคฮยอนผลักร่างของจองกุกออกให้ตัวเองหลุดจากพันธนาการเหล่านั้นก่อนจะเริ่มพูดต่อ

                   พ่อนายรออยู่ที่ห้องปกครองแล้ว  รีบไปสิอย่าให้ท่านรอ  โรงเรียนนี้จัดการเร็วดีนะ  ฉันบอกพ่อนายตอนคาบที่สอง  ดูสิพอเที่ยงก็มาเลย”  แบคฮยอนพูดเสียงเรียบพร้อมกับยกยิ้มร้าย   ถึงจองกุกจะโมโหและรู้สึกขัดใจแค่ไหนก็ต้องลุกและรีบเดินออกไป   โดยไม่ลืมที่จะทิ้งสายตาอาฆาตแค้นเอาไว้

                   คนที่ทำให้คนอย่างจอนจองกุกกลัวได้ขนาดนี้คงมีแค่พ่อจริงๆสินะ ฮ่าๆนึกไว้แล้วไม่มีผิด”  แบคฮยอนพูดกับตัวเองอย่างอารมณ์ดีพลางมองแผ่นหลังของอีกคนที่กำลังเดินออกจากห้องเรียนไป

                   คยองซูเดินมาเก็บเม็ดข้าวที่หกเรี่ยราดเข้ากล่องข้าวพลาสติกของตนหลังจากที่จองกุกเดินออกจากห้องไปแล้ว   แบคฮยอนมองการกระทำของคนตัวเล็กอย่างไม่วางตา

                   ถ้าแบคฮยอนไม่ได้ตาฝาดเมื่อกี้เขาเห็นน้ำตาของคยองซูนะ..

                   มาเดี๋ยวช่วยเก็บ”  คนตัวสูงกว่า   ย่อเข่าลงก่อนจะใช้มือรวบเม็ดข้าวที่กระจัดกระจายเข้ามาแล้วเก็บใส่กล่องเหมือนที่คยองซูกำลังทำอย่างไม่นึกรังเกียจ  คนตัวเล็กมองหน้าแบคฮยอนแวบหนึ่งก่อนจะก้มหน้าลงเก็บเม็ดข้าวต่อ

                   “..ไม่ต้อง

                   “เอาน่า  รีบเก็บจะได้รีบไปกินข้าวกัน”  แบคฮยอนพูดยิ้มๆ

                   บอกแล้วไงว่าไปไม่ได้  ที่สำคัญข้าวฉันก็หกหมดแล้วไม่มีอะไรกินแล้วล่ะ”  คยองซูพูดเมื่อเก็บเม็ดข้าวที่ตกจนหมด  และตอนนี้มือของทั้งสองคนก็เปื้อนไปด้วยอาหารกลางวันของคนตัวเล็ก

                    งั้นพาไปล้างมือหน่อยสิ   ฉันเพิ่งย้ายมาวันนี้ไปรู้ว่ามีตรงไหนล้างมือได้บ้างน่ะ”  ตัวเล็กแอบคิดนะว่าแบคฮยอนโกหก  แต่ก็ช่างเถอะ

                    “อืม..ไปสิ”   คยองซูตอบรับก่อนจะลุกขึ้นและเดินนำอีกคนไปยังอ่างล้างมือ  แบคฮยอนสังเกตท่าเดินของคนตัวเล็ก….จังหวะการเดินไม่ช้าไม่เร็ว    มือเล็กทั้งสองข้างต้องจับกันไว้ตลอด  บางทีก็ให้มือมันถูกันบ้าง  บางทีก็เล่นนิ้วของตัวเองบ้าง  แต่ที่แน่ๆใบหน้าหวานนั่นมักจะก้มต่ำจนคางแทบชิดอกเสมอ

                 ท่าเดินประจำของคยองซูเลยสินะ

                    คนตัวเล็กหยุดเดินเมื่อพาเพื่อนใหม่มายังอ่างล้างมือหน้าห้องน้ำชายเรียบร้อยแล้ว  คยองซูเงยหน้ามองแบคฮยอนเพียงแวบหนึ่งแล้วก็กลับไปก้มหน้าต่อ

                 เคยมองอย่างอื่นนอกจากพื้นมั้ยเนี่ยคยองซู

                    ถึงแล้ว..ฉันไปก่อนนะ”  คยองซูพูดเสียงเบาก่อนทำท่าจะเดินออกไป  แต่ยังไม่ทันไรข้อมือเล็กของตัวเองก็ถูกเพื่อนใหม่ยื้อไว้ทันที

                    จะไปไหน  นายก็ต้องล้างเหมือนกันนะ  ดูสิเม็ดข้าวติดเต็มมือเลย”  แบคฮยอนดึงร่างอีกคนเข้ามาก่อนจะเปิดก็อกน้ำให้สายน้ำไหลผ่านมือของแบคฮยอนและมือของคยองซูที่กำลังถูกกอบกุมไว้..

                    แบคฮยอนใช้มือของตัวเองถูกับเล็กมือของคยองซูเบาๆให้เม็ดข้าวที่ติดอยู่หลุดออกไป  ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอยู่นานหลายนาที  แบคฮยอนจะรู้หรือเปล่านะว่าตอนนี้คยองซูรู้สึกดีมากๆเลย

                    ..ล้างเองก็ได้”  คนตัวเล็กชักมือของตัวเองออกมาจากการกอบกุมแล้วหันไปล้างกับก๊อกที่อยู่ข้างๆ

                    แต่คยองซูดีใจจริงๆนะที่มีคนมาคุยด้วยดีๆแบบนี้

                    คยองซู  ทำไมนายต้องเดินต้องนั่งก้มหน้าต่ำๆด้วยล่ะ”  แบคฮยอนเริ่มเปิดประเด็นที่ตัวเองสงสัย    แต่อีกคนก็ยังไม่ยอมตอบ  เขาจึงลองถามคำถามต่อไป

                    แล้วทำไมต้องยอมให้จองกุกมันแกล้ง  สู้บ้างก็ได้

                    “เคยสู้แล้วแต่โดนหนักกว่าเดิม” 

                    งั้น….”  ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะพูดจบ  เสียงหวานของคยองซูก็เอ่ยขึ้นตัดบท

                    แบคฮยอน..ไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรอก  เดี๋ยวนายจะเดือดร้อนเอานะ  ฉันไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนเพราะฉัน   เลิกยุ่งกับฉันเถอะนะ  แล้วอย่าทำอะไรแบบนี้อีกฉันเจ็บ”  เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนสองคนหลังจากที่คนตัวเล็กพูดจบ..

                    คยองซูอยากมีเพื่อนเหมือนเด็กมัธยมคนอื่นๆเหมือนกันนั่นแหล่ะ  แต่ดูเหมือนว่าคนอย่างเขาฟ้าจะกำหนดให้ต้องอยู่ตัวคนเดียวเสมอมา    ความรู้สึกแบบนี้มันยิ่งกว่าคำว่า โดดเดี่ยวเลยด้วยซ้ำ

                    ดีใจขนาดไหนที่ดูเหมือนว่าแบคฮยอนจะไม่รังเกียจตัวเอง   แต่ถ้าแบคฮยอนเป็นเพื่อนกับคยองซู..จองกุกคงไม่ปล่อยไว้แน่    ตัวเล็กก็แค่ไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บตัวหรือเดือดร้อนแทนตัวเองก็เท่านั้น  

                    “เลิกยุ่งไม่ได้

                    “……”

                    “ฉันไม่ชอบเห็นเพื่อนของตัวเองโดนแกล้ง 

                     เพื่อนหรอ

                     แบคฮยอนยอมเป็นเพื่อนกับคยองซูงั้นหรอ

                     ..เพื่อน?”

                     “อื้มก็แบคฮยอนเป็นเพื่อนกับคยองซูไง  เลิกงอแงได้แล้วเด็กน้อย” 

                     รอยยิ้มนั้น….ชอบจัง

      

                  

                  การที่เรามีเพื่อนที่สนิทและจริงใจเพียงแค่คนเดียว 

    มันยังดีกว่าการที่เรามีเพื่อนที่ไม่จริงใจหลายๆคนเสียอีก

     

       

                 

     TBC.



     

    เปิดฟิคใหม่ทั้งที่เรื่องเก่าก็ยังแต่งได้ไม่ถึงครึ่ง ฮ่าๆๆ

    คราวนี้มาในคู่แบคโด้ คู่รักไซส์มินิแห่งเอ็กโซเค

    ไรท์จะพยายามปรับปรุงฝีมือไปเรื่อยๆ  เป็นกำลังใจให้เค้าด้วยนะ ! ฮึบ !

    กำลังใจจากรีดเดอร์ไรท์ก็ไม่ขออะไรมาก 

    แค่เม้นแล้วก็แท็ก    #FicBD   ในทวิต ให้หน่อยนะจ๊ะ

    แล้วจะรีบมาอัพให้ในเร็ววัน    เย่~

    ปล.จัดหน้าแบบนี้อ่านง่ายมั้ยคะ ?


    #แก้คำผิด  17 / 04/  2557
    themy  butter
      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×