พะยูนขอเกริ่นก่อนว่าพะยูนไม่ใช่นักวิจารณ์มืออาชีพ เป็นแค่นักวิจารณ์ธรรมดาที่พลันตัวมาจากนักอ่าน ไม่จำเป็นต้องเชื่อและเห็นด้วยกับพะยูนทุกประโยค พะยูนขอแค่ให้คุณเอาคำวิจารณ์ของพะยูนไปไตร่ตรองดูเท่านั้น เพื่อที่นิยายของคุณจะได้พัฒนายิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
เกี่ยวกับนิยาย
ชื่อเรื่องและการแนะนำเรื่องย่อ : ชื่อเรื่องน่าสนใจและน่าอ่านมากเลยค่ะ แถมยังครอบคลุมเนื้อหาในเรื่องดีด้วย ทำให้รู้ว่าเป็นเนื้อเรื่องแนวไหน ส่วนการแนะนำเรื่องย่อยังทำได้ไม่ดีนักค่ะ การแนะนำของคุณนั้นมันแทบจะสื่ออะไรเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องไม่ได้เลยค่ะ(นอกจากเรื่องประตู) มันไม่มีความน่าสนใจและน่าตื่นเต้นเลยสักนิด พะยูนแนะนำว่าควรจะเปลี่ยนการแนะนำเป็นแบบอื่น ที่มันทำให้ดูน่าค้นหาและน่าสนใจค่ะ
โครงเรื่อง
พล็อตเรื่อง : เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณชายตระกูลๆ หนึ่งที่ชื่อว่า เฮนเซล ได้บังเอิญไปเจอประตูประหลาดๆ บานหนึ่งเข้า ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงทำให้เขาตัดสินใจจะเปิดประตู แต่พอเขาแตะกลอนประตูเท่านั้น! จู่ๆ ก็มีลายปรากฏขึ้นที่บานประตู ลายนั้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวซึ่งเป็นรูปเดียวกับปานที่หัวไหล่ขวาของเขา วันต่อมาเขาลองกลับไปที่ประตูบานนั้นอีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้เปิดประตูเข้าไปดู มันจึงทำให้เขาได้พบกับนางฟ้าที่ชื่อว่า ไดน่า ทำให้เฮนเซลรู้ว่าประตูบานนี้เป็นประตูที่เชื่อมต่อกับโลกของนิทาน พล็อตเรื่องแบบนี้ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวค่ะเพราะมันเป็นการผจญภัยในรูปแบบใหม่ ทำให้ผู้อ่านสนใจกันมากทีเดียว
การเปิดเรื่อง : การเปิดเรื่องของคุณนั้นก็น่าสนใจไม่น้อยทีเดียวค่ะ ทำให้รู้ถึงความเป็นมาของตัวละคร และเรื่องประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวละคร ถือว่าโอเคในระดับหนึ่งค่ะ
ถ้อยคำภาษา
ภาษาที่ใช้และการบรรยาย : ภาษาที่คุณใช้มั่วมากเลยค่ะ บางครั้งก็เป็นภาษาพ่อขุนรามในการแทนตัวคน แต่บางครั้งกลับเป็นภาษาธรรมดาๆ ในการแทนตัวคน ตอนแรกเป็นภาษาหนึ่งแต่ตอนหลังกลับเป็นอีกภาษาหนึ่ง มันจึงทำให้ภาษาของคุณมั่วมากๆ เลยค่ะ เช่น จิตใจของเธอช่างงามเหมือนกับความงามของเจ้า เธอ เป็นภาษาชาวบ้านที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ส่วน เจ้า เป็นภาษาสมัยพ่อขุนราม ซึ่งเป็นภาษาที่นิยายแนวแฟนตาซีมักจะใช้กัน ทั้งที่มันเป็นการแทนตัวของคนๆ เดียวกันแต่ภาษามันกลับแตกต่างกัน คุณจะใช้ภาษาไหนก็ขอให้เลือกมาภาษาหนึ่ง จะใช้ เธอ ก็เธอไปตลอด จะใช้ เจ้า ก็เจ้าไปตลอด อย่ามาตอนแรกใช้เธอแล้วพอตอนหลังใช้เจ้าเด็ดขาดเพราะมันทำให้ภาษาของคุณมั่วค่ะ, เราจะปล่อยพวกเขาถ้าเธอยอมแต่งงานกับฉัน เรา เป็นคำแทนตัวที่พวกเชื้อพระวงศ์หรือคุณหญิงคุณชาย(บางครั้ง)มักใช้กัน ส่วน ฉัน มันเป็นภาษาชาวบ้านที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ แทนตัวก็แทนคนเดียวกันแต่กลับใช้ภาษาแตกต่างกัน ควรแก้ไขประโยคนี้เช่นกันค่ะ, พวกเจ้าสองคนที่ฉันไปทำงานนี่ เจ้า กับ ฉัน เป็นภาษาที่แตกต่างกัน(ที่ตอนแรกพะยูนบอกไว้)กลับมาใช้เรียกแทนตัวของคนๆ เดียวกัน มันจึงทำให้ภาษามั่วซั่วค่ะ
ส่วนการบรรยาย คุณเลือกใช้การบรรยายแบบสรรพนามบุรุษที่ 3 ซึ่งเป็นมุมมองของผู้แต่ง ทั้งที่มันควรจะมีการบรรยายแบบละเอียดชัดเจน อ่านแล้วนึกภาพตามได้ง่าย แต่นี่กลับไม่ใช่การบรรยายคุณมันไม่ละเอียดชัดเจนค่ะ อ่านแล้วไม่นึกภาพตามได้ยากค่ะ สิ่งที่คุณขาดคือรายละเอียดในเรื่องของการบรรยายรูปร่างลักษณะของตัวละคร สิ่งที่สวมใส่ และสถานที่ พะยูนขอยกตัวอย่างเพื่อที่คุณจะได้แก้ไขตามได้ง่ายนะค่ะ เช่น ดูจากการแต่งตัว นี่มันเจ้าชายนี่น่า!!! ตรงประโยคที่ว่า ดูจากการแต่งตัว แทนที่คุณจะใส่รายละเอียดเจาะจงลงไปเลยว่าเอริกใส่เสื้อสีขาว มีลิ่มทองปักอยู่ที่ไหล่ มีผ้าคลุมสีแดง ไม่ใช่บรรยายรวมๆ โดยไม่ใส่รายละเอียดอะไรลงไปเลย เลยอย่างนี้ผู้อ่านจะนึกภาพตามออกได้ยังไงล่ะค่ะ (เสื้อผ้าของคนเราไม่ว่าจะเป็นของพวกเชื้อพระวงศ์หรือของชาวบ้าน ก็ต่างจะมีหลายแบบ หลายสไตล์ เพียงแค่แตกต่างกันอยู่ที่การใช้เนื้อผ้าและการออกแบบ), ที่ร้านมิส มิลลิเซนท์ คุณบรรยายเพียงแค่นี้โดยไม่มีการบรรยายต่อเลยว่าข้างในร้านมิส มิลลิเซนท์มันเป็นยังไง โอเค ผู้อ่านรู้ว่านี่เป็นร้านมิส มิลลิเซนท์แต่เรื่องข้างในร้านล่ะค่ะ มันเป็นยังไง? ส่วนนี้ผู้อ่านไม่รู้ คุณควรจะใส่รายละเอียดเจาะจงเลยว่าร้านมิส มิลลิเซนท์นั้นเป็นร้านเล็กหรือใหญ่ ข้างในร้านมีอะไรบ้าง? (มีหม้อ มีชั้นวางหนังสือ มีโต๊ะ มีเก้าอี้ ก็บรรยายไปเถอะค่ะ) ส่วนในเรื่องของรูปร่างลักษณะตัวละครที่พะยูนไม่ได้ยกตัวอย่าง ที่พะยูนบอกว่าคุณขาดส่วนนี้ก็คือในตอนแรกคุณไม่มีการบอกเลยว่าเอนเซลล์มีนัยน์ตาสีเขียว ผมสีทองจนเมื่อได้มาถึงฉากของงานเต้นรำ คุณถึงจะบรรยายว่าเฮนเซลมีตาสีเขียว มีผมสีทองนะ ส่วนลอเรนซ์กับแมรี่ก็เช่นกัน ในตอนแรกไม่มีการบรรยายเลยว่าลอเรนซ์มีผมสีเงิน ตาสีเงิน ส่วนแมรี่มีผมสีน้ำตาลอ่อน มันเหมือนกับว่าคุณค่อยๆ เผยลักษณะของตัวละครออกมาทีล่ะนิดซึ่งการทำอย่างนี้มันผิดค่ะ คุณควรจะบรรยายในตอนแรกที่เปิดตัวละครเลยว่าตัวนี้มีรูปร่างหน้าตา สีผม และสีผิวเป็นยังไงเพราะฉะนั้นตรงส่วนนี้ควรรีบแก้ไขด่วนๆ เลยค่ะ
คำผิด/ประโยคผิดเพี้ยน : คำผิดมีอยู่เล็กน้อยจริงๆ ค่ะ เช่น กอนประตู - เขียนผิดค่ะ ต้องเป็น กลอนประตู, คนนึง เขียนผิดค่ะ คำนี้มันเป็นภาษาวิบัติ ต้องเป็น คนหนึ่ง
ตัวเนื้อหา
การดำเนินเรื่อง : เรื่องนี้มีการดำเนินเรื่องเป็นตอนๆ อันนี้พะยูนเข้าใจค่ะว่าคุณอยากจะทำแบบนี้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร เพียงแต่การดำเนินเรื่องเป็นตอนๆ แบบนี้ มันมีข้อบกพร่องค่ะคือ ถ้าเนื้อหาในตอนของคุณมันไม่เข้มข้นพอ ตื่นเต้นเร้าใจ และน่าติดตามเพียงพอผู้อ่านก็จะเบื่อจนเลิกอ่านได้ ซึ่งคุณก็เป็นอย่างนั้นค่ะ เนื้อหาของคุณมันยังไม่เข้มข้นพอ ไม่มีปริศนาให้ผู้อ่านขบคิด ไม่มีเหตุการณ์ที่ชวนให้ตื่นเต้น ไม่มีจุดไคลแมกซ์ให้ลุ้นจนตัวไม่ติดเก้าอี้ และไม่น่าติดตามชวนให้อ่านต่อ สิ่งที่คุณมีก็มีเพียงแค่เนื้อหาหักมุมจากในนิทานทั่วๆ ไปเท่านั้นค่ะ ซึ่งมันไม่พอค่ะ คุณควรจะมีทุกอย่างที่พะยูนได้บอกไว้ อ๋อ ที่สำคัญการดำเนินเรื่องของคุณยังเป็นแบบเรื่อยๆ อีกด้วยค่ะ นั้นก็คือเถรตรงเกินไปและธรรมดาเกินไป ควรจะเขียนให้มีเหตุการณ์น่าลุ้นๆ กว่านี้ค่ะ สำหรับพวกนิยายแนวนิทานนั้นมันค่อนข้างจะหาเนื้อหาแบบที่พะยูนบอกไว้ได้มากพอๆ กับแฟนตาซีเลยนะค่ะ
พะยูนได้อ่านตอนหนึ่งซึ่งคุณบอกไว้ว่าที่เลือกการดำเนินเรื่องเป็นตอนๆ แบบนี้ก็เพื่อจะเขียนเรื่องราวของเฮนเซลเข้าไปด้วย ความคิดนี้พะยูนกดไลค์เลยค่ะ พะยูนชอบและเห็นด้วยกับความคิดนี้มากๆ เพราะถ้าคุณเลือกเขียนแต่การผจญภัยในโลกนิทานเพียงอย่างเดียว มันก็น่าเบื่อสิค่ะ มันต้องมีอะไรมาสอดแทรกบ้างสิถึงจะน่าสนุก ที่สำคัญนิยายแนวนิทานนั้นคุณต้องอย่าลืมการสอดแทรกคำสอนเล็กๆ น้อยๆ ด้วยนะค่ะ
ฉาก/สถานที่ : อย่างที่บอกไว้ในส่วนของการบรรยาย การใส่รายละเอียดของสถานที่ยังไม่ชัดเจนพอ ซึ่งมันก็รวมถึงฉากด้วยค่ะ เช่น ในตอนที่ทั้งสามคนเปิดประตูเพื่อเข้าไปสู่เรื่องซินเดอเรลล่า(เฉพาะตอนแรกเท่านั้น) พะยูนว่าควรจะมีการเพิ่มฉากเข้าไปหน่อย นั้นก็คือฉากที่เปิดประตูเข้าไป จังหวะนั้นเอง ควรจะมีการบรรยายให้เกิดแสงสว่างขึ้นมาเพื่อทำให้ผู้อ่านเกิดความตื่นเต้นและลุ้นว่าจะเจออะไรบ้าง ไม่ใช่เปิดประตูปุ๊บก็บรรยายเลยว่าเข้าไปแล้วเจออะไร ทำอย่างนี้ความตื่นเต้นของผู้อ่านก็หดหายหมดสิค่ะ
ความสมเหตุสมผล : ไม่สมเหตุสมผลตรงฉากที่เฮนเซลชวนลอเรนซ์กับแมรี่ไปที่ประตูบานนั้นในตอนกลางคืนอีก พะยูนก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่าแล้วเฮนเซลรู้ได้ยังไงว่าประตูจะสามารถเข้าได้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น โดยปกติคนทั่วไปเมื่อเจอเหตุการณ์อย่างเดียวกับเฮนเซล พอวันรุ่งขึ้นเขาจะรีบกลับไปที่เดิมอีกครั้งเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป และเขาก็จะได้พบว่าประตูบานนั้นไม่สามารถเข้าตอนกลางวันได้ ซึ่งเฮนเซลนั้นไม่ใช่เลยค่ะ เหมือนกับว่าเฮนเซลเจาะจงอยู่แล้วว่าประตูบานนั้นเข้าได้เฉพาะตอนกลางคืน ทั้งๆ ที่เฮนเซลไม่ได้ตรวจสอบเลยสักนิดว่าตอนกลางวันจะเข้าได้หรือเปล่า? เหตุนี้มันจึงเกิดคำถามขึ้นว่า แล้วอย่างนี้เฮนเซลรู้ได้ยังไงล่ะ? คำตอบมีเพียงแค่ว่า คุณมองข้ามตรงส่วนนี้ไปค่ะ ไม่ได้สังเกตว่าตรงส่วนนี้ไม่สมเหตุสมผลนะ
ความสนุก/น่าติดตาม : ความสนุกนิดหน่อยค่ะ จะอ่านต่อก็ได้ไม่อ่านต่อก็ได้ค่ะ ส่วนความน่าติดตามยังไม่น่าติดตามเท่าที่ควร คุณจบตอนยังไม่น่าติดตามค่ะ ควรจะตัดจบตรงจุดที่มันไคลแมกซ์ ประมาณว่าใกล้จะระเบิดแล้วนะค่ะ(แต่อย่าให้มันระเบิดนะ ไม่งั้นมันจะไม่น่าติดตามค่ะ)
ตัวละคร
สีหน้า/ท่าทาง : อยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ สีหน้าและท่าทางคุณถ่ายทอดออกมาได้ดีแล้ว ทำให้รู้ว่าตอนนี้ตัวละครกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
คาแรคเตอร์ : เฮนเซล มีคาแรคเตอร์เป็นคุณชายจอมป่วน ที่ดูน่ารักน่าหยิกดีค่ะ เฮนเซลนั้นมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นและมีเสน่ห์มากค่ะ เพียงแต่คุณยังถ่ายทอดออกมาได้ไม่ดีนัก ทำให้เฮนเซลมคาแรคเตอร์เรียบๆ เฉยๆ ไปเลยแหละค่ะ
อื่นๆ
การใช้สัญลักษณ์/อีโมติคอน : การใช้สัญลักษณ์ค่อนข้างเยอะไปนิดค่ะ อย่างสัญลักษณ์ [!] ที่เวลาคุณใช้ก็ปาเข้าไปแล้วสี่ห้าอัน ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องใช้เยอะแยะเลยสักนิดค่ะ ทางที่ดีอย่าใช้เกินสามอันค่ะ ส่วนเรื่องอีโมติคอนไม่มีเลยค่ะ
สรุปโดยรวม : โดยรวมแล้วนิยายเรื่องนี้ยังต้องแก้ไขอีกมากโดยเฉพาะเรื่องของการบรรยายและการดำเนินเรื่องเพราะถ้าคุณแก้ไขสองจุดนี้ นิยายของคุณจะสนุกมากทีเดียวค่ะ(คุณมีพล็อตเรื่องที่ดีอยู่แล้ว) พะยูนเอาใจช่วยนะค่ะ พยายามเข้า อย่าเพิ่งท้อแท้เป็นอันขาด ^^
|