หน้าที่ 1 , 2 , 3 , 4
 
ชื่อเรื่อง :  POSITION' [YAOI]
ใครแต่ง : SHOJiN
6 มี.ค. 64
80 %
12 Votes  
#1 REVIEW
 
เห็นด้วย
0
จาก 0 คน 
 
 
รับวิจารณ์นิยาย ฉบับ "Don't Worry"

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 26 พ.ค. 57
พะยูนขอเกริ่นก่อนว่าพะยูนไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เป็นแค่นักวิจารณ์ธรรมดาที่พลันตัวมาจากนักอ่าน ไม่จำเป็นต้องเชื่อและเห็นด้วยกับพะยูนทุกประโยค พะยูนขอแค่ให้คุณเอาคำวิจารณ์ของพะยูนไปไตร่ตรองดูเท่านั้น เพื่อที่นิยายของคุณจะได้พัฒนายิ่งขึ้นไปกว่าเดิมค่ะ
เกี่ยวกับนิยาย

ชื่อเรื่องและการแนะนำเรื่องย่อ : ชื่อเรื่องสั้นๆ แต่ได้ใจความมากค่ะ ครอบคลุมเนื้อหาในเรื่องได้ดีแล้ว แถมยังจำง่ายสุดๆ อีกด้วย ส่วนการแนะนำเรื่องย่อจินแนะนำได้น่าสนใจดีค่ะ แต่พะยูนว่าน่าจะแก้ตรงคำว่า ‘Position’ เป็น ‘ตำแหน่ง’ ที่เป็นคำแปลภาษาไทยมากกว่าค่ะ เพราะเมื่ออ่านแล้วมันดูไหลลื่นมากกว่าที่ใช้คำภาษาอังกฤษค่ะ แถมคำๆ นี้ยังไม่ค่อยมีใครมาใช้ทับศัพท์กันด้วยค่ะ ซึ่งแตกต่างจากคำว่า ‘Make Love’ ที่คนมักจะพูดติดปากและใช้กันอยู่บ่อยๆ ค่ะ

โครงเรื่อง
พล็อตเรื่อง : พล็อตเรื่องแบบนี้จะดึงดูดให้กับคนที่ชอบเรื่องเมะxเมะ หรือแมนกดแมนเข้ามาอ่านนั่นเองค่ะ ซึ่งพะยูนก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบนิยายวายพล็อตเรื่องแบบนี้ เพราะถ้าจะให้เป็นเรื่องชายรักชายที่เคะเป็นผู้ชายบอบบาง หน้าหวานๆ มันก็ไม่ไหวนะคะ ไม่งั้นมันจะเรียกว่า Yaoi ได้ไงกันล่ะจริงไหมคะ ฮะแฮ่ม เข้าเรื่องค่ะ นิยายเรื่องนี้มีพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ โดยตัวเอกทั้งสองคนที่เป็นนายแบบ จู่ๆ ก็มาเจอกันและบังเอิ๊ญบังเอิญอยู่ห้องตรงข้ามกันอีกต่างหาก ทำให้ทั้งสองคนได้เจอกันและสนิทกันมากขึ้น

การเปิดเรื่อง : จินเปิดเรื่องโดยการใช้ประโยคสนทนาของทั้งสองคนในเรื่องมานำเสนอ และได้เขียนถึงเรื่องตำแหน่งบนเตียงของผู้ชายกับผู้ชาย ทำให้ผู้อ่านรู้ว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่พูดถึงผู้ชายแมนๆ สองคนมารักกัน ซึ่งมันน่าสนใจและน่าติดตามมากๆ เลยค่ะ พะยูนอ่านแล้วก็ต้องรีบกดคลิกอ่านตอนต่อไปทันทีค่ะ

ถ้อยคำภาษา
ภาษาที่ใช้และการบรรยาย : ภาษาที่จินใช้เป็นการสลับไปมาระหว่างสุภาพนามบุรุษที่ 1 กับ บุรุษที่ 3 ทำให้นิยายเรื่องนี้ดูมั่วซั่วไปเลยค่ะ พะยูนว่าน่าจะเลือกใช้สักอันมาบรรยาย ไม่ใช่เลือกใช้ตามอารมณ์ผู้แต่ง ถึงแม้การเลือกใช้ภาษาแบบนี้จะทำให้การบรรยายดูละเอียดชัดเจน รู้ถึงเรื่องราวต่างๆ ได้หมด แต่ถ้าเล่นเปลี่ยนภาษาบ่อยๆ แบบที่จินทำ มันก็ทำให้นิยายดูไม่น่าสนใจและสะเปะสะปะได้ค่ะ

คำผิด/ประโยคผิดเพี้ยน : คำผิดมีบางประปราย ทั้งเกิดจากการรีบเขียน เกิดจากการไม่รู้ว่าคำนี้เขียนยังไง และเกิดจากการที่ไม่ได้ตรวจทานให้ดีค่ะ พะยูนขอยกตัวอย่างคำผิดที่เจอนะคะ
ร่างเพียงบาง(ตอนที่ 3) – ร่างเพียวบาง รึเปล่าคะ?
เปลื้องท่อนบน(ตอนที่ 3) – พะยูนว่าน่าจะใช้คำว่า ‘เปลือยท่อนบน’ จะดีกว่า
ทะลึ่งตา(ตอนที่ 3) – ถลึงตา
เป็นแทบๆ(ตอนที่ 3) – เป็นแถบๆ
ลวงมือ(ตอนที่ 3) – ล้วงมือ
เดินทอดหน่อง(ตอนที่ 5) – เดินทอดน่อง
ทนไม่ไว้(ตอนที่ 8) – ทนไม่ไหว
สายตาคาบโทษ(ตอนที่ 8) – สายตาคาดโทษ
หย่อนก้ม(ตอนที่ 9) – หย่อนก้น
คนตรงหน้าดันมาขว้าง(ตอนที่ 10) – ดันมาขวาง

ตัวเนื้อหา
การดำเนินเรื่อง : การดำเนินเรื่องค่อนข้างเรื่อยๆ สบายๆ ไม่ช้าเกินไปและก็ไม่เร็วจนเกินไปค่ะ เรื่องราวก็ค่อยๆ เผยออกมาให้ผู้อ่านได้รู้ อีกทั้งเนื้อหายังค่อยๆ เข้มข้นขึ้นไปตามตอนที่มากขึ้นด้วยค่ะ ทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วอยากติดตามอ่านต่อค่ะ

ฉาก/บทสนทนา : ฉากแต่ล่ะฉากในเรื่อง ค่อนข้างเยอะ ซึ่งจินก็บรรยายถึงฉากและสถานที่ออกมาได้ดีแล้ว บรรยายได้ละเอียดเหมาะกับภาษาที่ใช้ ไม่มีการข้ามฉากที่ทำให้อ่านแล้วสับสนค่ะ ส่วนบทสนทนาก็ดูเป็นธรรมชาติดีแล้วค่ะ

ความสมเหตุสมผล : จริงๆ จะเรียกว่าไม่สมเหตุสมผลก็ไม่ได้ เพราะพะยูนแค่อ่านแล้วรู้สึกขัดๆ นะคะ เลยมาเขียนบอกในหัวข้อนี้ ในตอนที่ 5 ที่ภัทรไปเคาะห้องติณให้ไปส่งตัวเองนะคะ ตอนแรกท่าทางของภัทรดูรีบมากๆ รีบโครตๆ แต่พอเข้าไปในห้องติณปุ๊บกลับไปนั่งดูการ์ตูนสบายใจเฉิบ โอเค ตรงส่วนนี้ไม่แปลกเพราะต้องนั่งรอติณ แต่แทนที่ติณเสร็จจะรีบไปเลย กลับนั่งดูโคนันต่ออีก เลยดูขัดๆ กับท่าทางตอนแรกของภัทรนะคะ พะยูนอ่านแล้วเลยแปลกๆ และรู้สึกติดขัดเล็กน้อย ช่วยเอาไปพิจารณานิดหนึ่งนะคะ

ตอนที่ 11 มาถึงเรื่องไต้ฝุ่น จินเฉลยแล้วว่าติณกับไต้ฝุ่นเป็นพี่น้องกัน พะยูนอ่านมาถึงตรงนี้ก็อ๋อเลย ถึงว่าทำไมติณถึงทำท่าเหมือนจะรู้จักไต้ฝุ่น ที่แท้ก็เป็นพี่น้องกันนี่เอง โอเคข้ามตรงส่วนนี้ มาถึงเรื่องแฟนเก่าของไต้ฝุ่น จินได้เขียนบรรยายในมุมมองของติณไว้ว่า ‘ที่ผมพึ่งพูดไปคือชื่อแฟนเก่าเฮียมัน’ ตรงประโยคนี้และคำว่า ‘แฟนเก่า’ ที่ติณบอก มันก็ทำให้พะยูนรู้แล้วว่าติณรู้ว่าไต้ฝุ่นเคยมีแฟนที่เลิกกันไปแล้วชื่อส้มอยู่ แต่พอเลื่อนลงมาอ่าน ไต้ฝุ่นกลับบอกติณว่าเลิกไปแล้ว แถมติณยังถามต่ออีกด้วยว่าทำไมเลิก อ้าว? ตกลงติณรู้ว่าไต้ฝุ่นเลิกกับเจ้ส้มแล้วหรือไม่รู้กันแน่คะ? งงมากค่ะ ตกลงมันเป็นแบบไหนก็แน่ เพราะงั้นตรงส่วนนี้เลยไม่สมเหตุสมผลในเรื่องของการใช้คำค่ะ

ย้อนความไปในตอนที่ 8 นิดหนึ่งค่ะ เป็นมุมมองของติณเช่นกัน พะยูนจะขอพูดเรื่องที่ติณพูดถึงแฟนของเรียวที่ชื่อไต้ฝุ่นนะคะ ตอนแรกที่อ่านตอนนี้พะยูนก็แค่คิดว่าสงสัยติณคงรู้จักแฟนของเรียวแน่ๆ แต่พออ่านมาถึงตอนที่ 11 แล้ว เห็นว่าไต้ฝุ่นเป็นพี่ชายติณ ติณรู้ว่าไต้ฝุ่นมีแฟนชื่อส้ม และดูท่าว่าติณจะรักเจ้ส้มคนนี้มาก(ดูได้จากที่โกรธเรื่องที่ไต้ฝุ่นเลิกกับส้ม) มันเลยทำให้ตอนที่ 8 ที่จินเขียนถึงไต้ฝุ่นดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลค่ะ ไม่สมเหตุสมผลในเรื่องที่ติณไม่ได้พูดถึงแฟนของไต้ฝุ่นและไม่มีท่าทางโกรธเคืองเลยไงล่ะค่ะ ทั้งๆ ที่ติณก็เชื่อว่าแฟนของเรียวเป็นคนๆ เดียวกับพี่ชายตัวเองแน่ๆ (ดูได้จากประโยค ‘ไต้ฝุ่น มันซาดิสขนาดนั้นเลยเหรอวะ’) ทำให้ดูขัดกับท่าทางโกรธเคืองตอนที่รู้ว่าไต้ฝุ่นเลิกกับส้มแล้ว ทำให้ดูไม่สมจริงและไม่สมเหตุสมผลค่ะ อย่างน้อยจินก็น่าจะเขียนให้ในตอนที่ 8 ติณคิดว่าไม่ใช่ไต้ฝุ่นพี่ชายตัวเองแน่ๆ เพราะว่าเขามีแฟนอยู่แล้วมากกว่าจะเชื่อว่าใช่คนๆ เดียวกันค่ะ

ความสนุก/น่าติดตาม : นิยายเรื่องนี้สนุกมากๆ ค่ะ ทำให้ผู้อ่านลุ้นไปกับเรื่องราวและอยากติดตามว่าเมื่อไหร่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะเปลี่ยนมาเป็นคนรักกันสักที

ตัวละคร
สีหน้า/ท่าทาง : บรรยายออกมาได้ดี ดูสมจริงและเป็นธรรมชาติแล้วค่ะ
คาแรคเตอร์ : คาแรคเตอร์ตัวเอกทั้งสองคนคือภัทรกับติณ จินทำได้ดีแล้วค่ะ สื่ออารมณ์และถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของทั้งสองคนออกมาได้ดีแล้ว ทำให้ผู้อ่านชอบภัทรกับติณมากๆ เลยค่ะ ทั้งสองคนดูแตกต่างกันแต่ก็ดูเข้ากันได้แบบสุดๆ ไปเลยค่ะ

อื่นๆ
สรุปโดยรวม : โดยรวมแล้วนิยายเรื่องนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในเรื่องของการดำเนินเรื่องที่สบายๆ ทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วไม่เครียด คาแรคเตอร์ของตัวเอกทั้งสองคนที่ดูแตกต่างกันแต่ก็เข้ากันได้สุดๆ และความน่าติดตามที่ชวนให้ผู้อ่านอ่านต่อค่ะ แต่ก็ยังมีจุดที่อยากให้ผู้แต่งแก้ไขหรือเพิ่มเติมเข้าไปอยู่ค่ะ ซึ่งคงเป็นเรื่องของการบรรยายและความสมเหตุสมผลที่อยากให้ช่วยลองเอาไปคิดๆ ดูค่ะ สุดท้ายนี้พะยูนก็ต้องขอโทษด้วยที่วิจารณ์ได้ไม่ดีนัก ดูไร้ประโยชน์แบบสุดๆ แต่ก็ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าพะยูนพยายามวิจารณ์เต็มที่แล้ว จินอาจจะมีจุดที่ไม่เห็นด้วยหรือจะไม่แก้ไขตามที่พะยูนบอกก็ได้ค่ะ เพราะพะยูนก็เป็นแค่นักวิจารณ์ฝึกหัดคนหนึ่งเท่านั้น ยังไงก็ขอให้จินมีกำลังใจที่จะแต่งต่อไปนะคะ สู้ๆ ค่า ^^V
     
 
ใครแต่ง : Killer in the Dark Shadow
6 มิ.ย. 60
80 %
17 Votes  
#2 REVIEW
 
เห็นด้วย
0
จาก 0 คน 
 
 
รับวิจารณ์นิยาย ฉบับ "Don't Worry"

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 22 พ.ค. 57

ฮะแฮ่ม พะยูนเองนะคะ ก่อนจะเข้าสู่การวิจารณ์พะยูนขอพูดอะไรสักเล็กๆ น้อยๆ ก่อนอื่นพะยูนต้องขอโทษด้วยที่มาส่งงานให้ช้าค่ะ คือความจริงเรื่องนี้พะยูนไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้มีโอกาสมาวิจารณ์ให้ เพราะตอนแรกมีน้องกลอเรียที่เป็นนักวิจารณ์ใหม่มาเลือกงานนี้ไป แต่อยู่ๆ วันหนึ่งลาวาก็ดันมาบอกให้พะยูนวิจารณ์เรื่องนี้แทนน้องกลอเรีย เหตุผลก็คือน้องรับงานไป 1 อาทิตย์กว่าๆ แล้วอยู่ๆ ก็หายตัวไป ไม่ส่งงานมาให้ค่ะ ทำให้การวิจารณ์เรื่องนี้ล่าช้าไป แถมช่วงนี้พะยูนยังติดงาน ยุ่งๆ ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่อีกต่างหาก ยิ่งทำให้การวิจารณ์ช้าลงไปอีก ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ขอน้อมรับความผิดทุกอย่างค่ะ

พะยูนขอเกริ่นก่อนว่าพะยูนไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เป็นแค่นักวิจารณ์ธรรมดาที่พลันตัวมาจากนักอ่าน ไม่จำเป็นต้องเชื่อและเห็นด้วยกับพะยูนทุกประโยค พะยูนขอแค่ให้คุณเอาคำวิจารณ์ของพะยูนไปไตร่ตรองดูเท่านั้น เพื่อที่นิยายของคุณจะได้พัฒนายิ่งขึ้นไปกว่าเดิมค่ะ

เกี่ยวกับนิยาย
ชื่อเรื่องและการแนะนำเรื่องย่อ : ชื่อเรื่องดูเหมือนจะน่าสนใจนะคะ แต่มันก็เหมือนนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่นที่มักจะตั้งชื่อแบบนี้ เห็นได้จากหนังสือเรื่อง เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา ที่พะยูนก็ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นต้นแบบของเรื่องอื่นๆ หรือเปล่า แต่ว่ามีนิยายแฟนตาซีหลายเรื่องที่จะตั้งชื่อคล้ายๆ แบบนี้ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนคำให้แตกต่างจากเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ยังไงมันก็ยังเหมือนๆ กันอยู่ดี ทำให้ชื่อเรื่องดูโหล่และธรรมดาไปเลยล่ะค่ะ

ส่วนการแนะนำเรื่องย่อดูน่าสนใจและน่าอ่านดีค่ะ มันทำให้ผู้อ่านอยากรู้ว่าจุดมุ่งหมายที่ตัวเอกมาเข้าเรียนนี่คืออะไร? แล้วปริศนาอันดำมืดที่ว่ามันเป็นยังไง? แล้วทำไมถึงได้ใช้ชีวิตที่โรงเรียนเพียงไม่กี่วันเองล่ะ? มันเกิดอะไรขึ้นกัน!?

โครงเรื่อง
พล็อตเรื่อง : เท่าที่พะยูนอ่านมา พล็อตเรื่องยังไม่เด่นชัดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรกันแน่ รู้แค่ว่าเป็นเรื่องของเด็กหนุ่มที่มาเข้าโรงเรียนเพื่อจุดมุ่งหมายอะไรสักอย่าง(เห็นได้จากการแนะนำเรื่องย่อ)แน่ๆ ล่ะ แล้วจุดมุ่งหมายที่ว่านี่คืออะไรล่ะ? แล้วนอกจากเข้ามาโรงเรียน มีการแบ่งหอ มีการคัดเลือกหัวหน้าชั้นปี มีการรับน้องและเข้าเรียน ยังมีอะไรที่แตกต่างจากนิยายแนวแฟนตาซีเรื่องอื่นบ้างล่ะ อ่านมาพะยูนยังไม่เห็นถึงความแตกต่างเลย มันก็เดิมๆ ซ้ำซากกับนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่น พูดตรงๆ ค่ะพะยูนว่านิยายเรื่องอื่นยังน่าดึงดูดกว่าเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ส่วนเหตุผลพะยูนขอไปพูดถึงในหัวข้อการดำเนินเรื่องค่ะ

การเปิดเรื่อง : ตอนอ่านการแนะนำเรื่องย่อพะยูนคิดเลยว่าการเปิดเรื่องจะต้องเป็นการพูดถึงจุดมุ่งหมายอะไรสักอย่างของตัวเอกทั้งสามแน่ๆ แต่พอเปิดมาอ่านปุ๊บ ปรากฏว่าไม่ใช่ มันเป็นการเกริ่นถึงเรื่องอื่น ตอนแรกที่อ่านจบพะยูนก็งงนะว่าเปิดเรื่องแบบนี้ต้องการอะไร ไม่เห็นมันจะเกี่ยวเนื่องกันเลย แต่พออ่านไปเรื่อยๆ จนถึงตอนที่ 9 พะยูนก็เริ่มเข้าใจแหละ ว่าเนื้อหาตอนเปิดเรื่องมันเกริ่นถึงเรื่องอะไรกันแน่ เพราะงั้นการเปิดเรื่องแบบนี้เลยทำให้เป็นปริศนา ดูลึกลับและน่าสนใจดีค่ะ

ถ้อยคำภาษา
ภาษาที่ใช้และการบรรยาย : ภาษาที่ใช้เป็นสรรพนามบุรุษที่ 3 โดยให้ผู้แต่งเป็นคนดำเนินเรื่อง อีกทั้งคำที่เอามาใช้ยังเป็นคำง่ายๆ ที่ถึงแม้ไม่สวยหรูนักแต่ก็ทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายๆ ดีค่ะ

ส่วนการบรรยายก็ละเอียดชัดเจนดี บอกเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดี ไม่มีจุดที่อ่านแล้วติดขัดให้เห็นเลยค่ะ ทำให้พะยูนชอบการบรรยายและภาษาที่พาร์ทใช้มากๆ ค่ะ มันแตกต่างจากนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่นที่มักจะใช้คำยากๆ คำสวยหรู ให้เหมาะกับนิยายแนวนี้ ซึ่งมันมีข้อเสียคือผู้อ่านจะไม่เข้าใจ อ่านแล้วก็อาจจะมีบางคำที่งงว่ามันแปลว่าอะไร ทำให้อารมณ์ขาดตอน ไม่ประติดประต่อกันค่ะ

คำผิด/ประโยคผิดเพี้ยน : มีให้เห็นบ้างนิดหน่อย เช่น
ตอนที่ 4 : เมฟิสน้อยด้วยความกลัว(สายตาแช่แข็งของเฟเรส) – ประโยคนี้พะยูนอ่านแล้วสะดุดมากค่ะ พะยูนว่าน่าจะสลับตำแหน่งกัน เอา ‘เมฟิสน้อย’ ไปไว้ข้างหลังสุด แล้วคำในวงเล็บก็ไม่ต้องใส่วงเล็บค่ะ จะได้ว่า “ด้วยความกลัวสายตาแช่แข็งของเฟเรส เมฟิสน้อยจึงตัดสินใจ”

ส่องสายตาเหลือบมองเฟเรส(ตอนที่ 4) – เอ่อ...คำนี้คืออะไรคะ มีทั้ง ‘ส่อง(คำนี้น่าจะเป็น ‘ส่ง’ มากกว่าค่ะ คำว่า ‘ส่อง’ จะไม่ใช้กันค่ะ)สายตา’ และ ‘เหลือบมอง’ ซึ่งทั้งสองคำเป็นคำที่บอกว่า กำลังมอง อะไรสักอย่างอยู่ แต่สองคำนี้วิธีการมองจะแตกต่างกันค่ะ คำว่า ‘ส่งสายตา’ เป็นการมองแบบมองตรงๆ ส่วนคำว่า ‘เหลือบมอง’ เป็นการมองด้วยหางตา ไม่ได้มองตรงๆ ค่ะ พะยูนว่าพาร์ทน่าจะเลือกใช้คำใดคำหนึ่งเท่านั้นนะคะ

ซักพัก(ตอนที่ 5) – สักพัก

เฟเรสก้มลงมองดูพลางครุ่นคิดพลาง(ตอนที่ 7) – ตัด ‘พลาง’ สุดท้ายทิ้งค่ะ

ตัวเนื้อหา
การดำเนินเรื่อง : พะยูนขอพูดถึงภาพรวมก่อนนะคะ แล้วค่อยไปเจาะลึกในแต่ล่ะตอนกันอีกทีค่ะ(พะยูนจะขอเจาะลึกถึงแค่ตอนที่ 9 นะคะ)
โดยรวมแล้วการดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า กว่าจะกระดืบๆ ไปได้ก็ค่อนข้างนานอยู่ ทำให้อ่านแล้วรู้สึกเบื่อๆ อยู่บ้างค่ะ ถึงแม้จะมีปมปริศนาเข้ามาให้อยากรู้แต่มันก็ไม่น่าดึงดูดนัก เมื่อเทียบกับเนื้อหาส่วนอื่นๆ ที่มักจะมีแต่น้ำไม่มีเนื้อ ทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วงงว่าตกลงตอนนี้ต้องการจะเขียนถึงเรื่องอะไรกันแน่ อีกทั้งฉากต่อสู้ ฉากที่ใช้เวทมนต์ในเรื่องยังมีน้อย ซึ่งต้องบอกเลยว่าฉากแบบนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของนิยายแฟนตาซีเลยค่ะ เมื่อมันมีน้อยแบบนี้เลยทำให้เรื่องนี้ดูไม่เหมือนเป็นนิยายแนวแฟนตาซี มันเหมือนเป็นนิยายแนวสบายๆ เล่าเรื่องถึงชีวิตในรั้วโรงเรียนของตัวเอกมากกว่าค่ะ

เอาล่ะ ขอพูดถึงเนื้อหาในแต่ล่ะตอนบ้างนะคะ ในตอนที่ 2 เป็นตอนที่คัดเลือกหอใช่ไหมคะ แล้วตอนคัดเลือกหอเนี่ย พาร์ทก็เขียนแนะนำตัวละครแต่ล่ะตัวอยู่แล้วว่าชื่ออะไร มีรูปร่างลักษณะเป็นยังไง ถึงจะไม่ทั้งหมด แต่มันก็ทำให้ผู้อ่านรู้คร่าวๆ แล้วว่าตัวละครแต่ตัวเป็นยังไง อีกอย่างวิธีคัดเลือกหอเนี่ย พะยูนว่ามันยังธรรมดาๆ อยู่นะคะ มันน่าจะเป็นอะไรที่ตื่นเต้นและเข้มข้นมากกว่านี้ เมื่อผู้อ่านได้อ่านแล้วต้องร้องออกมาว่า “ว้าว!” อะไรแบบนี้นะคะ

แล้วในตอนที่ 3 ยังมีตัวละครใหม่โผล่เข้ามาอีก โห ตัวละครทำไมมันเยอะอย่างนี้เนี่ย พะยูนอ่านแล้วแทบจำไม่ได้ค่ะว่าใครเป็นใครบ้าง รู้สึกสับสนไปหมด ยังไม่หมดแค่นี้ พาร์ทยังเขียนให้รุ่นพี่บอกให้ปี 1 แนะนำตัวเองอีก ทำให้การแนะนำตัวละครซ้ำซาก เนื้อหายืดยาว ดูไม่มีเนื้อมีแต่น้ำเหลวๆ ค่ะ กว่าจะได้คัดเลือกหัวหน้าชั้นปีก็ผ่านไปแล้วสิบกว่าบรรทัด ทำให้พะยูนที่รู้ข้อมูลตูมเดียวรู้สึกปวดหัวค่ะ

ตอนที่ 4 พวกปี 1 นั่งเลือกห้องอยู่ด้วยกัน ตอนนี้เรื่อยๆ ดูไม่มีอะไรค่ะ

ตอนที่ 5 ชื่อตอนเป็นการรับน้อง แต่พออ่านเนื้อหาในตอนพะยูนว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อตอนเป็นการแสดงของพวกรุ่นพี่อะไรอย่างนี้มากกว่าค่ะ เพราะเนื้อหาในตอนส่วนมากจะเล่าถึงการแสดงของพวกรุ่นพี่ว่ามีเรื่องราวเป็นยังไง เล่าซะจนยืดยาวไปครึ่งตอนเศษๆ ซึ่งตรงส่วนนี้พะยูนว่าน่าจะนำมาเล่าแบบคร่าวๆ มากกว่า ไม่ต้องเอาบททุกบท คำพูดทุกคำพูดของการแสดงมาเล่า อาจจะหยิบยกมาบางประโยคที่เด็ดๆ และดูน่าสนใจมาเขียนให้ผู้อ่านได้ทราบ

ในตอนที่ 5 พูดถึงเรื่องการแสดงของรุ่นพี่และการรับน้อง แต่พอมาตอนที่ 6 ดันเป็นเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แถมพาร์ทยังเขียนตอนท้ายบอกอีกด้วยว่าเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม คือพะยูนอ่านแล้วงงมากว่าโศกนาฏกรรมอะไร? มันเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักตรงไหน? อ่านแล้วไม่เข้าใจอย่างแรงค่ะว่าตอนนี้เขียนขึ้นมาเพื่อต้องการสื่ออะไร หรือว่าจะเขียนเพื่อให้เป็นปริศนา ตอนท้ายๆ อาจจะมีเกี่ยวเนื่องกันอยู่เหรอคะ? อืมม แต่มันก็ไม่น่าเป็นไปได้นะเพราะเนื้อเรื่องมันเหมือนกับว่าเป็นคนล่ะเรื่องกับเรื่องหลักเลยนี่สิค่ะ ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจอย่างแรงค่ะ ยังไงก็ช่วยอธิบายให้พะยูนทราบทีน้า TOT

ตอนที่ 7 เอาล่ะ เข้าสู่การรับน้องที่แท้จริงแล้ว ตอนนี้เป็นตอนที่พะยูนชอบมากที่สุดค่ะ เพราะมันมีฉากต่อสู้ ฉากใช้เวทมนต์ ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้น ค่อยเหมาะกับนิยายแนวแฟนตาซีหน่อยค่ะ
ตอนที่ 8 กับ 9 ตอนอ่านชื่อตอนพะยูนก็ไม่เข้าใจว่าการไปซื้อของเนี่ย มันมีเหตุการณ์เยอะแยะซะจนต้องแบ่งออกเป็นสองตอนเลยเหรอ แล้วพอพะยูนอ่านจบแล้วก็........ไม่มีอะไรเลยแหะ ตัวเอกกับผองเพื่อนก็แค่เดินซื้อของนู้นนี้ที่ต้องใช้ในชั่วเรียนธรรมดา ไม่มีเหตุการณ์ตื่นเต้นหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรเลย ทำให้เฉยๆ อยู่บ้าง แต่ก็ยังมีตอนที่ 9 ที่เริ่มพูดถึงคำทำนายแปลกๆ ของคาริน่า พูดถึงคำขอที่ให้ซาครอสไปทำลายต้นกำเนิดของความลับแห่งสายหมอก ทำให้เกิดปมปริศนาใหม่ขึ้น ผู้อ่านอ่านมาถึงตรงนี้ก็เริ่มรู้สึกอยากรู้และลุ้นไปกับเรื่องราวที่พาร์ทเขียนแล้วค่ะ

ฉาก/บทสนทนา : เนื่องจากเรื่องนี้มีตัวเอกอยู่ด้วยกัน 3 คน ทำให้เกิดการข้ามฉากไปมา เพื่อเล่าถึงเรื่องราวของทั้งสามคน แต่ก็นะ เมื่อเกิดการเล่าถึงคนโน้นบ้าง เล่าถึงคนนี้บ้าง อาจจะทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสนและเรียบเรียงเรื่องราวไม่ถูกนักก็เป็นได้ค่ะ

ความสมเหตุสมผล : ในส่วนนี้พะยูนชื่นชมมากค่ะ พะยูนอ่านแล้วไม่เจอจุดที่ไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ ทุกเรื่องราวมันก็สมเหตุสมผลของมันเองอยู่แล้ว ไม่มีจุดไหนที่อ่านแล้วติดขัดหรือแปลกๆ ไม่ทำให้คิดว่า เฮ้ย มันเวอร์เกิน มันไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ

ความสนุก/น่าติดตาม : ความสนุกมันสนุกอยู่แล้วค่ะ ถึงแม้ตอนช่วงแรกจะน่าเบื่อไปบ้าง แต่พอได้มาอ่านตอนหลังๆ จะรู้ว่าเนื้อเรื่องมันเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้วค่ะ
ส่วนความน่าติดตาม พะยูนว่ายังไม่น่าติดตามเท่าไหร่นัก จบตอนแต่ล่ะตอนค่อนข้างธรรมดาเกินไป ไม่ทำให้ผู้อ่านอยากรู้ตอนต่อไปค่ะ

ตัวละคร
คาแรคเตอร์ : คาแรคเตอร์ตัวละครที่เด่นๆ คงจะเป็น เมฟิส ที่มีคาแรคเตอร์ร่าเริง ทะเล้นๆ ดูขี้โวยวาย และ โนเอล ที่มีคาแรคเตอร์นิ่งๆ นอนได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ดูแตกต่างจากคาแรคเตอร์ตัวอื่นๆ ค่ะ ส่วนเฟเรส ที่เป็นตัวหลักอีกคน คาแรคเตอร์นี้มันค่อนข้างคล้ายคลึงกับคาแรคเตอร์ของเรออส เลยทำให้ไม่โดดเด่นเท่าที่ควรค่ะ

อื่นๆ
ตัวอักษร : ขอพูดถึงเรื่องตัวอักษรนะคะ พะยูนเข้าใจว่าพาร์ทใส่พื้นหลังเพราะต้องการให้ดูสวยงาม แต่มันติดที่ว่าสีตัวอักษรและสีภาพพื้นหลังมันใกล้เคียงกันนะคะ ทำให้พะยูนที่สายตาสั้นต้องเพ่งมองอ่านตัวอักษรมากกว่าเดิม เวลาเลื่อนขึ้นลงก็ตาลายไปหมดเลย ทำให้อ่านไปอ่านมารู้สึกเวียนหัวอยากจะอ้วกค่ะ พะยูนอยากให้พาร์ทช่วยแก้ไขนิดหนึ่ง ถ้าอยากจะใส่พื้นหลังก็ให้ใส่เป็นพื้นหลังเรียบๆ ไม่มีลายจะดีกว่านะคะ สงสารคนสายตาไม่ดีนิดหนึ่งค่ะ

สรุปโดยรวม : โดยรวมแล้วนิยายเรื่องนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในเรื่องของภาษา ที่ใช้คำง่ายๆ มาเล่าเรื่องทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วเข้าใจได้ทันที และการบรรยายที่บรรยายได้ละเอียดชัดเจนทำให้ผู้อ่านเห็นภาพตาม แต่ก็ยังมีจุดที่อยากให้ผู้แต่งแก้ไขหรือเพิ่มเติมเข้าไปอยู่บ้างค่ะ ซึ่งคงเป็นเรื่องของการดำเนินเรื่อง การข้ามฉากที่ต้องระวังให้ดี และการจบตอนที่น่าจะจบได้น่าติดตามกว่านี้ สุดท้ายนี้พะยูนขอให้ผู้แต่งมีกำลังใจที่จะแต่งต่อไป อย่าได้ลืมผู้อ่านที่ยังคงติดตามเรื่องนี้อยู่เด็ดขาด เชื่อว่าถ้าแต่งต่อไปเรื่อยๆ จะต้องมีคนอ่านเพิ่มขึ้นแน่นอนค่ะ อย่าท้อถอยเด็ดขาด สู้ๆๆ ค่า ^^V

ปล.พะยูนรู้สึกว่าคำวิจารณ์ครั้งนี้ของพะยูนมันแรงไป ถ้ายังไงพาร์ทอ่านแล้วเสียความรู้สึก พะยูนก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ พะยูนไม่ได้มีเจตนาจะทำให้คิดอย่างนั้นเลย ขอโทษจริงๆ ค่ะ


     
 
ชื่อเรื่อง :  Guy Best Friend
ใครแต่ง : Hameii
15 ม.ค. 63
80 %
11 Votes  
#3 REVIEW
 
เห็นด้วย
2
จาก 2 คน 
 
 
รับวิจารณ์นิยาย ฉบับ "Don't Worry"

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 21 พ.ค. 57
สวัสดีครับ ผม นานา ครับ รับหน้าที่มาวิจารณ์นิยายเรื่องนี้ และผมจะวิจาร์ณนิยายเรื่องนี้ในฐานะนักอ่านขี้บ่นคนหนึ่งนะครับ ทั้งหมดเป็นความคิดส่วนตัวของผมเองล้วนๆ

1.เกี่ยวกับนิยาย
- ชื่อเรื่อง
Guy Best Friend เป็นชื่อที่ทื่อๆและห้วนๆดีนะครับ จำง่ายดี ตอนแรกผมคิดว่าจะต้องมีชื่อภาษาไทยต่อท้ายมาซะ 5555+ เอาเป็นว่ามันเข้ากับเนื้อเรื่องทั้งหมดได้ดีจริงๆ
-แนะนำเรื่องย่อ
ผมขอบอกตามตรง ครั้งแรกที่ผมอ่านเรื่องย่อ ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้มันจะแตกต่างกับนิยายรักหวานแหววในรั้วโรงเรียนทั่วไปตรงไหน ผมรู้แค่ว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกเพื่อนทั้งห้องทิ้งมาเจอกับเพื่อนใหม่ที่ธรรมดา....ทำให้ครั้งแรกผมมองนิยายเรื่องนี้ไปว่า...จืด
เรื่องการแนะนำตัวละคร เป็นรูปตัวละครที่ตรงกับภาพอิมเมจที่ผมคิดไว้มากเลยครับ ติดตรงที่ว่ารูปของฮาน ออกจะดูน่ารักใสซื่อ เกินไปในความคิดของผม 5555+ ตอนแรกผมเข้าใจว่าฮานจะหน้าตาออกห้าวๆกว่านี้แท้ๆ ผมว่าอิมเมจรูปของฮานตรงกับกายที่ชอบยิ้มหวานๆมากกว่าอีก....ส่วนรูปของกายก็ดูจะตรงกับบุคลิกของฮานในอิมเมจผมซะงั้น 5555+
2.โครงเรื่อง
- พล็อตเรื่อง
เป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นรักในรั้วโรงเรียนธรรมดาๆ ที่ผมไม่รู้สึกธรรมดาทุกครั้งที่อ่านบทต่อไป ถ้าถามว่าหาได้โดยทั่วไปไหม...ผมคงจะตอบว่าไม่รู้สิครับ เพราะพล็อตเรื่องที่นางเอกโดนแกล้ง แล้วมาเจอกลุ่มเพื่อนของพระเอกแบบนี้มันก็เจอบ่อยอยู่ แต่มันไม่ได้มีแค่นั้นน่ะสิ มันมีจุดที่ทำให้เรื่องนี้ฉีกแนวออกมา ....ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง ผมรู้แค่คำเดียวเลยคือ ....น่าติดตาม.....
- การเปิดเรื่อง
เปิดเรื่องมาโดยที่ สองคนหยอกเย้ากันไปมา กุ๊กกิ๊กซะจนผมหลงนึกไปว่า แทน จะเป็นพระเอกไปซะแล้ว 5555+ ตอนนั้นหัวใจผมกำลังพองโตเล็กๆ ก็แหม...ฉากหยอกล้อกันมันช่างน่ารักขนาดนั้น....แต่แล้วเหม่ย (ขอเรียกแบบนี้นะครับ เพื่อความเร็วในการพิมพ์)ก็ทำร้ายจิตใจผมด้วยเรื่องดราม่าที่ไพน์ต้องเจอ...ผมบอกเลยว่าหัวใจที่กำลังพองเล็กๆของผมมันฟีบลงทันที...
แล้วทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้? สิ่งที่ผมต้องการจะบอกคือ เหม่ย เปิดเรื่องมาได้ดีซะจนผมอินตามเลยครับ แถมยังทำให้ผมกดอ่านบทต่อไปได้โดยไม่ต้องคิดเลย ขนาดผมยังเป็นถึงขนาดนี้ นักอ่านท่านอื่นๆก็คงไม่เหลือ 5555+

3.ถ้อยคำภาษา
- ภาษาที่ใช้และการบรรยาย
เป็นการบรรยายแบบง่ายๆ ใช้สำนวนแบบวัยรุ่น ไม่มีคำที่สวยหรูจนต้องเปิดพจนานุกรมหาความหมาย ผมว่าตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่ทำให้นิยายของเหม่ยมีเสน่ห์มากๆในสายตาของผม 55555+
แต่ผมขอติอย่างหน่อยได้มั้ยครับ ผมว่าบทบรรยายในแต่ฉาก แต่ละตอน มันดูเยอะได้อ่ะ มันทำให้ผมเหนื่อยที่จะอ่าน อยากจะอ่านข้ามๆไป ประมาณว่า อารมณ์อินๆกำลังมา เหม่ยกลับบรรยายความหลัง บรรยายฉากยาวววว ซะจนผมลืมอารมณ์อินไปเลย พอตัดเข้าฉากเดิมอีกที ผมเลยอินไม่สุด
ผมคิดว่าเสียงเอฟเฟ็คบางทีก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป ไม่ใช่ห้ามใส่นะครับ ใส่ได้ แต่ผมคิดว่ามันเยอะไป อย่างฉากที่จิ้มแผล หรือฉากแปะพลาสเตอร์อ่ะ ผมคิดยังไง๊ ยังไง ก็คิดว่ามันไม่น่าจะมีเสียง แปะ แปะ ได้ - -
- คำผิด/ประโยคผิดเพี้ยน
ผมบอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยเห็นคำผิด หรือ ประโยคผิดๆเพี้ยนๆในนิยายเรื่องนี้เลย มันแสดงว่าเหม่ยดูแลและรับผิดชอบได้ดีมาก หรือไม่ก็ เป็นคนที่แม่นคำศัพท์มากๆ แต่ผมก็ยังเห็นจุดเล็กๆ(ที่เรียกว่าพิมพ์มากกว่า)อยู่นะครับ เท่าที่ผมช่วยหาได้มี
บทนำ ตัวหนังสีทอง ------ ตัวหนังสือสีทอง
ถูกปล่อยให้เรอเก้อ ----- ถูกปล่อยให้รอเก้อ
เสียงปนสะอื้นของวาโอ ----- เสียงปนสะอื้นของวาโย
บทที่ 2 ฉันดีดตัวลุดขึ้น ---- ฉันดีดตัวลุกขึ้น
ไม่ยอมคืนประเป๋าเธอให้เรา ------ ไม่ยอมคืนกระเป๋าเธอให้เรา
นายกายคนนี้ใช้มั้ย ----- นายกายคนนี้ใช่มั้ย
บทที่4 ม่าไหนหน้าไหนหลัง ---- ว่าไหนหน้าไหนหลัง
4.ตัวเนื้อหา
- การดำเนินเรื่อง
ดำเนินเรื่องได้ดีมากเลยครับ มีการเล่าย้อนเวลาอดีตไปมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมงงแต่อย่างใด การดำเนินไม่ได้เร็วเกินไป แต่ติดตรงจะช้าเกินไป เพราะบทบรรยายเนี่ยแหละครับ
- ฉาก/บทสนทนา
เหม่ยบรรยายฉากได้ดีครับทำให้ผมจินตนาการเห็นทุกอย่างในห้อง ในที่นั้นๆ ได้เลย แต่ว่าผมก็ไม่ได้อยากได้บรรยากาศรอบข้างขนาดนั้น บางครั้งผมก็อยากโฟกัสไปที่ตัวละครว่ากำลังทำอะไร พูดอะไร ตอบโต้กันยังไงมากกว่า
- ความสมเหตุสมผล
ผมติดใจอยู่หนึ่งเรื่องครับ คือ เมื่อก่อนแล้วไพน์เป็นเด็กไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ ?? เรื่องที่เพื่อนทั้งห้องรุมบอยคอตผมยังพอเข้าใจ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์ถึงดูไร้เหตุผลจัง แค่จดหมายฟ้องร้องฉบับเดียวกับคลิปที่ไม่ได้ถ่ายเห็นตอนไพน์โยนร้องเท้า (เพราะคนถ่ายถ่ายตอนที่รองเท้าตกลงไปแล้ว)ไม่น่าทำให้อาจายร์ที่ต้องรู้จักนิสัยนักเรียนทุกคน เชื่อขนาดให้เรียนซัมเมอร์โดนไม่ฟังความฝั่งไพน์เลย ตรงนี้แหละที่ผมว่าแปลก

- ความสนุก/น่าติดตาม
ไม่รู้จะหาคำใดมาอธิบาย .... สนุก? น่าติดตาม? ลุ้น? ดราม่า? น่ารัก? ชวนฟิน? หรือ อิน? .....เอาเป็นว่าผมให้ทุกคำมันอยู่ในนิยายเรื่องนี้เลยแล้วกันครับ 5555+ ครบไปทุกรสชาติมาก หวาน เปรี้ยว เผ็ด เค็ม ขม 5555+ผสมกันได้ลงตัวมากๆ แบบนี้แล้ว คงไม่ต้องถามแล้วผมมั้งว่ามันน่าติดตามหรือเปล่า ไม่เชื่อตามไปดูที่ยอดแอดแฟปก็ได้ อย่างน้อยก็มีผมแล้วล่ะคนหนึ่ง 5555+
5.ตัวละคร
- คาแรคเตอร์
กาย .... ผมชอบเขามากเลยยยย ผมไม่ได้พูดให้เหม่ยดีใจเล่นนะ ผมชอบเขาจริงๆ กายเป็นคนธรรมดาที่ดูมีเสน่ห์แฝงเยอะมาก บางคนเขาก็ดูใสซื่อ บางครั้งเขาก็ดูกวนๆ บางครั้งก็เจ้าเล่ห์ บางครั้งก็ดูนิ่งๆ ปลีกตัว บางครั้งก็ดูจะเจ้าชู้และรุกเก่งอีกอ่ะ 55555+
ไพน์....เธอเป็นคนที่เป็นคนที่อ่อนแอเหมือนผู้หญิงทั่วๆไป แต่ความจริงแล้วไพน์กลับเข้มแข็งมากในสายตาผม และเธอก็ดูไม่โง่ด้วย...ในที่นี้ผมหมายถึงเรื่องความรักน่ะครับ ตอนแรกที่กายขอคบ ผมคิดว่าเธอจะปฏิเสธใจตัวเอง ประมาณว่า ไม่นะ เราไม่ได้รักนายนั่นหรอก ไม่มีทาง เรารักพี่คิงคองคนเดียวววว อะไรทำนองนี้ซะอีก แต่เธอกลับรู้ตัวเองว่ากำลังรักใคร แถมยังมั่นใจด้วย ทำให้ผมรู้สึกชื่นชมในตัวเธอ และ มองว่าเธอช่างแตกต่างจากนางเอกนิยายรักวัยรุ่นทั่วไปยิ่งนัก
ขอรวบตัวละครอื่นๆเลยแล้วกัน ผมขอชมจากใจเลยว่า เหม่ยแบ่งบทให้ทุกๆตัวละครมีบทไม่น้อยหน้าไปกว่ากันเลย ทุกคนมีความสำคัญ โผล่ออกมาให้เห็นเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่ได้เด่นเกินหน้าเกินตาพระนาง เว้นแต่ น้ำหวาน ที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องเกลียดไพน์ขนาดนั้น เพราะเรื่องสอบเรอะ แต่เขาก็น่าจะรู้ตัวเองนี่ว่าทำได้หรือไม่ได้ ไม่น่าเกลียดกันขนาดตามราวีชีวิตไพน์ขนาดนั้น....มันเหมือนตัวร้ายที่ทำออกมาแค่เพื่อทำลายชีวิตไพน์ให้แย่ลง....ตรงนี้แหละที่ผมเห็นเธอแบนๆ (หรือว่าเหม่ยต้องการสร้างให้มันแบนอยู่แล้วก็ไม่ทราบ ฮา)
6.อื่นๆ
- การใช้สัญลักษณ์/อิโมติคอน
มีการใช้อีโมเยอะอยู่นะครับ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมรำคาญสายตาขนาดปิดอ่าน ผมเลยไม่ขอพูดอะไรมาก
- สรุปโดยรวม
คงไม่ต้องบอกแล้วว่านิยายเรื่องนี้สนุกไหม ถ้าไม่สนุกจริงผมคงไม่แอดแฟปและอวยขนาดนี้หรอก 5555+ บอกเลยว่าพอผมอ่านจบ ผมหนักใจมากที่ต้องมาวิจารณ์นิยายเรื่องนี้ ไม่ใช่อะไรหรอก แต่ผมไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาสับเรื่องนี้จริงๆ...จะเขียนแต่เรื่องดีๆก็ไม่ได้ เดี๋ยวเขาหาว่าผมอวยเกินเหตุ 5555+ ผมเลยต้องอ่านนิยายเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนเจอจุดบกพร่องเล็กๆทั้งหมดที่ได้กล่าวมา
มีอีกอย่างที่ผมอยากจะบอก ผมเป็นคนที่ไม่ชอบแอดแฟปนิยายของใครเท่าไหร่เลยนะครับ เพราะผมเป็นคนขี้รำคาญเวลามีแจ้งเตือน แต่เหม่ยทำให้ผมลุ้นกับทุกๆฉากทุกๆตอน ขนาดทนไม่ได้ ต้องกดแอดแฟปแบบนี้ ผมถือว่าเรื่องเหม่ยไม่ใช่ธรรมดาในสายตาผมแล้วนะครับ 55555+ ผมอวยนิยายเรื่องนี้สุดๆอ่ะ!!!
     
 
ใครแต่ง : mira_moon
25 พ.ย. 61
80 %
14 Votes  
#4 REVIEW
 
เห็นด้วย
2
จาก 2 คน 
 
 
รับวิจารณ์นิยาย ฉบับ "Don't Worry"

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 15 พ.ค. 57
พะยูนขอเกริ่นก่อนว่าพะยูนไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เป็นแค่นักวิจารณ์ธรรมดาที่พลันตัวมาจากนักอ่าน ไม่จำเป็นต้องเชื่อและเห็นด้วยกับพะยูนทุกประโยค พะยูนขอแค่ให้คุณเอาคำวิจารณ์ของพะยูนไปไตร่ตรองดูเท่านั้น เพื่อที่นิยายของคุณจะได้พัฒนายิ่งขึ้นไปกว่าเดิมค่ะ

เกี่ยวกับนิยาย
ชื่อเรื่องและแนะนำเรื่องย่อ : ชื่อเรื่องไมตั้งได้โอเคดีแล้วค่ะ ดูน่าสนใจและครอบคลุมเนื้อหาในเรื่องดีด้วยค่ะ ส่วนการแนะนำเรื่องย่อไมแนะนำได้ดีค่ะ ดูน่าสนใจและดูท้าทายดี ทำให้ผู้อ่านอยากรู้ว่านายเอกจะทำได้อย่างที่บอกรึเปล่า

โครงเรื่อง
พล็อตเรื่อง : เรื่องราวความรักระหว่างโสเภณีกับเจ้าชายรัชทายาทเนี่ย มันน่าสนใจมากๆ เลยล่ะค่ะ ดูไม่ซ้ำซากเหมือนนิยายวายเรื่องอื่นๆ ทำให้ถูกอกถูกใจผู้อ่านหลายๆ คนค่ะ

การเปิดเรื่อง : การเปิดเรื่องไมก็ทำได้ดีทีเดียวค่ะ เกริ่นได้น่าสนใจและเป็นเรื่องเป็นราวดีค่ะ ทำให้ผู้อ่านตื่นเต้นและอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป โสเภณีอย่างอาซาเอลจะได้เป็นสนมของเชื้อพระวงศ์จริงๆ หรือเปล่า

ถ้อยคำภาษา
ภาษาที่ใช้และการบรรยาย : ไมใช้การบรรยายแบบสรรพนามบุรุษที่ 3 โดยให้ผู้แต่งเป็นผู้ดำเนินเรื่องราว ซึ่งการใช้ภาษาแบบนี้เป็นเรื่องที่ดีค่ะ เพราะมันจะทำให้บรรยายได้ละเอียดชัดเจน รู้ถึงความนึกคิดของตัวละครหลายๆ ตัวในเรื่อง ทำให้ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมไปกับเนื้อหาค่ะ แต่พะยูนว่าไมควรบรรยายถึงสถานที่เพิ่มเข้าไปมากกว่านี้ ยกตัวอย่างเช่น
ตอนที่ 5 เริ่มตอนมาไมบอกว่าอาซาเอลอยู่ในงานคัดเลือกแล้ว แล้วไอ้งานคัดเลือกเนี่ยมันเป็นยังไง? เป็นลานกว้าง เป็นโดม เป็นบ้าน เป็นห้อง หรือเป็นอะไรกันแน่ บรรยายแบบนี้มันค่อนข้างกว้าง ทำให้ผู้อ่านนึกภาพตามได้ยากค่ะ
ตอนที่ 5 ฉากที่อาซาเอลและคนอื่นๆ ลงจากรถม้าน่ะค่ะ พะยูนว่าไมควรบรรยายเพิ่มเข้าไปว่าอาซาเอลลงจากรถม้าแล้วเห็นอะไร แล้วสิ่งที่เห็นมีรูปร่างลักษณะยังไง ควรใส่รายละเอียดเข้าไปมากกว่านี้ค่ะ

คำผิด/ประโยคผิดเพี้ยน : พะยูนเห็นแค่นิดเดียวจริงๆ ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
หมันไส้(ตอนที่ 2) – หมั่นไส้
แต่งร่าง(ตอนที่ 5) – พะยูนว่าน่าจะใช้คำว่า ‘แต่งตัว’ ดีกว่านะค่ะ เพราะคำเดิมที่ใช้มันเหมือนอาซาเอลเป็นวิญญาณเลยอ่ะ
สมกับใช้บรรเลง(ตอนที่ 7) – น่าจะเพิ่ม ‘ที่’ เข้าไปค่ะ สมกับที่ใช้บรรเลง

ตัวเนื้อหา
การดำเนินเรื่อง : การดำเนินเรื่องรวมๆ แล้ว ค่อนข้างเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ช้าและไม่เร็วจนเกินไป มีจุดพลิกหรือหักมุมให้ผู้อ่านไม่คาดคิดอยู่ แต่ก็มีจุดที่พะยูนอ่านแล้วก็สะดุดและงงอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น ในตอนที่ 22 ที่จู่ๆ เอลเวนท้องน่ะค่ะ บอกตรงๆ เลยพออ่านมาถึงตรงนี้พะยูนงงมากๆ งงโครตๆ ค่ะ คือเอลเวนก็เป็นผู้ชาย ทำไมถึงท้องได้ แต่พอคิดๆ ดูมันก็ไม่แปลก เพราะเดี๋ยวนี้นิยายวายหลายเรื่อง(มาก)ที่ชอบแต่งให้ผู้ชายท้อง ทั้งๆ ที่มันดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่นัก แต่ก็เอาเถอะ นี่มันนิยายนี่ มันเป็นความเพ้อฝันจินตนาการของผู้แต่ง จะเอาอะไรกับมันมาก จะให้สมจริงหมดมันก็ธรรมดาไปอ่ะนะ
ตรงส่วนนี้ที่พะยูนหยิบยกขึ้นมา คือพะยูนแค่จะบอกว่าแต่งให้ผู้ชายท้องได้ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ แต่น่าจะมีการเกริ่นก่อนหรือการอธิบายเพิ่มอีกนิด ถึงแม้ว่าในเรื่องไมจะใช้บทสนทนาเป็นการบอกว่าผู้ชายท้องได้ก็ต่อเมื่อกินยาเข้าไป อยู่ก็เถอะ แต่พะยูนว่ามันยังไม่พออ่ะ เพราะเรื่องนี้มันปุ๊บปั๊บมาก ทำให้ผู้อ่านตกใจและปรับอารมณ์ตามไม่ทันค่ะ
สุดท้ายพะยูนขอเพิ่มเติมในเรื่องการดำเนินเรื่องเข้าไปนิดค่ะ ครั้งนี้พะยูนจะขอพูดถึงการดำเนินเรื่องตอนหลังๆ บ้างนะค่ะ พอพะยูนอ่านมาถึงตอนที่ 24 เป็นต้นไป พะยูนคิดว่าการดำเนินเรื่องเริ่มช้าๆ เอื่อยๆ และยืดยาวแล้วค่ะ มันมีแต่น้ำไม่ค่อยมีเนื้อเท่าไหร่นัก แถมไมยังใส่เนื้อหาเรื่องที่อาซาเอลมีดวงจิตลูกของเซเทียร์เข้ามาเพิ่มอีก ทำให้จากที่พะยูนสนุกเริ่มเฉยๆ แล้วค่ะ

ฉาก/บทสนทนา : เรื่องฉากเท่าที่พะยูนอ่านมามันค่อนข้างเยอะ มีการเปลี่ยนฉากไปมาอยู่เรื่อยๆ แถมการบรรยายถึงฉากสถานที่ในเรื่องยังไม่ค่อยละเอียดชัดเจนอีกด้วย อาจจะทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วงงบ้างว่าตอนนี้ตัวเอกอยู่ที่ไหนกัน?
ส่วนเรื่องของบทสนทนาค่อนข้างทำได้ดีค่ะ บทสนทนาแต่ล่ะบทค่อนข้างถึงพริกถึงขิง อ่านแล้วดูสมจริงและเป็นธรรมชาติดีค่ะ

ความสมเหตุสมผล : จุดที่ไม่สมเหตุสมผลมีอยู่นิดเดียวค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
โซซิมอส ตอนที่ 2 บอกว่าเขาเป็นคนเอาจริงเอาจังกับทุกๆ เรื่อง แต่พอตอนที่ 5 โซซิมอสกลับแหกกฎมาร่วมงานคัดเลือก ซึ่งมันดูขัดแย้งกับนิสัยที่ไมบอก ทำให้ตรงส่วนนี้พะยูนว่าไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ค่ะ
ตอนที่ 13 ฉากที่อาซาเอลบอกว่าให้พระชายามาหาตัวเองน่ะค่ะ แล้วจู่ๆ พระชายาก็มาหาอาซาเอล พูดว่า ‘ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่มีทางมาพบข้า’ น่ะค่ะ พะยูนอ่านแล้วงงมากว่าพระชายาไปรู้จักอาซาเอลดีตอนไหน เพราะตอนที่แล้วพระชายาก็เพิ่งเจออาซาเอลเองแท้ๆ คุยกันสักคำก็ยังไม่ได้คุยเลย ทำไมถึงมาพูดว่ารู้นิสัยของอาซาเอลได้ล่ะค่ะ

ความสนุก/น่าติดตาม : พะยูนว่าสนุกแค่ตอนต้นๆ เรื่องค่ะ เพราะพออ่านไปเรื่อยๆ จากที่สนุกก็เริ่มเฉยๆ แล้วค่ะ มันอาจจะเป็นเพราะว่าตอนหลังๆ เรื่องมันเริ่มจะเอื่อยๆ และยืดยาวไปค่ะ
ส่วนความน่าติดตามไมทำได้ดีทีเดียวค่ะ จบตอนแต่ล่ะตอนได้น่าติดตามดี ทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วอยากอ่านตอนต่อไปค่ะ

ตัวละคร
สีหน้า/ท่าทาง : ตรงส่วนนี้ไมบรรยายออกมาได้ดีแล้วค่ะ สีหน้าและท่าทางของตัวละครชัดเจนดีแล้ว ไม่มีจุดที่ต้องแก้ไขหรือเพิ่มเติมค่ะ

คาแรคเตอร์ : พะยูนคิดว่าคาแรคเตอร์ของอาซาเอลค่อนข้างโดดเด่นที่สุดในเรื่องค่ะ เพราะว่านายเอกของเราไม่เหมือนนายเอกเรื่องอื่นๆ เลยค่ะ อาซาเอลมีคาแรคเตอร์ที่ร้าย ฉลาด เจ้าเล่ห์ และชอบยั่วพระเอก ทำให้คนอ่านหลายคนหลงเสน่ห์และรักอาซาเอลกันหมด(รวมไปถึงพะยูนด้วย) ไมเขียนคาแรคเตอร์ของอาซาเอลได้เสมอต้นเสมอปลายดีค่ะ ตอนต้นเป็นยังไงตอนท้ายก็เป็นอย่างนั้นค่ะ ดูเป็นธรรมชาติและดูสมจริงมากเลยค่ะ
มาพูดถึงโซซิมอส พระเอกของเรื่องบ้างค่ะ พะยูนจะยึดคาแรคเตอร์ที่ไมได้เขียนบอกไว้ตอนแรกๆ นะค่ะ ที่ไมเขียนว่า โซซิมอสเป็นคนเอาจริงเอาจังกับทุกๆ เรื่อง พูดจริงทำจริง เด็ดขาด ฉลาด เจ้าเล่ห์ และเจ้าชู้ ตอนแรกๆ พะยูนยอมรับเลยค่ะว่าโซซิมอสเป็นอย่างที่ไมพูดจริงๆ แต่มันก็มีจุดที่ขัดแย้งกับนิสัยของโซซิมอสอยู่น่ะค่ะ ทำให้คาแรคเตอร์เริ่มเปลี่ยนและไม่เสมอต้นเสมอปลายเท่าที่ควร
อื่นๆ
การใช้สัญลักษณ์/อีโมติคอน : ไม่มีให้เห็นค่ะ ซึ่งก็เหมาะกับนิยายอยู่แล้ว

สรุปโดยรวม :โดยรวมแล้วนิยายเรื่องนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในเรื่องของคาแรคเตอร์ตัวละครที่ทำให้ผู้อ่านชื่นชอบ และการจบตอนที่ตัดจบได้น่าติดตาม แต่ก็ยังมีจุดที่อยากให้ผู้แต่งเพิ่มเติมเข้าไปอยู่บ้างน่ะค่ะ ซึ่งคงจะเป็นในเรื่องของการบรรยายถึงสถานที่ การดำเนินเรื่องที่อย่าใส่เข้าไปมากนัก เพราะมันจะทำให้เรื่องดูยืดยาวและขาดความน่าสนใจไปค่ะ สุดท้ายนี้ก็ขอให้ผู้แต่งมีกำลังใจที่จะแต่งต่อไปนะค่ะ อย่าท้อถอยเด็ดขาด พะยูนจะขอเอาใจช่วยและให้กำลังใจอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ค่ะ^^
     
 
ใครแต่ง : รักต์ศรา
26 ก.ย. 66
80 %
38 Votes  
#7 REVIEW
 
เห็นด้วย
7
จาก 7 คน 
 
 
รับวิจารณ์นิยาย ฉบับ Don't Worry

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 7 พ.ค. 57
พะยูนขอเกริ่นก่อนว่าพะยูนไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เป็นแค่นักวิจารณ์ธรรมดาที่พลันตัวมาจากนักอ่าน ไม่จำเป็นต้องเชื่อและเห็นด้วยกับพะยูนทุกประโยค พะยูนขอแค่ให้คุณเอาคำวิจารณ์ของพะยูนไปไตร่ตรองดูเท่านั้น เพื่อที่นิยายของคุณจะได้พัฒนายิ่งขึ้นไปกว่าเดิมค่ะ

เกี่ยวกับนิยาย
ชื่อเรื่องและแนะนำเรื่องย่อ : ชื่อเรื่องตั้งได้ดีแล้วค่ะ คำว่า ‘ฝ่ามิติแดนพิศวง’ มันดูลึกลับดีค่ะ ทำให้ผู้อ่านสนใจได้ไม่น้อยค่ะ ส่วนการแนะนำเรื่องย่อก็แนะนำได้น่าสนใจดีค่ะ ครอบคลุมเนื้อหาในเรื่องได้ดี ถึงแม้ตอนแรกพะยูนจะอ่านเนื้อเรื่องไปได้สามตอนก็เริ่มสงสัยแล้วค่ะว่ามันหลุดมิติยังไง? ไหนล่ะดินแดนอื่น? จนอ่านมาถึงบทที่ 4 นี่แหละค่ะ ถึงบ้างอ๋อแล้ว

โครงเรื่อง
พล็อตเรื่อง : พล็อตในเรื่องของการหลุดมิติไปอยู่ในดินแดนอื่นแบบนี้ ค่อนข้างตลาดนิดหนึ่ง เพราะพะยูนก็เห็นนิยายแฟนตาซีหลายเรื่องแล้วที่มีพล็อตแบบนี้ หากแต่วิธีนำเสนอต่างหากที่จะตัดสินได้ว่านิยายเรื่องนี้โดดเด่นกว่าเรื่องอื่นหรือไม่ ซึ่งตรงส่วนนี้พะยูนจะขอพูดถึงอีกทีในหัวข้อของการดำเนินเรื่องค่ะ

การเปิดเรื่อง : การเปิดเรื่องของคุณเปิดเรื่องได้น่าสนใจมากๆ และเปิดได้โดดเด่นกว่านิยายแฟนตาซีเรื่องอื่นๆ เลยค่ะ เพราะอะไรงั้นเหรอ? ก็เพราะคุณใช้ประโยคคำถามเข้ามาในการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ และใช้ประโยคเหมือนพูดคุยโต้ตอบกับผู้อ่าน ทำให้การเปิดเรื่องของคุณมีเสน่ห์และโดดเด่นกว่าเรื่องอื่นๆ มากเลยค่ะ ไม่พอแค่นั้น ตอนสุดท้ายคุณยังมีการชักชวนผู้อ่านให้อยากรู้อยากเห็นเรื่องราวที่คุณจะนำเสนออีกด้วย แล้วอย่างนี้จะไม่ทำให้ผู้อ่านต้องรีบกดคลิกอ่านตอนต่อไปได้ยังไงกันล่ะค่ะ

ถ้อยคำภาษา
ภาษาที่ใช้และการบรรยาย : ภาษาที่คุณใช้เหมือนกับเป็นการเอาสรรพนามบุรุษที่ 1 กับ บุรุษที่ 3 มาผสมผสานกัน ซึ่งทำให้การบรรยายละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก แตกต่างจากนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่นที่มักจะใช้สรรพนามบุรุษที่ 3 ในการนำเสนอเรื่องราว ตรงส่วนนี้จึงเป็นเสน่ห์ของคุณอีกข้อค่ะ
พูดถึงการบรรยายขอบอกเลยว่าคุณบรรยายได้ละเอียดชัดเจนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าทางตัวละคร สิ่งแวดล้อม สถานที่ ฉากแต่ล่ะฉาก ก็ล้วนทำให้ผู้อ่านนึกภาพตามได้ง่ายค่ะ แต่ก็ยังมีส่วนที่ทำให้การบรรยายติดขัดอยู่บ้าง เช่น การใช้คำไม่ถูก การใช้คำที่แตกต่างกัน และยังรวมถึงภาษาถิ่นที่เอื้องคำพูดอีกด้วย ทำให้ผู้อ่านบางคนที่ไม่รู้ภาษาถิ่นถึงกับเลิกอ่านไปได้ง่ายๆ ค่ะ ซึ่งตรงส่วนนี้พะยูนก็เป็นเช่นกัน พะยูนไม่รู้ภาษาถิ่นเลยแม้แต่น้อย พออ่านแล้วทำให้ไม่เข้าใจประโยคที่เอื้องคำพูด ต้องมาค่อยๆ นั่งแกะคำแต่ล่ะคำ ทำให้เสียอรรถรสในการอ่านค่ะ อีกทั้งพอเจอมากๆ เข้าก็ทำให้รำคาญและเบื่อจนไม่อยากอ่านอีกด้วยค่ะ
อีกเรื่องของการบรรยายที่พะยูนอยากพูดถึงคือ การบรรยายลักษณะแต่ล่ะคนที่คุณมักจะนำมาใช้บ่อยๆ ค่ะ เช่น สาวหน้าขาว สาวหน้าอ่อน สาวห้าว เด็กหนุ่มร่างผอม ชายหนุ่มที่ฮอต และบลาๆ คำบรรยายพวกนี้ถ้าบอกลักษณะเด่นถูกจุดก็ทำให้ผู้อ่านรู้ได้ค่ะว่าหมายถึงใคร แต่ในทางกลับกันถ้าคุณเปลี่ยนคำบรรยายไปเรื่อยๆ มันก็ทำให้คนอ่านงงเช่นกันว่าหมายถึงใครกันแน่ เช่น หนุ่มผิวคล้ำกับหนุ่มตาดุ(บทที่ ๗) คำบรรยายลักษณะสองคำนี้คือหมายถึงจักรที่เป็นคนๆ เดียวกัน แต่ทำไมถึงใช้คำบรรยายที่แตกต่างกันล่ะค่ะ ถึงจะอยู่ในเหตุกาณ์เดียวกันแต่ใช้คำที่แตกต่างกันเนี่ย บางครั้งมันก็ทำให้ผู้อ่านเริ่มสับสนแล้วว่าหมายถึงคนๆ นี้จริงๆ หรือเปล่า เพราะงั้นควรระวังในส่วนนี้ด้วยค่ะ ยิ่งถ้าเป็นตอนที่มีตัวละครเยอะๆ ล่ะก็ควรต้องระวังเป็นอย่างมากค่ะ(อย่างในตอนต้นๆ ที่ฟ้า มิ้น ต่าย เอกและกัซอยู่ บางครั้งพะยูนอ่านแล้วพะยูนก็งงนะค่ะว่าหมายถึงใคร) ถ้าเป็นไปได้ควรบรรยายแบบบอกลักษณะเด่นๆ ของแต่ล่ะคนไปเลย หรือจะใช้ฐานะ นิสัยอะไรก็ได้ที่โดดเด่น ทำให้ตัวละครตัวนี้แตกต่างจากตัวอื่นค่ะ

คำผิด/ประโยคผิดเพี้ยน : เรื่องคำผิดมีให้เห็นอยู่บ้างประปรายแต่ที่เด่นสุดจะเป็นตอนต้นๆ มากกว่าค่ะ ตอนหลังๆ ไม่ค่อยเห็นคำผิดหรือประโยคแปลกๆ เลยค่ะ เราจะขอยกมาแค่บางประโยคเท่านั้นนะค่ะ
รู้แบบนี้ฉันไม่มาเที่ยวด้วยแต่แรกด้วยแบบตาจักรก็ดี(บทที่ ๑) – คำที่เน้นสีแดงควรตัดออกค่ะ เพราะมันเป็นการซ้ำคำ และคำว่า ‘แบบ’ ก็เป็นการบอกอยู่แล้วว่าต้องการเหมือนใคร ไม่ต้องใส่คำว่า ‘ด้วย’ เพิ่มเข้ามาค่ะ
ไม่ได้มาได้แต่ทำโอดครวญแบบเธอสักหน่อย(บทที่ ๑) – คือประโยคนี้ตอนแรกเราอ่านแล้วไม่เข้าใจเลยค่ะ ว่าคุณต้องการจะสื่อถึงอะไร? แต่พออ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายๆ รอบเข้าก็เริ่มเข้าใจนิดหนึ่งแล้ว คือคุณต้องการสื่อว่าจักรมาไม่ได้ ไม่เหมือนฟ้าที่มาได้แต่ทำโอดครวญใช่ไหมคะ? ถ้าใช่ล่ะก็แนะนำว่าให้ปรับเปลี่ยนคำที่ใช้เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้นค่ะ ควรเปลี่ยนว่า(ขอยกมาตั้งแต่ต้น เพื่อที่จะได้เห็นภาพชัดขึ้นค่ะ) “อย่าไปเทียบกับหมอนั่นเลยน่า หมอนั่นบอกว่าต้องรีบกลับบ้านไปทำธุระ เลยมาเที่ยวกับพวกเราไม่ได้แต่แรก ไม่เหมือนเธอที่มาได้แล้วเอาแต่ทำโอดครวญสักหน่อย” เหตุผลที่พะยูนเปลี่ยนคำมาใช้แบบนี้เพราะถ้าจะเปรียบเทียบฟ้ากับจักรล่ะก็น่าจะใช้คำว่า ‘ไม่เหมือน’ แทน ‘ไม่ได้มาได้’ ที่พออ่านรวมๆ กับต้นประโยคแล้วดูงงๆ นะค่ะ
เด็กสาวนัยน์ตาดม(บทที่ ๑) – เด็กสาวนัยน์ตาคม
“เอื้องคำเธอไม่กลัวผีบ้างเลยหรือไงเนี่ย”(บทที่ ๒) – ประโยคนี้ต่ายพูดกับฟ้า แต่รูปประโยคกลับเหมือนต่ายพูดกับเอื้องฟ้าอยู่เลยค่ะ น่าจะเปลี่ยนคำด้านหลัง จาก ‘เนี่ย’ เป็น ‘นะ’ และตัดคำว่า ‘เธอ’ ออกค่ะ เพราะต่ายก็บอกชื่ออยู่แล้วว่าพูดถึงใคร ไม่จำเป็นต้องใส่สรรพนามเข้ามาเพิ่มค่ะ

ตัวเนื้อหา
การดำเนินเรื่อง : การดำเนินเรื่องคุณเหมือนกับนึกอะไรได้ก็ใส่ๆ มาเลยค่ะ ไม่มีการเกริ่นก่อนหรือเชื่อมโยงอะไรกับตอนต้นเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งมันยังซับซ้อนและพลิกแพลงไปพลิกแพลงมาจนเกินไป ทำให้ผู้อ่านเกิดคำถามและข้อสงสัยอยู่บ่อยๆ ทั้งๆ ที่ปริศนาเก่าๆ ยังไม่เฉลยเลยแท้ๆ กลับต้องมาขบคิดถึงปริศนาใหม่ๆ ที่โผล่มา จากที่อยากรู้กลายเป็นไม่อยากรู้และเลิกอ่านไปแทนค่ะ เช่น ในเรื่องของฟ้าเมื่อหกปีก่อนที่เกิดเหตุการณ์ทำให้ความทรงจำหายไปในช่วงเที่ยวป่า ตรงส่วนนี้ตอนต้นคุณไม่มีการเกริ่นบอกอะไรเลยแม้แต่น้อย อยู่ๆ บทที่ ๔ คุณก็มาพูดถึงมัน เขียนให้ฟ้าอยากรู้ถึงความทรงจำที่หายไปเมื่อหกปีก่อน ทำให้ผู้อ่านสับสนยิ่งขึ้นไปอีก พะยูนคิดว่าถ้าคุณอยากทำให้เรื่องเมื่อหกปีก่อนของฟ้าเป็นปริศนาและผู้อ่านไม่สับสนก็ควรจะมีการเกริ่นก่อนในตอนต้น ในช่วงบทที่ ๑ ที่ฟ้าฝันร้ายแล้วตื่นขึ้นมา อาจจะสอดแทรกลงไปว่าฝันร้ายเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อหกปีก่อน หรืออาจจะเขียนถึงในบทอื่นๆ ก็ได้ค่ะ

ฉาก/บทสนทนา : เรื่องของฉากก็ไม่มีปัญหาค่ะ ทุกอย่างดูเป็นไปได้และเหมาะสมกับเนื้อเรื่องอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้ ฉากใช้พลัง หรือฉากอื่นๆ ที่มีอยู่ในเรื่อง คุณก็ทำได้ดีแล้วค่ะ ส่วนในเรื่องบทสนทนาก็ไม่มีปัญหาติดขัดเช่นกันค่ะ

ความสมเหตุสมผล : บทที่ ๓ ตอนที่จักรโผล่มานะค่ะ คือพะยูนงงมากๆ และสงสัยโครตๆ เลยว่าจักรรู้ได้ไงว่าเป็นฟ้า จากการที่อ่านคำบรรยายเรื่องหน้าฟ้าแล้วเราคิดภาพตาม มันก็น่าจะไม่เหลือเค้าโครงหน้าเดิมให้เห็นเลยนะ(ต้องเละสุดๆ แบบโครตสยอง) อย่างต่ายจำฟ้าไม่ได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แล้วไหงนายจักรอะไรนี่ถึงจำฟ้าได้คนเดียว!? แล้วทำไมฟ้าไม่ตกใจหรือสงสัยเลยว่าจักรจำตัวเองได้? ในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมดเลยค่ะ แต่พออ่านๆ ไปก็มีความคิดแวบขึ้นมาในหัวพะยูนว่า หรือจริงๆ แล้วคุณต้องการเขียนปูเพื่อให้เนื้อเรื่องเชื่อมโยงกันในตอนหลังกันคะ? ถ้าใช่ล่ะก็อย่างน้อยเขียนหน่อยเถอะว่าฟ้าตกใจหรือสงสัยว่าจักรจำตัวเองได้ยังไงกัน แล้วถ้าอยากให้เป็นปริศนาก็เขียนให้จักรยิ้มหรือไม่พูดอะไรเลยก็ได้ค่ะ มันจะได้สมเหตุสมผลขึ้นมาหน่อย
บทที่ ๑๐ ตอนที่ฟ้าโดนชกท้องแล้วหมดสติไปนะค่ะ หลังจากนั้นก็โดนมัดแขนมัดขา ปิดตา และปิดปากใช่ไหมคะ(แถมยังบรรยายเข้าไปอีกว่าโดนมัดปากเอาไว้ไม่ให้ส่งเสียงอะไร) แต่พอถึงบทสนทนาที่คุณนีถามว่าได้สติแล้วใช่ไหม ฟ้ากลับตอบคุณนี “ค่ะ แล้วคุณนีเป็นยังไงบ้างคะ?” พระเจ้า! นี่มันอะไรกัน!? ฟ้าพูดตอบคุณนีได้ไงล่ะ!? ทั้งๆ ที่โดนมัดปากไม่ให้พูดอะไรเลยแท้ๆ! หรือฟ้าจะส่งกระแสจิตคุยกับคุณนีได้....... ยัง ยังไม่พอแค่นั้น พอพะยูนอ่านลงมาคุณก็ได้เขียนแล้วค่ะว่าฟ้าโดนแก้มัดปาก(นี่แหละคือสิ่งที่ตามหามานาน) แทนที่จะเอาตรงส่วนนี้ไปไว้ข้างบนก่อนที่จะให้ฟ้าพูด แต่ไหงมาเขียนหลังให้ฟ้าพูดกันล่ะค่า TOT เพราะงั้นตรงส่วนนี้จึงไม่สมเหตุสมผลค่ะ ควรแก้ไขด่วนๆ เลย

ความสนุก/น่าติดตาม : ความสนุกของเรื่องนี้อยู่ที่มีปริศนาต่างๆ ให้ขบคิดนี่แหละค่ะ แต่ในทางกลับกันมันก็ถือว่าเป็นข้อเสียของเรื่องด้วยเช่นกันค่ะ เรียกได้ว่าเป็นดาบสองคมดีๆ นี่เองค่ะ ส่วนเรื่องของความน่าติดตาม ในตอนต้นๆ พะยูนว่าน่าติดตามดีนะค่ะ จบตอนแต่ล่ะตอนได้น่าสนใจดี แต่พอมาตอนท้ายๆ ตั้งแต่ตอนย้อนอดีตไปพูดถึงฟ้าและเหล่าผองเพื่อน พะยูนว่าหลังจากนั้นมันก็ไม่ค่อยน่าติดตามเท่าไหร่

ตัวละคร
สีหน้า/ท่าทาง : สีหน้าและท่าทางของตัวละครในเรื่องยังดูไม่เป็นธรรมชาติและไม่สมจริงเท่าที่ควร รู้สึกอารมณ์และท่าทางของตัวละครมันยังไม่สุดค่ะ เหมือนกับเพิ่งปล่อยมาแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น

คาแรคเตอร์ : คาแรคเตอร์ตัวละครในเรื่องค่อนข้างยังไม่ชัดเจนค่ะ อย่างเช่น ฟ้าที่ตอนต้นคุณบอกว่าฟ้าเป็นคนขวัญอ่อน แต่ก็มีหลายๆ เหตุการณ์ด้วยกันที่คนขวัญอ่อนอย่างฟ้าน่าจะมีปฏิกิริยา แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น ท่าทางของฟ้ากลับดูเมินเฉย ผิดกับคนขวัญอ่อนอย่างเห็นได้ชัดค่ะ แต่ก็ยังมีตัวละครที่เสมอต้นเสมอปลายดีอยู่นะค่ะ นั่นก็คือ เอก เอกเป็นคนที่ชอบกวนประสาทฟ้าอยู่บ่อยๆ จนบางครั้งก็เผลอคิดว่า ‘หรือเอกจะชอบฟ้ากันน้า’ เลยค่ะ

อื่นๆ
การใช้สัญลักษณ์/อิโมติคอน : ตรงส่วนนี้ไม่มีอะไรที่ต้องแก้ไขค่ะ อิโมติคอนไม่ค่อยได้ใช้ซึ่งก็เหมาะแล้วกับนิยายแฟนตาซีอยู่แล้ว

สรุปโดยรวม : โดยรวมแล้วนิยายเรื่องนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องของการบรรยาย และตัวเนื้อหาที่มีปริศนามากมายให้อยากรู้ค่ะ แต่ก็ยังมีจุดที่อยากให้ผู้แต่งแก้ไขอยู่อีกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบรรยายที่ต้องระวัง การดำเนินเรื่องที่อย่ามากจนเกินไป และเรื่องอุปนิสัยใจคอของตัวละครแต่ล่ะตัว อยากให้เด่นชัดมากกว่านี้ค่ะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้อ่านหลงรักและเข้าใจตัวละครในเรื่องมากขึ้นค่ะ สุดท้ายมีผู้แต่งหลายๆ คนที่หมดความพยายามและท้อถอยที่จะเขียนนิยายของตัวเองแล้ว แต่นี่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีๆ คุณก็ยังคงพยายามและสู้ต่อไปเพื่อที่ว่าสักวันนิยายของคุณจะประสบความสำเร็จ ตรงส่วนนี้พะยูนนับถือจริงๆ ค่ะ พะยูนขอเอาใจช่วยและให้กำลังใจอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ นะค่ะ ^^V
     
 
ใครแต่ง : ` monster-inggg (?)
5 ต.ค. 54
100 %
1 Votes  
#8 REVIEW
 
เห็นด้วย
12
จาก 12 คน 
 
 
รับวิจารณ์นิยาย ฉบับ "Don't Worry"

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 12 ต.ค. 54
พะยูนขอเกริ่นก่อนว่าพะยูนไม่ใช่นักวิจารณ์มืออาชีพ เป็นแค่นักวิจารณ์ธรรมดาที่พลันตัวมาจากนักอ่าน ไม่จำเป็นต้องเชื่อและเห็นด้วยกับพะยูนทุกประโยค พะยูนขอแค่ให้คุณเอาคำวิจารณ์ของพะยูนไปไตร่ตรองดูเท่านั้น เพื่อที่นิยายของคุณจะได้พัฒนายิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

เกี่ยวกับนิยาย
ชื่อเรื่องและการแนะนำเรื่องย่อ : คุณตั้งชื่อเรื่องได้ดีค่ะ พอพะยูนอ่านแล้วมันให้ความรู้สึกความรักอันแสนหวานหรือความรู้สึกที่เศร้า ชวนให้อยากอ่านค่ะว่าเนื้อเรื่องมันเป็นยังไง ส่วนเรื่องการแนะนำเรื่องย่อถือว่าโอเคในระดับหนึ่งค่ะ

โครงเรื่อง
พล็อตเรื่อง : พล็อตเรื่องแปลกใหม่ดีค่ะ นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าพล็อตจะเป็นแบบนี้ แถมพล็อตเรื่องยังดูน่าสนใจและลึกลับอีกด้วย ฮ้า น่าอ่านจริงๆ ค่ะ

การเปิดเรื่อง : การเปิดเรื่องของคุณไม่ค่อยน่าสนใจและน่าติดตามเท่าไหร่ค่ะ มันเรียบๆ ธรรมดาๆ เกินไป เพียงแค่ทำให้รู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่กำลังจะแต่งงานกับรอนเท่านั้น ส่วนจุดประสงค์อื่นๆ ยังไม่ปรากฏค่ะ พะยูนว่าคุณควรจะเขียนบทนำเป็นการเกริ่นเรื่องค่ะ ไม่ใช่จู่ๆ ก็เข้าเนื้อหามาตอนที่ 1 โดยไม่มีการเกริ่นเรื่องใดๆ เลยค่ะ ถ้าคุณมีบทนำแล้วเขียนเกริ่นเรื่องได้ดีล่ะก็จะทำให้ผู้อ่านเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัวค่ะ

ถ้อยคำภาษา
ภาษาที่ใช้และการบรรยาย : ภาษาที่ใช้เป็นภาษาธรรมดาๆ ที่ใช้สำหรับการบรรยายแบบสรรพนามบุรุษที่ 3 แต่บางครั้งจากภาษาธรรมดาก็จะเปลี่ยนเป็นภาษาสวยหรูซึ่งภาษาสวยหรูนี่คุณมักจะใช้กับการบรรยายสถานที่เท่านั้น
ส่วนการบรรยายของคุณยังไม่ละเอียดชัดเจนค่ะ โดยส่วนมากคุณมักจะใช้บทสนทนาเป็นตัวบรรยายแทนซึ่งมันเป็นการกระทำที่ไม่ดีเลยเพราะบทสนทนามันไม่สามารถสื่อถึงตัวละคร ฉากหรือสถานที่ได้ดีเท่ากับการบรรยายค่ะ พะยูนว่าควรจะมีการบรรยายมากกว่านี้หน่อย อย่าเน้นที่บทสนทนา ให้เน้นที่การบรรยายโดยเฉพาะการบรรยายสีหน้า อารมณ์ พฤติกรรมของตัวละคร และที่ลืมไม่ได้เลยคือการบรรยายฉากค่ะ ตอนนี้คุณมักจะบรรยายสถานที่ได้ดี มีความละเอียดชัดเจน ภาษาสวยหรู อ่านแล้วเห็นภาพตามได้ง่าย แต่ตรงส่วนอื่นล่ะค่ะ ทำไมคุณไม่บรรยายให้ดีเหมือนสถานที่บ้าง อย่าเน้นการบรรยายเฉพาะจุดเดียว ควรเน้นการบรรยายตรงทุกส่วนค่ะ

คำผิด/ประโยคผิดเพี้ยน : คำผิดแทบจะไม่มีเลยค่ะ มีคำตกหล่นนิดๆ เท่านั้น พะยูนชื่นชมคุณตรงจุดนี้จริงๆ ค่ะ แสดงว่าคุณใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ ค่ะ

ตัวเนื้อหา
การดำเนินเรื่อง : การดำเนินเรื่องค่อนข้างจะงงค่ะ แถมยังดำเนินเรื่องยืดเยื้อ ช้าๆ เรื่อยๆ อีกด้วย มันทำให้พะยูนอ่านแล้วรู้สึกเบื่อค่ะ เนื้อหาของคุณนั้นมีจุดพลิกแพลงค่ะคือตรงส่วนที่พ่อของเฮอร์ไมโอนี่ตายแล้วฟื้นขึ้นมากลายเป็นหุ่นยนต์ ตรงส่วนนี้ถือว่าเป็นจุดพลิกแพลงและแปลกใหม่ของเรื่องเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าจะให้พูดถึงในส่วนอื่นๆ ล่ะก็ไม่ปรากฏค่ะ เนื้อหาของคุณนั้นยังไม่เข้มข้นพอค่ะ ค่อนข้างไปในทางเรียบๆ ธรรมดาๆ แถมเนื้อหาของคุณทั้ง 8 ตอนมีอารมณ์เดียวกันหมดคือ ความรู้สึกโกรธและความรู้สึกเศร้า ส่วนความรู้สึกอื่นๆ ไม่มีเลยค่ะ มันจึงทำให้นิยายของคุณไม่มีสีสัน ดูหม่นหมอง ทำให้ดูน่าเบื่อ ไม่อยากอ่านต่อค่ะ ที่พะยูนสังเกตคุณมักจะดำเนินเรื่องแบบให้มีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยเกินไป มีอารมณ์โกรธแทบจะทุกตอน พะยูนอยากให้เนื้อหาของคุณมีอารมณ์อื่นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกสุข ความรู้สึกสนุก ความรู้สึกผ่อนคลาย หรืออะไรก็ตามแต่ ควรเพิ่มจุดสีสันให้เนื้อหาด้วยค่ะ คุณจะใส่มุขตลกนิดๆ เข้าไปก็ได้เพื่อที่จะเนื้อหาจะได้มีสีสันกว่านี้ค่ะ

ฉาก/สถานที่ : อย่างในตอนแรกที่พะยูนบอกไป ในเรื่องของฉากจะติดขัดอยู่ที่การบรรยายแต่ตรงส่วนอื่นก็โอเคแล้วค่ะ คุณเปลี่ยนฉากได้พอดีพอเหมาะ ไม่มากเกินไปน้อยเกินไป ส่วนเรื่องของสถานที่คุณไม่มีจุดให้ต้องแก้ไขค่ะ การบรรยายก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปกังวลในส่วนของสถานที่ค่ะ

ความสมเหตุสมผล : มีจุดไม่สมเหตุสมผลหลายจุดที่เดียวค่ะ อย่างตอนแรกที่อ่านพะยูนนึกว่าแฮรี่เป็นแฟนเฮอร์ไมโอนี่สักอีก เช่นเดียวกับผู้อ่านคนอื่นๆ ที่งงกับความสัมพันธ์ของแฮรี่กับเฮอร์ไมโอนี่เช่นกัน จะว่าเป็นเพื่อนสนิทก็ไม่ใช่เพราะมันเหมือนทั้งคู่เป็นแฟนกันมากกว่า แฮรี่ดูเหมือนแฟนมากกว่ารอนด้วยซ้ำ สาเหตุก็มาจากการกระทำของแฮรี่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนๆ ที่แฮรี่ปรากฏออกมามันจะต้องมีการถึงเนื้อถึงตัวเฮอร์ไมโอนี่ทุกครั้ง ส่วนตอนที่รอนปรากฏก็มีแค่การพูดคุยเท่านั้น ไม่ค่อยมีการถึงเนื้อถึงตัวอย่างแฮรี่เท่าไหร่นัก ตรงจุดนี้แหละค่ะที่มันไม่สมเหตุสมผลเพราะถ้าเป็นเพื่อนสนิทธรรมดา จะไม่มีการถึงเนื้อถึงตัวมากขนาดนี้ เพื่อนธรรมดาจะมีแค่การกอดและการจับมือเท่านั้น ส่วนแฟนจะมีตั้งแต่กอด จับมือ หอมแก้ม จูบหน้าผาก จูบปาก และบลาๆ ซึ่งแฮรี่ก็ทำอย่างนี้ไปแล้ว 3:4 ส่วน พะยูนอยากให้คุณไตร่ตรองตรงส่วนนี้ให้ดีค่ะว่าเพื่อนกันจะทำแบบที่แฮรี่ทำไม ถ้าไม่ทำก็แก้เถอะค่ะ เนื้อหาจะได้สมเหตุสมผลและสมจริง

อีกจุดคือเรื่องของนิสัยคุณพ่อเฮอร์ไมโอนี่นะค่ะ ในตอนแรกที่เลขาของคุณพ่อบอกว่าท่านเป็คนแข็งกร้าว พะยูนก็นึกภาพไปแล้วว่าจะต้องเป็นคนแข็งๆ ไม่ยอมคนและอารมณ์ร้อนอย่างแน่นอน แต่มันกลับไม่ใช่ค่ะ ในตอนที่คุณพ่อโผล่มานิสัยนั้นไม่คล้ายกับคำว่าแข็งกร้าวแม้แต่น้อยค่ะ ท่านไม่ได้พูดจาแข็งกร้าวแต่กลับนุ่มนวลด้วยซ้ำ แถมยังใจดีและอ่อนโยนอีกด้วย สำหรับคำว่าเป็นคนแข็งกร้าวนั้นจะต้องเป็นคนที่มีนิสัยอย่างที่พะยูนบอกมาได้ ไม่มีทางยอมง้อใครแน่นอน และสีหน้าของคนประเภทนี้จะเรียบๆ ขรีมๆ ค่ะ เขาจะชอบเก็บสีหน้าของตัวเอง แถมน้ำเสียงและการพูดจาจะแข็งทื่อ ไม่มีน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนอย่างคุณพ่อคนนี้แน่นอนค่ะ มันจึงไม่สมเหตุสมผลกับคำว่าแข็งกร้าวที่คุณบอกมาค่ะ ตรงจุดนี้ควรเปลี่ยนส่วนของคำพูดค่ะ

จุดสุดท้ายคือไม่สมเหตุสมผลตรงบทสนทนาค่ะ คุณชอบเขียนบทสนทนาที่มันเป็นคนล่ะเรื่องกัน ทำให้พะยูนอ่านแล้วถึงกับงงเลยทีเดียว เช่น ขอร้องรอน! คงจะเป็นเสียงหนูวิ่งข้างบน ประโยคนี้ตรงคำว่า ขอร้อง มันสื่อถึงการอ้อนวอนใครสักคน ไม่ให้ทำอย่างนี้แต่ที่คุณบรรยายมารอนยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะค่ะ นอกจากการได้ยินเสียงและมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่เท่านั้น ที่คุณใส่ประโยคขอร้องเข้าไปมันเหมือนกับว่ารอนกำลังจะเปิดประตูขึ้นไปดูอย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ ตรงจุดนี้ไม่สมเหตุสมผลอย่างมากค่ะ ควรแก้ไขด่วนๆ เลยค่ะ

ความสนุก/น่าติดตาม : ความสนุกนั้นหดหายไปหมดค่ะเพราะมีจุดผิดพลาดและติดขัดเยอะในเรื่องของการดำเนินเรื่องและการบรรยายค่ะ ส่วนความน่าติดตามนั้นยังทำไม่ได้ไม่ดีพอค่ะ การจบตอนแต่ล่ะตอนยังไม่น่าติดตามค่ะ คุณควรจะตัดจบในตอนที่เป็นจุดไคลแมกซ์นะค่ะ อย่างเช่น ตอนที่เฮอร์ไมโอนี่เปิดลังแล้วเจอศพพ่อนะค่ะ คุณก็เขียนบรรยายให้ดีๆ และตัดจบตอนนั้นเลยค่ะ เพื่อที่ผู้อ่านอ่านแล้วจะได้ค้างคา อยากอ่านต่อเร็วๆ

ตัวละคร
สีหน้า/ท่าทาง : อย่างในตอนแรกที่พะยูนบอกการบรรยายสีหน้าท่าทางของตัวละครยังไม่ละเอียดชัดเจนพอค่ะ คุณแทบไม่มีการบรรยายสีหน้าด้วยซ้ำ มันทำให้ผู้อ่านไม่รู้ว่าตัวละครกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน ยกตัวอย่างเช่น โอ๊ย ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอก อย่างประโยคนี้ที่คุณบรรยายว่า ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอก แล้วไอ้คำว่าทำหน้าอย่างนั้นมันเป็นหน้าอย่างไหนล่ะค่ะ หน้าบึ้ง หน้าเศร้า หน้ายิ้ม หน้าเหนื่อย หรือหน้าอะไรกันแน่ ถ้าคุณไม่บรรยายเจาะจงผู้อ่านจะรู้ไหมค่ะ คำตอบก็คือไม่รู้เพราะสีหน้าของคนเรามันมีได้หลากหลายขึ้นอยู่กับอารมณ์ของคนนั้นๆ ว่าตอนนี้กำลังรู้สึกยังไง ตรงส่วนนี้ควรใส่การบรรยายเพิ่มเข้าไปจริงๆ ค่ะ อย่าให้มันไม่ชัดเจนแบบนี้เลยค่ะ

คาแรคเตอร์ : คาแรคเตอร์ของตัวละครค่อนข้างไม่ชัดเจนค่ะ อารมณ์ค่อนข้างแปรปรวนง่ายเหมือนกับมีประจำเดือนตลอด 24 โดยส่วนมากนิยายแนวแฟนฟิคนั้นจะเอาคาแรคเตอร์มาจากเรื่องนั้นๆ เลย มันจะได้ดูสมจริง ผู้อ่านอ่านแล้วจะได้รู้สึกเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ไม่ใช่คนอื่นที่มาเล่นบทนี้ ซึ่งคาแรคเตอร์นิยายของคุณนั้นไม่เหมือนกับเฮอร์ไมโอนี่ในเรื่องแฮรี่ พ็อตเตอร์เลยค่ะ พะยูนสังเกตเหมือนกับว่าเฮอร์ไมโอนี่ในนิยายของคุณค่อนข้างจะเป็นคนอารมณ์ร้อน นิดๆ หน่อยก็โกรธแล้ว แต่ในเรื่องของแฮรี่ พ็อตเตอร์นั้นเฮอร์ไมโอนี่จะเป็นคนใจเย็นค่ะ ใช้สมองในการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งผิดแปลกไปจากเฮอร์ไมโอนี่ในนิยายของคุณมากค่ะ เรียกได้ว่าตรงข้ามกันเลยทีเดียว คุณควรพยายามปรับให้นิสัยของเฮอร์ไมโอนี่เหมือนในเรื่องแฮรี่ พ็อตเตอร์ให้มากที่สุดค่ะ โดยที่คุณคิดก่อนว่าเฮอร์ไมโอนี่จากเรื่องแฮรี่นั้นมีนิสัยอย่างไหร่ ใช้คำจำกัดนิสัยไปเลยค่ะ เสร็จแล้วก็เอานิสัยพวกนั้นที่คุณคิดมาใส่ในนิยายของคุณค่ะ ถ้าคุณทำอย่างที่พะยูนบอกเฮอร์ไมโอนี่ในนิยายของคุณจะถอดแบบมาจากเรื่องแฮรี่ พ็อตเตอร์เลยแหละค่ะ

อื่นๆ
การใช้สัญลักษณ์/อีโมติคอน : การใช้สัญลักษณ์ค่อนข้างโอเคแล้วค่ะแต่มีจุดที่ไม่สมควรใช้อยู่ตรงจุดหนึ่งคือจุดที่เขียนว่า เลขา นะค่ะ แล้วคุณก็ใช้สัญลักษณ์ [ฯ] ต่อท้ายนะค่ะ ซึ่งตรงส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้สัญลักษณ์นี้ค่ะ ส่วนเรื่องของอีโมติคอนนั้นไม่มีปัญหาค่ะ โอเคหมดทุกอย่างแล้ว

สรุปโดยรวม : โดยรวมแล้วนิยายเรื่องนี้มีจุดให้ต้องแก้ไขอีกมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบรรยาย การดำเนินเรื่อง ตัวละคร ความสมเหตุสมผลและความน่าติดตาม ห้าจุดนี้ถือเป็นปัจจัยหลักๆ ของนิยายเลยก็ว่าได้ คุณเพิ่มการบรรยายสีหน้าท่าทางของตัวละครเข้าไป ควรระวังเรื่องของการดำเนินเรื่องอย่าให้ออกนอกกรอบที่ตั้งไว้และควรให้เนื้อเรื่องมีความเข้มข้นอยู่ในจุดพอดีพอเหมาะค่ะ ควรระวังเรื่องของความไม่สมเหตุสมผลที่จะทำให้ความสนุกลดลงค่ะ และควรระวังเรื่องของการใช้ประโยคให้ดีค่ะเพราะถ้าคุณใช้ผิดไป ผู้อ่านก็จะตีความหมายผิดเพี้ยนไปได้ค่ะ สุดท้ายนี้พะยูนอยากขอให้คุณพยายามต่อไปค่ะ อย่าเพิ่งท้อถอยเด็ดขาด
     
 
ใครแต่ง : N-PSY
22 พ.ค. 67
80 %
1 Votes  
#10 REVIEW
 
เห็นด้วย
13
จาก 13 คน 
 
 
รับวิจารณ์นิยาย ฉบับ "Don't Worry"

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 11 ต.ค. 54
ต้องขอออกตัวก่อนว่า มี ไม่ได้เก่งกาจมากนักนะคะ ถ้ามีส่วนไหนที่ทำให้ไรท์เตอร์ต้องขัดเคืองอารมณ์ ก็โปรดอภัยให้ด้วยค่ะ

เกี่ยวกับนิยาย
ชื่อเรื่องและการแนะนำเรื่องย่อ : ชื่อเรื่อง "The Ecchymosed SIn - บาปห้อเลือด" นี้นับว่าน่าสนใจอยู่ทีเดียวเลยค่ะ แต่ถ้าดูผ่านๆคงนึกว่าออกแนวโหดๆ เลือดสาดกันทุกตอน อะไรประมาณนั้น

ส่วนแนะนำเรื่องย่อทำออกมาได้น่าสนใจดีเลยค่ะ สามารถแสดงออกมาได้ว่าเรื่องนี้จะให้อารมณ์แบบใด

โครงเรื่อง
พล็อตเรื่อง : พล็อตของเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าไม่เหมือนใครจริงๆ :) ส่วนนี้อาจจะเป็นข้อดีของการเขียนเรื่องที่ไม่ใช่กระแสตลาด ทำให้พล็อตไม่ค่อยซ้ำกับใคร การวางปมต่างๆนั้นสอดรับกับเรื่องราวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ พอจบตอนหนึ่งแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกดตอนต่อไป ถือว่าเป็นพล็อตที่น่าสนใจมากเลยค่ะ

การเปิดเรื่อง : พอเปิดเรื่องมาก็สามารถดึงอารมณ์คนอ่านได้แล้วค่ะ ฉากแรกเลยเกิดขึ้นที่สุสาน ซึ่งเป็นสถานที่ฝังศพคนรักของพระเอก ฉากนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามของเขา นอกจากนี้ ภาษาที่ใช้ยังมีเสน่ห์ชวนให้อ่านต่อไปเรื่อยๆอีกด้วย แม้ในบทแรกๆนั้น น้ำหนักของคำบรรยายจะเยอะกว่าบทสนทนา แต่ก็สามารถเขียนออกมาได้ลื่นไหล ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อเลยค่ะ ซึ่งนับว่าเป็นการเปิดตัวที่ไม่เลวเลยค่ะ ;)

ถ้อยคำภาษา
ภาษาที่ใช้และการบรรยาย : ภาษาที่ใช้มีความเหมาะสมกับเนื้อเรื่องดีแล้วนะคะ ไรท์เตอร์ไม่ได้เลือกใช้คำที่เข้าใจยากอะไร แต่ก็สามารถสื่อสารให้คนอ่านเข้าใจเรื่องราวต่างๆได้ การบรรยายเองก็สามารถทำให้เห็นภาพตามได้ไม่ยาก ข้อนี้นับว่าผ่านฉลุยนะคะ :)


คำผิด/ประโยคผิดเพี้ยน : เรื่องคำผิดไม่เจอนะคะ แล้วโครงสร้างของประโยคก็มีการรับส่งกันเป็นอย่างดี การใช้คำสันธานก็เลือกมาใช้ได้อย่างเหมาะสมดีแล้ว จะมีคำซ้ำบ้างก็จำพวกของสรรพนาม แต่ไม่ได้เยอะจนทำให้รู้สึกหงุดหงิดค่ะ

ตัวเนื้อหา
การดำเนินเรื่อง : การดำเนินเรื่องจะไม่ได้เป็นแบบเส้นตรงค่ะ เพราะมีเส้นที่แตกแขนงแยกย่อยออกไปในส่วนของปมในอดีต มีการย้อนคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตหลายครั้งหลายหน และทุกครั้งก็ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จริงๆแล้วเราถูกใจกับการดำเนินเรื่องลักษณะนี้มากค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันน่าค้นหาดี :)

ฉาก/สถานที่ : การบรรยายฉากต่างๆสามารถทำให้เห็นภาพตามได้ไม่ยากค่ะ แม้ว่าการบรรยายนั้นจะไม่เยอะเหมือนนิยายแฟนตาซีที่ชอบพรรณนากันยาวๆ แต่ก็สามารถทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนไม่ต่างกัน ในส่วนของบทสนทนาก็ทำออกมาได้สอดคล้องกับเรื่องราวค่ะ ไม่มีส่วนไหนที่คิดว่าถูกยัดเยียดข้อมูลให้ นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถแยกได้ว่าใครเป็นคนพูด ได้จากบทสนทนาของพวกเขาด้วยค่ะ

ความสมเหตุสมผล : เราไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องนี้นะคะ แต่ที่อ่านๆมาทั้งหมดก็ไม่รู้สึกถึงอะไรที่เป็นไปไม่ได้ จะด้วยแผนการของปรัชญา แผนการของฟาห์ หรือวิธีการสืบคดีของท็อป ทุกอย่างมีขั้นตอนและค่อยเป็นค่อยไป จนคนอ่านสามารถคิดตามไปด้วยได้ค่ะ

ความสนุก/น่าติดตาม : ความสนุกและความน่าติดตามของเรื่องนี้อยู่ที่ปมต่างๆค่ะ มีการพลิกแพลงเรื่องราวเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง แถมยังมีความโรคจิตของพระเอกมาทำให้นักอ่านรู้สึกว่า อะไรก็เป็นไปได้ กับเรื่องๆนี้

ตัวละคร
สีหน้า/ท่าทาง : การบรรยายสีหน้าและท่าทางของตัวละครแต่ละตัวสามารถแสดงถึงอารมณ์ของพวกเขาได้ดีค่ะ ด้วยมุมมองการบรรยายแบบนี้ด้วย ทำให้คนอ่านพอจะเข้าใจได้ว่าตัวละครแต่ละตัวนั้นกำลังคิดอะไรอยู่

คาแรคเตอร์ : ตัวละครที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นที่สุดคงเป็นพระเอกค่ะ เพราะดูเหมือนจะเป็นคนที่น่าเหนื่อยใจเอามากๆ ความคิดแต่ละอย่างช่างทำร้ายจิตใจกันเหลือเกิน แต่ในสิ่งเหล่านั้น มันก็มีความอ่อนแอของเขาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ ส่วนนางเอกก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไร เธอมีด้านมืดที่น่ากลัวไม่ต่างจากพระเอกเลย แล้วบางทีเราก็แอบรู้สึกว่าเธออาจจะน่ากลัวกว่าด้วยซ้ำ คนที่คิดว่าน่าจะดีจริงๆคงเป็นท็อปค่ะ เรียกได้ว่าเขาเป็นธรรมะที่อยู่ท่ามกลางเหล่าอธรรมเชียวล่ะ

อื่นๆ
การใช้สัญลักษณ์/อีโมติคอน : การคิดย้อนอดีตส่วนใหญ่นั้นเราจะชินกับการใช้เป็นตัวเอียงน่ะค่ะ แต่คงไม่ซีเรียสเท่าไร ขอแค่แยกมันออกมาจากคำพูดปกติได้ก็น่าจะโอเคแล้ว ส่วนเรื่องอิโมติคอนนี่ไม่มีซักตัวเลยค่ะ

สรุปโดยรวม : สรุปแล้วนิยายเรื่องนี้สนุกและน่าติดตามมากค่ะ ด้วยโครงเรื่องที่แปลกทำให้หาแบบนี้อ่านไม่ได้ง่ายๆ การดึงเอาด้านมืดของคนมาเขียนนั้น ส่วนมากจะเห็นเฉพาะในนิยายสืบสวนหรือฆาตกรรม แต่เรื่องนี้จะออกเป็นแนวรักดราม่า ที่มีปมซ่อนเร้นให้หลอนกันเป็นช่วงๆ ถือว่าเขียนออกมาได้ดีมากเลยค่ะ นับถือๆ ;) สุดท้ายนี้ก็ขอให้พยายามต่อไปนะคะ หากเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่สวยงามเลยทีเดียว

     
 
หน้าที่ 1 , 2 , 3 , 4