คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนพิเศษ B.A.P ร้านหนังสือสื่อรัก นิยายรักสื่อหัวใจ
ตอนพิเศษ B.A.P ร้านหนังสือสื่อรัก นิยายรักสื่อหัวใจ
[LoDae] X [Jaeup]
[LoDae]
เริ่มจาก โล่แด้ ในวัยเด็ก
“คุณน้าครับ นั่นลูกคุณน้าหรอครับ”
เสียงของแดฮยอนวัย 3 ขวบ พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น ที่ได้เห็นเด็กน้อยน่ารัก ผิวขาวจั๊วอยู่ตรงหน้า เขาพยายามปีนเก้าอี้ เพื่อที่จะได้มองเห็นใบหน้าของเด็กคนนั้นชัดๆในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่
“จ่ะ นี่ลูกน้าเอง ชื่อจุนฮงจ่ะ แต่คุณพ่อของเขาคงอยากให้เรียกเจลโล่มากกว่าล่ะมั่ง ฮ่าๆๆ”
เสียงของคุณน้าสาวผู้ใจดีหัวเราะออกมาเล็กน้อยพร้อมกับหันไปยิ้มกับคุณพ่อของจุนฮง คุณน้าคนนี้ความจริงแล้ว เป็นเพื่อนที่สนิทกับพ่อแม่ของแดฮยอน แต่เนื่องจาก พวกเขาไปแต่งงานกันที่มกโพและคลอดลูกที่นั่น พวกเขาจึงได้เห็นจุนฮงครั้งแรกที่บ้านของแดฮยอนที่ปูซาน ซึ่งพ่อแม่ของแดฮยอนก็ดีใจไปไม่น้อยกว่าพวกเขา ที่ได้มีลูกกันสักที เพราะพวกเขาได้มีล่วงหน้าพ่อแม่ของจุนฮงไปแล้ว จนตอนนี้แดฮยอนก็ได้อายุ 3 ขวบแล้ว
“น่ารัก น่าชังจริงๆเลย ฉันขออุ้มหน่อยสิ”
คุณแม่ของแดฮยอนเอ่ยชมพร้อมทั้งอุ้มจุนฮงมาไว้ในอ้อมแขน พร้อมมองใบหน้าเด็กน้อยผู้น่ารักคนนี้ชัดๆอีกครั้งหนึ่ง
“ดูสิคุณ น่าตาน่ารักกว่าแดฮยอนลูกเราเสียอีก ฮ่าๆๆๆ”
เมื่อคุณพ่อของแดฮยอนได้เห็น ก็ไม่วายที่จะแหย่ลูกของตนเล็กน้อย จนแดฮยอนถึงกับงอนตุ๊บป่อง พองแก้มอย่างน่ารักใส่คุณพ่อของเขา
“พ่ออ่า พูดแบบนี้ เดี๋ยวผมงอนเลยนะ”
“คุณก็ ไปแกล้งลูกเรา ดูสิ งอนตัวพองจนจะเป็นปลาปักเป้าอยู่ล้า ดูสิ ฮ่าๆๆๆ”
แล้ว 4 สหาย พ่อแม่ลูกของแดฮยอนและจุนฮงก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ โดยมีแดฮยอนที่ยังคงงอนตุ๊บป่องอยู่ท่ามกลางผู้ใหญ่ทั้งหลาย กับเด็กน้อยนาม จุนฮง อีกคน
“แอ๊ แอ๊ แอ๊”
เสียงของเด็กน้อยในอ้อมกอดคุณแม่แดฮยอนดังขึ้น พร้อมทั้งแขนเล็กที่พยายามเอื้อมมือมาหาแดฮยอนที่ยืนอยู่บนเก้าอี้ เพื่อที่จะได้เห็นใบหน้าของเด็กน้อยชัดๆ พอแดฮยอนได้เห็นว่าจุนฮงหันมาเล่นกับตน ตนก็ยิ่งดีใจ และยิ้มกว้าง ที่อย่างน้อยก็ยังมีจุนฮงที่ยังเข้าข้างเขาอยู่
“เห็นไหม ไม่มีใครเข้าข้าผม อย่างน้อยก็มีเจลโล่คนนึงล่ะ ที่เข้าข้างผม เนอะ เจลโล่”
แต่อยู่ๆ ก็มีสิ่งหนึ่งทำให้ทุกคนขำยิ่งกว่าเดิม เมื่อแดฮยอนพูดด้วยความดีอกดีใจว่าอย่างน้อยจุนฮงก็เข้าข้างเขา แต่ที่ไหนได้ จุนฮงกลับแรบลิ้นใส่แดฮยอนราวกับรู้เรื่องที่พ่อๆแม่ๆพูดกัน
“ฮ่าๆๆๆๆ นี่นะที่บอกน้องเข้าข้างลูกน่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
แล้วพ่อๆแม่ๆก็ทำการระเบิดหัวเราะกันอีกครั้งเป็นยกใหญ่ แดฮยอนได้แต่หันไปมองจุนฮงที่อยู่ในอ้อมกอดของคุณแม่ของตน ก่อนที่จะคิดในใจอย่างหมันไส้จุนฮง ที่ไม่คิดจะเข้าข้างเขาแต่ก็นึกเกลียดอีกฝ่ายไม่ได้ แต่อยู่ๆพ่อๆแม่ๆทั้งหลายก็ต้องหยุดหัวเราะ เมื่ออยู่ๆจุนฮงที่อายุเพียง 1 ขวบเท่านั้น เอื้อมมาจับใบหน้าของแดฮยอนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก่อนที่จูบไปที่ริมฝีปากของแดฮยอนที่ยืนงอนตุ๊บป่องอยู่บนเก้าอี้
“ร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก”
และตามมาด้วยเสียง ที่เหมือนจะพูดคำว่ารัก แต่กลายเป็นร๊ากที่ลากเสียงยาวไปซะงั้น และด้วยความน่ารักของจุนฮงและแดฮยอนก็เรียกเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขให้แก่สองครอบครัวเป็นอย่างมาก
เวลาผ่านไป 3 ปี
ตอนนี้เวลาก็ได้เปลี่ยนไป อายุของแดฮยอนและจุนฮงก็เปลี่ยนไปด้วย แดฮยอนที่เคยอายุ 3 ขวบ ตอนนี้ก็โตขึ้นจนอายุ 6 ขวบแล้ว ส่วนจุนฮงตอนนี้ก็ 3 ขวบ พอที่จะรู้เรื่องรู้ราวอะไรมากขึ้น ตอนนั้นทั้งสองก็ได้สนิทกันมาก เพราะทั้งคู่ต่างมาเล่นด้วยกันทุกวัน เพราะบ้านของทั้งคู่ไม่ได้อยู่ไกลกันเลย จึงทำให้แดฮยอนและจุนฮงมาเล่นด้วยกันบ่อยๆตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา
ทั้งสองสนิทกันมาก และตัวติดกันตลอด ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน ทั้งคู่ก็จะไปด้วยกันเสมอ ผู้เป็นพ่อและแม่ ก็ไม่ได้บ่นอะไร ได้แต่มีความสุขและเอ็นดูเด็กทั้งสองมากขึ้น
“นี่ๆๆ พี่แดฮยอนผมรู้เรื่องแล้วนะ”
อยู่ๆหนุ่มน้อยน่ารัก ผู้ที่มีผิวขาวใส วัย 3 ขวบก็พูดขึ้น ทำให้แดฮยอนที่นั่งเล่นน้ำอยู่ในอ่างหันมาสนใจอีกฝ่ายแทน
“เรื่องอะไรหรอ?”
“ก็เรื่องที่ผมจูบพี่ตอนผม 1 ขวบไงล่ะ^^”
จุนฮงพูดอย่างมีความสุข แต่กลับทำให้แดฮยอนถึงกับใบหน้าแดงเถืองด้วยอาการเขินจัด แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ แล้วเล่นน้ำในอ่างต่อไป
“เขินหรอครับ”
จุนฮงเห็นแดฮยอนเอาแต่เบือนหน้าหนี และทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่เขาพูด จุนฮงจึงถือโอกาสเข้าไปประชิดแดฮยอนจนสุดมุมของอ่าง ก่อนที่จะมองไปที่ร่างของแดฮยอนยามเปียกน้ำ และหันมายิ้มหวานให้พี่ชายนามแดฮยอน ที่อยู่ภายใต้ร่างของเขา
“พี่นี่ไม่ยักโตเลยนะ ผมเด็กกว่าพี่ จะตัวใหญ่กว่าอยู่แล้ว ดูสิๆๆ ผอมแห้งงง ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“อ๊ะ เจลโล่สิ มันจั๊กจี้นะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
แล้วทั้งคู่ก็เล่นจี้เอวของกันและกันในอ่างนั้นอย่างมีความสุข เสียงหัวเราะดังลั่นสนั่นไปทั่ว แต่ก็ไม่มีใครคิดจะบ่นอะไร เพราะแต่ละคนแถวนั้นก็ต่างเอ็นดูในความน่ารักของสองพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างมาก
และหลังจากนั้นไม่กี่วัน พ่อแม่ของแดฮยอนก็ถูกเลื่อนตำแหน่งจากที่ทำงาน จึงทำให้พวกเขาต้องย้ายบ้านเพื่อความสะดวกในการทำงานของพวกเขา และได้ทำให้หัวใจของแดฮยอนและจุนฮงแตกสลายที่ต้องแยกจากกัน ทั้งสองต่างร้องไห้ไม่อยากแยกจากกัน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ที่พวกเขาจะต้องอยู่ด้วยกัน ณ ตอนนี้ พวกเขาจึงได้ทำใจ และบอกลากันด้วยความรักไปพร้อมกับน้ำตา
หลังจากนั้น 5 ปี ครอบครัวของจุนฮงก็รู้ข่าวว่า พ่อแม่ของแดฮยอนเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ พวกเขาจึงรีบย้ายบ้านจากปูซานไปที่โซลอีกครั้ง เพื่อที่จะไปคอยเฝ้าและดูแลพ่อแม่ของแดฮยอน พวกเขารู้ดีว่าแดฮยอนเพียงคนเดียวก็คงตกใจกลัวมากแล้ว แถมเขาต้องอยู่คนเดียว โดยไร้พ่อแม่อีก มันจะรู้สึกเช่นไร
และเหตุการณ์นั้นก็ได้ทำให้จุนฮงและแดฮยอนได้พบเจอกันอีกครั้ง และสิ่งที่ดีมากๆสำหรับพวกเขาก็คือ แดฮยอนและจุนฮงตอนนี้ได้อยู่บ้านเดียวกันสมใจแล้ว พวกเขาอยากจะเล่นหรือทำอะไรก็ง่ายยิ่งกว่าเดิม ไม่ต้องกลัวจะกลับบ้านดึกเหมือนดั่งแต่ก่อนอีกแล้ว พวกเขาต่างม่ความสุขที่ได้เล่นกันอีกครั้ง แม้แดฮยอนจะต้องไปทำงานที่ร้านหนังสือบ้าง เพราะเกรงใจพ่อแม่ของจุนฮง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรักและเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันมีความสุขร่วมกันของทั้งสองลดน้อยลงเลย….
[Jaeup]
“นี่นาย จะมาสมัครงานหรอ?”
เสียงของยองแจดังขึ้นหน้าร้านหนังสือที่ชื่อว่า ร้าน B.A.P เป็นร้านหนังสือชื่อดังของโซล และตอนนี้ก็กำลังรับสมัครพนักงานอยู่พอดี และในขณะที่ยองแจกำลังจะเดินเข้าร้าน ก็พบผู้ชายคนนึงยืนอยู่หน้าร้าน พร้อมทั้งใบปลิวรับสมัครพนักงานของร้าน และเมื่ออีกฝ่ายได้ยินเสียงของยองแจเขาก็หันมามองด้วยความตกใจ
“คะ ครับ”
และนั่นไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายตกใจฝ่ายเดียว แต่ยองแจก็ตกใจไปไม่น้อยกว่ากันเลย แต่สิ่งที่ยองแจคิดนั้น อาจจะไม่ได้ตกใจเพราะเสียง หรือหน้าตา แต่มันเป็นเพราะ…
‘โอ้ววววว ผู้ชายในฝัน > <!’ ยองแจคิดในใจ
“ชะ เชิญด้านในเลยครับ”
หลังจากที่เชิญอีกฝ่ายเข้ามาในร้าน และให้เขาไปกรอกใบสมัครกับยงกุกแล้ว ยองแจก็ได้แต่มานั่งพล่ำเพ้อถึงใบหน้าหวานของอีกฝ่าย
‘น้ำเสียงอันทรงเสน่ห์ ดวงตาที่แทบจะดูไม่ออกว่าลืมอยู่หรือเปล่า และส่วนสูงที่ดูเตี้ยม่อต้อนั้น โอ้วว้าวววววว สเป็กครับผม > <!’
โป๊กกกก!
“นั่งบ้าอะไรคนเดียว ห๊ะ ต้อนรับพนักงานใหม่หน่อยเซ่!”
ในขณะที่อาการเพ้อฝันของยองแจกำลังได้ที่นั้น อยู่ๆ ก็เจอถาดมหาภัยจากยงกุกจัดเข้าให้ จนยองแจถึงกับมึนเล็กน้อย จนต้องสะบัดหัวไปมาให้หายมึน
“อ่ะ เอ่อ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
พนักงานใหม่ที่เพิ่งมาสมัครรีบวิ่งเข้าไปดูยองแจอย่างเป็นห่วง พร้อมทั้งจับตรงบริเวณที่โดนถาดฟาดไปเมื่อสักครู่เพื่อดูว่ามีเลือดออกหรือโนบ้างไหม
“พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่ชื่ออะไรหรอครับ พี่ชื่อ ยองแจนะ ยินดีต้องรับครับ”
เพียงเท่านั้นอาการมึนของยองแจก็หายวับไปทันที พร้อมทั้งจับมือของอีกฝ่ายที่อยู่บนศีรษะของตนมากุมไว้ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัว
“ผะ ผมชื่อจงออบครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”
“เฮ้ย! ถ้าจะสวีท ไปสวีทกันข้างนอกโน่นไป”
ยงกุกพูดออกมาเพราะรำคาญ แต่อาจจะไม่ใช่เหตุผลเดียวว่ารำคาญ แต่อาจจะอิจฉา ที่คนที่ตนเฝ้าหาและเฝ้ารอนั้น ยังหาไม่เจอสักที เลยวีนใส่ทั้งสองเล็กน้อย
“ไป เราไปข้างนอกกันเถอะ เดี๋ยวผมมานะพี่ยงกุก”
พูดจบยองแจก็รีบจับมือของจงออบพร้อมวิ่งหนีไปด้วยกันนอกร้าน เพื่อที่จะไปสวีทตามคำขอของยงกุก เมื่อยงกุกขอมา ยองแจก็ไม่ขอขัดศรัทธารุ่นพี่
ทั้งคู่วิ่งกันอยู่นาน ก็มาหยุดหยุดอยู่ที่สวนสาธารณแห่งหนึ่งในกรุงโซล ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เย็นมากแล้วพระอาทิตย์ก็เริ่มตกดิน ท้องฟ้าจากที่เคยเป็นสีฟ้าครามก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มอบอุ่น พระอาทิตย์ที่ตกลงสู่แม่น้ำฮันที่กระทบกับแสงอาทิตย์ก็ได้ทำให้แม่น้ำฮันนั้นเกิดระยิบระยับราวกับเพชรที่อยู่ในแม่น้ำนั้น สองข้างทางก็ได้มีแสงไฟประดับไว้มากมาย เพื่อที่จะได้ไม่มืดเกินไปของแม่น้ำฮัน
“พี่พาผมมาที่นี่ทำไม ไม่ทำงานหรอครับ”
จงออบถามด้วยความสงสัย หลังจากที่วิ่งออกมาห่างจากร้านไปได้สักพัก แถมนี่ก็เป็นเวลาที่เริ่มเย็นแล้ว เขาจึงตัดสินใจเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ก็มาสวีทน่ะสิ”
“ห๊ะ!”
จงออบถึงกับอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจกับสิ่งที่ยองแจได้พูดออกมาเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่พวกเขาทั้งสองคนนั้นเพิ่งเจอและได้รู้จักกันไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่อีกฝ่ายกลับพูดคำว่าสวีทออกมาได้อย่างง่ายดาย และไม่อายเลยแม้แต่น้อย
“ตามตรงเลยนะ ถึงเราจะเพิ่งเจอกัน แต่พี่รู้สึกได้ ว่าจงออบนี่แหล่ะ แม่ของลูกพี่เลย”
“เอ่อ ผมเป็นผู้ชายนะ”
จงออบรีบแก้ทันที เมื่ออีกฝ่ายกำลังพูดเหมือนว่าเขานั้นเป็นผู้หญิง ที่สามารถจะมีลูกกับเขาได้
“เอ้อ ลืมไป เอาใหม่ๆ งั้นแว๊บแรกที่พี่เห็นจงออบ พี่ก็รู้แล้วว่าจงออบนี่แหล่ะ คือคนที่พี่รักและพร้อมจะอยู่กับพี่ได้ไปจนวันที่พี่สิ้นลมหายใจ สรุปง่ายๆ สิ่งที่พี่จะบอกก็คือ เป็นแฟนกันนะ”
การสารภาพรักของยองแจนั้นเป็นคำที่รวดรัดและรวดเร็วจนจองแบบแทบจะปรับตัวไม่ทัน แต่ก็ต้องทำให้ให้ทันอีกฝ่าย ที่ดูเหมือนจะจริงจังในสิ่งที่พูดเป็นอย่างมาก จนเขาก็รู้สึกปฏิเสธออกไปไม่ได้ เพราะกลัวจะทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายมากเกินไป
“อ่ะ เอ่อ งั้นผมจะเอาไปคิดดูก่อนนะครับ”
จงออบพูดออกไปอย่างอายๆ
“อย่าพูดแค่เอาไปคิดสิ เป็นแฟนกันเถอะนะๆๆๆๆ จงออบ พี่รักจงออบนะๆๆๆๆ”
ยองแจไม่ยอมถ้อถอยที่จะขออีกฝ่ายเป็นแฟน เขาจึงได้แต่อ้อนวอนขอความรักกับอีกฝ่ายจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมรับรักจากตน
“ก็ได้ครับๆๆๆ อีกอย่างเลิกพูดแบบนั้นสักทีเถอะครับ ผมอายคนอื่นเค้า”
จงออบต้องรีบเอ่ยตกลงอย่างปลงๆ เมื่อคนแถวนั้นเริ่มหันมามองเขาสองคนกันมากขึ้น หรือเรียกว่าพวกเขาเริ่มเป็นจุดสนใจไปแล้วก็ว่าได้
“เย้ๆๆๆๆ มีแฟนแล้วโว๊ยยยยยยยยยยยยยย!!!”
และด้วยความดีใจที่มากเกินไปหน่อยของยองแจ จึงทำให้ยองแจนั้นกระโดดกอดจงออบพร้อมทั้งหมุนไปหมุนมา อยู่ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน พร้อมวิวอันสวยงามอย่างแม่น้ำฮันตอนเย็นที่เริ่มเข้าไปสู่ช่วงค่ำ แสงจากไฟสองข้างทางที่ประดับแม่น้ำฮันให้สวยงามระยิบระยับเหมือนมีเพชรสวยงามในแม่น้ำ ได้เป็นพยานความรักของทั้งสองไว้ ณ ที่นี้…
และนี่ก็เป็นการเริ่มต้นความรักที่แสนวุ่นวายของยองแจกับจงออบ โดยมีพยานเป็นธรรมชาติรอบตัวนั่นเอง….
ความคิดเห็น