คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : อุบัติแห่งความทรงจำ 100%
อุบัติแห่งความทรงจำ
แสงแดดบ่งบอกเวลายามสายส่องผ่านหน้าตาเข้ามากระทบร่างของบุคคลที่นอนอยู่บนเตียงทำให้บุคคลนั้นลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความสะลึมสะลือ พรางยันตัวลุกขึ้นแล้วขยี้ตาไปมาด้วยความงัวเงีย ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
หลังจากที่นึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง ทำให้ความสะลึมสะลือในตอนแรงมลายหายไปนั่นก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อคืนนี้ ผมก้มมองสำรวจร่างกายของตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็พบว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ผมไม่ได้มีร่างกายเด็กลงเหมือนเมื่อคืน ไม่ได้สลับร่างกับแวร์วูฟ แถมยังอยู่ในชุดเดียวกันกับเมื่อวาน นั่นจึงทำให้ผมโล่งใจ
“เฮ้อ ที่แท้ก็แค่ฝัน”ถึงแม้ปากจะพูดออกมาเช่นนั้น แต่ผมก็ยอมรับว่าเรื่องนั้นเป็นความฝันที่ไม่ต่างอะไรจากความจริง ที่แวร์วูฟสร้างขึ้นมา เพื่อต้องการแก้แค้นผม ทุกอย่างเหมือนจริงจนน่าใจหาย แต่ก็ดีที่อย่างน้อยแวร์วูฟไม่ขังผมไว้ในความฝันอันแสนโหดร้ายนั่นไปตลอดชีวิต ผมบิดร่างกายไปมาเล็กน้อย ก่อนจะถอดเสื้อผ้าและหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป
ซ่าา!
เสียงน้ำจากฝังบัวไหลลงมากระทบผิวกายขาวนวล แต่ก็แอบมีรอยช้ำแดงจากเหตุการณ์ของเมื่อคืนก่อนที่ถูกกระทำโดยน้องชายฝาแฝดของผม ทั้งเกิดจากการบีบเค้นและการดูดดุนตามส่วนต่างๆของร่างกายผม
ผมได้แต่ปล่อยให้สายน้ำนั้นไหลผ่านร่างกายไปอย่างเงียบๆ พร้อมกับยืนนิ่งอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ ผมได้แต่มองภาพที่สะท้อนกลับมาเป็นตัวผม แต่อีกความรู้สึกหนึ่งที่ผมนึกถึงนั่นก็คือ แวร์วูฟ
ผมยังคงคาใจกับสายตาวูบหนึ่งที่ผมได้เห็นเมื่อคืนนี้อย่างวิตกกังวล ผมไม่เข้าใจแววตานั้น ว่ามันคือความรู้สึกอะไร ทั้งๆที่แวร์วูฟน่าจะดีใจที่สามารถแก้แค้นพี่ชายเลวๆอย่างผมได้ แต่ทำไมกลับมีแววตาเศร้าสร้อยแบบนั้น เหมือนเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
แต่ผมก็มิอาจจะสรุปได้ว่านั่นคือแววตาของความสงสาร เพราะสิ่งที่ผมได้กระทำต่อแวร์วูฟไว้ในวัยเด็ก ตั้งแต่เล็กจนโต มันเกินกว่าที่จะให้อภัยจริงๆ ถึงแม้เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับผมเมื่อคืนนี้จะร้ายแรงแค่ไหน แต่ก็ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่แวร์วูฟก็คงแค้นไม่ต่างกัน สิ่งที่ผมทำให้แวร์วูฟตลอดตั้งแต่เกิดมานั้น ไม่เคยมีสิ่งไหนเลย ที่สามารถเรียกว่าการกระทำของพี่ชายที่ทำต่อน้องชายเลยสักนิด
“ฉันไม่เข้าใจนายเลยจริงๆแวร์วูฟ แววตานั้น…”ผมหลับตานิ่งปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอยู่หน้ากระจกบานใหญ่อย่างต้องการคำตอบ แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
‘อย่าได้คิดว่าฉันสงสารนายเชียว เพราะมันไม่มีทาง’
!!!!
ผมลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ เพราะอยู่ๆเสียงนั้นก็ดังขึ้นมาจากกระจกบานใหญ่ตรงหน้าผม ที่กำลังสะท้อนภาพของผมยืนอยู่ในกระจก แต่ถ้าหากมองดีๆแล้ว บุคคลในกระจกนั้นก็แค่คนที่เหมือนผมเท่านั้น เพราะแววตานั้นเป็น สีเขียวมรกต
“นายปรากฏตัวได้แม้แต่ในเวลากลางวันงั้หรอ?!”ผมถามอีกฝ่ายที่ยืนจ้องใบหน้าของผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ผิดกับผม ที่กำลังทำหน้าเหรอหรา เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสามารถปรากฏตัวในเวลากลางวันแบบนี้ได้ ทั้งๆที่อีกฝ่ายเป็นผี !
‘หึ เชื่อคำหลอกเด็กงั้นหรอ? ผีอยู่รอบๆตัวเรา เพียงแต่เขาจะเลือกที่จะปรากฏตัวออกมาหรือไม่เท่านั้นเอง เช่นเดียวกับฉันที่สามารถปรากฏตัวได้ในทุกๆที่ ที่มีกระจก…’
คำพูดนั้นยิ่งสร้างความตกใจให้ผมเป็นอย่างมาก เพราะนั่นหมายความว่า ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร พูดกับใคร แวร์วูฟก็จะรับรู้ทุกๆการเคลื่อนไหว และทุกๆคำพูดที่ผมได้พูดในแต่ละวันเลยน่ะสิ เพียงแต่เขาไม่ได้ปรากฏตัวให้ผมเห็นแค่นั้น ไม่นะ แล้วแบบนี้ความส่วนตัวของผมจะอยู่ที่ไหนกันล่ะ!!
‘ไม่ต้องทำสีหน้าตกใจขนาดนั้นก็ได้ ฉันคงจะไม่ตามนายไปทุกที่หรอกนะ เพราะชีวิตนายมันโคตรน่าเบื่อ วันๆเอาแต่หว่านเสน่ห์อยู่แต่ในคลับนั่น ให้คนนั้นรัก คนนั้นหลง ดีไม่ดีก็พลอดรักกันอ่างไม่อายฟ้าอายดิน คิดว่าฉันอยากดูนักหรือไง?’
อย่าบอกนะว่าเวลาผมทำงานเป็นโฮสต์ แวร์วูฟก็เคยแอบไปดูผมทำงานด้วยน่ะ โอ๊ย! รู้สึกหน้าร้อนไปหมด ถึงแม้จะทำอะไรก็ไม่เคยอายใคร แต่มาพูดแบบนี้ฉันก็อายเป็นนะเว้ย!
‘อีกอย่างถ้าอาบน้ำเสร็จแล้ว นายก็รีบไปหาผ้ามาคลุมซะ ถ้าไม่อยากถูกฉันจับกดต้อนรับวันใหม่’
ประโยคถัดมานั้นยิ่งทำให้ใบหน้าของผมแดงยิ่งกว่าเก่าเข้าไปอีก ก็เพราะตอนนี้นี้ผมกำลังยืนล่อนจ้อนอยู่หน้ากระจกที่มีแวร์วูฟอยู่ในนั้นน่ะสิ ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้คิดเลยเถิดไปมากกว่านี้ ผมก็รีบคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ข้างประตูมาคลุมส่วนล่างของผมไว้ทันที
“แล้วนายมาทำไมแต่เช้า หรือจะมาแก้แค้นฉันต้อนรับวันใหม่?”ผมถามแวร์วูฟด้วยความสงสัย
‘ฉันแค่จะมาเตือนนาย ว่าวันนี้ฉันจะมาแก้แค้น 1 ใน 3 คนนั้นที่อยู่ในฝันของนายเมื่อคืน เพื่อชดใช้สิ่งที่มันเคยทำไว้กับฉัน!’
สิ้นคำพูดแวร์วูฟก็หายไป ทิ้งไว้เพียงภาพสะท้อนของผมในกระจก ที่ยืนตื่นตะหนกกับคำพูดอันแสนน่ากลัวของอีกฝ่ายนั้น ทั้งที่ยังไม่ได้เอ่ยปากถามอะไร อีกฝ่ายก็หายไปก่อนซะแล้ว ทำให้ผมได้แต่เอื้อมมือไปสัมผัสกระจก พร้อมเรียกอีกฝ่ายอย่างตกใจในคำพูดระคนสงสัย
“แวร์วูฟกลับมาเดี๋ยวนี้นะ กลับมาพูดให้เข้าใจก่อน กลับมาเซ้!!”แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับจากอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย นอกจากเสียงน้ำที่ไหลลงท่อไป
“โถ่เว้ย!”ผมสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย เพราะถึงยังไง สามคนนั้นที่แวร์วูฟพูดถึงก็เป็นเพื่อนผมอยู่ดี จะให้แวร์วูฟมาทำอะไรตามอำเภอใจแบบนี้ไม่ได้ เพราะยังไงนั่นก็เพื่อนผม!
เวลา 23.47 น.
และวันนี้ก็เป็นวันที่ผมอยากจะบ้าตายเป็นที่สุด เพราะไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้เพื่อนทั้งสามคนที่แวร์วูฟกำลังหมายหัวจะชำระแค้นมารวมตัวกันในคืนนี้ที่คลับที่ผมทำงานอยู่ ไม่ใช่ว่าพวกนี้ไม่เคยมาหาผมนะครับ แต่มันไม่เคยมากันครบพร้อมหน้าพร้อมตากันเช่นวันนี้สักที พวกนายรู้ไหมเนี่ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันนี้!
ผมได้แต่นั่งหน้าซีดอยู่ในกลุ่มเพื่อน(ขอเวลานอกไว้แล้วเรียบร้อย)ท่ามกลางความสนุกสนานที่ได้พบปะกันอย่างกับงานเลี้ยงรุ่น แต่ทำไมจะมาทั้งทีถึงไม่บอกกันก่อนล่ะฟ๊ะ! แบบนี้คนไม่รู้เรื่องการนัดหมายอย่างฉันก็เครียดสิ ผมได้แต่กวาดสายตาไปที่คริส พอล และเวอร์มูธอย่างครุ่นคิด ว่าคนไหนกันแน่ที่จะเป็นเป้าหมายแรกของแวร์วูฟ
จะเป็นเวอร์มูธที่ชอบกลั่นแกล้งแวร์วูฟทุกครั้งที่มีโอกาส หรือจะเป็นคริสที่พรากเวอร์จิ้นแรกของแวร์วูฟไป แต่ไม่แน่ก็อาจจะเป็นพอลนะ ที่ชอบมองแวร์วูฟตอนโดนคริสกับเวอร์มูธกันแกล้งด้วยแววตาที่ยากจะอธิบาย ไม่ๆๆ ไม่น่าใช่พอลแน่นอน เพราะถ้าหากเทียบกับสองคนนั้น พอลแทบไม่มีพิษสงอะไรเลย
ผมได้แน่นั่นหน้านิ้วคิ้วขมวดจนเพื่อนๆในกลุ่มเริ่มหันมาสนใจ ทั้งๆที่คนอื่นเฮอาปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน ยกเว้นผมคนเดียวที่ดูจะไม่ค่อยแฮปปี้กับการรวมตัวในครั้งนี้สักเท่าไหร่
“วันนี้อะไรทำให้เสือหน้าสวยของเราคิดไม่ตกกันล่ะเนี่ย?”เสียงเวอร์มูธที่นั่งอยู่ฟังตรงข้ามผมพูดขึ้นเชิงหยอกล้อ กับฉายาที่ในกลุ่มเพื่อนของผมตั้งกันขึ้นมา เสือนั่นก็ย่อมาจากเสือไบ ส่วนหน้าสวยนั่นพวกเพื่อนๆผมบอกว่าผมหน้าสวย แต่รูปร่างผมมันไม่ได้สวยเหมือนหน้าตาน่ะสิ เห็นแบบนี้ผมสูงตั้ง 183 เชียวนะ (นั่นใช่ประเด็นซะที่ไหนล่ะ?)
“คิดว่าคืนนี้นายจะลงมือกับใครดีล่ะสิท่า ฮ่าๆๆๆๆ”คริสที่นั่งอยู่ข้างๆผมกอดคอผมแล้วหัวเราะร่าอย่างสนุกสนาน ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่าคำพูดนั้นหมายความว่ายังไง เพราะทุกครั้งที่มีการรวมตัว เพื่อนคนใดคนหนึ่งในกลุ่มจะต้องเสร็จผมสักคนล่ะนะ แม้บางคนจะไม่ใช่เพื่อนในรุ่นเดียวกัน แต่ก็เป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกทีที่หิ้วสอยให้มาร่วมวงด้วยเพื่อแนะนำเพื่อนใหม่ให้แต่ละคนรู้จัก
อย่างวันนี้คนที่เสร็จผมไปแล้วก็มีมาร่วมวงด้วยถึง 2 คนนั่นก็คือเทลเลอร์ เพื่อนหนุ่มตัวเล็กหน้าสวยเพื่อนสมัยมัธยมปลายของพวกผมที่ย้ายมาใหม่ตอนพวกผมอยู่ ม.4 ที่เสร็จผมไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ส่วนอีกคนก็นิคเป็นรุ่นน้องในที่ทำงานของเวอร์มูธที่เพิ่งพามาให้รู้จักเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่วนงานของเวอร์มูธนั่นก็คือร้านเสื้อผ้าที่เวอร์มูธเองเป็นคนออกแบบ นิคไม่ได้บอบบางหรือสวยเหมือนกับเทลเลอร์ แต่มีเสน่ห์ยั่วยวนเป็นเลิศ!
แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอยู่ดีนั่นแหล่ะ (แล้วจะบรรยายทำเพื่อ?) เพราะถึงแม้ทุกคนจะพยายามพูดหยอกล้อผมเพื่อให้ผมได้ยิ้มได้สนุกร่วมไปกับทุกๆคน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะมันสร้างรอยยิ้มแค่เพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มเท่านั้น ส่วนคนที่มาในวันนี้ก็มี คริสที่นั่งอยู่ข้างๆผม พอล นิค เวอร์มูธ ราฟ(เพื่อนของพวกผมสมัยม.ปลาย) เทลเลอร์ โรเบิร์ต(ปัจจุบันคบอยู่กับเทลเลอร์) ที่นั่งกันเป็นวงกลมเรียงตามลำดับ
“เฮ้ นี่พวกเรามาสังสรรค์กันเพื่อความสนุกนะเว้ย อย่าทำหน้าเครียดสิฟ๊ะ”โรเบิร์ต หนุ่มหล่อมาดกวนยีหัวผมเล่นอย่างต้องการแกล้ง ผมจึงได้แต่ส่งยิ้มแบบฝืนๆ เพื่อสร้างความสบายใจให้ทุกคนไป
“นี่แต่ถ้าหากไม่รู้คืนนี้จะเลือกใคร ฉันยอมพลีกายให้นายนะ ฉันยังโสด…”
คริสที่กอดคอผมอยู่ก่อนแล้ว โน้มใบหน้าลงมากระซิบข้างใบหูของผมแต่กลับไม่ลดน้ำเสียงให้ซอร์ฟลงเลย ราวกับต้องการให้เพื่อนๆในกลุ่มเฮกันลั่น เพราะทุกคนรู้ดี ว่าคริสนั่นแอบชอบผมมาตั้งแต่มัธยมต้นแล้ว หรือพูดให้ถูกนั่นก็คือแอบชอบแบบเปิดเผยมากกว่า เพราะไม่มีใครไม่รู้ว่าคริสคิดกับผมยังไง แต่อีกฝ่ายกลับไม่พูดเปล่ายังแอบขโมยหอมแก้มผมฟอดใหญ่ เรียกเสียงเฮยิ่งกว่าเก่าจนโต๊ะอื่นๆเริ่มหันมามอง
“เฮ้ย! ไอ้บ้า อย่ามาทำแบบนี้อีกนะ ฉันบอกนายแล้วไงฉันเป็นรุกไม่ใช่รับ อีกอย่างตัวฉันกับนายก็พอๆกันไม่น่าขนลุกบ้างหรือไงที่ทำแบบนี้น่ะ?”
ผมพูดด้วยความโมโห ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมถูกคริสฉวยโอกาส แต่ก็อดพูดห้ามปรามอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี เพราะเดี๋ยวจะได้ใจไปใหญ่ แถมคริสยังชอบมาทำเหมือนกับว่าผมเป็นรับอีกซึ่งผมไม่ชอบเลยจริงๆ
“ไม่ขนลุกหรอก มีแต่เสียวซ่านน่ะสิไม่ว่า ฮ่าๆๆ”เวอร์มูธชายปากดีพูดขึ้นอีกเช่นเคย และก็สร้างเสียงหัวเราะขึ้นอีกครั้ง โดยที่คริสเองก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธ ส่วนพอลนั้นก็ยังคงนิ่งตามเสต็ปของตนเหมือนเดิม (ไม่คิดจะเปลี่ยนบุคลิกเลยหรือไง?) เทลเลอร์ก็นั่งเขินม้วนเพราะโรเบิร์ตเล่นกอดเอวตนแน่นไม่ให้ห่างไปไหน น่ารักซะไม่มี>< ส่วนนิคก็นั่งก้มหน้าด้วยความเขินผม ไม่แปลกหรอกครับ ก็นิคนั่นก็เป็นอีกคนหนึ่งที่แอบชอบผม แต่สำหรับผม เขาก็ไม่ต่างจากเซ็กเฟรนด์คนหนึ่ง แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะครับ แต่เห็นติ๋มๆแบบนี้ เรื่องเซ็กไม่แพ้ใครเลยแหล่ะ
“เออว่าแต่เห็นวูธมันบอก เมื่อ 3-4 วันก่อนได้ข่าวว่านายสอยหนุ่มร้อนแรงไปคนนึงนี่หว่าเป็นไงมั่งวะ เด็ดเปล่า?”
โรเบิร์ตถามผมขึ้นมาทำให้ผมฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หรือจะแป็นเวอร์มูธที่แวร์วูฟตั้งเป้าหมายไว้ เพราะเวอร์มูธเป็นคนชี้ให้ผมเข้าไปทักทายโซอาร์และพาเธอเข้าห้องและมีอะไรกันบนเตียงของผมและแวร์วูฟ(ที่นำมาต่อกัน) เพราะปกติเราจะไปโรงแรมกันเสียมากกว่า แต่เพราะคืนนั้นผมไม่อยากใช้เงินโดยใช่เหตุเลยพาโซอาร์มาที่ห้องของผมแทน เลยทำให้แวร์วูฟปรากฏตัวขึ้นมาในวันนั้น!!
ใช่แล้ว! ต้องเป็นเวอร์มูธแน่ๆ เพราะถ้าเทียบโดยรวมแล้ว เวอร์มูธนี่แหล่ะที่คอยจะกลั่นแกล้งแวร์วูฟอยู่บ่อยๆตั้งแต่เด็กจนโต ความแค้นย่อมมีมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว เราต้องคอยเระวังเวอร์มูธไว้ให้ดีๆซะแล้ว
“ก็พอดูน่ะนะ แหะแหะ”ผมตอบคำถามของโรเบิร์ตไปอย่างปัดๆ เพราะเหมือนคนอื่นๆก็อยากรู้คำตอบนั้นเหมือนกัน
“กี่ยกวะ”เวอร์มูธเอ่ยถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น จะให้ตอบยังไงดีล่ะ ว่ากับโซอาร์ยังไม่ได้สักยกเลย แต่กลับแวร์วูฟน่ะหลายยกเลยแหล่ะ ยิ่งพูดยิ่งแค้น
“สงสัยจะเด็ดจริงว่ะ ดูดิ หน้าแดงเลย ฮ่าๆๆๆ”ตายล่ะ นี่ผมหน้าแดงเพราะเรื่องคืนนั้นงั้นหรอ ไม่จริง!
“เฮ้ย ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ ท่อแตกว่ะ”ผมต้องเริ่มปฏิบัติการปกป้องเพื่อนรักของผมต่อจากนี้เลยสินะ เพราะไม่รู้แวร์วูฟจะเริ่มตอนไหน แต่ผมก็จะพยายามเท่าที่จะทำได้
“ฉันไปด้วย”
“อ้าว ไลแคนท์”ในขณะที่ผมกำลังจะเดินตามเวอร์มูธไปนั้นก็ได้ยินเสียงอบอุ่นของใครบางคนดังขึ้นทางด้านหลัง ซึ่งนั่นก็คือลีวายส์นั่นเอง
“หวัดดี”ผมส่งยิ่มตามแบบฉบับของผมส่งไปให้ลีวายส์ที่ยิ้มมาให้ผมอยู่ก่อนแล้วด้วยความรัก
“ฉันหานายอยู่ตั้งนาน ทำอะไรอยู่น่ะ”ลีวายส์ทำสีหน้าเศร้าเล็กน้อย คงเป็นห่วงผมสินะ
“ ขอโทษนะ พอดีเพื่อนมาหาน่ะ นายก็ไปนั่งที่โต๊ะนั้นก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน แล้วเจอกัน”ผมพูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะวิ่งตามเวอร์มูธที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว
“นี่นายไม่ได้มาเข้าห้องน้ำหรือไง”นั่นสิผมลืมไปเลยว่าเราเดินมาเข้าห้องน้ำกัน แต่ผมกลับมายืนรอเวอร์มูธเฉย ทั้งๆที่บอกจะมาด้วยแต่กลับไม่ได้มาทำอะไรเลย
“กะ..ก็ แค่อยากมาด้วยแค่นั้นเอง”คงเป็นคำตอบสิ้นคิดน่าดู
“คงไม่ได้คิดจะให้ฉันไปเป็นคู่นอนให้นายในค่ำคืนนี้หรอกนะ หึหึ”
อยู่ๆเวอร์มูธก็พลิกตัวผมให้เข้าไปที่ล็อคโถส้วมของผู้ชายที่เดิมเคยเป็นตำแหน่งที่เวอร์มูธยืนอยู่ พร้อมเอาแขนทั้งสองข้างมากั้นตัวผมไว้ทั้งสองด้าน พรางโน้มตัวเข้ามาใกล้จนหลังผมชนกับโถส้วม เลยเอนได้แค่หลังเท่านั้น แต่ส่วนนั้นของผมไม่สามารถขยับไปไหนได้แล้ว และก็ตามมาด้วยแรงเบียดของเวอร์มูธที่เบียดเข้ามาจนส่วนนั้นของเราแนบชิดกัน จึงบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้เวอร์มูธกำลังเมา และเกิดอารมณ์มากแค่ไหน
“เฮ้ย อย่ามาคิดพิเรนนะ ถึงจะเอาจริงก็เถอะ แต่ฉันไม่ยอมเป็นรับนะเว้ย”ที่ผมพูดแบบนั้นก็เพราะเทียบกับเวอร์มูธผมดูเตี้ยน่ะสิ ก็เวอร์มูธน่ะส่วนสูงทะลุ 190 เชียวนะ จะให้คิดว่าเวอร์มูธจะเป็นรับมันคงแปลกๆ
“หืม…งั้นฉันให้นายเป็นรุกก็ได้นะ…”ผมถึงกับตารุกวาว เพราะตอนนี้ผมก็ชักเกิดอารมณ์ซะแล้วสิ ก็เวอร์มูธเล่นถูไถน้องชายผมจนมันตื่นตัวขึ้นมาแล้วอย่างห้ามไม่อยู่ แถมยังมีลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ที่ต้นคออีก ไหนจะหน้าแดงๆของเวอร์มูธเพราะเครื่องดื่มสีสวยนั่นอีก เซ็กซี่อย่าบอกใครเชียว แต่ก็ต้องหยุดอารมณ์นั้นเมื่อได้ยินประโยคต่อมา
“แต่ฉันจะเป็นรุกที่เหนือรุกอย่างนายให้ดู หึหึ”
ผลั่ก!
“ไอ้บ้าเอ้ย! อย่ามาคิดว่าฉันจะเป็นรับให้ใครนะเว้ย เพื่อนก็เถอะ ถ้าอยากมีอะไรกับฉันนักก็เป็นรับให้ฉันก่อนเซ้!”ยังไม่ทันให้เวอร์มูธได้ประทับริมฝีปากเข้ากับปากผม ผมก็รีบผลักอีกฝ่ายออกทันที ใครมันจะไปยอมให้เป็นรับกัน แถมคืนนี้ยิ่งน่าหวาดเสียวอยู่ ถึงแม้จะคิดว่าเวอร์มูธอยู่กับผมคงจะปลอดภัยก็เถอะ
‘ไม่อยากจะบอกหรอกนะ ว่าคนที่นายคิดว่าใช่ มันผิด…’
!!!!
แต่แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้งที่กระจกในห้องน้ำชายแห่งนี้ ภาพของแวร์วูฟปรากฏขึ้นด้วยสีหน้าและแววตาอย่างผู้เหนือกว่า หมายความว่ายังไง คนที่คิดว่าใช่ มันผิด อย่าบอกนะว่า !
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!
ปัง!!!!
เสียงปืน!!
ผมไม่ปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เมื่ออยู่ๆก็เกิดสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ผมรีบวิ่งกลับเข้าไปข้างในทันที ก็พบกับผู้คนกำลังแตกตื่น และกำลังชุลมุนเบียดกันออกจากที่นี่ด้วยความเร็ว ดีที่ประตูทางเข้าที่นี่กว้าง รวมไปถึงการรักษาความปลอดภัยที่นี่เป็นเลิศ ทำให้ไม่มีใครเหยียบกันตายก่อนได้ออกจากที่นี่ แต่ทั้งที่มีการรักษาความปลอดภัยดีขนาดนั้นแล้วแท้ๆ ทำไมถึงเกิดเรื่องได้ล่ะ ไหนจะเสียงปืนนั่นอีก หรือจะเป็นเพราะ แวร์วูฟ
ตอนนี้ผมรู้สึกใจไม่ดีเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากผมตีความไม่ผิดล่ะก็ สิ่งที่ผมได้ยินจากแวร์วูฟในห้องน้ำนั้น ก็หมายความว่า คนที่แวร์วูฟจะลงมือไม่ใช่เวอร์มูธ แต่อาจจะเป็นคริสหรือพอล ที่กำลังอยู่ด้านใน!!
ผมวิ่งฝ่าผู้คนเข้าไปด้านในอย่างยากลำบาก แต่แล้วก็มีใครบางคนวิ่งเข้ามากอดผมไว้เสียก่อน
“ไลแคนท์ นายไม่เป็นไรนะ ฉันเป็นห่วงในแทบแย่!”
“ลีวายส์….นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”ผมถามลีวายส์ด้วยอาการใจสั่น อย่างรู้สึกไม่ดีเอามากๆ ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเกิดเรื่องเลวร้ายกับคนที่ผมสนิทกันล่ะ ตอนนี้จิตใจผมร้อนรุ่มไปหมดแล้ว ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัว เพราะน้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมา ทั้งที่ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น
“โต๊ะที่นั่งข้างๆเราเขาเมาและเกิดปากเสียงกันขึ้นมา ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันในกลุ่มน่ะ ฉันดีใจนะที่นายออกมาเข้าห้องน้ำ นายปลอดภัยใช่ไหม?”
เสียงของลีวายส์เองก็สั่นเครือด้วยความกลัวไม่แพ้กันผมจึงได้กอดตอบลีวายส์เบาๆก่อนจะคลายอ้อมกอดนั้นออก เพราะตอนนี้ผมปลอดภัย และผมมีใครอีกคนที่ผมเป็นห่วงที่สุดในตอนนี้ ซึ่งผมยังไม่สามารถบอกได้ว่านั่นเป็นใครกันแน่
“ลีวายส์ฟังฉันนะ ตอนนี้ฉันปลอดภัย และจะไม่เป็นอะไรด้วย แต่ฉันต้องกลับไปที่นั่น ฉันเป็นห่วงพวกเพื่อนฉัน”ตอนนี้ผมไม่สามารถรอช้าได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเสียงปืนนั่นทำให้ใจผมสั่นไหวด้วยความกลัว และในขณะที่ผมกำลังจะวิ่งกลับเข้าไปด้านในนั้นข้อมือผมก็ถูกรั้งไว้เสียก่อน
“ฉันรักนายจากใจจริง เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ทิ้งนาย!”คำพูดของลีวายส์นั้นฟังดูหนักแน่นและอบอุ่นไปในคราเดียวกัน พร้อมกับมือข้างนั้นที่จับมือของผมไว้แน่น เราเงยหน้าขึ้นมาสบตาและยิ้มให้กันก่อนจะวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไปด้านในด้วยจิตใจที่ร้อนรน
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!
เสียงกรี๊ดนั่นก็ไม่สงบลงไปเสียที ยิ่งทำให้ผมรู้สึกปวดหัวหนักเข้าไปใหญ่ แต่แล้วผมก็เห็นความผิดปกติเกิดขึ้นตรงเบื้องหน้าของผม นั่นก็คือ กลุ่มคนกลุ่มนึงกำลังโหวกเหวกโวยวาย และพยายามกันผู้คนที่ไม่กลัวเหตุการณ์นี้ที่กำลังยืนมุงดูอะไรกันบางอย่าง อย่างน่าสงสัย และนอกจากเสียงกรี๊ดนั่นก็ยังมีเสียงสะอื้นไห้ของใครบางคนดังลอดออกมาจากคนฝูงนั้น ซึ่งเป็นโต๊ะที่พวกผมนั่งกันอยู่ในตอนแรก!!
“ขอทางด้วยครับ!”
ยิ่งเห็นแบบนั้นจิตใจของผมก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกต่อไปแล้ว ผมรีบละมือออกจากลีวายส์โดยเร็ว ก่อนจะเดินฝ่าผู้คนเข้าไปในวงล้อมนั้นด้วยจิตใจว้าวุ่นจนตอนนี้น้ำตาของผมไหลออกมาแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเลยแท้ๆว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
แต่เมื่อเดินฝ่าฝูงคนเข้ามาได้จนถึงภายในวงล้อมนั้น เข่าของผมถึงกับทรุด น้ำตาที่ไหลอยู่ก่อนแล้วก็ยิ่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ภาพเบื้องหน้าของผมนั้น นั่นก็คือ เทลเลอร์กับนิคกำลังกอดกันร้องไห้อยู่ที่โซฟาที่ห่างออกไปเล็กน้อย ส่วนโรเบิร์ตกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังกันผู้คนออกจากสถานที่ตรงนั้น แต่จุดสนใจที่ทำให้ผมถึงกับทรุดนั่นก็คือ
ภาพคริสที่นอนจมกองเลือดอยู่ในอ้อมแขนของพอล!!
“คริสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส!!!!”
:) Shalunla
ความคิดเห็น